More Related Content
Similar to หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบห่อหุ้มร่ากาย 2 (20)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ระบบห่อหุ้มร่ากาย 2
- 6. โครงสร้างของผิวหนัง
1.หนังกาพร้า : เป็ นเยือคลุมชั้นนอกของร่างกาย
่
องค์ประกอบ คือ เนื้อเยือบุผิว และเซลล์ผิวที่เรียงตัวเป็ นชั้นๆ
่
เซลล์บุผิวที่อยูช้นนอกสุดเป็ นเซลล์ที่ตายแล้วและจะหลุดออกมา
่ ั
เป็ นขี้ไคล เซลล์เยือบุผิวที่อยูช้นในสุดติดกับหนังแท้เป็ นเซลล์ที่ยงมี
่ ่ ั ั
ชีวิตอยู่
หน้าที่ คือ ผลิตเซลล์บุผิวเซลล์ใหม่ข้ ึนมาแทนเซลล์ที่ตายแล้วอยู่
เรือยๆและยังเป็ นชั้นของเซลล์ที่มีเม็ดสีเมลานิน ซึ่งทาให้ผิวหนัง
่
มีสี ผิวหนังชั้นนี้ไม่มีหลอดเลือด เส้นประสาท และต่อมต่างๆ และ
ห่อหุมร่างกายไม่ให้มีเชื้อโรคหลุดเข้าไปในร่างกาย
้
- 7. โครงสร้างของผิวหนัง
สีของผิวหนัง: เกิดจากจานวนเม็ดสีเมลานิน ซึ่งอยูในเซลล์เมลาโนไซท์ เซลล์
่
ชนิดนี้เป็ นตัวกาหนดสีผิวของแต่ละคน หากมีเม็ดสีมากสีผิวจะดา ถ้ามีเม็ดสี
น้อยสีผิวจะขาว และผิวหนังที่มีถูกแสงแดดมากผิวจะคล้า เพราะแสงแดด
สามารถกระตุนการผลิตเม็ดสีเมลานินได้
้
การผลิตเม็ดสีของเซลล์มลาโนไซท์น้นอยูในการควบคุมของยีน คนใดที่
ั
ไม่มียนสาหรับควบคุมการสร้างไทโรไซนัส คนๆนั้นจะมีสีผิวผิดปกติ เรียกว่า
ี
คนเผือก หรือบางที่เซลล์เมลาโนไซท์รวมตัวกันเป็ นกลุ่มทาให้เกิดการตกกระ
- 8. โครงสร้างของผิวหนัง
2.หนังแท้ : เป็ นชั้นที่อยูถดจากหนังกาพร้าเข้าไป
่ ั
องค์ประกอบ
้ อเยื้อยึดเหนี่ยว : มีเนื้อเยือไขมันมายึดกันเป็ นผิวหนังและยึด
เนื ่
ส่วนประกอบอื่นๆไว้
หลอดเลือดฝอย : มีอยูมากมายเพื่อทาหน้าที่นาเลือดมาหล่อเลี้ยง
่
ผิวหนัง
นประสาท : มีกระจัดกระจายอยูทั ่วไป ทาหน้าที่รบความรูสึกต่างๆ
เส้ ่ ั ้
จากภายนอก เช่น ความร้อน ความเย็น ความเจ็บปวด การสัมผัส และ
รายงานสู่สมอง
- 9. ต่อมเหงื่อ:มีลกษณะเป็ นท่อยาว
ั เป็ นท่อขดไปมาจนเป็ นก้อนกลมหรือก้อน
รูปไข่ อยูเนื้อเยือใต้หนังหรือในส่วนลึกของหนังแท้ ต่อมเหงื่อพบเกือบทุก
่ ่
แห่งของร่างกาย มีจานวนมากที่ฝ่ามือและฝ่ าเท้า
- 14. ต่อมเหงื่อ
เจริญมาจากหนังกาพร้าชั้นลึก
มีลกษณะเป็ นท่อเดี่ยวเล็กๆขดไปมาเป็ น
ั
ก้อนหรือก้อนรูปไข่ อยูลึกลงไปในชั้นล่าง
่
ของหนังแท้และเยือใต้ผิวหนัง
่
ทาหน้าที่หลั ่งเหงื่อจะไหลออกมาทางต่อม
เหงื่อผ่านชั้นหนังแท้และออกสูรางกาย ในรู
่่
เปิ ดในชั้นของหนังกาพร้า ซึ่งจะมีรูรูปกรวย
เล็กๆเรียกว่า รูเหงื่อ
สามารถมองเห็นได้โดยใช้แว่นขยาย
