SlideShare a Scribd company logo
1 of 71
Download to read offline
ผศ.ดร.เจษฎา ตัณฑนุช
พีชคณิตของพหุนาม
-การแยกตัวประกอบ ทฤษฎีเศษเหลือ การแยกเศษส่ วนย่ อย
 การหาผลเฉลยของสมการพหุนามกาลังมากกว่าสอง
ฟังก์ ชันและกราฟ
- กราฟของสมการเชิงเส้ น เส้ นโค้ง
-ภาคตัดกรวย วงกลม วงรี พาราโบลา ไฮเปอร์ โบลา
-การย้ ายแกน กราฟและพีชคณิตของรูปทรงพืนฐาน
                                        ้
พีชคณิตของพหุนาม
พนุ นามเป็ นการขยายความคิดจากฟั งก์ชนเชิ งเส้น โดย
                                      ั
พนุ นามและสมการพนุ นาม มีความยุ่งยาก และซับซ้อน
ในการหาผลเฉลยมากกว่า ปั ญ หาเชิ ง เส้ น แต่ ส ามารถ
นาไปประยุกต์ แก้ปัญหาในชีวิตประจาวันได้หลากหลาย
มากขึ้นเช่นกัน
พหุนาม
                     ่
เราเรี ยกพจน์ซ่ ึงอยูในรู ป
                              n 1
  P( x)  an x  an1 x
                  n
                                        a2 x  a1 x  a0
                                               2



โดยที่ an  0
 ว่าพหุนาม (polynomail) ระดับขั้น (degree) n
  และเรี ยก an , an1 ,, a2 , a1, a0
  ซึ่งเป็ นค่าคงตัวว่า สัมประสิทธิ์ (coefficients) ของพหุนาม
P( x)  an xn  an1 x n1    a2 x 2  a1 x  a0

   เรี ยก an ว่าสัมประสิ ทธิ์หน้าพจน์     x   n



   เรี ยก an1 ว่าสัมประสิ ทธิ์หน้าพจน์ x n1

                      
   เรี ยก a1 ว่าสัมประสิ ทธิ์หน้าพจน์     x

   เรี ยก a0 ว่าสัมประสิ ทธิ์หน้าพจน์     1
ตัวอย่ าง (quardratic polynomail)
x 2  2 x  1 เป็ นพหุนามระดับขั้น


 x  2x
  2
                  เป็ นพหุนามระดับขั้น

 x 1
   2
                   เป็ นพหุนามระดับขั้น

2 x x   2
                   เป็ นพหุนามระดับขั้น
ตัวอย่ าง (cubic polynomail)
x 3  3x 2  3x  1          เป็ นพหุนามระดับขั้น



  10x  x     3
                      เป็ นพหุนามระดับขั้น


   x x
    3     2
                       เป็ นพหุนามระดับขั้น
ตัวอย่ าง (quartic polynomail)
x4  4 x3  6 x2  4 x  1 เป็ นพหุนามระดับขั้น



    x  2x
     4
                  เป็ นพหุนามระดับขั้น


    x 1
     4
                  เป็ นพหุนามระดับขั้น
กาหนดให้ P( x)  4x  2x  5
                  2



จงหาค่า P(1) P(0.5) P(2)      P( y )
การเท่ ากันของพหุนาม
สองพหุนามใดๆ จะมีคาเท่ากันก็ต่อเมื่อ มีสมประสิ ทธิ์
                    ่                   ั
หน้า x เท่ากันทุก k=1,…,n
      k



                           ตัวอย่ าง
      2 x  4 x  7 x 10  Ax  Bx  Cx  D
         3       2                     3     2


       A
       B
       C
       D
ตัวอย่ าง
 Ax3  Bx2  Cx  D  x2  4
A
B
C
D
คุณสมบัติความเป็ นเชิงเส้ นของพหุนาม
1. การคูณด้วยค่าคงตัวใดๆ
  an x  an 1 x
        n               n 1
                                  a2 x  a1 x  a0  
                                             2



 an  x   n
                  an 1  x   n 1
                                            a2  x   a1  x   a0 
                                                       2




                                         ตัวอย่ าง
 4  2 x  4 x  7 x  10  
        3           2
ตัวอย่ าง
(2)  2 x  4 x  7 x  10  
         3      2




 (0)  2 x  4 x  7 x  10  
         3      2
2. การบวกกันของพหุนาม
  ให้ทาการบวกและลบกันเฉพาะสัมประสิ ทธิ์ที่อยูหน้า x
                                             ่          k


