SlideShare a Scribd company logo
การวิจารณ์


นายวีระพล ภูมิยิ่ง คอมพิวเตอร์ศึกษา ปี 1 หมู่ 2 รหัส 548144218
การวิจารณ์
           การวิจารณ์บคคลอื่นอาจจะเป็ นเรื่ องที่ไม่เหมาะสม และไม่กระทาสาหรับ
                         ุ
บุคคลบางประเภท แต่สาหรับผู้ททาหน้ าที่ครู การวิจารณ์นกเรี ยนของตนกลับเป็ นหน้ าที่
                                ี่                           ั
ที่จะต้ องกระทา
            ตามปกตินกเรี ยนย่อมมีศรัทธาในตัวครูอยูแล้ วเป็ นพื ้นฐาน นักเรี ยนจะถือว่า
                       ั                              ่
ครูเป็ นนักวิจารณ์ที่ทรงคุณธรรม ซึงมีสทธิ์ที่จะติชมเขาได้ ทกโอกาสและนักเรี ยนก็พอใจ
                                   ่ ิ                     ุ
ถ้ าการติชมนันเป็ นไปอย่างยุตธรรม จริ งใจ และถูกต้ องตามหลักเกณฑ์
               ้              ิ
             ดังนันการวิจารณ์นกเรี ยนในชันควรจะต้ องกระทาบ่อยๆ และสม่าเสมอ ไม่
                   ้                ั       ้
จาเป็ นจะต้ องทาให้ เป็ นพิธีรีตองหรื อกาหนดไว้ ในตารางสอน ส่วนการวิจารณ์ที่เป็ น
พิธีรีตองหรื อเป็ นเรื่ องเป็ นราวนันอาจจะกระทานานๆ ครัง โดยบอกให้ นกเรี ยนทราบ
                                      ้                ้            ั
ล่วงหน้ า
แนวความคิดในการวิจารณ์
           (Characteristics of an Effective Critique)


        ๑. การวิจารณ์มจดมุงหมายเพื่อการปรับปรุงการปฏิบตงานของนักเรี ยนให้ ดี
                      ีุ ่                            ัิ
ขึ ้น
         ๒. การวิจารณ์ควรกระทาบ่อย ๆ และสม่าเสมอ
         ๓. การวิจารณ์อาจกระทาเป็ นส่วนตัวหรือต่อหน้ าชันเรี ยนก็ได้ แต่ถ้าเป็ น
                                                        ้
การวิจารณ์ตอหน้ าชันเรี ยน การวิจารณ์นนควรจะเกิดประโยชน์ทงสองฝ่ าย คือ ทังผู้ถก
           ่        ้                     ั้                 ั้              ้ ู
วิจารณ์และนักเรี ยนอื่นๆ ในห้ องเรี ยนนันด้ วย
                                        ้
ด้ วย
แนวความคิดในการวิจารณ์(ต่อ)
        (Characteristics of an Effective Critique)



           ๔. การวิจารณ์ในชันเรี ยนจะกระทาโดยปากเปล่า หรื อการเขียนก็ได้
                            ้
อื่นๆ ในห้ องเรี ยนนันด้ วย
                     ้
           ๕. การวิจารณ์ควรกระทาทันทีที่การปฏิบติงานของนักเรี ยนเสร็ จสิ ้นลง
                                                  ั
           ๖. ไม่ควรนาการวิจารณ์มาเป็ นข้ อพิจารณาในการให้ คะแนน
           ๗. การวิจารณ์ไม่ควรไปในทางลบเสียทังหมด กล่าวคือ ไม่ควรตาหนิอย่าง
                                                ้
เดียวควรจะวิจารณ์ทงข้ อดีและข้ อเสียควบคูกนไปด้ วย
                       ั้                 ่ ั
จุดมุ่งหมายของการวิจารณ์
                             (Purpose of a Critique)


        การวิจารณ์จดมุงหมายเพื่อปรับปรุงการปฏิบติงานของนักเรี ยนให้ ดีขึ ้น การ
                        ุ ่                              ั
วิจารณ์ที่ได้ ผลดีที่สดนันจะก่อให้ เกิดประโยชน์ในด้ านการให้ คาแนะนา ชี ้แนวทางและ
                      ุ ้
การแนะแนวแก่ นักเรี ยน ทังนี ้เพือให้ นกเรี ยนได้ ใช้ ความพยายามอย่างเต็มที่ที่ จะ
                            ้ ่         ั
ยกระดับการปฏิบติงานให้ ดีขึ ้น
                   ั
ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี                                 (

            Characteristics an Effective Critique)

๑. ต้ องมีวัตถุประสงค์ (Objectivity)

                  การวิจารณ์ทดี จะมุงอยูที่ตวนักเรี ยนและผลการปฏิบติงานของ
                             ี่       ่ ่ ั                          ั
    นักเรี ยนเป็ นสาคัญ ไม่ควรจะนาเอาความรู้สกส่วนตัวของครูเข้ าไปมีสวน
                                                  ึ                        ่
    เกี่ยวข้ องด้ วย เช่น การที่ครูชอบ ไม่ชอบหรื อมีอคติลาเอียงต่อนักเรี ยนคนนัน
                                                                               ้
    อยูแล้ วมาวิจารณ์ไปด้ วย
        ่
ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ)                                         (

           Characteristics an Effective Critique)

๒. ต้ องมีการยอมรับ (Acceptability)

          สิงสาคัญประการแรกของการวิจารณ์ นักเรี ยนจะต้ องยอมรับนับถือ
            ่
   ในตัวครู ซึงเป็ นผู้วิจารณ์เสียก่อน เพราะถ้ านักเรี ยนไม่มความเชื่อถือในตัวครู
              ่                                              ี
   เสีย การวิจารณ์ยอมไร้ ผล
                       ่
ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ)                                          (

             Characteristics an Effective Critique)

๓. ต้ องมีการสร้ างสรรค์ (Creativeness)

