SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
1
โครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน ความรู้เกี่ยวกับหลักจิตวิทยาและการนาหลักจิตวิทยามาใช้ในชีวิตประจาวัน
(importance of psychology in everyday life)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาว รุ่งทิวา วงศ์ชัย เลขที่ 2 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1 นางสาว รุ่งทิวา วงศ์ชัย เลขที่2
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ความรู้เกี่ยวกับหลักจิตวิทยาและการนาหลักจิตวิทยามาใช้ในชีวิตประจาวัน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
importance of psychology in everyday life
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว รุ่งทิวา วงศ์ชัย
ชื่อที่ปรึกษา คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2 ปีการศึกษา 2562
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
สาหรับที่มาและแนวคิดของโครงงานนี้เกิดขึ้นมาจากการที่ได้ศึกษาพฤติกรรมของผู้คนในสังคมปัจจุบัน
พบว่าหลายๆคนมีปัญหาทางด้านจิตใจไม่สามารถแก้ปัญหาหลายๆอย่างด้วยตนเองได้ทาให้เกิดความเครียดสะสมและ
เกิดความวิตกกังวลมากจนเกินไปทาให้เกิดปัญหาทางจิตขึ้นและเมื่อได้ทาการค้นคว้าในหลักของการแก้ไขปัญหาที่
เกิดขึ้นนี้ทาให้ได้พบว่ามีหลักจิตวิทยาที่เราสามารถนามาปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ซึ่งถ้าหากได้นาหลักการเหล่านี้มา
นาเสนอเผยแพร่ให้ผู้คนได้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและได้รู้ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหานี้นี้ก็จะเป็นประโยชน์
ต่อหลายๆฝ่ายทั้งต่อตัวบุคคลนั้นและบุคคลรอบข้างรวมไปถึงช่วยสร้างพื้นฐานความรู้ในด้านจิตวิทยาให้กับคนใน
สังคมอีกด้วยและอีกหนึ่งปัจจัยที่ทาให้อยากทาโครงงานนี้ขึ้นมาเพราะอยากให้ผู้ที่ประสบปัญหาในทางจิตไม่ถูกมองว่า
เป็นตัวประหลาดในสังคมอยากให้ทั้งตัวผู้ที่ประสบปัญหาทางจิตและผู้คนรอบข้างได้รับความรู้และเห็นความสาคัญใน
ด้านจิตวิยาและช่วยกันแก้ไขปัญหานี้มากกว่าที่จะปล่อยปะละเลยปัญหานี้ไป ดังนั้นจึงได้มีการคิดโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อ
ช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิตและสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคนที่ปกติเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจาวันกับผู้ป่วยทางจิตได้
ถูกต้อง อีกทั้งยังทาให้สารถช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิตได้ด้วย
3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
อยากให้คนในสังคมได้รับความรู้ในด้านจิตวิทยารวมถึงพึงตระหนักถึงความสาคัญของจิตวิทยาและ
ต้องการที่จะให้ผู้ที่ประสบปัญหาทางจิตสามารถใช้ชีวิตประจาวันร่วมกับผู้อื่นได้
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
โครงงานนี้ศึกษาเกี่ยวกับหลักการทางจิตวิทยาและการนาหลักการทางจิตวิทยามาปรับใช้ใน
ชีวิตประจาวันเพื่อช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาทางจิตใจถูกเข้าใจและยอมรับในสังคมมากขึ้นและเพื่อให้บุคคลธรรมดาเข้าใจผู้ที่
ประสบปัญหาทางจิตใจและพึงตระหนักถึงประโยชน์ของจิตวิทยา
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
1 ความสาคัญของจิตวิทยา
ทุกวันนี้เรื่องของจิตวิทยาเป็นเรื่องที่คนทั่วไปค่อนข้างให้ความสาคัญอย่างมาก เพราะมันเกี่ยวข้องถึงเรื่อง
ของสภาพจิตใจภายในที่หากไม่ได้ทาการดูแลให้ดีอาจจะส่งผลในเรื่องที่เราไม่คาดคิดได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผล
เรื่องการทาร้ายร่างกาย การฆ่าตัวตาย ส่วนหนึ่งก็มาจากการมีปัญหาทางด้านจิตใจด้วยกันทั้งสิ้น เรื่องของจิตวิทยาจึง
กลายเป็นเรื่องที่จาเป็นต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดสาหรับคนที่มีปัญหาทางเรื่องนี้ การใช้ชีวิตประจาวันของเราเองก็
ยังคงจาเป็นต้องมีเรื่องของจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
-ความสาคัญของจิตวิทยาในคนทั่วไป
ช่วยทาให้เกิดความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เมื่อเรามีจิตวิทยาที่
ดีในการดารงชีวิตเราก็จะรู้ว่าจริงแล้วอะไรคือสิ่งที่สาคัญในชีวิตของเรา สามารถจัดลาดับความสาคัญของการกระทา
ในชีวิตได้เป็นอย่างดี หรือ การสร้างแรงผลักดันให้กับชีวิตของตนเองเพื่อให้รู้สึกว่าชีวิตของตนเองยังคงมีค่าอยู่เสมอ
