ส่งงาน

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน
พลาสเตอร์แก้บรรเทาอาการแมลงกัดต่อยโดยมะลิ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1. ชมพูนุท สะหลี เลขที่ 10 ชั้น ม.6 ห้อง 9
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. ชมพูนุท สะหลี ชั้นม.6/9 เลขที่ 10
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
พลาสเตอร์ยาบรรเทาอาการแมลงกัดต่อยโดยมะลิ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Jasmine relief plaster for be bit by insect
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว ชมพูนุท สะหลี
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคการเรียนที่ 1– 2 ปีการศึกษา 2560
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ประเทศไทยมีสมุนไพรจานวนมากและหลากหลายในชุมชน ภูมิปัญญาไทยจากสมุนไพรหรือผักผลไม้รวมถึง
ดอกไม้ถูกใช้ในทางการแพทย์ไม่ว่าจะใช้เพื่อบารุงสุขภาพหรือเพื่อบรรเทาอาการ โดยสมัยก่อนนั้นคนไทยนับถือ
พระพุทธศาสนา เข้าวัดทาบุญและมักใช้มะลิถวายพระ ทาให้มะลิเป็นที่นิยมปลูกในบ้านเพราะนอกจากมะลิจะนิยม
ปลูกดอกมะลิเอาไว้เป็นไม้ดอกไม้ประดับเพื่อชื่นชมความสวยงามและมะลิยังมีกลิ่นหอม คนไทยสมัยก่อนยังเก็บดอก
มะลิตูมมาใส่พานหรือนามะลิมาร้อยมาลัยนาไปถวายพระ กลิ่นหอมของดอกมะลิทาให้เกิดรู้สึกสงบใจ นอกจากนี้ยัง
นาดอกมะลิมาลอยในน้าดื่มเย็น ๆ ให้แขกผู้มาเยือนได้ดื่มกันอย่างชื่นอกชื่นใจ หรือจะนาดอกมะลิไปลอยในน้าเชื่อม
กินกับขนมหวานไทยก็ทาให้มีกลิ่นหอมชวนทาน แต่มะลิยังมีสรรพคุณในทางการแพทย์ คือ มะลิใช้รักษาบาดแผล
เรื้อรัง แก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยรวมไปถึงแผลผุพองหรือฝีหนอง โดยการนาดอกมะลิทาตารับยาโบราณจะใช้ดอก
มะลิมาตาพอละเอียดแล้วนาไปพอกบริเวณผิวหนังที่มีอาการ มะลิยังสามารถรักษารอยแผลเป็นได้ด้วย โดยเมื่อนา
มะลิที่บดแล้วประคบที่แผลจะทาให้แผลค่อยๆ จางลง แต่ในปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีที่สะดวกขึ้นและต้องการความ
สะดวกในการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ปลาสเตอร์จึงเป็นสิ่งที่สะดวกและใช้งานง่ายในการรักษาบาดแผลจากการโดนแมลงกัด
ต่อย โดยพลาสเตอร์มะลิเมื่อนาไปแปะบนแผลก็จะสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดและผู้ใช้สามารถเดิน ลุง นั่ง หรือ
ทากิจกรรมต่างๆได้อย่างสะดวกด้วยการใช้งานที่ง่ายและสามารถรักษาบาดแผลได้เท่ากันกับการใช้มะลิสด พลา
สเตอร์จากมะลิเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่สามารถใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังส่งเสริมคุณค่าของภูมิปัญญา
ไทยพื้นบ้านและสานต่อความรู้ภูมิปัญญาไทยที่ปรับเข้ากับสมัยปัจจุบัน

3. 3
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาพลาสเตอร์มะลิที่มีผลต่อการรักษาบาดแผลและแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
2.เพื่อสานต่อภูมิปัญญาไทยพื้นบ้าน
ขอบเขตโครงงาน
1.พันธุ์มะลิที่ใช้ในการศึกษา คือ มะลิลาซ้อน จังหวัดเชียงใหม่ หลังการเก็บดอกมะลิไม่เกิน 3 วัน
2.แผ่นพลาสเตอร์ผ้า
3.ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา คือ ภาคการเรียนที่ 1 – 2 ปีการศึกษา 2560
หลักการและทฤษฎี
หลักการสกัดสารในรูปแบบของโมเลกุลขนาดเล็ก
หลักการนาพาสารเข้าเซลล์
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. พบปัญหาและคิดหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
2. รวบรวมข้อมูลที่จะศึกษา
3. ทาการทดลอง
4. แก้ไขผลการทดลอง และทาการทดลองซ้า
5. สรุปผลการทดลอง
6. นาเสนอผลการทดลอง
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. มะลิลาซ้อน 1 กิโลกรัม
2. แผ่นพลาสเตอร์ผ้า
3. เครื่องบด 1 เครื่อง
4. ช้อนตวง 1 อัน
งบประมาณ
200 - 300 บาท

4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. พลาสเตอร์มะลิสามารถรักษาบาดแผลและแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
2. พลาสเตอร์มะลิสามารถสืบสานภูมิปัญญาไทยพื้นบ้าน
สถานที่ดาเนินการ
บ้านเลขที่ 212 หมู่ 2 ตาบลสันทรายหลวง อาเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คือ เคมีและชีววิทยา
แหล่งอ้างอิง
http://campus.sanook.com/1000551/
http://sukkaphap-d.com/14-สรรพคุณ-ประโยชน์ของมะล/
https://health.mthai.com/howto/china-medicine/13531.html
https://th.wikipedia.org/wiki/มะลิ