SlideShare a Scribd company logo
Baroque
คำ ว่ำ บำโร้ค ( Baroque ) เป็นคำ ภำษำฝรั่งเศส มีที่มำจำกภำษำอิตำเลี่ยน คำ ว่ำ บะร็อคโค่( 
Barocco ) ซึ่งมีควำมหมำยว่ำ “ควำมหรูหรำอลังกำร หรือฟุ่มเฟือยเกินกว่ำควำมจำ เป็น” เป็นคำ ที่นัก 
ประวัติศำสตร์ศิลปะในช่วงปี ค.ศ.1860 ใช้เรียกช่วงระยะเวลำของรูปแบบศิลปะยุโรปในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 
17-18 เพื่อกำรแบ่งแยกช่วงระยะเวลำในทำงประวัติศำสตร์ศิลปะ ในช่วงระยะเวลำที่อยู่ระหว่ำงยุคเรอแนส 
ซองส์( Renaissance ) และยุคสมัยใหม่ (Modern) โดยกำรใช้คำ เรียก บำโร้ค นั้น แต่แรกจะจำ กัด 
เฉพำะกำรเรียกงำนศิลปะ ประเภทจิตรกรรม ประติมำกรรม และสถำปัตยกรรม เท่ำนั้น ซึ่งในเวลำต่อมำ 
ในทำงสถำปัตยกรรม ก็ยังมีกำรแบ่งแยกออกเป็นศิลปะในยุคบำโร้ค และศิลปะในยุค ร็อคโคโค่ 
(Roccoco) เพื่อจำ แนกควำมแตกต่ำงในรำยละเอียดเกี่ยวกับกำรตกแต่งในทำงสถำปัตยกรรมในฝรั่งเศสยุค 
คริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ออกจำกกัน
ศิลปะในยุคบำโร้คนั้น แรกเริ่มถือกำ เนิดขึ้นในประเทศอิตำลี ในช่วงปลำยคริสต์ศตวรรษที่16 แล้วต่อมำค่อย 
แพร่หลำยเข้ำไปในประเทศฝรั่งเศส และมีพัฒนำกำรจนประเทศฝรั่งเศสกลำยเป็นศูนย์กลำงของศิลปะในยคุบำโร้ค 
ภำยใต้พระบรมรำชูปถัมภ์ของพระเจ้ำหลุยส์ที่ 14 ซึ่งทรงมีพระรำชประสงค์จะให้ฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลำงของ 
ศิลปะวัฒนธรรมของยุโรปทั้งปวง จนถือได้ว่ำศิลปะในยุคบำโร้ค เป็นเอกลักษณ์ของฝรั่งเศส จนถือเป็นแบบฉบับที่ 
มีอิทธิพลแพร่หลำยไปสู่ประเทศอื่น ๆ 
พระเจ้าหลุยส์ที่14
โดยเอกลักษณ์ของสถำปัตยกรรมในยุคบำโร้ค คือ กำรแต่งเติมลวดลำยต่ำง ๆ นำนำให้แลดูวิจิตรอลังกำร โดย 
ลวดลำยที่ใช้ส่วนใหญ่ คือ ลำยใบไม้ ดอกไม้ ช่อดอกไม้ เส้นสำยที่ใช้ ส่วนมำกจะใช้เส้นโค้งที่อ่อนช้อย แต่จะใช้กำรจัด 
วำงให้มีลักษณะสมมำตร มีกำรใช้ลวดลำยประดับประดำจนดูหนำ และรกเกินควำมจำ เป็น สีที่ใช้ประดับตกแต่ง มักจะ 
