SlideShare a Scribd company logo
งานนําเสนอการสืบค้นความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืช
ในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
ราชวิชาชีววิทยา 6 (ว 30246) ภายเรียนทีF2 ปีการศึกษา2560
ของนักเรียนชัHนมัธยมศึกษาปีทีF6
แผนการเรียนวิยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ห้อง 77
พืชทีFนําเสนอ คือ พืช FamilyRubiaceae
1. นางสาว ฐิตาพร มุทุธาร ห้อง 77เลขทีF4
2. นางสาว ธัญญาธิณี เจตนาพรสําราญ ห้อง77เลขทีF7
3. นางสาว ธัญวรัตน์ ธนเเขตไพศาล ห้อง77เลจทีF8
4. นางสาว ลักษิกาสุทธิศิลธรรม ห้อง77เลขทีF17
คํานํา
รายงานฉบับบนีHจัดทําขึHนเพืFอการศึกษาวิชาชีววิทยาเรืFองความ
หลากหลายทางพันธุกรรมของพืชทีFอยู่ในfamily RUBIACEAE โดยคณะ
ผู้จัดทําได้ศึกษา ค้นคว้า และรวบรวมเนืHอหารวมไปถึงวิดีโอนําเสนอไว้ใน
รายงานฉบับบนีHแล้ว เช่น ซึFงเป็นเรืFองทีFต้องศึกษาของนักเรียนระดับชัHน
มัธยมศึกษาปีทีF6 คณะผู้จัดทําจึงได้ทําโครงงานนีHขึHนมาเพืFอสะดวกและง่าย
ต่อการศึกษา คณะผู้จัดทําหวังว่า รายงานฉบับนีHจะเป็นประโยชน์และ
สามารถอํานวยความสะดวกในการศึกษาต่อผู้ทีFสนใจหากรายงานฉบับนีHมี
ข้อผิดพลาดประการใดคณะผู้จัดทําก็ต้องขออภัยไว้ณ ทีFนีHด้วย
คณะผู้จัดทํา
วงศ์(Family): Rubiaceae
จีนัส(Genus): Coffea
สปีชีส์(Species): C.Canephora
ชืFอสามัญ(Common name):Robusta Coffee
ชืFอวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Coffea robusta Pierre ex Froehner L.
ลักษณะ
ต้นกาแฟเป็นพืชทีFมีเนืHอไม้มีลําต้นทีFสูงใหญ่โดยลําต้นอาจสูงได้ถึง10เมตรถ้าไม่มีการตัดแต่งกิFง
แต่โดยทัFวไปเกษตรกรมักจะตัดแต่งกิFงกาแฟให้เตีHยเพืFอทําให้สามารถเก็บเกีFยวผลผลิตได้ง่าย
มีใบเดีFยว แต่ละใบออกตรงข้ามกันซึFงใบในแต่ละคู่จะตัHงฉากกันลักษณะของใบมักเป็นรูปเข็มและ
มีขอบใบทีFเรียบ ส่วนดอกมักมีปลาย 4-5 แฉก มีกลีบดอกทีFเชืFอมติดกัน
ประโยชน์
มีประโยชน์ทางธุรกิจผู้ทีFดืFมกาแฟ(ชนิดทีFมีคาแฟอิน) วันละ 4 แก้วหรือมากกว่านัHน มีความเสีFยงทีF
ตํFากว่าผู้ไม่ดืFมถึง 53 เปอร์เซ็นต์ซึFงผู้วิจัยเชืFอว่า ในกาแฟมีสารต้านทานอนุมูลอิสระโดยกาแฟมีสาร
ต่อต้านอนมุลอิสระ ชนิดเดียวกับทีFมีในองุ่น และมีมากกว่าบลูเบอร์รีF
ชืFอสามัญ: Quinine
ชืFออืFนๆ : กิมโกยนับ , กิมโกยเล็ก(จีน )
ชืFอวงศ์: RUBIACEAE
ชืFอวิทยาศาสตร์ : Cinchonapubescens Vahl (Cinchonasuccirubra Pav. ex Klotzsch)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ยืนต้น สูง8-15เมตร ใบเดีFยว เรียงตรงข้ามรูปวงรีแกมใบหอก กว้าง7-10ซม. ใบรูปใบหอก
อยู่ระหวางก้านใบ ดอกช่อออกทีFปลายกิFง กลีบดอกเชืFอม ติดกันเป็นหลอดสีขาวหรือชมพูผล
แห้ง แตกได้รูปกระสวยยาวเมืFอกสีน้าตาลแดง
ประโยชน์
ตํารายาไทยใช้เปลือกต้น แก้ไข้มาลาเรีย พบว่าเปลือกต้นและเปลือกรากมีแอลคาลอยด์หลาย
ชนิดทีFสําคัญคือควินินสําหรับแก้ไข้มาลาเรียชนิดฟัลซีพารัมและควินินรักษาโรคหัวใจเต้นเร็ว
วงศ์: Rubiaceae
ชืFอวิทยาศาสตร์ : Gardenia thailandica Tirveng.
ลักษณะ
ไม้ต้นขนาดเล็กต้นสูงประมาณ1.5-3เมตรทุกส่วนของลําต้นจะมีนํHายางสีขาวแตกกิFงก้านสาขามาก
ใบ เป็นใบเดีFยวออกใบตรงข้าม ลักษณะใบรูปขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่ขอบใบเรียบ
ปลายใบแหลม โคนใบรูปลิFม ก้านใบสัHนแผ่นใบสีเขียวเข้ม ผิวใบเป็นมัน
ดอก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบบริเวณปลายกิFง2-3 ดอกกลีบดอกโคนเชืFอมกันเป็นท่อเล็ก ๆ
ปลายใบแยกเป็น 5 กลีบ มีสีขาวกลีบดอกบาง
ผล เป็นฝัก ยาวประมาณ 2.5-5 ซม.ปลายแหลมและโค้ง
ประโยชน์
ราก บํารุงร่างกายระงับอาการปวดแก้ปวดฟันขับพยาธิ
ลําต้น คัHนเอานํHาดืFมใช้ขับพยาธิ
เนืHอไม้เป็นยาเย็น ใช้ลดไข้
ใบ โขลกกับนํHาตาลชงดืFมแก้อาการไอ
ดอก โขลกแล้วคัHนเอาแต่นํHาทาแก้โรคผิวหนัง
ชื#อวิทยาศาสตร์ Gardenia saxatilis Geddes
ชื#อวงศ์ RUBIACEAE
ชื#ออื#นๆข่อยโคก, ข่อยหิน, พุดผา, ข่อย, สามพันตา,ข่อยด่าน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลําต้น
ปัดหินเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กมีทรงพุ่มเตีHยลําต้นตัHงตรงแตกกิFงก้านสาขาตัHงฉากกับลําต้นมากมายมีความสูงประมาณ 2-4 เมตร
ใบ
ลักษณะใบปัดหินเป็นรูปไข่กลับรูปรีแกมขอบขนานบมีสีเขียวอมเหลืองเป็นมันผิวบนใบเรียบมีความกว้างของใบประมาณ 2-4
ซม.ยาวประมาณ 5-8 ซม.ออกเป็นใบเดีFยวเรียงสลับตรงข้ามกันก้านใบสัHน
ดอก
ออกเป็นดอกเดีFยวๆบริเวณปลายกิFงเป็นดอกสมบูรณ์เพศมีกลีบดอกสีขาวเชืFอมติดกันคล้ายรูปกรวยจํานวน6 กลีบปลายกลีบแยก
ออกจากกันก้านดอกมีสีเขียว
ผล
มีลักษณะเป็นผลสดรูปไข่กลับหรือรูปกลมสีเขียวปลายผลมีกลีบเลีHยงติดอยู่แน่นเมืFอสุกจะกลายเป็นสีส้มผิวผลเรียบ
เมล็ด
ภายในผลจะมีเมล็ดทีFหุ้มด้วยเยืFอสีส้มอยู่เพียง 1 เมล็ด
ประโยชน์
ลําต้น-ใช้ต้มนํHาดืFมเป็นยาเบืFอเมา
เนืHอไม้และราก-ใช้ต้มนํHาดืFมแก้พิษถอนพิษเบืFอเมา
เปลือกต้น-นําไปแช่ในเหล้าใช้ทาแก้อาการปวดชาตามแขนขาแก้อัมพาต
