More Related Content
Similar to Final project-614-no.6-no.16
Similar to Final project-614-no.6-no.16 (20)
Final project-614-no.6-no.16
- 2. Menu (สารบัญ)
• ที่มาและความสาคัญ
• วัตถุประสงค์ • ผลที่คาดว่าจะได้รับ
• ปัญหาเด็กไม่กินผักของเด็กไทย • สาเหตุ • วิธีที่จะช่วยให้เด็ดรับประทานผักมากขึ้น
• การศึกษาวิจัย • การสารวจเชิงสถิติ • เรียนรู้ว่าลูกชอบผักชนิดไหน
• ประโยชน์ของผักผลไม้5สี • ประโยชน์ของผักผลไม้สีเขียว
• ประโยชน์ของผักผลไม้สีแดง • ประโยชน์ของผักผลไม้สีเหลืองและส้ม
• ประโยชน์ของผักผลไม้สีม่วงและม่วงอมน้าเงิน
• ประโยชน์ของผักผลไม้สีขาวจนถึงน้าตาลอ่อน
• อันตรายจากการไม่กินผัก : เป็นรอยช้าง่าย • ท้องผูกบ่อยๆ • หิวบ่อยในระหว่างวัน • น้าหนักขึ้น
• ป่วยง่าย • ตัวอย่างเมนูอาหาร • วิดีโอนิทานน้องเป็ดอินดี้
- 3. เนื่องจากเด็กไทยในปัจจุบันมักไม่ค่อยชอบที่จะรับประทานผัก รับประทานผักยาก บางคนก็ไม่รับประทานเลย
รวมไปถึงเจ้าของโครงงานด้วยที่ไม่ค่อยชอบรับประทานผัก ซึ่งการไม่รับประทานผักนั้นไม่ถือเป็นผลดีแต่อย่างใด จะทาให้
ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน บางครั้งอาจทาให้ขับถ่ายยาก ท้องผูก โดยเฉพาะในเด็กเล็กและพ่อแม่ผู้ปกครองของ
บางบ้านก็ไม่รู้จะทาอย่างไรดีให้ลูกๆเด็กๆหันมารับประทานผัก จึงตัดสินใจทาโครงงานของเรื่องนี้ขึ้นมา การรับประทานผักมี
ความสาคัญอย่างมาก เพราะถ้าหากไม่รับประทานผักนั้น จะทาให้เด็กไทยป่วยได้ง่าย เพราะปัจจุบันคนไทย หรือเด็กไทย
รับประทานผักเฉลี่ยวันละประมาณ 186 กรัมต่อวันเท่านั้น ขณะที่องค์การอนามัยโลกแนะนาให้ผู้บริโภครับประทานผัก
ผลไม้วันละประมาณ 400 กรัม ซึ่งเท่ากับว่าคนไทยบริโภคผักผลไม้เพียงประมาณหนึ่งใน สามของที่ควรจะได้รับเท่านั้น ซึ่ง
ผักนั้นทาให้เราได้รับ วิตามินและเกลือแร่ และนอกจากนั้นเรายังจะได้ รับเส้นใย อาหารที่ช่วยจับไขมันและสารพิษต่างๆ ที่
เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงเช่น มะเร็ง ออกไปจากร่างกาย จึงตัดสินใจทาโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อให้คนในสังคมมีทางเลือกใน
การรับประทานผักมาก
- 6. ปัญหาเด็กไม่กินผักเป็นปัญหาใหญ่ของเด็กไทยจานวนมาก ทางสานักโภชนาการกระทรวง
สาธารณสุขออกมาเปิดเผยว่า เด็กไทยกว่า 90% กินผักผลไม้น้อย โดยทาการสารวจสุขภาพ
ประชาชนไทยด้านโภชนาการ ปี 2551-2552 พบว่ากลุ่มเด็กอายุ 6-14 ปี มีเพียงร้อยละ 6.8
หรือ 3 แสนคนเท่านั้นที่กินผักผลไม้ ได้ตามเกณฑ์ และนั่นหมายความว่า เด็กยิ่งเล็กยิ่งบริโภคผัก
น้อยลงไปอีก พ่อแม่ ผู้ปกครองหรือคนในครอบครัว มีบทบาทสาคัญในการส่งเสริมให้ลูกกินผักและ
ผลไม้ ดังนั้นจึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารของตัวเองและครอบครัวให้ได้ก่อน จากนั้นก็
เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ในการปลูกฝังและฝึกฝนให้ลูกได้กินผักและผลไม้ที่หลากหลายตั้งแต่วัยทารก ก็
จะส่งผลให้ลูกสามารถกินผักและผลไม้ได้หลากหลายเมื่อโตขึ้น ยิ่งขึ้น
ปัญหาเด็กไม่กินผักของเด็กไทย
- 7. ผลการวิจัยจากโกลบอลไฟโตนิวเทรียนท์ พบ 3 ใน 4 ของประชากรกลุ่ม ผู้ใหญ่จากทั่วโลก
รับประทานผักและ ผลไม้ต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐานเกิน 1 เท่าตัว ค้านกระแสสุขภาพดีมาแรง ผู้เชี่ยวชาญ
แนะเพิ่มปริมาณและสีสัน ผักผลไม้ต่อวันเพื่อสุขภาพแข็งแรง รองศาสตราจารย์ ‘ดร.สิริชัย อดิศักดิ์วัฒนา’
คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า“ประเทศไทยมีการสารวจสถิติการรับประทานผัก
และผลไม้ ในช่วง พ.ศ. 2550-2554 โดยปริมาณการรับประทานผักและผลไม้ที่แนะนาในแต่ละวันคือ
400 กรัมต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก (WHO) แต่พบว่า ประชากรไทย
ร้อยละ 70 ของกลุ่มประชากรที่สารวจ มีการรับประทานผักและผลไม้น้อยกว่าปริมาณที่แนะนาในแต่ละ
วัน ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีผักที่รับประทานได้ถึง 330 ชนิด รวมทั้งผักพื้นบ้านด้วย สาเหตุที่คนไทย
รับประทานผักและผลไม้ต่ากว่าเกณฑ์เกิดจากสภาพสังคมไทย ในปัจจุบัน ซึ่งปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
เวลาส่วนใหญ่มักอยู่กับการทางานและมีเวลาค่อนข้างจากัด รวมถึงการเลือกชนิดของอาหาร และอาหาร
จานด่วนส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของผักและผลไม้ค่อนข้างน้อย ประชาชนทั่วไปจึงสะดวก ในการเลือก
ซื้ออาหารประเภทดังกล่าวมากกว่าคานึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการรับประทานอาหารที่มีผักและ
ผลไม้ที่เป็นองค์ประกอบหลัก
ปัญหาเด็กไม่กินผักของเด็กไทย
- 8. ใครๆก็ทราบดีว่าผักและผลไม้นั้นมีประโยชน์ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินมากมาย ซึ่ง
นอกจากแร่ธาตุที่กล่าวไปแล้ว ผักและผลไม้ยังจัดว่าเป็นอาหารที่มีสารอาหารในกลุ่ม ไฟโตนิว
เทรียนท์สูง ซึ่งไฟโตนิวเทรียนท์ หรือเรียกแบบไทยๆว่า สารพฤกษาเคมี คือ สารอาหารที่ร่างกาย
สร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากพืชเท่านั้น โดยเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความ
เสื่อม กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยป้ องกันการติดเชื้อและการเกิดโรคต่างๆได้มากมาย จากการ
ศึกษาวิจัยมากมายพบว่าในผักผลไม้แต่ละสี จะมีปริมาณและชนิดของไฟโตนิวเทรียนท์ที่มี
ประโยชน์ต่างกันไป ดังนั้นการที่จะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและหลากหลาย จะแนะนาให้
ทานผักและผลไม้หลากสีให้ได้ในปริมาณ 400-500 กรัมต่อวัน
การศึกษาวิจัย
- 9. ซึ่งจากการสารวจเชิงสถิติในประเทศไทย คนไทยร้อยละ 80 ทานผักและผลไม้
เพียง 276 กรัมต่อคนต่อวันเท่านั้น และด้วยสภาพอากาศ และการเก็บรักษาหลังการ
