SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน
ศึกษาประเภทของพลาสติก
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาวจิณณ์ วิสุทธิ์เสรีวัง เลขที่ 21 ชั้น ม.6 ห้อง 6
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม นางสาวจิณณ์ วิสุทธิ์เสรีวัง เลขที่ 21
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
โครงงานศึกษาประเภทของพลาสติก
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Type of plastic
ประเภทโครงงาน ประเภทสารวจ
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวจิณณ์ วิสุทธิ์เสรีวัง
ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
พลาสติกเป็นโพลิเมอร์ประเภทหนึ่งที่ส่วนใหญ่ได้จากการสังเคราะห์ขึ้นแต่ก็มีพลาสติกที่เกิดขึ้นจาก
ธรรมชาติเช่นกัน เช่น ชะแล็ก พลาสติกเป็นสารอินทรีย์ เป็นไฮโดรคาร์บอน มีไฮโดรเจนและคาร์บอนเป็น
องค์ประกอบหลัก พลาสติกเป็นโพลิเมอร์ที่สามารถนามาหล่อเป็นรูปร่างต่างๆตามแบบ โดยใช้ความร้อนและแรงอัด
เพียงเล็กน้อย มีจุดหลอมเหลวระหว่าง 80-350 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติกด้วยและเนื่องจากง่ายต่อ
การใช้และสะดวกไม่ยุ่งยากสามารถแปรรูปเป็นหลายอย่างได้จึงมีการนิยมใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันพลาสติกนั้นได้
แพร่กระจายไปทั่วและทาให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนและเป็นสาเหตุในการตายของสัตว์น้าหลายชนิด เช่น ปลาทู
พะยูน เต่า เป็นต้นและย่อยสลายได้ยากใช้เวลาย่อยสลายเป็นหลายร้อยปีทาให้เกิดความสนใจที่จะศึกษาว่า ชนิดของ
พลาสติกใดเป็นอันตรายหรือย่อยสลายยากพลาสติกมีวิธีการผลิตอย่างไรจากอะไร และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างไร
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อทราบชนิดของพลาสติก
2.เพื่อทราบวิธีการผลิต
3.เพื่อทราบถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
3
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
-ขยะในโรงเรียนยุพราช
-ประเภทของพลาสติกที่พบมาก
-ดาเนินการศึกษาประเภทของขยะ
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
พลาสติกเป็นโพลิเมอร์ประเภทหนึ่งที่ส่วนใหญ่ได้จากการสังเคราะห์ขึ้น(Synthetic polymer) แต่ก็มี
พลาสติกที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติเช่นกัน เช่น ชะแล็ก พลาสติกเป็นสารอินทรีย์ เป็นไฮโดรคาร์บอน มีไฮโดรเจนและ
คาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก พลาสติกเป็นโพลิเมอร์ที่สามารถนามาหล่อเป็นรูปร่างต่างๆตามแบบ โดยใช้ความร้อน
และแรงอัดเพียงเล็กน้อย มีจุดหลอมเหลวระหว่าง 80-350 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติก
กระบวนการผลิต
กระบวน การผลิตเม็ดพลาสติกเริ่มต้นจากการน าสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีขนาดเล็กซึ่ง ได้จากกลั่นลาดับส่วน
น้ามันดิบมาทาปฏิกิริยากันจนได้เป็นสายโซ่ยาว เรียกว่าโพลิเมอร์ ซึ่งโพลิเมอร์แต่ละชนิดสังเคราะห์โดยใช้
วัตถุดิบเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป ทาให้โพลิเมอร์มีสมบัติที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยโพลิเมอร์ที่สังเคราะห์ได้นี้จะถูก
นาไปขึ้นรูปเป็นเม็ดพลาสติกและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆต่อไป เช่น การผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทธิลีน (PE) โดย
เริ่มต้นจากก๊าซเอทธิลีนซึ่งถูกเก็บในถังปฏิกิริยา เมื่อเติมตัวเร่งปฏิกิริยาที่เหมาะสม จะเกิดปฏิกิริยาขึ้น โมเลกุลขนาด
เล็กๆ จานวนมากจะเข้ามาต่อกันเป็นโมเลกุลที่ยาวมากๆ ได้โพลิเอธิลีนที่มีสมบัติเหมาะสมสาหรับนาไปขึ้นรูปเป็น
ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ขวด ถุง และของเล่น เป็นต้น
ประเภทของพลาสติก(ตามสมบัติทางความร้อน) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
-เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) โพลิเมอร์ประเภทนี้จะมีโครงสร้างโมเลกุลของสายโซ่โพลิเมอร์เป็นแบบเส้นตรง
หรือแบบกิ่งสั้นๆ สามารถละลายได้ดีในตัวทาละลายบางชนิด เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัว และ
หลอมเหลวเป็นของเหลวหนืดเนื่องจาก โมเลกุลของโพลิเมอร์ที่พันกันอยู่สามารถเคลื่อนที่ผ่านกันไปมาได้ง่ายขึ้นเมื่อ
ได้รับความร้อน และเมื่อเย็นตัวลงก็จะแข็งตัว ซึ่งการหลอมเหลวและเย็นตัวนี้ สามารถเกิดกลับไปกลับมาได้
โดยไม่ทาให้สมบัติทางเคมีและทางกายภาพ หรือโครงสร้างของโพลิเมอร์เปลี่ยนไปมากนัก พลาสติกประเภทนี้
สามารถขึ้นรูปโดยการฉีดขณะที่พลาสติกถูกทาให้อ่อนตัวและไหลได้ด้วยความร้อนและความดัน เข้าไปใน
4
แม่แบบที่มีช่องว่างเป็นรูปร่างตามต้องการ ภายหลังจากที่พลาสติกไหลเข้าจนเต็มแม่พิมพ์จะถูกทาให้เย็นตัว และถอด