เป็น สีทอง เพื่อตัดกับสีอื่น ๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงควำมมั่งคั่ง หรูหรำ ขนำดของสิ่งก่อสร้ำง ก็มักจะออกแบบให้มีลักษณะ 
เช่นเดียวกัน คือ ให้มีขนำดกว้ำงขวำง เพดำนสูงโปร่ง และประดับลวดลำยปูนปั้นวิจิตรบรรจง ประดับด้วยศิลปวัตถุที่ล้ำ 
ค่ำ เช่น ภำพวำดสีน้ำ มันประดับกรอบสีทอง เครื่องกระเบื้องเคลือบประดับด้วยทองคำ หรือเครื่องแก้วเจียระไนประดับ 
ด้วยทองคำ เป็นต้น ตัวอย่ำงของสถำปัตยศิลป์ในสมัยบำโร้ค ที่สมบูรณ์แบบและสำ คัญ ได้แก่ กำรตกแต่งภำยในมหำ 
วิหำรนักบุญเปโตร นครวำติกัน ฝีมือของ แบร์นินี่ ( Bernini ) และกำรออกแบบตกแต่งพระรำชวังแวร์ซำยส์ของมอง 
ซำร์ท ( Mansart ) และ เลอ โว ( Le Vau) 
นักบุญเปโตร Bernini Le Vau Mansart
นครวาติกัน 
พระราชวังแวร์ซายส์
ส่วนศิลปะด้ำนอื่น ๆ เช่น จิตรกรรม ประติมำกรรม วรรณกรรม เริ่มหลุดพ้นจำกกำรครอบงำทำงควำมคิดจำก 
ศำสนำคริสต์ ซึ่งเป็นผลมำจำกกำรปฏิรูปศำสนำในช่วงปลำยคริสตศตวรรษที่ 16 ทำ ให้ผู้คนหลุดพ้นจำกกรอบ 
ควำมคิด และแนวควำมคิดทำงศำสนำ หันมำสนใจเรื่องนอกศำสนำมำกยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จำก ควำมนิยมในกำร 
นำ เอำ เทวปกรณัมกรีก-โรมัน ซึ่งเคยถือว่ำเป็นเรื่องนอกรีต ( Heretic ) มำศึกษำและนำ มำใช้เป็นพื้นฐำนของกำร 
สร้ำงสรรค์ผลงำนทำงศิลปะในยุคบำโร้คกันอย่ำงกว้ำงขวำง ซึ่งศิลปะบำโร้คในรูปแบบทั้งหลำยทั้งปวงเหล่ำนี้ ก็ 
เป็นไปเพื่อแสดงให้เห็นถึงควำมหรูหรำมั่งคั่งทำงวัตถุ และเป็นเครื่องแสดงฐำนะทำงสังคมในยุคสมัยนั้น ซึ่งนับได้ว่ำ 
เป็นช่วงระยะเวลำที่มีช่องว่ำงทำงสังคมและเศรษฐกิจระหว่ำงชนชั้นมำกที่สุด
ประติมากรรม
ยุคนี้เป็นยุคของควำมตื่นตัวทำงภูมิปัญญำและกำรใช้เหตุผลเป็นวิทยำศำสตร์ เป็นยุคของกำรล่ำอำณำนิคม 
และแสวงหำแหล่งวัตถุดิบสำ หรับโรงงำนอุตสำหกรรมในต่ำงแดน เกิดกำรเปลี่ยนแปลงหลำยอย่ำงอันเป็นผลมำ 
จำกกำรที่กำลิเลโอ พบทฤษฎีใหม่ว่ำดวงอำทิตย์เป็นศูนย์กลำงของจักรวำลมิใช่โลกตำมที่เคยเชื่อกันมำ กำรค้นพบ 
ทำงวิทยำศำสตร์ทำ ให้วิทยำกำรเจริญก้ำวหน้ำขึ้นเป็นลำ ดับ มีกำรค้นพบกฎคณิตศำสตร์ และกำรประดิษฐ์ 
กล้องโทรทัศน์ของนิวตัน