ชื#อวิทยาศาสตร์Tarennawallichii(Hook.f.) Ridl.
ชื#อวงศ์Rubiaceae
ชื#ออื#นๆจันทนาใบเล็ก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลําต้น
หอมเจ็ดชัHนเป็นไม้ยืนต้นทีFแตกกิFงก้านสาขาเป็นทรงพุ่มกลมมีความสูงของลําต้นประมาณ2-3 เมตรมีเปลือกลําต้นสีดํากิFง
เปราะหักได้ง่าย
ใบ
ออกเป็นใบเดีFยวเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ทีFปลายยอดใบมีลักษณะเป็นรูปทรงรีแผ่นใบเรียบหนาเหนียวมีสีเขียวเข้มเป็นมัน
ขอบใบเรียบโคนและปลายใบแหลมมีขนาดความกว้างของใบประมาณ 2-3 ซม.ยาวประมาณ 6-10 ซม.
ดอก
ออกเป็นช่อบริเวณซอกใบทีFปลายกิFงในแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยสีขาวนวลหรือสีขาวปนเหลืองขนาดเล็กเป็น
จํานวนมากดอกจะกลายเป็นสีเหลืองเมืFอบานเต็มทีFแล้วซึFงมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 1 ซม.
ประโยชน์
หอมเจ็ดชัHนเป็นไม้ประดับดอกหอมทีFนิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามบริเวณอาคารบ้านเรือนหรือตามสถานทีFต่างๆหรือจะ
ปลูกเลีHยงไว้ในกระถางก็ได้
ชื#อวิทยาศาสตร์Prismatomeristetrandra (Roxb.)K.Schum.
ชื#อวงศ์Rubiaceae
ชื#ออื#นๆ กระดูกไก่ กรักกรัก ผีซ้อนป่า ดูกไก่ขาว ดูกไก่ดํา
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลําต้น
สนกระเป็นไม้ต้นทรงพุ่มขนาดเล็กมีเปลือกลําต้นเรียบเป็นสีนํHาตาลอมเทาแตกกิFงก้านสาขาค่อนข้างน้อยมีความสูงของลําต้น
ประมาณ 5 เมตร
ใบ
มีลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปขอบขนานแผ่นใบมีสีเขียวเรียบหนาโคนใบและปลายใบแหลมขอบใบเรียบเส้นกลางใบทัHงด้านบนและ
ด้านล่างนูนมีขนาดความกว้างของใบประมาณ 1-8 ซม.ยาวประมาณ 2.5-20 ออกเป็นใบเดีFยวๆสลับตัHงฉากตรงข้ามกัน
ดอก
ออกเป็นช่อกระจุกบริเวณซอกใบและปลายยอดในแต่ละช่อจะมีดอกย่อยอยู่ประมาณ 4-10 ดอกมีกลีบดอกสีขาวทีFส่วนปลายกลีบ
แยกออกจากกันเป็น 5 แฉกมีมีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียยืFนออกมาเหนือหลอด ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5-3 ซม.
ผล
มีลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือเบีHยวผลอ่อนมีสีเขียวเมืFอสุกจะกลายเป็นสีดํา
ประโยชน์
ราก-มีรสขมเย็นใช้เป็นยาแก้พิษโลหิตแก้ดีพิการ
ทัOงต้น-ใช้เป็นยาแก้กระษัยไตพิการช่วยขับปัสสาวะ
ชื#อสามัญButterfly Flower
ชื#อวิทยาศาสตร์ MussaendasanderianaRidl.
วงศ์เข็ม (RUBIACEAE)
ลักษณะของแก้มขาว
ต้นแก้มขาว จัดเป็นพรรณไม้พุ่มรอเลืHอยมีความสูงได้ประมาณ 1-2 เมตรส่วนกิFงก้านแตกแขนงเป็นพุ่มแน่น ใบแก้มขาวใบเป็นใบเดีFยว
ออกเรียงตรงข้ามกันลักษณะของใบแผ่เป็นรูปรีปลายใบแหลมโคนใบสอบใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ
5-8 เซนติเมตร
ผลแก้มขาวผลเป็นผลสดมีลักษณะเป็นรูปไข่สีเขียวผิว
ประโยชน์
เปลือกเนืHอไม้และเหง้าแก้มขาวมีสรรพคุณเป็นยากระจายโลหิต (เปลือก, เนืHอไม้, เหง้า)
ชาวลัHวะจะใช้ลําต้นนํามาต้มนํHาดืFมและผสมกับสมุนไพรอืFนๆอีก 9 ชนิดเป็นยาบํารุงกําลัง (ลําต้น)
เถาแก้มขาวมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ผิดสําแดง (เถา)
เถาใช้เป็นยาแก้ไข้ทับระดู (เถา)
ตํารายาพืHนบ้านล้านนาจะใช้รากแก้มขาวนํามาขูดผสมกับรากผักคราดและรากแข้งกวางดง
ใช้ตุ๋นกับไก่กินเป็นยาแก้ปวดฟัน (ราก)
ชาวเขาเผ่าแม้วจะใช้รากแก้มขาวนํามาต้มกับนํHาดืFมเป็นยาระบายช่วยเจริญอาหาร (ราก)
ลําต้นใช้เข้ายารักษาโรคริดสีดวงทวาร (ลําต้น)
ใช้เป็นยาขับนํHานิFวในไต (เปลือก, เนืHอไม้, เหง้า)
ชื#อสามัญ DivineJasmine,Tamilnadia
ชื#อวิทยาศาสตร์ Tamilnadiauliginosa(Retz.)Tirveng.& Sastre
ชื#อวงศ์ RUBIACEAE
ชื#ออื#นๆ หนามแท่ง, มะคัง,ลุมพุก,มอกนํOาข้าว,มะข้าว,กระลําพุก,มะคังขาว
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ตะลุมพุก เป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่มโปร่งขนาดเล็ก ลําต้นมีรูปทรงไม่แน่นอน แต่สามารถตัดแต่งหรือดัดได้ไม่
ยากนัก เปลือกลําต้นมีสีนํHาตาลเข้ม กิFงอ่อนเป็นเหลีFยมมน ลําต้นและปลายกิFงก้านมีหนามทีFยาวและแหลม
ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ อยู่ทัFว โดยหนามนีHจะพัฒนากลายเป็นกิFงต่อไป เนืHอไม้ภายในมีสีนํHาตาลอ่อน มี
ความละเอียดและสมํFาเสมอมาก มีความสูงของลําต้นประมาณ 5-10 เมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่กลับสี
เขียวอ่อน แผ่นใบบางเรียบเป็นมัน ขอบใบเรียบโคนใบสอบแหลม ปลายใบมนดอกมีสีขาวมักออกมาจาก
ซอกใบบริเวณปลายยอดมีกลีบดอก 5-6 กลีบเป็นรูปทรงกลมค่อนข้างหนา ผล
ออกเป็นผลเดีFยว มีลักษณะเป็นผลสดรูปไข่หรือกลมรี ผิวผลเรียบผลอ่อนมีสีเขียวและจะกลายเป็นสีเหลือง
เมืFอสุก
ประโยชน์ที#นํามาใช้
รากและแก่น-ใช้ต้มนํHาดืFมเพืFอช่วยบํารุงโลหิต แก้ท้องเสีย แก้บิดมูกเลือดหรือใช้ผสมกับสมุนไพรชนิดอืFน
ต้มนํHาดืFมเป็นยาบํารุงร่างกาย แก้ปวดเมืFอย
เนืOอไม้-มีความละเอียด สมํFาเสมอ เป็นสีนํHาตาลอ่อนนิยมใช้ในงานแกะสลัก หรือทําเป็นเครืFองมือเครืFองใช้
ต่างๆ ได้