เก็บเกี่ยว ทาให้ปริมาณสารอาหารในผักและผลไม้สูญเสียไปมากว่า 20% จึงเป็นเหตุผล
นึงที่ทาให้คนไทยป่วยเป็นโรคต่างๆเพิ่มมากขึ้น
การสารวจเชิงสถิติ
- 11. สีเขียวในผักและผลไม้มาจากเม็ดสีของสารที่มีชื่อว่า คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) โดย
จะมีตั้งแต่เขียวเข้มจัด ได้แก่ คะน้า สาหร่ายบางชนิด ตาลึง ผักใบเขียวต่างๆ และสีเขียวแบบทั่วไป
เช่น แอปเปิ้ลเขียว ฝรั่ง ผักกาด ซึ่งในผักสีเขียวที่มี คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) นี้เต็มไปด้วย
สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็ง ทาให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ช่วยยับยั้งการเกิด
ริ้วรอย นอกจากนี้การทานผักใบเขียวเป็นประจาจะช่วยให้การขับถ่ายดี ลดอากาท้องผูก เนื่องจาก
ผักเหล่านี้มีกากใยสูงมีส่วนช่วยในการลดน้าหนัก เนื่องจากให้พลังงานต่า
- 12. สารสีแดงในผักและผลไม้ที่มีสีแดงคือ ไลโคปีน (Cycopene) และ เบตาไซซีน
(Betacycin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนสาคัญในการช่วยป้ องกันการเกิดมะเร็งตามอวัยวะ
ต่างๆในร่างกาย แต่จะเด่นที่สุดคือช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก รองลงมาคือ
มะเร็งปอด และมะเร็งที่กระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังมีประโยชน์เรื่องผิวพรรณ ลดการเกิดสิวและ
ทาให้รอยแผลเป็นจางลงได้อีกด้วย ผักและผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีแดงได้แก่ มะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่ บีท
รูท เชอรี่ แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู และกระเจี๊ยบแดง
- 13. ผักและผลไม้ที่สีเขียวอ่อนและสีเหลืองจะมีสารที่ชื่อว่า ลูทีน (Lutein) อยู่มาก ซึ่งมี
ประโยชน์โดยตรงกับดวงตา ช่วยป้ องกันและชะลอความเสื่อมของจอประสาทตาในผู้ใหญ่ และมี
ส่วนช่วยในการพัฒนา การมองเห็นในเด็กเล็กได้อีกด้วย สาหรับผักและผลไม้ที่มีสีส้ม จะมีสารเบต้า
แคโรทีน (Betacarotene) ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล,ไขมันในเส้นเลือด ช่วยให้ผิวพรรณ
สดใส รักษาความชุ่มชื่นให้ผิว ลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ช่วยส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกัน
ซึ่งผักและผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีเหลืองและส้มได้แก่ ส้ม แครอท มะละกอ มะนาว สับปะรด ฟักทอง
มันเทศ ขนุน เสาวรส และ ข้าวโพด
- 15. จะเป็นผักและผลไม้ที่มีสารอาหารที่เรียกว่า แซนโทน (Xanthone) ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม
ฟลาโวนอยด์ ช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยรักษาระดับน้าตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีสารอื่นๆที่