ช่วยในเรื่องการปรับตัวและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับจิตของตนเอง การเรียนรู้ในเรื่องของจิตวิทยาจะช่วยทาให้เรารู้
ถึงวิธีในการปรับตัวเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวันของเราอย่างมีเหตุและผล อาทิเช่น หากรู้ว่าตอนนี้กาลัง
โกรธก็จะมีวิธีในการระงับความโกรธที่ดีเพราะเรารู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จาเป็น การรู้ว่าไม่ควรไปสนใจในปมด้อยทั้งของ
ตนเองและผู้อื่น การรู้จักแก้ไขเรื่องความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นภายในจิตใจได้เป็นอย่างดี
ช่วยในเรื่องของการตัดสินใจเรื่องของตนเองและผู้อื่นได้ จริงแล้วมันเหมือนกับว่าเป็นการมีสติของเราด้วยส่วนหนึ่ง
เมื่อเราเรียนรู้และเข้าใจว่าการใช้หลักจิตวิทยาในการดาเนินชีวิตมันก็เป็นเรื่องที่จะทาให้ชีวิตของเราไม่เกิดความ
ประมาท เมื่อไม่มีความประมาทก็จะทาให้สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยความยุติธรรมมากขึ้น ใช้เหตุและผลในการ
ตัดสินใจได้ดีขึ้น
ช่วยให้ชีวิตมีความสุข เมื่อเรามีหลักจิตวิทยาที่ดีในการดาเนินชีวิตเราก็จะรับรู้ได้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่ควรทา สิ่งใดเป็นสิ่งที่
ควรหลีกเลี่ยง รวมไปถึงรู้วิธีในการค้นหาความสุขที่แท้จริงให้กับชีวิตว่ามันคือสิ่งใดกันแน่
เช้าใจโลกและสังคมมากขึ้น จริงๆ แล้วคนเราในทุกวันนี้มีคนป่วยเกี่ยวกับจิตมากขึ้นทุกวันเพียงแต่ไม่ได้มีใครแสดง
อาการออกมาก็เท่านั้น หากเรารู้และเข้าใจในหลักจิตวิทยาที่ดีมันก็จะทาให้เราเข้าใจโลก เข้าใจสังคม เรียนรู้กับทุกสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลดีกับตัวเราในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน
2 การนาหลักจิตวิทยามาใช้ในชีวิตประจาวัน
สาหรับคนวัยทางาน เรื่อยไปจนถึงวัยกลางคน แม้ชีวิตจะผ่านอะไรมามากรวมถึงเรามีอิสรภาพมากขึ้น มีเงินมากขึ้น
จากการทางานแต่หลายคนอาจจะไม่ได้มีความสุขสักเท่าไร อาจจะต้องเครียดจากการทางาน การใช้ชีวิตและอีก
มากมาย ทีนี้เราจะมาบอกวิธีสร้างความสุขและช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น มีวิธีการอะไรบ้าง
4
-ยอมรับความเป็นตัวเอง
สิ่งแรกที่จะทาให้เรามีความสุขได้ก็คือ เราต้องยอมรับความเป็นตัวเองให้ได้ก่อน แน่นอนว่าไม่มีใครมีแต่ข้อดีหรอกทุก
คนต้องมีข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น เชื่อว่าข้อดีเราทุกคนคงรับได้ แต่ข้อเสียล่ะจะรับได้หรือไม่ ถ้าเรารับข้อเสียของ
ตัวเองได้ เราก็จะเข้าใจตัวเองได้ดีมากขึ้น การยอมรับตัวเองได้แม้จะเป็นข้อเสีย เราก็จะก้าวข้ามผ่านมันไปได้ สุดท้าย
เราก็จะพัฒนาตัวเองเพื่อลดข้อเสียนั้นได้ จนทาให้เราเกิดความสุขขึ้นมา
-มองหาสิ่งที่ตัวเองชอบ
ความสุขของเราเกิดจากอะไร นี่เป็นคาถามทีเราคงต้องถามหาตัวเองกันหน่อย แน่นอนว่าเรื่องสาคัญก็คือ หากเรา
อยากมีความสุข เราต้องมองหาสิ่งที่ตัวเองชอบให้เจอแล้วทามันซะ ใครอยากจะทาอะไร กินอะไร กินหมูกระทะ กินซู
ชิ อยากเล่นฟุตบอล อยากไปเที่ยว อยากไปต่างประเทศ อยากใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ อยากเล่นกีฬา อยากได้รถใหม่ อยาก
ต่อโมเดลกันดั้ม และอีกมากมาย หากชีวิตเราเดินไปถึงวัยกลางคน บอกเลยว่าอะไรที่มีความสุขก็ทาเลย อย่าไปแคร์
อะไรคนอื่นมากนัก ลองคิดดูว่าเราจะแคร์คนอื่นจนเสียโอกาสทาในสิ่งที่เราอยากทาไปเลยไหม ถ้าคิดแบบนั้นก็แย่นะ
-ทดลองทาในสิ่งที่ไม่เคยทา
ถ้าเราหาอะไรที่ชอบทาแล้วมีความสุขเจอแล้วก็ทาต่อไป แต่ถ้าทาไปแล้วสักพัก เราขอแนะนาว่าให้ลองทาอะไรใหม่ๆ
ดูบ้าง ชีวิตในวัยทางาน วัยกลางคนอาจจะต้องทานั่นทานี่มากมาย จนทาให้ไม่มีเวลาไปทาอย่างอื่น รวมถึงความกล้า
ในการทาอะไรใหม่หมดลงไปด้วย แนะนาว่าลองไปทาอะไรใหม่ๆบ้างไปเที่ยวที่ใหม่ กินอะไรใหม่ ความตื่นเต้นจากการ
ทาอะไรใหม่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เรา
-ลองทาในสิ่งที่ไม่ชอบ
สุดท้าย เมื่อเราเดินทางไปในช่วงชีวิตหนึ่ง เราขอแนะนาว่าให้ลองทาในสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ถนัดดูบ้าง หลายคนอาจจะ
เถียงว่าทาไปทาไมในเมื่อไม่ชอบ อันนี้ก็จริง แต่เชื่อไหมว่ามีหลายคนมีสิ่งที่ไม่ชอบ แต่การไม่ชอบกลับเกิดจากการฟัง
หรือ โดนห้ามมาก่อน ไม่ได้ไม่ชอบจากการทดลองทาสิ่งนั้นด้วยตัวเอง เพราะงั้นอะไรที่ไม่ชอบให้ลองทาซะ เพื่อยืนยัน
