SlideShare a Scribd company logo
1 of 36
Download to read offline
ขอบข่ายของโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลา สั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติ ด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการ แปล ผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาม จุดหมายที่ กาหนดไว้ 
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงาน 
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิต สื่อเพื่อ การศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ 
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วน ใหญ่จะ อยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป 
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจา ลอง การทดลองของสาขาต่างๆ 
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน ชีวิต ประจาวัน 
5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
แหล่งที่มา 
http://www.lks.ac.th/kuanjit/s5.htm http://www.gotoknow.org/blogs/posts/314100 http://image.slidesharecdn.com/random-140813213617- phpapp01/95/-3-638.jpg?cb=1407983804
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media Development) 
ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้คือ เป็นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม บทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือราย กลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็น อุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียน เข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ตัวอย่างโครงงาน 
โครงงานการเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ 
โครงงานระบบสุริยะจักรวาล
โครงงาน ตัวแปรต่างๆ ที่มีผล 
ต่อการชากิ่งกุหลาบ 
โครงงานหลักภาษาไทย 
และสถานที่สาคัญของ 
ประเทศไทย
แหล่งที่มา 
http://www.vcharkarn.com/project/article/56801
ความหมายโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ 
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการ สร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท ทบทวนและคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือราย กลุ่มการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ สอนซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเอง ได้โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆโดย ผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยากมาเป็นหัวข้อในการศึกษาพัฒนาสื่อเพื่อ การศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล หลัก ภาษาไทยและสถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนา เว็บไซต์วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความ หลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก โปรแกรมฝึกอ่านออก เสียงภาษาอังกฤษโปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
ตัวอย่างโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ 
1. โครงงานพัฒนาเกม ชื่อโครงงานเกมพัฒนาการด้านEQ 
2. โครงงานการส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
3. โครงงานโปรแกรมอ่านอักษรไทย 
4. โครงงานโปรแกรมวาดภาพสามมิติ
แหล่งที่มา 
http://www.slideshare.net/ssusera1cc81/5-14001099
ความหมายโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน การจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วย สถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้อง ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ใน รูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้อง มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การ ทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
ตัวอย่างโครงงาน 
ประเภทของโครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 
โครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจทาได้หลายรูปแบบ ถ้า พิจารณาลักษณะของกิจกรรมการศึกษาค้นคว้าแล้ว จัดประเภทของ โครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ออกเป็น 4ประเภท คือ
1. โครงงานประเภททดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 
ลักษณะของโครงงานประเภทนี้ ต้องมีการออกแบบการทดลอง เพื่อศึกษา ผลของตัวแปรหรือตัวแปรอิสระ ที่มีผลต่อตัวแปรตามและมีการควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่ ไม่ต้องการศึกษา ที่จะส่งผลให้การการศึกษาคลาดเคลื่อน ขั้นตอนการทาโครงงาน ประเภทนี้จะต้องมีการกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐาน ออกแบบ การทดลอง ดาเนินการทดลอง เพื่อหาคาตอบของปัญหาหรือตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้ แปรผล และสรุปผล การทาโครงงานประเภททดลอง บองครั้งอาจจาเป็นต้องทดลอง เพื่อ ศึกษา ความเป็นไปได้เบื้องต้น (Preliminary study) เสียก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลบาง ประการมาใช้ประกอบ 
การตัดสินใจในการกาหนดรายละเอียดต่างๆ ของการศึกษาค้นคว้าจริงต่อไป ผู้จัดทา มีความเห็นว่า ข้อดีของโครงงานประเภทนี้ คือ จะมีการใช้วิธีวิทยาศาสตร์ครบทั้ง 5 ขั้น คือ ตั้งแต่การกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐานวางแผนการทดลอง รวบรวมข้อมูล และสรุปผล นอกจากนั้น ยังมีการควบคุมตัวแปรอีกด้วย ซึ่งถือเป็นพื้นฐานใน การศึกษา ค้นคว้าทางงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สาคัญ
โครงงานประเภททดลอง เป็นการตรวจสอบสมมติฐานใดสมมติฐาน หนึ่ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่การออกแบบการทดลองอย่างมีขั้นตอน การใช้เครื่องมือใน การทดลองอย่างถูกต้อง มีการออกแบบตาราง หรือวิธีการบันทึกผลการ ทดลอง การใช้หน่วยวัดที่ถูกต้อง มีการกาหนดตัวแปรต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูลมี การทดลองหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมกับสรุปผลการทดลอง ที่ชัดเจน 
ตัวอย่างของโครงงานประเภทการทดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น 
-เครื่องตรวจสอบ SCR 
-วงจรสวิตซ์ควบคุมด้วยแสงรีโมท 
-เครื่องตรวจสอบสายไฟ (Test Lamp)
2. โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล 
โครงงานประเภทนี้ เป็นการศึกษา รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อศึกษาหาความรู้ที่มีอยู่หรือ เป็นอยู่ในชีวิตประจาวัน โดยใช้วิธีสารวจและ รวบรวมข้อมูลแล้วนาข้อมูล ที่ได้ มาจัดกระทา ให้เป็นระบบระเบียบและสื่อความหมายแล้ว นาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่นตาราง กราฟ แผนภูมิ และคาอธิบายประกอบ
ตัวอย่างของโครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล 
การเก็บรวบรวมข้อมูลใสนามได้ทันที โดยไม่ต้องนาวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ ในห้องปฏิบัติการ 
ตัวอย่าง การสารวจความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงฝึกงาน 
การเก็บรวบรวมวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ 
ตัวอย่าง การสารวจวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังเกิดการลัดวงจร 
โครงงานประเภทสารวจ เป็นการสารวจข้อมูลต่างๆ ที่เกิดจากความอยากรู้ อยากเห็น เพื่อนามาประกอบการศึกษาหรือการจาแนกหมวดหมู่ ทั้งนี้ไม่ต้องคานึงถึง ตัวแปรต่างๆ การเก็บข้อมูลโดยการออกไปสารวจนอกห้องปฏิบัติการ หรือที่เรียกว่า สารวจภาคสนาม หรือบางครั้งอาจจะนาส่วนต่างๆ นั้นมาศึกษาในห้องปฏิบัติการด้วย ก็ได้
3. โครงงานประเภทการพัฒนาหรือการประดิษฐ์ 
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ทฤษฎีหรือ ทักษะทางงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ มาประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ 
หรืออุปกรณ์ เพื่อประโยชน์ใช้สอยต่างๆ 
เพื่ออานวยความสะดวกแก่มนุษย์ อาจ คิดประดิษฐ์ของใหม่ๆ หรือปรับปรุงดัดแปลง ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูง ขึ้น ซึ่ง มีลักษณะของโครงงานที่้ต้องการกาหนดตัวแปรที่ ต้องศึกษา เหมือนกับ โครงงานประเภททดลอง แต่ผลของโครงงานประเภทนี้ จะได้อุปกรณ์ หรือสิ่งประดิษฐ์ และมีข้อมูลต่างๆ ประกอบซึ่งต่างจากโครงงาน
ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ส่วนใหญ่จะกาหนดตัวแปรที่จะศึกษา ดังนี้ 