ออกจากแม่พิมพ์ ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีรูปร่างตามต้องการ สามารถนาไปใช้งานได้ เมื่อใช้เสร็จแล้วสามารถนากลับมารี
ไซเคิลได้โดยการบด และหลอมด้วยความร้อนเพื่อขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อีก แต่พลาสติกประเภทนี้มีข้อเสียและ
ขีดจากัดของการใช้งาน คือไม่สามารถใช้งานที่อุณหภูมิสูงได้ เพราะอาจเกิดการบิดเบี้ยวหรือเสียรูปทรงไป
ตัวอย่างเช่น ขวดน้าดื่มไม่เหมาะสาหรับใช้บรรจุน้าร้อนจัดหรือเดือด
-เทอร์โมเซตติ้ง (Thermosetting) โพลิเมอร์ประเภทนี้จะมีโครงสร้างเป็นแบบร่างแห ซึ่งจะหลอมเหลวได้ในขั้นตอน
การขึ้นรูปครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งในขั้นตอนนี้จะมีปฏิกิกริยาเคมีเกิดขึ้นทาให้เกิดพันธะเชื่อมโยงระหว่างโมเลกุลทาให้โพลิ
เมอร์มีรูปร่างที่ถาวร ไม่สามารถหลอมเหลวได้อีกเมื่อได้รับความร้อน และหากได้รับความร้อนสูงเกินไป จะทาให้
พันธะระหว่างอะตอมในโมเลกุลแตกออก ได้สารที่ไม่มีสมบัติของความเป็นโพลิเมอร์ต่อไป
พลาสติกที่ใช้มากในปัจจุบัน
1.โพลิเอทธิลีนเทเรฟทาเลต (Poly (ethylene terephthalate), PET) PET ทนแรงกระแทก ไม่เปราะแตกง่าย
สามารถท าให้ใสมาก มองเห็นสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในจึงนิยมใช้บรรจุน้าดื่ม น้ามันพืช และเครื่องสาอาง สามารถ
น ากลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ โดยนิยมนามาผลิตเป็นเส้นใยสาหรับทาเสื้อกันหนาว พรม และเส้นใยสังเคราะห์สาหรับ
ยัดหมอน หรือเสื้อสาหรับเล่นสกี
2.โพลิเอทธิลีนความหนาแน่นสูง (High density polyethylene, HDPE) HDPE โพลิเอทธิลีนชนิดหนาแน่นสูงมี
โครงสร้างโมเลกุลเป็นสายตรงค่อนข้างแข็งแต่ยืดได้มาก ไม่แตกง่าย ส่วนใหญ่ทาให้มีสีสันสวยงาม ยกเว้น
ขวดที่ใช้บรรจุน้าดื่ม ซึ่งจะขุ่นกว่าขวด PET ราคาถูกขึ้นรูปได้ง่าย ทนสารเคมีจึงนิยมใช้ทาบรรจุภัณฑ์สาหรับน้ายาทา
ความสะอาด แชมพูสระผมแป้งเด็ก และถุงหูหิ้ว
3.โพลิไวนิลคลอไรด์ (Poly (vinyl chloride), PVC) PVC เป็นพลาสติกแข็งใช้ทาท่อ เช่น ท่อน้าประปา แต่สามารถ
ทาให้นิ่มโดยใส่สารพลาสติกไซเซอร์ ใช้ทาสายยางใส แผ่นฟิล์มสาหรับห่ออาหาร ม่านในห้องอาบน้า แผ่นกระเบื้อง
ยาง แผ่นพลาสติกปูโต๊ะ ขวดใส่แชมพูสระ สามารถนากลับมารีไซเคิล เพื่อผลิตท่อประปาสาหรับการเกษตร กรวย
จราจร และเฟอร์นิเจอร์หรือม้านั่งพลาสติก
4.โพลิเอทธิลีนความหนาแน่นต่า (Low density polyethylene, LDPE) LDPE เป็นพลาสติกที่นิ่ม สามารถยืดตัวได้
มาก มีความใส นิยมนามาทาเป็นฟิล์มสาหรับห่ออาหารและห่อของ ถุงใส่ขนมปัง และถุงเย็นสาหรับบรรจุอาหาร
LDPE สามารถนากลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ โดยใช้ผลิตเป็นถุงดาสาหรับใส่ขยะ ถุงหูหิ้ว หรือถังขยะ
5.โพลิโพรพิลีน (Polypropylene, PP) PP เป็นพลาสติกที่แข็ง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อสารเคมี ความร้อน
และน้ามัน ทาให้มีสีสันสวยงามได้ส่วนใหญ่นิยมนามาทาภาชนะบรรจุอาหาร เช่น กล่อง ชาม จาน ถัง ตะกร้าหรือ
5
กระบอกสาหรับใส่น้าแช่เย็น โดยสามารถนากลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้โดยนิยมผลิตเป็นกล่องแบตเตอรี่รถยนต์ ชิ้นส่วน
รถยนต์ เช่น กันชน และกรวยสาหรับน้ามัน
6.โพลิสไตรีน (Polystyrene, PS) PS เป็นพลาสติกที่แข็ง ใส แต่เปราะและแตกง่าย ราคาถูก นิยมนามาทาเป็น
ภาชนะบรรจุของใช้ เช่น เทปเพลงสาลี เนื่องจาก PS เปราะและแตกง่าย จึงไม่นิยมนาพลาสติกประเภทนี้มา
บรรจุน้าดื่มหรือแชมพูสระผม เนื่องจากอาจลื่นตกแตกได้ มีการนาพลาสติกประเภทนี้มาใช้ทาภาชนะหรือถาดโฟม
สาหรับบรรจุอาหาร ซึ่งสามารถนากลับมาใช้ใหม่ได้ โดยนิยมผลิตเป็นไม้แขวนเสื้อ กล่องวีดีโอ ไม้บรรทัด หรือของใช้
อื่นๆ
7.พลาสติกอื่นๆ ที่ไม่ใช่ 6 ชนิดแรก หรือไม่ทราบว่าเป็นพลาสติกชนิดใด
ผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อม
-ด้านบวกต่อสภาวะแวดล้อม
1. คอมโพสท์ที่ได้จากการย่อยสลายพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพร่วมกับขยะอินทรีย์อื่นๆ สามารถนามาใช้ในการ
ปรับปรุงคุณภาพดินโดยช่วยเพิ่มสารอินทรีย์ ความชื้น และสารอาหารให้แก่ดิน พร้อมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยและ
ลดการเกิดโรคในพืช การหมักพลาสติกย่อยสลายได้ทาให้เกิดการหมุนเวียนของธาตุ ในขณะที่การใช้พลาสติกมักต้อง
กาจัดด้วยการฝังกลบหรือเผา
2. ลดเนื้อที่การใช้งานของบ่อฝังกลบขยะ โดยการใช้พลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และถุงที่ย่อยสลายได้ทาให้เพิ่ม
ศักยภาพในการย่อยสลายของเศษอาหารหรือขยะอินทรีย์ในบ่อฝังกลบ และเพิ่มศักยภาพในการผลิตแก๊ส
มีเทนสาหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง
3. การใช้พลังงานในการสังเคราะห์ และผลิตพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพน้อยกว่าการผลิตพลาสติกทั่วไป
4. การปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกเป็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่สาคัญพบว่า พลาสติกย่อยสลายได้ก่อให้เกิดการ
ปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกในปริมาณที่ต่ากว่าพอลิเอทิลีน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในกรณีที่เป็นพลาสติกที่มีแป้ง
เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน ซึ่งแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของพลาสติกจะถูกใช้ไปในการเติบโต
ของพืชที่จะปลูกขึ้นมาใหม่ทาให้เกิดการหมุนเวียนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ของวัฏจักรคาร์บอน ทาให้เกิดความสมดุลของปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ
-ด้านลบต่อสภาวะแวดล้อม
1. ก่อให้เกิดมลภาวะทางน้าจากการเพิ่มของค่าความต้องการออกซิเจนทางชีวเคมี (biological oxygen demand,
BOD) และค่าความต้องการออกซิเจนทางเคมี (chemical oxygen demand, COD) อันเนื่องมาจากการมีปริมาณ
สารอินทรีย์ หรือสารอาหารในแหล่งน้าในปริมาณสูง ทาให้จุลินทรีย์มีความต้องการใช้ออกซิเจนในน้าสูงขึ้นด้วย
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ทางน้า
2. เกิดการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยสลายของพลาสติกย่อยสลายได้ในสภาวะแวดล้อม
3. เกิดมลภาวะจากขยะอันเนื่องมาจากการใช้พลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่ถูกทิ้งหรือตกลงในสิ่งแวดล้อมที่มี
สภาวะไม่เหมาะสมต่อการย่อยสลาย เช่น ถูกลมพัด และติดค้างอยู่บนกิ่งไม้ ซึ่งมีปริมาณจุลินทรีย์ไม่มากพอ
ก็จะไม่สามารถย่อยสลายได้ดี
6
4.การใช้พลาสติกย่อยสลายได้อาจทาให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่า จะสามารถกาจัดได้ง่ายและรวดเร็วทาให้มีการใช้งาน
เพิ่มขึ้น และพลาสติกย่อยสลายได้บางชนิดอาจใช้เวลานานหลายปีในการย่อยสลายทางชีวภาพอย่างสมบูรณ์ และ
ก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์ที่กลืนกินพลาสติกเข้าไป เนื่องจากไม่สามารถย่อยสลายได้ภายในกระเพาะของสัตว์
5. ความเป็นพิษของคอมโพสท์ที่ได้จากการหมักพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เนื่องจากการมีสารตกค้าง หรือใช้
สารเติมแต่งที่มีความเป็นพิษ และส่งผลกระทบต่อพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในดิน
6. เกิดสารประกอบที่ไม่ย่อยสลาย เช่น สารประกอบประเภทแอโรแมติกจากการย่อยสลายของพลาสติกบางชนิด เช่น
AACs โดยส่วนที่เป็นวงแหวนแอโรแมติกในพอลิเมอร์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสารประกอบขนาดเล็ก เช่นกรด
เทเรฟทาลิค (terephthalic acid (TPA) ซึ่งย่อยสลายทางชีวภาพได้ไม่ดีนัก
7. การตกค้างของสารเติมแต่งที่เติมลงในพลาสติกย่อยสลายได้ เพื่อปรับสมบัติให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่นเดียวกับ
พลาสติกทั่วไป เมื่อพลาสติกเกิดการย่อยสลาย สารเติมแต่งเหล่านี้อาจปนเปื้อนอยู่ในสภาวะแวดล้อมได้
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-คิดหัวข้อโครงงาน
-ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
-จัดทาโครงร่างโครงงาน
-ปฏิบัติการทาโครงงาน
-จัดทาเอกสารรายงาน
-ประเมินผลงาน
-นาเสนอ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเตอร์เน็ต
-คอมพิวเตอร์
-โทรศัพท์
-สมุด
-ปากกา
งบประมาณ
0 บาท
7
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน จิณณ์
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล จิณณ์
3 จัดทาโครงร่างงาน จิณณ์
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน จิณณ์
5 ปรับปรุงทดสอบ จิณณ์
6 การทาเอกสารรายงาน จิณณ์
7 ประเมินผลงาน จิณณ์
8 นาเสนอโครงงาน จิณณ์
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.เข้าใจเกี่ยวกับพลาสติกถูกต้อง
2.ได้รู้ถึงผลกระทบของพลาสติก
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
-กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
-กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
-ประเภทและการใช้งาน.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.mtec.or.th/bio-plastic/what-is-
plastic/plastic-usage.html (วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2562)
-ผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อม.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.mtec.or.th/bio-
plastic/plastics-degradation/environment-effect.html (วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2562)
-กระบวนการผลิตพลาสติก.[ออนไลน์].เข้าได้จาก https://www.mtec.or.th/bio-plastic/what-is-
plastic/plastic-production.html (วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2562)
-ประเภทของพลาสติก.[ออนไลน์].เข้าได้จาก http://www.deemarkthailand.com/7-ประเภทของ
พลาสติกมีอะไร/ (วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2562)

