More Related Content
Similar to แผนการเรียนรู้ฮาร์ดแวร์ (Hardware) (20)
More from Khon Kaen University (20)
แผนการเรียนรู้ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
- 1. EDUCATION
กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี(คอมพิวเตอร์)
เรื่อง การใช้งานโปรแกรม องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
แผนการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
สอนวันที่ 4 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยที่ 1
เวลาเรียน 4 ชั่วโมง
เวลาเรียน 1 ชั่วโมง
ผู้สอน
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระ บวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลการ
เรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทางานและอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และมีคุณธรรม
สาระสาคัญ
ความหมายและลักษณะของฮาร์ดแวร์ การแบ่งประเภทของฮาร์ดแวร์ (Hardware)
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของฮาร์ดแวร์ได้ (K)
2. นักเรียนสามารถจาแนกประเภทของฮาร์ดแวร์ได้ (P)
3. เห็นความสาคัญของฮาร์ดแวร์แต่ละประเภท (A)
สาระการเรียนรู้
ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
การแบ่งประเภทฮาร์ดแวร์
(Hardware)
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
หน่วยความจาหลัก (Memory Unit)
หน่วยประมวลผล (Processing Unit)
หน่วยความจาสารอง (Secondary Storage Device)
หน่วยแสดงผลลัพธ์ (Output Unit)
ความหมายฮาร์ดแวร์
(Hardware)
- 2. สือ/แหล่งการเรียนรู้
่
1. ใบความรู้ เรื่อง ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
2. แบบฝึกหัด เรื่อง ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
4. สไลด์ PowerPoint เนื้อหาของบทเรียน
5. สื่อการเรียนรู้ LMS เพื่อส่งเสริมการร่วมมือการเรียนรู้ด้วย Wikispaces Classroom
กระบวนการจัดการเรียนรู้ (collaborative learning)
TGT (Team - Games – Tournament)
รูปแบบการ
จัดการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
ทักษะทาง
คอมพิวเตอร์ที่
มุ่งเน้น
สือ/แหล่งเรียนรู้
่
ผลงานของ
ผู้เรียน
ขั้นนา
-ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนใน
ชั่วโมงและบอกเนื้อหาที่นักเรียน
จะต้องเรียนว่ามีอะไรบ้าง
ขั้นกระบวนการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 :
-ครูสอนความคิดรวบยอดใหม่
ขั้นสอน
หรือบทเรียนใหม่ โดยมีสื่อการ
เรียนรู้จาก Wikispaces
Classroom
- กระบวนการเรียนรู้ - สื่อการเรียนรู้
ด้วยตนเอง
Wikispaces
Classroom
-ใบความรู้บน
Wikispaces
Classroom
ขั้นที่ 2 :
- ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 4- -กระบวนการเรียนรู้ -ภารกิจการ
ขั้นทบทวน
5 คน ที่มีความสามารถทางการ ร่วมกัน
เรียนรู้บน
ความรู้เป็นกลุ่ม เรียนต่างกัน โดยมี ทั้งเพศหญิง -กระบวนการ
Wikispaces
และเพศชาย
ช่วยเหลือ
Classroom
[โดยใช้เกณฑ์จากการสอบครั้ง