•ตัวแปรต้น ส่วนใหญ่จะศึกษาในด้านรูปทรง หรือ โครงสร้างที่เหมาะสมของ สิ่งประดิษฐ์ ชนิดของวัสดุที่เหมาะสมในการทาสิ่งประดิษฐ์ 
•ตัวแปรตาม ส่วนใหญ่จะวัดได้ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งกาหนดเกณฑ์การ วัดต่างๆ กันออกไปตามชนิดของการประดิษฐ์ 
ส่วนตัวแปรที่ต้องควบคุมนั้น จะควบคุมในสิ่งที่จะทาให้ผลการวัดตัว แปรตามคลาดเคลื่อน จะควบคุมอะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งประดิษฐ์ โครงงานประเภทนี้ อาจจะมีลักษณะเป็นแบบจาลองได้ แต่ต้องแสดงให้เห็นการ ทางาน ของแบบจาลองนั้นจริงๆ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ นอกจาก จะมีข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการศึกษาทดลอง ขั้นต้น เพื่อนามาใช้ประกอบในการ ทาสิ่งประดิษฐ์และมีการวัดประสิทธิภาพของ สิ่งประดิษฐ์แล้งยังมี สิ่งประดิษฐที่ ใช้งานได้จริงๆ หรือแบบจาลองที่แสดงการทางานได้ ซึ่งมองเห็นประโยชน์ของ การ นาไปใช้ได้ชัดเจน จึงเป็นโครงงานที่เหมาะสมกับงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ
ตัวอย่างของโครงงานประเภทพัฒนาหรือการประดิษฐ์ 
•จุดหลอด FL ด้วยถ่านไฟฉาย 
•สัญญาณเตือนภัยอัตโนมัติ 
•สัญญาณไฟกระพริบ LED 2สี 2ดวง
4. โครงงานประเภททฤษฎี 
เป็นโครงงานที่ผู้ทาโครงงานได้เสนอทฤษฎี หลักการหรือแนวความคิดใหม่ๆ ซึ่ง อาจอยู่ในรูปของ สูตร สมการ หรือคาอธิบายก็ได้ โดยผู้นาเสนอได้ตั้งกติกา หรือ ข้อตกลงขึ้นมาเอง แล้วเสนอทฤษฎี หลักการ แนวความคิดหรือจินตนาการของตนเองตาม กติกา หรือข้อตกลงนั้น หรืออาจใช้กติกา หรือข้อตกลงเดิมมา อธิบายสิ่งหรือ ปรากฎการณ์ต่างๆ ในแนวใหม่ ทฤษฎี หลักการ แนวความคิด หรือจินตนาการที่เสนอ อาจจะใหม่ ยังไม่มีใครคิดมาก่อน หรืออาจขัดแย้งกับทฤษฎีเดิม หรือเป็นการขยายทฤษฎี หรือแนวคิดเดิมก็ได้ การทาโครงงานประเภทนี้จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้พื้นฐานใน เรื่องนั้นๆ อย่างดี จึงจะสามารถเสนอโครงงานประเภทนี้ได้อย่างมีเหตุมีผลน่าเชื่อถือโดยทั่วๆ ไป 
ตัวอย่างของโครงงานประเภททฤษฎี 
นักวิทยาศาสตร์ ทาการทดลองเพื่อสร้างกฎของโอห์ม กฎของเคอร์ช๊อฟเป็นต้น
แหล่งที่มา 
http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 
http://www.nayoktech.ac.th/~choompol/ch02_5.html
ความหมายโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน 
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้าง ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการ ออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์ สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงาน ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบ การทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความ สมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างโครงงาน 
โครงงานคอมพิวเตอร์โปรแกรม 
ประยุกต์ธนาคารความดี 
โครงงานการออกแบบรถยนต์
-โครงงานซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร 
-โครงงานระบบสุริยจักรวาล 
-โครงงานซอฟต์แวร์ส้าหรับการผสมสี
แหล่งที่มา 
http://blog.eduzones.com/jipatar/85915http://www.slideshare.net/aoyammmee1/7-14051593 
http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog- post_25.html
ความหมายโครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ 
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้น การใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการ ออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อม ทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือ พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่ม ต่างๆ
ตัวอย่างโครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์” 
เกมผจญภัยกับพระอภัยมณี 
เกมอักษรเขาวงกต 
เกมผจญภัย
แหล่งที่มา 
http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog- post_25.html 
https://sites.google.com/site/luksaduankhorngnganthekhnoloyi/tawxyang-khorng-ngan-khxmphiwtexr
นางสาวชนม์นิภา นักขาย ชั้น ม.6/4 เลขที่ 4 
นางสาวอัจฉราพรรณ คาแสน ชั้น ม.6/4 เลขที่ 17