More Related Content

What's hot

กิจกรรมที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์THEPHIM
 
2562 final-project jiratchaya-32
2562 final-project jiratchaya-322562 final-project jiratchaya-32
2562 final-project jiratchaya-32ssuser8b25961
 
นัฐกมล60621
นัฐกมล60621นัฐกมล60621
นัฐกมล60621Geenpp21
 
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็งเห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง0910797083
 
2562 final-project 09-issariya
2562 final-project 09-issariya2562 final-project 09-issariya
2562 final-project 09-issariyaguntjetnipat
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันOporfunJubJub
 
2560 project .pdf1
2560 project .pdf12560 project .pdf1
2560 project .pdf1achirayaRchi
 
กากกาแฟ เสร็จ
กากกาแฟ เสร็จกากกาแฟ เสร็จ
กากกาแฟ เสร็จkhemika jermjun
 
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกselenagomezz
 
แบบโครงร่างโครงงาน
แบบโครงร่างโครงงานแบบโครงร่างโครงงาน
แบบโครงร่างโครงงานJirayut Wannakorn
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project jetaimej_
 
2562-final-project_17
2562-final-project_172562-final-project_17
2562-final-project_17ssusera79710
 
Final project
Final projectFinal project
Final projectapixxxxx
 
ผักออร์แกนิกOrganic food
ผักออร์แกนิกOrganic foodผักออร์แกนิกOrganic food
ผักออร์แกนิกOrganic foodbecoolZ
 

What's hot (20)

กิจกรรมที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
2562 final-project jiratchaya-32
2562 final-project jiratchaya-322562 final-project jiratchaya-32
2562 final-project jiratchaya-32
 
Com
ComCom
Com
 
นัฐกมล60621
นัฐกมล60621นัฐกมล60621
นัฐกมล60621
 
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็งเห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
 
2562 final-project 09-issariya
2562 final-project 09-issariya2562 final-project 09-issariya
2562 final-project 09-issariya
 
Final01
Final01Final01
Final01
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
2560 project .pdf1
2560 project .pdf12560 project .pdf1
2560 project .pdf1
 
กากกาแฟ เสร็จ
กากกาแฟ เสร็จกากกาแฟ เสร็จ
กากกาแฟ เสร็จ
 
2559 project
2559 project 2559 project
2559 project
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออกใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ไข้เลือดออก
 
