การศึกษาประสิทธิภาพการกรองน้ำของกรวดเเละเเผ่นใยสังเคราะห์

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน การศึกษาประสิทธิภาพการกรองน้าของกรวดกับใยสังเคราะห์
ชื่อผู้ท้าโครงงาน
นาย ณัฐ ศศิธร เลขที่ 29 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 8
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาด้าเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่

2. 2
ส้านักงานเขตพืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดท้าข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นาย ณัฐ ศศิธร เลขที่ 29 2…………………………………เลขที่ ……….
3………………………………….. เลขที่………
ค้าชีแจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
การศึกษาประสิทธิภาพการกรองน้าของกรวดกับใยสังเคราะห์
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Study performance of gravel and fiber
ประเภทโครงงาน ประเภทโครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ท้าโครงงาน นาย ณัฐ ศศิธร
ชื่อที่ปรึกษา ครูเชื่อนทอง มูลวรรณ
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาด้าเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
ที่มาและความส้าคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ในปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธุรกิจทางด้านสัตว์น้าก้าลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เนื่องจากราคาดี
ผลผลิตดี และเป็นที่ต้องการของตลาดผู้บริโภคอย่างมากมาย แต่ปัญหาของผู้ที่เลียงสัตว์น้ามักจะพบได้บ่อยนัน
คือ สัตว์น้าที่เลียงไว้มักจะป่วยและเกิดโรคที่มากับน้าที่ไม่สะอาดหรือมากับการที่ผู้เพาะเลียงเปลี่ยนน้าอย่างไม่ถูก
วิธี จึงต้องท้าให้ไปซือระบบกรองน้ามาใช้ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง ทางผู้เพาะเลียงบางส่วนจึงหันมาใช้ก้อนกรวด
และเส้นใยสังเคราะห์ ผู้จัดท้าจึงอยากทราบถึงประสิทธิภาพในการกรองของวัตถุทังสองชนิดนี เพื่อได้ง่ายต่อการ
ตัดสินใจในการเลือกซือและประหยัดงบประมาณในการใช้จ่ายของผู้เพาะเลียงสัตว์น้าด้วย

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. ศึกษาประสิทธิภาพในการกรองน้าของกรวดหิน
2. ศึกษาประสิทธิภาพของเส้นใยสังเคราะห์
3. ศึกษาคุณภาพของน้าและผลข้างเคียงต่อสัตว์น้า
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1. เปรียบเทียบปริมาณในการใช้ต่อน้าขุ่น 1 สิตร
2. สังเกตความแตกต่างด้วยตาเปล่า
3. เปรียบเทียบประสิทธิภาพการกรองด้วยความใสของน้า
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการท้าโครงงาน)
ทำไมในเครื่องกรองน้ำสนิมเหล็กจึงใช้กรวดทรำย
โดย บริษัท เอ็ม.เค.เทรดดิ้ง จำกัด
ระบบกรองน้ำจะเรียงตัวจำกทรำยขนำดเล็กและใหญ่ขึ้น จนกลำยเป็นกรวดขนำดเล็กเรียงไปใหญ่สุด จำกชั้น
บนสุดไปหำล่ำงสุด เพื่อให้น้ำกรองผ่ำนจำกบนลงล่ำง ทำไมเรำไม่เลือกใช้ทรำยขนำดเล็กเรียงไปจนถึงขนำดใหญ่
และต่อด้วยหินโม่จำกขนำดเล็กไปหำขนำดใหญ่แทนกรวด ซึ่งกำรหำหินโม่ยังจะง่ำยและรำคำถูกกว่ำกรวดคัด
ขนำด
เป็นปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติอีกแบบหนึ่งที่คนยุคโบรำณค้นพบและถ่ำยทอดสืบๆกันมำ กำรที่ทรำยเรียงตัวจำก
เล็กไปหำกรวดใหญ่สำมำรถกรองตะกอนในน้ำได้ เนื่องจำกกำรเรียงตัวของมันแบบนั้น เกิด “สะพำน” ระหว่ำงกัน
ทั้งๆที่มีระยะห่ำงไม่ชิดกันแต่กลับสำนสะพำนกั้นตะกอนให้ค้ำงอยู่อย่ำงหลวมๆได้และระยะช่องว่ำงของกรวด
ช่วงล่ำงๆลงไปจะห่ำงกันมำกขึ้นกลับทำให้น้ำไหลเคลื่อนที่ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ขณะเดียวกันด้วยกำรเกำะแบบ
หลวมๆและเกิด “สะพำน” สำนกันนั้น กลับสำมำรถเรียงตัวได้ใหม่เมื่อถูกน้ำล้ำงกรองดันย้อนกลับ เป็นกำรกวน
กรวดทรำยใหม่และตะกอนที่ตกค้ำงก็จะถูกกำจัดทิ้งออกมำ ด้วยรูปร่ำงกลมในแบบต่ำงๆของกรวดคัดขนำดที่ใช้
กรองน้ำ จะทำให้เกิดช่องว่ำงให้ถูกดันขยับตัวได้ง่ำย ตะกอนจะแยกออกทิ้ง และกรวดทรำยเรียงตัวเกิด “สะพำน”
ได้ใหม่ กำรกวนนี้ก็ยังทำให้กรวดทรำยเรียงตัวจำกเม็ดเล็กไปเม็ดใหญ่ตำมเดิมด้วยน้ำหนักที่หนักมำกน้อยเรียงกัน
ไปตำมแรงโน้มถ่วง
เช่นกัน กับในบ่อบำดำล น้ำบำดำลก่อนไหลเข้ำสู่บ่อที่เรำเจำะ เรำจะใช้กรวดกรองน้ำกรุรอบๆบ่อบำดำลที่เจำะ
จำกนั้นจึงเป่ำกวนน้ำด้วยลมอัด เพื่อให้ตะกอนหรือเม็ดทรำยขนำดเล็กถูกกำจัดออกมำจำกบ่อ ทรำยเม็ดเล็กที่ขยับ
ตัวเข้ำมำได้จะทยอยถูกกำจัดออกไปจนหมด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหำกับปั๊มสูบ และจะเกิดปรำกฏกำรณ์ “สะพำน” ขึ้น
ใหม่ในกรวดทรำยของชั้นกรองน้ำที่กรุรอบๆบ่อบำดำล เหมือนในเครื่องกรองน้ำ ซึ่งสำมำรถเป่ำกวนล้ำงได้ใหม่
เมื่อมีกำรอุดตัน

