เป็นการผสมผสานส่วนประกอบย่อยต่างๆ ทีประกอบ
่
ด้วยข้อความ เสียง ภาพ
ภาพเคลื่อนไหว และวีดิทศน์เข้าด้วยกัน โดยใช้เทคนิค
ั
องค์ป ระกอบของมัล ติม เ ดีย ที่
ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ี
สมบูร ณ์
เครื่องคอมพิวเตอร์ทำาหน้าทีเป็นสื่อกลางให้ผู้ใช้ได้เห็นได้ยิน
่
และมีปฏิสัมพันธ์
การเชือมโยงส่วนประกอบย่อยต่างๆ เพือให้เกิดโครงสร้าง
่
่
และมิติของข้อมูล
การนำาทางเพือให้ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะอ่าน หรือดูส่วนหนึงส่วนใ
่
่
การสือสารระหว่างผู้ใช้มลติมเดีย
่
ั
ี
1. ขั้น ตอนการจัด ทำา มัล ติม เ ดีย
ี
1.1 วางแผนและวิเคราะห์ต้นทุนในการจัดทำา
1.2 จัดเตรียมเนือหาสาระที่จำาเป็นและสำาคัญ
้
1.3 ออกแบบและจัดทำาโดยคำานึงถึงโครงสร้างทีต้องการ
่
1.4 ทดสอบและส่งมอบ
1. เครื่องคอมพิวเตอร์
2. อุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ
3. อินเทอร์เฟซสำาหรับการต่อเชื่อมอุปกรณ์
ต่อพ่วง
เข้ากับคอมพิวเตอร์
4. หน่วยความจำาและเครื่องบันทึกข้อมูล
ลยีซ อฟต์แ วร์ข องมัล ติม เ ดีย ได้แ ก่
ี
. โปรแกรมเครื่องมือพืนฐาน ใช้สร้างส่วนประกอบย่อยของมัลติม
้
เช่น ข้อความ ภาพกราฟิก เสียง ภาพวีดิทศน์ ภาพยนตร์ดิจิต
ั
. โปรแกรมระบบงานมัลติมเดีย ใช้กำาหนดกรอบการทำางานรวบร
ี
จัดการและแก้ไขส่วนประกอบย่อยของมัลติมเดีย ซึ่งมีด้วยกัน
ี
3 ประเภท คือ
2.1 โปรแกรมทีอิงหนังสือ ใช้รวบรวมส่วนประกอบย่อยของม
่
เสมือนหน้าของหนังสือ
2.2 โปรแกรมทีอิงตามไอคอน ใช้รวบรวมส่วนประกอบย่อยเ
่
อ็อปเจ็กต์หรือไอคอนทีเชื่อมโยงกันไปตามตรรกะทีวางไว้
่
่
2.3 โปรแกรมทีอิงตามเวลา ใช้รวบรวมส่วนประกอบย่อยแล
่
ไปตามเส้นของเวลาซึงแบ่งเป็นช่วงสั้น ๆ
่
ามารถแก้ไขปรับแต่งส่วนประกอบย่อยของมัลติมเดีย เก็บได้ง่าย
ี
ดวกและรวดเร็ว
ามารถใช้ในการรวบรวมจัดการ ออกแบบและกำาหนดกระบวนการ
นงานมัลติมีเดีย
ช้ในการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างงานมัลติมเดียได้
ี
ช้เป็นเครื่องมือสร้างส่วนของการปฏิสัมพันธ์ได้
วยในการปรับแต่งการใช้งานมัลติมเดียในหลาย ๆ แบบ
ี
ามารถทำาให้มลติมเดียเล่นย้อนกลับได้ตามต้องการ
ั
ี
ามารถนำาเสนองานมัลติมเดียให้ผู้ใช้นำาไปใช้งานได้โดย
ี
ม่ต้องมีตัวโปรแกรมสร้างงานมัลติมีเดียอยู่ด้วย
วาม ต้องให้สื่อความหมายตรงกับความต้องการ การเลือกขนาด
และฟอนท์
เทคโนโลยีก ารสร้า งฟอนท์
* บิตแม็บ ใช้หน่วยความจำามากมีข้อจำากัดในเรื่องของคว
* โพสต์สคริปต์ ใช้หลักการของเรขาคณิตและสูตรทางคณ