ชื#อสามัญ Greatmorinda,Tahitiannoni,Indianmulberry,Beachmulberry
ชื#อวงศ์Rubiaceae
ลักษณะ
ยอมีอยู่ด้วยกัน2 ชนิดคือยอบ้านและยอป่าทีFเราพบเห็นกันบ่อยๆก็คือยอบ้านยอเป็นไม้ยืนต้นมีใบสีเขียวมีดอก
ออกเป็นช่อทีFซอกใบลักษณะของผลยาวรีผลอ่อนมีสีเขียวเมืFอสุกจะเป็นสีขาวนวลมีเนืHอนุ่มในผลมีเมล็ดจํานวน
มากมีสีนํHาตาล
สรรพคุณของลูกยอ
ลูกยอเป็นแหล่งของแคลเซียมและยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง
ช่วยในการชะลอวัยและความเสืFอมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
ช่วยบํารุงผิวพรรณหนังศีรษะและผม
ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้(น้ําลูกยอ)
สารสโคโปเลติน(Scopoletin)ในนํHาลูกยอมีฤทธิ]ในการขยายหลอดเลือดทีFหดตัวทําให้ความดันโลหิตลดลงจน
เป็นปกติ (ลูกยอ,น้ําลูกยอ)
ช่วยทําให้ระบบโลหิตหมุนเวียนดีขึHน (ลูกยอสด)
ช่วยบํารุงสมองช่วยเสริมสร้างความจําทําให้มีสมาธิดีขึHน
มีฤทธิ]กล่อมประสาทมีส่วนช่วยทําให้นอนหลับง่ายขึHน
รากยอมีการนํามาใช้แกะสลักทํารงควัตถุสีเหลือง
ใบสดมีการนํามาใช้ทําเป็นอาหารสัตว์หรือนํามาเลีHยงตัวหนอนไหม
ลูกยอสุกมีการนํามาใช้ทําเป็นอาหารหมู
ชืFอวิทยาศาสตร์ : Gardenia erythroclada Kurz
ชืFอเรียกอืFน : จงก่าขาวจิHงก่าขาวชันยอดมะคังตุมกาแดงมะคังป่ามุยแดงลุมปุกแดง
ชืFอวงศ์: RUBIACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ยืนต้น กึFงไม้พุ่ม ขนาดกลางสูง6-12เมตร ใบดกหนาทึบลําต้นและกิFงก้านสีนํHาตาล
แดงโคนต้นและกิFงมีหนามโดยรอบ หนามขนาดใหญ่ใบเดีFยวเรียงตรงข้ามรูปวงรีหรือรูปไข่
กลับ กว้าง8-15 เซนติเมตรยาว 15-22 เซนติเมตรดอกช่อขนาดเล็กออกเป็นช่อสัHนทีFซอกใบ
ใกล้ปลายกิFง ดอกย่อยสีเขียวอ่อน กลีบดอกมี5 กลีบ กลีบดอกรูปกลม ผลสด รูปกระสวยเกิด
ตามป่าดิบแล้งป่าเบญจพรรณขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
ประโยชน์:
เนืHอไม้ใช้ทําหน้าไม้เครืFองมือทางการเกษตรต้มนํHาดืFมแก้เลือดลมเดินไม่สะดวกแก้ปวดท้อง
เปลือกต้นตําพอกแผลสดห้ามเลือด
ราก เป็นยาถ่าย
ชื#อวิทยาศาสตร์ :Mitragynadiversifolia(Wall.exG.Don)Havil.
ชื#อวงศ์ :Rubiaceae
ชื#อพืOนเมือง: กระทุ่มนา, กระทุ่มนํHา (กลาง); กระทุ่มดง(กาญจนบุรี); ตุ้มน้อย, ตุ้มแซะ, ตุ้มนํHา(เหนือ); ถ่มนาย (เลย);
ท่อมขีHหมู(สงขลา); ท่อมนา (สุราษฎร์ธานี); โทมน้อย (เพชรบูรณ์); กาตูม(เขมร -ปราจีนบุรี)
ลักษณะ:
ไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบสูง8-15ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลม แตกกิFงตํFา ใบเดีFยวเรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปรีทีF
ค่อนข้างกว้างเกือบกลม กว้าง3-7 ซม.ยาว5-12 ซม. ขอบเรียบแผ่นใบด้านบนเกลีHยงด้านล่างมีขนประปรายหรือ
เกลีHยง ก้านใบยาว0.6-1.3ซม. หูใบระหว่างก้านใบ 1 คู่รูปไข่กลับหรือรูปรีแกมรูปไข่กลับยาว0.5-1.3 ซม.ปรากฎ
ชัดตามปลายกิFง
ดอก แบบช่อกระจุกแน่นจํานวนมาก ออกตามปลายกิFงมีใบประดับขนาดใหญ่เมืFอดอกบานเต็มทีFเส้นผ่านศูนย์กลาง
ประมาณ 2 ซม. แต่ละช่อมีดอกขนาดเล็ก ไม่มีก้านกลีบดอกสีนวล ติดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น5แฉก เกสร
เพศผู้ 5อัน รังไข่อยู่ใต้วงกลีบมีก้านเกสรเพศเมียยืFนพ้นปากหลอดกลีบดอก
ผล เป็นรูปไข่มีขนาดเล็ก ผิวแข็งอัดรวมกันเป็นก้อนกลม ผลแห้งแตก เมล็ดมีปีก
ประโยชน์
ใบกระทุ่มนามีแอลคาลอยด์หลายชนิดด้วยกัน ได้มีการนํา mitraphyllineซึFงเป็นแอลคาลอยด์ประเภทoxindoleไป
ทดสอบฤทธิ]ทางเภสัชวิทยา พบว่าแอลคาลอยด์ชนิดนีHมีสรรพคุณลดความดันโลหิตและออกฤทธิ]กดต่อกล้ามเนืHอ
เรียบในสัตว์ทดลอง
ชืFอวิทยาศาสตร์ Wendlandia paniculata (Roxb.) DC.
วงศ์เข็ม (RUBIACEAE)
ลักษณะของแข้งกวางดง
ต้นแข้งกวางดงจัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กมีความสูงได้ประมาณ3-6เมตรเรือน
ยอดเป็นทรงกลมโปร่ง เปลือกต้นเป็นสีนํHาตาลอมเทาใบเป็นใบเดีFยวออกเรียงตรงข้ามสลับตัHง
ฉาก ลักษณะของใบเป็นรูปวงรีหรือรูปวงรีแกมใบหอก ปลายใบแหลม ดอกแข้งกวางดงออกดอก
เป็นช่อแบบช่อแยกแขนงโดยจะออกทีFปลายกิFงเป็นดอกเป็นสีขาวและมีผลแข้งกวางดงผลเป็น
ผลแห้ง ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม
ประโยชน์
ไม้แข้งกวางดงเป็นไม้เนืHออ่อน สามารถนํามาใช้ทํารัHวใช้สร้างบ้านทําโครงสร้างต่างๆของบ้าน
เช่น เสาบ้านหรือใช้ทําทีFพักชัFวคราวและทําฟืน
ตํารายาพืHนบ้านล้านนาจะใช้ลําต้นแข้งกวางดงนํามาผสมกับสมุนไพรจําพวกประดงรวม9ชนิด
ต้มกับนํHาดืFมเป็นยาแก้โรคประดง
http://www.vichakaset.com
http://www.coffeefavour.com/coffee-tree-arabica-robusta-botany-cultivation/
https://medthai.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B4%อ
E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%99/
https://www.samunpri.com
http://www.rspg.org/palace/chitralada/cld6-2_043.htm
http://www.wegrow.in.th/tree_detail.php?lan=&id=494
http://www.komchadluek.net/news/agricultural/199887
ขอบคุณทีFรับชมค่ะ

