More Related Content
More from PimchanokSripongphij
More from PimchanokSripongphij (7)
Bababa
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงานนั่งผิดชีวิตเปลี่ยน
ชื่อผู้ทาโครงงาน
น.ส.บัณฑิตา กันธา เลขที่ 42 ชั้น ม.6 ห้อง 4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
น.ส.บัณฑิตา กันธา เลขที่ 42
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
นั่งผิดชีวิตเปลี่ยน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Office syndrome
ประเภทโครงงาน โครงงานประเภทสารวจ
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.บัณฑิตา กันธา
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลา ภาคเรียนที่1-2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากโลกปัจจุบันเป็นโลกแห่งเทคโนโลยีทาให้การทางานของเรานั้นต้องอยู่กับจอคอมพิวเตอร์และ
สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆในพื้นที่จากัดและเกิดจากการก้มมองดูจอคอมใกล้ๆเมื่อตาปรับแสงไม่ทันหรือเกิดจาก
สายตาสั้นหรือตัวหนังสือเล็กเกินไปเป็นปัญหาจากการมองเห็นไม่ชัดทาให้เกิดอาการเมื่อยล้า อ่อนเพลีย หมดแรง ซึ่ง
ทาให้ใครหลายๆคนนั่งหลังค่อมที่ ทาให้กล้ามเนื้อต้นคอเมื่อย เกร็งอยู่ตลอดเวลา ทาให้กระบังลมขยายได้ไม่เต็มที่
สมองได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ ทาให้ง่วงนอน และหากมีความเครียดจะส่งผลให้โรคนี้ให้รุนแรงมากขึ้น เช่น เป็นไม
เกรนหรือปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดตา หน้ามืด เป็นต้น และ โรคนี้จะทาให้เกิดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศตามมาอีก
ด้วย ซึ่งทาผู้จัดทาได้เห็นว่าเป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงทาโครงงานนี้ขึ้นเพื่อชี้แนะแนวทางป้องกันและ
รักษาเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะนาไปสู่โรคออฟฟิศซินโดรม
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อให้ผู้ที่มาศึกษาให้ตระหนักถึงท่านั่งที่ผิดนานๆและทาให้เกิดโรค
2.เพื่อให้ผู้ที่มาศึกษารู้ถึงผลเสียของโรคออฟฟิศซินโดรมและแก้ไขได้ทัน
3.เพื่อให้ผู้ที่มาอ่านรู้ว่าตัวเองหรือคนรอบข้างผู้อ่านเป็นโรคนี้แล้วสามารถแนะนาผู้อื่นและแก้ไขได้ทัน
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ห้องคอม โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย 1เดือน
- 3. 3
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
นพ. วศิน กุลสมบูรณ์ แพทย์หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลบารุงราษฎร์กล่าวว่า ออฟฟิศซินโดรมเป็น
กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นกับคนที่ทางานในออฟฟิศ ซึ่งมีลักษณะงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือทางานอย่างใดอย่าง
หนึ่งด้วยท่าทางซ้าๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานานมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน หรือท่าทางการทางานที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่ง
หลังค่อม ท่าก้มหรือเงยคอมากเกินไป จนอาจส่งผลให้เกิดโรคและอาการผิดปกติในระบบต่างๆ ของร่างกาย อาทิ
ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ระบบการย่อยอาหารและการดูดซึม ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบฮอร์โมน นัยน์ตา
และการมองเห็น"วงจรชีวิตการทางานคือ 23-60 ปี ถ้ามีอาการต่อเนื่อง 3-5 ปีก็จะเริ่มมีปัญหาแล้ว และจะส่งผลต่อ
ปัจจัยอื่นๆ ในร่างกาย เช่น กระดูกต้นคอเสื่อม กระดูกหลังเสื่อม เพราะตัวกล้ามเนื้อและกระดูกถูกธรรมชาติ
ออกแบบให้ใช้งานสาหรับการเคลื่อนไหว เมื่อไหร่ที่นั่งทางานนานๆ การทางานของระบบพวกนี้ก็จะผิดปกติ ทาให้
ระบบทุกอย่างในร่างกายเกิดความไม่สมดุลยกันไปหมด กล่าวได้ว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ที่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคต"
นพ. วศิน กล่าว สาหรับอาการออฟฟิศซินโดรมที่พบได้บ่อย ได้แก่ กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง (myofascial pain
syndrome) เอ็นรัดข้อมืออักเสบกดทับเส้นประสาท (carpal tunnel syndrome) ความผิดปกติของความตึงตัวของ
เส้นประสาท (nerve tension) กล้ามเนื้อบริเวณแขนท่อนล่างด้านนอกอักเสบ (tennis elbow) ปลอกหุ้มเอ็น
กล้ามเนื้อบริเวณฐานนิ้วโป้งอักเสบ (De Quervain Syndrome) นิ้วล็อก (trigger finger) เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ
(tendinitis) และ หลังยึดติดในท่าแอ่น (back dysfunction)จากสถิติผู้ป่วยที่เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลบารุงราษฎร์
ในแต่ละปี พบว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการทากายภาพบาบัดกว่า 60% ของผู้ป่วยทั้งหมด คือผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม
ซึ่งเมื่อตรวจสอบประวัติแล้วก็พบว่าสาเหตุมาจากการนั่งทางานเป็นระยะเวลานานๆ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวนั่นเอง
นอกจากนี้ แนวโน้มที่น่าสนใจคือ ช่วงอายุของผู้มีอาการออฟฟิศซินโดรม เริ่มมีแนวโน้มที่น้อยลงเรื่อยๆ จากอดีตมัก
พบในกลุ่มคนวัยทางานอายุ 40 ปี ต่อมาลดลงเหลือ 30 ปี และปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 20 กว่าปีแล้ว สาเหตุหนึ่งอาจ
เป็นเพราะไลฟ์สไตล์เปลี่ยน เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจาวันมากขึ้น มีการใช้โซเชียลอย่าง
แพร่หลาย ทาให้คนอยู่ในท่าทางเดิมเป็นระยะเวลานาน ซึ่งในกลุ่มที่เล่นโซเชียลผ่านโทรศัพท์มือถือนานๆ ส่วนใหญ่จะ
พบการอักเสบของข้อมือ และในระยะยาวอาจเกิดอาการนิ้วล็อก เหยียดให้ตรงไม่ได้
อย่างไรก็ดี ในอีกมุมหนึ่งก็อาจมองได้ว่าการตระหนักรู้และใส่ใจต่อสุขภาพของคนยุคปัจจุบันมีมากขึ้น ทาให้คนที่อายุ
น้อยๆ เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลมากขึ้นตามไปด้วย
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-ปรึษาเลือกหัวข้อ
-นาเสนอหัวข้อกับครูผู้สอน
-ศึกษารวบรวมข้อมูล
-จัดทารายงาน
-นาเสนอครู
-ปรับปรุงและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเตอร์เน็ต
-คอมพิวเตอร์
-โทรศัพท์
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
- 4. 4
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน บัณฑิตา
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล บัณฑิตา
3 จัดทาโครงร่างงาน บัณฑิตา
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน บัณฑิตา
5 ปรับปรุงทดสอบ บัณฑิตา
6 การทาเอกสารรายงาน บัณฑิตา
7 ประเมินผลงาน บัณฑิตา
8 นาเสนอโครงงาน บัณฑิตา
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
นั่งท่าที่ถูกต้องไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม
สถานที่ดาเนินการ
ห้องคอม โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
สาระสุขะ
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
https://www.posttoday.com/social/PR/458837