   ตรงกันเท่านั้น
   an x n    a1 x  a0    bn x n    b1 x  b0 
    an  bn  x n     a1  b1  x   a0  b0 


   an x n    a1 x  a0    bn x n    b1 x  b0 
    an  bn  x n     a1  b1  x   a0  b0 
ตัวอย่ าง
 2x   3
            4 x  7 x  10    x  2 x  4 x  1 
                2                 4      2




 2x   3
            4 x  7 x  10    x  2 x  4 x  1 
                2                3       2
แบบฝึ กหัด
 2x   3
            4 x  7 x  10    4 x  2 x  5 
                2                  2




 2x   3
            4 x  7 x  10    4 x  5 
                2                  2
จงหาค่ า
 2  2 x  4 x  7 x  10   3  4 x  5 
       3     2                     2
การคูณกันของพหุนาม
การคูณกันของพหุนามให้ทาการคูณกระจายเหมือน
การคูณตัวเลขทัวไป
              ่
( x  1)(1  x) 
(2 x  1)(2  x) 




(2  x)(2 x  1) 
กาหนดให้   P( x)   และ   R( x)   เป็ นพหุนาม

          ่
สังเกตได้วาการคูณกันของพหุนาม มีคุณสมบัติสลับที่
                   P( x) R( x)  R( x) P( x)
( x  1)(1  x  x ) 
                 2
( x  1)( x  x  1) 
         2
แบบฝึ กหัด
จงหาค่า   P( x ) R( x )   เมื่อ
P( x)  4 x  5               R( x )  3 x 3  x 2  4 x  6
การยกกาลังของพหุนาม
               P( x)     P( x)P( x)P( x)
                      n
                             
                                          
                                  n times


( x  1)  ( x  1)( x  1) 
        2




( x  1)3 
( x  1) 
      8
สามเหลียมปาสคาล (Pascal Triangle)
       ่
            1
( x  y) 
       0




( x  y) 
      1




( x  y) 
       2




( x  y) 
       3
( x  2) 
       4




( x  2) 
      4
ถ้า x  5x  6  ( x  A)( x  B)
      2


จงหาค่า A และ B
การหารพหุนาม
การหารพหุนาม ทาได้โดยการหารยาว ซึ่งในการ
หารนี้เราจะได้ ผลหาร (quotient) และ เศษเหลือ
(remainder)
จงหาผลหารและเศษเหลือของพหุนาม เมื่อต้องการ
หารพหุนาม P( x)  2x  3x  x  5x  6 ด้วย
                    4    3   2


x  x2
 2
จงหาผลหารและเศษเหลือของพหุนาม เมื่อต้องการ
หารพหุนาม P( x)  x 1 ด้วย x  1
                   3
พหุนาม = ตัวหาร x ผลหาร + เศษเหลือ


      ถ้ าเศษเหลือมีค่าเป็ น 0
   พหุนาม = ตัวหาร x ผลหาร

           ตัวประกอบ (factor)
x  x  x  1  ( x  1)( x  1)  2
 3    2                   2



                    เศษเหลือ (remainder) คือ 2
x  x  x  2  ( x  1)( x  1)  1
 3    2                       2



                    เศษเหลือ (remainder) คือ -1
x  x  x  1  ( x  1)( x  1)
  3       2                2



               ตัวประกอบ (factor)
x  1  ( x  1)( x  x  1)
 3                2




          ตัวประกอบของ         x3  1

x  1  ( x  1)( x  x  1)
 3                2




          ตัวประกอบของ         x 1
                                3
x  5x  6  ( x  3)( x  2)
     2




                ตัวประกอบของ       x  5x  6
                                     2




x  2 x  1  ( x  1)  ( x  1)( x  1)
 2                    2




                 ตัวประกอบของ       x  2x 1
                                     2
ทฤษฎีบท เศษเหลือจากการหารพหุนาม
  P( x)  an xn  an1 x n1    a2 x 2  a1 x  a0

ด้วย   xa   คือ   P(a)
ตัวอย่ าง
จงหาเศษเหลือของพหุนาม เมื่อต้องการหารพหุนาม
      P( x )  x  1
                3
                             x 1 ด้วย
ตัวอย่ าง
จงหาเศษเหลือของพหุนาม เมื่อต้องการหารพหุนาม
      P( x )  x  1
                3
                            x 1  ด้วย
ตัวอย่ าง
จงหาเศษเหลือของพหุนาม เมื่อต้องการหารพหุนาม
 P( x )  3 x  2 x  4 x  9
           3      2
                                x2           ด้วย
แบบฝึ กหัด
จงหาค่า a เมื่อเศษเหลือจากการหารพหุนาม
2x  x  a
  3    2
                    x  ด้วย คือ -9
                        2
สมการพหุนาม
                         ่
สมการพหุนามคือสมการที่อยูในรู ป
 P( x)  0 หรื อ a x  a x    a x  a
               n
                   n
                       n 1
                              n 1
                                     1   0   0
n 1
an x  an1 x
   n
                          a1 x  a0  0




