SlideShare a Scribd company logo
1 of 15
Download to read offline
Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 23
ผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้
เรื่อง การแปรรูปน้้ายางพารา ที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM)
LEARNING OUTCOME OF 9th
STUDENTS USING THE LEARNING ACTIVITY
PACKAGES ON THE NATURAL RUBBER LATEX PROCESS INTEGRATING
SCIENCE TECHNOLOGY ENGINEERING AND MATHEMATICS (STEM)
น้ำฝน คูเจริญไพศำล1*
กิ่งแก้ว แก้วทิพย์2
คุณัญญำ นงค์นวล3
และปิยลักษณ์ หะริตวัน4
Numphon Koocharoenpisal1*
Kingkaew Kaewthip2
Khunanya Nongnuan3
and Piyaluk Haritawan4
1,2,3,4คณะวิทยำศำสตร์ มหำวิทยำลัยศรีนครินทรวิโรฒ
1,2,3,4Faculty of Science, Srinakharinwirot University, Bangkok, 10110, Thailand
*Corresponding Author, E-mail: numphonk@gmail.com
บทคัดย่อ
กำรวิจัยนีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้ำงชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำร
วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) ส้ำหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 และ
ประเมินคุณภำพโดยผู้เชี่ยวชำญ 2) ประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่อง กำร
แปรรูปน้ำยำงพำรำฯ และ 3) ศึกษำควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่อง กำร
แปรรูปน้ำยำงพำรำฯ กลุ่มตัวอย่ำงที่ใช้เป็นนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 จ้ำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียน 26 คน
เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ 2) แบบตรวจสอบ
ควำมสอดคล้องระหว่ำงเนือหำกับจุดประสงค์ของชุดกิจกรรม 3) แบบประเมินคุณภำพชุดกิจกรรม โดยผู้เชี่ยวชำญ
4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ 5) แบบตรวจสอบควำมสอดคล้องระหว่ำง
ข้อค้ำถำมกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน และ 6) แบบสอบถำมควำม
พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ ผลกำรวิจัย พบว่ำ
1) ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ โดยผู้เชี่ยวชำญมีคุณภำพอยู่ใน
ระดับดี 2) ผลกำรประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ
ฯ ซึ่งได้จำกกำรประเมินผล 3 ส่วน ได้แก่ ค้ำถำมท้ำยกิจกรรม ผลงำนของนักเรียน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทำงกำรเรียนได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70.18 และ 3) ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรม
กำรเรียนรู้ฯ อยู่ในระดับมำก
ค้าส้าคัญ: ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ STEM
24 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560
Abstract
The purposes of this research were 1) to develop learning activity packages on the
natural rubber latex process by integrating science, technology, engineering, and mathematics
(STEM) for 9th grade students and to assess the quality of the packages by experts, 2) to evaluate
the learning outcomes of the students, and 3) to study students’ satisfaction toward the learning
activity packages. The sample group of this study was one classroom with 26 9th grade students.
The research tools consisted of 1) the learning activity packages on the natural rubber latex
process by integrating STEM, 2) the assessment form for consistency between the learning
objective and the contents of the learning activity packages, 3) the assessment form of the quality
of the learning activity packages on the natural rubber latex process by experts, 4) the learning
achievement test on the natural rubber latex, 5) the assessment form for consistency between
the questions and the objective of the test, and 6) the students’ satisfaction questionnairetoward
the learning activity packages. The results revealed that 1) the learning activity packages on the
natural rubber latex process assessed by the experts were at a good quality level, 2) the learning
outcomes of students measured from the activity worksheets, students’ works, and the learning
achievement test showed mean scores at 70.18 percent, and 3) the students’ satisfaction toward
the learning activity packages on the natural rubber latex process were at a good level of
satisfaction.
Keywords: Learning Activity Packages, Natural Rubber Latex Process, STEM Education
ความเป็นมาและความส้าคัญของปัญหา
กำรจัดกำรเรียนกำรสอนเพื่อให้สอดคล้องกับกำรเรียนรู้ในศตวรรษ 21 ควรมีกำรเน้นทักษะที่จ้ำเป็น
3 ด้ำน คือ ทักษะกำรเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะชีวิตและกำรท้ำงำน และทักษะด้ำนสำรสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี
