C3

1. 49
บทที่ 3
วิธีดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำ
การวิจัยนี้มีความมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการจดจาคาศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) อาเภอกันทรวิชัย จังหวัด
มหาสารคาม โดยเทคนิคช่วยจาซึ่งกลุ่มผู้วิจัยมีวิธีดาเนินการวิจัยดังต่อไปนี้
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
3. การสร้างและการหาคุณภาพของเครื่องมือ
4. ขั้นตอนการดาเนินการวิจัยและการเก็บรวบรวมข้อมูล
5. การวิเคราะห์ข้อมูล
6.สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง
การวิจัยครั้งนี้กลุ่มผู้วิจัยใช้วิธีการวิจัยแบบการทดลอง One group pre-test–post-test
design โดยมีขอบเขตการวิจัยดังนี้
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย
มหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
จานวน 7 ห้องเรียน นักเรียนจานวน 282 คน
1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนสาธิต
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม สังกัดสานักงาน
คณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จานวน 40 คน
โดยใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยการจับสลากเลือก 1 ห้องเรียน จาก
ทั้งหมด 7 ห้องเรียน ซึ่งมีความสามารถคละกัน
เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย
กลุ่มผู้วิจัยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ชนิดประกอบด้วย
1.แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คาศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคช่วยจา ระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 4 แผน ใช้เวลาแผนละ 2 ชั่วโมง รวม 8 ชั่วโมง
2.แบบทดสอบคาศัพท์ จากการเรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คาศัพท์
ภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคช่วยจาเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 50 ข้อ

2. 50
กำรสร้ำงและกำรหำคุณภำพของเครื่องมือ
1. การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ มีดังนี้
1.1 ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องในบทที่ 2 ได้แก่ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขึ้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเทคนิคช่วยจา คาศัพท์ และการสอนคาศัพท์
1.2 เลือกเนื้อหาสอดคล้องกับ Unit/Topic ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้
1.3 วิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ มาตรฐานตัวชี้วัด และเวลาดังตาราง
ต่อไปนี้
ตาราง 17 วิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้มาตรฐานตัวชี้วัด และเวลา
Unit/Topic จุดประสงค์การเรียนรู้ มาตรฐานตัวชี้วัด เวลา
Unit: Interest/Opinion
Topic: Concert
Unit :Places
Topic: Tourist
Attractions
Sub-topic: History
1. ฝึกจาความหมายคาศัพท์
เกี่ยวกับ Concert ได้แก่
concert, orchestra, fantastic,
classical music, chat,
performance, glare at โดยใช้
เทคนิคคาสาคัญ
2. สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เกี่ยวกับ Concert ได้
1. ฝึกจาความหมายคาศัพท์
เกี่ยวกับ History ได้แก่ plateau,
dedicate, restoration,
conserve, monument,
civilization, marble, extinct,
dune โดยใช้เทคนิคตะขอเกี่ยว
2. อ่านเรื่อง World wonders ที่
เกี่ยวข้องกับคาศัพท์ แล้วตอบ
คาถามได้
ต.1.1.1.1/ม.3 ปฏิบัติตามคา
ขอร้อง คาแนะนา คาชี้แจง และ
คาอธิบายที่ฟังและอ่าน
(จุดประสงค์ข้อ 1)
ต1.1.2.1/ม.3สนทนาและเขียน
โต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองเรื่อง
ต่างๆใกล้ตัว สถานการณ์ ข่าว
เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม
และสื่อสารอย่างต่อเนื่องและ
เหมาะสม (จุดประสงค์ข้อ 2)
ต.1.1.1.1/ม.3 ปฏิบัติตามคา
ขอร้อง คาแนะนา คาชี้แจง และ
คาอธิบายที่ฟังและอ่าน
(จุดประสงค์ข้อ 1,2)
2
ชั่วโมง
2
ชั่วโมง
ตาราง 17 (ต่อ)