        รากของสมการ
        (root of the equation.)
n 1
an x  an1 x
   n
                          a1 x  a0  0




   รากของสมการ
   (roots of the equation.)
รากของสมการพหุนาม
รากของสมการพหุนาม (roots of the equation)
คือ ค่า x0 ที่ทาให้สมการพหุนามมีค่าเท่ากับ 0
P( x0 )  0   หรื อ
                  n 1
an x0  an1 x0
    n
                            a1 x0  a0  0
ตัวอย่ าง
x 1  0
 3         มีรากของสมการคือ x=



x  5x  6  0
 2
                 มีรากของสมการคือ
( x  1)  0
      10
               มีรากของสมการคือ



 x 1  0
  2
               มีรากของสมการคือ
ถ้าพหุนาม    an x0  an1 x0
                   n           n 1
                                         a1 x0  a0

สามารถแยกตัวประกอบ (factor)ได้เป็ น
   an x0    a1 x0  a0  ( x  a) R( x)
        n



a จะเป็ นรากของสมการพหุนาม
 an x0 n  an1 x0 n1    a1 x0  a0  0
ตัวอย่ าง
x 1  (
 3
             )(                      )

รากของสมการพหุนาม   x 1  0
                      3
                               คือ
x  5x  6  ( x  3)( x  2)
  2



รากของสมการพหุนาม        x  5x  6  0
                          2
                                          คือ
วิธีการหารากของสมการพหุนามระดับขั้นสอง
Method for finding roots of quadratic equations

              ax  bx  c  0
                  2



                b  b  4ac2
             x
                     2a
1. b  4ac  0
   2


           ax  bx  c  0
               2


  มีสองรากที่แตกต่างกันคือ
               b  b  4ac
                         2
          x1 
                    2a
               b  b  4ac  2
          x2 
                    2a
2. b  4ac  0
   2


            ax  bx  c  0
                2


  มีเพียงรากเดียว คือ
                       b
                    x
                       2a
3. b  4ac  0
   2


            ax  bx  c  0
               2


  หาผลเฉลยที่เป็ นจานวนจริ งไม่ได้
จงหารากของสมการ   x  5x  6  0
                   2
จงหารากของสมการ   x  5x  7  0
                   2
จงหารากของสมการ   4x  4x 1  0
                    2
ถ้าพหุนามสามารถแยกตัวประกอบ (factor)ได้
เราก็จะได้รากของสมการ และในทางกลับกัน ถ้า
ได้รากของสมการพหุนาม เราก็จะสามารถแยก
ตัวประกอบได้
x  5x  6  0
 2
                 มีรากคือ
ดังนั้นพหุนาม x  5x  6
                 2


สามารถแยกตัวประกอบได้เป็ น
x  5x  6  0
 2
                 มีรากคือ
ดังนั้นพหุนาม x2  5x  6
สามารถแยกตัวประกอบได้เป็ น
x  x  x 1  0
  3   2
                       มีรากคือ    1

ดังนั้นพหุนาม
            x3  x 2  x  1  0
สามารถแยกตัวประกอบได้เป็ น
x  x  x 1  0
  3   2
                       มีรากคือ   1

ดังนั้นพหุนาม x  x  x  1  0
               3   2


สามารถแยกตัวประกอบได้เป็ น
หารสั งเคราะห์ (synthetic division)

หารสั ง เคราะห์ เ ป็ นวิ ธี ห นึ่ งที่ จ ะช่ ว ยในการแยกตัว
ประกอบของพหุนามโดยใช้เพียงแค่สมประสิ ทธิ์หน้า x
                                             ั            n

เท่านั้นมาทาการคานวณ
ตัวอย่างการหารสังเคราะห์ที่เทียบเท่ากับการหารพหุนาม
2 x  3x  4 x  5  0 ด้วย x  1
   3      2