แบบโครงร่างโครงงาน
แบบโครงร่างโครงงานแบบโครงร่างโครงงาน
แบบโครงร่างโครงงาน
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
2562-final-project_17
2562-final-project_172562-final-project_17
2562-final-project_17
 
Final project
Final projectFinal project
Final project
 
ผักออร์แกนิกOrganic food
ผักออร์แกนิกOrganic foodผักออร์แกนิกOrganic food
ผักออร์แกนิกOrganic food
 
พีม
พีมพีม
พีม
 

Similar to work1

Similar to work1 (20)

โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริ
โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริโครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริ
โครงร่างสกุลเงินในอาเซียนคริคริ
 
at1
at1at1
at1
 
at1
at1at1
at1
 
ใบโครงงานคอม
ใบโครงงานคอมใบโครงงานคอม
ใบโครงงานคอม
 
At1
At1At1
At1
 
AT1
AT1AT1
AT1
 
พลาสเตอร์มะลิ
พลาสเตอร์มะลิพลาสเตอร์มะลิ
พลาสเตอร์มะลิ
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
2562 final-project 17
2562 final-project 172562 final-project 17
2562 final-project 17
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
607 NO.8
607 NO.8607 NO.8
607 NO.8
 
2562 final-project 17
2562 final-project 172562 final-project 17
2562 final-project 17
 
มะพร้าวววววว
มะพร้าววววววมะพร้าวววววว
มะพร้าวววววว
 
มะมะมะมะมะมะ
มะมะมะมะมะมะมะมะมะมะมะมะ
มะมะมะมะมะมะ
 
2560 project (4)
2560 project  (4)2560 project  (4)
2560 project (4)
 
2560 project (4)
2560 project  (4)2560 project  (4)
2560 project (4)
 
Chuthimon 05 602
Chuthimon 05 602Chuthimon 05 602
Chuthimon 05 602
 
2560 project .doc กี้
2560 project .doc กี้2560 project .doc กี้
2560 project .doc กี้
 
ยาดมสมุนไพร
ยาดมสมุนไพรยาดมสมุนไพร
ยาดมสมุนไพร
 
2562 final-project -1
2562 final-project -12562 final-project -1
2562 final-project -1
 

