More Related Content Similar to Presentation "คุรุสดุดี ประจำปี 2557" (20) Presentation "คุรุสดุดี ประจำปี 2557" 3. ประวัติโดยย่อ
ชื่อ-สกุล : นางเบญจวรรณ บุ้งทอง (ครูป้อม)
วันเกิด : ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๘
ชื่อบิดา : นายทองใหญ่ หย่องเจริญ
ชื่อมารดา : นางพิศ หย่องเจริญ
ที่อยู่ปัจจุบัน : เลขที่ ๘/๓ ถ.โพศรี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี รหัสไปรษณีย์ ๔๑๐๐๐
รหัสประจาตัวประชาชน : ๓-๔๑๙๙-๐๐๖๘๓-๐๐-๖
เลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ “ประเภทวิชาชีพครู” : ๕๒๒๐๓๐๒๑๙๘๔๐๙๗
โทรศัพท์ : ๐๘-๙๙๔๑-๒๕๕๐ E-mail : ben_pom_bung@msn.com 5. วันที่เริ่มต้น
วันที่สิ้นสุด
ตาแหน่ง
สถานศึกษา
๑๒ มิ.ย. ๓๒
๓๑ มี.ค. ๓๓
ครู ๒
วิทยาลัยเทคนิคชุมพร (ทดลองปฏิบัติราชการ)
๑ เม.ย. ๓๓
๑ ต.ค. ๓๔
ครู ๒
วิทยาลัยเทคนิคชุมพร
๒ ต.ค. ๓๔
๓๑ มี.ค. ๓๕
ครู ๒
วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย
๓๑ มี.ค. ๓๕
๑ ต.ค. ๓๖
อาจารย์ ๑
วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย
๑๐ ส.ค. ๓๗
๑ ต.ค. ๓๘
อาจารย์ ๑
ช่วยราชการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี
๑๐ ธ.ค. ๓๘
๑ ม.ค. ๔๕
อาจารย์ ๑
วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี
๒ ม.ค. ๔๕
๒๓ ธ.ค. ๔๗
อาจารย์ ๒
วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี
๒๔ ธ.ค. ๔๗
๑๘ มิ.ย. ๕๓
ครู คศ. ๒
วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี
๑๙ มิ.ย. ๕๓
ปัจจุบัน
ครู คศ. ๓
วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี
ประวัติการทางาน
เริ่มปฏิบัติหน้าที่ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น (ศึกษานิเทศก์)
ตั้งแต่วันที่ ๑๒ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๒ นับถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ รวม ๒๔ ปี ๑๐ เดือน ๑๘ วัน
ประวัติหน้าที่การงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน (ระบุ วัน/เดือน/ปี) ที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของการดารง ตาแหน่ง และสถานที่ปฏิบัติงานของแต่ละตาแหน่ง 6. ภาระงาน
หน้าที่ปฏิบัติการสอน
ครูผู้สอน สาขาวิชาผ้าและเครื่องแต่งกาย วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี ทุกระดับชั้น
หน้าที่พิเศษที่ได้รับมอบหมาย
๑. หัวหน้างานโครงการพิเศษและบริการชุมชน
๒. หัวหน้าศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร (ศูนย์ ABI)
๓. หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center)
๔. หัวหน้าศูนย์บริการสนับสนุนนักเรียน นักศึกษาพิการ (DSS Center) วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี 7. ผลงานทางวิชาการ
๑. เอกสารประกอบการสอน วิชา เสื้อเทเลอร์สตรี
๒. การพัฒนาแบบตัดเสื้อเทเลอร์สาหรับสตรีรูปร่างพิเศษ
๓. เอกสารประกอบการอบรม “การพัฒนาผลิตภัณฑ์”
๔. เอกสารประกอบการอบรม “การพัฒนาบรรจุภัณฑ์”
๕. เอกสารประกอบการอบรม “ผลิตภัณฑ์ของใช้ของที่ระลึกจากผ้าพื้นเมือง”
๖. เอกสารประกอบการอบรม “การตัดเย็บเสื้อเทเลอร์สตรี”