         การวิจารณ์จะไม่เป็ นสิงจาเป็ นแต่อย่างใด ถ้ านักเรี ยนไม่ได้ รับประโยชน์
                               ่
จากการวิจารณ์ การชมอย่างพร่าเพรื่ อโดยไม่เป็ นไปตามข้ อเท็จจริ ง จะไม่มีคณค่า ุ
ใดๆ เลย นักเรี ยนไม่เกิดการเรียนรู้ ในทานองเดียวกันครูก็ไม่ควรจะวิจารณ์เฉพาะ
ข้ อผิดพลาดหรื อจุดอ่อนของนักเรียนเพียงอย่างเดียวเท่านัน ควรจะเป็ นการให้
                                                          ้
ข้ อแนะนาเพื่อให้ นกเรียนนาไปปรับปรุงตนเองให้ ดีขึ ้น อันมีลกษณะไปในทาง
                   ั                                          ั
สร้ างสรรค์
ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ)                                          (

            Characteristics an Effective Critique)

๔. ต้ องมีความอ่ อนตัว (Flexibility)

             ครูที่ดีควรจะมีความอ่อนตัวบ้ าง ซึงรวมทังต่องานทีมอบให้ นกเรี ยน
                                               ่      ้       ่        ั
    ปฏิบติด้วย ครูควรหลีกเลียงการตังมาตรฐานหรื อเทคนิคต่างๆ ไว้ ก่อนว่า
           ั                     ่     ้
    นักเรี ยนจะต้ องทาอย่างนันอย่างนี ้ หรื อหลีกเลียงความคิดทีครูคาดไว้ ก่อนว่า
                                   ้                ่           ่
    นักเรี ยนน่าจะทาดังทีครูคาดไว้ ครูควรจะวิจารณ์เฉพาะสิงที่เกิดขึ ้นจริ งๆ
                           ่                                ่
    ระหว่างที่นกเรี ยนปฏิบติและวิจารณ์เฉพาะองค์ประกอบต่างๆ ที่มผลต่อการ
                 ั             ั                                     ี
    กระทาครังนันๆ เท่านัน
                ้ ้          ้
ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ)                                     (

            Characteristics an Effective Critique)

๕. ต้ องมีการจัดระเบียบที่ดี (Step to step)

              การวิจารณ์ควรจะดาเนินไปตามขันตอน โดยมีการจัด
                                                 ้
    ระเบียบ มิฉะนันการวิจารณ์อาจจะไม่ถกจุดหรื อไม่ได้ เนื ้อหาตรงความเป็ น
                     ้                        ู
    จริ ง ขันตอนต่าง ๆ ของการวิจารณ์จะได้ รับการยอมรับก็ตอเมือมีเหตุมีผล
            ้                                                ่ ่
    และให้ ความเข้ าใจทังแก่นกเรียนและตัวครูเอง
                          ้ ั
              ดังนันครูควรจะต้ องอธิบายให้ นกเรี ยนทราบว่า การวิจารณ์จะดาเนิน
                   ้                        ั
    ไปตามขันตอนอย่างไร
              ้
ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ)                                           (

            Characteristics an Effective Critique)

๖. ต้ องเข้ าใจง่ าย (Simplicity)

               ทีกล่าวว่าการวิจารณ์จะต้ องเข้ าใจง่ายนันมิได้ หมายความว่า การ
                 ่                                      ้
    วิจารณ์ต้องวิจารณ์มากๆ อย่างยืดยาว หรื อวิจารณ์ถงรายละเอียดที่นกเรี ยน
                                                           ึ              ั
    กระทาอย่างลึกซึ ้ง ครูผ้ วิจารณ์เป็ นผู้พิจารณาตัดสินเองว่า ควรจะวิจารณ์
                             ู
    อย่างไรจึงจะบังเกิดผลดีที่สดแก่นกเรี ยน โดยครูอาจจะเลือกวิจารณ์เฉพาะ
                                 ุ      ั
    หัวข้ อใหญ่ๆ สาคัญ ๒ - ๓ ข้ อ หรื ออาจจะวิจารณ์ในหัวข้ อย่อยหลายๆ ข้ อ
    ก็แล้ ว แต่จะเห็นสมควร ครูควรจะตังเกณฑ์การวิจารณ์โดยถือเอาเรื่ องที่
                                          ้
    ต้ องการจะปรับปรุง หรื อเรื่องทีครูวานักเรี ยนควรจะได้ รับการปรับปรุงให้ ดีขึ ้น
                                    ่ ่
    เป็ นสาคัญ
รูปแบบการวิจารณ์
                               (Model of Critique


๑. การวิจารณ์โดยมุงทีตวครูเป็ นศูนย์กลาง (Instructor - Center Critique)
                     ่ ่ ั
         วิธีวิจารณ์แบบนี ้มุงทีตวครูเป็ นสาคัญ เพื่อเน้ นถึงลักษณะของการเป็ นผู้นาและ
                             ่ ่ ั
การแนะแนว ครูอาจจะจัดให้ นกเรี ยนอภิปรายรวมๆ กันทังชัน หรื อจะแบ่งนักเรี ยนในชัน
                                 ั                        ้ ้                       ้
ออกเป็ นกลุมเล็กๆ ก็ได้ โดยมีวธีการที่แตกต่างกันดังนี ้
           ่                   ิ

๑.๑ การวิจารณ์ทงชันเรี ยน (Class Discussion)
               ั้ ้
๑.๒ การวิจารณ์โดยแบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุมย่อย (Small Groups)
                                         ่
๑.๓ การวิจารณ์รายบุคคล (individual critique)
รูปแบบการวิจารณ์ (ต่อ)
                                     (Model of Critique

๒. การวิจารณ์โดยมุงที่ตวนักเรียนเป็ นศูนย์กลาง (Student - Centered
                       ่ ั
Critique)
            การวิจารณ์แบบนี ้มุงทีจะให้ เห็นถึงลักษณะของการเป็ นผู้นาของนักเรี ยน แต่
                                ่ ่
ต้ องอยูภายใต้ การกากับดูแลของครู ถ้ านักเรี ยนมีประสบการณ์ในการวิจารณ์มากขึ ้น
        ่
เท่าใด วิธีการแบบนี ้ย่อมได้ ผลมากขึ ้นเท่านัน อย่างไรก็ตามการวิจารณ์แบบนี ้ยังแบ่ง
                                             ้
ออกได้ เป็ นวิธียอยๆ อีก ๒ วิธี คือ
                 ่