More Related Content

What's hot

Plant ser 144_60_8
Plant ser 144_60_8Plant ser 144_60_8
Plant ser 144_60_8
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 144_60_7
Plant ser 144_60_7Plant ser 144_60_7
Plant ser 144_60_7
Wichai Likitponrak
 
นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20
นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20
นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20marknoppajron
 
Plant ser 143_60_8
Plant ser 143_60_8Plant ser 143_60_8
Plant ser 143_60_8
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 144_60_9
Plant ser 144_60_9Plant ser 144_60_9
Plant ser 144_60_9
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 143_60_2
Plant ser 143_60_2Plant ser 143_60_2
Plant ser 143_60_2
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 144_60_3
Plant ser 144_60_3Plant ser 144_60_3
Plant ser 144_60_3
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 144_60_4
Plant ser 144_60_4Plant ser 144_60_4
Plant ser 144_60_4
Wichai Likitponrak
 
Hibiscus rosa sinensis L.
Hibiscus rosa sinensis L.Hibiscus rosa sinensis L.
Hibiscus rosa sinensis L.
nrraachadan
 
Plant ser 144_60_10
Plant ser 144_60_10Plant ser 144_60_10
Plant ser 144_60_10
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 144_60_6
Plant ser 144_60_6Plant ser 144_60_6
Plant ser 144_60_6
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 143_60_4
Plant ser 143_60_4Plant ser 143_60_4
Plant ser 143_60_4
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 125_60_5
Plant ser 125_60_5Plant ser 125_60_5
Plant ser 125_60_5
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 77_60_2
Plant ser 77_60_2Plant ser 77_60_2
Plant ser 77_60_2
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 126_60_8
Plant ser 126_60_8Plant ser 126_60_8
Plant ser 126_60_8
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 126_60_2
Plant ser 126_60_2Plant ser 126_60_2
Plant ser 126_60_2
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 125_60_2
Plant ser 125_60_2Plant ser 125_60_2
Plant ser 125_60_2
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 126_60_9
Plant ser 126_60_9Plant ser 126_60_9
Plant ser 126_60_9
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 143_60_1
Plant ser 143_60_1Plant ser 143_60_1
Plant ser 143_60_1
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 77_60_5
Plant ser 77_60_5Plant ser 77_60_5
Plant ser 77_60_5
Wichai Likitponrak
 

What's hot (20)

Plant ser 144_60_8
Plant ser 144_60_8Plant ser 144_60_8
Plant ser 144_60_8
 
Plant ser 144_60_7
Plant ser 144_60_7Plant ser 144_60_7
Plant ser 144_60_7
 
นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20
นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20
นายนพจร โคกแพ ม.4/8 เลขที่20
 
Plant ser 143_60_8
Plant ser 143_60_8Plant ser 143_60_8
Plant ser 143_60_8
 
Plant ser 144_60_9
Plant ser 144_60_9Plant ser 144_60_9
Plant ser 144_60_9
 
Plant ser 143_60_2
Plant ser 143_60_2Plant ser 143_60_2
Plant ser 143_60_2
 
Plant ser 144_60_3
Plant ser 144_60_3Plant ser 144_60_3
Plant ser 144_60_3
 
Plant ser 144_60_4
Plant ser 144_60_4Plant ser 144_60_4
Plant ser 144_60_4
 
Hibiscus rosa sinensis L.
Hibiscus rosa sinensis L.Hibiscus rosa sinensis L.
Hibiscus rosa sinensis L.
 
Plant ser 144_60_10
Plant ser 144_60_10Plant ser 144_60_10
Plant ser 144_60_10
 
Plant ser 144_60_6
Plant ser 144_60_6Plant ser 144_60_6
Plant ser 144_60_6
 
Plant ser 143_60_4
Plant ser 143_60_4Plant ser 143_60_4
Plant ser 143_60_4
 
Plant ser 125_60_5
Plant ser 125_60_5Plant ser 125_60_5
Plant ser 125_60_5
 
Plant ser 77_60_2
Plant ser 77_60_2Plant ser 77_60_2
Plant ser 77_60_2
 
Plant ser 126_60_8
Plant ser 126_60_8Plant ser 126_60_8
Plant ser 126_60_8
 
Plant ser 126_60_2
Plant ser 126_60_2Plant ser 126_60_2
Plant ser 126_60_2
 
Plant ser 125_60_2
Plant ser 125_60_2Plant ser 125_60_2
Plant ser 125_60_2
 
Plant ser 126_60_9
Plant ser 126_60_9Plant ser 126_60_9
Plant ser 126_60_9
 
Plant ser 143_60_1
Plant ser 143_60_1Plant ser 143_60_1
Plant ser 143_60_1
 
Plant ser 77_60_5
Plant ser 77_60_5Plant ser 77_60_5
Plant ser 77_60_5
 

Similar to Plant ser 77_60_8

Chongkho
ChongkhoChongkho
Plant ser 125_60_4
Plant ser 125_60_4Plant ser 125_60_4
Plant ser 125_60_4
Wichai Likitponrak
 
M6 125 60_8
M6 125 60_8M6 125 60_8
M6 125 60_8
Wichai Likitponrak
 
931 pre8
931 pre8931 pre8
Plant hor 8_77_60
Plant hor 8_77_60Plant hor 8_77_60
Plant hor 8_77_60
Wichai Likitponrak
 
Herbarium g2 332
Herbarium g2 332Herbarium g2 332
Herbarium g2 332
PasinSuphaphol
 
Biomapcontest2014 xoxo
Biomapcontest2014 xoxoBiomapcontest2014 xoxo
Biomapcontest2014 xoxo
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 125_60_10
Plant ser 125_60_10Plant ser 125_60_10
Plant ser 125_60_10
Wichai Likitponrak
 
A study of external structure of flowers (Cork Tree, Desert rose, Water Jasmine)
A study of external structure of flowers (Cork Tree, Desert rose, Water Jasmine)A study of external structure of flowers (Cork Tree, Desert rose, Water Jasmine)
A study of external structure of flowers (Cork Tree, Desert rose, Water Jasmine)
MetawadeeNongsana
 
Plant ser 126_60_5
Plant ser 126_60_5Plant ser 126_60_5
Plant ser 126_60_5
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 77_60_6
Plant ser 77_60_6Plant ser 77_60_6
Plant ser 77_60_6
Wichai Likitponrak
 
M6 78 60_1
M6 78 60_1M6 78 60_1
M6 78 60_1
Wichai Likitponrak
 
Plant ser 77_60_3
Plant ser 77_60_3Plant ser 77_60_3
Plant ser 77_60_3
Wichai Likitponrak
 
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
SasipaChaya
 
orangejasmineherbarium815
orangejasmineherbarium815orangejasmineherbarium815
orangejasmineherbarium815
BellNattanan
 
Flower structure by M5/834 Group3
Flower structure by M5/834 Group3Flower structure by M5/834 Group3
Flower structure by M5/834 Group3
JiradaAke
 