กับตัวเองอีกทีว่า ของแบบนี้ไม่เหมาะกับเราเลย ไม่ชอบเลย จะได้เข้าใจตัวเองชัดเจนว่า อะไรชอบหรือไม่ชอบ
3 การเติบโตไปอีกขั้นจากการสนทนาและการรับฟัง
บ่อยครั้งกับการเอาแต่เก็บตัว ไม่ยอมเปิดเผยเรื่องราวของตนเองออกมาให้คนอื่นได้รับรู้เลยมันเป็นความรู้สึกแสนน่า
อึดอัดใจจนทาเอาหลายคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คนทั่วไปที่ไม่เข้าใจปัญหาของโรคนี้มักมองว่าเป็นโรคกระแส คือ
เอะอะอะไรก็บอกว่าตนเองป่วยเป็นภาวะซึมเศร้าเอาไว้ก่อน ทว่าคนที่เป็นจริงๆ เขาไม่ได้คิดแบบนี้ในทางกลับกันเขา
เลือกที่ไม่อยากบอกคนอื่นเพราะกลัวคนอื่นไม่เข้าใจหาว่าบ้า แต่สิ่งที่ควรทามากๆ ในการปรับตนเองให้โตขึ้นไปอีกขั้น
หนึ่งคือ การสนทนาและการรับฟัง
-การเติบโตไปอีกขั้นจากการสนทนาและการรับฟัง
ต้องบอกก่อนเลยว่าต่อให้คุณคือคนหนึ่งที่เป็นปกติ ไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไรก็ตามการสนทนาและการรับฟังยังคงเป็น
เรื่องสาคัญเสมอ ไม่ใช่แค่การบอกว่าฉันแข็งแรง ฉันสบายดี ฉันอยู่คนเดียวได้ แบบนี้ไม่น่าเกิดประโยชน์ ธรรมชาติ
ของมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้อยู่ตัวคนเดียวแต่มนุษย์คือสัตว์สังคมที่จาเป็นต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบ
ข้างอยู่เสมอ เราอาจถามว่าความช่วยเหลือของคนรอบข้างมาจากอะไรได้บ้าง สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการให้คาปรึกษาหรือ
การพูดคุยเพื่อระบายเรื่องราวต่างๆ นี่คือการใช้ชีวิตของคนปกติที่ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรทางจิตใจคน
แต่สาหรับคนที่มีอาการป่วยทางภาวะจิตใจโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคซึมเศร้าการสนทนาและการรับฟังจะช่วยให้ชีวิต
คุณพบเจออะไรดีๆ อีกมากเลย คือพื้นฐานของคนป่วยเป็นโรคนี้ความอ่อนแอที่สุดอยู่ตรงจิตใจ เพราะพวกเขาจะคิด
ลบตลอดเวลาดังนั้นคนป่วยเป็นภาวะซึมเศร้ายิ่งอยู่แค่ตัวเองมากเท่าไหร่อาการของโรคจะยิ่งเกิดขึ้นได้ง่ายและหนัก
กว่าเดิมเท่านั้น การปรึกษา พูดคุย รับฟังแค่คนทั่วไปอาจไม่ใช่เรื่องเพียงพอแต่จาเป็นต้องกระทาสิ่งเหล่านี้กับคนที่มี
ความเชี่ยวชาญนั่นคือจิตแพทย์ การพบจิตแพทย์ไม่ใช่การที่คนภายนอกมองว่าคุณคือคนบ้า แต่เราคือผู้ป่วยคนหนึ่งที่
ต้องการการรักษาอย่างถูกต้อง
5
คนเป็นภาวะซึมเศร้าหากปรึกษากับคนทั่วไปอาจได้คาตอบแค่ ทาแบบนั้นสิ เลือกตรงนี้ก่อนสิ ไม่ต้องคิดแบบนั้นก็ได้
ทว่าจริงแล้วมันไม่เหมือนกันเพราะหากให้คาปรึกษาแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น จาเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ
อย่างบรรดาจิตแพทย์ที่เรียนเรื่องนี้มาโดยตรงเป็นคนช่วยเหลือ เขาจะมีวิธีการในเรื่องคาพูด การใช้ทักษะต่างๆ แล้ว
มันจะออกมาดีเอง คนที่ป่วยก็เหมือนได้ระบายความรู้สึกของตนเองออกมาให้คนอื่นฟังแล้วเข้ารับวิธีการรักษาอย่าง
ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อให้หายป่วยจากโรคดังกล่าว มีชีวิตแบบปกติเหมือนคนทั่วไป
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจริงและนาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ว่าข้อมูลไหนที่เรียนรู้แล้วเข้าใจง่ายและเกิดประโยชน์
มากที่สุดจากนั้นนาข้อมูลที่คัดมาแล้วมาจัดพิมพ์เป็นแผ่นพับโดยจัดรูปแบบของแผ่นพับให้น่าสนใจและเข้าใจได้ง่าย
และนาไปแจกตามสถานที่ต่างๆหรืออาจจะจัดเป็นนิทรรศการที่ให้ความรู้ทั้งในรูปแบบของการบรรยายและให้ความรู้
จากแผ่นพับที่จัดพิมพ์ไป
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1 คอมพิวเตอร์
2 แหล่งข้อมูลทั้งจากในอินเตอร์เน็ตและในหนังสือ
3 กระดาษที่ใช้ในการพิมพ์แผ่นพับ
งบประมาณ
ประมาณ 200-400 บาท (จัดพิมพ์แผ่นพับ)
6
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
คาดว่าหลายๆคนจะได้ความรู้เพิ่มเติมในด้านของจิตวิทยาและเรียนรู้ที่จะปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ และ
คาดหวังว่าทั้งผู้ป่วยทางจิตและบุคคลปกติจะสามารถใช้ชีวิตประจาวันร่วมกันได้โดยไม่เกิดการแบ่งแยกกัน
สถานที่ดาเนินการ
1 โรงเรียน
2 งานนิทรรศการให้ความรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1 วิทยาศาสตร์(ชีววิทยา)
2 พละศึกษา
3 เทคโนโลยีสารสนเทศ
4 ออกแบบ
5 ภาษาไทย
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
เว็บไซต์ https://www.washpsa.org/author/admin/