๒.๑ การวิจารณ์ตวเอง (Self - Critique)
               ั
๒.๒ การวิจารณ์โดยให้ นกเรี ยนเป็ นผู้นา (Student - Led Critique)
                      ั
รูปแบบการวิจารณ์ (ต่อ)
                                 (Model of Critique

๓. การวิจารณ์ด้วยการเขียน (Written Critique)
      การวิจารณ์ด้วยการเขียนมีข้อดีอยู่ ๓ ประการคือ

      ๓.๑ ถ้ าครูวิจารณ์ด้วยการเขียน จะมีเวลาและโอกาสใช้ ความคิดในการ
วิจารณ์นนมากกว่าการวิจารณ์ด้วยปากเปล่า
            ั้
      ๓.๒ นักเรี ยนสามารถเก็บข้ อวิจารณ์ของครูไว้ เป็ นหลักฐานและสามารถใช้
อ้ างอิงได้ เมื่อจาเป็ น
      ๓.๓ ในกรณีที่ครูต้องการให้ นกเรี ยนเขียนวิจารณ์ผลการปฏิบติอย่างใดอย่าง
                                   ั                            ั
หนึง ผู้ปฏิบตินนจะได้ รับข้ อเสนอแนะ คาแนะนา และความเห็นของเพื่อนร่วมชัน
    ่            ั ั้                                                        ้
เป็ นลายลักษณ์อกษร เพื่อสะดวกที่จะนาไปพิจารณาปรับปรุงแก้ ไขตนเองต่อไป
                      ั
หลักเบื้องต้นในการวิจารณ์
                           (Principle to Critique)
          ๑. สร้ างและดารงไว้ ซงความเข้ าใจอันดีระหว่างครูกบนักเรี ยน
                               ึ่                           ั
          ๒. บอกให้ นกเรี ยนทราบถึงแบบที่จะใช้ ในการวิจารณ์
                      ั
          ๓. การวิจารณ์ขอให้ ครอบคลุมทังข้ อดีและข้ อเสียของนักเรี ยน พยายามวิจารณ์ชี ้
                                          ้
เฉพาะเจาะจงลงไป อย่าให้ คลุมเครื อและถ้ าสามารถให้ ตวอย่างได้ ให้ ยกตัวอย่างให้
                                                          ั
นักเรี ยนเห็นทันที
          ๔. หลีกเลียงการที่จะวิจารณ์ทกสิงทุกอย่าง การวิจารณ์ทดี ๆ เพียง ๒ - ๓ จุด
                    ่                 ุ ่                         ี่
จะมีประโยชน์ดีกว่าการวิจารณ์มากๆ แต่คลุมเครื อหรือไม่ชดเจน
                                                        ั
          ๕. อย่าวิจารณ์จนเกินเวลาที่กาหนดไว้
          ๖. เหลือเวลาไว้ สาหรับสรุปการวิจารณ์ เพื่อเน้ นให้ เห็นถึงสิงที่สาคัญๆ ซึง
                                                                      ่            ่
นักเรี ยนควรจะจดจาไว้
หลักเบื้องต้นในการวิจารณ์ (ต่อ)
                                    (Principle to Critique)
           ๗. จงหลีกเลียงการวิจารณ์ที่แสดงถึงความเชื่อมันในตนเองเกินไป ทุกกฎเกณฑ์
                             ่                             ่
ต้ องมีข้อยกเว้ น ผู้วิจารณ์เองก็อาจผิดพลาดได้
           ๘. อย่าวิจารณ์ในสิงซึงแก้ ไขไม่ได้
                                   ่ ่
           ๙. อย่าวิจารณ์ในสิงที่ผ้ วิจารณ์เองไม่สามารถให้ ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ ไขปรับปรุง
                                    ่ ู
ได้
           ๑๐. จงหลีกเลียงการโต้ เถียงกันในชัน และพยายามอย่าเข้ าข้ างฝ่ ายหนึงฝ่ ายใด
                                 ่              ้                               ่
           ๑๑. จงหลีกเลียงที่จะปกปองผู้ปฏิบติ ซึงได้ รับการวิจารณ์อนไม่เป็ นที่พอใจ ถ้ า
                               ่        ้      ั ่                 ั
ตราบใดที่การวิจารณ์นนเป็ นไปด้ วยความจริ งใจ ตรงตามจุดมุงหมาย เพื่อการสร้ างสรรค์
                          ั้                                  ่
และสนับสนุนให้ ดีขึ ้น
           ๑๒. ถ้ าการวิจารณ์เป็ นข้ อเขียน ควรจะมาวิจารณ์ด้วยปากเปล่าด้ วย
สรุป
                                    (Conclusion)

           โดยหน้ าที่ครูเป็ นผู้วิจารณ์ ฉะนันครูควรจะมีความสามารถเป็ นผู้ดาเนินการ
                                              ้
วิจารณ์ในชันเรี ยนได้ การวิจารณ์ไม่ใช่เป็ นกระบวนการของการให้ คะแนน แต่เป็ นขันตอน
               ้                                                                         ้
อันหนึงของกระบวนการเรี ยนรู้ จุดมุงหมายของการวิจารณ์ก็เพื่อปรับปรุงงานของนักเรี ยน
         ่                              ่
ในครังต่อ ๆ ไปให้ ดีขึ ้น และยิงกว่านันยังมุงเพื่อเสริ มการเรี ยนรู้ด้วย การวิจารณ์ที่มี
       ้                         ่     ้ ่
ประสิทธิภาพนันจะต้ องแสดงให้ เห็นทังข้ อดีของการปฏิบติงานของนักเรี ยนและ
                   ้                      ้                  ั
ขณะเดียวกันก็ให้ ข้อแนะนาแก่นกเรี ยนในส่วนที่บกพร่องเพื่อปรับปรุงให้ ดีขึ ้นไปพร้ อมกัน
                                     ั
ด้ วย ในการวิจารณ์นนควรจะทาให้ เป็ นที่ยอมรับเป็ นการสร้ างสรรค์ มีความอ่อนตัว มีการ
                      ั้
จัดระเบียบที่ดี และเข้ าใจง่ายการวิจารณ์ในชันเรี ยนอาจจะเปลียนแบบได้ ตาง ๆ
                                                 ้                   ่          ่
กัน เพื่อให้ นกเรียนเกิดความสนใจ และอาจจะกระทาทังด้ วยการเขียนและด้ วยปากเปล่าก็
                 ั                                         ้
ได้ การให้ นกเรี ยนมีสวนร่วมในการวิจารณ์ ครูควรต้ องกากับดูแลอย่างใกล้ ชิด
             ั          ่
จบการนาเสนอ
นายวีระพล ภูมิยิ่ง         548144218
นางสาวมนันยา กองจันทร์ดี   548144218

