More Related Content
More from Panpreeya Kawturn
More from Panpreeya Kawturn (6)
คอมคู่
- 4. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ปัจจุบันมีขั้นตอน วิธีการรักษาดูแลสุขภาพอย่างมากมายขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน การดูแลสุขภาพนั้น
ไม่ใช่เรื่องยากอยู่ที่ความสนใจ ใส่ใจของตัวเราว่ามีมากแค่ไหน การดูแลสุขภาพเรื่องที่ง่ายและ ใกล้ตัวคือเรื่องของการเลือก
รับประทานอาหาร เนื่องจากในแต่ละวันร่างกายต้องการสารอาหารที่อยู่ในอาหารต่างๆเพื่อสุขภาพที่ดี เราจึงจาเป็นต้องเลือก
รับประทานอาหารให้เหมาะสม มีประโยชน์และมีคุณค่า ในการรับประทานอาหารนั้นเราควรจะรู้ถึงคุณประโยชน์ โทษ ของ
สิ่งที่เราจะรับประทาน เช่น ในการรับประทานผักผลไม้ซึ่งถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก ควรรับประทานให้ได้ทุกประเภท ทุกสี
เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ มีสุขภาพที่ดี ผักผลไม้นั้นจะประกอบไปด้วย 5 สี คือ สีแดง สีม่วงหรือสีน้าเงิน สีส้มหรือสี
เหลือง สีเขียว และสีขาว ซึ่งในแต่ละสีก็จะให้คุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป เช่น สีแดง จะมีคุณสมบัติช่วยต้านการเกิดอนุมูล
อิสระ ทาให้อนุมูลของเซลล์ในร่างกายมีอนุภาคเป็นกลาง ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย สีม่วงหรือสีน้าเงิน จะมี
สารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระทาให้เซลล์บุผนังหลอดเลือดมีความอ่อนนิ่ม ชะลอการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด สีขาว มี
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง สีส้มหรือสีเหลือง จะช่วยป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร ช่วยป้องกัน
การเกิดอนุมูลอิสระสาเหตุของการเกิดมะเร็ง สีเขียว จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นจุดรับภาพเสื่อม จากการกล่าวข้างต้นนั้น
ถือได้ว่าคุณประโยชน์ของผักต่างๆมีไม่ใช่น้อยและแต่ละสีก็แตกต่างกันไป เราจึงควรกินผักผลไม้ให้ได้ทุกสี ทุกประเภท ดัง
ที่ว่าผักผลไม้สีรุ้ง เพื่อสุขภาพที่ดี
- 6. หลักการและทฤษฎี
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็น
โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือ
หน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือ
ว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียน
เข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนใน
วิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อ
การศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปร
ต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญของประเทศไทย
- 7. หลักความรู้เกี่ยวกับผลไม้
เป็นที่ทราบกันดีว่าผักและผลไม้นั้นมีประโยชน์มากมายมหาศาล เพราะเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุ
หลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีคุณสมบัติของการเป็นแหล่งใยอาหาร ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการดูดซึมของ
คอเลสเตอรอลและไขมัน และยังช่วยทาให้ระบบการย่อย ระบบการขับถ่ายทางานได้อย่างปกติอีกด้วย นอกจากนี้ผัก
และผลไม้บางชนิดยังมีสารพิเศษที่ช่วยทาหน้าที่คล้ายยาป้ องกันและรักษาโรคบางชนิด จากการสารวจสุขภาพของ
ประชาชนชาวไทย เมื่อปี พ.ศ.2551-2552 ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ผู้หญิงไทยเพียง 18.5% ที่รับประทานผัก
และผลไม้ได้ตามเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกาหนด ซึ่งกาหนดให้รับประทานผักผลไม้วันละ 400-600 กรัม แต่ที่น่า
ห่วงที่สุด คือ กลุ่มเด็กที่มีอายุ 6-14 ปี พบว่ามีเพียง 6.8% เท่านั้นที่รับประทานผักผลไม้ได้ตามเกณฑ์ที่กาหนด ซึ่งการ