* ทรูโทป์ ทำางานได้เร็วกว่าบิตแม็บ

2.1 ประเภทของเสีย งในมัล ติม เ ดีย
ี
* เสียงมิดิ ได้จากการสังเคราะห์ด้านมาตราฐานมิติ ใช้เ
ในการจัดเก็บ เล่นย้อนกลับได้ไม่ดี
* เสียงดิจิทล เป็นเสียงทีได้จากการสุ่มค่าในทุก ๆ เสียวว
ั
่
้
และถูกจัดเก็บในรูปของบิตและไบต์ ใช้เนื้อทีมากในการ
่
แต่สามารถเล่นย้อนกลับได้ดกว่า
ี
2.2 ข้อ พิจ ารณาการใช้เ สีย งในงานมัล ติม เ ดีย
ี
* เลือกเสียงที่ต้องการ
* ปรับแต่งเสียงให้เข้ากับงาน
* จัดหาเสียงทีจะใช้โดยการสร้างเองหรือใช้เสียงที่มลิข
่
ี
* เลือกตำาแหน่งและเวลาที่จะใช้เสียงมิดิหรือดิจิทล
ั
* ทดสอบให้แน่ใจว่าเสียงได้ถูกใช้ ถูกต้อง ถูกทีและ
่
ถูกเวลา
3. ภาพ

3.1 เทคโนโลยีก ารสร้า งภาพ แบ่งเป็น 3
ประเภท คือ
* ภาพบิตแม็บ เกิดจากจุดมากมายใน
ตารางเมทริกซ์
ที่เป็นความละเอียดของจอภาพ
คอมพิวเตอร์
* ภาพเวคเตอร์ดรอว์น เป็นภาพทีสร้าง
่
โดยสูตรคณิตศาสตร์
เช่น รูปเหลี่ยม วงกลม
* ภาพ 3 มิติ เป็นภาพทีสร้างโดยใช้จุด
่
นำาสายตาบนพื้นผิว
2 มิติ ให้เกิดความลึกเห็นเป็นภาพ 3
มิติ
าพเคลื่อ นไหว
4.1 เทคนิค การทำา ภาพเคลื่อ นไหว
* การทำาภาพเคลื่อนไหวโดยใช้แผ่นเซล เป็นการวาดภาพ
ลงบนแผ่นเซลและกำาหนดเฟรมหรือภาพหลัก ซึงเป็นภาพ
่
และภาพสุดท้ายของอาการเคลื่อนไหว และการสร้างภาพ
ระหว่างคียเฟรม เรียกว่าการทวีนนิงลงหมึก ใช้โปรแกรม
์
่
สร้างภาพต่าง ๆ ตั้งแต่คีย์เฟรม การทำาคลีนนิ่ง การทำาภา
การลงหมึก และระบายสีี
4.2 ฟอร์แ มตต่า ง ๆ ของแฟ้ม ข้อ มูล เคลื่อ นไหว เช่น M
FTI FFC PICS และ AVI
5. วีด ิท ศ น์
ั
5.1 มาตรฐานของวีด ท ัศ น์ข องโทรทัศ น์
ิ
ทีนิยมใช้มี 3 แบบ คือ
่
* NTSC ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ
* PAL
ใช้ในประเทศอังกฤษ
ยุโรป ออสเตรเลีย อัฟริกาใต้
และประเทศไทย
* SECAM ใช้ในประเทศฝรั่งเศษ
รัสเซีย และอีกบางประเทศ
* HDTV มาตรฐานใหม่ทกำาลัง
ี่
พัฒนาอยู่
5.2 ข้อ แตกต่า งระหว่า งวีด ิท ศ น์โ ทรทัศ น์ก ับ วีด ิ
ั
ทัศ น์ค อมพิว เตอร์
* การนำาภาพวีดทัศน์โทรทัศน์ซงเป็นแอนะ
ิ
ึ่
ล็อกไปแสดงบนจอ
คอมพิวเตอร์ที่เป็นดิจิทัลจะต้องมีอุปกรณ์วีดิโอ
โอเวอร์เลย์บอร์ด
เปลี่ยนสัญญาณ
* การกราดภาพวีดิทศน์บนจอโทรทัศน์เป็น
ั
แบบโอเวอร์สแกน แต่การ
กราดภาพวีดิทัศน์บนจอภาพคอมพิวเตอร์
เป็นแบบอันเดอร์สแกน
* สีของวีดิทศน์คอมพิวเตอร์สวยชัดกว่า
ั
* การกราดภาพบนจอคอมพิวเตอร์เป็นแบบ
กราดหนึงเฟรมในหนึงรอบ
่
่
การกราดภาพบนจอโทรทัศน์เป็นแบบ
หนึงเฟรมในสองรอบ หรือ
่
ข้อ แนะนำา ในการถ่า ยภาพวีด ิท ศ น์