More Related Content

What's hot

2557 โครงงาน
2557 โครงงาน2557 โครงงาน
2557 โครงงาน
Plam Preeya
 

What's hot (19)

Thanchanok20
Thanchanok20Thanchanok20
Thanchanok20
 
โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1โครงงานคอมพิวเตอร์1
โครงงานคอมพิวเตอร์1
 
5
55
5
 
รางจืด
รางจืด รางจืด
รางจืด
 
โครงงานคอม ห้อง 6 เลขที่ 2,41
โครงงานคอม ห้อง 6 เลขที่ 2,41โครงงานคอม ห้อง 6 เลขที่ 2,41
โครงงานคอม ห้อง 6 เลขที่ 2,41
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
งานโก๋
งานโก๋งานโก๋
งานโก๋
 
2562 final-project (1)
2562 final-project  (1)2562 final-project  (1)
2562 final-project (1)
 
Com project
Com projectCom project
Com project
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
2557 โครงงาน
2557 โครงงาน2557 โครงงาน
2557 โครงงาน
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
โครงร่างคอมคู่1
โครงร่างคอมคู่1โครงร่างคอมคู่1
โครงร่างคอมคู่1
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
2562 final-project -13-610
2562 final-project -13-6102562 final-project -13-610
2562 final-project -13-610
 
2562 final-project-14
2562 final-project-142562 final-project-14
2562 final-project-14
 
Work1
Work1Work1
Work1
 
แบบโครงร่างโครงงานน้ำเหม่ง
แบบโครงร่างโครงงานน้ำเหม่งแบบโครงร่างโครงงานน้ำเหม่ง
แบบโครงร่างโครงงานน้ำเหม่ง
 
2557 โครงงาน
2557 โครงงาน2557 โครงงาน
2557 โครงงาน
 

Similar to 2562 final-project 02-rungtiwa-finally

แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Nattika Pangjang
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Hathaichanok Pintamong
 
2562 final-project (1) (1)
2562 final-project  (1) (1)2562 final-project  (1) (1)
2562 final-project (1) (1)
Thawanongpao
 
2558
25582558

Similar to 2562 final-project 02-rungtiwa-finally (20)

โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผม
โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผมโครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผม
โครงงานคอมเทอมสอง เรื่องผม
 
2562 final-project 12
2562 final-project 122562 final-project 12
2562 final-project 12
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
Alopecia
AlopeciaAlopecia
Alopecia
 