โดยมีกำรจัดกำรเรียนรู้ที่มีกำรบูรณำกำรกับสำระกำรเรียนรู้ต่ำงๆ เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหำที่เกิดขึน
สำมำรถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนกับชีวิตประจ้ำวันได้ มุ่งเน้นทักษะกำรคิดและกำรแก้ปัญหำรวมทังกำรน้ำเทคโนโลยีมำ
ประยุกต์ใช้ได้อย่ำงเหมำะสม (STEM Education National Center, 2014) ครูผู้สอนควรจัดกำรเรียนกำรสอน
วิทยำศำสตร์โดยเน้นผู้เรียนเป็นส้ำคัญ และส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ และกำรพัฒนำตนเองเต็มตำมศักยภำพ
และครูผู้สอนต้องประเมินผลกำรเรียนรู้ ของผู้เรียนควบคู่ไปกำรเรียนกำรสอน โดยพิจำรณำจำกพัฒนำกำรของ
ผู้เรียนเป็นหลัก (The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology, 2009, p.29)
และกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้ำคัญ (McCombs & Whisler, 1997, pp.65-66) ครูจะต้องจัดกิจกรรมให้
ผู้เรียนได้ฝึกทักษะกำรคิด ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมตำมควำมสนใจ และให้ผู้เรียนได้ใช้ประสบกำรณ์ควำมรู้ที่มีในกำร
ค้นหำเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับควำมต้องกำรของผู้เรียน โดยอำศัยกระบวนกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย เพื่อฝึก
ให้ผู้เรียนมีควำมรับผิดชอบในกำรสร้ำงกระบวนกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะต้องจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน
ได้พัฒนำทักษะกำรเรียนรู้ด้ำนต่ำงๆ ดังนัน ในกำรวิจัยครังนี ผู้วิจัยจึงมีควำมประสงค์ที่จะสร้ำงชุดกิจกรรมที่เน้น
กำรปฏิบัติ โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จำกกำรลงมือปฏิบัติกิจกรรม เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะกระบวนกำรทำง
Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 25
วิทยำศำสตร์ เพรำะชุดกิจกรรมเป็นสื่อกำรเรียนรู้ที่สำมำรถพัฒนำทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และสร้ำง
เจตคติที่ดีต่อวิทยำศำสตร์ และยังท้ำให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้อย่ำงมีควำมสุข ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทำงกำร
เรียนสูงขึน นอกจำกนีชุดกิจกรรมจะท้ำให้นักเรียนมีอิสระในกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง ส่งเสริมควำมรับผิดชอบต่อกำร
เรียนรู้ ท้ำให้มีควำมกระตือรือร้นที่จะศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง มีเจตคติต่อกำรเรียนวิทยำศำสตร์ที่ดีขึน และสำมำรถ
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ้ำวันได้ (Sangsoda, 2013; Noophet, 2007; Samritsutha, 2008)
สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้น้ำเสนอนโยบำยและแนวทำงส่งเสริม
กำรศึกษำ ที่ให้มีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนวิทยำศำสตร์ที่บูรณำกำร 4 สำขำวิชำ คือ วิทยำศำสตร์ (Science)
เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศำสตร์ (Engineering) และคณิตศำสตร์ (Mathematics) หรือที่เรียกว่ำ
STEM เพื่อเตรียมคนไทยรุ่นใหม่ให้มีขีดควำมสำมำรถในกำรประกอบอำชีพ สร้ำงเศรษฐกิจและสำมำรถด้ำเนินชีวิต
ในประชำคมเศรษฐกิจอำเซียน (Julawatthanathon, 2013, p.4) และ สสวท. เล็งเห็นถึงควำมส้ำคัญของกำร
พัฒนำเยำวชนของประเทศไทยให้มีควำมรู้และทักษะด้ำนวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์และเทคโนโลยี ที่สำมำรถ
ประยุกต์ควำมรู้ที่เรียนในกำรด้ำรงชีวิตและกำรประกอบอำชีพ อีกทังมีทักษะที่พร้อมส้ำหรับโลกในศตวรรษที่ 21
ทังนีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนตำมแนวทำงสะเต็มศึกษำ (STEM Education) เป็นกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรที่ใช้
ควำมรู้และทักษะในด้ำนต่ำงๆ ผ่ำนกำรท้ำกิจกรรม (Activity based) หรือกำรท้ำโครงงำน (Project based) ที่จะ
ช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนำทักษะกำรคิด ทักษะกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ ทักษะกำรแก้ปัญหำ และทักษะกำรสื่อสำร
นอกจำกนีผู้เรียนยังได้ควำมรู้แบบองค์รวมที่สำมำรถน้ำไปใช้เชื่อมโยงหรือประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ้ำวันได้ ทังนี
ครูผู้สอนจึงควรส่งเสริมกำรเรียนรู้ผ่ำนกิจกรรมหรือโครงงำนที่มุ่งแก้ไขปัญหำที่พบเห็นในชีวิตจริง เพื่อสร้ำงเสริม
ประสบกำรณ์ ทักษะชีวิต ทักษะกำรคิด กำรแก้ปัญหำ กำรใช้ควำมคิดสร้ำงสรรค์ เพื่อน้ำไปสู่กำรสร้ำงนวัตกรรม
ซึ่งกระบวนกำรออกแบบเชิงวิศกรรมเป็นขันตอนของกำรแก้ปัญหำหรือสนองควำมต้องกำร ซึ่งมีหลำยรูปแบบแต่มี
ขันตอนหลักๆ คือ 1) กำรระบุปัญหำ (Identify a challenge) 2) กำรค้นหำแนวคิดที่เกี่ยวข้อง (Explore ideas)
3) กำรวำงแผนและพัฒนำ (Plan and develop) 4) กำรทดสอบและประเมินผล (Test and evaluation) และ
5) กำรน้ำเสนอผลลัพธ์ (Present the solution) (The Institute for the Promotion of Teaching Science
and Technology, 2015, p.4)
จำกกำรศึกษำงำนวิจัยของ Catherine (2012, p.30) ที่ท้ำกำรศึกษำลักษณะของโรงเรียนที่มีกำรจัด