         1      2    -3    -4    5




                                 เศษเหลือ
ตัวอย่างการหารสังเคราะห์ที่เทียบเท่ากับการหารพหุนาม
x  x  x  1  0 ด้วย x  1
  3     2
ตัวอย่างการหารสังเคราะห์ที่เทียบเท่ากับการหารพหุนาม
x  x  x  1  0 ด้วย x  1
  3     2
ตัวอย่างการหารสังเคราะห์ที่เทียบเท่ากับการหารพหุนาม
     x 1  0
       3
                     ด้วย x  1
การประยุกต์ใช้หารสังเคราะห์ในการแยกตัวประกอบ
พหุนาม an x  an1x    a2 x  a1x  a0
            n        n 1       2




          b    an an1  a2 a1 a0

                                     0

 B เป็ นค่าที่ได้จาก       เศษเหลือต้องเป็ น 0
       ตัวประกอบของ a0 หารด้ วยตัวประกอบของ an
จงประยุกต์ใช้หารสังเคราะห์ในการแยกตัวประกอบ
พหุนาม x  2x  x  2
          3     2
จงประยุกต์ใช้หารสังเคราะห์ในการแยกตัวประกอบ
พหุนาม 2 x  5x  x  6
           3     2
แบบฝึ กหัด
1. จงหาผลหาร และ เศษเหลือที่ ได้จากการหารพหุนามต่อไปนี้
 1.1          3
        2x - x - 12
                            หารด้วย      x- 1
 1.2          3
        2x - x - 12         หารด้วย       x+ 1
 1.3      5
         x + x- 4           หารด้วย       x- 1
 1.4      5
         x + x- 4           หารด้วย       x+ 1
 1.5          5
          x - 32            หารด้วย       x+ 3
2. จงแยกตัวประกอบของพหุนามต่อไปนี้
 2.1     3           2
        x - 2x - x + 2
 2.2         3
       18x - 9 x - 5x + 22


 2.3     3       2
        x + x - x- 1
 2.4     4
        x - 25x + 144    2


 2.5     5
        x - 32

More Related Content

What's hot

การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรการแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรพัน พัน
 
คณิตศาสตร์ม.31
คณิตศาสตร์ม.31คณิตศาสตร์ม.31
คณิตศาสตร์ม.31krookay2012
 
บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซต
บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซตบทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซต
บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซตPumPui Oranuch
 
สมการที่มีกราฟเป็นเส้นตรง
สมการที่มีกราฟเป็นเส้นตรงสมการที่มีกราฟเป็นเส้นตรง
สมการที่มีกราฟเป็นเส้นตรงทับทิม เจริญตา
 
ค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน
ค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชันค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน
ค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชันsawed kodnara
 
ระบบสมการเชิงเสัน
ระบบสมการเชิงเสันระบบสมการเชิงเสัน
ระบบสมการเชิงเสันkroojaja
 
สมการและอสมการ
สมการและอสมการสมการและอสมการ
สมการและอสมการORAWAN SAKULDEE
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นsuwanpinit
 
สูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชัน อนินท์ญา
สูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชัน อนินท์ญาสูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชัน อนินท์ญา
สูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชัน อนินท์ญาKanomwan Jeab
 
การแก้อสมการ
การแก้อสมการการแก้อสมการ
การแก้อสมการAon Narinchoti
 
เอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสเอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสkrurutsamee
 
ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรพัน พัน
 

What's hot (15)

การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรการแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
 
คณิตศาสตร์ม.31
คณิตศาสตร์ม.31คณิตศาสตร์ม.31
คณิตศาสตร์ม.31
 
บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซต
บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซตบทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซต
บทที่ 2 ระบบจำนวนจริงและเซต
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
สมการที่มีกราฟเป็นเส้นตรง
สมการที่มีกราฟเป็นเส้นตรงสมการที่มีกราฟเป็นเส้นตรง
สมการที่มีกราฟเป็นเส้นตรง
 
ค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน
ค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชันค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน
ค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน
 
กราฟ
กราฟกราฟ
กราฟ
 
ระบบสมการเชิงเสัน
ระบบสมการเชิงเสันระบบสมการเชิงเสัน
ระบบสมการเชิงเสัน
 
สมการและอสมการ
สมการและอสมการสมการและอสมการ
สมการและอสมการ
 
ระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้นระบบสมการเชิงเส้น
ระบบสมการเชิงเส้น
 
สูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชัน อนินท์ญา
สูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชัน อนินท์ญาสูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชัน อนินท์ญา
สูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชัน อนินท์ญา
 
การแก้อสมการ
การแก้อสมการการแก้อสมการ
การแก้อสมการ
 
เอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัสเอกสารแคลคูลัส
เอกสารแคลคูลัส
 
Contraction Mapping
Contraction MappingContraction Mapping
Contraction Mapping
 
ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร
 

Viewers also liked

Viewers also liked (10)

