Health care

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน 33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5 ปีการศึกษา 2562
ชื่อผู้ทาโครงงาน ดูแลสุขภาพ
ชื่อ นางาสาว จีรนันท์ ไพรพุ่มพฤกษ์ เลขที่ 30 ชั้น ม.6 ห้อง 14
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี)…………………………………………………
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม 1
1.นางสาวจีรนันท์ ไพรพุ่มพฤกษ์ เลขที่ 31
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ดูแลสุขภาพ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Health care
ประเภทโครงงาน โครงงานเกี่ยวกับสุขภาพ
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว จีรนันท์ ไพรพุ่มพฤกษ์
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2 ปีการศึกษา 2562
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
สภาวะของร่างกายและจิตใจของมนุษย์ การที่มนุษย์จะดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกตินั้น ต้องเป็นผู้ที่
มีสภาวะของร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ โดยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีโครงสร้างของร่างกายที่เหมาะสม
การดูแลสุขภาพเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ต้องรู้จักการกินอาหารเป็นสิ่งสาคัญ รองลงมาคือการ
ออกกาลังกาย ด้วยเหตุนี้ทางกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข และสถาบันวิจัยโภชนาการและหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องทางด้านอาหารและโภชนาการการดูแลสุขภาพตนเองของคนพิการทางจิต เป็นสิ่ง สาคัญ
ประการแรกที่ทุกคนต้องดูแลสุขภาพของตนเองในทุกวัย โดยเฉพาะวัยผู้ที่จะเข้าผู้สูงอายุ และ คนพิการ
เพราะร่างกายมีแต่เสื่อมลงในการศึกษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง เป็นการศึกษา เกี่ยวกับการ
ปฏิบัติกิจกรรมที่บุคคลเพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตและสวัสดิภาพของตนเอง และปฏิบัติเป็นประจาจนติดเป็น
นิสัยทั้งในภาวะปกติและในภาวะเจ็บป่วย เพื่อให้สุขภาพอนามัยของตนสมบูรณ์แข็งแรงอยู่ เสมอ Kals
and Cobbได้ให้ความหมายพฤติกรรมสุขภาพว่าเป็นกิจกรรมใด ๆ ที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งกระทาขึ้นเพื่อ
ส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงซึ่งการกระทานี้อาจเป็นการป้องกันโรคหรือการค้นหาโรคใน ระยะที่ยังไม่เกิด
อาการชัดเจนด้วย เหตุผลก็เพราะว่าทาให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายมีสภาพสมบูรณ์และเป็นปกติทรุด
โทรมช้าทาให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทางานได้อย่างเป็นปกติ และมีประสิทธิภาพทาให้ปราศจากโรคภัย
ไข้เจ็บ