3. 51
Unit/Topic จุดประสงค์การเรียนรู้ มาตรฐานตัวชี้วัด เวลา
Unit : Career
Topic: Future Career
Unit : Environment
Topic: Pollutions
1. ฝึกจาความหมายคาศัพท์
เกี่ยวกับ Future Career ได้แก่
plan, interest, business,
graduate, musician, manage,
tour guide โดยใช้เทคนิคอักษรตัว
แรก
2. แสดงบทบาทจากคาศัพท์ที่
กาหนดให้ได้ถูกต้อง
1. ฝึกจาความหมายคาศัพท์
เกี่ยวกับ Pollutionsได้แก่ earth,
pollution, factory, disease,
biological, oil spills, planet,
destroy โดยใช้เทคนิคเชื่อมโยง
รูปภาพ
2. แต่งเรื่องจากคาศัพท์ที่
กาหนดให้ได้
ต.1.1.1.1/ม.3 ปฏิบัติตามคา
ขอร้อง คาแนะนา คาชี้แจง และ
คาอธิบายที่ฟังและอ่าน
(จุดประสงค์ข้อ 1)
ต.2.2.1.1/ ม.3 เลือกใช้ภาษา
น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะสม
กับบุคคลและโอกาสตามมารยาท
สังคม และวัฒนธรรม
(จุดประสงค์ข้อ 2)
ต.4.4.1.1/ ม.3 ใช้ภาษาสื่อสารใน
สถานการณ์จริง/สถานการณ์
จาลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
สถานศึกษา ชุมชน และสังคม๖
(จุดประสงค์ข้อ 2)
ต.1.1.1.1/ม.3 ปฏิบัติตามคา
ขอร้อง คาแนะนา คาชี้แจง และ
คาอธิบายที่ฟังและอ่าน
(จุดประสงค์ข้อ 1)
ต.1.1.2.5/ม.3 พูดและเขียน
บรรยายความรู้สึกและความคิดเห็น
ของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
กิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ พร้อมทั้งให้เหตุผล
ประกอบอย่างเหมาะสม
(จุดประสงค์ข้อ 2)
2
ชั่วโมง
22
ชั่วโมง
1.5 สร้างแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการจดจาคาศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้
เทคนิคช่วยจาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 4 แผน
1.6 นาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษในการจดจา
คาศัพท์โดยใช้เทคนิคช่วยจาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 4 แผนเสนออาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อ
ตรวจสอบความถูกต้องและความสอดคล้องของเนื้อหาตัวอย่างเช่นเนื้อหากับ Unit/Topic มีความ
สอดคล้องกันจุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องกับกิจกรรมและกิจกรรมมีความสอดคล้องกับ
เทคนิคช่วยจาเพื่อส่งเสริมการจดจาคาศัพท์ภาษาอังกฤษ

4. 52
1.7 แก้ไขปรับปรุงแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการจดจาคาศัพท์
ภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคช่วยจาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามข้อเสนอแนะของอาจารย์
ที่ปรึกษา
1.8 นาแผนการสอนที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วนาเสนออาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบความ
ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง
1.9 นาแผนการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านการตรวจสอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาไปทดลองใช้
(Try-out) กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 จานวน 40 คน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
(ฝ่ายมัธยม) อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีความสามารถคละกันกับกลุ่มตัวอย่างเพื่อ
ปรับปรุงแผนการเรียนรู้
1.10 นาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่แก้ไขปรับปรุงแล้วเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อ
พิจารณาความถูกต้องอีกครั้ง
1.11 นาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4
จานวน 40 คนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) อาเภอกันทรวิชัย จังหวัด
มหาสารคาม
2. การสร้างแบบทดสอบคาศัพท์
2.1 ศึกษาการวัดผลและประเมินผลคาศัพท์ภาษาอังกฤษ
ตางราง 18วิเคราะห์จุดประสงค์ของแผนการจัดการเรียนรู้ทั้ง 4 แผน ดังตารางต่อไปนี้
จุดประสงค์การเรียนรู้ Unit/Topic จานวนข้อสอบ
ปรนัย 50ข้อ
แบบเลือกตอบ
ฝึกจาความหมายคาศัพท์ เกี่ยวกับ Concert ได้แก่
concert, orchestra, fantastic, classical
music, chat, performance, glare at ได้
Unit: Foreign Culture
Topic: Eastern Culture &
Western Culture
7
ฝึกจาความหมายคาศัพท์ เกี่ยวกับ History ได้แก่
plateau, dedicate, restoration, conserve,
monument, civilization, marble, extinct ได้
Unit :Places
Topic: Tourist Attractions
Sub-topic: History
7
ฝึกจาความหมายคาศัพท์ เกี่ยวกับ Future
Career ได้แก่ plan, interest, business,
graduate, musician, manage, tour guide ได้
Unit : Career
Topic: Future Career
7
ฝึกจาความหมายคาศัพท์ เกี่ยวกับ Pollutions
ได้แก่ earth, pollution, factory, disease,
biological, oil spills, planet, destroy ได้
Unit : Environment
Topic: Pollutions
7