ั
* ต้องคำานึงถึงความนิงของกล้อง
่
* แสงต้องมีเพียงพอเพือความคมชัดของภาพ
่
* ฉากหลังในการถ่ายควรเป็นสีฟา เพือให้สามารถนำาภาพ
้
่
ไปซ้อนกับภาพฉากที่สกรีนใหม่ได้
* การจัดองค์ประกอบไม่ให้กระจัดกระจาย
5.4 การบีบ อัด ภาพวีด ิท ศ น์ มาตรฐานที่นยม
ั
ิ
ใช้ คือ
* JPEG บีบอัดข้อมูลภาพนิง อัตราส่วน
่
20:1
* MPEG บีบอัดข้อมูลภาพเคลื่อนไหว ใน
อัตราส่วน 30:1
* DVI
บีบอัดข้อมูลภาพวีดิทศน์เฉพาะ
ั
ษณะของการประยุก ต์ม ล ติม เ ดีย ในงานธุร กิจ
ั
ี
1. การนำา เสนองาน
* จัดเตรียมเนื้อหาสาระและจัดพิมพ์ข้อความลงในสไล
* เตรียมภาพหรือแผนภูมิหรือภาพประกอบ
* ในกรณีทมเสียงประกอบ ควรจัดตามความเหมา
ี่ ี
ไม่พรำ่าเพรื่อ
* นำาเสนอโดยอธิบายไปทีละแผ่น
ประโยชน์ข องการนำา เสนองานด้ว ยมัล ติม เ ดีย
ี
*
*
*
*

ดูทนสมัย
ั
เรียกความสนใจและดูตื่นเต้นเร้าใจมากกว่า
สามารถแก้ไขปรับปรุงงานได้สะดวก รวดเร็ว
สามารถนำาเสนองานทีเป็นเสียง ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไห
่
ภาพวีดทัศน์ได้ดีกว่า
ิ
ข้อ จำา กัด ของการนำา เสนองาน
ของมัล ติม เ ดีย
ี
* ต้องใช้อุปกรณ์ ระบบมากกว่า
* ต้องใช้ความรู้ ความสามารถในการทำาและนำาเสนอมากกว่า
* ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง
2. การฝึก อบรม
มักจะทำาเป็นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI) เน้นการเรียนรู้และทดสอบ
วัดผล
หรือทำาเป็นคอมพิวเตอร์ช่วยฝึกสอน(CBT) เน้นการเรียนรู้ ฝึกปฏิบ
และทดสอบวัดผล
โยชน์
เนือหาคงทีคล้ายหนังสือไม่ขึ้นกับผู้ฝึกอบรม
้
่
สามารถฝึกอบรมได้ไม่จำากัดจำานวนผู้ฝึกอบรมขึ้นอยูกับจำานวน
่
ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
สามารถฝึกอบรมได้ตามสะดวกทังเวลาและสถานที่
้
สามารถฝึกทบทวนได้ตามต้องการ
สามารถเห็นทังภาพได้ยินทังเสียง และลงมือสัมผัสใกล้เคียง
้
้
กับความจริงทีสด
่ ุ
ข้อ จำา กัด
* ต้องคอยปรับปรุงเนื้อหาให้
ทันสมัย
* ต้องใช้เวลาและทรัพยากร
ต่างๆ
3. การตลาด * ต้องมีฮาร์ดแวร์และ
* ขยายช่องทางการตลาดโดยใช้มลติมเดียผ่านอินเตอร์เน็ต
ั
ี
ซอฟต์แวร์
* ส่งเสริมการตลาดโดยผ่านสื่อมัลติมเดีย
ี
ประโยชน์
* ดูทนสมัย
ั
* ตอบสนองความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึง
ข้อมูลของผู้ซื้อ
* ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการส่งข้อมูล
แก่ผู้สนใจ
* สามารถเพิมช่องทางการตลาดสมัยใหม่
่
ข้อ จำา กัด
* สามารถสืHardware และ ้สนใจได้ดีกว่า
่
* ต้องใช้ อความหมายกับผู Software
