More Related Content
Similar to Thanchanok20 (20)
Thanchanok20
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน Water therapy
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาว ธันย์ชนก กุออ เลขที่ 20 ชั้น ม.6 ห้อง 2
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
1น.ส.ธันย์ชนก กุออ เลขที่ 20 2…………………………………เลขที่ ……….
3………………………………….. เลขที่………
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
น้าบาบัด
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Water Therapy
ประเภทโครงงาน การศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ธันย์ชนก กุออ
ชื่อที่ปรึกษา คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 ภาคเรียน_
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากให้ปัจจุบันประเทศมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น และการที่เรามีผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยพาร์
กินสัน ผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวและผู้ป่วยโรคไขข้อต่างๆ รวมถึงผู้ป่วยที่มีปัญหาในระบบกล้ามเนื้อและ
กระดูกสันหลังอีกด้วย นอกจากนี้เนื่องจากสภาวะการใช้ชีวิตประจาวันของผู้คนในปัจจุบันมีความตึงเครียดสูง มี
การใช้งานกล้ามเนื้อที่ไม่ถูกวิธี รวมถึงน้าหนักตัวที่มากเกิน โดยผู้สูงอายุและผู้ป่วยเหล่านี้จะต้องได้รับการบาบัด
ออกกาลัง แต่เนื่องจากการที่ออกกาลังที่มากจนเกินไป และการที่ออกแรงมากอาจทาให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยได้รับ
บาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่จะคอยช่วยในการพยุงร่างกายทาให้ไม่ต้องรับน้าหนักมาก ก็คือ “น้า” โดยเราจะ
ใช้สมบัติความหนาแน่นของน้าช่วยในการพยุงรองรับทุกส่วนของร่างกาย ทาให้สามารถเคลื่อนไหวได้อิสระและ
ง่ายขึ้น ช่วยลดแรงกระแทกและช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในขณะฝึกและออกกาลัง รวมทั้งใช้อุณหภูมิของน้าใน
การช่วยบาบัดอาการต่างๆได้อีกด้วย ซึ่งการบาบัดหรือรักษาด้วยน้าเป็นที่รู้จักในชื่อของ “ธาราบาบัด” ดังนั้น
ทางผู้จัดทาจึงต้องการที่จะศึกษาคุณสมบัติของน้า การใช้ประโยชน์จากน้า รวมทั้งวิธีการออกกาลังในน้าอย่าง
ถูกต้องและปลอดภัยเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาศึกษาได้นาความรู้ที่ทางผู้จัดทาไปปรับใช้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อให้ทราบถึงคุณประโยชน์ของน้า
2.เพื่อให้ทราบถึงหลักการทางานของร่างกาย
3.เพื่อให้ผู้ที่เกิดประโยชน์จากการนาทฤษฎีไปใช้
- 3. 3
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.คุณประโยชน์ของน้า
2.การบาดเจ็บของร่างกายที่สามารถบาบัดด้วยน้าได้
3.ประโยชน์ธาราบาบัด
4.ข้อแนะนาก่อนการใช่ธาราบาบัด
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
การออกกาลังกายในน้ามีอยู่หลายวิธีเช่น การว่ายน้า ,การเดินหรือการวิ่งในน้า ,การเต้น Aerobic ในน้า หรือ
ธาราบาบัด ในวันนี้เราจะมาทาความรู้จักการออกกาลังกายในน้าที่มุ่งเน้นในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ
และข้อต่อในส่วนต่างๆ รวมทั้งป่วยที่มีปัญหาทางระบบประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเรียกการออกกาลังกาย
ประเภทนี้ว่า “ธาราบาบัด”
วิธีออกกาลังกายในน้ามีอะไรบ้าง
- การเดินหรือการวิ่งในน้า น้าในระดับเอวหรือระดับหน้าอกจะช่วงพยุงน้าหนักของร่างกาย ที่กดลงบนเข่าเมื่ออก
กาลังจะทาให้มีอาการปวดเข่า หรือข้ออักเสบน้อยกว่าการวิ่งบนบก นอกจากนั้นแรงต้านของน้าจะทาให้กล้ามเนื้อ
แข็งแรง และใช้พลังงานมากกว่าการเดินบนบก
- การเต้น Aerobic ในน้า( Water aerobics ) เพียงครั้งละ 20 นาทีก็สามารถทาให้หัวใจแข็งแรง
- 4. 4
- การเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ( Water toning/strengthening training) โดยการเคลื่อนไหวร่างกายต้าน
กระแสน้า หรืออุปกรณ์เพื่อเพิ่มกาลังของกล้ามเนื้อ และทาให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
- การฝึกการเคลื่อนไหวของข้อ( Flexibility training)เพื่อให้ได้มีการเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่
- ธาราบาบัด(Water therapy and rehabilitation) ใช้ในการบาบัดทางการแพทย์เช่นการฝึกเดิน การลดอาการปวด
- การทาโยคะในน้า (Water yoga and relaxation ) เป็นการฝึกโยคะในน้าเพื่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และประคอง
การทรงตัว