๗. เอกสารประกอบการอบรม “การตัดเย็บเสื้อสตรีขั้นสูง”
๘. เอกสารประกอบการอบรม “การตัดเย็บชุดไทยสมัยนิยม”
๙. คู่มืออาชีพระยะสั้น
๙.๑ หลักสูตรการตัดเย็บเสื้อผ้า
๙.๒ หลักสูตรการตัดเย็บของใช้ภายในบ้าน
๙.๓ หลักสูตรการตัดเย็บของที่ระลึกจากผ้าพื้นเมือง
๑๐. หนังสือ “ร้อยเส้นสาย ลวดลายชีวิต ๑๒๑ ปี อุดรธานี” 9. ข้อ ๑ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องมีวินัยในตนเองพัฒนาตนเอง
ด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทาง
วิทยาการเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ
หมวดที่ ๑ จรรยาบรรณต่อตนเอง
ข้าพเจ้าเป็นผู้สนใจใฝ่ศึกษาหาความรู้ และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ด้วย ตระหนักถึงความสาคัญของการเปลี่ยนแปลงทางวิทยาการ เทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง โดยมุ่งเน้นการศึกษาเรียนรู้ อบรมพัฒนาตนเอง ทั้งในด้านการศึกษาต่อ ทั้งในและต่างประเทศ การศึกษาดูงาน กระทั่งมีภาวะความเป็นผู้นาทางวิชาการและ วิชาชีพ โดยได้รับคัดเลือกให้เป็นคณะกรรมการดาเนินงาน วิทยากร หัวหน้าศูนย์ฯ หรือ ผู้ฝึกอบรมในระดับจังหวัดและใกล้เคียง 10. การศึกษาหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนทักษะให้กับตนเอง
เช่น
๑. ปริญญา คหกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต (เทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์) สาขาสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
๒. Certificate of Successfully completed a Full-time Course Completion Level : B1 Intermediate fromEail, Hammersmith
& West London College, ENGLAND.
๓. Certificate of Successfully completed a Technical visit program, From Shin Lin Automobile high school, REPUBLIC OF KOREA. 11. การศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ
เช่น
๑. ดูงานการเขียนแบบตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยคอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คลองหก ปทุมธานี
๒. ดูงาน “นวัตกรรมสิ่งทอ” ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาสิ่งทอ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กรุงเทพมหานคร
๓. ดูงาน “แฟชั่นเอเชีย” ณ ประเทศญี่ปุ่น
๔. ดูงาน “การจัดการเรียนการสอนของอาเซียน” ณ ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ 12. เป็นผู้นาด้านวิชาการ วิชาชีพ และวัฒนธรรม
เช่น
๑. เป็นคณะกรรมการจัดทาหนังสือ“ร้อยเส้นสาย ลวดลายชีวิตอุดรธานี ๑๒๑ปี”ร่วมกับสานักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี และเป็น กรรมการตัดสินการประกวดลายผ้าพื้นเมืองโบราณของจังหวัด
๒. เข้าร่วมสืบสานประเพณีการราบวงสรวง กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานีร่วมกับประชาชนจังหวัดอุดรธานีทุกปี
๓. อบรมเตรียมความพร้อมการเป็นวิทยากรประจาศูนย์บ่มเพาะธุรกิจในสถานศึกษา ภายใต้โครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบ ครบวงจร และกองทุนตั้งตัวได้(Training the Trainer) ร่วมกับคณะวิทยากรประจาศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ สกอ.