แบบที* ม่ต้องมีผู้ดูแดียบผิดชอบส่วนมัลติมเดีย
ไ ใช้มลติมเ ลรั
่
ั
ี
ี

โดยเฉพาะ
* ต้องคอยปรับปรุงข้อมูลข่าวสารให้ทน
ั
สมัยอยูเสมอ
่
* ซีดีรอมเป็นสือบันทึกข้อมูลแบบแสงของวัสดุจำาพวก
่
โพลิอาร์บอเนต
ฉาบด้วยอลูมเนียมด้านบนและเคลือบผิวด้วย
ิ
แลคเกอร์ มีความจุสูง
เคลื่อนย้ายไปมาได้
* มาตรฐานแฟ้มข้อมูลฟอร์แมตต่าง ๆ ของซีดีรอมมี
2 ประเภท
- มาตรฐานฟอร์แ มตทางกายภาพ ที่
เกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล
ลงบนซีดีรอม เช่น มาตรฐานสมุดแดง
มาตรฐานสมุดเหลือง
สถาปัตยกรรมซีดีรอมแบบขยาย
ข้อ ดีข องซีด ีร อม
* มีความถูกมากเมือเทียบกับสื่อบันทึกข้อมูลชนิด
่
อื่น
* ข้อมูลสามารถเก็บไว้นานมาก
* มีขนาดเล็ก ีร อม
ข้อ จำา กัด ของซีดนำ้าหนักเบา สะดวกในการจัดส่ง
และประหยัดค่าขนส่ง ยได้เร็ว เพราะไม่สามารถ
* ข้อมูลอาจล้าสมั
ปรับปรุงได้ เนื่องจาก
บันทึกได้เพียงครั้งเดียว
* การอ่านข้อมูลจากซีดีรอมจะค่อนข้างช้ามาก
เมื่อเทียบ
กับสือบันทึกอื่น
่
* ค่าวัสดุซำ้าหรือการผลิตจำานวนน้อยจะทำาให้
แนวคิด ในการจัด ทำา มัล ติม เ ดีย บนซีด ีร อม ควร
ี
คำานึงถึงในเรื่องต่อไปนี้
* ใช้เวลาและแรงงานมากในการจัดทำา
* สามารถใช้ในคอมพิวเตอร์ได้หลายแพลตฟอร์ม
* เหมาะกับงานทีมขนาดใหญ่ 200 เมกะไบต์
่ ี
ขึ้นไป
* อายุการใช้งานเฉลี่ยนานกว่าสื่อบันทึกชนิดอื่น
* มันใจได้ว่าคอมพิวเตอร์โดยทัวไปสามารถอ่าน
่
่
ข้อมูลได้
จึงเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้จำานวนมาก
การใช้ม ล ติม เ ดีย บนอิน เทอร์เ น็ต
ั
ี
* อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาด
ใหญ่ทต่อเชื่อม
ี่
คอมพิวเตอร์จำานวนมาก
* อินเทอร์เน็ตเป็นทีนยมอย่างแพร่หลาย เพราะ
่ ิ
เวิลด์ไวด์เว็บซึ่งเป็น
เครื่องมือประเภทไฮเปอร์เท็กซ์
* ทีมการนำาข้อความมาต่อเชื่อมโยงกันเป็นทอดๆ
่ ี
โดยใช้คำาหลัก
ทีถูกเน้นให้เห็นเป็นพิเศษ
่
* ในเวิลด์ไวด์เว็บ จะใช้โปรแกรมหรือเบราเซอร์
ประยุกต์ในการ
เรียกข้อมูลได้จริงมีประสิทธิภาพ
แนวคิด ในการจัด ทำา มัล ติม เ ดีย บนอิน เทอร์เ น็ต
ี
มาตรฐานใหม่ท ก ำา ลัง พัฒ นาอยู่ มีข ้อ ควร
ี่
พิจ ารณาเพิม เติม คือ
่
* อินเทอร์เน็ตเป็นระบบสารสนเทศ ดังนั้นจึงควร
บรรจุข้อมูล
ให้มากที่สด และควรเป็นข้อมูลทีมเนือหาสาระ
ุ
่ ี ้
สำาคัญเท่านั้น
* การออกแบบโฮมเพจต้องดึงดูดความสนใจจาก
ผู้ใช้
* โฮมเพจต้องมีทกอย่างทีจำาเป็นสำาหรับผู้ใช้ที่
ุ
่
ต้องการเข้าถึงข้อมูล
* ออกแบบเว็บเพจให้เรียบง่ายแต่น่าสนใจ
Multimedia3

Multimedia3

  • 2.