4. 4
แต่สำหรับหินโม่จะไม่เกิดปรำกฏกำรณ์ “สะพำน” เหมือนกรวด ทรำยจะเรียงตัวแทรกในชั้นหินโม่ได้อย่ำงแน่น
กำรไหลกรองจะดำเนินไปได้อย่ำงช้ำ และกำรดันล้ำงกรองหรือกำรเป่ำกวนในบ่อบำดำล เพื่อให้เกิดกำรขยับตัว
แยกตะกอนหรือเศษทรำยออกจำกเครื่องกรองหรือจำกบ่อบำดำลเป็นไปด้วยควำมยำกลำบำกมำกหรือไม่ได้เลย
ปัญหำอุดตันที่ติดตำมมำภำยหลังจึงแก้ไขไม่ได้อันเป็นเหตุผลที่ไม่ควรใช้หินโม่มำแทนกรวดแม่น้ำในกำรกรุบ่อ
บำดำลและในเครื่องกรองน้ำ อีกทั้งหินโม่ยังเป็นหินปูนที่ละลำยทำให้เกิดน้ำกระด้ำงได้อีกด้วย
เป็นเรื่องที่ช่ำงเจำะต้องทำควำมเข้ำใจกับลูกค้ำ กำรเจำะในชั้นกรวดทรำย กรวดยิ่งก้อนใหญ่มำกเพียงใด กำรเจำะก็
จะยิ่งยำกขึ้นเพียงนั้น ท่ำนที่ประสบอยู่จะทรำบกันดี ดังนั้นกำรเสนอรำคำควรตระหนักถึงควำมยำกลำบำกและ
ควำมเสียหำยที่อำจจะเกิดขึ้นให้มำก ชั้นกรวดทรำยโดยธรรมชำติยังขยับให้ตัวได้มำก จะขยับหลบอยู่ข้ำงบ่อหรือ
ถูกกระแทกแตกดันออกมำได้แต่กรวดใหญ่ที่ว่ำยำกแล้วยังง่ำยกว่ำ กรณีที่เจอทรำยในชั้นหินหัก เพรำะด้วยเหตุผล
ทำงธรรมชำติที่กล่ำวมำเบื้องต้น หินหักขยับตัวน้อยมำกกำรคุ้ยเขี่ยให้หลบจึงไม่เป็นผล มีแต่ต้องงัดและบดให้แตก
ย่อยให้เล็ก ก่อนถูกดันขึ้นมำ ซึ่งนำมำสู่ควำมสึกหรอและควำมเสียหำยของเครื่องเจำะเป็นอันมำก ท่ำนจะ
สังเกตเห็นควำมแตกต่ำง อันเป็นผลมำจำกธรรมชำติของมันแท้ๆ.
เส้นใยกรอง
วัสดุกรอง ซับเสตรต ไบโอบอล ใยกรอง
วัสดุช่วยกรองชนิดต่ำงๆ ช่วยในกำรดูดซับสำรพิษ เป็นที่อยู่แบคทีเรีย ช่วยทำให้นำใส หลักๆจะมี 2 แบบ
วัสดุกรองที่ต้องกำรจุลินทรีย์ในกำรทำงำน เช่น เซรำมิคริง ไบโอบอล Bio Mate แบบนี้จะเน้นที่พื้นที่ผิว รูพรุน
ยิ่งมีมำกยิ่งดี จุลินทรีย์จะไปเกำะอำศัยได้มำก เมื่อมีจุลินทรีย์มำก ก็จะช่วยกำจัดของเสียได้ดียิ่งขึ้น
วิธีด้าเนินงาน
แนวทางการด้าเนินงาน
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________

5. 5
งบประมาณ
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
__________________________________________________________________
___________________________________________________________________
ขันตอนและแผนด้าเนินงาน
ล้าดับ
ที่
ขันตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
สถานที่ดาเนินการ
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________

6. 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________