Trans-fatty acids

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน ไขมันทรานส์ วายร้ายที่แฝงอยู่ในอาหาร
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาว ธัญลักษณ์ ก่อแก้ว เลขที่ 16
นางสาว ยุภารัตน์ ชานาญ เลขที่ 23
ชั้น ม.6/4
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม ครูสิทธิ์วิศรุฒ พยุหมนตรี
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ไขมันทรานส์ วายร้ายที่แฝงอยู่ในอาหาร
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Trans-fatty acids
ประเภทโครงงาน
โครงงานเพื่อการศึกษา
ผู้ทาโครงงาน
นางสาวธัญลักษณ์ ก่อแก้ว นางสาวยุภารัตน์ ชานาญ
ครูที่ปรึกษา
คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
ตลอดปีการศึกษา 2561
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากข้าพเจ้าเห็นพฤติกรรมการทานอาหารในปัจจุบันนิยม
การทานที่สะดวก รวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่แล้วอาหารประเภทนี้มีไขมัน
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นอาหารที่ไม่ดีเป็นอาหารที่ควรบริโภคแต่น้อย
แต่พอมาถึงในยุคนี้ ข้อมูลด้านโภชนาการทาให้เรารู้ว่าไขมันมีทั้งดีและไม่
ดี และร่างกายคนเราจาเป็นต้องใช้ไขมันในการทางานตามปกติใน
ชีวิตประจาวัน อาหารที่เราบริโภคมักมีไขมันหลายชนิดปะปนอยู่ใน
สัดส่วนที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ามันที่ใช้ทาอาหาร ส่วนไขมันไม่ดี
ได้แก่ ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานซ์ เพราะมีผลต่อการเพิ่ม
คอเลสเตอรอลในร่างกายยิ่งกว่าอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ดังนั้นผู้จัดทา
จึงจัดทาโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะศึกษาเรื่องไขมันโดยมุ่งเน้นไปที่ไขมันท
รานส์เพราะเป็นไขมันที่อันตรายต่อสุขภาพและพบปะปนมากใน
ผลิตภัณฑ์ที่บริโภคในชีวิตประจาวันเพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้บริโภค
ต่อไปและคร่าชีวิตมลมนุษย์ในโลกได้อย่างมากมาย
สมาชิก
1.นางสาวธัญลักษณ์ ก่อแก้ว เลขที่16 2.นางสาวยุภารัตน์ ชานาญ เลขที่ 23

3. 3
วัตถุประสงค์
ศึกษาที่มาของไขมันทรานส์ว่ามาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร
ศึกษาของประเภทอาหารที่พบไขมันทรานส์
ศึกษาประโยชน์และโทษของไขมันทรานส์ต่อสุขภาพ
ศึกษาข้อสังเกตในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานส์เป็น
องค์ประกอบ
ขอบเขตโครงงาน
อาหาร หรือส่วนประกอบของอาหารที่มีไขมันทรานส์
หลักการและทฤษฎี
ไขมันทรานส์ (trans fat) คือไขมันไม่อิ่มตัว เกิดขึ้นจากการ
สังเคราะห์ขึ้นผ่านวิธีการแปรรูปโดยกระบวนการเติมไฮโดรเจนเข้าไปใน
โมลเกลุลของกรดไขมัน ทาให้น้ามันที่สถานะของเหลวเปลี่ยนแปลงเป็น
สถานะของแข็ง เราเรียกว่ากระบวนการนี้ว่า ไฮโดรจีเนชั่น
(Hydrogenation) สามารถพบเจอได้ในอาหารจาพวกโดนัท ลูกชิ้นทอด
และมาการีนในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่
นอกจากการสังเคราะห์ขึ้นมาแล้ว ไขมันทรานส์ยังเกิดขึ้นได้เองตาม
ธรรมชาติ โดยเกิดขึ้นในทางเดินอาหารของสัตว์บางชนิด และผลิตภัณฑ์
บางชนิดที่ได้จากสัตว์ เช่น นมและเนื้อสัตว์ แต่จะพบในปริมาณเพียง
เล็กน้อย