    เป็นการผสมผสานส่วนประกอบย่อยต่างๆ ทีประกอบ ่ ด้วยข้อความ เสียงภาพ ภาพเคลื่อนไหว และวีดิทศน์เข้าด้วยกัน โดยใช้เทคนิค ั องค์ป ระกอบของมัล ติม เ ดีย ที่ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ี สมบูร ณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ทำาหน้าทีเป็นสื่อกลางให้ผู้ใช้ได้เห็นได้ยิน ่ และมีปฏิสัมพันธ์ การเชือมโยงส่วนประกอบย่อยต่างๆ เพือให้เกิดโครงสร้าง ่ ่ และมิติของข้อมูล การนำาทางเพือให้ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะอ่าน หรือดูส่วนหนึงส่วนใ ่ ่ การสือสารระหว่างผู้ใช้มลติมเดีย ่ ั ี
  • 3.
    1. ขั้น ตอนการจัดทำา มัล ติม เ ดีย ี 1.1 วางแผนและวิเคราะห์ต้นทุนในการจัดทำา 1.2 จัดเตรียมเนือหาสาระที่จำาเป็นและสำาคัญ ้ 1.3 ออกแบบและจัดทำาโดยคำานึงถึงโครงสร้างทีต้องการ ่ 1.4 ทดสอบและส่งมอบ
  • 4.
    1. เครื่องคอมพิวเตอร์ 2. อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ 3. อินเทอร์เฟซสำาหรับการต่อเชื่อมอุปกรณ์ ต่อพ่วง เข้ากับคอมพิวเตอร์ 4. หน่วยความจำาและเครื่องบันทึกข้อมูล
  • 5.
    ลยีซ อฟต์แ วร์ของมัล ติม เ ดีย ได้แ ก่ ี . โปรแกรมเครื่องมือพืนฐาน ใช้สร้างส่วนประกอบย่อยของมัลติม ้ เช่น ข้อความ ภาพกราฟิก เสียง ภาพวีดิทศน์ ภาพยนตร์ดิจิต ั . โปรแกรมระบบงานมัลติมเดีย ใช้กำาหนดกรอบการทำางานรวบร ี จัดการและแก้ไขส่วนประกอบย่อยของมัลติมเดีย ซึ่งมีด้วยกัน ี 3 ประเภท คือ 2.1 โปรแกรมทีอิงหนังสือ ใช้รวบรวมส่วนประกอบย่อยของม ่ เสมือนหน้าของหนังสือ 2.2 โปรแกรมทีอิงตามไอคอน ใช้รวบรวมส่วนประกอบย่อยเ ่ อ็อปเจ็กต์หรือไอคอนทีเชื่อมโยงกันไปตามตรรกะทีวางไว้ ่ ่ 2.3 โปรแกรมทีอิงตามเวลา ใช้รวบรวมส่วนประกอบย่อยแล ่ ไปตามเส้นของเวลาซึงแบ่งเป็นช่วงสั้น ๆ ่
  • 6.
    ามารถแก้ไขปรับแต่งส่วนประกอบย่อยของมัลติมเดีย เก็บได้ง่าย ี ดวกและรวดเร็ว ามารถใช้ในการรวบรวมจัดการ ออกแบบและกำาหนดกระบวนการ นงานมัลติมีเดีย ช้ในการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างงานมัลติมเดียได้ ี ช้เป็นเครื่องมือสร้างส่วนของการปฏิสัมพันธ์ได้ วยในการปรับแต่งการใช้งานมัลติมเดียในหลายๆ แบบ ี ามารถทำาให้มลติมเดียเล่นย้อนกลับได้ตามต้องการ ั ี ามารถนำาเสนองานมัลติมเดียให้ผู้ใช้นำาไปใช้งานได้โดย ี ม่ต้องมีตัวโปรแกรมสร้างงานมัลติมีเดียอยู่ด้วย
  • 7.