รับประทานผักผลไม้ไม่เพียงพอนั้น จะมีความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วนเพิ่ม
มากขึ้น หากประเทศไทยยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้เราจะต้องแบกรับภาระจากปัญหาสุขภาพในระยะ
ยาว เพราะมีรายงานว่า 31% ของคนเป็นโรคหัวใจ, 19% ของคนเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร และ 11% ของคนเป็น
โรคหลอดเลือดสมอง มีสาเหตุหลักมาจากการรับประทานผักผลไม้ไม่เพียงพอต่อวัน อีกทั้งพฤติกรรมการ
รับประทานผักและผลไม้ไม่เพียงพอนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสาคัญของโรคอ้วนที่กาลังทวีความรุนแรงมากขึ้น
เรื่อย ๆ โดยภาวะโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า
- 8. ประโยชน์ของผักผลไม้ 5 สี
ผักผลไม้สีเขียว โดยสารที่ให้สีเขียวก็คือสารคลอโรฟิลล์ และยังมีสารประกอบอื่น ๆ ที่มี
คุณสมบัติบารุงสุขภาพ เช่น ลูทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้ องกันมะเร็ง และลดการเกิด
ความเสื่อมของจอประสาทตาได้ เป็นต้น ผักผลไม้ในกลุ่มนี้ ได้แก่ กวางตุ้ง กะหล่าปลี ชะอม
ผักคะน้า ผักโขม บล็อกโคลี่ ชมพู่เขียว แตงไทย ฝรั่ง พุทรา น้อยหน่า มะกอกน้าอะโวคาโด องุ่น
เขียว แอปเปิ้ลเขียว ฯลฯ
- 10. ผักผลไม้สีเหลืองหรือสีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีน ฟลาโวนอยด์ วิตามินซี ที่่ช่วยต้านอนุมูล
อิสระ ต้านการอักเสบและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้ องกันและลดความเสี่ยงของการเกิด
โรคมะเร็ง กระตุ้นการกาจัดเซลล์มะเร็งของร่างกาย ช่วยดูแลรักษาสุขภาพหัวใจ หลอดเลือด
และระบบภูมคุ้มกันภายในร่างกาย ผักผลไม้ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ข้าวโพด แครอท ฟักทอง กล้วย
ขนุน แคนตาลูปสีเหลือง มะละกอสุก ส้ม สับปะรด แอปริคอต เป็นต้น
- 11. ผักผลไม้สีแดงหรือสีชมพูอมม่วง จะมีสารในกลุ่ม Lycopene และ Betalain ซึ่งเป็นสารต้าน
อนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากของผู้ชาย ช่วย
บารุงหัวใจและหลอดเลือด ช่วยปริมาณของไขมันร้าย(LDL) ภายในเลือด และบารุงระบบทางเดิน
ปัสสาวะ โดยจะพบอยู่ในผักผลไม้จาพวกดอกกระเจี๊ยบ แก้วมังกรเนื้อชมพู แตงโม ตะขบชมพู่แดง
เชอร์รี่ มะเขือเทศ มะละกอเนื้อแดง หัวบีทรูท หัวหอม สตรอเบอร์รี่ แอปเปิ้ลแเดง เป็นต้น
- 12. ผักผลไม้สีม่วงแดงหรือสีม่วงหรือสีน้าเงิน จะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน
(Anthocyanin) และกลุ่ม Polyphenol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความ
เสื่อมของเซลล์ ป้ องกันการทาลายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต ช่วยปกป้ องทุกเซลล์ให้พ้นภัยจาก
เซลล์มะเร็งตัวร้าย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผนังหลอดเลือด ช่วยลดการเกิดไขมันอุดตันใน
หลอดเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัว ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหารที่ทาให้เกิด
ท้องเสีย ช่วยต้านไวรัส และลดการอักเสบได้ ผักผลไม้กลุ่มนี้ได้แก่ กะหล่าปลีม่วง ข้าวเหนียวดา
ข้าวแดง ข้าวนิล ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่แดง ถั่วดา ถั่วแดง เผือก มันสีม่วง มะเขือม่วง หอมแดง ดอก
อัญชัน น้าว่านกาบหอย ลูกหว้า ลูกไหน ลูกพรุน บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ องุ่นแดง
องุ่นม่วง เป็นต้น
- 13. การเลือกรับประทานผักผลไม้
ผักผลไม้ชนิดใดที่ที่สุด ไม่มีชนิดใดดีที่สุดครับ เพราะสารสาคัญในผักผลไม้ชนิดต่าง ๆ จะทางานออก
ฤทธิ์ส่งเสริมเกื้อหนุนกัน
ผักดิบกับผักสุก มีประโยชน์เหมือนกันหรือไม่? ผักสุกอาจสูญเสียวิตามินบางชนิดได้ เช่น วิตามินซี ที่
สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แต่บางคนอาจประสบปัญหาท้องผูกจากการรับประทานผักดิบได้หรือ
มีอาการท้องเสียเพราะล้างผักไม่สะอาด แต่ผักบางชนิดเองหากรับประทานแบบสุกก็จะมีประโยชน์
มากกว่า เช่น มะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกหรือผ่านกระบวนต่าง ๆ เพราะร่างกายจะนาไลโคปีนไปใช้ได้
ดีกว่าแบบดิบหรือสดครับ
น้าผักผลไม้มีประโยชน์เหมือนผักผลไม้สด ๆ หรือไม่? น้าผักผลไม้จะไม่มีกากใยอาหารเหมือนกับการ
รับประทานแบบสด ๆ แต่สาหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้รับประทานผักผลไม้สดก็อาจดื่มน้าผักผลไม้เสริมก็ได้
แต่ถ้าจะให้ดีควรคั้นดื่มเอง เนื่องจากน้าผักผลไม้สาเร็จรูปจะมีปริมาณของน้าตาลที่สูง
ผักผลไม้แห้งดีหรือไม่ดี? ผักผลไม้แห้งบางอย่างที่เติมเกลือ ก็จะมีผลต่อโรคความดันโลหิตสูง จึงควร
รับประทานแต่น้อย ส่วนผักผลไม้แห้งที่ใส่น้าตาลจะให้พลังงานสูงกว่าผักผลไม้สดประมาณ 1 เท่าตัว
แต่ถ้ารับประทานมากก็ทาให้อ้วนได้เช่นกัน
- 14. ผักผลไม้บรรจุกระป๋ องหรือแช่แข็ง มีประโยชน์หรือไม่? กระบวนการผลิตที่มี
ประสิทธิภาพสามารถรักษาคุณค่าทางโภชนาการเอาไว้ได้ แต่ก็อาจทาให้สูญเสียวิตามิน
บางชนิดไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเสื่อมคุณภาพเสียทีเดียว อย่างไรก็ตามถ้าเป็นผักผลไม้
กระป๋ องก็ควรเลือกชนิดที่ไม่เติมเกลือและน้าตาล หรือเลือกชนิดที่ใส่สารแต่งเติมให้น้อย
ที่สุด ส่วนผักผลไม้แช่แข็งก็ต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น
สารสกัดจากผักผลไม้สามารถทกแทนผักไม้สดได้หรือไม่? ผักผลไม้แปรรูปที่อยู่ในรูป
ของอาหารเสริมหรือสารสกัดไม่สามารถทดแทนการรับประทานผักผลไม้สดได้ หรือผัก
ผลไม้สดจะมีทั้งกากใบ วิตามิน และเกลือแร่มากมายหลายชนิด
- 15. คาแนะนาในการรับประทานผักผลไม้
ควรเลือกรับประทานผักผลไม้ให้หลากหลายสีสัน หรือรับประทานให้ครบทั้ง 5 สี เนื่องจาก
ผักผลไม้แต่ละสีจะมีคุณค่าทางอาหารที่แตกต่างกันออกไป ไม่ควรรับประทานผักผลไม้ซ้า ๆ
เดิม ๆ
ให้เลือกรับประทานผักผลไม้โดยดูจากความหวาน โดยควรเลือกรับประทานชนิดที่มีรส
หวานจัด (ขนุน, ลิ้นจี่, มะม่วงสุก, ทุเรียน, ลาไย), รสหวานปานกลาง (เงาะ, มะม่วงดิบ, ส้ม,
สับปะรด,), และรสหวานน้อย (ชมพู่, ส้มโอ, แอปเปิ้ล) สลับกันไป ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ทาให้
ร่างกายได้รับน้าตาลมากจนเกินไปด้วย
เปลือกผลไม้บางชนิดก็มีประโยชน์มากนะครับ ปอกทิ้งไปก็เสียดาย อย่างเช่นเปลือกแอป
เปิ้ล นักวิจัยพบว่าเปลือกแอปเปิ้ลแดงหนึ่งผลมีสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับวิตามินซี
820 มิลลิกรัม หรือเปลือกมันฝรั่งที่อุดมไปด้วยไปใยอาหารและแร่ธาตุบางชนิดมากกว่าเนื้อ
มันฝรั่งเสียอีก เป็นต้น
- 16. ก่อนนาผักผลไม้มารับประทานคุณควรนามาล้างให้สะอาดเสียก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยจาก
สารเคมีต่าง ๆ รวมถึงยาฆ่าแมลงด้วยครับ อ่านบทความเรื่องการล้างผักได้ที่ 16 วิธีการล้างผัก
ผลไม้ให้สะอาด
เลือกรับประทานผักผลไม้ตามกรุ๊ปเลือดที่เหมาะสมกับร่างกายตัวเอง ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ
กรุ๊ป A คนกรุ๊ปนี้จะมีปริมาณกรดในกระเพาะต่า ระบบย่อยทางานไม่ดีเท่าที่ควร จึงไม่เหมาะกับ
อาหารจาพวกเนื้อหรือนม แต่จะเหมาะกับอาหารมังสวิรัติจาพวกผักผลไม้ และควรเลือก
รับประทานผักผลไม้ที่ช่วยเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร เช่น สับปะรด เชอร์รี่ เป็นต้น
กรุ๊ป B คนกรุ๊ปนี้เป็นคนอ้วนง่าย เพราะร่างกายมีระบบย่อยดี แต่เผาผลาญได้ไม่ดี มักมีปัญหา
เรื่องภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี เป็นภูมิแพ้ หรือเป็นหวัดง่าย และมักปวดตามข้อ จึงแนะนาให้