Plant ser 126_60_7
Plant ser 126_60_7Plant ser 126_60_7
Plant ser 126_60_7
Wichai Likitponrak
 
M6 126 60_9
M6 126 60_9M6 126 60_9
M6 126 60_9
Wichai Likitponrak
 
Plant hor 5_77_60
Plant hor 5_77_60Plant hor 5_77_60
Plant hor 5_77_60
Wichai Likitponrak
 

Similar to Plant ser 77_60_8 (20)

Chongkho
ChongkhoChongkho
Chongkho
 
Plant ser 125_60_4
Plant ser 125_60_4Plant ser 125_60_4
Plant ser 125_60_4
 
M6 125 60_8
M6 125 60_8M6 125 60_8
M6 125 60_8
 
931 pre8
931 pre8931 pre8
931 pre8
 
New species
New speciesNew species
New species
 
Plant hor 8_77_60
Plant hor 8_77_60Plant hor 8_77_60
Plant hor 8_77_60
 
Herbarium g2 332
Herbarium g2 332Herbarium g2 332
Herbarium g2 332
 
Biomapcontest2014 xoxo
Biomapcontest2014 xoxoBiomapcontest2014 xoxo
Biomapcontest2014 xoxo
 
Plant ser 125_60_10
Plant ser 125_60_10Plant ser 125_60_10
Plant ser 125_60_10
 
A study of external structure of flowers (Cork Tree, Desert rose, Water Jasmine)
A study of external structure of flowers (Cork Tree, Desert rose, Water Jasmine)A study of external structure of flowers (Cork Tree, Desert rose, Water Jasmine)
A study of external structure of flowers (Cork Tree, Desert rose, Water Jasmine)
 
Plant ser 126_60_5
Plant ser 126_60_5Plant ser 126_60_5
Plant ser 126_60_5
 
Plant ser 77_60_6
Plant ser 77_60_6Plant ser 77_60_6
Plant ser 77_60_6
 
M6 78 60_1
M6 78 60_1M6 78 60_1
M6 78 60_1
 
Plant ser 77_60_3
Plant ser 77_60_3Plant ser 77_60_3
Plant ser 77_60_3
 
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
การศึกษาโครงสร้าง ดอกพุดพิชญา ดอกกุหลาบ ดอกเฟื่องฟ้า กลุ่มที่ 10 ห้อง 931
 
orangejasmineherbarium815
orangejasmineherbarium815orangejasmineherbarium815
orangejasmineherbarium815
 
Flower structure by M5/834 Group3
Flower structure by M5/834 Group3Flower structure by M5/834 Group3
Flower structure by M5/834 Group3
 
Plant ser 126_60_7
Plant ser 126_60_7Plant ser 126_60_7
Plant ser 126_60_7
 
M6 126 60_9
M6 126 60_9M6 126 60_9
M6 126 60_9
 
Plant hor 5_77_60
Plant hor 5_77_60Plant hor 5_77_60
Plant hor 5_77_60
 

More from Wichai Likitponrak

บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
Wichai Likitponrak
 
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdfSAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
Wichai Likitponrak
 
การสำรวจพืช Globe tu64
การสำรวจพืช Globe tu64การสำรวจพืช Globe tu64
การสำรวจพืช Globe tu64
Wichai Likitponrak
 
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
Wichai Likitponrak
 
การสำรวจน้ำ Globe tu64
การสำรวจน้ำ Globe tu64การสำรวจน้ำ Globe tu64
การสำรวจน้ำ Globe tu64
Wichai Likitponrak
 
การสำรวจดิน Globe tu64
การสำรวจดิน Globe tu64การสำรวจดิน Globe tu64
การสำรวจดิน Globe tu64
Wichai Likitponrak
 
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
Wichai Likitponrak
 
Biotest kku60
Biotest kku60Biotest kku60
Biotest kku60
Wichai Likitponrak
 
Key biotestku60 kruwichaitu
Key biotestku60 kruwichaituKey biotestku60 kruwichaitu
Key biotestku60 kruwichaitu
Wichai Likitponrak
 
Bi opat2 onet2564_kru_wichai
Bi opat2 onet2564_kru_wichaiBi opat2 onet2564_kru_wichai
Bi opat2 onet2564_kru_wichai
Wichai Likitponrak
 
BiOsaman2564
BiOsaman2564BiOsaman2564
BiOsaman2564
Wichai Likitponrak
 
Biosaman63 kruwichai
Biosaman63 kruwichaiBiosaman63 kruwichai
Biosaman63 kruwichai
Wichai Likitponrak
 
Ijs obio62 testing
Ijs obio62 testingIjs obio62 testing
Ijs obio62 testing
Wichai Likitponrak
 
Pptgst uprojectplant62
Pptgst uprojectplant62Pptgst uprojectplant62
Pptgst uprojectplant62
Wichai Likitponrak
 
Pptgst uprojectpaper62
Pptgst uprojectpaper62Pptgst uprojectpaper62
Pptgst uprojectpaper62
Wichai Likitponrak
 
Pptgst uprojectnickle61
Pptgst uprojectnickle61Pptgst uprojectnickle61
Pptgst uprojectnickle61
Wichai Likitponrak
 
Pptgst uprojectflower61
Pptgst uprojectflower61Pptgst uprojectflower61
Pptgst uprojectflower61
Wichai Likitponrak
 

More from Wichai Likitponrak (20)

บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินรับสมัครGS2565_ครูวิชัย
 
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินดับเพลิง2565_ครูวิชัย
 
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินสอวนชีวะ2565_ครูวิชัย
 
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัยบันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
บันทึกข้อความประเมินทัศนศึกษา2565_ครูวิชัย
 
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdfSAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
SAR64-วิชัย(ชีววิทยา).pdf
 
การสำรวจพืช Globe tu64
การสำรวจพืช Globe tu64การสำรวจพืช Globe tu64
การสำรวจพืช Globe tu64
 
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
การสำรวจบรรยากาศ Globe tu64
 
การสำรวจน้ำ Globe tu64
การสำรวจน้ำ Globe tu64การสำรวจน้ำ Globe tu64
การสำรวจน้ำ Globe tu64
 
การสำรวจดิน Globe tu64
การสำรวจดิน Globe tu64การสำรวจดิน Globe tu64
การสำรวจดิน Globe tu64
 
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
แนวข้อสอบสามัญชีวะ2564
 
Biotest kku60
Biotest kku60Biotest kku60
Biotest kku60
 
Key biotestku60 kruwichaitu
Key biotestku60 kruwichaituKey biotestku60 kruwichaitu
Key biotestku60 kruwichaitu
 
Bi opat2 onet2564_kru_wichai
Bi opat2 onet2564_kru_wichaiBi opat2 onet2564_kru_wichai
Bi opat2 onet2564_kru_wichai
 
BiOsaman2564
BiOsaman2564BiOsaman2564
BiOsaman2564
 
Biosaman63 kruwichai
Biosaman63 kruwichaiBiosaman63 kruwichai
Biosaman63 kruwichai
 
Ijs obio62 testing
Ijs obio62 testingIjs obio62 testing
Ijs obio62 testing
 
Pptgst uprojectplant62
Pptgst uprojectplant62Pptgst uprojectplant62
Pptgst uprojectplant62
 
Pptgst uprojectpaper62
Pptgst uprojectpaper62Pptgst uprojectpaper62
Pptgst uprojectpaper62
 
Pptgst uprojectnickle61
Pptgst uprojectnickle61Pptgst uprojectnickle61
Pptgst uprojectnickle61
 
Pptgst uprojectflower61
Pptgst uprojectflower61Pptgst uprojectflower61
Pptgst uprojectflower61
 

