More Related Content
Similar to Project com48 (20)
Project com48
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน วิ่งอย่างไรไม่ทาร้ายสุขภาพ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวภัทรินทร์ บุตรเนตร เลขที่ 48 ชั้น ม.6 ห้อง 5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
นางสาวภัทรินทร์ บุตรเนตร เลขที่ 48
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
วิ่งอย่างไรไม่ทาร้ายสุขภาพ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Run for health
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวภัทรินทร์ บุตรเนตร
ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากปัจจุบันนี้มนุษย์เรามีการออกกาลังกายโดยการวิ่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการวิ่งของคนแต่ละกลุ่มนั้นมี
หลักการวิ่งและเป้าหมายการวิ่งที่แตกต่างกัน โดยมีทั้งกลุ่มคนที่วิ่งเพื่อสุขภาพ กลุ่มคนที่วิ่งเพื่อการแข่งขันหรือวิ่งใน
ระดับอาชีพ กลุ่มคนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งในแต่ละเป้าหมายนั้นก็จะมีวิธีหรือหลักการวิ่งเพื่อให้สุขภาพ
ร่างกายของเราปลอดภัยเพราะการวิ่งนั้นไม่ว่าคนในกลุ่มใดก็มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อาการบาดเจ็บและ
อาการหัวใจหยุดเต้นได้ อันเนื่องมาจากการวิ่งที่หนักเกินกาลังร่างกาย ขาดการฝึกฝนฝึกซ้อมที่สม่าเสมอ และกลุ่มที่
ไม่ทราบว่าตนเองป่วย หรือมีโรคประจาตัว อาจทาให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพร่างกายตามมา เพราะฉะนั้นการวิ่ง
จึงควรที่จะวิ่งให้ถูกหลักการและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของเรา
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาค้นคว้าให้ความรู้ในเรื่องการวิ่งที่ถูกต้อง
2.เพื่อเผยแพร่ความรู้การวิ่งอย่างถูกต้องและเหมาะสมให้กับผู้ที่สนใจในการวิ่ง
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
โครงงานเรื่อง วิ่งอย่างไรไม่ทาร้ายสุขภาพ ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย มีขอบเขตใน
การค้นคว้าดังนี้ ใช้ในการศึกษาความรู้ต่อในวิชาสุขศึกษาและพละศึกษาในทุกระดับชั้น
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
การออกกาลังกายโดยการวิ่งนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษถ้าปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอนตามหลักการของการวิ่งก็จะ
ส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายต่อสุขภาพของเรา
- 3. 3
การกาหนดเป้าหมายในการวิ่ง ช่วยให้การวิ่งปลอดภัยขึ้น
นพ.ภัทรภณ ให้คาแนะนาต่อว่า การวิ่งนั้นไม่ว่าคนในกลุ่มใดก็มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อาการ
บาดเจ็บและอาการหัวใจหยุดเต้นได้ อันเนื่องมาจากการวิ่งที่หนักเกินกาลังร่างกาย ขาดการฝึกฝนฝึกซ้อมที่สม่าเสมอ
และกลุ่มที่ไม่ทราบว่าตนเองป่วย หรือมีโรคประจาตัว ดังนั้นการกาหนดเป้าหมายในการวิ่งให้ชัดเจน จึงมีส่วนช่วยใน
การกาหนดการฝึกซ้อม และการเตรียมสภาพร่างกาย
กลุ่มคนที่วิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งไม่หนักมากนัก สามารถสังเกตอาการเจ็บป่วยได้ด้วยตนเอง และควรเริ่มวิ่งอย่าง
ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เพิ่มระยะทาง ระยะเวลาตามความพร้อม และความสบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย
กลุ่มคนที่ต้องการวิ่งเพื่อการแข่งขันหรือวิ่งในระดับอาชีพ ที่ต้องการพัฒนาการวิ่งของตนเองให้มีระดับสูงขึ้น
