Faicom
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน รู้หรือไม่อาหารเช้าสาคัญ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
น.ส. พิมพ์ชนก ศรีพงษ์พิจิตร เลขที่ 35 ชั้น ม.6/4 ห้อง 4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิก
น.ส. พิมพ์ชนก ศรีพงษ์พิจิตร เลขที่ 35
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
รู้หรือไม่อาหารเช้าสาคัญ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Do you know morning breakfast important
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส. พิมพ์ชนก ศรีพงษ์พิจิตร
ชื่อที่ปรึกษา อาจารย์ เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากปัจจุบันวัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะนอนดึกและตื่นสาย เช่น ตื่นเที่ยง หรือตื่นบ่าย บางทีทาให้เลยเวลาอาหารเช้า
ไปและทาให้ในหนึ่งวันรับประทานอาหารแค่ 2 มื้อ และคิดว่าการกินมื้อเที่ยงถือว่าเป็นมื้อเช้าของตน หรือในบาง
กรณีในวัยรุ่นหญิงสมัยนี้มักจะอดอาหารเพื่อลดน้าหนัก และคิดว่าการอดอาหารเช้าและกินอาหารแค่มื้อเที่ยงและเย็น
จะช่วย อาหารเช้าเป็นมื้อสาคัญสาหรับเด็กวัยเรียนและวัยรุ่น ที่ดีควรมีอาหารอย่างน้อย 4 หมู่ คือ 1.อาหารประเภท
ข้าว แป้ง จะให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรต 2.เนื้อสัตว์ นม ไข่ ให้สารอาหารโปรตีน 3.ไขมันและน้ามันจากพืชและสัตว์
ให้สารอาหารไขมัน 4.ผักต่างๆ ให้วิตามินและแร่ธาตุ และหากมีผลไม้ด้วยก็จะครบ 5 หมู่ ซึ่งจะให้ผลดีต่อร่างกาย
ดังนั้นผู้จัดทาจึงอยากให้ผู้อ่านได้รู้ถึงความสาคัญของอาหารเช้า เราไม่จาเป็นต้องการลดน้าหนักด้วยการอดอาหาร
เพียงอย่างเดียว แต่การกินอาหารครบ 3 มื้อ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหมั่นออกกาลังกายสม่าเสมอเพียง
เท่านั้นก็สามารถลดน้าหนักควบคู่ไปกับการมีสุขภาพที่ดีได้
- 3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1. ให้ผู้อ่านได้ทราบเกี่ยวกับความสาคัญของอาหารเช้า
2. ให้ทราบถึงผลเสียจากการอดอาหารเช้าเป็นเวลานานๆ
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
วัยรุ่น
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ทุกคนต้องกินอาหารเช้าให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะว่าหากร่างกายไม่มีพลังงานจากอาหารเช้าไป ใช้
ร่างกายจะดึงสารอาหารจากอวัยวะส่วนอื่นออกมา ( ไม่ใช่ไขมัน ไขมันยังอยู่เหมือนเดิม) ซึ่งภายใต้ กระบวนการนี้จะ
เกิดกรดชนิดหนึ่งออกมาด้วย ซึ่งการที่เราบอกว่าไม่กินข้าวเช้าก็ยังทางานได้เป็นปกติมาตั้ง หลายปีแล้ว นั่นคือร่างกาย
ได้นาเอากรดที่เกิดขึ้นมาใฃ้แทนพลังงานทุกวัน เราจึงทางานโดยใช้กรดแทนพลังงาน และเมื่อร่างกายต้องผลิตกรด
ออกมาบ่อย ๆ พออายุมากขึ้นเราก็จะเป็นโรคตามมาหลายอย่าง
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-ปรึกษาเลือกหัวข้อ
-นาเสนอหัวข้อกับครูผู้สอน
-ศึกษารวบรวมข้อมูล
-จัดทารายงาน
-นาเสนอครู
-ปรับปรุงและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเตอร์เน็ต
-คอมพิวเตอร์
-โทรศัพท์
งบประมาณ
0 บาท
- 4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน พิมพ์ชนก
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล พิมพ์ชนก
3 จัดทาโครงร่างงาน พิมพ์ชนก
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน พิมพ์ชนก
5 ปรับปรุงทดสอบ พิมพ์ชนก
6 การทาเอกสารรายงาน พิมพ์ชนก
7 ประเมินผลงาน พิมพ์ชนก
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
วัยรุ่นเข้าใจถึงความสาคัญของอาหารเช้า และการกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
สุขศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://wipami.blogspot.com/2010/03/blog-post.html