work1

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5 ปีการศึกษา 2562 ชื่อโครงงาน ศึกษาประเภทของพลาสติก ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อ นางสาวจิณณ์ วิสุทธิ์เสรีวัง เลขที่ 21 ชั้น ม.6 ห้อง 6 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม นางสาวจิณณ์ วิสุทธิ์เสรีวัง เลขที่ 21 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) โครงงานศึกษาประเภทของพลาสติก ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Type of plastic ประเภทโครงงาน ประเภทสารวจ ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวจิณณ์ วิสุทธิ์เสรีวัง ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน) พลาสติกเป็นโพลิเมอร์ประเภทหนึ่งที่ส่วนใหญ่ได้จากการสังเคราะห์ขึ้นแต่ก็มีพลาสติกที่เกิดขึ้นจาก ธรรมชาติเช่นกัน เช่น ชะแล็ก พลาสติกเป็นสารอินทรีย์ เป็นไฮโดรคาร์บอน มีไฮโดรเจนและคาร์บอนเป็น องค์ประกอบหลัก พลาสติกเป็นโพลิเมอร์ที่สามารถนามาหล่อเป็นรูปร่างต่างๆตามแบบ โดยใช้ความร้อนและแรงอัด เพียงเล็กน้อย มีจุดหลอมเหลวระหว่าง 80-350 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติกด้วยและเนื่องจากง่ายต่อ การใช้และสะดวกไม่ยุ่งยากสามารถแปรรูปเป็นหลายอย่างได้จึงมีการนิยมใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันพลาสติกนั้นได้ แพร่กระจายไปทั่วและทาให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนและเป็นสาเหตุในการตายของสัตว์น้าหลายชนิด เช่น ปลาทู พะยูน เต่า เป็นต้นและย่อยสลายได้ยากใช้เวลาย่อยสลายเป็นหลายร้อยปีทาให้เกิดความสนใจที่จะศึกษาว่า ชนิดของ พลาสติกใดเป็นอันตรายหรือย่อยสลายยากพลาสติกมีวิธีการผลิตอย่างไรจากอะไร และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไร วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.เพื่อทราบชนิดของพลาสติก 2.เพื่อทราบวิธีการผลิต 3.เพื่อทราบถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
  • 3. 3 ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) -ขยะในโรงเรียนยุพราช -ประเภทของพลาสติกที่พบมาก -ดาเนินการศึกษาประเภทของขยะ หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) พลาสติกเป็นโพลิเมอร์ประเภทหนึ่งที่ส่วนใหญ่ได้จากการสังเคราะห์ขึ้น(Synthetic polymer) แต่ก็มี พลาสติกที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติเช่นกัน เช่น ชะแล็ก พลาสติกเป็นสารอินทรีย์ เป็นไฮโดรคาร์บอน มีไฮโดรเจนและ คาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก พลาสติกเป็นโพลิเมอร์ที่สามารถนามาหล่อเป็นรูปร่างต่างๆตามแบบ โดยใช้ความร้อน และแรงอัดเพียงเล็กน้อย มีจุดหลอมเหลวระหว่าง 80-350 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับชนิดของพลาสติก กระบวนการผลิต กระบวน การผลิตเม็ดพลาสติกเริ่มต้นจากการน าสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีขนาดเล็กซึ่ง ได้จากกลั่นลาดับส่วน น้ามันดิบมาทาปฏิกิริยากันจนได้เป็นสายโซ่ยาว เรียกว่าโพลิเมอร์ ซึ่งโพลิเมอร์แต่ละชนิดสังเคราะห์โดยใช้ วัตถุดิบเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป ทาให้โพลิเมอร์มีสมบัติที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยโพลิเมอร์ที่สังเคราะห์ได้นี้จะถูก นาไปขึ้นรูปเป็นเม็ดพลาสติกและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆต่อไป เช่น การผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอทธิลีน (PE) โดย เริ่มต้นจากก๊าซเอทธิลีนซึ่งถูกเก็บในถังปฏิกิริยา เมื่อเติมตัวเร่งปฏิกิริยาที่เหมาะสม จะเกิดปฏิกิริยาขึ้น โมเลกุลขนาด เล็กๆ จานวนมากจะเข้ามาต่อกันเป็นโมเลกุลที่ยาวมากๆ ได้โพลิเอธิลีนที่มีสมบัติเหมาะสมสาหรับนาไปขึ้นรูปเป็น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ขวด ถุง และของเล่น เป็นต้น ประเภทของพลาสติก(ตามสมบัติทางความร้อน) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ -เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) โพลิเมอร์ประเภทนี้จะมีโครงสร้างโมเลกุลของสายโซ่โพลิเมอร์เป็นแบบเส้นตรง หรือแบบกิ่งสั้นๆ สามารถละลายได้ดีในตัวทาละลายบางชนิด เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัว และ หลอมเหลวเป็นของเหลวหนืดเนื่องจาก โมเลกุลของโพลิเมอร์ที่พันกันอยู่สามารถเคลื่อนที่ผ่านกันไปมาได้ง่ายขึ้นเมื่อ ได้รับความร้อน และเมื่อเย็นตัวลงก็จะแข็งตัว ซึ่งการหลอมเหลวและเย็นตัวนี้ สามารถเกิดกลับไปกลับมาได้ โดยไม่ทาให้สมบัติทางเคมีและทางกายภาพ หรือโครงสร้างของโพลิเมอร์เปลี่ยนไปมากนัก พลาสติกประเภทนี้ สามารถขึ้นรูปโดยการฉีดขณะที่พลาสติกถูกทาให้อ่อนตัวและไหลได้ด้วยความร้อนและความดัน เข้าไปใน