วิ่งได้เร็วขึ้น นอกจากการฝึกซ้อมอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสม่าเสมอแล้ว ควรได้รับการตรวจเช็คสภาพ
ร่างกายก่อน เพื่อดูว่าตนเองมีความเสี่ยงในการเกิดโรค หรือโรคประจาตัวอะไรหรือไม่
กลุ่มคนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือกลุ่มคนที่มีโรคประจาตัว โรคความดันเลือด โรคหัวใจ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มี
น้าหนักตัวมาก หรือคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก และข้อต่อ ควรได้รับคาแนะนาจากแพทย์ เพื่อกาหนด
รูปแบบและระยะเวลาที่เหมาะสม
วิธีการสังเกตตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง
การสังเกตตนเองสามารถทาได้ในขณะวิ่ง หากมีอาการเจ็บ หรือปวด หน้ามืด วิงเวียนขณะวิ่ง ให้เบา
ความเร็วในการวิ่งลง หรือ หยุดเพื่อสังเกตการ ไม่ควรฝื่นวิ่งต่อ อีกกรณีหากวิ่งแล้วมีอาการเจ็บ หรือปวดเรื้อรังเป็น
เวลานาน เกิน 3 - 4 วัน ให้ลองหยุดพัก และสังเกตอาการ และบรรเทาอาหารเบื้องต้นด้วยการประคบเย็น และยกขา
ให้สูง หรือหากทาแล้วไม่ดีขึ้น หรือไม่มั่นใจในอาการบาดเจ็บตนเอง ให้ปรึกษาแพทย์รับการวินิจฉัย และเข้ารับการ
รักษาต่อไป
นอกจากนี้ควรหมั่นฝึกซ้อม และ ออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ โดยทาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เพิ่มความเร็ว
และระยะในการวิ่ง เร็วเกินไป เพิ่มการฝึกเวทเทรนนิ่ง หรือ บอดี้เวท ที่สามารถทาได้ง่ายๆที่บ้าน เพื่อช่วยเสริมความ
แข็งแรงของกล้ามเนื้อ ก็จะสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้อีกทาง
ประโยชน์ที่ได้จากการเดิน และการวิ่ง
การเดิน และการวิ่งเป็นประจา ส่งผลดีต่อร่างกายทุกระบบ ทั้งร่างกาย และจิตใจ นพ.ภัทรภณ อติเมธิน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิ่ง และอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง กล่าวว่า การวิ่งนั้นดีต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน
ด้านสุขภาพพื้นฐานทั่วไป ช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปรกติ การทางานของหัวใจ ปอด การหายใจ
ดีขึ้น เพิ่มความฟิต และสมบูรณ์ให้กับร่างกาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทาให้ส่วนต่างๆ ของ
ร่างกายทางานได้ดีขึ้น
ช่วยเบาเทาและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคประจาตัวต่างๆ เช่นหัวใจ โรคความดันเลือด โรคเบาหวาน ช่วย
ลดระดับไขมันในเลือด และช่วยในการลดน้าหนัก และควบคุมน้าหนักได้
ด้านสุขภาพจิต และอารมณ์ ก็มีรายงานว่าการวิ่งช่วยให้อารมณ์ และสุขภาพจิตดีขึ้น ช่วยทาให้ระดับ
ความเครียดลดลง
- 4. 4
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
- ปรึกษาเลือกหัวข้อ
- นาเสนอหัวข้อกับครูผู้สอน
- ศึกษารวบรวมข้อมูล
- จัดทารายงาน
- นาเสนอครูผู้สอน
- ปรับปรุงและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
- อินเทอร์เน็ต
- หนังสือที่เกี่ยวข้อง
- คอมพิวเตอร์
- โทรศัพท์
งบประมาณ
100 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1. ผู้จัดทามีความเข้าใจในหัวข้อที่สนใจมากขึ้น
2. สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้จริง
3. สามารถนาความรู้ไปเผยแพร่ให้กับเพื่อนหรือผู้อื่นได้
4. ผู้จักทามีความเข้าใจในการทางาอย่างเป็นระบบมากขึ้น
สถานที่ดาเนินการ
ห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://www.thaihealth.or.th/Content