- แก้ปัญหา หา
-เอกสาร
ก่อนหน้า]
ความรู้ร่วมกัน
ประกอบการ
- ให้นักเรียนในแต่ละกลุ่ม ทางาน - แลกเปลี่ยนความรู้ เรียนรู้บน
ร่วมกันเพื่อช่วยเหลือกันและกัน ซึ่งกัน
Wikispaces
ในการศึกษาเอกสารเพื่อทา
-การร่วมกันแสดง
Classroom
กิจกรรมจาแนกประเภทของ
ความคิดเห็นและหา -link ที่เกี่ยวข้อง
ฮาร์ดแวร์
ข้อสรุปร่วมกัน
กับฮาร์ดแวร์บน
-ให้ผู้เรียนร่วมกันทบทวนความรู้
Wikispaces
เพื่อเตรียมพร้อมสาหรับการสอบ
Classroom
ย่อย
-Video ที่
เกี่ยวข้อง
-หน้าผลงานของ
ผู้เรียนที่ร่วมกัน
เรียนรู้และสรุป
บน Wikispaces
Classroom
- 3. รูปแบบการ
จัดการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
ทักษะทาง
คอมพิวเตอร์ที่
มุ่งเน้น
- ครู ต้องกระตุ้นผู้เรียนกระทา
คือ สมาชิกทุกคนในกลุ่มสามารถ
ตอบคาถามได้ เมื่อมีข้อสงสัยหรือ
ปัญหา ให้นักเรียน ช่วยเหลือกัน
ภายในกลุ่มก่อนที่จะถามครูหรือ
ถามเพื่อนกลุ่มอื่น ให้สมาชิก
อธิบายเหตุผลของคาตอบของแต่
ละคาถามให้ได้
-ให้ผู้เรียนร่วมกันทบทวนความรู้
ซึ่งกันและกันเพื่อเตรียมการ
แข่งขันกับทีมอื่น
ขั้นที่ 3 :
- ครูจัดให้นักเรียนทาแข่งขันกัน -กระบวนการการ
ขั้นทดสอบย่อย ระหว่างกลุ่ม โดยส่งตัวแทนแต่ละ ปัญหา
กลุ่มเพื่อแข่งขันกัน โดยทาการ
แข่งขันบน Wikispaces
Classroom
ขั้นที่ 4 :
- ครูนาคะแนนจากการสอบย่อย
ขั้นหาคะแนน มาหาคะแนนพัฒนาการ แบบ
พัฒนาการ
รายบุคคล ตามเกณฑ์การหา เมื่อ
ได้คะแนนพัฒนาการของนักเรียน
แต่ละคนแล้ว จึงหาคะแนน
พัฒนาการของกลุ่ม ซึ่งได้จาก
ค่าเฉลี่ยของคะแนนพัฒนาการ
ของสมาชิกทุกคน ซึ่งมีอัตราส่วน
ระหว่างคะแนนพัฒนาการ
รายบุคคล ต่อ กลุ่ม เป็นร้อยละ
60 : 40
ขั้นที่ 5 :
- กลุ่มที่ได้คะแนนพัฒนาการตาม
ขั้นให้รางวัล
เกณฑ์ที่กาหนดจะได้รับคาชมเชย
กลุ่ม
หรือติดประกาศที่บอร์ดใน
ห้องเรียน
ขั้นสรุป
สรุปและ
ประเมินผล
- ครูให้ผู้เรียนทุกกลุ่มร่วมกันสรุป - การแลกเปลี่ยน
เป็นความรู้รวมทั้งหมดที่ได้เรียนรู้ ความรู้ การสรุป
สือ/แหล่งเรียนรู้
่
-ข้อคาถามบน
Wikispaces
Classroom
- Wikispaces
Classroom
- แบบสรุป
- แบบประเมิน
ผลงานของ
ผู้เรียน
-คาตอบบน
Wikispaces
Classroom
- 9. (กิจกรรมนี้อยู่บน Wikispaces Classroom )
กิจกรรมการเรียนรู้ [กลุม]
่
ชื่อกลุ่ม....................................................................................................
สมาชิก
1]…………………………………………………………………………….หน้าที่...............................เลขที.่ ..........ชั้น...............
2]…………………………………………………………………………….หน้าที่...............................เลขที.่ ..........ชั้น...............
3]…………………………………………………………………………….หน้าที่...............................เลขที.่ ..........ชั้น...............
4]…………………………………………………………………………….หน้าที่...............................เลขที.่ ..........ชั้น...............
5]…………………………………………………………………………….หน้าที่...............................เลขที.่ ..........ชั้น...............