More Related Content

What's hot

คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เลขที่ 7 ม.5 1
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เลขที่ 7 ม.5 1คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เลขที่ 7 ม.5 1
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เลขที่ 7 ม.5 1Natthaphong Messi
 
งานนำเสนอ-เรื่อง-สถานที่ท่องเที่ยว
งานนำเสนอ-เรื่อง-สถานที่ท่องเที่ยวงานนำเสนอ-เรื่อง-สถานที่ท่องเที่ยว
งานนำเสนอ-เรื่อง-สถานที่ท่องเที่ยว
TaoTao52
 
PPT โน้มน้าวใจ
PPT โน้มน้าวใจPPT โน้มน้าวใจ
PPT โน้มน้าวใจKruBowbaro
 
โครงสร้างรายวิชา สาระการงานอาชีพ ม ต้น
โครงสร้างรายวิชา สาระการงานอาชีพ ม ต้นโครงสร้างรายวิชา สาระการงานอาชีพ ม ต้น
โครงสร้างรายวิชา สาระการงานอาชีพ ม ต้น
Aopja
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟางคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟางKat Suksrikong
 
Cvp central venous pressure monitoring
Cvp central venous pressure monitoringCvp central venous pressure monitoring
Cvp central venous pressure monitoringpiyarat wongnai
 
ลักษณะครูที่ดี
ลักษณะครูที่ดีลักษณะครูที่ดี
ลักษณะครูที่ดี
Naracha Nong
 
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วยบทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
Chutchavarn Wongsaree
 
แบบฝึกหัดคำภาษาต่างประเทศ ม.๒ นักเรียน
แบบฝึกหัดคำภาษาต่างประเทศ ม.๒  นักเรียนแบบฝึกหัดคำภาษาต่างประเทศ ม.๒  นักเรียน
แบบฝึกหัดคำภาษาต่างประเทศ ม.๒ นักเรียน
ssuser456899
 
ต้นชบา
ต้นชบาต้นชบา
ต้นชบา
มิว กุลวดี
 
สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคำ
สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคำสื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคำ
สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคำNook Kanokwan
 
เรื่อง คลื่นโทรทัศน์
เรื่อง  คลื่นโทรทัศน์เรื่อง  คลื่นโทรทัศน์
เรื่อง คลื่นโทรทัศน์Somporn Laothongsarn
 
4. to use sequence and series
4. to use sequence and series4. to use sequence and series
4. to use sequence and series
ssuser237b52
 
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
Key of 5 การสถาปนาธนบุรีKey of 5 การสถาปนาธนบุรี
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
Pracha Wongsrida
 
Power point
Power pointPower point
ปกนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ปกนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศปกนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ปกนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศsomdetpittayakom school
 
แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food
Nim Kotarak
 
ชนิดประโยค ม.2
ชนิดประโยค ม.2ชนิดประโยค ม.2
ชนิดประโยค ม.2
Ponpirun Homsuwan
 

What's hot (20)

คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เลขที่ 7 ม.5 1
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เลขที่ 7 ม.5 1คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เลขที่ 7 ม.5 1
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เลขที่ 7 ม.5 1
 
งานนำเสนอ-เรื่อง-สถานที่ท่องเที่ยว
งานนำเสนอ-เรื่อง-สถานที่ท่องเที่ยวงานนำเสนอ-เรื่อง-สถานที่ท่องเที่ยว
งานนำเสนอ-เรื่อง-สถานที่ท่องเที่ยว
 
PPT โน้มน้าวใจ
PPT โน้มน้าวใจPPT โน้มน้าวใจ
PPT โน้มน้าวใจ
 
โครงสร้างรายวิชา สาระการงานอาชีพ ม ต้น
โครงสร้างรายวิชา สาระการงานอาชีพ ม ต้นโครงสร้างรายวิชา สาระการงานอาชีพ ม ต้น
โครงสร้างรายวิชา สาระการงานอาชีพ ม ต้น
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟางคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
 
Cvp central venous pressure monitoring
Cvp central venous pressure monitoringCvp central venous pressure monitoring
Cvp central venous pressure monitoring
 
ลักษณะครูที่ดี
ลักษณะครูที่ดีลักษณะครูที่ดี
ลักษณะครูที่ดี
 
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วยบทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
บทบาทพยาบาลไตเทียมกับการป้องกันและการจัดการภาวะน้ำเกินของผู้ป่วย
 
แบบฝึกหัดคำภาษาต่างประเทศ ม.๒ นักเรียน
แบบฝึกหัดคำภาษาต่างประเทศ ม.๒  นักเรียนแบบฝึกหัดคำภาษาต่างประเทศ ม.๒  นักเรียน
แบบฝึกหัดคำภาษาต่างประเทศ ม.๒ นักเรียน
 
ต้นชบา
ต้นชบาต้นชบา
ต้นชบา
 
สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคำ
สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคำสื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคำ
สื่อการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสะกดคำ
 