๔. อบรม “เตรียมความพร้อมของผู้บริหารพัฒนากระบวนทัศน์ในการพัฒนาคุณภาพบริหารจัดการอาชีวศึกษาใหม่”จากสานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา 13. ข้อ ๒ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรักศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต และรับผิดชอบ
ต่อวิชาชีพ เป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ
หมวดที่ ๒ จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
ข้าพเจ้ามีความรู้สึกรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์ สัตย์สุจริต และรับผิดชอบต่อวิชาชีพ โดยตลอดระยะเวลาในการเป็นข้าราชการ มุ่งเน้นรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้เกิดแก่ ผู้เรียน สถานศึกษา หน่วยงาน ราชการและแผ่นดิน ให้เหมาะสมแก่การเป็นข้าฯ รองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นข้าราชการของประชาชน กระทั่งไปรับ รางวัลจากหน่วยงาน องค์กรต่างๆ 14. เกียรติบัตรแห่งความภาคภูมิในใจวิชาชีพครู
๑. เกียรติบัตร “เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาดีเด่น ด้านการจัดการเรียนการสอน”เนื่องในวันครูแห่งชาติ
จังหวัดอุดรธานี (ปี ๒๕๕๑) จากคณะกรรมการจัดงานวันครู จังหวัดอุดรธานี
๒. เกียรติบัตร ผู้ได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “หนึ่งแสนครูดี” ประจาปี ๒๕๕๕ ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติตนตามมาตรฐานวิชาชีพ
และจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา จากคุรุสภา
๓. เกียรติบัตรได้รับคัดเลือกเป็น “ครูผู้ได้รับทุนครูสอนดี” จานวนเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท (สองแสนห้าหมื่นบาท) เพื่อใช้ใน
การพัฒนาทักษะวิชาชีพ และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร จากสานักงานส่งเสริมสังคมแห่ง
การเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) 15. เป็นผู้นาด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย
๑. นานวัตกรรมและเทคโนโลยีสิ่งทอ “การตกแต่งผ้าสะท้อนน้า, การตกแต่งกลิ่นหอม และการตกแต่งผ้าป้องกันแบคทีเรีย” มาใช้ในการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และการเรียนการสอนผ้าและเครื่องแต่งกาย จากการอบรมและศึกษาดูงาน ณ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ เหรียญทอง (คะแนนสูงสุด) ประเภทที่ ๓ และประเภทที่ ๖ ระดับอาชีวศึกษาจังหวัด
๒. เป็นคณะกรรมการแข่งขันการตัดเย็บเสื้อเชิ้ตสตรีเข้ารูปแขนสั้น งานมหกรรมอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ ๒๒ ประจาปีการศึกษา ๒๕๕๕ ณ อาชีวศึกษาจังหวัดนครราชสีมา
๓. เป็นวิทยากรสอนหลักสูตรระยะสั้น เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การศึกษาอาชีวศึกษา ในงานมหกรรม “สัปดาห์ของขวัญ ผลิตภัณฑ์อาชีวะ : Gift Festival”จัดโดยคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 16. เข้าร่วมกิจกรรมและเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การวิชาชีพ
๑. เข้าอบรม “หลักสูตรการขอเครื่องหมายการค้า” จัดโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์และจด เครื่องหมายการค้าสาหรับผลงานศิษย์และผู้รับบริการ
๒. เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ “เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาครูสอนดี ระดับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน” จัดโดย สสค.
๓. เข้าร่วมและนาเสนอผลงานประชุมเชิงปฏิบัติการ “เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาครูสอนดี ระดับกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” จัดโดย สสค. 17. ข้อ ๓ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กาลังใจแก่
ศิษย์และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่ โดยเสมอหน้า
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้อง
ดีงามแก่ศิษย์และผู้รับบริการตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งทางกาย วาจา
และจิตใจ
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทาตนเป็นปฏิปักษ์ ต่อความเจริญทางกาย
สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์และผู้รับบริการ
ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค
โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตาแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ
หมวดที่ ๓ จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ 18. ข้าพเจ้ามุ่งเน้นอบรม สั่งสอน ถ่ายทอดความรู้ ทักษะวิชาการและวิชาชีพ แก่ ลูกศิษย์และผู้รับบริการ ด้วยความเอาใจใส่ เมตตา สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เรียนเพิ่งพา ตนเองได้ ด้วยการสร้างงาน สร้างรายได้จากวิชาความรู้ที่ได้รับจากการถ่ายทอด โดย ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตนเองเป็นแบบอย่าง และให้ศิษย์ปฏิบัติตาม ไม่เลือกรัก หรือเมตตา เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ให้ความรักและเอาใจใส่ต่อผู้เรียนโดย เสมอหน้า ไม่เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบจากหน้าที่โดยตลอดมา 19. ข้อ ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์
โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ
หมวดที่ ๔ จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
ข้าพเจ้าพึงช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อร่วมวิชาชีพ อย่างสร้างสรรค์ เพื่อ เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ เพื่อนร่วมงาน และผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ โดย ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างให้กับผู้ประกอบการวิชาชีพ และได้รับคัดเลือกเป็น “หัวหน้างานโครงการพิเศษและบริการชุมชน” และ “หัวหน้าศูนย์บ่มเพาะ ผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร” เพื่อสร้างสรรค์อาชีพ และทักษะให้กับ ผู้ประกอบการใหม่ และผู้สนใจ ภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง บนพื้นฐานของหลัก คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพโดยเสมอมา 21. ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตน เป็นผู้นาในการอนุรักษ์
และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม
รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมและยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หมวดที่ ๕ จรรยาบรรณต่อสังคม
ข้าพเจ้าพึงช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อร่วมวิชาชีพ อย่างสร้างสรรค์ เพื่อเสริมสร้าง ความสามัคคีในหมู่คณะ เพื่อนร่วมงาน และผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ โดยปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างให้กับผู้ประกอบการวิชาชีพ และได้รับคัดเลือกเป็น “หัวหน้างานโครงการ พิเศษและบริการชุมชน” และ “หัวหน้าศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบ วงจร” 24. ๑. ตั้งใจ เสียสละ และอุทิศตน โดยมุ่งหวังให้ศิษย์และหรือผู้รับบริการได้รับ การพัฒนาให้เป็นคนดี
มีความสามารถตามศักยภาพ ความถนัด และความสนใจของแต่ละบุคคล
ข้าพเจ้ามีความรัก ความเมตตาและเอาใจใส่ ช่วยเหลือและส่งเสริมให้กาลังใจแก่ศิษย์และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่ครูผู้สอน ครูวิทยากร และหัวหน้างานโครงการพิเศษและบริการชุมชน โดยเสมอหน้า ไม่แบ่งแยก หรือเลือกที่รักมักที่ชัง และข้าพเจ้าจะเมตตาต่อศิษย์และผู้รับบริการที่เป็น “คนพิเศษ” หรือกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ใน สังคมก่อนเสมอ เพราะข้าพเจ้าตระหนักดีว่า ผู้ที่มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และมีความพร้อม มีโอกาสย่อม ประสบความสาเร็จได้โดยง่ายดาย ในทางตรงกันข้ามกลุ่มผู้ด้อยโอกาส เช่น เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร หรือ นักเรียน นักศึกษาที่ยากจน มีปัญหาครอบครัว ปัญหาการเงินในสถานศึกษาเป็นต้น