คาชี้แจง :: ให้นักเรียนแบ่งประเภทของฮาร์ดแวร์ พร้อมทั้งอธิบายถึงประโยชน์และความสาคัญของอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ตามข้อมูลที่กาหนดให้
1.Scanner
2.Touch screen
3.Mouse
4.Track ball
5.Video camera
6.Microphone
7.Keyboard
8.Digitizer table
9.CPU
10.Monitor
11.Speaker
12.Printer
13.Ploter
14.Projector
15.Sound Card
16.Monitor Card
17.RAM
18.ROM
19.CD-ROM/CD-R
20.DVD
21.Harddisk
22.Tape
23.Flash drive
24.Memory stick
- 10. (กิจกรรมนี้อยู่บน Wikispaces Classroom )
แบบทดสอบ [สาหรับการแข่งขัน]
ชื่อกลุ่ม....................................................................................................
1]…………………………………………………………………………….หน้าที่...............................เลขที.่ ..........ชั้น...............
คาชี้แจง :: ตอนที่ 1 แบบเลือกตอบ ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ โดยเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียง
คาตอบเดียวเท่านั้น โดยให้ตอบลงในกระดาษคาตอบเท่านั้น
1.) “ลักษณะทางกายของเครื่อง
คอมพิวเตอร” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอย่างไร
์
A. Peripheral
B. Hardware
C. Microprocessor
D. Processing
2.) ก. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) คือ อุปกรณ์,
ชิ้นส่วน, วัสดุต่างๆ ที่มีรูปทรงและลักษณะทาง
กายภาพ สามารถจับต้องได้
ข. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) คือ
ส่วนประกอบต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นเครื่อง
คอมพิวเตอร์ และไม่รวมไปถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ
พิจารณาว่าข้อใดเป็นจริง
A. ก. ถูก ข. ถูก
B. ก. ผิด ข. ถูก
C. ก. ถูก ข. ผิด
D. ก. ผิด ข. ผิด
3.) ถ้าหากเราแบ่งอุปกรณ์ที่เป็นฮาร์ดแวร์
ตามหน้าที่ของอุปกรณ์นั้นยกเว้นข้อใด
A. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
B. หน่วยประมวลผล (Processing Unit)
C. หน่วยความจาหลัก (Memory Unit)
D. หน่วยพลังงานสารอง (Battery
backup)
4.) “Internal Storage” เป็นชื่อเรียกของ
หน่วยความจาใด
A. หน่วยความจาหลัก
B. หน่วยความจารอง
C. หน่วยความจาชั่วคราว
D. หน่วยความจาถาวร
5.) 1 GB เท่ากับ กี่ KB
A. 1,000,000 KB
B. 100,000 KB
C. 1,048,576 KB
D. 148,576 KB
6.) “เป็นเหมือนผู้ที่ทาหน้าที่ปิด-เปิดสวิตช์
เพื่อควบคุมวงจรให้ทางานตามคาสั่งหรือโปรแกรม”
จากข้อความข้างต้นหมายถึงอะไร
A. หน่วยควบคุม
B. หน่วยประมวลผล
C. หน่วยคานวณ
D. หน่วยตรรกะ
7.) ก. ความเร็ว
ข. ขนาดของความจา
ค. ต้นทุนต่อหน่วย
ง. พื้นที่ในการเก็บข้อมูล
ข้อใดไม่ใช่การพิจารณาประสิทธิภาพของ
หน่วยความจาสารอง
A. ก
B. ข
C. ค
D. ง
8.) หน่วยที่เล็กที่สุดที่ใช้ในสาหรับการ
สะท้อนแสงเพื่อแสดงผลบนจอภาพ คืออะไร
A. Dot Pitch
B. Pixels
C. Row
D. Resolution
- 14. ใบความรู้
องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
คือลักษณะทางกายของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งหมายถึงตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์รอบข้าง