    วาม ต้องให้สื่อความหมายตรงกับความต้องการ การเลือกขนาด และฟอนท์ เทคโนโลยีการสร้า งฟอนท์ * บิตแม็บ ใช้หน่วยความจำามากมีข้อจำากัดในเรื่องของคว * โพสต์สคริปต์ ใช้หลักการของเรขาคณิตและสูตรทางคณ * ทรูโทป์ ทำางานได้เร็วกว่าบิตแม็บ 2.1 ประเภทของเสีย งในมัล ติม เ ดีย ี * เสียงมิดิ ได้จากการสังเคราะห์ด้านมาตราฐานมิติ ใช้เ ในการจัดเก็บ เล่นย้อนกลับได้ไม่ดี * เสียงดิจิทล เป็นเสียงทีได้จากการสุ่มค่าในทุก ๆ เสียวว ั ่ ้ และถูกจัดเก็บในรูปของบิตและไบต์ ใช้เนื้อทีมากในการ ่ แต่สามารถเล่นย้อนกลับได้ดกว่า ี
  • 8.
    2.2 ข้อ พิจารณาการใช้เ สีย งในงานมัล ติม เ ดีย ี * เลือกเสียงที่ต้องการ * ปรับแต่งเสียงให้เข้ากับงาน * จัดหาเสียงทีจะใช้โดยการสร้างเองหรือใช้เสียงที่มลิข ่ ี * เลือกตำาแหน่งและเวลาที่จะใช้เสียงมิดิหรือดิจิทล ั * ทดสอบให้แน่ใจว่าเสียงได้ถูกใช้ ถูกต้อง ถูกทีและ ่ ถูกเวลา
  • 9.
    3. ภาพ 3.1 เทคโนโลยีการสร้า งภาพ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ * ภาพบิตแม็บ เกิดจากจุดมากมายใน ตารางเมทริกซ์ ที่เป็นความละเอียดของจอภาพ คอมพิวเตอร์ * ภาพเวคเตอร์ดรอว์น เป็นภาพทีสร้าง ่ โดยสูตรคณิตศาสตร์ เช่น รูปเหลี่ยม วงกลม * ภาพ 3 มิติ เป็นภาพทีสร้างโดยใช้จุด ่ นำาสายตาบนพื้นผิว 2 มิติ ให้เกิดความลึกเห็นเป็นภาพ 3 มิติ
  • 10.
    าพเคลื่อ นไหว 4.1 เทคนิคการทำา ภาพเคลื่อ นไหว * การทำาภาพเคลื่อนไหวโดยใช้แผ่นเซล เป็นการวาดภาพ ลงบนแผ่นเซลและกำาหนดเฟรมหรือภาพหลัก ซึงเป็นภาพ ่ และภาพสุดท้ายของอาการเคลื่อนไหว และการสร้างภาพ ระหว่างคียเฟรม เรียกว่าการทวีนนิงลงหมึก ใช้โปรแกรม ์ ่ สร้างภาพต่าง ๆ ตั้งแต่คีย์เฟรม การทำาคลีนนิ่ง การทำาภา การลงหมึก และระบายสีี 4.2 ฟอร์แ มตต่า ง ๆ ของแฟ้ม ข้อ มูล เคลื่อ นไหว เช่น M FTI FFC PICS และ AVI
  • 11.
    5. วีด ิทศ น์ ั 5.1 มาตรฐานของวีด ท ัศ น์ข องโทรทัศ น์ ิ ทีนิยมใช้มี 3 แบบ คือ ่ * NTSC ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ * PAL ใช้ในประเทศอังกฤษ ยุโรป ออสเตรเลีย อัฟริกาใต้ และประเทศไทย * SECAM ใช้ในประเทศฝรั่งเศษ รัสเซีย และอีกบางประเทศ * HDTV มาตรฐานใหม่ทกำาลัง ี่ พัฒนาอยู่
  • 12.
    5.2 ข้อ แตกต่างระหว่า งวีด ิท ศ น์โ ทรทัศ น์ก ับ วีด ิ ั ทัศ น์ค อมพิว เตอร์ * การนำาภาพวีดทัศน์โทรทัศน์ซงเป็นแอนะ ิ ึ่ ล็อกไปแสดงบนจอ คอมพิวเตอร์ที่เป็นดิจิทัลจะต้องมีอุปกรณ์วีดิโอ โอเวอร์เลย์บอร์ด เปลี่ยนสัญญาณ * การกราดภาพวีดิทศน์บนจอโทรทัศน์เป็น ั แบบโอเวอร์สแกน แต่การ กราดภาพวีดิทัศน์บนจอภาพคอมพิวเตอร์ เป็นแบบอันเดอร์สแกน * สีของวีดิทศน์คอมพิวเตอร์สวยชัดกว่า ั * การกราดภาพบนจอคอมพิวเตอร์เป็นแบบ กราดหนึงเฟรมในหนึงรอบ ่ ่ การกราดภาพบนจอโทรทัศน์เป็นแบบ หนึงเฟรมในสองรอบ หรือ ่
  • 13.