4. 4
ไขมัน (LIPIDS) แบ่งตามวิทยาศาสตร์เคมีได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ
คือ คอเลสเตอรอล (Cholesterol) ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides)
และฟอสโฟไลปิดส์ (Phospholipids) และอื่น ๆ อีกที่ไม่ค่อยสาคัญมาก
แต่ที่เรามันได้ยินคุ้นหูจากแพทย์บ่อย ๆ คือ คอเลสเตอรอล และ
ไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งแพทย์จะบอกแก่คนไข้ว่า ตรวจไขมันในเลือดให้ นั่น
คือ ตรวจค่าของทั้งสองชนิดนั่นเอง ซึ่งค่าปกติของไขมันในเลือดคือ
- คอเลสเตอรอล (Cholesterol) ประมาณ 150-250 mg/dl
- ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ประมาณ 35-160 mg/dl
เรามาทาความเข้าใจกับโครงสร้างอย่างง่ายๆ ของกรดไขมันกันก่อน คือ
กรดไขมันจะประกอบด้วยธาตุ คาร์บอน ไฮโดรเจนและออกซิเจน ซึ่ง
โมเลกุลของธาตุทั้งสามนี้ จะเกาะกันเป็นลูกโซ่มากน้อยตามแต่ละชนิด ซึ่ง
มีประมาณ 40 ชนิด
มีหลักฐานยืนยันว่าการบริโภคไขมันทรานส์เป็นประจามีผลทาให้
เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (coronary heart disease) ซึ่ง
เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของประเทศไทยรองจากโรคมะเร็ง
เนื่องจากการบริโภคไขมันทรานส์จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลรวม (total
cholesterol) ไขมันไม่ดีหรือคอเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล (low-
density lipoprotein cholesterol; LDL-C) และไตรกลีเซอไรด์
(triglycerides) ในเลือด ลดระดับไขมันดีหรือคอเลสเตอรอลชนิดเฮชดี
แอล (high-density lipoprotein cholesterol; HDL-C) นอกจากนี้ยัง
เพิ่มน้าหนักและไขมันส่วนเกิน และทาให้เกิดกระบวนการอักเสบใน
ร่างกาย (Nestel P, 2014) อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าไขมันทรานส์

5. 5
ที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ เช่น vaccenic acid และ conjugated linoleic
acid (CLA) พบในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมจากสัตว์เคื้ยวเอื้อง
(ruminants) มีผลเพิ่มทั้งระดับ HDL-C และ LDL-C และมีรายงานใน
มนุษย์โดยใช้การวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis) หรือการวิเคราะห์
ทางสถิติที่รวบรวมจากผลงานวิจัยต่างๆ พบว่าการบริโภค CLA ในขนาด
เฉลี่ย 3.2 กรัม/วัน สามารถลดมวลไขมันในร่างกายได้ปานกลาง
(Whigham et al, 2007)
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
สารวจผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวประเภทมันฝรั่งทอดกรอบในท้องตลาด
โดยนาแต่ละยี่ห้อมาเปรียบเทียบปริมาณไขมันทรานส์ที่ได้ระบุไว้ในฉลาก
สินค้า
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการศึกษา
ฉลากผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด
กรรไกร
คอมพิวเตอร์
อินเทอร์เน็ต
งบประมาณ
ไม่ใช่งบประมาณ

6. 6
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลา
ดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิด
ชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อ
โครงงาน
2 ศึกษาและ
ค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่าง
งาน
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
5 ปรับปรุง
ทดสอบ
6 การทา
เอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอ
โครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทา
โครงงาน)
สามารถทราบถึงที่มา ประโยชน์และโทษของไขมันทรานส์ รวมถึงหลัก
ในการเลือกซื้อการสังเกตเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อ
สุขภาพ
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกในท้องถิ่น
ที่มีผลิตภัณฑ์หลายชนิดจาหน่ายอยู่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระคอมพิวเตอร์ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และวิชาสุขศึกษา

7. 7
แหล่งอ้างอิง
นิตยสารออนไลน์ ฉลาดซื้อ
https://tci-
thaijo.org/index.php/JFTSU/article/view/3838
0/31799
สานักข่าวประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/economy/news-
200639
แอดมินเพจเคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%
9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80
%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%
E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E
0%B8%99/85760