(peripheral) ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฮาร์ดดิสก์ เครื่องพิมพ์ เป็นต้น ฮาร์ดแวร์ประกอบด้วย
ความหมายของฮาร์ดแวร์ (Hardware) Hardware หมายถึง อุปกรณ์, ชิ้นส่วน, วัสดุต่างๆ ที่มีรูปทรง
และลักษณะทางกายภาพ สามารถจับต้องได้ ซึ่งก็คือส่วนประกอบต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์
และรวมไปถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ซึ่งเราสามารถแบ่งกลุ่มตามหน้าที่อุปกรณ์แต่ละตัวได้ดังนี้
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
หน่วยความจาหลัก (Memory Unit)
หน่วยประมวลผล (Processing Unit)
หน่วยความจาสารอง (Secondary Storage Device)
หน่วยแสดงผลลัพธ์ (Output Unit)
1.1 หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) คือ ส่วนที่นาข้อมูลเข้ามาหรือส่วนที่ใช้สาหรับสั่งคอมพิวเตอร์ให้ ทา
งาน อุปกรณ์เหล่านี้ ได้แก่ คีย์บอร์ด เมาส์ เป็นต้น
1.2 หน่วยความจา (Memory) คือ ส่วนที่ใช้ในการเก็บข้อมูลมีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ
หน่วยความจาหลัก (Main Memory Unit) หน่วยความจาของคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกว่า
Main Memory หรือ Primary Storage หรือInternal Storage เป็นหน่วยความจาที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
(Data) คาสั่งหรือโปรแกรม (Instruction or Program) สามารถเก็บข้อมูลได้ชั่วคราวขณะที่เปิดเครื่องอยู่เท่านั้น
เมื่อปิดเครื่องข้อมูลก็จะหายไป ส่วนใหญ่ถ้าพูดถึง main memory นั้นเราจะหมายความถึง RAM (Random
Access Memory)
- 15. หน่วยความจาชั่วคราว RAM (Random Access Memory)
- เป็นชิป (Chip) ที่ทาหน้าที่เป็นหน่วยความจาหลัก
- ใช้เก็บข้อมูลหรือคาสั่งทั้งก่อนและหลังการประมวลผล
- สามารถเก็บข้อมูลได้ชั่วคราวขณะมีที่ไฟฟ้าเท่านั้น
- ผู้ใช้สามารถเขียน/อ่าน/ลบ/เปลี่ยนแปลงข้อมูลบน RAM ได้ ดังนั้นความจุ
(Capacity) และความเร็วในการเขียน/อ่าน (Access Time) ข้อมูลของ RAM จะมีผลต่อประสิทธิภาพ
- ถ้า RAM มีความเร็วสูงและมีความจุมากก็จะทาให้คอมพิวเตอร์ทางานให้ได้เร็วขึ้น
- ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ควรมีหน่วยความจาอย่างน้อย 128 – 256 MB
- อนาคตคาดว่าจะมีการเพิ่มขนาดของ RAM มากขึ้นเนื่องจากราคาถูกลง และ
ซอฟต์แวร์มีขนาดใหญ่ต้องการใช้ RAM ที่มีความจุมากในขณะทางาน
หน่วยความจาแบบถาวร ROM (Read Only Memory) หน่วยความจาแบบไม่ลบเลือน
(Nonvolatile memory) เป็นอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมกับ CPU จะบันทึกข้อมูลมาจากโรงงานไม่สามารถลบ หรือแก้ไข
ข้อมูลได้ อ่านได้อย่างเดียวเรามักเรียกว่า ROM (Read only memory)
ขนาดหน่วยความจาของคอมพิวเตอร์
8
บิต bit
เท่ากับ
1 ไบต์ (1 Byte คือ 1
ตัวอักษร)
1024
ไบต์ Byte
เท่ากับ
1 กิโลไบต์ (1 KB)
1024
กิโลไบต์ KB
เท่ากับ
1 เมกะไบต์ (1 MB)
1024
เมกะไบต์ MB
เท่ากับ
1 กิกะไบต์ (1 GB)
1024
กิกะไบต์ GB
เท่ากับ
1 เทราไบต์
1.3 หน่วยประมวลผล (Processing Unit, CPU) คือ สมองของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งทาหน้าที่ในการ