  • 4. 4 แม่แบบที่มีช่องว่างเป็นรูปร่างตามต้องการ ภายหลังจากที่พลาสติกไหลเข้าจนเต็มแม่พิมพ์จะถูกทาให้เย็นตัว และถอด ออกจากแม่พิมพ์ ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีรูปร่างตามต้องการ สามารถนาไปใช้งานได้ เมื่อใช้เสร็จแล้วสามารถนากลับมารี ไซเคิลได้โดยการบด และหลอมด้วยความร้อนเพื่อขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อีก แต่พลาสติกประเภทนี้มีข้อเสียและ ขีดจากัดของการใช้งาน คือไม่สามารถใช้งานที่อุณหภูมิสูงได้ เพราะอาจเกิดการบิดเบี้ยวหรือเสียรูปทรงไป ตัวอย่างเช่น ขวดน้าดื่มไม่เหมาะสาหรับใช้บรรจุน้าร้อนจัดหรือเดือด -เทอร์โมเซตติ้ง (Thermosetting) โพลิเมอร์ประเภทนี้จะมีโครงสร้างเป็นแบบร่างแห ซึ่งจะหลอมเหลวได้ในขั้นตอน การขึ้นรูปครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งในขั้นตอนนี้จะมีปฏิกิกริยาเคมีเกิดขึ้นทาให้เกิดพันธะเชื่อมโยงระหว่างโมเลกุลทาให้โพลิ เมอร์มีรูปร่างที่ถาวร ไม่สามารถหลอมเหลวได้อีกเมื่อได้รับความร้อน และหากได้รับความร้อนสูงเกินไป จะทาให้ พันธะระหว่างอะตอมในโมเลกุลแตกออก ได้สารที่ไม่มีสมบัติของความเป็นโพลิเมอร์ต่อไป พลาสติกที่ใช้มากในปัจจุบัน 1.โพลิเอทธิลีนเทเรฟทาเลต (Poly (ethylene terephthalate), PET) PET ทนแรงกระแทก ไม่เปราะแตกง่าย สามารถท าให้ใสมาก มองเห็นสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในจึงนิยมใช้บรรจุน้าดื่ม น้ามันพืช และเครื่องสาอาง สามารถ น ากลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ โดยนิยมนามาผลิตเป็นเส้นใยสาหรับทาเสื้อกันหนาว พรม และเส้นใยสังเคราะห์สาหรับ ยัดหมอน หรือเสื้อสาหรับเล่นสกี 2.โพลิเอทธิลีนความหนาแน่นสูง (High density polyethylene, HDPE) HDPE โพลิเอทธิลีนชนิดหนาแน่นสูงมี โครงสร้างโมเลกุลเป็นสายตรงค่อนข้างแข็งแต่ยืดได้มาก ไม่แตกง่าย ส่วนใหญ่ทาให้มีสีสันสวยงาม ยกเว้น ขวดที่ใช้บรรจุน้าดื่ม ซึ่งจะขุ่นกว่าขวด PET ราคาถูกขึ้นรูปได้ง่าย ทนสารเคมีจึงนิยมใช้ทาบรรจุภัณฑ์สาหรับน้ายาทา ความสะอาด แชมพูสระผมแป้งเด็ก และถุงหูหิ้ว 3.โพลิไวนิลคลอไรด์ (Poly (vinyl chloride), PVC) PVC เป็นพลาสติกแข็งใช้ทาท่อ เช่น ท่อน้าประปา แต่สามารถ ทาให้นิ่มโดยใส่สารพลาสติกไซเซอร์ ใช้ทาสายยางใส แผ่นฟิล์มสาหรับห่ออาหาร ม่านในห้องอาบน้า แผ่นกระเบื้อง ยาง แผ่นพลาสติกปูโต๊ะ ขวดใส่แชมพูสระ สามารถนากลับมารีไซเคิล เพื่อผลิตท่อประปาสาหรับการเกษตร กรวย จราจร และเฟอร์นิเจอร์หรือม้านั่งพลาสติก 4.โพลิเอทธิลีนความหนาแน่นต่า (Low density polyethylene, LDPE) LDPE เป็นพลาสติกที่นิ่ม สามารถยืดตัวได้ มาก มีความใส นิยมนามาทาเป็นฟิล์มสาหรับห่ออาหารและห่อของ ถุงใส่ขนมปัง และถุงเย็นสาหรับบรรจุอาหาร LDPE สามารถนากลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ โดยใช้ผลิตเป็นถุงดาสาหรับใส่ขยะ ถุงหูหิ้ว หรือถังขยะ 5.โพลิโพรพิลีน (Polypropylene, PP) PP เป็นพลาสติกที่แข็ง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อสารเคมี ความร้อน และน้ามัน ทาให้มีสีสันสวยงามได้ส่วนใหญ่นิยมนามาทาภาชนะบรรจุอาหาร เช่น กล่อง ชาม จาน ถัง ตะกร้าหรือ
  • 5. 5 กระบอกสาหรับใส่น้าแช่เย็น โดยสามารถนากลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้โดยนิยมผลิตเป็นกล่องแบตเตอรี่รถยนต์ ชิ้นส่วน รถยนต์ เช่น กันชน และกรวยสาหรับน้ามัน 6.โพลิสไตรีน (Polystyrene, PS) PS เป็นพลาสติกที่แข็ง ใส แต่เปราะและแตกง่าย ราคาถูก นิยมนามาทาเป็น ภาชนะบรรจุของใช้ เช่น เทปเพลงสาลี เนื่องจาก PS เปราะและแตกง่าย จึงไม่นิยมนาพลาสติกประเภทนี้มา บรรจุน้าดื่มหรือแชมพูสระผม เนื่องจากอาจลื่นตกแตกได้ มีการนาพลาสติกประเภทนี้มาใช้ทาภาชนะหรือถาดโฟม สาหรับบรรจุอาหาร ซึ่งสามารถนากลับมาใช้ใหม่ได้ โดยนิยมผลิตเป็นไม้แขวนเสื้อ กล่องวีดีโอ ไม้บรรทัด หรือของใช้ อื่นๆ 7.พลาสติกอื่นๆ ที่ไม่ใช่ 6 ชนิดแรก หรือไม่ทราบว่าเป็นพลาสติกชนิดใด ผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อม -ด้านบวกต่อสภาวะแวดล้อม 1. คอมโพสท์ที่ได้จากการย่อยสลายพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพร่วมกับขยะอินทรีย์อื่นๆ สามารถนามาใช้ในการ ปรับปรุงคุณภาพดินโดยช่วยเพิ่มสารอินทรีย์ ความชื้น และสารอาหารให้แก่ดิน พร้อมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยและ ลดการเกิดโรคในพืช การหมักพลาสติกย่อยสลายได้ทาให้เกิดการหมุนเวียนของธาตุ ในขณะที่การใช้พลาสติกมักต้อง กาจัดด้วยการฝังกลบหรือเผา 2. ลดเนื้อที่การใช้งานของบ่อฝังกลบขยะ โดยการใช้พลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และถุงที่ย่อยสลายได้ทาให้เพิ่ม ศักยภาพในการย่อยสลายของเศษอาหารหรือขยะอินทรีย์ในบ่อฝังกลบ และเพิ่มศักยภาพในการผลิตแก๊ส มีเทนสาหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง 3. การใช้พลังงานในการสังเคราะห์ และผลิตพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพน้อยกว่าการผลิตพลาสติกทั่วไป 4. การปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกเป็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่สาคัญพบว่า