กำรศึกษำแบบ STEM education ของโรงเรียนทังหมด 10 โรงเรียนโดยเลือกจำกภูมิภำคต่ำงๆ ทั่วสหรัฐอเมริกำ
ผลกำรวิจัย พบว่ำ นักเรียนของโรงเรียนที่มุ่งเน้นกำรศึกษำแบบ STEM education จะประสบผลส้ำเร็จมำกกว่ำ
นักเรียนที่ได้รับกำรเรียนกำรสอนแบบเดิมๆ ซึ่งนักเรียนมีกำรแก้ปัญหำที่เกิดขึนจริงและมีกำรฝึกงำนหรือท้ำ
โครงกำรอื่นๆ เพิ่มเติม โดยนักเรียนส่วนใหญ่มีคะแนนอยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยเมื่อเทียบกับโรงเรียนอื่นๆ
ในสหรัฐอเมริกำ เป็นกำรแสดงว่ำเมื่อนักเรียนได้รับโอกำสและกำรสนับสนุนจำกโรงเรียนที่เน้นหลักสูตรทำง
กำรศึกษำแบบ STEM education จะประสบผลส้ำเร็จมำกกว่ำ แต่งำนวิจัยของประเทศไทยเกี่ยวกับกำรจัดกำร
เรียนรู้ตำมแนวทำงสะเต็มศึกษำยังมีน้อย
ดังนัน ผู้วิจัยจึงเล็งเห็นควำมส้ำคัญของกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนที่เน้นกำรบูรณำกำรตำม
แนวทำงสะเต็มศึกษำ จึงต้องกำรสร้ำงชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนได้บูรณำกำรควำมรู้และทักษะทำง
วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์และคณิตศำสตร์ โดยใช้บริบทของเนือหำในกำรท้ำกิจกรรมที่เกี่ยวกับน้ำ
ยำงพำรำ กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ และจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จำกแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น
26 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อสร้ำงชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี
วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) ส้ำหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 และประเมินคุณภำพโดย
ผู้เชี่ยวชำญ
2. เพื่อประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่อง กำรแปรรูปน้ำ
ยำงพำรำ ที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM)
3. เพื่อศึกษำควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูป
น้ำยำงพำรำที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM)
ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา
ตัวแปรอิสระ กำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์
เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM)
ตัวแปรตาม ได้แก่ 1) ผลกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ และ 2) ควำมพึงพอใจที่มีต่อกำรเรียน
ด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และ
คณิตศำสตร์ (STEM)
สมมติฐานของการวิจัย
ผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำร
วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่ำเกณฑ์ร้อยละ 70 ที่ตังไว้
วิธีด้าเนินการวิจัย
กำรวิจัยในครังนี สำมำรถสรุปเป็นขันตอนที่ส้ำคัญ 5 ขันตอน ดังนี
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ผู้วิจัยได้ศึกษำข้อมูลพืนฐำนจำกเอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อวิเครำะห์เนือหำที่เกี่ยวกับ
ยำงพำรำ และก้ำหนดจุดประสงค์กำรเรียนรู้ จำกหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขันพืนฐำน พุทธศักรำช 2551 ของ
Ministry of Education (2008) สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ พบว่ำ เนือหำเรื่องยำงพำรำ สอดคล้องกับเนือหำใน
สำระที่ 2 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม มำตรฐำน ว 2.2 เข้ำใจควำมส้ำคัญของทรัพยำกรธรรมชำติ กำรใช้ทรัพยำกร
ธรรมชำติในระดับท้องถิ่นและโลก น้ำควำมรู้ไปใช้ในกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอย่ำง
ยั่งยืน โดยสอดคล้องกับตัวชีวัด ม.3/1 วิเครำะห์สภำพปัญหำสิ่งแวดล้อม ทรัพยำกรธรรมชำติในท้องถิ่นและเสนอ
แนวทำงในกำรแก้ไขปัญหำ ม.3/3 อภิปรำยกำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติอย่ำงยั่งยืน และ ม.3/6 อภิปรำยและมีส่วน
ร่วมในกำรดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอย่ำงยั่งยืน ซึ่งเนือหำเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ สำมำรถจัด
กิจกรรมที่เน้นกำรบูรณำกำรได้ ผู้วิจัยจึงก้ำหนดเนือหำเรื่องยำงพำรำ ซึ่งจัดได้ว่ำเป็นทรัพยำกรธรรมชำติในท้องถิ่น
ทำงภำคใต้ของประเทศไทยมำใช้ในกำรออกแบบและสร้ำงชุดกิจกรรม โดยจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมแนวทำงสะ
เต็มศึกษำ (STEM education) ของสถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ที่บูรณำกำร
ระหว่ำงวิทยำศำสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศำสตร์ (Engineering) และคณิตศำสตร์
(Mathematics) (The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology, 2015) โดย
นักเรียนจะได้เรียนรู้และเข้ำใจเกี่ยวกับน้ำยำงพำรำ กำรแปรรูปยำงพำรำซึ่งเป็นทรัพยำกรธรรมชำติในท้องถิ่น โดยได้
Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 27
เรียนรู้จำกแหล่งเรียนรู้จริงในท้องถิ่น ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริงและสำมำรถสร้ำงผลงำน/ชินงำนหรือผลิตภัณฑ์จำก
ยำงพำรำได้ ซึ่งชุดกิจกรรม ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 คือ กิจกรรมนักสืบน้ำยำง กิจกรรมที่ 2 คือ