เรื่อง คลื่นโทรทัศน์
เรื่อง  คลื่นโทรทัศน์เรื่อง  คลื่นโทรทัศน์
เรื่อง คลื่นโทรทัศน์
 
66 (1)
66  (1)66  (1)
66 (1)
 
4. to use sequence and series
4. to use sequence and series4. to use sequence and series
4. to use sequence and series
 
คำกริยา
คำกริยาคำกริยา
คำกริยา
 
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
Key of 5 การสถาปนาธนบุรีKey of 5 การสถาปนาธนบุรี
Key of 5 การสถาปนาธนบุรี
 
Power point
Power pointPower point
Power point
 
ปกนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ปกนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศปกนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
ปกนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
 
แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food
 
ชนิดประโยค ม.2
ชนิดประโยค ม.2ชนิดประโยค ม.2
ชนิดประโยค ม.2
 

Similar to การวิจารณ์ งานนำเสนอ

รูปแบบ สคริฟเวน 2003
รูปแบบ สคริฟเวน 2003รูปแบบ สคริฟเวน 2003
รูปแบบ สคริฟเวน 2003
norparaw
 
การประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงการประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงBenz_benz2534
 
การประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงการประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงBenz_benz2534
 
การประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงการประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงmickyindbsk
 
สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8
Tsheej Thoj
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8puyss
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8jujudy
 
Curriculum to learn
Curriculum to learnCurriculum to learn
Curriculum to learn
XForeverx Panuwat
 
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.3230 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
Kruthai Kidsdee
 
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.3230 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
ครูเฒ่าบุรีรัมย์ ย่าแก่
 
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.3230 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
ฺBadBoy 20151963
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8josodaza
 

Similar to การวิจารณ์ งานนำเสนอ (20)

จริยธรรมผู้ประเมิน
จริยธรรมผู้ประเมินจริยธรรมผู้ประเมิน
จริยธรรมผู้ประเมิน
 
จริยธรรมผู้ประเมิน
จริยธรรมผู้ประเมินจริยธรรมผู้ประเมิน
จริยธรรมผู้ประเมิน
 
จริยธรรมผู้ประเมิน
จริยธรรมผู้ประเมินจริยธรรมผู้ประเมิน
จริยธรรมผู้ประเมิน
 
จริยธรรมผู้ประเมิน
จริยธรรมผู้ประเมินจริยธรรมผู้ประเมิน
จริยธรรมผู้ประเมิน
 
รูปแบบ สคริฟเวน 2003
รูปแบบ สคริฟเวน 2003รูปแบบ สคริฟเวน 2003
รูปแบบ สคริฟเวน 2003
 
การประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงการประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริง
 
การประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงการประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริง
 
การประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริงการประเมินผลตามสภาพจริง
การประเมินผลตามสภาพจริง
 
สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8สรุปบทที่ 8
สรุปบทที่ 8
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8
 
นาว1
นาว1นาว1
นาว1
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8
 
Cjpowerpoint2
Cjpowerpoint2Cjpowerpoint2
Cjpowerpoint2
 
นำเสนอ
นำเสนอนำเสนอ
นำเสนอ
 
Curriculum to learn
Curriculum to learnCurriculum to learn
Curriculum to learn
 
Event
EventEvent
Event
 
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.3230 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
 
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.3230 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
 
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.3230 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
30 พ.ค.เอกสารยกระดับพัฒนา pisa สพม.32
 
บทที่8
บทที่8บทที่8
บทที่8
 

More from tie_weeraphon

1บุญข้าวประดับดิน บ้านหนองเต้า โดยคุณไท้.วีระพล ภูมิยิ่ง
1บุญข้าวประดับดิน บ้านหนองเต้า โดยคุณไท้.วีระพล ภูมิยิ่ง1บุญข้าวประดับดิน บ้านหนองเต้า โดยคุณไท้.วีระพล ภูมิยิ่ง
1บุญข้าวประดับดิน บ้านหนองเต้า โดยคุณไท้.วีระพล ภูมิยิ่งtie_weeraphon
 
ส่งงานกลุ่ม Addie
ส่งงานกลุ่ม Addieส่งงานกลุ่ม Addie
ส่งงานกลุ่ม Addietie_weeraphon
 
การจัดการเรียนการสอนแบบซึ้งกันและกัน Neck tie
การจัดการเรียนการสอนแบบซึ้งกันและกัน Neck tieการจัดการเรียนการสอนแบบซึ้งกันและกัน Neck tie
การจัดการเรียนการสอนแบบซึ้งกันและกัน Neck tietie_weeraphon
 
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ  อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ  อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...tie_weeraphon
 
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ  อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ  อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...tie_weeraphon
 
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับการคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับtie_weeraphon
 
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ tie_weeraphon
 

More from tie_weeraphon (7)

1บุญข้าวประดับดิน บ้านหนองเต้า โดยคุณไท้.วีระพล ภูมิยิ่ง
1บุญข้าวประดับดิน บ้านหนองเต้า โดยคุณไท้.วีระพล ภูมิยิ่ง1บุญข้าวประดับดิน บ้านหนองเต้า โดยคุณไท้.วีระพล ภูมิยิ่ง
1บุญข้าวประดับดิน บ้านหนองเต้า โดยคุณไท้.วีระพล ภูมิยิ่ง
 
ส่งงานกลุ่ม Addie
ส่งงานกลุ่ม Addieส่งงานกลุ่ม Addie
ส่งงานกลุ่ม Addie
 
การจัดการเรียนการสอนแบบซึ้งกันและกัน Neck tie
การจัดการเรียนการสอนแบบซึ้งกันและกัน Neck tieการจัดการเรียนการสอนแบบซึ้งกันและกัน Neck tie
การจัดการเรียนการสอนแบบซึ้งกันและกัน Neck tie
 
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ  อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ  อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
 
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ  อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ  อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
ประเพณีผีตาโขน งานนำเสนอ อาจารย์ ณัฐนันท์ สีดาแก้ว ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและ...
 
