testset

1. บทที่ 1
บทนำ
1.1 ควำมสำคัญและทมี่ำของปัญหำทที่ำ โครงกำรวิจัย
ปัจจุบัน สถาบันศึกษามีการแข่งขันกันด้านประ กัน คุณภ าพการศึกษากันสูงมาก
ทั้ง นี้เ พื่อ เ ป็น ก า ร พัฒ น า คุณ ภ า พ ข อ ง ก า ร เ รีย น ก า ร ส อ น
ร ว ม ไ ป ถึง ง า น วิจัย แ ล ะ ก า ร ใ ห้บ ริก า ร ท า ง วิช า ก า ร ข อ ง ท า ง ส ถ า บัน เ อ ง
เพื่ออาน วยค วามส ะ ดวก ใ ห้แก่บุค ลากร แล ะ นักศึกษ าใ น การสืบค้น โครง ก ารวิจัย
ปัจจุบันขั้นตอนการจัดเก็บ โครงการวิจัยมีการจัดเก็บใ นรูปแบบฟอร์มเอกสารแต่
ทั้งนี้ใน แต่ละ ปีการศึกษ าจะ มีจานวน โครง การวิจัยที่จะ ต้องน ามาจัดเก็บเพิ่มขึ้นทุกปี
ซึ่งการจัดเก็บในรูปแบบของฟอร์มเอกสารนั้นยิ่งข้อมูลมีจา นวนมากในการค้นหาทา ให้ต้องใช้เวลา
มาก ขึ้น จาก ก ารจัดเ ก็บ ใ น รูป แ บ บ ฟ อร์มเ อก ส าร ท าใ ห้ก ารค้น ห า โค รง การ วิจัย
จึง ท า ไ ด้ย า ก ขึ้น ต า ม จ า น ว น ข อ ง เ อ ก ส า ร ที่เ พิ่ม ขึ้น
ดังนั้น จึง ต้อ ง อ า ศัยเ ท ค โน โ ล ยีส าร ส น เ ท ศ เข้าม าช่ว ย จัด ก าร แ ล ะ แ ส ด ง ข้อ มูล
เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่ สามารถบริหารจัดการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
โครงสร้างของระบบที่ออกแบบจะให้ผู้ใช้งานทา การติดต่อกบัระบบผา่นทางคอมพิวเตอร์โดยเรียก
โปรแกรมบราวเซอร์ออนไลน์ผา่นทางระบบอินเตอร์เน็ตโดยจะติดตอ่เข้ามายังเว็บเซิร์ฟเวอร์แล้วต
รวจสอบสิทธิการใช้งานผ่านทางระบบฐานข้อมูล ส่งผลให้สามารถสืบค้นได้ง่ายและรวดเร็ว
ทา ให้ประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงกำรวิจัย
เพื่อพัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูลโครงการวิจัยนักศึกษาออนไลน์ กรณีศึกษา:
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
1.3 ขอบเขตของโครงกำรวิจัย
ระบบการจัดการฐานข้อมูลโครงการวิจัยนักศึกษาออนไลน์ กรณีศึกษา:
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ สามารถแบง่กลุม่ผู้ใช้งานระบบออกเป็น 2 กลุม่ดังนี้
1.3.1 ผู้ดูแลระบบ
1.3.1.1 สามารถจัดการข้อมูลผู้ดูแลระบบได้
1.3.1.2 สามารถจัดการข้อมูลคณะและข้อมูลสาขาได้