กิจกรรมนักวิทย์คนเก่ง กิจกรรมที่ 3 คือ กิจกรรมนักออกแบบตัวน้อย และกิจกรรมที่ 4 คือ กิจกรรมนักประดิษฐ์
รุ่นเยำว์
กำรน้ำควำมรู้และทักษะทำงวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ มำเชื่อมโยม
เพื่อใช้แก้ปัญหำในเรื่องที่เรียน ที่สนใจ ส้ำหรับกำรชุดกิจกรรมนี สำมำรถสรุปได้ดังนี
วิทยาศาสตร์
(Science)
S เรียนรู้เกี่ยวกับกำรขยำยพันธ์ยำงพำรำ คุณสมบัติของยำงพำรำ กำรเปลี่ยนโครงสร้ำง
ของน้ำยำงพำรำ ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำรเจริญเติบโตของยำงพำรำ
เทคโนโลยี
(Technology)
T เรียนรู้เกี่ยวกับ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในกำรออกแบบ เครื่องมือในกำรแปรรูป
น้ำยำงพำรำ กำรใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทำงวิทยำศำสตร์ในกำรทดลอง กำรใช้สื่อ
สำรสนเทศในกำรสืบค้นข้อมูล น้ำเสนอข้อมูลกำรน้ำวัสดุต่ำงๆ มำประยุกต์ใช้กับ
ผลิตภัณฑ์ยำงพำรำ
วิศวกรรมศาสตร์
(Engineering)
E เรียนรู้เกี่ยวกับกำรออกแบบกำรทดลอง กำรปฏิบัติงำน กำรออกแบบผลิตภัณฑ์จำก
น้ำยำงพำรำ (กระบวนกำรออกแบบทำงวิศวกรรม)
คณิตศาสตร์
(Mathematics)
M เรียนรู้เกี่ยวกับ กำรชั่งปริมำณสำร กำรตวงและ กำรวัดปริมำตรสำรที่ใช้ในกำร
ทดลอง กำรคิดค้ำนวณงบประมำรที่ใช้ ต้นทุน ก้ำไร-ขำดทุน กำรค้ำนวณพืนที่ที่ใช้ใน
กำรปลูกยำงพำรำ กำรค้ำนวณอัตรำส่วนระหว่ำง
กรด : น้ำยำงพำรำ : น้ำ ในกำรทดลอง กำรค้ำนวณปริมำณสำรที่ใช้ในกำรสร้ำง
ผลิตภัณฑ์หรือผลงำน
ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและสร้างชุดกิจกรรม รวมทั้งเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในกำรทดลองได้แก่ ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ที่บูรณำกำร
วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) ส้ำหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3
เครื่องมือที่ใช้ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1) แบบประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำร
เรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ โดยผู้เชี่ยวชำญ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเรื่องกำรแปรรูปน้ำ
ยำงพำรำฯโดยมีข้อสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ้ำนวน 20 ข้อ และข้อสอบอัตนัย 5 ข้อ และ
3) แบบสอบถำมควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำง
พำรำฯ
ลักษณะของชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการแปรรูปน้้ายางพาราฯ
ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ มีกิจกรรมที่บูรณำกำรควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์
เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) โดยเป็นกิจกรรมที่นักเรียนได้ฝึกทักษะกำรแก้ปัญหำจำก
สถำนกำรณ์จริง ได้ท้ำกำรทดลอง ได้สร้ำงสรรค์ผลงำนจำกน้ำยำงพำรำ มีกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่เป็นกิจกรรมกลุ่ม
ฝึกทักษะกำรแก้ปัญหำ กำรคิดวิเครำะห์ กำรสื่อสำร กำรน้ำเสนองำน โดยได้เรียนรู้จำกแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น คือ
กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ จำกกลุ่มชำวบ้ำนที่ประกอบอำชีพในกำรแปรรูปยำงพำรำ ซึ่งตังอยู่ใกล้โรงเรียน ซึ่งผู้วิจัย
ได้ออกแบบเนือหำของกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องยำงพำรำ ปัญหำที่เกิดขึนกับยำงพำรำในปัจจุบัน สมบัติของยำงพำรำ
กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ทังนีองค์ประกอบของชุดกิจกรรมหรือหัวข้อส้ำคัญในชุดกิจกรรม ประกอบด้วย ชื่อชุด
กิจกรรม ค้ำชีแจงกำรใช้กิจกรรม ชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ของกิจกรรม เวลำที่ใช้ในกำรท้ำกิจกรรม วัสดุอุปกรณ์
28 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560
และสื่อกำรเรียนรู้ วิธีท้ำกิจกรรม ใบบันทึกกิจกรรม ค้ำถำมท้ำยกิจกรรม และใบควำมรู้ ซึ่งค้ำถำมท้ำยกิจกรรมจะ
มีทังค้ำถำมแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก และค้ำถำมแบบอัตนัยให้เขียนอธิบำย ภำยในชุดกิจกรรม
ออกแบบให้น่ำอ่ำน น่ำสนใจโดยใช้รูปภำพกำร์ตูนในกำรน้ำเสนอเนือหำ กำรท้ำกิจกรรม กำรตอบค้ำถำมเพื่อสร้ำง
ควำมสนใจให้นักเรียนอยำกศึกษำมำกขึน ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ประกอบด้วย
4 กิจกรรม ดังนี
ตาราง 1 จุดประสงค์และลักษณะของกิจกรรมของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ
กิจกรรม/
(เวลาที่ใช้)
จุดประสงค์ของกิจกรรม ลักษณะของกิจกรรม
กิจกรรมที่ 1
นักสืบน้ำยำง
(100 นำที)
1. อธิบำยเกี่ยวกับปัญหำที่
เกิดขึนกับยำงพำรำใน
ปัจจุบันได้
2. อธิบำยกำรแปรรูปน้ำ
ยำงพำรำได้
กิจกรรมนีมีเนือหำเกี่ยวกับปัญหำที่เกิดขึนกับรำคำยำงพำรำใน
ปัจจุบัน สำเหตุและแนวทำงแก้ไขที่ยั่งยืน และกำรแปรรูปน้ำ
ยำงพำรำในท้องถิ่น โดยนักเรียนได้ลงในพืนที่ ที่ปลูกยำงพำรำจริง
ใกล้โรงเรียน นักเรียนได้ฟังบรรยำยจำกวิทยำกรในท้องถิ่นและ
ทดลองแปรรูปน้ำยำงพำรำ ภำยหลังจำกท้ำกิจกรรมนักเรียนต้อง