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.ส่งเสริมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
2.เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
3.เพื่อการรักษาโรค หรือบาบัดร่างกาย
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.การศึกษาครั้งนี้ มุ่งศึกษาด้านสุขภาพ คือ การรักษาโรค บาบัดร่างกาย
2.ศึกษาเกี่ยวกับสภาวะของร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์
3.ศึกษาเพื่อให้สุขภาพอนามัยของตนสมบูรณ์แข็งแรง
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ปัจจุบันสังคมไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตรกรรมไปสู่สังคมอุตสาหกรรม การใช้ชีวิตของ
คนเปลี่ยนไปทั้งในแง่การใช้แรงงานทางานมาใช้สมองนั่งโต๊ะทางาน การใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบทาให้เกิด
ความเครียด ขาดการออกกาลังกาย ขาดการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ขาดความสนใจต่อสุขภาพ
ตัวทาให้เกิดโรคต่างๆซึ่งเกิดจากการไม่ดูแลตัวเองให้ดีเช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง
ความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งซึ่งโรคเหล่านี้สามารถป้องกัน หรือลดอุบัติการณ์ได้โดยการที่เราใส่ใจดูแล
ตัวเอง เพียงใช้เวลาวันละประมาณ 1 ชั่วโมงก็สามารถทาให้สุขภาพดีขึ้น
การออกกาลังกาย หมายถึง กิจกรรมที่ทาแล้วทาให้ร่างกายมีสุขภาพดี ป้องกันโรคต่างๆ เป็นที่น่าดีใจว่า
การออกกาลังกายให้สุขภาพดีไม่ต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่วันละครึ่งชั่วโมงพอ และไม่ต้องใช้พื้นที่
หรือเครื่องมืออะไรมากมาย การออกกาลังกายทาให้รูปร่างดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันโรค ทาให้
ร่างกายสดชื่น และสามารถลดความเครียดได้การดูแลสุขภาพเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ต้องรู้จัก
การกินอาหารเป็นสิ่งสาคัญ รองลงมาคือการออกกาลังกาย ด้วยเหตุนี้ทางกรมอนามัย กระทรวง
สาธารณสุข และสถาบันวิจัยโภชนาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านอาหารและโภชนาการ จึงได้
จัดทา “ข้อปฏิบัติในการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี 9 ข้อ หรือโภชนบัญญัติ 9 ประการ” เพื่อเผยแพร่ให้
ใช้ยึดเป็นแนวทางในการกินอาหารให้หถูกต้อตามหลักโภชนาการ โภชนบัญญัติ 9 ประการ ประกอบด้วย
1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากกลายและหมั่นดูแลน้าหนักตัว เพื่อให้สารอาหารที่ ร่างกาย
ต้องการอย่างครคบถ้วนและมีน้าหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่อ้วนหรือผอมเกินไป
2. กินข้าวเป็นหลักสลับกับอาหารแป้งในบางมื้อ เลือกกินข้าวกล้องแทนข้าวขาวและได้คุณค่าและใย
อาหารมากกว่า
3. กินผักให้มาก และกินผลไม้ประจา กินผักและผลไม้ทุกมื้อ จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคและต้าน
โรคมะเร็งได้
4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจา ปลาเป็นโปรตีนคุณภาพดี และย่อยง่าย
เป็นอาหารที่หาง่าย ถั่วเมล็ดแห้งเป็นโปรตีนจากพืชที่ใช้แทนเนื้อสัตว์ได้

4. 4
5. ดื่มนมให้เหมาะสมกับวัย นมช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง เด็กควรดื่มนมวันละ 1-2 แก้ว ผู้ใหญ่ควร
ดื่มนมพร่องมันเนย วันละ 1-2 แก้ว
6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร กินอาหารประเภททอด ผัด หรือแกงกะทิ แต่พอควร เลือกกินอาหาร
ประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง (ที่ไม่ไหม้เกรียม) แกงไม่ใส่กะทะเป็นประจา
7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด หวานจัด เค็มจัด กินหวานมากเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน
โรคหัวใจ และหลอดเลือด กินเค็มจัดเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง
8. กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน อาหารที่ไม่สุกและปนเปื้อนเชื้อโรคและสารเคมี เช่น สาร
บอแร็กซ์ สารเร่งสี สารกันเชื้อรา สารฟอกขาว สารฆ่าแมลง ฟอร์มาลิน ทาให้เกิดโรคได้
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะทาให้มีความเสียงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคตับ
แข็ง โรคมะเร็งในหลอดอาหาร และโรคร้ายอีกมาก
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.) รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการออกกาลังกาย
2.) จัดหมวดหมู่การออกกาลังกายและอาหารของผู้คนที่ต่างวัย
3.) ทดลองใช้งาน
4.) แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
5.) ให้ผู้สนใจมาทดลองใช้
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
-

5. 5
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.) ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น
2.) ทุกคนให้ความสนใจกับการออกกาลังกายเพิ่มขึ้น
3.) มีการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
4.) มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
5.) เป็นแบบอย่างในการส่งเสริมสุขภาพ
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ(2561) การออกกาลังกายเพื่อสุขภาพ (ออนไลน์)
http://www.bangkokhealth.com/health/article/ (20 กันยายน 2561)