More Related Content

More from Aniwat Suyata

014 shinden ชัชฎาพร
014 shinden ชัชฎาพร014 shinden ชัชฎาพร
014 shinden ชัชฎาพร
Aniwat Suyata
 
011 gothic คฑาวุธ
011 gothic คฑาวุธ011 gothic คฑาวุธ
011 gothic คฑาวุธ
Aniwat Suyata
 
012 ancient chinese wooden architecture นิลลดา
012 ancient chinese wooden architecture นิลลดา012 ancient chinese wooden architecture นิลลดา
012 ancient chinese wooden architecture นิลลดา
Aniwat Suyata
 
009 byzentine อนิวัตร
009 byzentine อนิวัตร009 byzentine อนิวัตร
009 byzentine อนิวัตร
Aniwat Suyata
 
008 roman empire วริทธินันท์
008 roman empire วริทธินันท์008 roman empire วริทธินันท์
008 roman empire วริทธินันท์
Aniwat Suyata
 
010 romanesque ปิยะพัทธ์
010 romanesque ปิยะพัทธ์010 romanesque ปิยะพัทธ์
010 romanesque ปิยะพัทธ์
Aniwat Suyata
 
007 ancient greek architecture ศศิประภา
007 ancient greek architecture ศศิประภา007 ancient greek architecture ศศิประภา
007 ancient greek architecture ศศิประภา
Aniwat Suyata
 
006 hindu ทัศนีย์
006 hindu ทัศนีย์006 hindu ทัศนีย์
006 hindu ทัศนีย์
Aniwat Suyata
 
005 aztec ชัยทัต
005 aztec ชัยทัต005 aztec ชัยทัต
005 aztec ชัยทัต
Aniwat Suyata
 
003 maya วารุณี
003 maya วารุณี003 maya วารุณี
003 maya วารุณี
Aniwat Suyata
 
004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร
Aniwat Suyata
 
002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล
Aniwat Suyata
 
001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์
Aniwat Suyata
 
002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพลAniwat Suyata
 
001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์Aniwat Suyata
 
003 maya วารุณี
003 maya วารุณี003 maya วารุณี
003 maya วารุณีAniwat Suyata
 
002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพลAniwat Suyata
 
001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์Aniwat Suyata
 

More from Aniwat Suyata (20)

014 shinden ชัชฎาพร
014 shinden ชัชฎาพร014 shinden ชัชฎาพร
014 shinden ชัชฎาพร
 
011 gothic คฑาวุธ
011 gothic คฑาวุธ011 gothic คฑาวุธ
011 gothic คฑาวุธ
 
012 ancient chinese wooden architecture นิลลดา
012 ancient chinese wooden architecture นิลลดา012 ancient chinese wooden architecture นิลลดา
012 ancient chinese wooden architecture นิลลดา
 
009 byzentine อนิวัตร
009 byzentine อนิวัตร009 byzentine อนิวัตร
009 byzentine อนิวัตร
 
008 roman empire วริทธินันท์
008 roman empire วริทธินันท์008 roman empire วริทธินันท์
008 roman empire วริทธินันท์
 
010 romanesque ปิยะพัทธ์
010 romanesque ปิยะพัทธ์010 romanesque ปิยะพัทธ์
010 romanesque ปิยะพัทธ์
 
007 ancient greek architecture ศศิประภา
007 ancient greek architecture ศศิประภา007 ancient greek architecture ศศิประภา
007 ancient greek architecture ศศิประภา
 
006 hindu ทัศนีย์
006 hindu ทัศนีย์006 hindu ทัศนีย์
006 hindu ทัศนีย์
 
005 aztec ชัยทัต
005 aztec ชัยทัต005 aztec ชัยทัต
005 aztec ชัยทัต
 
003 maya วารุณี
003 maya วารุณี003 maya วารุณี
003 maya วารุณี
 
004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร004 ancient indian พัชรพร
004 ancient indian พัชรพร
 
002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล
 
001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์
 
002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล
 
001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์
 
003 maya วารุณี
003 maya วารุณี003 maya วารุณี
003 maya วารุณี
 
002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล002 ancient egypt กัมพล
002 ancient egypt กัมพล
 