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับการคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
 
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
การคัดลอกลายเส้นจากต้นฉบับ
 

การวิจารณ์ งานนำเสนอ

  • 2. การวิจารณ์ การวิจารณ์บคคลอื่นอาจจะเป็ นเรื่ องที่ไม่เหมาะสม และไม่กระทาสาหรับ ุ บุคคลบางประเภท แต่สาหรับผู้ททาหน้ าที่ครู การวิจารณ์นกเรี ยนของตนกลับเป็ นหน้ าที่ ี่ ั ที่จะต้ องกระทา ตามปกตินกเรี ยนย่อมมีศรัทธาในตัวครูอยูแล้ วเป็ นพื ้นฐาน นักเรี ยนจะถือว่า ั ่ ครูเป็ นนักวิจารณ์ที่ทรงคุณธรรม ซึงมีสทธิ์ที่จะติชมเขาได้ ทกโอกาสและนักเรี ยนก็พอใจ ่ ิ ุ ถ้ าการติชมนันเป็ นไปอย่างยุตธรรม จริ งใจ และถูกต้ องตามหลักเกณฑ์ ้ ิ ดังนันการวิจารณ์นกเรี ยนในชันควรจะต้ องกระทาบ่อยๆ และสม่าเสมอ ไม่ ้ ั ้ จาเป็ นจะต้ องทาให้ เป็ นพิธีรีตองหรื อกาหนดไว้ ในตารางสอน ส่วนการวิจารณ์ที่เป็ น พิธีรีตองหรื อเป็ นเรื่ องเป็ นราวนันอาจจะกระทานานๆ ครัง โดยบอกให้ นกเรี ยนทราบ ้ ้ ั ล่วงหน้ า
  • 3. แนวความคิดในการวิจารณ์ (Characteristics of an Effective Critique) ๑. การวิจารณ์มจดมุงหมายเพื่อการปรับปรุงการปฏิบตงานของนักเรี ยนให้ ดี ีุ ่ ัิ ขึ ้น ๒. การวิจารณ์ควรกระทาบ่อย ๆ และสม่าเสมอ ๓. การวิจารณ์อาจกระทาเป็ นส่วนตัวหรือต่อหน้ าชันเรี ยนก็ได้ แต่ถ้าเป็ น ้ การวิจารณ์ตอหน้ าชันเรี ยน การวิจารณ์นนควรจะเกิดประโยชน์ทงสองฝ่ าย คือ ทังผู้ถก ่ ้ ั้ ั้ ้ ู วิจารณ์และนักเรี ยนอื่นๆ ในห้ องเรี ยนนันด้ วย ้ ด้ วย
  • 4. แนวความคิดในการวิจารณ์(ต่อ) (Characteristics of an Effective Critique) ๔. การวิจารณ์ในชันเรี ยนจะกระทาโดยปากเปล่า หรื อการเขียนก็ได้ ้ อื่นๆ ในห้ องเรี ยนนันด้ วย ้ ๕. การวิจารณ์ควรกระทาทันทีที่การปฏิบติงานของนักเรี ยนเสร็ จสิ ้นลง ั ๖. ไม่ควรนาการวิจารณ์มาเป็ นข้ อพิจารณาในการให้ คะแนน ๗. การวิจารณ์ไม่ควรไปในทางลบเสียทังหมด กล่าวคือ ไม่ควรตาหนิอย่าง ้ เดียวควรจะวิจารณ์ทงข้ อดีและข้ อเสียควบคูกนไปด้ วย ั้ ่ ั
  • 5. จุดมุ่งหมายของการวิจารณ์ (Purpose of a Critique) การวิจารณ์จดมุงหมายเพื่อปรับปรุงการปฏิบติงานของนักเรี ยนให้ ดีขึ ้น การ ุ ่ ั วิจารณ์ที่ได้ ผลดีที่สดนันจะก่อให้ เกิดประโยชน์ในด้ านการให้ คาแนะนา ชี ้แนวทางและ ุ ้ การแนะแนวแก่ นักเรี ยน ทังนี ้เพือให้ นกเรี ยนได้ ใช้ ความพยายามอย่างเต็มที่ที่ จะ ้ ่ ั ยกระดับการปฏิบติงานให้ ดีขึ ้น ั
  • 6. ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี ( Characteristics an Effective Critique) ๑. ต้ องมีวัตถุประสงค์ (Objectivity) การวิจารณ์ทดี จะมุงอยูที่ตวนักเรี ยนและผลการปฏิบติงานของ ี่ ่ ่ ั ั นักเรี ยนเป็ นสาคัญ ไม่ควรจะนาเอาความรู้สกส่วนตัวของครูเข้ าไปมีสวน ึ ่ เกี่ยวข้ องด้ วย เช่น การที่ครูชอบ ไม่ชอบหรื อมีอคติลาเอียงต่อนักเรี ยนคนนัน ้ อยูแล้ วมาวิจารณ์ไปด้ วย ่
  • 7. ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ) ( Characteristics an Effective Critique) ๒. ต้ องมีการยอมรับ (Acceptability) สิงสาคัญประการแรกของการวิจารณ์ นักเรี ยนจะต้ องยอมรับนับถือ ่ ในตัวครู ซึงเป็ นผู้วิจารณ์เสียก่อน เพราะถ้ านักเรี ยนไม่มความเชื่อถือในตัวครู ่ ี เสีย การวิจารณ์ยอมไร้ ผล ่