2. 2
1.3.1.3 สามารถจัดการข้อมูลอาจารย์ที่ปรึกษาได้
1.3.1.4 สามารถจัดการข้อมูลผู้วิจัยได้
1.3.1.5 สามารถจัดการข้อมูลโครงการวิจัยได้
1.3.1.6 สามารถจัดการข้อมูลความคิดเห็นเกยี่วกับโครงการวิจัยได้
1.3.1.7 สามารถออกรายงานได้ดังนี้
1) รายงานข้อมูลโครงการวิจัยประจา ปี
2) รายงานข้อมูลโครงการวิจัยของคณะ
3) รายงานข้อมูลผู้วิจัย
1.3.2 ผู้ใช้งานระบบ
1.3.2.1 สามารถค้นหาข้อมูลโครงการวิจัยได้โดย
1) สามารถค้นหาได้จากคณะและสาขา
2) สามารถค้นหาได้โครงการวิจัยลา่สุด
3) สามารถค้นหาได้จากอาจารย์ที่ปรึกษา
4) สามารถค้นหาได้จากชื่อผู้วิจัย
1.3.2.2 สามารถแสดงความคิดเห็นเกยี่วกบัโครงการวิจัยได้
1.4 เครื่องมือทใี่ช้ในกำรพัฒนำโครงกำรวิจัย
1.4.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
1.4.1.1 คอมพิวเตอร์พีซี*หน่วยประมวลผลกลางขั้นต่า *Intel*Pentium 4*
ความเร็ว 2.0 GHz.หรือสูงกวา่
1.4.1.2 หน่วยความจา แรม*DDR*ขั้นต่า ขนาด*512*MB.หรือมากกวา่
1.4.1.3 พื้นที่หน่วยเก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์*IDE*หรือ*Sataขั้นต่า ขนาด*40 GB.*
หรือมากกวา่
1.4.2 ซอฟแวร์ (Software)
1.4.2.1 ระบบปฏิบัติการ*Microsoft Windows XP
1.4.2.2 โปรแกรม*Adobe Photo Shop CS3
1.4.2.3 โปรแกรม*EditPlus 3
1.4.2.4 โปรแกรม ภาษา PHP
1.4.2.5 โปรแกรม AppServ 2.5.10
1.4.2.6 โปรแกรม Adobe Dreamweaver CS3

3. 3
1.5 ระยะเวลำทำ กำรวิจัยและแผนกำรดำเนินงำนตลอดโครงกำรวิจัย
ตำรำงที่1.1 แสดงระยะเวลาการดา เนินงาน
กระบวนการพัฒนา
ระยะเวลาการดา เนินงาน
ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย.
1. ศึกษาปัญหาและความเป็นไป
2. นาเสนอหัวข้อและเค้าโครงเรื่อง
3. วิเคราะห์ระบบงาน
4. ออกแบบระบบงาน
5. เขียนโปรแกรม
6. ทดสอบโปรแกรม
7. ปรับปรุงแกไ้ขโปรแกรม
8. นามาใช้งาน
หมายเหตุ สัญลักษณ์ หมายถึง ระยะเวลาดา เนินงาน
1.6 คำนิยำมศัพท์เฉพำะ
1.6.1 ผู้ใช้ระบบ หมายถึง บุคคลทั่วไปที่ต้องการค้นหาโครงการวิจัย
1.6.2 โ ค ร ง ก า ร วิจัย ห ม า ย ถึง ผ ล ง า น วิจัย ข อ ง นัก ศึก ษ า ป ริญ ญ า ต รี
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
1.6.3 ระบบเครือขา่ยอินเทอร์เน็ต หมายถึง การค้นหาโครงการวิจัยบนระบบอินเทอร์เน็ต
1.6.4 จัดการข้อมูล หมายถึง การเพิ่ม ลบ แกไ้ข ข้อมูล
1.7 ประโยชน์ทคี่ำดว่ำจะได้รับ
1.7.1 ลดเวลาการทา งานโดยรวม เมอื่เปรียบเทียบกบัการทา งานรูปแบบเดิม
1.7.2 ลดความซ้า ซ้อนของข้อมูล และลดขั้นตอนการทา งานได้
1.7.3 เข้าถึงข้อมูลได้อยา่งสะดวกรวดเร็ว ผา่นระบบเครือขา่ยอินเทอร์เน็ต
1.7.4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทา งานและกระบวนการให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น
1.7.5 เพื่อเพิ่มความถูกต้องในการค้นหาข้อมูลโครงการวิจัย

4. 4