2562 final-project 12
2562 final-project 122562 final-project 12
2562 final-project 12
 
แบบเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project (1) (1)
2562 final-project  (1) (1)2562 final-project  (1) (1)
2562 final-project (1) (1)
 
Final project
Final projectFinal project
Final project
 
Final project
Final projectFinal project
Final project
 
พระกีสาโคตมีเถรี
พระกีสาโคตมีเถรีพระกีสาโคตมีเถรี
พระกีสาโคตมีเถรี
 
2558 project
2558 project 2558 project
2558 project
 
2558
25582558
2558
 
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรี
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรีโครงงานพระกีสาโคตมีเถรี
โครงงานพระกีสาโคตมีเถรี
 
2558 project
2558 project 2558 project
2558 project
 

More from RungtiwaWongchai (17)

presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
presentation 2
presentation 2presentation 2
presentation 2
 
education presentation
education presentationeducation presentation
education presentation
 
3
33
3
 
กิจกรรมที่2 โครงงาน
กิจกรรมที่2 โครงงานกิจกรรมที่2 โครงงาน
กิจกรรมที่2 โครงงาน
 
Power pointhub hand-painted-1-1
Power pointhub hand-painted-1-1Power pointhub hand-painted-1-1
Power pointhub hand-painted-1-1
 
Power pointhub hand-painted-1-1
Power pointhub hand-painted-1-1Power pointhub hand-painted-1-1
Power pointhub hand-painted-1-1
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
Computerfainal
ComputerfainalComputerfainal
Computerfainal
 
Com final
Com finalCom final
Com final
 
Work.1
Work.1Work.1
Work.1
 
Comm 1-final
Comm 1-finalComm 1-final
Comm 1-final
 
2562 final-project -2 (1)
2562 final-project -2 (1)2562 final-project -2 (1)
2562 final-project -2 (1)
 
2562 final-project -1
2562 final-project -12562 final-project -1
2562 final-project -1
 
2562 final-project -1 finally
2562 final-project -1 finally2562 final-project -1 finally
2562 final-project -1 finally
 
Work.1
Work.1Work.1
Work.1
 
Final project 604-37
Final project 604-37Final project 604-37
Final project 604-37
 