  • 8. ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ) ( Characteristics an Effective Critique) ๓. ต้ องมีการสร้ างสรรค์ (Creativeness) การวิจารณ์จะไม่เป็ นสิงจาเป็ นแต่อย่างใด ถ้ านักเรี ยนไม่ได้ รับประโยชน์ ่ จากการวิจารณ์ การชมอย่างพร่าเพรื่ อโดยไม่เป็ นไปตามข้ อเท็จจริ ง จะไม่มีคณค่า ุ ใดๆ เลย นักเรี ยนไม่เกิดการเรียนรู้ ในทานองเดียวกันครูก็ไม่ควรจะวิจารณ์เฉพาะ ข้ อผิดพลาดหรื อจุดอ่อนของนักเรียนเพียงอย่างเดียวเท่านัน ควรจะเป็ นการให้ ้ ข้ อแนะนาเพื่อให้ นกเรียนนาไปปรับปรุงตนเองให้ ดีขึ ้น อันมีลกษณะไปในทาง ั ั สร้ างสรรค์
  • 9. ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ) ( Characteristics an Effective Critique) ๔. ต้ องมีความอ่ อนตัว (Flexibility) ครูที่ดีควรจะมีความอ่อนตัวบ้ าง ซึงรวมทังต่องานทีมอบให้ นกเรี ยน ่ ้ ่ ั ปฏิบติด้วย ครูควรหลีกเลียงการตังมาตรฐานหรื อเทคนิคต่างๆ ไว้ ก่อนว่า ั ่ ้ นักเรี ยนจะต้ องทาอย่างนันอย่างนี ้ หรื อหลีกเลียงความคิดทีครูคาดไว้ ก่อนว่า ้ ่ ่ นักเรี ยนน่าจะทาดังทีครูคาดไว้ ครูควรจะวิจารณ์เฉพาะสิงที่เกิดขึ ้นจริ งๆ ่ ่ ระหว่างที่นกเรี ยนปฏิบติและวิจารณ์เฉพาะองค์ประกอบต่างๆ ที่มผลต่อการ ั ั ี กระทาครังนันๆ เท่านัน ้ ้ ้
  • 10. ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ) ( Characteristics an Effective Critique) ๕. ต้ องมีการจัดระเบียบที่ดี (Step to step) การวิจารณ์ควรจะดาเนินไปตามขันตอน โดยมีการจัด ้ ระเบียบ มิฉะนันการวิจารณ์อาจจะไม่ถกจุดหรื อไม่ได้ เนื ้อหาตรงความเป็ น ้ ู จริ ง ขันตอนต่าง ๆ ของการวิจารณ์จะได้ รับการยอมรับก็ตอเมือมีเหตุมีผล ้ ่ ่ และให้ ความเข้ าใจทังแก่นกเรียนและตัวครูเอง ้ ั ดังนันครูควรจะต้ องอธิบายให้ นกเรี ยนทราบว่า การวิจารณ์จะดาเนิน ้ ั ไปตามขันตอนอย่างไร ้
  • 11. ลักษณะของการวิจารณ์ที่ดี (ต่อ) ( Characteristics an Effective Critique) ๖. ต้ องเข้ าใจง่ าย (Simplicity) ทีกล่าวว่าการวิจารณ์จะต้ องเข้ าใจง่ายนันมิได้ หมายความว่า การ ่ ้ วิจารณ์ต้องวิจารณ์มากๆ อย่างยืดยาว หรื อวิจารณ์ถงรายละเอียดที่นกเรี ยน ึ ั กระทาอย่างลึกซึ ้ง ครูผ้ วิจารณ์เป็ นผู้พิจารณาตัดสินเองว่า ควรจะวิจารณ์ ู อย่างไรจึงจะบังเกิดผลดีที่สดแก่นกเรี ยน โดยครูอาจจะเลือกวิจารณ์เฉพาะ ุ ั หัวข้ อใหญ่ๆ สาคัญ ๒ - ๓ ข้ อ หรื ออาจจะวิจารณ์ในหัวข้ อย่อยหลายๆ ข้ อ ก็แล้ ว แต่จะเห็นสมควร ครูควรจะตังเกณฑ์การวิจารณ์โดยถือเอาเรื่ องที่ ้ ต้ องการจะปรับปรุง หรื อเรื่องทีครูวานักเรี ยนควรจะได้ รับการปรับปรุงให้ ดีขึ ้น ่ ่ เป็ นสาคัญ
  • 12. รูปแบบการวิจารณ์ (Model of Critique ๑. การวิจารณ์โดยมุงทีตวครูเป็ นศูนย์กลาง (Instructor - Center Critique) ่ ่ ั วิธีวิจารณ์แบบนี ้มุงทีตวครูเป็ นสาคัญ เพื่อเน้ นถึงลักษณะของการเป็ นผู้นาและ ่ ่ ั การแนะแนว ครูอาจจะจัดให้ นกเรี ยนอภิปรายรวมๆ กันทังชัน หรื อจะแบ่งนักเรี ยนในชัน ั ้ ้ ้ ออกเป็ นกลุมเล็กๆ ก็ได้ โดยมีวธีการที่แตกต่างกันดังนี ้ ่ ิ ๑.๑ การวิจารณ์ทงชันเรี ยน (Class Discussion) ั้ ้ ๑.๒ การวิจารณ์โดยแบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุมย่อย (Small Groups) ่ ๑.๓ การวิจารณ์รายบุคคล (individual critique)
  • 13. รูปแบบการวิจารณ์ (ต่อ) (Model of Critique ๒. การวิจารณ์โดยมุงที่ตวนักเรียนเป็ นศูนย์กลาง (Student - Centered ่ ั Critique) การวิจารณ์แบบนี ้มุงทีจะให้ เห็นถึงลักษณะของการเป็ นผู้นาของนักเรี ยน แต่ ่ ่ ต้ องอยูภายใต้ การกากับดูแลของครู ถ้ านักเรี ยนมีประสบการณ์ในการวิจารณ์มากขึ ้น ่ เท่าใด วิธีการแบบนี ้ย่อมได้ ผลมากขึ ้นเท่านัน อย่างไรก็ตามการวิจารณ์แบบนี ้ยังแบ่ง ้ ออกได้ เป็ นวิธียอยๆ อีก ๒ วิธี คือ ่ ๒.๑ การวิจารณ์ตวเอง (Self - Critique) ั ๒.๒ การวิจารณ์โดยให้ นกเรี ยนเป็ นผู้นา (Student - Led Critique) ั
