โคงงานคอมพิวเตอร์

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน การคุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นายกฤตปุณย์ แสงเก่ง เลขที่ 46 ชั้น ม.6 ห้อง.5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นายกฤตปุณย์ แสงเก่ง เลขที่ 46
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) การคุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Don’t tell me how to dress
ประเภทโครงงาน โครงงานตามความสนใจ
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายกฤตปุณย์ แสงเก่ง
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
การคุกคุมทางเพศไม่ใช่เรื่องปกติในสังคมแต่ในปัจจุบันประเทศไทยสามารถทาให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ปกติได้ซึ่ง
จากสถิติการข่มขืนในปีที่แล้วมีทั้งหมด 4000 กว่าราย และมีน้อยกว่า 100 รายที่มีการดาเนินคดีตามกฎหมาย มันน่า
กลัวมาก เพราะพอผู้หญิงไปแจ้งความก็จะเจอเจ้าหน้าที่ผู้ชาย ต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหลายๆ รอบจนท้อใจ รู้สึกว่า
ตัวเองถูกข่มขืนซ้าแล้วซ้าเล่าจากการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหามานาน เป็นเรื่องสาคัญมาก แต่ยังไม่
ค่อยเป็นที่พูดถึง เพราะฉะนั้นมันก็ควรได้รับการแก้ไขไปจนถึงระบบและเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ส่วนอีกประเด็นที่สาคัญคือ
การเปลี่ยนทัศนคติของสังคมโดยรวมที่ยังมีความคิดว่าผู้ชายเป็นใหญ่ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าสังคมไทย “ยังไม่
เข้าใจ” เกี่ยวกับการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศมากเพียงพอ เป็นผลให้กฎหมายหรือมาตรการใด ๆ ที่ออกมาเพื่อ
แก้ปัญหาเรื่องนี้เป็นได้แค่เสือในกระดาษ
ดังนั้นทางผู้จัดทาได้เล็งเห็นถึงความสาคัญของเรื่องการคุกคามทางเพศจึงได้จัดทาแบบสารวจที่เกี่ยวการ
การคุกคามทางเพศในชีวิตประจาวันของนักเรียนยุพราชวิทยาลัยโดยเฉพาะนักเรียนหญิงที่มีความเสี่ยงสูงกว่านักเรียน
ชาย
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ให้คนในสังคมตระหนักและเข้าใจในเรื่องการคุกคามทางเพศ
2. เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่เข้ามาศึกษา
3. เพื่อให้เห็นความสาคัญของการคุกคามทางเพศ