รวมถึงกลุ่มผู้ต้องขัง ผู้ป่วย บาบัดรักษายาเสพติด ผู้พิการ เยาวชนผู้หลงผิดในสถานพินิจฯ เด็กกาพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ว่างงาน ผู้ตกงาน ผู้อยู่ในข่าย เลิกจากงาน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ขาดโอกาสในสังคมและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ข้าพเจ้า เองตระหนักเสมอว่าครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยได้รับความช่วยเหลือจากครูผู้สอน ประสิทธิประสาทวิชาจนสามารถตัดเย็บ เสื้อผ้า สร้างงาน สร้างอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ข้าพเจ้าจึงประสงค์ที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ที่ข้าพเจ้าร่า เรียนมาก็ดี เทคนิควิธีการใหม่ๆ ที่ข้าพเจ้าคิดค้นขึ้นเองก็ดี รวมถึงการเก็บประสบการณ์จากการศึกษาดูงานมาใช้ใน การจัดการเรียนการสอน กระทั่งข้าพเจ้านาพานักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมประกวดแข่งขันได้รับรางวัลเป็นกาลังใจ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ข้าพเจ้าและสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา 27. นายปิยะพงษ์ ทาศิริ (บอย)
นักศึกษาระดับชั้น ปวส.๑
สาขาวิชาผ้าและเครื่องแต่งกาย
ข้าพเจ้าส่งเสริมให้นาความคิดสร้างสรรค์ และ ความถนัดของตนเองมาใช้ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ จนนักศึกษาสามารถรับงานการตัด เย็บเสื้อผ้า ทั้งชุดไทย ชุดรา ชุดประยุกต์ ชุด เชียร์ลีดเดอร์ รวมถึงบริการรับจัดงาน (Event) ต่างๆ ด้วยตนเอง โดยแนะนาและชักชวน เพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ ในสาขาวิชาและ สถานศึกษาที่ต้องการสร้างรายได้ระหว่างเรียน ลดภาระของผู้ปกครอง สามารถส่งเสียตนเองจน จบการศึกษา มีรายได้ต่อเดือนหลายหมื่นบาท มีการจ้างงานทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทั่วประเทศไทย โดยข้าพเจ้าจะคอยให้ คาปรึกษา และช่วยเหลือเรื่องการออกแบบตัด เย็บ รวมถึงการบริหารจัดการ การเงิน และคอย ดูแลเรื่องพฤติกรรมการเรียนในรายวิชาที่สอน รวมถึงวิชาอื่นๆ อย่างใกล้ชิด 28. นายโยธิน ชมภูวิเศษ นักศึกษา ระดับชั้น ปวส.๒ สาขาวิชาผ้าและเครื่องแต่งกาย
ข้าพเจ้าทราบดีว่านักศึกษาคนนี้มีปัญหาทางการเงิน เนื่องด้วยครอบครัวมีฐานะยากจน ข้าพเจ้าจึงหา รายได้ระหว่างเรียนให้กับนักศึกษา และยังปลูกฝังให้นักศึกษาตระหนักและเห็นคุณค่าของวิชาชีพ ให้สามารถสร้าง รายได้จากวิชาชีพผ้าและเครื่องแต่งกายที่เรียนรู้ โดยส่งเสริมให้เป็นผู้ช่วยวิทยากร ร่วมกับนักเรียน นักศึกษาคนอื่นๆ ใน สาขาวิชา ที่มีความต้องการสร้างรายได้ระหว่างเรียน อีกทั้งรับงานผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ตามคาสั่งซื้อของลูกค้า ผ่าน ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา แบบครบวงจร ซึ่งข้าพเจ้าเองทาหน้าที่หัวหน้าศูนย์บ่มเพาะฯ ของสถานศึกษา 30. ข้าพเจ้าคอยให้คาปรึกษา แนะนาช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP กลุ่ม D (กลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการที่ยังไม่มีการพัฒนาหรือปรับปรุงใดๆ และยังไม่ได้รับการ รับรองมาตรฐาน หรือดาวจากกรมพัฒนาชุมชน) ทั้งในจังหวัดอุดรธานี และหนองบัวลาภู โดยคอยแนะนา ให้ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบรรจุภัณฑ์ให้ ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มตนเองมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ มีความประณีต สวยงาม และเพิ่มมูลค่า รวมทั้งมีคุณภาพยกระดับเป็นกลุ่ม C, B และ A ตามลาดับ 31. ข้าพเจ้าให้คาแนะนา เป็นช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ OTOP ที่ประสบความสาเร็จแล้ว ให้มี
ความทันสมัยและเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา เช่น กลุ่มผ้าเย็บมือแม่ขวัญตา อ.ศรีบุญเรือง
จ.หนองบัวลาภู ซึ่งแต่เดิมเจ้าของกิจการคือลูกศิษย์ของข้าพเจ้า และได้พัฒนาตนเองจนนาพากลุ่มได้รับ การรับรองมาตรฐานสินค้า OTOP ระดับ ๕ ดาวของประเทศ ส่งจาหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