บันทึกลงในใบบันทึกกิจกรรม ในหัวข้อ ได้เรียนรู้อะไรบ้ำง น้ำสิ่งที่
เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจ้ำวันอย่ำงไร และข้อสงสัยจำกกำรเรียนรู้
จำกนันให้นักเรียนศึกษำจำกใบควำมรู้เพิ่มเติม แล้วตอบค้ำถำม
ท้ำยกิจกรรม
กิจกรรมที่ 2
นักวิทย์คนเก่ง
(100 นำที)
1. อธิบำยสมบัติเบืองต้นของ
น้ำยำงพำรำได้
2. เปรียบเทียบควำมแตกต่ำง
ระหว่ำงกำรใช้ กรดน้ำส้ม น้ำ
หมักมะพร้ำว และน้ำหมัก
กล้วย ในกำรท้ำให้น้ำ
ยำงพำรำแข็งตัว
กิจกรรมนีมีเนือหำเกี่ยวกับกำรทดสอบสมบัติเบืองต้นของ
ยำงพำรำทังด้ำนกำยภำพและเคมี นักเรียนได้ฝึกทักษะ
กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ ได้ท้ำกำรทดลอง และได้
เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของสำรละลำยที่ท้ำให้ยำงพำรำแข็งตัว
คือ กรดน้ำส้ม น้ำหมักกล้วย และน้ำหมักมะพร้ำว
มีกิจกรรมให้อภิปรำยผล และน้ำเสนองำน จำกนันบันทึกผลกำร
ทดลองลงในใบบันทึกกิจกรรม และตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรม
กิจกรรมที่ 3
นักออกแบบ
ตัวน้อย
(100 นำที)
1. ออกแบบชินงำนที่ได้จำก
กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำโดย
ค้ำนึงถึงผลกระทบต่อ
สิ่งแวดล้อม
2. เลือกใช้อุปกรณ์ในท้องถิ่น
มำใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่ำง
เหมำะสม
กิจกรรมนีมีเนือหำเกี่ยวกับกำรแปรูปน้ำยำงพำรำและอุตสำหกรรม
ยำงในประเทศ นักเรียนได้ออกแบบผลิตภัณฑ์จำกน้ำยำงพำรำที่
สำมำรถท้ำได้ในเวลำที่ก้ำหนดให้ โดยออกแบบในกระดำษปรู๊ฟ
แผ่นใหญ่ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อผลิตภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ระบุ
สำรละลำยที่ใช้ท้ำให้น้ำยำงแข็งตัวและอัตรำส่วนที่ใช้ ขันตอนกำร
ท้ำ และรูปแบบจ้ำลองของผลิตภัณฑ์ จำกนันให้แต่ละกลุ่มออกมำ
น้ำเสนองำน อภิปรำยร่วมกัน แล้วให้บันทึกผลลงในใบกิจกรรม
และตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรม
กิจกรรมที่ 4
นักประดิษฐ์
รุ่นเยำว์
(150 นำที)
1. ประดิษฐ์ชินงำนจำกน้ำ
ยำงพำรำที่สำมำรถน้ำไปใช้
ประโยชน์ได้
2. อธิบำยควำมสัมพันธ์
ของยำงพำรำกับกำร
ด้ำรงชีวิตของมนุษย์
กิจกรรมนีมีเนือหำเกี่ยวกับกำรใช้ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์
เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ รวมทังใช้
ประสบกำรณ์ของนักเรียน ในกำรสร้ำงผลิตภัณฑ์ต่ำงๆ จำกน้ำ
ยำงพำรำ นักเรียนได้ใช้ควำมคิดสร้ำงสรรค์ชินงำน และน้ำเสนอ
ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มตนเอง นักเรียนท้ำใบกิจกรรมและตอบค้ำถำม
ท้ำยกิจกรรม
Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 29
ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญ
น้ำชุดกิจกรรมที่สร้ำงพร้อมเครื่องมือวิจัยที่ใช้ในกำรตรวจสอบควำมสอดคล้องและประเมินคุณภำพไป
ให้ผู้เชี่ยวชำญจ้ำนวน 3 ท่ำน ตรวจสอบควำมสอดคล้องระหว่ำงจุดประสงค์กำรเรียนรู้และเนือหำของชุดกิจกรรม
จำกนันวิเครำะห์หำค่ำดัชนีควำมสอดคล้อง (IOC: Index of Item Object Congruence) พบว่ำ มีค่ำดัชนีควำม
สอดคล้อง (IOC) ระหว่ำง 0.67-1.00 และปรับปรุงแก้ไขชุดกิจกรรมตำมค้ำแนะน้ำของผู้เชี่ยวชำญ หลังจำกนัน
ประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรม โดยใช้แบบประเมินคุณภำพแบบมำตรำส่วนประมำณค่ำ (Rating scale)
5 ระดับ น้ำผลที่ได้มำวิเครำะห์หำค่ำเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน แล้วแปลผล โดยมีเกณฑ์ ดังนี ค่ำเฉลี่ย
4.51 - 5.00 หมำยถึง มีคุณภำพระดับดีมำก 3.51 - 4.50 มีคุณภำพระดับดี 2.51 - 3.50 คุณภำพระดับปำนกลำง
1.51 - 2.50 ควรปรับปรุง และ 1.00 - 1.50 ผลกำรประเมินโดยผู้เชี่ยวชำญพบว่ำ ชุดกิจกรรมมีคุณภำพอยู่ใน
ระดับดี ( x = 4.48, S.D. = 0.60) และปรับปรุงแก้ไขชุดกิจกรรมตำมค้ำแนะน้ำของผู้เชี่ยวชำญ
ขั้นตอนที่ 4 การทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการแปรรูปน้้ายางพารากับกลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่ำงที่ใช้ในกำรศึกษำครังนี เป็นนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 โรงเรียนชัยเกษมวิทยำ ต้ำบลชัย
เกษม อ้ำเภอบำงสะพำน จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ที่ก้ำลังศึกษำในภำคเรียนที่ 2 ปีกำรศึกษำ 2557 จ้ำนวน
1 ห้องเรียน มีนักเรียนจ้ำนวน 26 คน ซึ่งเป็นนักเรียนที่คละควำมสำมำรถ มีทังนักเรียนเก่ง ปำนกลำง และอ่อน
แบบแผนกำรวิจัยเป็นกำรวิจัยเชิงทดลอง (experimental research) มีกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว ทดลองใช้ชุด
กิจกรรมกับกลุ่มตัวอย่ำง และวัดผลประเมินผลตำมสภำพจริง จำกผลงำนชินงำนและกิจกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ
และวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนหลังเรียน
ด้ำเนินกำรทดลองจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ โดยใช้เวลำรวม 3 สัปดำห์ โดยชีแจงรำยละเอียดกำรใช้ชุด
กิจกรรมแก่นักเรียนให้เข้ำใจก่อนลงมือปฏิบัติกิจกรรม แล้วให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ให้นักเรียนปฏิบัติ