    ข้อ แนะนำา ในการถ่ายภาพวีด ิท ศ น์ ั * ต้องคำานึงถึงความนิงของกล้อง ่ * แสงต้องมีเพียงพอเพือความคมชัดของภาพ ่ * ฉากหลังในการถ่ายควรเป็นสีฟา เพือให้สามารถนำาภาพ ้ ่ ไปซ้อนกับภาพฉากที่สกรีนใหม่ได้ * การจัดองค์ประกอบไม่ให้กระจัดกระจาย 5.4 การบีบ อัด ภาพวีด ิท ศ น์ มาตรฐานที่นยม ั ิ ใช้ คือ * JPEG บีบอัดข้อมูลภาพนิง อัตราส่วน ่ 20:1 * MPEG บีบอัดข้อมูลภาพเคลื่อนไหว ใน อัตราส่วน 30:1 * DVI บีบอัดข้อมูลภาพวีดิทศน์เฉพาะ ั
  • 14.
    ษณะของการประยุก ต์ม ลติม เ ดีย ในงานธุร กิจ ั ี 1. การนำา เสนองาน * จัดเตรียมเนื้อหาสาระและจัดพิมพ์ข้อความลงในสไล * เตรียมภาพหรือแผนภูมิหรือภาพประกอบ * ในกรณีทมเสียงประกอบ ควรจัดตามความเหมา ี่ ี ไม่พรำ่าเพรื่อ * นำาเสนอโดยอธิบายไปทีละแผ่น
  • 15.
    ประโยชน์ข องการนำา เสนองานด้วยมัล ติม เ ดีย ี * * * * ดูทนสมัย ั เรียกความสนใจและดูตื่นเต้นเร้าใจมากกว่า สามารถแก้ไขปรับปรุงงานได้สะดวก รวดเร็ว สามารถนำาเสนองานทีเป็นเสียง ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไห ่ ภาพวีดทัศน์ได้ดีกว่า ิ
  • 16.
    ข้อ จำา กัดของการนำา เสนองาน ของมัล ติม เ ดีย ี * ต้องใช้อุปกรณ์ ระบบมากกว่า * ต้องใช้ความรู้ ความสามารถในการทำาและนำาเสนอมากกว่า * ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง
  • 17.
    2. การฝึก อบรม มักจะทำาเป็นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(CAI)เน้นการเรียนรู้และทดสอบ วัดผล หรือทำาเป็นคอมพิวเตอร์ช่วยฝึกสอน(CBT) เน้นการเรียนรู้ ฝึกปฏิบ และทดสอบวัดผล โยชน์ เนือหาคงทีคล้ายหนังสือไม่ขึ้นกับผู้ฝึกอบรม ้ ่ สามารถฝึกอบรมได้ไม่จำากัดจำานวนผู้ฝึกอบรมขึ้นอยูกับจำานวน ่ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สามารถฝึกอบรมได้ตามสะดวกทังเวลาและสถานที่ ้ สามารถฝึกทบทวนได้ตามต้องการ สามารถเห็นทังภาพได้ยินทังเสียง และลงมือสัมผัสใกล้เคียง ้ ้ กับความจริงทีสด ่ ุ
  • 18.
    ข้อ จำา กัด *ต้องคอยปรับปรุงเนื้อหาให้ ทันสมัย * ต้องใช้เวลาและทรัพยากร ต่างๆ 3. การตลาด * ต้องมีฮาร์ดแวร์และ * ขยายช่องทางการตลาดโดยใช้มลติมเดียผ่านอินเตอร์เน็ต ั ี ซอฟต์แวร์ * ส่งเสริมการตลาดโดยผ่านสื่อมัลติมเดีย ี
  • 19.
    ประโยชน์ * ดูทนสมัย ั * ตอบสนองความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึง ข้อมูลของผู้ซื้อ *ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการส่งข้อมูล แก่ผู้สนใจ * สามารถเพิมช่องทางการตลาดสมัยใหม่ ่ ข้อ จำา กัด * สามารถสืHardware และ ้สนใจได้ดีกว่า ่ * ต้องใช้ อความหมายกับผู Software แบบที* ม่ต้องมีผู้ดูแดียบผิดชอบส่วนมัลติมเดีย ไ ใช้มลติมเ ลรั ่ ั ี ี โดยเฉพาะ * ต้องคอยปรับปรุงข้อมูลข่าวสารให้ทน ั สมัยอยูเสมอ ่
  • 20.
