More Related Content
Similar to โครงร่างคอมคู่1
Similar to โครงร่างคอมคู่1 (20)
โครงร่างคอมคู่1
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน
การกาจัดลูกน้าโดยวิธีธรรมชาติ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว ปณิธิ ศรีสุวรรณนพกุล เลขที่ 3 ชั้น ม.6 ห้อง 8
นางสาว สิรินดา อินทนนท์ เลขที่ 6 ชั้น ม.6 ห้อง 8
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม 1
1. นางสาว ปณิธิ ศรีสุวรรณนพกุล เลขที่ 3
2. นางสาว สิรินดา อินทนนท์ เลขที่ 6
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
การกาจัดลูกน้าโดยวิธีธรรมชาติ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Elimination aegypti by natural
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ปณิธิ ศรีสุวรรณนพกุล ชั้น ม.6/8 เลขที่ 3
นางสาว สิรินดา อินทนนท์ ชั้น ม.6/8 เลขที่ 6
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่องทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2ปีการศึกษา 2558
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ไข้เลือดออก นับได้ว่าเป็นโรคร้ายที่หากใครเป็นแล้วอาจจะทาให้เสียชีวิตได้
เนื่องจากยุงลายเป็นเหตุสาคัญ และในปัจจุบันพุทธศักราช ๒๕๕๘ ได้มีผู้เสียชีวิตเพราะโรคแล้ว
แต่ก็จะเห็นได้ว่าฤดูฝนที่ผ่านมา
ซึ่งจะทาให้เกิดน้าท่วมขังในบางบริเวณต่อจากนั้นก็จะมียุงลายมาวางไข่ในบริเวณที่น้าท่วมขัง
กลุ่มข้าพเจ้าจึงได้คิดวิธีลดจานวนลูกน้ายุงลายโดยไม่ต้องใช้สารเคมีจึงได้คิดทาโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาโด
ยตั้งชื่อว่า ”การกาจัดลูกน้าลูกน้าโดยวิธีธรรมชาติ” เพื่อที่จะช่วยลกจานวนของลูกน้าให้น้อยลงหรือหมดไปในที่สุด
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. เพื่อเป็นสื่อวิธีการกาจัดลูกน้า
2. เพื่อให้ผู้มี่สนใจหรือประสบปัญหาลูกน้ายุงลายเยอะ เข้าใจวิธีกาจัดลูกน้าได้มากยิ่งขึ้น
- 3. 3
3. เพื่อให้รู้ถึงอันตรายของโรคไข้เลือดออก
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
เนื้อหาการกาจัดลูกน้ายุงลายโดยวิธีธรรมชาติ
โดยจะสรุปจากในอินเทอร์เน็ตและมีคลิปประกอบเพื่อง่ายต่อการเข้าใจและจดจา
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
เลี้ยงปลาไว้กินลูกน้า ปลาที่นิยมเลี้ยงกันไว้กินลูกน้าก็คือ ปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลากัด
โดยมักจะเลี้ยงปลาเหล่านี้ไว้ในโอ่ง หรือบ่อซีเมนต์ ไว้สาหรับกินลูกน้าในน้า
ซึ่งจะช่วยควบคุมยุงลายได้ทางหนึ่งโดยให้ใส่ปลานกยูง 2-10 ตัวต่อภาชนะ
แต่หากกลัวว่าปลาจะยิ่งเพาะพันธุ์มากขึ้นก็ให้เลือกเลี้ยงเฉพาะปลาหางนกยูงตัวผู้ก็ได้ ใช้วิธีการลักน้า หากโอ่ง
กระป๋อง ถัง หรือบ่อซีเมนต์มีลูกน้าว่ายไปว่ายมาอยู่ จากนั้นใช้มือหมุนกวนภาชนะประมาณ 2-3รอบ
เพื่อให้ตะกอนสกปรกรวมทั้งลูกน้าที่กระจัดกระจายอยู่ในภาชนะจะถูกแรงหมุนเหวี่ยงของน้า
กวาดไล่มารวมอยู่ที่กึ่งกลางของพื้นภาชนะจากนั้นจึงใช้สายยางที่เตรียมไว้ดูดเอาลูกน้า ตัวโม่ง
และตะกอนกาจัดน้าทิ้งไปพร้อมๆกัน ภาชนะก็จะสะอาดและปลอดลูกน้ายุงลาย
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. คิดค้นหัวข้อในการทาโครงงาน
2. รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
3. ศึกษาและสรุปข้อมูล
4. ออกแบบสื่อที่จะใช้ในการศึกษา
5. เรียบเรียงข้อมูลและจัดทาลงในสื่อ
6.นาเสนอผลงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
2. Internet(Youtube,Google)
3. โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2010
งบประมาณ
50 บาท (ทุนส่วนตัว)
- 4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน ปณิธิ
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล ปณิธิ
3 จัดทาโครงร่างงาน สิรินดา
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน ปณิธิ,สิรินดา
5 ปรับปรุงทดสอบ สิรินดา
6 การทาเอกสารรายงาน ปณิธิ,สิรินดา
7 ประเมินผลงาน ปณิธิ,สิรินดา
8 นาเสนอโครงงาน ปณิธิ,สิรินดา
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1. สื่อการเรียนตามแบบที่วางแผนไว้
2.สื่อการเรียนที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น
สถานที่ดาเนินการ
1. บ้าน
2. ร้านอินเตอร์เน็ทเพื่อการศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1. คอมพิวเตอร์
2. ชีววิทยา
3. ศิลปะ
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
1. http://www.medplant.mahidol.ac.th/user/reply.asp?id=5625
2. http://www.krusarawut.net/wp/?p=3729
3. http://vachiraphuket.go.th/www/public-health/index.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=31
4. https://www.youtube.com/watch?v=zNJc4mtDZR0