พลาสติกย่อยสลายได้ก่อให้เกิดการ ปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกในปริมาณที่ต่ากว่าพอลิเอทิลีน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในกรณีที่เป็นพลาสติกที่มีแป้ง เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน ซึ่งแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของพลาสติกจะถูกใช้ไปในการเติบโต ของพืชที่จะปลูกขึ้นมาใหม่ทาให้เกิดการหมุนเวียนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของวัฏจักรคาร์บอน ทาให้เกิดความสมดุลของปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ -ด้านลบต่อสภาวะแวดล้อม 1. ก่อให้เกิดมลภาวะทางน้าจากการเพิ่มของค่าความต้องการออกซิเจนทางชีวเคมี (biological oxygen demand, BOD) และค่าความต้องการออกซิเจนทางเคมี (chemical oxygen demand, COD) อันเนื่องมาจากการมีปริมาณ สารอินทรีย์ หรือสารอาหารในแหล่งน้าในปริมาณสูง ทาให้จุลินทรีย์มีความต้องการใช้ออกซิเจนในน้าสูงขึ้นด้วย ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ทางน้า 2. เกิดการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยสลายของพลาสติกย่อยสลายได้ในสภาวะแวดล้อม 3. เกิดมลภาวะจากขยะอันเนื่องมาจากการใช้พลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่ถูกทิ้งหรือตกลงในสิ่งแวดล้อมที่มี สภาวะไม่เหมาะสมต่อการย่อยสลาย เช่น ถูกลมพัด และติดค้างอยู่บนกิ่งไม้ ซึ่งมีปริมาณจุลินทรีย์ไม่มากพอ ก็จะไม่สามารถย่อยสลายได้ดี
  • 6. 6 4.การใช้พลาสติกย่อยสลายได้อาจทาให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่า จะสามารถกาจัดได้ง่ายและรวดเร็วทาให้มีการใช้งาน เพิ่มขึ้น และพลาสติกย่อยสลายได้บางชนิดอาจใช้เวลานานหลายปีในการย่อยสลายทางชีวภาพอย่างสมบูรณ์ และ ก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์ที่กลืนกินพลาสติกเข้าไป เนื่องจากไม่สามารถย่อยสลายได้ภายในกระเพาะของสัตว์ 5. ความเป็นพิษของคอมโพสท์ที่ได้จากการหมักพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เนื่องจากการมีสารตกค้าง หรือใช้ สารเติมแต่งที่มีความเป็นพิษ และส่งผลกระทบต่อพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในดิน 6. เกิดสารประกอบที่ไม่ย่อยสลาย เช่น สารประกอบประเภทแอโรแมติกจากการย่อยสลายของพลาสติกบางชนิด เช่น AACs โดยส่วนที่เป็นวงแหวนแอโรแมติกในพอลิเมอร์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสารประกอบขนาดเล็ก เช่นกรด เทเรฟทาลิค (terephthalic acid (TPA) ซึ่งย่อยสลายทางชีวภาพได้ไม่ดีนัก 7. การตกค้างของสารเติมแต่งที่เติมลงในพลาสติกย่อยสลายได้ เพื่อปรับสมบัติให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่นเดียวกับ พลาสติกทั่วไป เมื่อพลาสติกเกิดการย่อยสลาย สารเติมแต่งเหล่านี้อาจปนเปื้อนอยู่ในสภาวะแวดล้อมได้ วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน -คิดหัวข้อโครงงาน -ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล -จัดทาโครงร่างโครงงาน -ปฏิบัติการทาโครงงาน -จัดทาเอกสารรายงาน -ประเมินผลงาน -นาเสนอ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ -อินเตอร์เน็ต -คอมพิวเตอร์ -โทรศัพท์ -สมุด -ปากกา งบประมาณ 0 บาท
  • 7. 7 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน จิณณ์ 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล จิณณ์ 3 จัดทาโครงร่างงาน จิณณ์ 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน จิณณ์ 5 ปรับปรุงทดสอบ จิณณ์ 6 การทาเอกสารรายงาน จิณณ์ 7 ประเมินผลงาน จิณณ์ 8 นาเสนอโครงงาน จิณณ์ ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) 1.เข้าใจเกี่ยวกับพลาสติกถูกต้อง 2.ได้รู้ถึงผลกระทบของพลาสติก สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง -กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี -กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) -ประเภทและการใช้งาน.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.mtec.or.th/bio-plastic/what-is- plastic/plastic-usage.html (วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2562) -ผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อม.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.mtec.or.th/bio- plastic/plastics-degradation/environment-effect.html (วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2562) -กระบวนการผลิตพลาสติก.[ออนไลน์].เข้าได้จาก https://www.mtec.or.th/bio-plastic/what-is- plastic/plastic-production.html (วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2562) -ประเภทของพลาสติก.[ออนไลน์].เข้าได้จาก http://www.deemarkthailand.com/7-ประเภทของ พลาสติกมีอะไร/ (วันที่สืบค้น 18 กันยายน 2562)