ควบคุมการปฏิบัติงานหลักของเครื่อง กล่าวคือ ทาหน้าที่ด้านการคานวณ ประมวลผลและการเปรียบเทียบตาม
คาสั่งหรือโปรแกรม โดยทั่วไปในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์จะติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยประมวลผล
กลาง ซึ่งจะประกอบด้วย Microprocessor Chip, แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Card) และ Chip ประกอบอื่นๆ ไว้
บนแผงวงจรหลักที่เรียกว่า Main board หรือ Motherboard รวมเรียกทั้งหมดนี้ว่า System Unit หรือ System
Cabinet นาไปติดตั้งไว้ในตัวถัง หรือ Case หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU ประกอบด้วยหน่วยย่อย 2 หน่วย
คือ หน่วยควบคุม (Control Unit) และหน่วยคานวณและตรรกะ (Arithmetic and Logical Unit : ALU)
หน่วยควบคุม (Control Unit) ทาหน้าที่ส่งสัญญาณควบคุม (Control Signal) ไปควบคุม
การทางานของหน่วยประมวลผล เป็นเหมือนผู้ที่ทาหน้าที่ปิด-เปิดสวิตช์ เพื่อควบคุมวงจรให้ทางานตามคาสั่งหรือ
โปรแกรมได้รับมาสัญญาณควบคุมต่างๆ เหล่านี้ ได้แก่
o ควบคุมการนาคาสั่งจากหน่วยความจาเข้าประมวลผลในหน่วยคานวณและตรรกะ
o ควบคุมการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างหน่วยความจาหลักกับหน่วยต่างๆ ภายนอกหน่วยประมวลผลกลาง
o ควบคุมการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างหน่วยต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง
- 16.
หน่วยคานวณและตรรกะ (Arithmetic and Logical Unit : ALU) ซึ่งวงจรนี้จะทาหน้าที่
หลัก 2 อย่างคือ
o ทาหน้าที่ด้านตรรกะ คือ การเปรียบเทียบ ได้แก่ เท่ากับ ไม่เท่ากับ มากกว่า น้อยกว่า มากกว่าหรือเท่ากับ
น้อยกว่าหรือเท่ากับ
o ทาหน้าที่เป็นเครื่องคิดเลขคานวณ บวก ลบ คูณ หาร
1.4 หน่วยความจาสารอง (Secondary Storage Device) ถือเป็นหน่วยความจาภายนอก (External
Memory) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่ในการจัดเก็บสารองข้อมูลของคอมพิวเตอร์ไว้อย่างถาวร เราสามารถนา
ข้อมูลเหล่านั้นกลับมาใช้ใหม่ได้อีก เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบงานคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้น
การพิจารณาประสิทธิภาพของหน่วยความจาสารอง
1. ความเร็ว (Retrieval speed) หมายถึง เวลาที่ใช้ในการอ่านข้อมูลและได้ข้อมูลที่ต้องการ โดยทั่วไป
หน่วยความจาสารองที่มีความเร็วในการอ่านสูงและสามารถเก็บข้องมูลได้มากจะมีราคาแพง
2. ขนาดของความจา (Storage capacity) คือ อุปกรณ์สารองข้อมูลมีความสามารถในการเก็บข้อมูลได้
มากน้อยเพียงใด
3. ต้นทุนต่อหน่วย (Cost per bit of capacity)
ตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นหน่วยความจาสารอง
- ดิสก์เกต (Floppy Disks)
- ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)
- ซีดี-รอม (CR-ROM)
- Memory Card
1.5 หน่วยแสดงผล (Output Unit) คือ ส่วนที่แสดงผลลัพธ์การทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์
เครื่องพิมพ์ (Printer) มี 3 ชนิด ได้แก่
o เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer) เครื่องพิมพ์นี้ใช้หลักการสร้างจุด ลงบน กระดาษ