5. 53
2.2 สร้างแบบทดสอบแบบปรนัยจานวน 50 ข้อ ต้องการจริง 20 ข้อ
2.3 นาแบบทดสอบคาศัพท์ภาษาอังกฤษที่กลุ่มผู้วิจัยสร้างขึ้น เสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษา
ทาการตรวจสอบความถูกต้องของแบบทดสอบของภาษาและเนื้อหาแล้วนามาปรับปรุงแก้ไข
2.4 นาแบบทดสอบคาศัพท์ภาษาอังกฤษที่ผ่านการตรวจสอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาไป
ทดลองใช้ (Try-out) กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จานวน 40
คน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย (ฝ่ายมัธยม) อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
2.5 หลังจากทดลองใช้แบบทดสอบการจดจาคาศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย (ฝ่ายมัธยม) อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่ง
ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างแล้วกลุ่มผู้วิจัยนาแบบทดสอบการจดจาคาศัพท์มาหาค่าความยากง่ายของ
แบบทดสอบค่าอานาจจาแนกและค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบการจดจาคาศัพท์ภาษาอังกฤษ
2.6 นาแบบทดสอบคาศัพท์ภาษาอังกฤษที่หาค่าความยากง่ายค่าอานาจจาแนกและค่า
ความเชื่อมั่นแล้วนาไปทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3/2 จานวน 40 คน
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) อาเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ทั้งก่อนและ
หลังการจัดการเรียนรู้จานวน40ข้อ
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ กลุ่มผู้ศึกษาค้นคว้าได้ดาเนินการเก็บรวบรวมวิจัย ดังนี้
1.ทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) ด้วยแบบทดสอบคาศัพท์ภาษาอังกฤษ
2.ดาเนินการสอนตามที่ใช้ในการสอนที่ได้จัดขึ้น จานวน 4 แผนแผนละ 2 ชั่วโมง
3.ทดสอบหลังเรียน (Post-test) โดยใช้แบบทดสอบการจดจาคาศัพท์ที่ใช้กับการทดสอบ
ก่อนเรียน
การวิเคราะห์ข้อมูล
1. วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการจดจาคาศัพท์
ภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคช่วยจาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70
2. วิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการจดจาคาศัพท์
ภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคช่วยจาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3. วิเคราะห์และเปรียบเทียบผลการเรียนรู้คาศัพท์ภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียนใน
การใช้เทคนิคช่วยจาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