กิจกรรมตำมขันตอนในชุดกิจกรรม ซึ่งนักเรียนจะต้องศึกษำจุดประสงค์กำรเรียนรู้ก่อนท้ำกิจกรรม และให้นักเรียน
ปฏิบัติกิจกรรมทัง 4 กิจกรรม และหลังจำกที่นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมครบทุกกิจกรรมแล้ว จึงให้นักเรียนท้ำ
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ และท้ำแบบสอบถำมควำมพึงพอใจของ
นักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ จำกนันน้ำข้อมูลที่เก็บรวบรวม
ได้มำวิเครำะห์ผล ซึ่งประกอบด้วย คะแนนที่ได้จำกกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรมทัง 4 กิจกรรม คะแนนจำกกำร
ประเมินผลงำนชินงำนของนักเรียน และคะแนนจำกกำรท้ำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน และข้อมูลจำก
แบบสอบถำมควำมพึงพอใจของนักเรียนมำวิเครำะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูลได้แก่ค่ำเฉลี่ยเลขคณิต
ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน และค่ำร้อยละ
ผลการวิจัย
ผลการประเมินคุณภาพของชุดกิจกรรมโดยผู้เชี่ยวชาญ กำรประเมินคุณภำพชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้
เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำโดยผู้เชี่ยวชำญ แสดงดังตำรำง 2
30 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560
ตาราง 2 ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่อง กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ
รายการประเมิน x S.D. ระดับคุณภาพ
1. ด้านลักษณะของรูปเล่ม
1.1 หน้ำปกของชุดกิจกรรมมีควำมสวยงำม 4.33 0.58 ดี
1.2 ขนำดของรูปเล่มชุดกิจกรรมมีควำมเหมำะสม 4.33 0.58 ดี
1.3 จัดวำงองค์ประกอบภำยในชุดกิจกรรมได้อย่ำงเหมำะสม 4.33 0.58 ดี
1.4 กำรเข้ำเล่มเปิดอ่ำนได้สะดวกและมีควำมคงทน 4.33 0.58 ดี
ค่ำเฉลี่ย ด้ำนที่ 1 4.33 0.46 ดี
2. ด้านจุดประสงค์และเนื้อหา
2.1 ค้ำชีแจงในกำรใช้ชุดกิจกรรมมีควำมชัดเจน 3.67 1.15 ดี
2.2 จุดประสงค์ของกิจกรรมชัดเจนและสำมำรถปฏิบัติได้ 4.33 0.58 ดี
2.3 เนือหำมีควำมสอดคล้องกับกิจกรรม 5.00 0.00 ดีมำก
2.4 เนือหำมีควำมถูกต้อง 5.00 0.00 ดีมำก
2.5 ค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีควำมสอดคล้องกับจุดประสงค์ของกิจกรรม 4.67 0.58 ดีมำก
2.6 ค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีควำมยำกง่ำยเหมำะสมกับระดับของนักเรียน 4.33 0.58 ดี
2.7 จ้ำนวนข้อค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีควำมเหมำะสม 4.33 0.58 ดี
2.8 ภำษำที่ใช้ในชุดกิจกรรมมีควำมถูกต้อง 4.33 0.58 ดี
2.9 ภำษำที่ใช้ในชุดกิจกรรมมีควำมเหมำะสมกับระดับของนักเรียน 4.33 0.5 ดี
2.10 ภำพประกอบในเนือหำเหมำะสมและสื่อควำมหมำยได้ชัดเจน 4.33 0.58 ดี
ค่ำเฉลี่ย ด้ำนที่ 2 4.43 0.32 ดี
3. ด้านกิจกรรมการเรียนรู้
3.1 กิจกรรมมีควำมหลำกหลำย 4.67 0.58 ดีมำก
3.2 กิจกรรมมีควำมสอดคล้องกับจุดประสงค์ 4.67 0.58 ดีมำก
3.3 กิจกรรมมีควำมยำกง่ำยเหมำะสมกับระดับชันของนักเรียน 4.67 0.58 ดีมำก
3.4 กิจกรรมมีควำมเหมำะสมกับระยะเวลำที่ใช้ 4.33 0.58 ดี
3.5 วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในกำรท้ำกิจกรรมมีควำมเหมำะสม 4.67 0.58 ดีมำก
3.6 วิธีกำรท้ำกิจกรรมอธิบำยได้ละเอียด ชัดเจน 4.33 1.15 ดี
ค่ำเฉลี่ย ด้ำนที่ 3 4.56 0.16 ดีมำก
4. ด้านคุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับ
4.1 ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมกำรท้ำงำนเป็นกลุ่ม 4.67 0.58 ดีมำก
4.2 ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกระบวนกำรคิดวิเครำะห์ 4.67 0.58 ดีมำก
4.3 ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนสำมำรถบูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี
วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ได้อย่ำงเหมำะสม
4.67 0.58 ดีมำก
4.4 ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนแก้ปัญหำและน้ำควำมรู้ไปใช้ในชีวิต
ประจ้ำวันได้
4.33 1.15 ดี
Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 31
รายการประเมิน x S.D. ระดับคุณภาพ
4.5 ช่วยให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมและสร้ำงสรรค์ผลงำน/
ชินงำนได้ด้วยตนเอง
4.67 0.58 ดีมำก
ค่ำเฉลี่ย ด้ำนที่ 4 4.60 0.26 ดีมำก
ค่าเฉลี่ยการประเมินคุณภาพทั้ง 4 ด้าน 4.48 0.22 ดี
จำกตำรำง 2 พบว่ำ คุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้โดยภำพรวมทัง 4 ด้ำน เท่ำกับ 4.48 มีคุณภำพ
อยู่ในระดับดี มีค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน 0.60 โดยด้ำนที่ 3 กิจกรรมกำรเรียนรู้ และด้ำนที่ 4 คุณค่ำและประโยชน์
ที่ได้รับ มีคุณภำพอยู่ในระดับดีมำก ส่วนด้ำนที่ 1 ลักษณะของรูปเล่ม และด้ำนที่ 2 จุดประสงค์และเนือหำมี
คุณภำพอยู่ในระดับดี
ผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการแปรรูปน้้ายางพาราฯ น้ำข้อมูล
ที่ได้จำกกำรทดลองมำประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลจำกกำรท้ำกิจกรรมระหว่ำงเรียน
และกำรทดสอบหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ซึ่งจ้ำแนกข้อมูล