โดยตรง หัวพิมพ์ของเครืองพิมพ์ มีลักษณะเป็นหัวเข็ม
่
o เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Ink-Jet Printer) สามารถพิมพ์ตัวอักษรที่มีรูปแบบ และขนาดที่แตกต่าง
กันมากๆ มีความคมชัดกว่าเครืองพิมพ์ดอตแมทริกซ์ จะมีการการพ่นหมึกหยดเล็กๆ ไปที่กระดาษ หยดหมึกจะมี
่
ขนาดเล็กมาก แต่ละจุดจะอยู่ในตาแหน่งที่เมื่อประกอบกันแล้วจะเป็นตัวอักษร
o เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer) เครื่องพิมพ์ชนิดนี้อาศัยเทคโนโลยีไฟฟ้าสถิตแบบเดียวกันกับ
เครื่องถ่ายเอกสารทั่วไปโดยลาแสงจากไดโอดเลเซอร์จะฉายไปยังกระจกหมุน เพื่อสะท้อนไปยังลูกกลิ้งไวแสง ซึ่ง
จะปรับตามสัญญาณภาพหรือตัวอักษรที่ได้รับจากคอมพิวเตอร์
พล็อตเตอร์ (Plotter) เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ลงบนกระดาษ
ที่ทามาเฉพาะงานเหมาะสาหรับงานเกี่ยวกับการเขียนแบบทางวิศวกรรม และงานตกแต่งภายใน
จอภาพ (Monitor) หรือ Display Screen
o อุปกรณ์แสดงผลให้ผลลัพธ์ที่ได้บนจอภาพเรียกว่า Soft Copy
o สามารถแสดงผลได้ทั้งตัวอักษร ข้อความ ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว
o เทคโนโลยีของจอภาพที่ใช้ในปัจจุบันจะมีแบบ Cathode-Ray-Tubes : CRTs ซึ่งมักจะใช้กับ เครื่อง
ไมโครคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) ทั่วไป และจอภาพแบบ Liquid-Crystal Display: LCD
มักใช้กับคอมพิวเตอร์ประเภท Notebook หรือ Portable Computer เพราะมีขนาดเล็กและแบนราบ
จอภาพสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
- 17. จอภาพสีเดียว (Monochrome monitor) และจอภาพสี (Color Monitor)
- ความละเอียดการแสดงผล (Screen Resolution) คือ ความหนาแน่นของจุด (pixels) เป็นจานวนจุดที่นับใน
แนวแถว (Row) และคอลัมน์ (Column) ถ้าความละเอียดสูงจะทาให้การแสดงผล คมชัด และสามารถแสดง
ภาพกราฟิก (Graphic) ที่มีความละเอียดสูงได้
- จุด (pixels) คือ หน่วยที่เล็กที่สุดที่ใช้ในสาหรับการสะท้อนแสงเพื่อแสดงผลบนจอภาพ ถ้าจุดของจอภาพมี
ขนาดเล็กก็สามารถที่จะเพิ่มความละเอียดของจุดได้มากขึ้น โดยการลด ระยะห่าง ระหว่างจุดให้น้อยลง
- ระยะห่างระหว่างจุด เราเรียกว่า Dot Pitch ถ้าค่ายิ่งน้อยก็จะทาให้คุณภาพของจอภาพยิ่งดี
- ปัจจุบันเรานิยมใช้จอภาพที่มี Dot pitch ขนาด 0.28 mm.
ลาโพงคอมพิวเตอร์ หรือ ลาโพงมัลติมีเดีย เป็นลาโพงภายนอกที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
โดยผ่านช่องเสียบซึ่งต่อจากการ์ดเสียงภายในเครื่อง โดยอาจต่อเข้ากับแจ็คสเตอริโอธรรมดา หรือขั้วต่ออาร์ซีเอ
(RCA connector) และยังมีจุดเชื่อมต่อยูเอสบี สาหรับใช้ในปัจจุบัน โดยมีแรงดันไฟจ่าย 5 โวลต์ ลาโพง
คอมพิวเตอร์มักจะมีขุดขยายเสียงขนาดเล็ก และชุดแหล่งจ่ายไฟต่างหาก
ปัจจุบันลาโพงสาหรับคอมพิวเตอร์มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ขนาด และราคา ปกติจะมีขนาดเล็ก ให้
มาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ แต่ก็มีการผลิตลาโพงคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน สามารถปรับแต่งเสียงทุ้มแหลม หรือ
คุณลักษณะอื่นๆ ได้