More Related Content

What's hot

Teahingint
TeahingintTeahingint
Teahingintkorakate
 
โครงงานคอม 2557 608
โครงงานคอม  2557 608 โครงงานคอม  2557 608
โครงงานคอม 2557 608 Kalanyu Tamdee
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์komsan saithep
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์jiratchaya45627
 
ความสำคัญของการคิด
ความสำคัญของการคิดความสำคัญของการคิด
ความสำคัญของการคิดRadchadapornSombatsr
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Kingky Kung
 
ใบงาน2
ใบงาน2ใบงาน2
ใบงาน2powe1234
 
(แก้งาน) ใบงานที่ 2-9
(แก้งาน) ใบงานที่ 2-9(แก้งาน) ใบงานที่ 2-9
(แก้งาน) ใบงานที่ 2-9Decho Narong
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์PeeEllse
 
Computer project
Computer project Computer project
Computer project PondPoPZa
 
การเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)
การเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)การเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)
การเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)Khon Kaen University
 
วิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย
วิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัยวิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย
วิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัยChamada Rinzine
 

What's hot (17)

Teahingint
TeahingintTeahingint
Teahingint
 
โครงงานคอม 2557 608
โครงงานคอม  2557 608 โครงงานคอม  2557 608
โครงงานคอม 2557 608
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความสำคัญของการคิด
ความสำคัญของการคิดความสำคัญของการคิด
ความสำคัญของการคิด
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงาน2
ใบงาน2ใบงาน2
ใบงาน2
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
(แก้งาน) ใบงานที่ 2-9
(แก้งาน) ใบงานที่ 2-9(แก้งาน) ใบงานที่ 2-9
(แก้งาน) ใบงานที่ 2-9
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
การนำผลการวิจัยไปใช้
การนำผลการวิจัยไปใช้การนำผลการวิจัยไปใช้
การนำผลการวิจัยไปใช้
 
Computer project
Computer project Computer project
Computer project
 
การเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)
การเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)การเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)
การเรียนรู้ด้วยโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)
 
สอนคู่
สอนคู่สอนคู่
สอนคู่
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
วิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย
วิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัยวิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย
วิชาโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย
 

Similar to Computer

โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ Jittraporn Chaunprasert
 
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์Atthaphon45614
 
โครงงานคอม
โครงงานคอม โครงงานคอม
โครงงานคอม natjira
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Pongpanote Wachirawongwarun
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3bussayamas1618
 
3ขอบข่ายประเภท
3ขอบข่ายประเภท3ขอบข่ายประเภท
3ขอบข่ายประเภทMookda Phiansoongnern
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3berry green
 
ใบงาน3
ใบงาน3ใบงาน3
ใบงาน3Dow Deedong
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานChayanis
 
ใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานChayanis
 
ขอบข ายและประเภท
ขอบข ายและประเภทขอบข ายและประเภท
ขอบข ายและประเภทChatchayanee Tuppadung
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3Papam_Virinrda
 
การวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียนการวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียนsalinkarn sampim
 

Similar to Computer (20)

โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
โครงงานคอม
โครงงานคอม โครงงานคอม
โครงงานคอม
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Gor3
Gor3Gor3
Gor3
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
3ขอบข่ายประเภท
3ขอบข่ายประเภท3ขอบข่ายประเภท
3ขอบข่ายประเภท
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
Com 1
Com 1Com 1
Com 1
 
ใบงาน3
ใบงาน3ใบงาน3
ใบงาน3
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ขอบข ายและประเภท
ขอบข ายและประเภทขอบข ายและประเภท
ขอบข ายและประเภท
 
3 140811120926-phpapp01
3 140811120926-phpapp013 140811120926-phpapp01
3 140811120926-phpapp01
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
2222
22222222
2222
 
การวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียนการวิจัยในชั้นเรียน
การวิจัยในชั้นเรียน
 
คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์
 

More from TKAomerz

Drum pad s-24
Drum pad s-24Drum pad s-24
Drum pad s-24TKAomerz
 
เปรียบเทียบระบบปฏิบัติการ
เปรียบเทียบระบบปฏิบัติการเปรียบเทียบระบบปฏิบัติการ
เปรียบเทียบระบบปฏิบัติการTKAomerz
 
Blog 140627022109-phpapp01
Blog 140627022109-phpapp01Blog 140627022109-phpapp01
Blog 140627022109-phpapp01TKAomerz
 
กสพท53 math
กสพท53 mathกสพท53 math
กสพท53 mathTKAomerz
 
Social2555
Social2555Social2555
Social2555TKAomerz
 
Social2556
Social2556Social2556
Social2556TKAomerz
 
Pat1 มีค57 type
Pat1 มีค57 typePat1 มีค57 type
Pat1 มีค57 typeTKAomerz
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวTKAomerz
 

More from TKAomerz (20)