- การออกกาลังในน้าลึก( Deep-water exercise) เป็นการออกกาลังในน้าลึกโดยที่เท้าไม่สัมผัสพื้น โดยใช้อุปกรณ์
ช่วยลอยตัว
- การวิ่งในน้าลึก(Deep-water jogging/ running ) เหมือนกับการวิ่งบนบก แต่เท้าไม่สัมผัสพื้นโดยใช้อุปกรณ์ช่วย
ลอยตัว
- การออกกาลังโดยใช้กาแพง( Wall exercises)
- การว่ายน้า
ทาไมต้องออกกาลังในน้า
•กระแสน้าอุ่นจะช่วยลดอาการปวด และอาการข้อติด
•กระแสน้าอุ่นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
•น้าจะช่วยลดแรงกระแทกข้อจากการออกกาลัง ทาให้ลดการเสื่อมของข้อ
•แรงต้านของน้าจะทาให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
- 5. 5
•กระแสน้าจะช่วยนวดให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
ธาราบาบัด คือการออกกาลังกายในน้าซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาทางกายภาพบาบัดโดยใช้น้าเป็นสื่อ
หรือตัวกลางในการรักษา โดยอาศัยคุณสมบัติของน้า ช่วยพยุงรองรับทุกส่วนของร่างกาย ทาให้สามารถเคลื่อนไหว
ได้อิสระและง่ายขึ้น ช่วยลดแรงกระแทก และช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในขณะฝึกและออกกาลังในน้า ธาราบาบัด
ทางกายภาพบาบัดนั้นเหมาะสาหรับ
1. ผู้ป่วยที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อเรื้อรัง ส่งผลให้กาลังกล้ามเนื้อลดลงไม่สามารถกลับไป
ใช้งานได้อย่างปกติเป็นเหตุให้กลับมามีอาการอย่างเดิม การทาธาราบาบัดจะมีการออกแบบท่าออกกาลัง
กายให้เหมะสมกับส่วนที่มีปัญหาและเพิ่มกาลังกล้ามเนื้อที่หายไปเพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจาวัน
ได้ทั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นการรักษาอย่างหยั่งยืน เช่นผู้ป่วยที่มีอาการไหล่ติดเมื่อได้ทากายภาพบาบัดจน
ไหล่ที่ติดสามารถยกได้เกือบปกติแล้ว กาลังกล้ามเนื้ออาจยังไม่พร้อมที่จะกลับไปใช้งาน ธาราบาบัดจะ
ช่วยให้ผู้ป่วยมีกาลังเพียงพอและช่วยให้มุมของข้อต่อช่วงสุดท้ายเพิ่มจนกลับมาปกติได้โดยอาศัย
คุณสมบัติของน้า
2. ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว เช่นเดินเซ ก้าวสั้น หรือเดินหลังค่อม ปัญหาเหล่านี้สามารถ
บรรเทาได้ด้วยการออกกาลังกาย ข้อแตกต่างของการออกกาลังกายปกติกับการทาธาราบาบัดคือ น้าจะเป็น
ตัวช่วยพยุงรอบตัวเพื่อให้ง่ายต่อการฝึกเดินหรือออกกาลังกายในท่าต่างๆโดยที่ท่าเหล่านี้อาจทาได้ลาบาก
ถ้าทาบนบก
3. ผู้ป่วยกระดูกหัก หลังผ่าตัดหรือหลังถอดเฝือกโดยเฉพาะในส่วนกระดูกสันหลังและกระดูกขา
การเริ่มฝึกเคลื่อนไหวให้กลับมาเป็นปกติจะมีข้อจากัดคือความเจ็บแผลผ่าตัดและข้อต่อที่ยึดติดทาให้ยาก
ต่อการฝึกฝน ธาราบาบัดจะมีส่วนช่วยในการพยุงเพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหวและลดความเจ็บปวด
กล้ามเนื้อ มีผลทางด้านจิตใจคือช่วยลดความกลัวที่จะลงน้าหนักได้อย่างปกติ
4. ผู้ป่วยที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง จากโรคอัมพฤกษ์หรืออัมพาต โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อทั้ง
เฉียบพลันและเรื้อรังต่างๆ การฝึกการเคลื่อนไหวในน้าจะช่วยให้ง่ายต่อการทรงตัว
5. นอกจากผู้ป่วยแล้วบุคคลปกติที่มีปัญหาเรื่อง น้าหนักตัว ความเครียด กล้ามเนื้อตึงจากการใช้งาน
ไม่ถูกวิธีและมากเกินไป การทาธาราบาบัดก็สามารถแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้
กล่าวโดยสรุปคือประโยชน์ของธาราบาบัด คือช่วยลดแรงกระแทกของการออกกาลังกาย, แรงต้านของน้า
จะทาให้ต้องออกแรงมากทาให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น, ทาให้ข้อมีการเคลื่อนไหวดีขึ้น, การทรงตัวดีขึ้น ,ใช้
เป็นส่วนหนึ่งในการลดน้าหนัก และช่วยผ่อนคลายลดความเครียดอีกด้วย แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะ
เหนื่อยง่ายหรือมีความเจ็บปวดที่รุนแรงควรจะอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือนักกายภาพบาบัด เพื่อ
ประโยชน์สูงสุดแก่ตัวผู้ป่วยเอง
- 7. 7
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.มีการนาความรู้ไปใช้ได้จริง
2.มีการนาความรู้ไปต่อยอดได้
3.ผู้ที่ปฏิบัติหายจากอาการป่วย
สถานที่ดาเนินการ
1.บ้าน
2.โรงเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.การงานและเทคโนโลยี
2.สุขศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://www.pt.mahidol.ac.th/knowledge/?p=62
https://www.bangkokhospital.com/index.php/th/diseases-treatment/aquatherapy
https://www.siamhealth.net/public_html/Health/good_health_living/exercise/waterexer.htm