Plant ser 77_60_8

  • 1. งานนําเสนอการสืบค้นความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืช ในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ราชวิชาชีววิทยา 6 (ว 30246) ภายเรียนทีF2 ปีการศึกษา2560 ของนักเรียนชัHนมัธยมศึกษาปีทีF6 แผนการเรียนวิยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ห้อง 77 พืชทีFนําเสนอ คือ พืช FamilyRubiaceae
  • 2. 1. นางสาว ฐิตาพร มุทุธาร ห้อง 77เลขทีF4 2. นางสาว ธัญญาธิณี เจตนาพรสําราญ ห้อง77เลขทีF7 3. นางสาว ธัญวรัตน์ ธนเเขตไพศาล ห้อง77เลจทีF8 4. นางสาว ลักษิกาสุทธิศิลธรรม ห้อง77เลขทีF17
  • 3. คํานํา รายงานฉบับบนีHจัดทําขึHนเพืFอการศึกษาวิชาชีววิทยาเรืFองความ หลากหลายทางพันธุกรรมของพืชทีFอยู่ในfamily RUBIACEAE โดยคณะ ผู้จัดทําได้ศึกษา ค้นคว้า และรวบรวมเนืHอหารวมไปถึงวิดีโอนําเสนอไว้ใน รายงานฉบับบนีHแล้ว เช่น ซึFงเป็นเรืFองทีFต้องศึกษาของนักเรียนระดับชัHน มัธยมศึกษาปีทีF6 คณะผู้จัดทําจึงได้ทําโครงงานนีHขึHนมาเพืFอสะดวกและง่าย ต่อการศึกษา คณะผู้จัดทําหวังว่า รายงานฉบับนีHจะเป็นประโยชน์และ สามารถอํานวยความสะดวกในการศึกษาต่อผู้ทีFสนใจหากรายงานฉบับนีHมี ข้อผิดพลาดประการใดคณะผู้จัดทําก็ต้องขออภัยไว้ณ ทีFนีHด้วย คณะผู้จัดทํา
  • 4.
  • 5. วงศ์(Family): Rubiaceae จีนัส(Genus): Coffea สปีชีส์(Species): C.Canephora ชืFอสามัญ(Common name):Robusta Coffee ชืFอวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Coffea robusta Pierre ex Froehner L. ลักษณะ ต้นกาแฟเป็นพืชทีFมีเนืHอไม้มีลําต้นทีFสูงใหญ่โดยลําต้นอาจสูงได้ถึง10เมตรถ้าไม่มีการตัดแต่งกิFง แต่โดยทัFวไปเกษตรกรมักจะตัดแต่งกิFงกาแฟให้เตีHยเพืFอทําให้สามารถเก็บเกีFยวผลผลิตได้ง่าย มีใบเดีFยว แต่ละใบออกตรงข้ามกันซึFงใบในแต่ละคู่จะตัHงฉากกันลักษณะของใบมักเป็นรูปเข็มและ มีขอบใบทีFเรียบ ส่วนดอกมักมีปลาย 4-5 แฉก มีกลีบดอกทีFเชืFอมติดกัน ประโยชน์ มีประโยชน์ทางธุรกิจผู้ทีFดืFมกาแฟ(ชนิดทีFมีคาแฟอิน) วันละ 4 แก้วหรือมากกว่านัHน มีความเสีFยงทีF ตํFากว่าผู้ไม่ดืFมถึง 53 เปอร์เซ็นต์ซึFงผู้วิจัยเชืFอว่า ในกาแฟมีสารต้านทานอนุมูลอิสระโดยกาแฟมีสาร ต่อต้านอนมุลอิสระ ชนิดเดียวกับทีFมีในองุ่น และมีมากกว่าบลูเบอร์รีF
  • 6. ชืFอสามัญ: Quinine ชืFออืFนๆ : กิมโกยนับ , กิมโกยเล็ก(จีน ) ชืFอวงศ์: RUBIACEAE ชืFอวิทยาศาสตร์ : Cinchonapubescens Vahl (Cinchonasuccirubra Pav. ex Klotzsch) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ยืนต้น สูง8-15เมตร ใบเดีFยว เรียงตรงข้ามรูปวงรีแกมใบหอก กว้าง7-10ซม. ใบรูปใบหอก อยู่ระหวางก้านใบ ดอกช่อออกทีFปลายกิFง กลีบดอกเชืFอม ติดกันเป็นหลอดสีขาวหรือชมพูผล แห้ง แตกได้รูปกระสวยยาวเมืFอกสีน้าตาลแดง ประโยชน์ ตํารายาไทยใช้เปลือกต้น แก้ไข้มาลาเรีย พบว่าเปลือกต้นและเปลือกรากมีแอลคาลอยด์หลาย ชนิดทีFสําคัญคือควินินสําหรับแก้ไข้มาลาเรียชนิดฟัลซีพารัมและควินินรักษาโรคหัวใจเต้นเร็ว
  • 7. วงศ์: Rubiaceae ชืFอวิทยาศาสตร์ : Gardenia thailandica Tirveng. ลักษณะ ไม้ต้นขนาดเล็กต้นสูงประมาณ1.5-3เมตรทุกส่วนของลําต้นจะมีนํHายางสีขาวแตกกิFงก้านสาขามาก ใบ เป็นใบเดีFยวออกใบตรงข้าม ลักษณะใบรูปขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม โคนใบรูปลิFม ก้านใบสัHนแผ่นใบสีเขียวเข้ม ผิวใบเป็นมัน ดอก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบบริเวณปลายกิFง2-3 ดอกกลีบดอกโคนเชืFอมกันเป็นท่อเล็ก ๆ ปลายใบแยกเป็น 5 กลีบ มีสีขาวกลีบดอกบาง ผล เป็นฝัก ยาวประมาณ 2.5-5 ซม.ปลายแหลมและโค้ง ประโยชน์ ราก บํารุงร่างกายระงับอาการปวดแก้ปวดฟันขับพยาธิ ลําต้น คัHนเอานํHาดืFมใช้ขับพยาธิ เนืHอไม้เป็นยาเย็น ใช้ลดไข้ ใบ โขลกกับนํHาตาลชงดืFมแก้อาการไอ ดอก โขลกแล้วคัHนเอาแต่นํHาทาแก้โรคผิวหนัง
  • 8. ชื#อวิทยาศาสตร์ Gardenia saxatilis Geddes ชื#อวงศ์ RUBIACEAE ชื#ออื#นๆข่อยโคก, ข่อยหิน, พุดผา, ข่อย, สามพันตา,ข่อยด่าน ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลําต้น ปัดหินเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กมีทรงพุ่มเตีHยลําต้นตัHงตรงแตกกิFงก้านสาขาตัHงฉากกับลําต้นมากมายมีความสูงประมาณ 2-4 เมตร ใบ ลักษณะใบปัดหินเป็นรูปไข่กลับรูปรีแกมขอบขนานบมีสีเขียวอมเหลืองเป็นมันผิวบนใบเรียบมีความกว้างของใบประมาณ 2-4 ซม.ยาวประมาณ 5-8 ซม.ออกเป็นใบเดีFยวเรียงสลับตรงข้ามกันก้านใบสัHน ดอก ออกเป็นดอกเดีFยวๆบริเวณปลายกิFงเป็นดอกสมบูรณ์เพศมีกลีบดอกสีขาวเชืFอมติดกันคล้ายรูปกรวยจํานวน6 กลีบปลายกลีบแยก ออกจากกันก้านดอกมีสีเขียว ผล มีลักษณะเป็นผลสดรูปไข่กลับหรือรูปกลมสีเขียวปลายผลมีกลีบเลีHยงติดอยู่แน่นเมืFอสุกจะกลายเป็นสีส้มผิวผลเรียบ เมล็ด ภายในผลจะมีเมล็ดทีFหุ้มด้วยเยืFอสีส้มอยู่เพียง 1 เมล็ด ประโยชน์ ลําต้น-ใช้ต้มนํHาดืFมเป็นยาเบืFอเมา เนืHอไม้และราก-ใช้ต้มนํHาดืFมแก้พิษถอนพิษเบืFอเมา เปลือกต้น-นําไปแช่ในเหล้าใช้ทาแก้อาการปวดชาตามแขนขาแก้อัมพาต