Drum pad s-24
Drum pad s-24Drum pad s-24
Drum pad s-24
 
เปรียบเทียบระบบปฏิบัติการ
เปรียบเทียบระบบปฏิบัติการเปรียบเทียบระบบปฏิบัติการ
เปรียบเทียบระบบปฏิบัติการ
 
Blog 140627022109-phpapp01
Blog 140627022109-phpapp01Blog 140627022109-phpapp01
Blog 140627022109-phpapp01
 
Phy2555
Phy2555Phy2555
Phy2555
 
Phy2556
Phy2556Phy2556
Phy2556
 
Chem2556
Chem2556Chem2556
Chem2556
 
Chem2555
Chem2555Chem2555
Chem2555
 
Bio2556
Bio2556Bio2556
Bio2556
 
Bio2555
Bio2555Bio2555
Bio2555
 
กสพท53 math
กสพท53 mathกสพท53 math
กสพท53 math
 
Math2556
Math2556Math2556
Math2556
 
Math2555
Math2555Math2555
Math2555
 
Eng2555
Eng2555Eng2555
Eng2555
 
Eng2556
Eng2556Eng2556
Eng2556
 
Social2555
Social2555Social2555
Social2555
 
Social2556
Social2556Social2556
Social2556
 
Thai2556
Thai2556Thai2556
Thai2556
 
Thai2555
Thai2555Thai2555
Thai2555
 
Pat1 มีค57 type
Pat1 มีค57 typePat1 มีค57 type
Pat1 มีค57 type
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
 