2562 final-project 02-rungtiwa-finally

  • 1. 1 โครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5 ปีการศึกษา 2562 ชื่อโครงงาน ความรู้เกี่ยวกับหลักจิตวิทยาและการนาหลักจิตวิทยามาใช้ในชีวิตประจาวัน (importance of psychology in everyday life) ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อ นางสาว รุ่งทิวา วงศ์ชัย เลขที่ 2 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 4 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1 นางสาว รุ่งทิวา วงศ์ชัย เลขที่2 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ความรู้เกี่ยวกับหลักจิตวิทยาและการนาหลักจิตวิทยามาใช้ในชีวิตประจาวัน ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) importance of psychology in everyday life ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว รุ่งทิวา วงศ์ชัย ชื่อที่ปรึกษา คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2 ปีการศึกษา 2562 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน) สาหรับที่มาและแนวคิดของโครงงานนี้เกิดขึ้นมาจากการที่ได้ศึกษาพฤติกรรมของผู้คนในสังคมปัจจุบัน พบว่าหลายๆคนมีปัญหาทางด้านจิตใจไม่สามารถแก้ปัญหาหลายๆอย่างด้วยตนเองได้ทาให้เกิดความเครียดสะสมและ เกิดความวิตกกังวลมากจนเกินไปทาให้เกิดปัญหาทางจิตขึ้นและเมื่อได้ทาการค้นคว้าในหลักของการแก้ไขปัญหาที่ เกิดขึ้นนี้ทาให้ได้พบว่ามีหลักจิตวิทยาที่เราสามารถนามาปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ซึ่งถ้าหากได้นาหลักการเหล่านี้มา นาเสนอเผยแพร่ให้ผู้คนได้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและได้รู้ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหานี้นี้ก็จะเป็นประโยชน์ ต่อหลายๆฝ่ายทั้งต่อตัวบุคคลนั้นและบุคคลรอบข้างรวมไปถึงช่วยสร้างพื้นฐานความรู้ในด้านจิตวิทยาให้กับคนใน สังคมอีกด้วยและอีกหนึ่งปัจจัยที่ทาให้อยากทาโครงงานนี้ขึ้นมาเพราะอยากให้ผู้ที่ประสบปัญหาในทางจิตไม่ถูกมองว่า เป็นตัวประหลาดในสังคมอยากให้ทั้งตัวผู้ที่ประสบปัญหาทางจิตและผู้คนรอบข้างได้รับความรู้และเห็นความสาคัญใน ด้านจิตวิยาและช่วยกันแก้ไขปัญหานี้มากกว่าที่จะปล่อยปะละเลยปัญหานี้ไป ดังนั้นจึงได้มีการคิดโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อ ช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิตและสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคนที่ปกติเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจาวันกับผู้ป่วยทางจิตได้ ถูกต้อง อีกทั้งยังทาให้สารถช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิตได้ด้วย
  • 3. 3 วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) อยากให้คนในสังคมได้รับความรู้ในด้านจิตวิทยารวมถึงพึงตระหนักถึงความสาคัญของจิตวิทยาและ ต้องการที่จะให้ผู้ที่ประสบปัญหาทางจิตสามารถใช้ชีวิตประจาวันร่วมกับผู้อื่นได้ ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) โครงงานนี้ศึกษาเกี่ยวกับหลักการทางจิตวิทยาและการนาหลักการทางจิตวิทยามาปรับใช้ใน ชีวิตประจาวันเพื่อช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาทางจิตใจถูกเข้าใจและยอมรับในสังคมมากขึ้นและเพื่อให้บุคคลธรรมดาเข้าใจผู้ที่ ประสบปัญหาทางจิตใจและพึงตระหนักถึงประโยชน์ของจิตวิทยา หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) 1 ความสาคัญของจิตวิทยา ทุกวันนี้เรื่องของจิตวิทยาเป็นเรื่องที่คนทั่วไปค่อนข้างให้ความสาคัญอย่างมาก เพราะมันเกี่ยวข้องถึงเรื่อง ของสภาพจิตใจภายในที่หากไม่ได้ทาการดูแลให้ดีอาจจะส่งผลในเรื่องที่เราไม่คาดคิดได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผล เรื่องการทาร้ายร่างกาย การฆ่าตัวตาย ส่วนหนึ่งก็มาจากการมีปัญหาทางด้านจิตใจด้วยกันทั้งสิ้น เรื่องของจิตวิทยาจึง กลายเป็นเรื่องที่จาเป็นต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดสาหรับคนที่มีปัญหาทางเรื่องนี้ การใช้ชีวิตประจาวันของเราเองก็ ยังคงจาเป็นต้องมีเรื่องของจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย -ความสาคัญของจิตวิทยาในคนทั่วไป ช่วยทาให้เกิดความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เมื่อเรามีจิตวิทยาที่ ดีในการดารงชีวิตเราก็จะรู้ว่าจริงแล้วอะไรคือสิ่งที่สาคัญในชีวิตของเรา สามารถจัดลาดับความสาคัญของการกระทา ในชีวิตได้เป็นอย่างดี หรือ การสร้างแรงผลักดันให้กับชีวิตของตนเองเพื่อให้รู้สึกว่าชีวิตของตนเองยังคงมีค่าอยู่เสมอ ช่วยในเรื่องการปรับตัวและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับจิตของตนเอง การเรียนรู้ในเรื่องของจิตวิทยาจะช่วยทาให้เรารู้ ถึงวิธีในการปรับตัวเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวันของเราอย่างมีเหตุและผล อาทิเช่น หากรู้ว่าตอนนี้กาลัง โกรธก็จะมีวิธีในการระงับความโกรธที่ดีเพราะเรารู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จาเป็น การรู้ว่าไม่ควรไปสนใจในปมด้อยทั้งของ ตนเองและผู้อื่น การรู้จักแก้ไขเรื่องความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นภายในจิตใจได้เป็นอย่างดี ช่วยในเรื่องของการตัดสินใจเรื่องของตนเองและผู้อื่นได้ จริงแล้วมันเหมือนกับว่าเป็นการมีสติของเราด้วยส่วนหนึ่ง เมื่อเราเรียนรู้และเข้าใจว่าการใช้หลักจิตวิทยาในการดาเนินชีวิตมันก็เป็นเรื่องที่จะทาให้ชีวิตของเราไม่เกิดความ ประมาท เมื่อไม่มีความประมาทก็จะทาให้สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยความยุติธรรมมากขึ้น ใช้เหตุและผลในการ ตัดสินใจได้ดีขึ้น ช่วยให้ชีวิตมีความสุข เมื่อเรามีหลักจิตวิทยาที่ดีในการดาเนินชีวิตเราก็จะรับรู้ได้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่ควรทา สิ่งใดเป็นสิ่งที่ ควรหลีกเลี่ยง รวมไปถึงรู้วิธีในการค้นหาความสุขที่แท้จริงให้กับชีวิตว่ามันคือสิ่งใดกันแน่ เช้าใจโลกและสังคมมากขึ้น จริงๆ แล้วคนเราในทุกวันนี้มีคนป่วยเกี่ยวกับจิตมากขึ้นทุกวันเพียงแต่ไม่ได้มีใครแสดง อาการออกมาก็เท่านั้น หากเรารู้และเข้าใจในหลักจิตวิทยาที่ดีมันก็จะทาให้เราเข้าใจโลก เข้าใจสังคม เรียนรู้กับทุกสิ่ง ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลดีกับตัวเราในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน 2 การนาหลักจิตวิทยามาใช้ในชีวิตประจาวัน สาหรับคนวัยทางาน เรื่อยไปจนถึงวัยกลางคน แม้ชีวิตจะผ่านอะไรมามากรวมถึงเรามีอิสรภาพมากขึ้น มีเงินมากขึ้น จากการทางานแต่หลายคนอาจจะไม่ได้มีความสุขสักเท่าไร อาจจะต้องเครียดจากการทางาน การใช้ชีวิตและอีก มากมาย ทีนี้เราจะมาบอกวิธีสร้างความสุขและช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น มีวิธีการอะไรบ้าง
  • 4. 4 -ยอมรับความเป็นตัวเอง สิ่งแรกที่จะทาให้เรามีความสุขได้ก็คือ เราต้องยอมรับความเป็นตัวเองให้ได้ก่อน แน่นอนว่าไม่มีใครมีแต่ข้อดีหรอกทุก คนต้องมีข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น เชื่อว่าข้อดีเราทุกคนคงรับได้ แต่ข้อเสียล่ะจะรับได้หรือไม่ ถ้าเรารับข้อเสียของ ตัวเองได้ เราก็จะเข้าใจตัวเองได้ดีมากขึ้น การยอมรับตัวเองได้แม้จะเป็นข้อเสีย เราก็จะก้าวข้ามผ่านมันไปได้ สุดท้าย เราก็จะพัฒนาตัวเองเพื่อลดข้อเสียนั้นได้ จนทาให้เราเกิดความสุขขึ้นมา -มองหาสิ่งที่ตัวเองชอบ ความสุขของเราเกิดจากอะไร นี่เป็นคาถามทีเราคงต้องถามหาตัวเองกันหน่อย แน่นอนว่าเรื่องสาคัญก็คือ หากเรา อยากมีความสุข เราต้องมองหาสิ่งที่ตัวเองชอบให้เจอแล้วทามันซะ ใครอยากจะทาอะไร กินอะไร กินหมูกระทะ กินซู ชิ อยากเล่นฟุตบอล อยากไปเที่ยว อยากไปต่างประเทศ อยากใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ อยากเล่นกีฬา อยากได้รถใหม่ อยาก ต่อโมเดลกันดั้ม และอีกมากมาย หากชีวิตเราเดินไปถึงวัยกลางคน บอกเลยว่าอะไรที่มีความสุขก็ทาเลย อย่าไปแคร์ อะไรคนอื่นมากนัก ลองคิดดูว่าเราจะแคร์คนอื่นจนเสียโอกาสทาในสิ่งที่เราอยากทาไปเลยไหม ถ้าคิดแบบนั้นก็แย่นะ -ทดลองทาในสิ่งที่ไม่เคยทา ถ้าเราหาอะไรที่ชอบทาแล้วมีความสุขเจอแล้วก็ทาต่อไป แต่ถ้าทาไปแล้วสักพัก เราขอแนะนาว่าให้ลองทาอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง ชีวิตในวัยทางาน วัยกลางคนอาจจะต้องทานั่นทานี่มากมาย จนทาให้ไม่มีเวลาไปทาอย่างอื่น รวมถึงความกล้า ในการทาอะไรใหม่หมดลงไปด้วย แนะนาว่าลองไปทาอะไรใหม่ๆบ้างไปเที่ยวที่ใหม่ กินอะไรใหม่ ความตื่นเต้นจากการ ทาอะไรใหม่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เรา -ลองทาในสิ่งที่ไม่ชอบ สุดท้าย เมื่อเราเดินทางไปในช่วงชีวิตหนึ่ง เราขอแนะนาว่าให้ลองทาในสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ถนัดดูบ้าง หลายคนอาจจะ เถียงว่าทาไปทาไมในเมื่อไม่ชอบ อันนี้ก็จริง แต่เชื่อไหมว่ามีหลายคนมีสิ่งที่ไม่ชอบ แต่การไม่ชอบกลับเกิดจากการฟัง หรือ โดนห้ามมาก่อน ไม่ได้ไม่ชอบจากการทดลองทาสิ่งนั้นด้วยตัวเอง