รับประทานผลไม้ที่ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย เช่น กล้วย มะละกอ องุ่น เป็นต้น
- 17. กรุ๊ป O คนกรุ๊ปนี้กระเพาะอาหารจะมีกรดในปริมาณมาก จึงเหมาะกับการย่อยเนื้อสัตว์แต่ระบบ
เผาผลาญไม่ดี จึงทาให้อ้วนได้ง่าย จึงแนะนาให้รับประทานผลไม้ที่มีความเป็นกรดน้อยไปช่วย
สร้างสมดุลในกระเพาะได้ โดยจะไม่ทาให้กระเพาะเกิดการระคายเคือง เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ต่าง ๆ และเกรปฟรุต เป็นต้น
กรุ๊ป AB คนกรุ๊ปนี้มักมีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันและมีกรดในกระเพาะต่า ควรรับประทานผักผลไม้
และเนื้อให้มีความสมดุลกัน เพื่อช่วยรักษาสมดุลในกระเพาะอาหาร เช่น พลัม สับปะรด ส้มโอ
องุ่น และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นต้น
สัดส่วนของการรับประทานผักผลไม้ต่อวันคือ ให้รับประทานผัก 3 ส่วน และผลไม้อีก 2 ส่วน
(รับประทานผักมากกว่าผลไม้)
ผักผลไม้บางอย่างอาจมีสารพิษในตัวมันเอง ถ้ารับประทานในปริมาณน้อยก็อาจจะไม่ก่อให้เกิด
พิษ แต่หากรับประทานในปริมาณมากอาจจะเป็นพิษได้ หรือบางชนิดก็รับประทานแบบดิบ ๆ
ไม่ได้ต้องนามาทาให้สุกหรือผ่านกระบวนการให้ความร้อนเสียก่อน สารพิษจึงจะสลายตัว
- 20. 1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1
2
3
4
5
6
7
8
- 22. ในแต่ละวันควรเลือกกินอาหารผักผลไม้ให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 ส่วน เช่น
เลือกกินชนิดของผักที่มีสีเหลืองหรือสีส้มจัด ซึ่งจะเป็นแหล่งของเบต้า-แคโรทีน วัน
ละ 1 อย่าง ผักใบเขียวจัดวันละ 1 อย่าง เลือกผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงๆ 1 อย่าง เช่น
ส้ม มะละกอ ฝรั่ง แคนตาลูป อีก 3 ส่วน จะเลือกผักผลไม้ชนิดใดก็ได้และควรเลือก
วิธีประกอบการอาหาร เช่น การต้ม ตุ๋น นึ่งย่าง อบ ยาและผัดที่ไม่ติดมัน พยายามลด
ขนมหวานและอาหารหรือขนมที่ทาด้วยกะทิ เป็นต้น ดังนั้นการมีสุขภาพที่แข็งแรง
และนามาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากจะต้องออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ อย่างน้อย
วันละ 30 นาที ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
มีความจาเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ถูกต้อง จะกิน
อย่างไรให้ได้สารอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อร่างกาย เพราะสารแต่ละชนิดจะ
มีผลในการป้องกันโรคต่างกันออกไป
- 23. เอกสารอ้างอิง
1. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ.กรมการแพทย์กระทรวงสารธารณสุข . เอกสารเผยแพร่ “ กินผักผลไม้
ลดอาหารไขมัน ป้องกันโรคมะเร็ง” พิมพ์ครั้งที่ 3 ปี 2544.
2. ดร.ชนิดา ปโชติการ, อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช, เภสัชกรอภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์.
หนังสือ “อาหาร & สุขภาพ” พิมพ์ครั้งที่ 1 ปี 2548.
3. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสารธารณสุข . (ข้อมูลจากนิตยสาร Health today).
เอกสารเผยแพร่. ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 ประจาเดือน มกราคม 2547 .
4. บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จากัด (มหาชน). หนังสือ “ผักและผลไม้บารุงสุขภาพ”
5. บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จากัด (มหาชน). หนังสือ “คู่มือดูแลสุขภาพด้วยสุดยอดสารอาหาร”
ผู้เขียน LYNDEL COSTAIN. BSc. SRD
ผู้แปล นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์.
ปีที่ 2547
6. สานักพิมพ์หมอชาวบ้าน. หนังสือ“วิตามิน”
ผู้เขียน Harold M.Silverman, Pharm.D. Joseph Romano, Pharm.D. Gary Elmer, Ph.D.
ผู้แปล เภสัชกรพิสิฐ วงศ์วัฒนะ.
พิมพ์ครั้งที่ . มีนาคม 2547.
รูปสวยๆจาก http://www.oknation.net/