Computer

  • 1.
  • 2. ขอบข่ายของโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลา สั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติ ด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการ แปล ผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาม จุดหมายที่ กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
  • 3. ประเภทของโครงงาน 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิต สื่อเพื่อ การศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วน ใหญ่จะ อยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจา ลอง การทดลองของสาขาต่างๆ 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน ชีวิต ประจาวัน 5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
  • 4. แหล่งที่มา http://www.lks.ac.th/kuanjit/s5.htm http://www.gotoknow.org/blogs/posts/314100 http://image.slidesharecdn.com/random-140813213617- phpapp01/95/-3-638.jpg?cb=1407983804
  • 5.
  • 6. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media Development) ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้คือ เป็นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม บทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือราย กลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็น อุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียน เข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
  • 8. โครงงาน ตัวแปรต่างๆ ที่มีผล ต่อการชากิ่งกุหลาบ โครงงานหลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของ ประเทศไทย
  • 10.
  • 11. ความหมายโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการ สร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท ทบทวนและคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือราย กลุ่มการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ สอนซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเอง ได้โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆโดย ผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยากมาเป็นหัวข้อในการศึกษาพัฒนาสื่อเพื่อ การศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล หลัก ภาษาไทยและสถานที่สาคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนา เว็บไซต์วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรมดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความ หลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก โปรแกรมฝึกอ่านออก เสียงภาษาอังกฤษโปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
  • 12. ตัวอย่างโครงงานประเภทการพัฒนาเครื่องมือ 1. โครงงานพัฒนาเกม ชื่อโครงงานเกมพัฒนาการด้านEQ 2. โครงงานการส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • 13. 3. โครงงานโปรแกรมอ่านอักษรไทย 4. โครงงานโปรแกรมวาดภาพสามมิติ
  • 15.
  • 16. ความหมายโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน การจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วย สถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้อง ศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ใน รูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทาให้ ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้อง มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การ ทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
  • 17. ตัวอย่างโครงงาน ประเภทของโครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจทาได้หลายรูปแบบ ถ้า พิจารณาลักษณะของกิจกรรมการศึกษาค้นคว้าแล้ว จัดประเภทของ โครงงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ออกเป็น 4ประเภท คือ
  • 18. 1. โครงงานประเภททดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ลักษณะของโครงงานประเภทนี้ ต้องมีการออกแบบการทดลอง เพื่อศึกษา ผลของตัวแปรหรือตัวแปรอิสระ ที่มีผลต่อตัวแปรตามและมีการควบคุมตัวแปรอื่นๆ ที่ ไม่ต้องการศึกษา ที่จะส่งผลให้การการศึกษาคลาดเคลื่อน ขั้นตอนการทาโครงงาน ประเภทนี้จะต้องมีการกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐาน ออกแบบ การทดลอง ดาเนินการทดลอง เพื่อหาคาตอบของปัญหาหรือตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้ แปรผล และสรุปผล การทาโครงงานประเภททดลอง บองครั้งอาจจาเป็นต้องทดลอง เพื่อ ศึกษา ความเป็นไปได้เบื้องต้น (Preliminary study) เสียก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลบาง ประการมาใช้ประกอบ การตัดสินใจในการกาหนดรายละเอียดต่างๆ ของการศึกษาค้นคว้าจริงต่อไป ผู้จัดทา มีความเห็นว่า ข้อดีของโครงงานประเภทนี้ คือ จะมีการใช้วิธีวิทยาศาสตร์ครบทั้ง 5 ขั้น คือ ตั้งแต่การกาหนดปัญหา ตั้งสมมติฐานวางแผนการทดลอง รวบรวมข้อมูล และสรุปผล นอกจากนั้น ยังมีการควบคุมตัวแปรอีกด้วย ซึ่งถือเป็นพื้นฐานใน การศึกษา ค้นคว้าทางงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่สาคัญ
  • 19. โครงงานประเภททดลอง เป็นการตรวจสอบสมมติฐานใดสมมติฐาน หนึ่ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่การออกแบบการทดลองอย่างมีขั้นตอน การใช้เครื่องมือใน การทดลองอย่างถูกต้อง มีการออกแบบตาราง หรือวิธีการบันทึกผลการ ทดลอง การใช้หน่วยวัดที่ถูกต้อง มีการกาหนดตัวแปรต่างๆ วิเคราะห์ข้อมูลมี การทดลองหลายๆ ครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมกับสรุปผลการทดลอง ที่ชัดเจน ตัวอย่างของโครงงานประเภทการทดลองเกี่ยวกับงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น -เครื่องตรวจสอบ SCR -วงจรสวิตซ์ควบคุมด้วยแสงรีโมท -เครื่องตรวจสอบสายไฟ (Test Lamp)