แต่ข้าพเจ้าก็คอยแนะนา และอบรมเพิ่มเติมในความรู้ใหม่ๆ ที่ข้าพเจ้าศึกษาและคิดค้นขึ้น เพื่อให้ ผู้ประกอบการทันต่อความต้องการของผู้บริโภคเสมอ 33. ผลงานด้านการเรียนการสอนผู้เรียนในชั้นเรียน
นางเบญจวรรณ บุ้งทอง หรือ ครูป้อม ของเด็กๆ นักเรียน นักศึกษา สาขาวิชาผ้าและเครื่องแต่งกาย วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี มุ่งเน้นอุทิศตนเองเพื่อ การสอนนักเรียน นักศึกษา ให้คิดได้ ทาเป็น เป็นคนเก่งและคนดีของสังคมอย่าง แท้จริง ตลอดระยะเวลา ๒๕ ปี ของการเป็นครู ครูป้อมได้เพียรพยามสั่งสอนลูกศิษย์ อย่างทั่วถึง เสียสละทั้งทรัพย์สิน เวลา ความรู้ และความสุขส่วนตัว เพื่อปั้นให้ลูกศิษย์ ประสบความสาเร็จในวิชาชีพที่เรียน จากการสอนที่ผ่านมา ทาให้ผู้เรียนสามารถคว้า รางวัลจากการแข่งขันทั้งระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับประเทศ หลายปีต่อเนื่อง มีการศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนความรู้ทั้งในและนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เป็น ที่รู้จักและยอมรับของครูในสาขาวิชาชีพผ้าและเครื่องแต่งกาย อาชีวศึกษาเป็นอย่างดี จากรางวัลกะรันตีคุณภาพของครูผู้สอน เช่น... 34. ๑. รางวัลประเภทพระราชทาน
๑) ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลชนะเลิศ
การประกวดแข่งขันชุดลาลองวัยรุ่นชายหญิง (ผ้าขาวม้า) ของ มทร.ธัญบุรี ปี ๒๕๔๙
๒) ถ้วยประทานจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวลีนารีรัตน์ รางวัลชนะเลิศ
การแข่งขันแฟชั่นดีไซน์ ประเภทชุดลาลอง (ผ้าฝ้าย) ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี ๒๕๕๐ 35. ๒. รางวัลจากการจัดงาน “ฝ้ายทอใจ” ติดต่อกัน ๓ ปีซ้อน จัดโดยศูนย์ส่งเสริม
ศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ดังนี้
๑) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ ประเภทชุดลาลอง ประจาปี ๒๕๕๒
๒) รางวัลชนะเลิศ ประเภทชุดลาลองชายหญิง ประจาปี ๒๕๕๓
๓) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ประเภทชุดลาลองวัยรุ่นสตรี ประจาปี ๒๕๕๔ 36. ๓. รางวัลชนะเลิศ ๓ ปี ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ งานวันเกษตรภาคอีสาน
จัดโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๑) รางวัลชนะเลิศการประกวดถุงผ้าลดโลกร้อน (ทาจากผ้าพื้นเมือง) ประจาปี ๒๕๕๒
๒) รางวัลชนะเลิศการประกวดถุงผ้าลดโลกร้อน (ทาจากผ้าพื้นเมือง) ประจาปี ๒๕๕๓
๓) รางวัลชนะเลิศการประกวดผ้ารองจานจากผ้าพื้นเมืองอีสาน ประจาปี ๒๕๕๕ 37. ๔.รางวัลพิเศษ ๓ รางวัล จากการแข่งขัน china world fashion design ๒๐๑๒ ๑) รางวัล Popular Vote จากผู้มาเที่ยวในศูนย์การค้า พร้อมเงินรางวัล ๕,๐๐๐ บาท ๒) รางวัล Popular Vote จาก Face Book พร้อมเงินรางวัล ๕,๐๐๐ บาท ๓) รางวัล Most Participation จาก Face Book พร้อมเงินรางวัล ๕,๐๐๐ บาท 38. ๕. รางวัลระดับอาชีวศึกษา
๑) รางวัลชนะเลิศการแข่งขันทักษะวิชาชีพ ระดับชาติ ประเภทชุดฝึกงานช่างอุตสาหกรรม
ระดับ ปวส. ณ วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี
๒) รางวัลชนะเลิศการดาเนินธุรกิจจริงของผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ “คนพันธ์อา”
๓) รางวัลชนะเลิศการแข่งขันสิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ ปีการศึกษา ๒๕๕๒ ระดับภาค
สิ่งประดิษฐ์ประเภทที่ ๓ ผลงาน “เสื้อมหัศจรรย์” และเข้าร่วมประกวดระดับชาติ 39. ๖. รางวัลระดับจังหวัด
๑) โล่เกียรติคุณ เข้าร่วมกิจกรรมสานักไทย “จากเส้นใยสู่ผืนผ้า จากภูมิปัญญาสู่อาภรณ์” จากชุดราตรีผ้าฝ้าย ปี ๒๕๕๐
๒) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ประเภทเครื่องแต่งกายจากวัสดุเหลือใช้ ประจาปี ๒๕๕๑
๓) รางวัลชนะเลิศ ประเภทเครื่องแต่งกายจากวัสดุเหลือใช้ ประจาปี ๒๕๕๒
๔) รางวัลชนะเลิศ การประกวดออกแบบผลิตภัณฑ์ OTOP ประเภทของที่ระลึก/ของขวัญ/ของฝาก ประจาปี ๒๕๕๖ 40. ผลงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์