พบทุกส่วนของร่างกาย จะมีมากบริเวณฝ่ า
มือและฝ่ าเท้า
- 15. ต่อมเหงื่อมี 2 ล้านต่อมจะขับเหงื่อออกจากร่างกายในรูปของ ยูเรีย
น้ า และเกลือแร่
เหงื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กบผิวหนัง
ั
รักษาสภาวะสมดุของน้ าในร่างกาย
ต่อมเหงื่อทั ่วร่างกายจะทางานไม่พร้อมกัน
ต่อมเหงื่อบริเวณหน้าผากจะมีการตอบสนองการขับเหงื่อออกมาเป็ น
อันดับแรกและบริเวณที่ตอบสนองสุดท้าย คือ ฝ่ ามือ ฝ่ าเท้า
- 16. ต่อมไขมัน
เป็ นต่อมรูปกระเปาะเล็กๆ อยูใน ่
ชั้นหนังแท้
สร้างน้ ามันซึมออกมาภายนอก
ร่างกายทางรูขุมขน
น้ ามันจากต่อมไขมัน ปองกัน
้
ไม่ให้น้ าเข้า – ออกจากร่างกาย
ทาให้ผิวหนังชุ่มชื้นไม่หยาบ
กร้าน
ต่อมไขมันขับไขมันออกมามาก
เกินไปทาให้ผิวหนังอักเสบ ท่อ
ไขมันอุดตัน จนเกิดสิว
- 17. หน้าที่ของผิวหนัง
ช่วยปองกันอันตรายต่างๆที่รางกายอาจได้รบ
้ ่ ั เช่น ปองกันอันตรายจาก
้
สารเคมี รังสีจากแดด การรบกวนเสียดสี
ปองกันการแทรกซึมของเชื้อโรคต่างๆ เช่น ยับยังการแพร่กระจายของ
้ ้
เชื้อโรค
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้อยูในระดับปกติ คือ 37 0C เช่ น การหดและ
่
ขยายตัวของหลอดเลือดที่ผวหนัง การระเหยของเหงื่อ
ิ
รักษาความชุ่มชื้นของร่างกาย โดยการสร้างไขมันมาหล่อเลี้ยงผิวหนัง
ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายในรูปของเหงื่อ
เป็ นแหล่งสร้างวิตามินดีให้แก่ร่างกาย โดยให้แสงแดดเป็ นตัวช่วย
สังเคราะห์สารเฮอร์โกสเตอรอยที่ผิวหนังให้เป็ นวิตามินดี ปองกันโรค
้
กระดูกพรุน
เป็ นอวัยวะรับความรูสึกต่างๆ
้
- 18. การบารุงรักษา
จากโครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนังที่กล่าวมาแล้ว จะเห็น
ว่ า ผิ ว หนัง เป็ นที่ ส ะสมสิ่ ง ต่า งๆที่ ขับ ออกมาจากร่า งกาย เช่ น
เนื้อเยื่อที่ตายแล้ว เหงื่อไคล ไขมัน รวมทั้งสิ่งต่างๆจากภายนอก
ที่ เ ข้ า มา เกี่ ยว ข้ อ งกั บ ผิ ว หนั ง เช่ น ฝุ่ นละ ออ ง เชื่ อโ รค
เครื่ อ งส าอาง นอกจากนี้ ยัง มี แ บคที เ รี ย ชนิ ด ที่ ไ ม่ ก่ อ ให้เ กิ ด
อันตรายอาศัยอยู่ดวย หากไม่ทาการชะล้างสิ่งเหล่านี้ออกไปจะ
้
เกิ ด การหมั ก หมมบนผิ ว หนั ง จนท าให้เ กิ ด ความผิ ด ปกติ ข อง
ผิ ว หนั ง เช่ น สิ ว กลิ่ น ตัว ผดผื่ น และโรคผิ ว หนั ง อื่ น ๆ ท าให้
ผิวหนังขาดความสวยงามน่ารังเกียจ
- 19. ความผิดปกติของผิวหนัง
1.สิว : เกิดจากหลายสาเหตุดงนี้ ั
การเปลียนแปลงของฮอร์ โมนเพศ
่
ในช่ วงวัยรุ่น
ดจากเชื้อจุลนทรีย์ทอยู่ในต่ อม
เกิ ิ ี่
ไขมันและรูขุมขนมีมาก
ผิดปกติ