  • 20. 2. โครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล โครงงานประเภทนี้ เป็นการศึกษา รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อศึกษาหาความรู้ที่มีอยู่หรือ เป็นอยู่ในชีวิตประจาวัน โดยใช้วิธีสารวจและ รวบรวมข้อมูลแล้วนาข้อมูล ที่ได้ มาจัดกระทา ให้เป็นระบบระเบียบและสื่อความหมายแล้ว นาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่นตาราง กราฟ แผนภูมิ และคาอธิบายประกอบ
  • 21. ตัวอย่างของโครงงานประเภทสารวจรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลใสนามได้ทันที โดยไม่ต้องนาวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ ในห้องปฏิบัติการ ตัวอย่าง การสารวจความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงฝึกงาน การเก็บรวบรวมวัสดุตัวอย่างมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ตัวอย่าง การสารวจวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังเกิดการลัดวงจร โครงงานประเภทสารวจ เป็นการสารวจข้อมูลต่างๆ ที่เกิดจากความอยากรู้ อยากเห็น เพื่อนามาประกอบการศึกษาหรือการจาแนกหมวดหมู่ ทั้งนี้ไม่ต้องคานึงถึง ตัวแปรต่างๆ การเก็บข้อมูลโดยการออกไปสารวจนอกห้องปฏิบัติการ หรือที่เรียกว่า สารวจภาคสนาม หรือบางครั้งอาจจะนาส่วนต่างๆ นั้นมาศึกษาในห้องปฏิบัติการด้วย ก็ได้
  • 22. 3. โครงงานประเภทการพัฒนาหรือการประดิษฐ์ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ทฤษฎีหรือ ทักษะทางงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ มาประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ เพื่อประโยชน์ใช้สอยต่างๆ เพื่ออานวยความสะดวกแก่มนุษย์ อาจ คิดประดิษฐ์ของใหม่ๆ หรือปรับปรุงดัดแปลง ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูง ขึ้น ซึ่ง มีลักษณะของโครงงานที่้ต้องการกาหนดตัวแปรที่ ต้องศึกษา เหมือนกับ โครงงานประเภททดลอง แต่ผลของโครงงานประเภทนี้ จะได้อุปกรณ์ หรือสิ่งประดิษฐ์ และมีข้อมูลต่างๆ ประกอบซึ่งต่างจากโครงงาน
  • 23. ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ส่วนใหญ่จะกาหนดตัวแปรที่จะศึกษา ดังนี้ •ตัวแปรต้น ส่วนใหญ่จะศึกษาในด้านรูปทรง หรือ โครงสร้างที่เหมาะสมของ สิ่งประดิษฐ์ ชนิดของวัสดุที่เหมาะสมในการทาสิ่งประดิษฐ์ •ตัวแปรตาม ส่วนใหญ่จะวัดได้ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งกาหนดเกณฑ์การ วัดต่างๆ กันออกไปตามชนิดของการประดิษฐ์ ส่วนตัวแปรที่ต้องควบคุมนั้น จะควบคุมในสิ่งที่จะทาให้ผลการวัดตัว แปรตามคลาดเคลื่อน จะควบคุมอะไรบ้างนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งประดิษฐ์ โครงงานประเภทนี้ อาจจะมีลักษณะเป็นแบบจาลองได้ แต่ต้องแสดงให้เห็นการ ทางาน ของแบบจาลองนั้นจริงๆ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ นอกจาก จะมีข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการศึกษาทดลอง ขั้นต้น เพื่อนามาใช้ประกอบในการ ทาสิ่งประดิษฐ์และมีการวัดประสิทธิภาพของ สิ่งประดิษฐ์แล้งยังมี สิ่งประดิษฐที่ ใช้งานได้จริงๆ หรือแบบจาลองที่แสดงการทางานได้ ซึ่งมองเห็นประโยชน์ของ การ นาไปใช้ได้ชัดเจน จึงเป็นโครงงานที่เหมาะสมกับงานไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ
  • 24. ตัวอย่างของโครงงานประเภทพัฒนาหรือการประดิษฐ์ •จุดหลอด FL ด้วยถ่านไฟฉาย •สัญญาณเตือนภัยอัตโนมัติ •สัญญาณไฟกระพริบ LED 2สี 2ดวง
  • 25. 4. โครงงานประเภททฤษฎี เป็นโครงงานที่ผู้ทาโครงงานได้เสนอทฤษฎี หลักการหรือแนวความคิดใหม่ๆ ซึ่ง อาจอยู่ในรูปของ สูตร สมการ หรือคาอธิบายก็ได้ โดยผู้นาเสนอได้ตั้งกติกา หรือ ข้อตกลงขึ้นมาเอง แล้วเสนอทฤษฎี หลักการ แนวความคิดหรือจินตนาการของตนเองตาม กติกา หรือข้อตกลงนั้น หรืออาจใช้กติกา หรือข้อตกลงเดิมมา อธิบายสิ่งหรือ ปรากฎการณ์ต่างๆ ในแนวใหม่ ทฤษฎี หลักการ แนวความคิด หรือจินตนาการที่เสนอ อาจจะใหม่ ยังไม่มีใครคิดมาก่อน หรืออาจขัดแย้งกับทฤษฎีเดิม หรือเป็นการขยายทฤษฎี หรือแนวคิดเดิมก็ได้ การทาโครงงานประเภทนี้จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้พื้นฐานใน เรื่องนั้นๆ อย่างดี จึงจะสามารถเสนอโครงงานประเภทนี้ได้อย่างมีเหตุมีผลน่าเชื่อถือโดยทั่วๆ ไป ตัวอย่างของโครงงานประเภททฤษฎี นักวิทยาศาสตร์ ทาการทดลองเพื่อสร้างกฎของโอห์ม กฎของเคอร์ช๊อฟเป็นต้น
  • 27.
  • 28. ความหมายโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้าง ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการ ออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์ สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงาน ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบ การทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความ สมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 32.
  • 33. ความหมายโครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้น การใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการ ออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อม ทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนามาปรับปรุงหรือ พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่ม ต่างๆ
  • 35. แหล่งที่มา http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog- post_25.html https://sites.google.com/site/luksaduankhorngnganthekhnoloyi/tawxyang-khorng-ngan-khxmphiwtexr
  • 36. นางสาวชนม์นิภา นักขาย ชั้น ม.6/4 เลขที่ 4 นางสาวอัจฉราพรรณ คาแสน ชั้น ม.6/4 เลขที่ 17