3. 3
ขอบเขตโครงงาน
-สารวจและทดลองเฉพาะนักเรียนในโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
หลักการและทฤษฎี
การคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ตามกฏหมายใน California
ยังจา กรณี อนิต้า ฮิล กับ แคลเร้นช์ ทอมมัส ได้หรือไม่ เหตุเกิดเมื่อ นายแคลเร้นช์ ทอมมัส กาลังผ่านขั้นตอน
การพิจารณา เพื่อรับตาแหน่งผู้พิพากษาสูงสุดของสหรัฐ อนิต้า ฮิล ผู้เคยทางานภายใต้ นายแคลเร้นช์ ได้ออกมาเปด
โปง ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของเขา ที่เข้าข่ายการคุกคามทางเพศ อันได้สร้างความอัตคัด ลาบากใจ และมี
ผลกระทบต่อการทางานของเธอ การกระทาอันไม่เหมาะสมมี ตั้งแต่การชักชวนให้อนิต้าใช้เวลากับเขานอกงาน การ
พูดหยอกล้อทางเพศ และอื่นๆ
กรณีนี้ สิ้นสุดลงโดยที่ นาย แคลเร้นช์ ทอมมัส ได้รับการแต่งตั้ง เข้าดารงตาแหน่ง ผู้พิพากษาสูงสุดของสหรัฐ
แต่มันไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ อนิต้าได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงที่กล้านาปัญหา การคุกคามทางเพศ ในที่ทางาน
มาเปดเผย และนี่คือจุดเริ่มต้นของความเข้าใจ การต่อสู้ และการแก้ไขความประพฤติอันไม่ควร ไม่ถูกกฎหมายนี้
อย่างไรก็ดี การละเมิดสิทธิ การล่วงเกิน และการคุกคามทางเพศก็ยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ
ความประพฤติแบบไหนที่เข้าข่าย การคุมคามทางเพศในที่ทางาน ที่ผิดกฎหมาย
Sexual Harassment คือ การคุมคามทางเพศ อันไม่เป็นที่ปรารถนา ซึ่งรวมถึงการขอความช่วยเหลือทางเพศ และ
ความประพฤติ ทางกายและวาจา ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ ที่หากอีกฝ่ายปฏิเสธหรือไม่ปฏิบัติตาม จะมีผลต่อการ
จ้างงานของเขา หรือมีผลต่อการทางานของเขา หรือทาให้บรรยากาศการทางานอึดอัด เครียด และเป็นปฏิปักษ์
ตัวอย่าง ของการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม
1. จับเนื้อต้องตัว จับก้น หน้าอก รวมทั้งส่วนอื่นๆ ของร่างกาย โดยที่ไม่ได้รับการเชื้อเชิญ หรือยินยอมอย่างเต็ม
ใจของอีกฝ่ายหนึ่ง
2. พูดจาลวนลาม เรื่องเซ็กซ์ ทาให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจ เช่น พูดหยอกล้อ เรื่องหน้าอกของผู้หญิง เรื่อง
อวัยวะเพศของผู้ชาย
3. บังคับ หรือ ชักชวน ให้ไปออกเดท หรือนอนด้วย
4. มองจ้อง เรือนร่าง ให้ไปออกเดท หรือ นอนด้วย
5. พูดจาหรือทากิริยา ดูถูก เหยียดหยาม กีดกัน และรังเกียจ ความเป็นเกย์ หรือเลสเบี้ยน
การคุกคามทางเพศเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ต่างๆ กัน ซึ่งรวมถึง
• ผู้ถูกกระทาและผู้กระทาเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และไม่จาเป็นว่าจะต้องเป็นการคุมคามเพศตรงข้าม
• ผู้คุกคาม หรือผู้กระทา อาจเป็นหัวหน้า ตัวแทนพนักงาน หัวหน้าฝ่ายอื่น เพื่อนร่วมงาน หรือคนที่เกี่ยวข้องกับ
ที่ทางานแต่ไม่ใช่พนักงาน
• ผู้ถูกกระทา อาจไม่ใช่เหยื่อของการคุกคามโดยตรง แต่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการคุมคามนั้น
• การคุกคามที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นการกระทาอันไม่เป็นที่พึงปรารถนา
ผู้ถูกคุกคามควรบอกกับผู้ที่กาลังคุมคามตนว่า การกระทาแบบนั้นไม่เป็นที่พึงปรารถนา และบอกให้หยุดกระทา ผู้
ถูกคุกคามควรปฏิบัติตามขั้นตอนของการแจ้งปัญหา เช่น แจ้งให้หัวหน้า ผู้รับผิดชอบงานทราบ

4. 4
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. วางแผน
2. สืบค้นและรวบรวมข้อมูล
3. ทาการสารวจและทดลอง
4. สรุปผล
5. นาเสนอ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. สมุด
2. กระดาษ A4
3. ปากกา
งบประมาณ
100 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
-ทุกคนเห็นความสาคัญของการคุกคามทางเพศ
-ทุกคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ
-ผู้ที่เข้ามาศึกษาได้รับความรู้ที่เพียงพอ
สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม คณิตศาสตร์เชิงสถิติ
แหล่งอ้างอิง
http://www.thailanguagecenter.com/article05.php