6
- 1. แผนการสอนประจาบทเรียนที่ 6
ชื่อบท ส่วนประกอบสำคัญของศิลปะ
หัวเรื่อง บริเวณ (Space)
แนวคิด
1.บริเวณสว่ำงเป็นส่วนประกอบสำคัญของศิลปะ ซึ่งดูเหมือนว่ำไม่มีควำมสำคัญ แต่ควำมจริงแล้มี
บทสำคัญเท่ำเทียมกับรูปร่ำงหรือรูปทรงที่ปรำกฏในบริเวณว่ำงนั้น
2.รูปและพื้นในงำนทัศนศิลป์ รูป คือรูปร่ำงหรือรูปทรงที่ถูกกำหนดขึ้นให้มีควำมหมำยหรือเรียกอีก
นัยหนึ่งว่ำบริเวณว่ำงบวก พื้น
3. บริเวณว่ำงสำมำรถเป็นไปได้ทั้ง 2 มิติและ 3 มิติ
- 2. วัตถุประสงค์
1. อธิบำยควำมหมำยของบริเวณว่ำงได้
2. อธิบำยควำมหมำยของรูปและพื้นได้
3. อธิบำยควำมหมำยและลักษณะของบริเวณว่ำงจริงและบริเวณว่ำงลวงตำได้
4. อธิบำยควำมหมำยของบริเวณว่ำง 2 มิติและ 3 มิติได้
5. อธิบำยควำมหมำยของบริเวณว่ำงบวก บริเวณว่ำงลบ
6. อธิบำยควำมหมำยของบริเวณว่ำงจริงและบริเวณว่ำงลวงตำ
กิจกรรม
1. ศึกษำแผนกำรสอน
2. ศึกษำเอกสำรประกอบกำรสอนบทที่ 6 เรื่องบริเวณว่ำง
3. ปฏิบัติกิจกรรมที่ 6.1 และ 6.2
4. ซักถำมและอภิปรำย
5. วิจำรณ์ผลงำนศิลปะของนักศึกษำ
- 4. พื้นระนำบว่ำงเปล่ำของกระดำษ ผ้ำใบ ผนัง ที่ยังไม่ได้เขียนเป็นภำพ อำกำศที่ล้อมรอบงำน
ประติมำกรรม หรือสถำปัตยกรรม เนื้อที่ในส่วนนี้เรียกว่ำ “บริเวณว่ำง” หรือบริเวณว่ำงที่เป็นกลำง
(Neutral space) เป็นบริเวณว่ำงสำหรับให้ส่วนประกอบสำคัญของศิลปะ ได้แสดงบทบำทเป็นรูปร่ำง
ทรงในลักษณะต่ำงๆ รูปร่ำงหรือรูปทรงเหล่ำนี้จะเรียกอีกนัยหนึ่งว่ำ รูป (figure) และที่ว่ำงที่เหลืออยู่
ล้อมรอบรูปในงำนจิตรกรรม ศิลปะภำพพิมพ์และงำนออกแบบต่ำงๆ บนกระดำษจะเรียกว่ำ พื้น(
Ground)
1.ความหมายของบริเวณว่าง
พำศนำ ตัณฑลักษณ์(2522:79) ได้กล่ำวว่ำ Space หมำยถึงระยะช่องว่ำงโดยรอบวัตถุเรียกว่ำ
บริเวณว่ำงลบ (Negative space)และช่องว่ำงที่ตัววัตถุเรียกว่ำบริเวณว่ำงบวก (Positive space) บริเวณ
ว่ำงบวกและบริเวณว่ำงลบจะต้องมีควำมสัมพันธ์กัน
ดังนั้นจึงกล่ำวได้ว่ำบริเวณว่ำง หมำยถึงบริเวณว่ำงที่ล้อมรอบรูปทรง ระยะห่ำงระหว่ำงรูปทรง พื้นที่
ระนำบว่ำงเปล่ำหรือที่ว่ำงภำยในรูปทรง มีรูปลักษณะเป็น 2 มิติและ 3 มิติ
- 5. 2.รูปและพื้น (Figure & Ground)