001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์001 persia ณรงค์ศักดิ์
001 persia ณรงค์ศักดิ์
 
003 maya
003 maya003 maya
003 maya
 
002 ancient egypt
002 ancient egypt 002 ancient egypt
002 ancient egypt
 

016 baroque ธีรศักดิ์

  • 2. คำ ว่ำ บำโร้ค ( Baroque ) เป็นคำ ภำษำฝรั่งเศส มีที่มำจำกภำษำอิตำเลี่ยน คำ ว่ำ บะร็อคโค่( Barocco ) ซึ่งมีควำมหมำยว่ำ “ควำมหรูหรำอลังกำร หรือฟุ่มเฟือยเกินกว่ำควำมจำ เป็น” เป็นคำ ที่นัก ประวัติศำสตร์ศิลปะในช่วงปี ค.ศ.1860 ใช้เรียกช่วงระยะเวลำของรูปแบบศิลปะยุโรปในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 17-18 เพื่อกำรแบ่งแยกช่วงระยะเวลำในทำงประวัติศำสตร์ศิลปะ ในช่วงระยะเวลำที่อยู่ระหว่ำงยุคเรอแนส ซองส์( Renaissance ) และยุคสมัยใหม่ (Modern) โดยกำรใช้คำ เรียก บำโร้ค นั้น แต่แรกจะจำ กัด เฉพำะกำรเรียกงำนศิลปะ ประเภทจิตรกรรม ประติมำกรรม และสถำปัตยกรรม เท่ำนั้น ซึ่งในเวลำต่อมำ ในทำงสถำปัตยกรรม ก็ยังมีกำรแบ่งแยกออกเป็นศิลปะในยุคบำโร้ค และศิลปะในยุค ร็อคโคโค่ (Roccoco) เพื่อจำ แนกควำมแตกต่ำงในรำยละเอียดเกี่ยวกับกำรตกแต่งในทำงสถำปัตยกรรมในฝรั่งเศสยุค คริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ออกจำกกัน
  • 3. ศิลปะในยุคบำโร้คนั้น แรกเริ่มถือกำ เนิดขึ้นในประเทศอิตำลี ในช่วงปลำยคริสต์ศตวรรษที่16 แล้วต่อมำค่อย แพร่หลำยเข้ำไปในประเทศฝรั่งเศส และมีพัฒนำกำรจนประเทศฝรั่งเศสกลำยเป็นศูนย์กลำงของศิลปะในยคุบำโร้ค ภำยใต้พระบรมรำชูปถัมภ์ของพระเจ้ำหลุยส์ที่ 14 ซึ่งทรงมีพระรำชประสงค์จะให้ฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลำงของ ศิลปะวัฒนธรรมของยุโรปทั้งปวง จนถือได้ว่ำศิลปะในยุคบำโร้ค เป็นเอกลักษณ์ของฝรั่งเศส จนถือเป็นแบบฉบับที่ มีอิทธิพลแพร่หลำยไปสู่ประเทศอื่น ๆ พระเจ้าหลุยส์ที่14