เพราะงั้นอะไรที่ไม่ชอบให้ลองทาซะ เพื่อยืนยัน กับตัวเองอีกทีว่า ของแบบนี้ไม่เหมาะกับเราเลย ไม่ชอบเลย จะได้เข้าใจตัวเองชัดเจนว่า อะไรชอบหรือไม่ชอบ 3 การเติบโตไปอีกขั้นจากการสนทนาและการรับฟัง บ่อยครั้งกับการเอาแต่เก็บตัว ไม่ยอมเปิดเผยเรื่องราวของตนเองออกมาให้คนอื่นได้รับรู้เลยมันเป็นความรู้สึกแสนน่า อึดอัดใจจนทาเอาหลายคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คนทั่วไปที่ไม่เข้าใจปัญหาของโรคนี้มักมองว่าเป็นโรคกระแส คือ เอะอะอะไรก็บอกว่าตนเองป่วยเป็นภาวะซึมเศร้าเอาไว้ก่อน ทว่าคนที่เป็นจริงๆ เขาไม่ได้คิดแบบนี้ในทางกลับกันเขา เลือกที่ไม่อยากบอกคนอื่นเพราะกลัวคนอื่นไม่เข้าใจหาว่าบ้า แต่สิ่งที่ควรทามากๆ ในการปรับตนเองให้โตขึ้นไปอีกขั้น หนึ่งคือ การสนทนาและการรับฟัง -การเติบโตไปอีกขั้นจากการสนทนาและการรับฟัง ต้องบอกก่อนเลยว่าต่อให้คุณคือคนหนึ่งที่เป็นปกติ ไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไรก็ตามการสนทนาและการรับฟังยังคงเป็น เรื่องสาคัญเสมอ ไม่ใช่แค่การบอกว่าฉันแข็งแรง ฉันสบายดี ฉันอยู่คนเดียวได้ แบบนี้ไม่น่าเกิดประโยชน์ ธรรมชาติ ของมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้อยู่ตัวคนเดียวแต่มนุษย์คือสัตว์สังคมที่จาเป็นต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบ ข้างอยู่เสมอ เราอาจถามว่าความช่วยเหลือของคนรอบข้างมาจากอะไรได้บ้าง สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการให้คาปรึกษาหรือ การพูดคุยเพื่อระบายเรื่องราวต่างๆ นี่คือการใช้ชีวิตของคนปกติที่ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรทางจิตใจคน แต่สาหรับคนที่มีอาการป่วยทางภาวะจิตใจโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคซึมเศร้าการสนทนาและการรับฟังจะช่วยให้ชีวิต คุณพบเจออะไรดีๆ อีกมากเลย คือพื้นฐานของคนป่วยเป็นโรคนี้ความอ่อนแอที่สุดอยู่ตรงจิตใจ เพราะพวกเขาจะคิด ลบตลอดเวลาดังนั้นคนป่วยเป็นภาวะซึมเศร้ายิ่งอยู่แค่ตัวเองมากเท่าไหร่อาการของโรคจะยิ่งเกิดขึ้นได้ง่ายและหนัก กว่าเดิมเท่านั้น การปรึกษา พูดคุย รับฟังแค่คนทั่วไปอาจไม่ใช่เรื่องเพียงพอแต่จาเป็นต้องกระทาสิ่งเหล่านี้กับคนที่มี ความเชี่ยวชาญนั่นคือจิตแพทย์ การพบจิตแพทย์ไม่ใช่การที่คนภายนอกมองว่าคุณคือคนบ้า แต่เราคือผู้ป่วยคนหนึ่งที่ ต้องการการรักษาอย่างถูกต้อง
  • 5. 5 คนเป็นภาวะซึมเศร้าหากปรึกษากับคนทั่วไปอาจได้คาตอบแค่ ทาแบบนั้นสิ เลือกตรงนี้ก่อนสิ ไม่ต้องคิดแบบนั้นก็ได้ ทว่าจริงแล้วมันไม่เหมือนกันเพราะหากให้คาปรึกษาแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น จาเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ อย่างบรรดาจิตแพทย์ที่เรียนเรื่องนี้มาโดยตรงเป็นคนช่วยเหลือ เขาจะมีวิธีการในเรื่องคาพูด การใช้ทักษะต่างๆ แล้ว มันจะออกมาดีเอง คนที่ป่วยก็เหมือนได้ระบายความรู้สึกของตนเองออกมาให้คนอื่นฟังแล้วเข้ารับวิธีการรักษาอย่าง ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อให้หายป่วยจากโรคดังกล่าว มีชีวิตแบบปกติเหมือนคนทั่วไป วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจริงและนาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ว่าข้อมูลไหนที่เรียนรู้แล้วเข้าใจง่ายและเกิดประโยชน์ มากที่สุดจากนั้นนาข้อมูลที่คัดมาแล้วมาจัดพิมพ์เป็นแผ่นพับโดยจัดรูปแบบของแผ่นพับให้น่าสนใจและเข้าใจได้ง่าย และนาไปแจกตามสถานที่ต่างๆหรืออาจจะจัดเป็นนิทรรศการที่ให้ความรู้ทั้งในรูปแบบของการบรรยายและให้ความรู้ จากแผ่นพับที่จัดพิมพ์ไป เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1 คอมพิวเตอร์ 2 แหล่งข้อมูลทั้งจากในอินเตอร์เน็ตและในหนังสือ 3 กระดาษที่ใช้ในการพิมพ์แผ่นพับ งบประมาณ ประมาณ 200-400 บาท (จัดพิมพ์แผ่นพับ)
  • 6. 6 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) คาดว่าหลายๆคนจะได้ความรู้เพิ่มเติมในด้านของจิตวิทยาและเรียนรู้ที่จะปรับใช้ในชีวิตประจาวันได้ และ คาดหวังว่าทั้งผู้ป่วยทางจิตและบุคคลปกติจะสามารถใช้ชีวิตประจาวันร่วมกันได้โดยไม่เกิดการแบ่งแยกกัน สถานที่ดาเนินการ 1 โรงเรียน 2 งานนิทรรศการให้ความรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง 1 วิทยาศาสตร์(ชีววิทยา) 2 พละศึกษา 3 เทคโนโลยีสารสนเทศ 4 ออกแบบ 5 ภาษาไทย แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) เว็บไซต์ https://www.washpsa.org/author/admin/