นางเบญจวรรณ บุ้งทอง นอกจากจะพัฒนานักเรียน นักศึกษา สนับสนุน และส่งเสริมจน ผู้เรียนได้รับรางวัลจากการแข่งขันต่างๆ ในด้านการตัดเย็บเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายแล้ว ด้วยความที่เป็น ครูผู้รักในศิลปะ งานหัตถกรรม และการตัดเย็บของใช้ภายในบ้าน จึงได้ริเริ่มออกแบบ สร้าง และพัฒนา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อใช้ในครัวเรือน ของที่ระลึก และของตกแต่งเครื่องแต่งกาย โดยมุ่งเน้นการนาวัสดุใน ท้องถิ่นมาประยุกต์ ปรุงแต่ง เช่นผ้าพื้นเมือง ซึ่งเป็นผลงานหัตถศิลป์จากชาวบ้านในชนบท ที่สืบทอดกัน มาอย่างต่อเนื่อง จัดได้ว่างเป็นผู้ที่อนุรักษ์ซึ่งศิลปวัฒนธรรมความเป็นไทย ผสมผสานกับการออกแบบ สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทันสมัย สวยงาม ตรงตามความต้องการของตลาดเพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการสร้างอาชีพของนักเรียน นักศึกษาและผู้รับบริการ จนได้รับความไว้วางใจจากคณะผู้บริหาร สถานศึกษาให้ดารงตาแหน่ง “หัวหน้างานโครงการพิเศษและบริการชุมชน” ผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการเชื่อม สัมพันธ์ภาพระหว่างชุมชน และสถานศึกษา ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ของสถานศึกษา ลงอย่างชุมชน อย่างประจักษ์ชัดเจน ดังอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าของสถานศึกษา “บริการวิชาชีพสู่สังคม” ผลงานที่โดด เด่น และเป็นที่ต้องการของท้องตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทผ้า อาทิเช่น... 42. ผลงานด้านการเป็นผู้นาทางวิชาชีพ
ในด้านการเป็นผู้นาทางวิชาชีพ นางเบญจวรรณ บุ้งทอง เป็นผู้ที่มีความ เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้าเป็นอย่างยิ่ง จึงได้รับ ความไว้วางในจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เป็นที่ปรึกษา และเป็นผู้ฝึกสอน สมาชิกในเครือข่ายทั้งด้านการทอผ้า การแปรรูป และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีความ หลากหลายทันสมัย เป็นที่ยอมรับในวงการวิชาชีพทั้งในระดับจังหวัด ระดับภาค และ ระดับประเทศ ประจักษ์ได้จากการนาเสนอผลงานและถ่ายทอดองค์ความรู้สาหรับ หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น 57. การฝึกอบรมทักษะวิชาชีพ เป็นพันธกิจหลักของ งานโครงการ พิเศษและบริการชุมชน ฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัย อาชีวศึกษาอุดรธานี โดยนางเบญจวรรณจะมุ่งเน้นฝึกสอนให้กับ ผู้รับบริการที่ด้อยโอกาสก่อนเสมอ และผู้ที่ต้องการพัฒนาฝีมือ และผลงาน นวัตกรรมให้มีความทันสมัย โดดเด่น และสามารถแข่งขันได้ในท้องตลาด ให้ผู้เรียนสามารถนาความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการประกอบอาชีพได้จริง ภายใต้ โครงการส่งเสริม และพัฒนาต่างๆ 60. เข็มเชิดชูเกียรติชั้นสูงสุด (ชั้นที่ ๑)
รับพระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติชั้นสูงสุด (ชั้นที่ ๑) จากพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สาหรับผู้ปฏิบัติถวายงานตามโครงการพระราชดาริฯ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๑๕ ปี และมีความขยันหมั่นเพียรยิ่ง
พระราชทานเมื่อ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ โรงเรียนตารวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยเวียงงาม ต.นายูง อ.นายูง จ.อุดรธานี 62. เหนือสิ่งอื่นใด รางวัลที่ข้าพเจ้าภาคภูมิใจ และมีความสุขที่สุด คือ
“รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ”
ของเด็กๆ แม่บ้าน ผู้ต้องขัง ผู้พิการ เยาวชนผู้หลงผิด ผู้ติดยาเสพติด และลูกศิษย์อันเป็นที่ รัก ที่วันนี้พวกเขาเหล่านั้นมีอาชีพ มีรายได้จากวิชาชีพที่ข้าพเจ้าถ่ายทอด สามารถเลี้ยงดู ตนเอง เลี้ยงดูครอบครัว ไม่เป็นภาระของสังคม และยังช่วยส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับรุ่นต่อไป อย่างยั่งยืน บนพื้นฐานหลักเศรษฐกิจพอเพียง และนี่ คือปณิธานของ “ครูสอนดี”