  • 4. โดยเอกลักษณ์ของสถำปัตยกรรมในยุคบำโร้ค คือ กำรแต่งเติมลวดลำยต่ำง ๆ นำนำให้แลดูวิจิตรอลังกำร โดย ลวดลำยที่ใช้ส่วนใหญ่ คือ ลำยใบไม้ ดอกไม้ ช่อดอกไม้ เส้นสำยที่ใช้ ส่วนมำกจะใช้เส้นโค้งที่อ่อนช้อย แต่จะใช้กำรจัด วำงให้มีลักษณะสมมำตร มีกำรใช้ลวดลำยประดับประดำจนดูหนำ และรกเกินควำมจำ เป็น สีที่ใช้ประดับตกแต่ง มักจะ เป็น สีทอง เพื่อตัดกับสีอื่น ๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงควำมมั่งคั่ง หรูหรำ ขนำดของสิ่งก่อสร้ำง ก็มักจะออกแบบให้มีลักษณะ เช่นเดียวกัน คือ ให้มีขนำดกว้ำงขวำง เพดำนสูงโปร่ง และประดับลวดลำยปูนปั้นวิจิตรบรรจง ประดับด้วยศิลปวัตถุที่ล้ำ ค่ำ เช่น ภำพวำดสีน้ำ มันประดับกรอบสีทอง เครื่องกระเบื้องเคลือบประดับด้วยทองคำ หรือเครื่องแก้วเจียระไนประดับ ด้วยทองคำ เป็นต้น ตัวอย่ำงของสถำปัตยศิลป์ในสมัยบำโร้ค ที่สมบูรณ์แบบและสำ คัญ ได้แก่ กำรตกแต่งภำยในมหำ วิหำรนักบุญเปโตร นครวำติกัน ฝีมือของ แบร์นินี่ ( Bernini ) และกำรออกแบบตกแต่งพระรำชวังแวร์ซำยส์ของมอง ซำร์ท ( Mansart ) และ เลอ โว ( Le Vau) นักบุญเปโตร Bernini Le Vau Mansart
  • 6. ส่วนศิลปะด้ำนอื่น ๆ เช่น จิตรกรรม ประติมำกรรม วรรณกรรม เริ่มหลุดพ้นจำกกำรครอบงำทำงควำมคิดจำก ศำสนำคริสต์ ซึ่งเป็นผลมำจำกกำรปฏิรูปศำสนำในช่วงปลำยคริสตศตวรรษที่ 16 ทำ ให้ผู้คนหลุดพ้นจำกกรอบ ควำมคิด และแนวควำมคิดทำงศำสนำ หันมำสนใจเรื่องนอกศำสนำมำกยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จำก ควำมนิยมในกำร นำ เอำ เทวปกรณัมกรีก-โรมัน ซึ่งเคยถือว่ำเป็นเรื่องนอกรีต ( Heretic ) มำศึกษำและนำ มำใช้เป็นพื้นฐำนของกำร สร้ำงสรรค์ผลงำนทำงศิลปะในยุคบำโร้คกันอย่ำงกว้ำงขวำง ซึ่งศิลปะบำโร้คในรูปแบบทั้งหลำยทั้งปวงเหล่ำนี้ ก็ เป็นไปเพื่อแสดงให้เห็นถึงควำมหรูหรำมั่งคั่งทำงวัตถุ และเป็นเครื่องแสดงฐำนะทำงสังคมในยุคสมัยนั้น ซึ่งนับได้ว่ำ เป็นช่วงระยะเวลำที่มีช่องว่ำงทำงสังคมและเศรษฐกิจระหว่ำงชนชั้นมำกที่สุด
  • 8. ยุคนี้เป็นยุคของควำมตื่นตัวทำงภูมิปัญญำและกำรใช้เหตุผลเป็นวิทยำศำสตร์ เป็นยุคของกำรล่ำอำณำนิคม และแสวงหำแหล่งวัตถุดิบสำ หรับโรงงำนอุตสำหกรรมในต่ำงแดน เกิดกำรเปลี่ยนแปลงหลำยอย่ำงอันเป็นผลมำ จำกกำรที่กำลิเลโอ พบทฤษฎีใหม่ว่ำดวงอำทิตย์เป็นศูนย์กลำงของจักรวำลมิใช่โลกตำมที่เคยเชื่อกันมำ กำรค้นพบ ทำงวิทยำศำสตร์ทำ ให้วิทยำกำรเจริญก้ำวหน้ำขึ้นเป็นลำ ดับ มีกำรค้นพบกฎคณิตศำสตร์ และกำรประดิษฐ์ กล้องโทรทัศน์ของนิวตัน