ประกอบด้วย กรดไซแนปติก (Synaptic acid) และ อัลลิซิน (Allicin) โดยสารเหล่านี้มีฤทธิ์ในการ
ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยป้ องกันโรคความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดหัวใจได้ ผักและ
ผลไม้ที่มีสีขาวจนถึงน้าตาลอ่อนได้แก่ ขิง ข่า กระเทียม กุยช่าย ขึ้นช่าย เซเลอรี่ เห็ด ลูกเดือย หัวไชเท้า
ถั่วเหลือง ดอกกะหล่า ถั่วงอก และงาขาว ส่วนผลไม้ก็ได้แก่ กล้วย สาลี่ พุทรา ลางสาด ลองกอง ลิ้นจี่
ละมุด แห้ว เป็นต้น
- 23. 2. เริ่มต้นอาหารเสริมด้วยผักผลไม้ การเริ่มต้นอาหารเสริมในวัย 6-
12 เดือน ส่งผลอย่างมากต่อนิสัยการกินของเด็ก เพราะหลังจาก 12 เดือน
เป็นต้นไป เด็กจะมีนิสัยเลือกกินมากขึ้น และก็ยากพอสมควรที่จะให้ลูกเริ่ม
กินผักผลไม้ในช่วงนี้ช่วง 6-12 เดือน ควรจะเริ่มจากผัก ผลไม้ที่มีรสชาติและ
สัมผัสที่หลากหลายจะทาให้เด็กคุ้นเคยกับความแตกต่าง อาจจะเป็นแบบนึ่ง
หรือบดโดยไม่ต้องเติมรสชาติใดๆทั้งสิน
- 27. เรียนรู้ว่าลูกชอบผักชนิดไหน ชอบรับประทานแบบไหน
1. รู้ทันลูกแบบที่ยอมกินผัก หากลูกเกลียดผักผลไม้ ผู้ปกครองควรจะหา
สาเหตุก่อนว่าเพราะอะไร เพราะเด็กแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันไป บางคนไม่ชอบ
กลิ่น บางคนไม่ชอบรสชาติ บางคนไม่ชอบสัมผัส บางคนไม่ชอบสิ่งที่เห็น หากรู้ตรงจุดก็
จะสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น หากลูกไม่ชอบผักใบเขียวและผักรสชาติขม ก็
อาจผสมผักเหล่านี้ไปเมนูอื่นๆ เช่น การปั่น ทาเป็นแฮมเบิร์ก หรือ ถ้าลูกไม่ชอบกินผัก
แหยะๆก็ลองเอาไปทอดหรืออบกรอบ
- 28. 2. ใช้นิสัยลูกช่วยให้ยอมกินผัก นิสัยของเด็กแต่ละคนต่างกัน เด็กบางคนบ้ายอ ชอบให้มี
คนมาชม ถ้าเด็กชอบให้ชมผู้ปกครองก็ช่วยให้เด็กรับประทานผักด้วยการชม หรือเด็กบางคนก็เจ้า
หลักการ ผู้ปกครองอาจจะอธิบายว่าผักแต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างไร เพื่อให้ลูกลองชิมดู
เรียนรู้ว่าลูกชอบผักชนิดไหน ชอบรับประทานแบบไหน
- 34. ตัวอย่างเมนูอาหารที่จะทาให้เด็กๆ
รับประทานผักได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
สเต็กดอกไม้
ส่วนผสม : ไก่สับ หอมหัวใหญ่สับ แครอทสับ ไข่ไก่
ซีอิ๊วขาว เกลือป่น หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า แครอทหั่นเต๋า
เห็ดฟาง ซอสมะเขือเทศ
ขั้นตอน 1. หมักไก่ประมาณ 30 นาที ทาเป็นรูปดอกไม้แล้วแช่
ตู้เย็นไว้ให้เซตตัว เวลาเอามาลงจี่บนกระทะจะได้ไม่เสียทรง
2. ผัดหอมใหญ่กับแครอทให้สุก ใส่เห็ดลงไป เมื่อเห็ดสุกก็ใส่
ซอสมะเขือเทศลงไปเลย (ปริมาณแล้วแต่ชอบ) คนให้เข้ากัน
3.นาไก่หมักมาจี่บนกระทะ ใส่น้ามันนิดเดียว ประมาณ 1 ช้อน
โต๊ะ ทาอาหารให้เด็กใช้เทฟลอนก็ดี จะได้ไม่ต้องใช้น้ามันเยอะ
4. ทอดไข่ขาวให้เป็นวงกลม (ใช้ที่ตัดรูปวงกลมมาทอดไข่ดาว)
นาไข่ดาววางบนเนื้อไก่ ราดซอสลงไป ตกแต่งตามใจ