  • 9. ชื#อวิทยาศาสตร์Tarennawallichii(Hook.f.) Ridl. ชื#อวงศ์Rubiaceae ชื#ออื#นๆจันทนาใบเล็ก ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลําต้น หอมเจ็ดชัHนเป็นไม้ยืนต้นทีFแตกกิFงก้านสาขาเป็นทรงพุ่มกลมมีความสูงของลําต้นประมาณ2-3 เมตรมีเปลือกลําต้นสีดํากิFง เปราะหักได้ง่าย ใบ ออกเป็นใบเดีFยวเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ทีFปลายยอดใบมีลักษณะเป็นรูปทรงรีแผ่นใบเรียบหนาเหนียวมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ขอบใบเรียบโคนและปลายใบแหลมมีขนาดความกว้างของใบประมาณ 2-3 ซม.ยาวประมาณ 6-10 ซม. ดอก ออกเป็นช่อบริเวณซอกใบทีFปลายกิFงในแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยสีขาวนวลหรือสีขาวปนเหลืองขนาดเล็กเป็น จํานวนมากดอกจะกลายเป็นสีเหลืองเมืFอบานเต็มทีFแล้วซึFงมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 1 ซม. ประโยชน์ หอมเจ็ดชัHนเป็นไม้ประดับดอกหอมทีFนิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามบริเวณอาคารบ้านเรือนหรือตามสถานทีFต่างๆหรือจะ ปลูกเลีHยงไว้ในกระถางก็ได้
  • 10. ชื#อวิทยาศาสตร์Prismatomeristetrandra (Roxb.)K.Schum. ชื#อวงศ์Rubiaceae ชื#ออื#นๆ กระดูกไก่ กรักกรัก ผีซ้อนป่า ดูกไก่ขาว ดูกไก่ดํา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลําต้น สนกระเป็นไม้ต้นทรงพุ่มขนาดเล็กมีเปลือกลําต้นเรียบเป็นสีนํHาตาลอมเทาแตกกิFงก้านสาขาค่อนข้างน้อยมีความสูงของลําต้น ประมาณ 5 เมตร ใบ มีลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปขอบขนานแผ่นใบมีสีเขียวเรียบหนาโคนใบและปลายใบแหลมขอบใบเรียบเส้นกลางใบทัHงด้านบนและ ด้านล่างนูนมีขนาดความกว้างของใบประมาณ 1-8 ซม.ยาวประมาณ 2.5-20 ออกเป็นใบเดีFยวๆสลับตัHงฉากตรงข้ามกัน ดอก ออกเป็นช่อกระจุกบริเวณซอกใบและปลายยอดในแต่ละช่อจะมีดอกย่อยอยู่ประมาณ 4-10 ดอกมีกลีบดอกสีขาวทีFส่วนปลายกลีบ แยกออกจากกันเป็น 5 แฉกมีมีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียยืFนออกมาเหนือหลอด ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5-3 ซม. ผล มีลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือเบีHยวผลอ่อนมีสีเขียวเมืFอสุกจะกลายเป็นสีดํา ประโยชน์ ราก-มีรสขมเย็นใช้เป็นยาแก้พิษโลหิตแก้ดีพิการ ทัOงต้น-ใช้เป็นยาแก้กระษัยไตพิการช่วยขับปัสสาวะ
  • 11. ชื#อสามัญButterfly Flower ชื#อวิทยาศาสตร์ MussaendasanderianaRidl. วงศ์เข็ม (RUBIACEAE) ลักษณะของแก้มขาว ต้นแก้มขาว จัดเป็นพรรณไม้พุ่มรอเลืHอยมีความสูงได้ประมาณ 1-2 เมตรส่วนกิFงก้านแตกแขนงเป็นพุ่มแน่น ใบแก้มขาวใบเป็นใบเดีFยว ออกเรียงตรงข้ามกันลักษณะของใบแผ่เป็นรูปรีปลายใบแหลมโคนใบสอบใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-8 เซนติเมตร ผลแก้มขาวผลเป็นผลสดมีลักษณะเป็นรูปไข่สีเขียวผิว ประโยชน์ เปลือกเนืHอไม้และเหง้าแก้มขาวมีสรรพคุณเป็นยากระจายโลหิต (เปลือก, เนืHอไม้, เหง้า) ชาวลัHวะจะใช้ลําต้นนํามาต้มนํHาดืFมและผสมกับสมุนไพรอืFนๆอีก 9 ชนิดเป็นยาบํารุงกําลัง (ลําต้น) เถาแก้มขาวมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ผิดสําแดง (เถา) เถาใช้เป็นยาแก้ไข้ทับระดู (เถา) ตํารายาพืHนบ้านล้านนาจะใช้รากแก้มขาวนํามาขูดผสมกับรากผักคราดและรากแข้งกวางดง ใช้ตุ๋นกับไก่กินเป็นยาแก้ปวดฟัน (ราก) ชาวเขาเผ่าแม้วจะใช้รากแก้มขาวนํามาต้มกับนํHาดืFมเป็นยาระบายช่วยเจริญอาหาร (ราก) ลําต้นใช้เข้ายารักษาโรคริดสีดวงทวาร (ลําต้น) ใช้เป็นยาขับนํHานิFวในไต (เปลือก, เนืHอไม้, เหง้า)
  • 12. ชื#อสามัญ DivineJasmine,Tamilnadia ชื#อวิทยาศาสตร์ Tamilnadiauliginosa(Retz.)Tirveng.& Sastre ชื#อวงศ์ RUBIACEAE ชื#ออื#นๆ หนามแท่ง, มะคัง,ลุมพุก,มอกนํOาข้าว,มะข้าว,กระลําพุก,มะคังขาว ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ตะลุมพุก เป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่มโปร่งขนาดเล็ก ลําต้นมีรูปทรงไม่แน่นอน แต่สามารถตัดแต่งหรือดัดได้ไม่ ยากนัก เปลือกลําต้นมีสีนํHาตาลเข้ม กิFงอ่อนเป็นเหลีFยมมน ลําต้นและปลายกิFงก้านมีหนามทีFยาวและแหลม ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ อยู่ทัFว โดยหนามนีHจะพัฒนากลายเป็นกิFงต่อไป เนืHอไม้ภายในมีสีนํHาตาลอ่อน มี ความละเอียดและสมํFาเสมอมาก มีความสูงของลําต้นประมาณ 5-10 เมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่กลับสี เขียวอ่อน แผ่นใบบางเรียบเป็นมัน ขอบใบเรียบโคนใบสอบแหลม ปลายใบมนดอกมีสีขาวมักออกมาจาก ซอกใบบริเวณปลายยอดมีกลีบดอก 5-6 กลีบเป็นรูปทรงกลมค่อนข้างหนา ผล ออกเป็นผลเดีFยว มีลักษณะเป็นผลสดรูปไข่หรือกลมรี ผิวผลเรียบผลอ่อนมีสีเขียวและจะกลายเป็นสีเหลือง เมืFอสุก ประโยชน์ที#นํามาใช้ รากและแก่น-ใช้ต้มนํHาดืFมเพืFอช่วยบํารุงโลหิต แก้ท้องเสีย แก้บิดมูกเลือดหรือใช้ผสมกับสมุนไพรชนิดอืFน ต้มนํHาดืFมเป็นยาบํารุงร่างกาย แก้ปวดเมืFอย เนืOอไม้-มีความละเอียด สมํFาเสมอ เป็นสีนํHาตาลอ่อนนิยมใช้ในงานแกะสลัก หรือทําเป็นเครืFองมือเครืFองใช้ ต่างๆ ได้