เครื่องสาอางทีมีนามันมากทา
การใช้ ่ ้
ให้ อุดตันรูขุมขน
กผ่อนไม่ เพียงพอ
การพั
ญหาสุ ขภาพ ฮอร์ โมน และ
ปั
กรรมพันธุ์
- 20. ความผิดปกติของผิวหนัง
2.ตาปลา
เกิดจากแรงกดหรือแรงเสียดสีผิวหนังบริเวณนั้นบ่อยๆ ทา
ให้ผิวหนังค่อยๆด้าน และหนาตัว
ขึ้น มีลกษณะเป็ นเม็ดกลมๆ แข็ง คล้ายตาปลา
ั
จริงๆ
ตาปลาจะเกิดบริเวณนิ้วเท้า หรือฝ่ าเท้า เนื่องจากใส่รองเท้า
คับเกินไป
กษาต้องตัดทิ้ง คว้านออก
การรั
- 22. ความผิดปกติของผิวหนัง
3.กลิ่นตัว
เกิดจากปฏิกิริยาเคมีของกรดไขมันจากต่อมเหงื่อ เซลล์บุ
ผิวที่ตายแล้ว เหงื่อรวมกับแบคทีเรียและความชื้นเกิดเป็ น
กลิ่นตัว
หากกลิ่นตัวแรง ควรอาบน้ าวันละ 2 ครั้ง ฟอกสบู่บริเวณ
รักแร้ ขาหนีบ ใต้คอและหลังหู
ามีกลิ่นตัวแรงควรใช้สารส้มทาบริเวณรักแร้หลังอาบน้ า
ถ้
ทุกครั้ง
- 23. ความผิดปกติของผิวหนัง
4.โรคราที่เท้า (Hongkong foot)
เกิ ด จากเชื้ อราติ ด ที่ เ ท้า เนื่ อ งจากสวมใส่ร องเท้า ที่ อับ ชื้ น
หรือเดินลุยน้ าสกปรก ทาให้มีอาการคันบริเวณซอกนิ้วเท้า
และอาการคันจะเพิ่มมากขึ้นหากมีการเกาจะทา ใ ห้
เป็ นขุ ย มี ก ลิ่ น เหม็ น หากเป็ นนานๆ จะมี เ นื้ อนู น และ
เป็ นขุยลุกลามไปบริเวณใกล้เคียง
กษาอย่าให้เท้าอับชื้น
การรั
กษาหายแล้วไม่ควรสวมถุงเท้าหรือรองเท้าคู่เดิมอีก
หากรั
เพราะมีเชื้อราติดอยู่
หากจะนามาใช้ควรนาไปต้มหรืออบฟอร์มาลีนเพื่อฆ่าเชื้อ
- 25. ความผิดปกติของผิวหนัง
5.ผิวหนังกร้านและไหม้เกรียม
ผิวหนังต้องสัมผัสกับแสงแดดเป็ นประจาและรับสีอัลตราไวโอเลต
อย่างรุนแรงเป็ นเวลานานทาให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง ผิวหนัง
มีสีแดงและแสบมาก เพราะเซลล์ผิวหนังถูกทาลาย
วหนังถูกแดดเป็ นเวลานานปี อาจเกิดรอยเหี่ยวย่น พับเป็ นเส้น
หากผิ
มีรอยด่างหรือเหลือง หรืออาจเป็ นมะเร็งผิวหนัง
้ องกัน ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิ ดมิ ดชิดเมื่ ออยู่กลางแดด และ
การป
ทาครี ม กัน แดดหรื อ สารกรองแสงเพื่ อ ป องกัน ไม่ ใ ห้ผิ ว หนั ง ไหม้
้
เกรียม
- 27. ความผิดปกติของผิวหนัง
สารกันแดดจะประกอบด้ วยสารเคมีทเี่ รียกว่ า พารา-อะมิโนเบนโซอิคแอสิ ด
ทีละลายในแอลกอฮอล์ สารเคมีนีจะเคลือบชั้นบนสุ ดของหนังกาพร้ าไว้ สารกรอง
่ ้
แสงแดดจะมีการจัดขีดความสามารถของสารกันแดด ทีเ่ รียกว่ า องค์ ประกอบของ
สารปองกันแสง (SPF) ซึ่งจาแนกตั้งแต่ 0 – 15
้
หมายเลข 0 ไม่ มีความสามารถในการปองกันแสงอาทิตย์
้
หมายเลข 2 ป้ องกันแสงอาทิตย์ได้ เล็กน้ อย
หมายเลข 4 – 6 ป้ องกันแสงอาทิตย์ได้ ปานกลางผิวเปลียนเป็ นสี นาตาล