  • 14. รูปแบบการวิจารณ์ (ต่อ) (Model of Critique ๓. การวิจารณ์ด้วยการเขียน (Written Critique) การวิจารณ์ด้วยการเขียนมีข้อดีอยู่ ๓ ประการคือ ๓.๑ ถ้ าครูวิจารณ์ด้วยการเขียน จะมีเวลาและโอกาสใช้ ความคิดในการ วิจารณ์นนมากกว่าการวิจารณ์ด้วยปากเปล่า ั้ ๓.๒ นักเรี ยนสามารถเก็บข้ อวิจารณ์ของครูไว้ เป็ นหลักฐานและสามารถใช้ อ้ างอิงได้ เมื่อจาเป็ น ๓.๓ ในกรณีที่ครูต้องการให้ นกเรี ยนเขียนวิจารณ์ผลการปฏิบติอย่างใดอย่าง ั ั หนึง ผู้ปฏิบตินนจะได้ รับข้ อเสนอแนะ คาแนะนา และความเห็นของเพื่อนร่วมชัน ่ ั ั้ ้ เป็ นลายลักษณ์อกษร เพื่อสะดวกที่จะนาไปพิจารณาปรับปรุงแก้ ไขตนเองต่อไป ั
  • 15. หลักเบื้องต้นในการวิจารณ์ (Principle to Critique) ๑. สร้ างและดารงไว้ ซงความเข้ าใจอันดีระหว่างครูกบนักเรี ยน ึ่ ั ๒. บอกให้ นกเรี ยนทราบถึงแบบที่จะใช้ ในการวิจารณ์ ั ๓. การวิจารณ์ขอให้ ครอบคลุมทังข้ อดีและข้ อเสียของนักเรี ยน พยายามวิจารณ์ชี ้ ้ เฉพาะเจาะจงลงไป อย่าให้ คลุมเครื อและถ้ าสามารถให้ ตวอย่างได้ ให้ ยกตัวอย่างให้ ั นักเรี ยนเห็นทันที ๔. หลีกเลียงการที่จะวิจารณ์ทกสิงทุกอย่าง การวิจารณ์ทดี ๆ เพียง ๒ - ๓ จุด ่ ุ ่ ี่ จะมีประโยชน์ดีกว่าการวิจารณ์มากๆ แต่คลุมเครื อหรือไม่ชดเจน ั ๕. อย่าวิจารณ์จนเกินเวลาที่กาหนดไว้ ๖. เหลือเวลาไว้ สาหรับสรุปการวิจารณ์ เพื่อเน้ นให้ เห็นถึงสิงที่สาคัญๆ ซึง ่ ่ นักเรี ยนควรจะจดจาไว้
  • 16. หลักเบื้องต้นในการวิจารณ์ (ต่อ) (Principle to Critique) ๗. จงหลีกเลียงการวิจารณ์ที่แสดงถึงความเชื่อมันในตนเองเกินไป ทุกกฎเกณฑ์ ่ ่ ต้ องมีข้อยกเว้ น ผู้วิจารณ์เองก็อาจผิดพลาดได้ ๘. อย่าวิจารณ์ในสิงซึงแก้ ไขไม่ได้ ่ ่ ๙. อย่าวิจารณ์ในสิงที่ผ้ วิจารณ์เองไม่สามารถให้ ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ ไขปรับปรุง ่ ู ได้ ๑๐. จงหลีกเลียงการโต้ เถียงกันในชัน และพยายามอย่าเข้ าข้ างฝ่ ายหนึงฝ่ ายใด ่ ้ ่ ๑๑. จงหลีกเลียงที่จะปกปองผู้ปฏิบติ ซึงได้ รับการวิจารณ์อนไม่เป็ นที่พอใจ ถ้ า ่ ้ ั ่ ั ตราบใดที่การวิจารณ์นนเป็ นไปด้ วยความจริ งใจ ตรงตามจุดมุงหมาย เพื่อการสร้ างสรรค์ ั้ ่ และสนับสนุนให้ ดีขึ ้น ๑๒. ถ้ าการวิจารณ์เป็ นข้ อเขียน ควรจะมาวิจารณ์ด้วยปากเปล่าด้ วย
  • 17. สรุป (Conclusion) โดยหน้ าที่ครูเป็ นผู้วิจารณ์ ฉะนันครูควรจะมีความสามารถเป็ นผู้ดาเนินการ ้ วิจารณ์ในชันเรี ยนได้ การวิจารณ์ไม่ใช่เป็ นกระบวนการของการให้ คะแนน แต่เป็ นขันตอน ้ ้ อันหนึงของกระบวนการเรี ยนรู้ จุดมุงหมายของการวิจารณ์ก็เพื่อปรับปรุงงานของนักเรี ยน ่ ่ ในครังต่อ ๆ ไปให้ ดีขึ ้น และยิงกว่านันยังมุงเพื่อเสริ มการเรี ยนรู้ด้วย การวิจารณ์ที่มี ้ ่ ้ ่ ประสิทธิภาพนันจะต้ องแสดงให้ เห็นทังข้ อดีของการปฏิบติงานของนักเรี ยนและ ้ ้ ั ขณะเดียวกันก็ให้ ข้อแนะนาแก่นกเรี ยนในส่วนที่บกพร่องเพื่อปรับปรุงให้ ดีขึ ้นไปพร้ อมกัน ั ด้ วย ในการวิจารณ์นนควรจะทาให้ เป็ นที่ยอมรับเป็ นการสร้ างสรรค์ มีความอ่อนตัว มีการ ั้ จัดระเบียบที่ดี และเข้ าใจง่ายการวิจารณ์ในชันเรี ยนอาจจะเปลียนแบบได้ ตาง ๆ ้ ่ ่ กัน เพื่อให้ นกเรียนเกิดความสนใจ และอาจจะกระทาทังด้ วยการเขียนและด้ วยปากเปล่าก็ ั ้ ได้ การให้ นกเรี ยนมีสวนร่วมในการวิจารณ์ ครูควรต้ องกากับดูแลอย่างใกล้ ชิด ั ่
  • 18. จบการนาเสนอ นายวีระพล ภูมิยิ่ง 548144218 นางสาวมนันยา กองจันทร์ดี 548144218