Polynomial
PolynomialPolynomial
Polynomial
 
POLYNOMIALS OF CLASS 10
POLYNOMIALS OF CLASS 10POLYNOMIALS OF CLASS 10
POLYNOMIALS OF CLASS 10
 
Maths polynomials 9th
Maths polynomials 9thMaths polynomials 9th
Maths polynomials 9th
 
Polynomials
PolynomialsPolynomials
Polynomials
 
Operations on Polynomials
Operations on PolynomialsOperations on Polynomials
Operations on Polynomials
 
Shubhanshu math project work , polynomial
Shubhanshu math project work ,  polynomialShubhanshu math project work ,  polynomial
Shubhanshu math project work , polynomial
 
Polynomials And Linear Equation of Two Variables
Polynomials And Linear Equation of Two VariablesPolynomials And Linear Equation of Two Variables
Polynomials And Linear Equation of Two Variables
 
polynomials class 9th
polynomials class 9thpolynomials class 9th
polynomials class 9th
 
Polynomials
PolynomialsPolynomials
Polynomials
 
Polynomials
PolynomialsPolynomials
Polynomials
 

Similar to Polynomial dpf

การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2ทับทิม เจริญตา
 
Factoring of polynomials
Factoring of polynomialsFactoring of polynomials
Factoring of polynomialsAon Narinchoti
 
เอกลักษณ์ตรีโกณฯ
เอกลักษณ์ตรีโกณฯเอกลักษณ์ตรีโกณฯ
เอกลักษณ์ตรีโกณฯkrupatcharin
 
แบบฝึกทักษะแคลคูลัสเบื้องต้น สว.กจ
แบบฝึกทักษะแคลคูลัสเบื้องต้น สว.กจแบบฝึกทักษะแคลคูลัสเบื้องต้น สว.กจ
แบบฝึกทักษะแคลคูลัสเบื้องต้น สว.กจชัชชญา ช่างเจริญ
 
ข้อสอบ PAT1 53 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
ข้อสอบ PAT1 53 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ข้อสอบ PAT1 53 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
ข้อสอบ PAT1 53 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Suwicha Tapiaseub
 
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Suwaraporn Chaiyajina
 
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Theyok Tanya
 
Pat1 53
Pat1  53Pat1  53
Pat1 53DearPR
 
อนุพันธ์
อนุพันธ์อนุพันธ์
อนุพันธ์krurutsamee
 
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวพัน พัน
 
การหารพหุนาม
การหารพหุนามการหารพหุนาม
การหารพหุนามkroojaja
 
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือการแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือSomporn Amornwech
 

Similar to Polynomial dpf (20)

Math9
Math9Math9
Math9
 
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
การหาคำตอบของอสมการตั้งแต่สองอสมการขึ้นไป2
 
Intrigate(3)
Intrigate(3)Intrigate(3)
Intrigate(3)
 
Factoring of polynomials
Factoring of polynomialsFactoring of polynomials
Factoring of polynomials
 
Limit
LimitLimit
Limit
 
Domain and range2
Domain and range2Domain and range2
Domain and range2
 
เอกลักษณ์ตรีโกณฯ
เอกลักษณ์ตรีโกณฯเอกลักษณ์ตรีโกณฯ
เอกลักษณ์ตรีโกณฯ
 
10
10 10
10
 
แบบฝึกทักษะแคลคูลัสเบื้องต้น สว.กจ
แบบฝึกทักษะแคลคูลัสเบื้องต้น สว.กจแบบฝึกทักษะแคลคูลัสเบื้องต้น สว.กจ
แบบฝึกทักษะแคลคูลัสเบื้องต้น สว.กจ
 
Pat1
Pat1Pat1
Pat1
 
Pat1
Pat1Pat1
Pat1
 
ข้อสอบ PAT1 53 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
ข้อสอบ PAT1 53 ความถนัดทางคณิตศาสตร์ข้อสอบ PAT1 53 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
ข้อสอบ PAT1 53 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
 
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
 
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
Pat1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
 
Pat1 53
Pat1  53Pat1  53
Pat1 53
 
Pat1 53
Pat1 53Pat1 53
Pat1 53
 
อนุพันธ์
อนุพันธ์อนุพันธ์
อนุพันธ์
 
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
 
การหารพหุนาม
การหารพหุนามการหารพหุนาม
การหารพหุนาม
 
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือการแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
การแยกตัวประกอบของพหุนามที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจำนวนเต็มโดยใช้ทฤษฎีบทเศษเหลือ
 

Polynomial dpf