ผลกำรเรียนรู้ได้ 3 ด้ำน คือ ด้ำนที่ 1 ค้ำถำมท้ำยกิจกรรม (4 กิจกรรม) ด้ำนที่ 2 ผลงำนของนักเรียน และด้ำนที่ 3
ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน ดังแสดงในตำรำง 3
ตาราง 3 ผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ
ผลการเรียนรู้ คะแนนเต็ม ค่าเฉลี่ย S.D. ร้อยละ
1. ค้ำถำมท้ำยกิจกรรม 40 26.52 4.49 66.30
2. ผลงำนของนักเรียน 35 28.83 2.97 82.37
3. ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน 25 14.84 3.65 59.36
ค่ำเฉลี่ย (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) 70.19
จำกตำรำง 3 พบว่ำ ผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนโดยรวมได้คะแนนเท่ำกับร้อยละ 70.19 โดยผลกำร
เรียนรู้ของนักเรียนที่ได้จำกกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรมทัง 4 กิจกรรม มีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 26.52 คิดเป็นร้อยละ
66.30 คะแนนจำกผลงำนของนักเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 28.83 คิดเป็นร้อยละ 82.37 และผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน
หลังเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 14.84 คิดเป็นร้อยละ 59.36
ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมฯ ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลจำก
แบบสอบถำมควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ
แสดงดังตำรำง 4
32 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560
ตาราง 4 ผลกำรศึกษำควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมฯ
ข้อ รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย S.D. แปลผล
1. ด้านองค์ประกอบของชุดกิจกรรม
1.1 ภำพหน้ำปกมีควำมสวยงำม น่ำสนใจ 4.50 0.57 มำก
1.2 ค้ำชีแจงในกำรใช้ชุดกิจกรรมมีควำมชัดเจน 4.46 0.63 มำก
1.3 ภำษำที่ใช้เข้ำใจง่ำย 4.46 0.63 มำก
1.4 จุดประสงค์ในกำรท้ำกิจกรรมมีควำมชัดเจน 4.38 0.62 มำก
1.5 เวลำที่ก้ำหนดในกำรท้ำกิจกรรมเหมำะสมและเพียงพอ 4.19 0.62 มำก
1.6 วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้มีควำมเหมำะสมกับกิจกรรม 4.38 0.56 มำก
1.7 ขันตอนในกำรปฏิบัติกิจกรรมอธิบำยได้ละเอียดชัดเจน 4.38 0.68 มำก
1.8 กิจกรรมมีควำมหลำกหลำย 4.46 0.63 มำก
1.9 เนือหำในใบควำมรู้มีควำมยำกง่ำยและเหมำะสมกับระดับชันของนักเรียน 4.46 0.63 มำก
1.10 ค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีควำมชัดเจน 4.35 0.68 มำก
ค่ำเฉลี่ยด้ำนองค์ประกอบของชุดกิจกรรม 4.40 0.46 มำก
2. ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนด้วยชุดกิจกรรม
2.1 ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกำรท้ำงำนเป็นกลุ่ม 4.52 0.64 มำกที่สุด
2.2
ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรม และได้บูรณำกำร
ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์และคณิตศำสตร์
4.42 0.63 มำก
2.3
ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนสำมำรถน้ำควำมรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจ้ำวันได้
4.50 0.64 มำก
2.4 ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนมีควำมสำมำรถในกำรคิดแก้ปัญหำได้มำกขึน 4.50 0.64 มำก
2.5 ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนสำมำรถสร้ำงสรรค์ผลงำนออกมำตำม
วัตถุประสงค์ที่ตังไว้ได้
4.42 0.63 มำก
ค่ำเฉลี่ยด้ำนประโยชน์ที่ได้รับจำกกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรม 4.47 0.38 มำก
ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจรวม 4.42 0.24 มาก
จำกตำรำง 4 พบว่ำ ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรกำรเรียนรู้โดยภำพรวมมี
ค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.42 ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน (S.D.) เท่ำกับ 0.63 แสดงว่ำ นักเรียนมีควำมพึงพอใจต่อกำรเรียน
ด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯอยู่ในระดับมำก โดยพบว่ำ คะแนนเฉลี่ยของควำมพึงพอใจ
ของด้ำนที่ 1 องค์ประกอบของชุดกิจกรรม และด้ำนที่ 2 ประโยชน์ที่ได้รับจำกกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรม อยู่ใน
ระดับมำก
สรุปผลการวิจัย
1. ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ โดยผู้เชี่ยวชำญ มี
คุณภำพอยู่ในระดับดี
2. ผลกำรประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำ
ยำงพำรำ มีค่ำเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละเท่ำกับ 70.19 โดยผลกำรเรียนรู้ที่ได้จำกกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรมทัง
Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 33
4 กิจกรรม มีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 26.52 คะแนนจำกผลงำนของนักเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 28.83 และผลสัมฤทธิ์
ทำงกำรเรียนหลังเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 14.84
3. ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำง
พำรำฯ อยู่ในระดับพึงพอใจมำก