  • 13. ชื#อสามัญ Greatmorinda,Tahitiannoni,Indianmulberry,Beachmulberry ชื#อวงศ์Rubiaceae ลักษณะ ยอมีอยู่ด้วยกัน2 ชนิดคือยอบ้านและยอป่าทีFเราพบเห็นกันบ่อยๆก็คือยอบ้านยอเป็นไม้ยืนต้นมีใบสีเขียวมีดอก ออกเป็นช่อทีFซอกใบลักษณะของผลยาวรีผลอ่อนมีสีเขียวเมืFอสุกจะเป็นสีขาวนวลมีเนืHอนุ่มในผลมีเมล็ดจํานวน มากมีสีนํHาตาล สรรพคุณของลูกยอ ลูกยอเป็นแหล่งของแคลเซียมและยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยในการชะลอวัยและความเสืFอมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ช่วยบํารุงผิวพรรณหนังศีรษะและผม ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้(น้ําลูกยอ) สารสโคโปเลติน(Scopoletin)ในนํHาลูกยอมีฤทธิ]ในการขยายหลอดเลือดทีFหดตัวทําให้ความดันโลหิตลดลงจน เป็นปกติ (ลูกยอ,น้ําลูกยอ) ช่วยทําให้ระบบโลหิตหมุนเวียนดีขึHน (ลูกยอสด) ช่วยบํารุงสมองช่วยเสริมสร้างความจําทําให้มีสมาธิดีขึHน มีฤทธิ]กล่อมประสาทมีส่วนช่วยทําให้นอนหลับง่ายขึHน รากยอมีการนํามาใช้แกะสลักทํารงควัตถุสีเหลือง ใบสดมีการนํามาใช้ทําเป็นอาหารสัตว์หรือนํามาเลีHยงตัวหนอนไหม ลูกยอสุกมีการนํามาใช้ทําเป็นอาหารหมู
  • 14. ชืFอวิทยาศาสตร์ : Gardenia erythroclada Kurz ชืFอเรียกอืFน : จงก่าขาวจิHงก่าขาวชันยอดมะคังตุมกาแดงมะคังป่ามุยแดงลุมปุกแดง ชืFอวงศ์: RUBIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ยืนต้น กึFงไม้พุ่ม ขนาดกลางสูง6-12เมตร ใบดกหนาทึบลําต้นและกิFงก้านสีนํHาตาล แดงโคนต้นและกิFงมีหนามโดยรอบ หนามขนาดใหญ่ใบเดีFยวเรียงตรงข้ามรูปวงรีหรือรูปไข่ กลับ กว้าง8-15 เซนติเมตรยาว 15-22 เซนติเมตรดอกช่อขนาดเล็กออกเป็นช่อสัHนทีFซอกใบ ใกล้ปลายกิFง ดอกย่อยสีเขียวอ่อน กลีบดอกมี5 กลีบ กลีบดอกรูปกลม ผลสด รูปกระสวยเกิด ตามป่าดิบแล้งป่าเบญจพรรณขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ประโยชน์: เนืHอไม้ใช้ทําหน้าไม้เครืFองมือทางการเกษตรต้มนํHาดืFมแก้เลือดลมเดินไม่สะดวกแก้ปวดท้อง เปลือกต้นตําพอกแผลสดห้ามเลือด ราก เป็นยาถ่าย
  • 15. ชื#อวิทยาศาสตร์ :Mitragynadiversifolia(Wall.exG.Don)Havil. ชื#อวงศ์ :Rubiaceae ชื#อพืOนเมือง: กระทุ่มนา, กระทุ่มนํHา (กลาง); กระทุ่มดง(กาญจนบุรี); ตุ้มน้อย, ตุ้มแซะ, ตุ้มนํHา(เหนือ); ถ่มนาย (เลย); ท่อมขีHหมู(สงขลา); ท่อมนา (สุราษฎร์ธานี); โทมน้อย (เพชรบูรณ์); กาตูม(เขมร -ปราจีนบุรี) ลักษณะ: ไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบสูง8-15ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลม แตกกิFงตํFา ใบเดีFยวเรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปรีทีF ค่อนข้างกว้างเกือบกลม กว้าง3-7 ซม.ยาว5-12 ซม. ขอบเรียบแผ่นใบด้านบนเกลีHยงด้านล่างมีขนประปรายหรือ เกลีHยง ก้านใบยาว0.6-1.3ซม. หูใบระหว่างก้านใบ 1 คู่รูปไข่กลับหรือรูปรีแกมรูปไข่กลับยาว0.5-1.3 ซม.ปรากฎ ชัดตามปลายกิFง ดอก แบบช่อกระจุกแน่นจํานวนมาก ออกตามปลายกิFงมีใบประดับขนาดใหญ่เมืFอดอกบานเต็มทีFเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 2 ซม. แต่ละช่อมีดอกขนาดเล็ก ไม่มีก้านกลีบดอกสีนวล ติดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น5แฉก เกสร เพศผู้ 5อัน รังไข่อยู่ใต้วงกลีบมีก้านเกสรเพศเมียยืFนพ้นปากหลอดกลีบดอก ผล เป็นรูปไข่มีขนาดเล็ก ผิวแข็งอัดรวมกันเป็นก้อนกลม ผลแห้งแตก เมล็ดมีปีก ประโยชน์ ใบกระทุ่มนามีแอลคาลอยด์หลายชนิดด้วยกัน ได้มีการนํา mitraphyllineซึFงเป็นแอลคาลอยด์ประเภทoxindoleไป ทดสอบฤทธิ]ทางเภสัชวิทยา พบว่าแอลคาลอยด์ชนิดนีHมีสรรพคุณลดความดันโลหิตและออกฤทธิ]กดต่อกล้ามเนืHอ เรียบในสัตว์ทดลอง
  • 16. ชืFอวิทยาศาสตร์ Wendlandia paniculata (Roxb.) DC. วงศ์เข็ม (RUBIACEAE) ลักษณะของแข้งกวางดง ต้นแข้งกวางดงจัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กมีความสูงได้ประมาณ3-6เมตรเรือน ยอดเป็นทรงกลมโปร่ง เปลือกต้นเป็นสีนํHาตาลอมเทาใบเป็นใบเดีFยวออกเรียงตรงข้ามสลับตัHง ฉาก ลักษณะของใบเป็นรูปวงรีหรือรูปวงรีแกมใบหอก ปลายใบแหลม ดอกแข้งกวางดงออกดอก เป็นช่อแบบช่อแยกแขนงโดยจะออกทีFปลายกิFงเป็นดอกเป็นสีขาวและมีผลแข้งกวางดงผลเป็น ผลแห้ง ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม ประโยชน์ ไม้แข้งกวางดงเป็นไม้เนืHออ่อน สามารถนํามาใช้ทํารัHวใช้สร้างบ้านทําโครงสร้างต่างๆของบ้าน เช่น เสาบ้านหรือใช้ทําทีFพักชัFวคราวและทําฟืน ตํารายาพืHนบ้านล้านนาจะใช้ลําต้นแข้งกวางดงนํามาผสมกับสมุนไพรจําพวกประดงรวม9ชนิด ต้มกับนํHาดืFมเป็นยาแก้โรคประดง