่ ้
เข้ มขึน
้
หมายเลข 8 – 10 ป้ องกันผิวไหม้ เกรียมเนื่องจากถูกแดดได้ ผิวอาจมีสีนา ้
ตาลเข้ มขึน้
หมายเลข 15 ป้ องกันแสงอาทิตย์ ได้ ดทสุด เหมาะสาหรับคนผิวบาง
ี ่ี
จะป้ องกันแดดได้ นาน 15 เท่ าของภาวะทีไม่ ได้ ใช้ ยาโดย
่
ไม่ มีอาการผิวไหมเกรียมแต่ อย่ างใด
- 29. ระบบห่อหุมร่างกายอื่นๆ
้
1.เล็บ:
เป็ นส่ วนของเซลล์ช้ันหนังกาพร้ าที่ตายแล้ว
ญมาจากเซลล์ที่มีชีวตในชั้นล่างทีเ่ ลือนขึนมาอัดแน่ นเป็ นแผ่ น
เจริ ิ ่ ้
แข็ง ยืดหยุ่นได้
การงอกของเล็บเฉลีย 1 มม. ใน 1 สั ปดาห์ หรือ 3 มม.ใน 1เดือน
่
บเท้ าจะงอกช้ ากว่ าเล็บมือ
เล็
การงอกของเล็บบางคนอาจจะผิดปกติ เนื่องจากติดเชื้อรา
ารุงรักษาเล็บควรตัดให้ ส้ั นอยู่เสมอ และหมั่นรักษาความ
การบ
สะอาด
- 31. ระบบห่อหุมร่างกายอื่นๆ
้
2.ขนหรือผม
นส่ วนที่เจริญมาจากหนังกาพร้ าส่ วนลึก ที่โคนขนได้ รับเลือด
เป็
มาเลียง และมีเส้ นประสาทควบคุมอยู่
้
ส่ วนที่โผล่ขึนมาพ้นผิวหนังเป็ นส่ วนของเซลล์ที่ตายแล้ว
้
ขนทุกเส้ นประกอบด้ วยเส้ นขน รากขน และรูขุมขน
- 33. ระบบห่อหุมร่างกายอื่นๆ
้
เส้นขน :เป็ นส่วนของขนที่โผล่พนผิวหนังขึ้นมา
้
รากขน :เป็ นส่วนที่ฝังอยูในรูผิวหนังเฉียง ดังนั้นเส้นขนจึงเฉียง
่
ขุมขน :เป็ นส่วนของหนังกาพร้าและหนังแท้ ยืนลึกเข้าไปถึงเยื่อใต้หนังมา
่
ประกอบเป็ นท่อล้อมรากขน มีท่อของต่อมไขมันมาเปิ ดสู่ขุมขน
ผม :เป็ นขนที่ยาวมาก ปกติคนจะมีเส้นผมจานวน 12,0000 เส้น ผมจะ
ร่วงและงอกขึ้นมาใหม่อยูตลอดโดยมีอตราการงอกยาวประมาณ
่ ั
2.5 เซนติเมตร ต่อเดือน ความผิดปกติของเส้นผม ได้แก่ ผมร่วง
เนื่องจากขาดสารอาหาร แพ้ยาสระผม หรือต่อมไทรอยด์ทางาน
น้อยผิดปกติ
- 34. กิจกรรมที่ 3 ระบบห่อหุมร่างกาย
้
1.ระบบห่ อหุ้มร่ างกาย มีหน้ าทีสาคัญ คือ _________________
่
2.สารเมลานินทีอยู่ในชั้นผิวหนัง มีหน้ าที่ _________________
่
3.เมือร่ างกายได้ รับความร้ อนมากกว่ าปกติ ต่ อมเหงือบริเวณใดจะผลิตเหงือออกมา
่ ่ ่
เป็ นอันดับแรกและอันดับสุ ดท้ าย____________________
4.เหงื่อทีผลิตออกมาบนผิวหนังมีผลเสี ยอย่ างไรบ้ าง_____________
่
5.เหงือที่ไหลออกมาจากร่ างกายประกอบด้ วย______________
่
6.ถ้ าต่ อมไขมันขับไขมันออกมาเกินไปจะเกิดผลกับผิวหนัง คือ_______
7.ต่ อมไขมันมีหน้ าที่_________________________
8.กลินตัวเกิดจาก__________________________
่
9.โรคผิวหนังชนิดใดบ้ างเกิดจากเชื้อรา_________________
10.ถ้ าผิวแตกและแห้ งกร้ านมีวิธีรักษา คือ_______________