2.1 รูป หมำยถึงรูปร่ำงหรือรูปทรงที่เกิดจำกส่วนประกอบสำคัญของศิลปะรวมตัวกันขึ้น
เป็น ภำพคน สัตว์หรือสิ่งของ ฯลฯ
2.2 พื้น หมำยถึงบริเวณว่ำง 2 มิติ หรือ 3 มิติ ที่ล้อมรอบรูปทรงในงำนจิตรกรรม ศิลปะ
ภำพพิมพ์รูปและพื้นจะมีควำมสัมพันธ์เกี่ยวข้องซึงกันและกันมำก กำรที่เรำมองเห็นรูปได้ก็
เพรำะควำมแตกต่ำงระหว่ำงรูปกับพื้น ซึ่งอำจแตกต่ำงด้วยน้ำหนักสีหรือพื้นผิว แม้ว่ำรูปและพื้น
จะมีควำมแตกต่ำงหรือตัดกัน หน้ำที่ของผู้ทำงำนศิลปะคือกำรสร้ำงควำมกลมกลืนให้เกิดขึ้น
ส่วนในงำนประติมำกรรมและสถำปัตยกรรมบริเวณว่ำงก็คืออำกำศเป็นบริเวณว่ำงจริงให้รูปทรง
ดำรงอยู่ ช่วยสร้ำงควำมเด่นชัดเสริมให้เกิดควำมงดงำมและควำมสมบูรณ์รูปทรงที่แปร
เปลี่ยนไปบริเวณว่ำงก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย
3.ลักษณะของบริเวณว่าง
บริเวณว่ำงในงำนทัศนศิลป์ เป็นบริเวณว่ำงที่ถูกควบคุมให้ดำเนินไปตำมที่ผู้ทำงำนศิลปะ
ต้องกำร ลักษณะของบริเวณว่ำงมี 2 ลักษณะคือ 3.1 บริเวณจริง 3.2 บริเวณว่ำงลวงตำ
- 6. 3.1 บริเวณจริง (Physical space) หรือบริเวณว่ำงทำงกำยภำพ หมำยถึงบริเวณว่ำงที่ปรำกฏจริงใน
งำนประติมำกรรม หรือสถำปัตยกรรม เป็นบริเวณว่ำงที่สำมำรถรับรู้สัมผัสได้ด้วยควำมเป็นจริง
ทำงกำยภำพ มีอำกำศอยู่โดยรอบ
3.2 บริเวณว่างลวงตา (Pictorial space) หมำยถึงบริเวณว่ำงที่ปรำกฏจริงในงำนจิตรกรรมศิลปะภำพ
พิมพ์เป็นบริเวณว่ำง 3 มิติ แสดงควำมกว้ำง ควำมยำว และควำมลึก ในลักษณะลวงตำบริเวณว่ำง
ลักษณะนี้จะเรียกอีกนัยหนึ่งว่ำบริเวณว่ำงแบบรูปภำพ
4.มิติของบริเวณว่าง
มิติของบริเวณว่ำงสำมำรถแบ่งได้ดังนี้ คือ
4.1บริเวณว่าง 2 มิติ (Two dimension space) หมำยถึงบริเวณว่ำงที่แสดงเฉพำะควำมกว้ำง
และควำมยำว เช่น แผ่นระนำบของกระดำษ ผ้ำใบ ผนัง หรือ บริเวณว่ำงระหว่ำงรูปร่ำงในงำน
จิตรกรรมที่ไม่แสดงปริมำตรเป็น 3 มิติ
- 7. 4.2 บริเวณว่าง 3 มิติ (Three dimension space)หมำยถึงบริเวณว่ำงที่แสดงควำมกว้ำงควำม
ยำว และควำมลึก เป็นที่ว่ำงลวงตำแสดงระยะในงำนจิตรกรรม เป็นบริเวณว่ำงล้อมรอบรูปทรงใน
งำนประติมำกรรมและสถำปัตยกรรม
5. บริเวณว่างบวก บริเวณว่างลบและบริเวณว่างที่เป็นกลาง
5.1 บริเวณว่างบวก (Positive space) หมำยถึงบริเวณว่ำงที่ถูกกำหนดขึ้นด้วยเส้น สีน้ำหนัก