    * ซีดีรอมเป็นสือบันทึกข้อมูลแบบแสงของวัสดุจำาพวก ่ โพลิอาร์บอเนต ฉาบด้วยอลูมเนียมด้านบนและเคลือบผิวด้วย ิ แลคเกอร์ มีความจุสูง เคลื่อนย้ายไปมาได้ *มาตรฐานแฟ้มข้อมูลฟอร์แมตต่าง ๆ ของซีดีรอมมี 2 ประเภท - มาตรฐานฟอร์แ มตทางกายภาพ ที่ เกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล ลงบนซีดีรอม เช่น มาตรฐานสมุดแดง มาตรฐานสมุดเหลือง สถาปัตยกรรมซีดีรอมแบบขยาย
  • 21.
    ข้อ ดีข องซีดีร อม * มีความถูกมากเมือเทียบกับสื่อบันทึกข้อมูลชนิด ่ อื่น * ข้อมูลสามารถเก็บไว้นานมาก * มีขนาดเล็ก ีร อม ข้อ จำา กัด ของซีดนำ้าหนักเบา สะดวกในการจัดส่ง และประหยัดค่าขนส่ง ยได้เร็ว เพราะไม่สามารถ * ข้อมูลอาจล้าสมั ปรับปรุงได้ เนื่องจาก บันทึกได้เพียงครั้งเดียว * การอ่านข้อมูลจากซีดีรอมจะค่อนข้างช้ามาก เมื่อเทียบ กับสือบันทึกอื่น ่ * ค่าวัสดุซำ้าหรือการผลิตจำานวนน้อยจะทำาให้
  • 22.
    แนวคิด ในการจัด ทำามัล ติม เ ดีย บนซีด ีร อม ควร ี คำานึงถึงในเรื่องต่อไปนี้ * ใช้เวลาและแรงงานมากในการจัดทำา * สามารถใช้ในคอมพิวเตอร์ได้หลายแพลตฟอร์ม * เหมาะกับงานทีมขนาดใหญ่ 200 เมกะไบต์ ่ ี ขึ้นไป * อายุการใช้งานเฉลี่ยนานกว่าสื่อบันทึกชนิดอื่น * มันใจได้ว่าคอมพิวเตอร์โดยทัวไปสามารถอ่าน ่ ่ ข้อมูลได้ จึงเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้จำานวนมาก
  • 23.
    การใช้ม ล ติมเ ดีย บนอิน เทอร์เ น็ต ั ี * อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาด ใหญ่ทต่อเชื่อม ี่ คอมพิวเตอร์จำานวนมาก * อินเทอร์เน็ตเป็นทีนยมอย่างแพร่หลาย เพราะ ่ ิ เวิลด์ไวด์เว็บซึ่งเป็น เครื่องมือประเภทไฮเปอร์เท็กซ์ * ทีมการนำาข้อความมาต่อเชื่อมโยงกันเป็นทอดๆ ่ ี โดยใช้คำาหลัก ทีถูกเน้นให้เห็นเป็นพิเศษ ่ * ในเวิลด์ไวด์เว็บ จะใช้โปรแกรมหรือเบราเซอร์ ประยุกต์ในการ เรียกข้อมูลได้จริงมีประสิทธิภาพ
  • 24.
    แนวคิด ในการจัด ทำามัล ติม เ ดีย บนอิน เทอร์เ น็ต ี มาตรฐานใหม่ท ก ำา ลัง พัฒ นาอยู่ มีข ้อ ควร ี่ พิจ ารณาเพิม เติม คือ ่ * อินเทอร์เน็ตเป็นระบบสารสนเทศ ดังนั้นจึงควร บรรจุข้อมูล ให้มากที่สด และควรเป็นข้อมูลทีมเนือหาสาระ ุ ่ ี ้ สำาคัญเท่านั้น * การออกแบบโฮมเพจต้องดึงดูดความสนใจจาก ผู้ใช้ * โฮมเพจต้องมีทกอย่างทีจำาเป็นสำาหรับผู้ใช้ที่ ุ ่ ต้องการเข้าถึงข้อมูล * ออกแบบเว็บเพจให้เรียบง่ายแต่น่าสนใจ