6. 54
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
1. สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพของเครื่องมือ
1.1การหาค่าอานาจจาแนก (Discrimination Power) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการ
เรียนแบบอิงเกณฑ์โดยวิธีของแบรนแนน (Brennan) เรียกว่า ดัชนี บี (B-Index) โดยใช้สูตร
B =
𝑈
𝑁1
-
𝐿
𝑁2
เมื่อ B แทน ค่าอานาจจาแนกของข้อสอบ
N1 แทน จานวนคนรอบรู้ (หรือคนสอบผ่านเกณฑ์)
N2 แทน จานวนคนไม่รอบรู้ (หรือสอบไม่ผ่านเกณฑ์)
U แทน จานวนคนรอบรู้ (หรือสอบผ่านเกณฑ์) ตอบถูก
L แทน จานวนคนไม่รอบรู้ (หรือสอบไม่ผ่านเกณฑ์)ตอบถูก
1.2การหาค่าเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบทดสอบปรนัยโดยใช้สูตรของโลเวท (Lavett)
ดังนี้
𝑟𝑐𝑐 = I -
𝐾 ∑ 𝑥1− ∑ 𝑥1
2
(𝐾−1)∑(𝑥1−𝐶)2
เมื่อ 𝑟𝑐𝑐แทน ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ
K แทน จานวนของแบบทดสอบทั้งฉบับ
𝑥𝑖 แทน คะแนนสอบของนักเรียนแต่ละคน
c แทน คะแนนจุดตัด
1.3 การหาค่าความยากง่ายของแบบทดสอบปรนัยโดยใช้สูตรดังนี้
P=
R
N
เมื่อP แทน ความยากง่าย
R แทน จานวนผู้เรียนที่ทาข้อนั้นถูก
N แทนจานวนผู้เรียนทั้งหมด

7. 55
2. ค่าสถิติพื้นฐานได้แก่ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (x) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
2.1 ร้อยละ (Percentage) โดยใช้สูตร ดังนี้
ร้อยละ= × 100
2.2 ค่าเฉลี่ย (Arithmetic Mean) ใช้สูตร ดังนี้
X =
 X
N
เมื่อ X แทนค่าเฉลี่ย
แทนผลรวมคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม
N แทนจานวนคนทั้งหมดในกลุ่ม
2.3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้สูตร
S.D.=
 
 1
22

 
NN
XN
เมื่อ S.D. แทนส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
X แทนคะแนนแต่ละตัว
N แทนจานวนคะแนนในกลุ่ม
 แทนผลรวม
2.4 การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิค
ช่วยจาเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้สูตร ดังนี้
𝐸1 =
∑𝑋
𝑁
𝐴
× 100
เมื่อ 𝐸1 แทน ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการคิดเป็นร้อยละ
∑X แทน คะแนนรวมจากการทาแบบฝึกหัดหรือแบบทดสอบย่อยทุกชุด
N แทน จานวนผู้เรียน
A แทน คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดทุกชุดรวมกัน
 X
ตัวเลขที่ต้องการ
เปรียบเทียบจานวนเต็ม

8. 56
𝐸2 =
∑𝑋
𝑁
𝐵
× 100
เมื่อ 𝐸2 แทน ค่าประสิทธิภาพของผลลัพธ์
∑X แทน คะแนนรวมจากการทาแบบทดสอบหลังเรียน
N แทน จานวนผู้เรียนทั้งหมด
A แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน
2.5 สูตรการหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (𝐸1) ด้วยวิธีการของ
กูดแมน (Goodman) เฟรสเซอร์ (Fletchers) และซไนเดอร์ (Schneider)ดังนี้
=
3. เปรียบเทียบผลของการทดสอบคาศัพท์ภาษาอังกฤษก่อนและหลังการใช้เทคนิคช่วยจาโดยใช้สูตร
(t-test dependent) ดังนี้
t =
1
)( 22

 

n
DDn
D
df = n-1
เมื่อ t แทน ค่าสถิติที่ใช้ในการเปรียบเทียบกับค่าวิกฤติเพื่อทราบความมีนัยสาคัญ
D แทน ค่าผลต่างระหว่างคู่คะแนน
D แทน ผลรวมค่าผลต่างระหว่างคู่คะแนน
n แทน จานวนกลุ่มตัวอย่างหรือจานวนคู่คะแนน
df แทนn-1
ดัชนีประสิทธิผล =
คะแนนรวมจากแบบทดสอบหลังเรียน – คะแนนรวมจากแบบทดสอบก่อนเรียน
ผลคูณของคะแนนเต็มกับจานวนคน – คะแนนรวมจากแบบทดสอบก่อนเรียน