ฯลฯ ให้เป็นรูปร่ำงหรือรูปทรง บริเวณในส่วนที่ถูกกำหนดขึ้นนี้จะเป็นบริเวณว่ำงที่มีควำมหมำย
5.2 บริเวณว่างลบ(Negative space)หมำยถึงบริเวณว่ำงที่เป็นระนำบในงำนจิตรกรรม
เป็นอำกำศในงำนประติมำกรรม ปรำกฏอยู่โดยรอบรูปร่ำงและรูปทรง และมีควำมสำคัญเท่ำเทียม
กับรูปร่ำงหรือรูปทรงที่เป็นบริเวณบวก
5.3 บริเวณว่างที่เป็นกลาง (Neutral space) หมำยถึงบริเวณว่ำงที่ยังคงไม่มีรูปร่ำงหรือ
รูปทรงใดปรำกฏอยู่ บริเวณว่ำงที่เป็นกลำงได้แก่ ระนำบของกระดำษ ผ้ำใบหรือผนัง
- 8. 6.บริเวณว่าง 2 นัย (Ambiguous space)
บริเวณว่ำง 2 นัย หมำยถึงบริเวณว่ำงที่ถูกกำหนดขึ้นให้เป็นรูปร่ำงหรือรูปทรงที่มี
ควำมสำคัญเท่ำเทียมกันจึงไม่อำจกำหนดได้ว่ำส่วนใดคือบริเวณว่ำงที่เป็นบวก และส่วนใดคือ
บริเวณว่ำงที่เป็นลบ บริเวณว่ำงที่ถูกกำหนดขึ้นทั้ง 2 ลักษณะนี้จึงเป็นทั้งบวกและลบสลับกัน
สรุป
บริเวณว่ำง หมำยถึงบริเวณว่ำงที่ล้อมรอบรูปร่ำงหรือรูปทรง บริเวณว่ำงสำมำรถเป็นได้
ทั้งบริเวณว่ำงจริงและบริเวณว่ำงลวงตำ มีลักษณะเป็น 2 มิติและ 3 มิติ
รูปและพื้นที่ควำมแตกต่ำงกัน แต่จะสนับสนุนซึ่งกันและกัน รูป คือรูปร่ำงหรือรูปทรงที่
เกิดจำกส่วนประกอบสำคัญของศิลปะ ส่วนพื้น คือบริเวณว่ำงที่ล้อมรอบรูปร่ำงหรือรูปทรง
ลักษณะของบริเวณว่ำงมี 2 ลักษณะคือบริเวณว่ำงจริง หมำยถึงบริเวณว่ำงที่ปรำกฏจริงใน
งำนประติมำกรรม หรือสถำปัตยกรรม และบริเวณว่ำงลวงตำ หมำยถึงบริเวณว่ำง 3 มิติ ในงำน
จิตรกรรม ศิลปะภำพพิมพ์
- 9. มิติของบริเวณว่ำงแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือบริเวณว่ำง 2 มิติ หมำยถึงแผ่นระนำบของ
กระดำษ ผ้ำใบ ผนัง แสดงควำมเฉพำะควำมกว้ำงและควำมยำว สำหรับบริเวณว่ำง 3 มิติ หมำยถึง
บริเวณว่ำงลวงตำ แสดงควำมกว้ำง ควำมยำว และควำมลึก
บริเวณว่ำงบวก คือ รูปร่ำงหรือรูปทรงที่กำหนดขึ้น บริเวณว่ำงลบ คือบริเวณว่ำงล้อมรอบ
รูปร่ำงหรือรูปทรง บริเวณว่ำงที่เป็นกลำงได้แก่พื้นระนำบกระดำษ ผ้ำใบ ผนัง ที่ว่ำงเปล่ำยังไม่มีสิ่ง
ใดปรำกฏอยู่ สำหรับบริเวณว่ำง 2 นัยจะเป็นบริเวณว่ำงที่ถูกกำหนดขึ้น ให้บริเวณว่ำงที่เกิดขึ้นนั้น
เป็นบริเวณว่ำงบวกและลบสลับกัน