อภิปรายผล
1. ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ จำกผู้เชี่ยวชำญมี
คุณภำพอยู่ในระดับดี ทังนีอำจเป็นผลมำจำกกำรออกแบบและสร้ำงชุดกิจกรรมให้มีองค์ประกอบตำมหลักกำรของ
กำรสร้ำงชุดกิจกรรม ค้ำนึงถึงผู้เรียน เนือหำที่ใช้ทันสมัย และใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น รวมทังจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียน
ได้ลงมือปฏิบัติจริง และเมื่อพิจำรณำควำมสอดคล้องระหว่ำงจุดประสงค์กับเนือหำของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้
พบว่ำมีค่ำดัชนีควำมสอดคล้องของรำยกำรประเมินอยู่ระหว่ำง 0.67-1.00 แสดงว่ำชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่สร้ำงขึน
มีควำมสอดคล้องกันระหว่ำงจุดประสงค์กับเนือหำของชุดกิจกรรม ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรม พบว่ำ
อยู่ในระดับดี โดยด้ำนกิจกรรมกำรเรียนรู้ และด้ำนคุณค่ำและประโยชน์ที่ได้รับ มีคุณภำพอยู่ในระดับดีมำก
ส่วนด้ำนลักษณะของรูปเล่ม และด้ำนจุดประสงค์และเนือหำมีคุณภำพอยู่ในระดับดี ทังนี อำจเนื่องจำกกิจกรรมมี
ควำมหลำกหลำย ใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น และให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง เช่น นักเรียนได้ชมกำรสำธิตกำรแปร
รูปน้ำยำงพำรำจำกปรำชญ์ชำวบ้ำนโดยใช้แหล่งเรียนรู้คือสวนยำงพำรำบริเวณใกล้โรงเรียน มีกิจกรรมให้นักเรียน
ทดลองตรวจสอบคุณสมบัติของยำงพำรำ ทดสอบกำรเกิดปฏิกิริยำระหว่ำงน้ำยำงพำรำกับกรดน้ำส้ม น้ำหมัก
มะพร้ำว และน้ำหมักกล้วย โดยนักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ได้ฝึกทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
มีกิจกรรมให้นักเรียนออกแบบชินงำนผลงำนจำกกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ นักเรียนได้ออกแบบผลิตภัณฑ์จำกน้ำ
ยำงพำรำที่สำมำรถน้ำไปใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตประจ้ำวันและให้ค้ำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นักเรียนได้
สร้ำงสรรค์ผลงำนผ่ำนกิจกรรมกลุ่ม มีกำรอภิปรำยและน้ำเสนองำน ซึ่งได้ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยงควำมรู้ทำง
วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์และคณิตศำสตร์ นอกจำกนีชุดกิจกรรมที่สร้ำงยังจัดท้ำค้ำถำมท้ำย
กิจกรรมให้นักเรียนได้ตรวจสอบควำมเข้ำใจ ให้บรรลุจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่ตังไว้ มีใบควำมรู้ประกอบกำรท้ำ
กิจกรรม โดยจัดวำงองค์ประกอบให้เหมำะสม มีภำพกำร์ตูนประกอบท้ำให้กำรน้ำเสนอเนือหำในชุดกิจกรรมเหมำะ
กับวัยของนักเรียน และท้ำให้ชุดกิจกรรมน่ำสนใจมำกขึน ด้วยเหตุนีจึงส่งผลให้กำรประเมินคุณภำพโดยผู้เชี่ยวชำญ
อยู่ในระดับดี ซึ่งสอดคล้องกับงำนวิจัยของ Lertangkoon, et al. (2015) ที่พัฒนำชุดกิจกรรมวิทยำศำสตร์เรื่อง
กำรตรวจสอบสำรเคมีปนเปื้อนในอำหำรส้ำหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 2 ผลกำรวิจัยพบว่ำ ชุดกิจกรรมที่สร้ำง
อย่ำงมีระบบ ค้ำนึงถึงหลักเกณฑ์ของกำรสร้ำงชุดกิจกรรม ค้ำนึงถึงผู้เรียน ท้ำให้ชุดกิจกรรมมีคุณภำพและมี
ประสิทธิภำพ สำมำรถส่งผลให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ที่ดีขึน
2. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนพบว่ำมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 70.19 ทังนีอำจเนื่องจำก
ชุดกิจกรรมที่สร้ำงมีกำรบูรณำกำรควำมรู้ระหว่ำง วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ โดย
ในสำระวิทยำศำสตร์ นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ปัจจัยที่มีต่อกำรเจริญเติบโตของยำงพำรำ
กำรเปลี่ยนโครงสร้ำงของน้ำยำงพำรำ สำรละลำยกรด และกำรหมักจำกวัสดุธรรมชำติ ในสำระเทคโนโลยี นักเรียน
ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกำรใช้อุปกรณ์ เครื่องมือต่ำงๆ ในกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ อุปกรณ์และเครื่องมือทำงวิทยำศำสตร์
ในกำรทดลอง และกำรน้ำวัสดุอื่นมำประดิษฐ์ในกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ รวมถึงกำรสืบค้นข้อมูลจำกสื่อสำรสนเทศ
ต่ำงๆ ในสำระวิศวกรรมศำสตร์ นักเรียนจะได้ออกแบบกำรทดลองของตนเองด้วยวิธีกำรต่ำงๆ ในกำรสร้ำง
ผลิตภัณฑ์จำกน้ำยำงพำรำ และในสำระคณิตศำสตร์ นักเรียนจะได้ใช้ทักษะกำรชั่ง กำรตวง กำรค้ำนวณหำ
34 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560
อัตรำส่วนในกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำตำมขันตอนที่เหมำะสม กำรค้ำนวณกำรลงทุนในกำรสร้ำงผลิตภัณฑ์ ซึ่ง
นักเรียนได้เกิดกระบวนกำรเรียนรู้ด้วยตนเองจำกกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรม นักเรียนได้เรียนรู้จำกสถำนที่จริงที่เป็น
แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นใกล้โรงเรียน นักเรียนได้เห็นของจริง ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริงด้วยตนเอง นักเรียนได้ฝึก
ทักษะกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ตำมศักยภำพของนักเรียนได้อย่ำงอิสระเต็มที่ สำมำรถน้ำเอำประสบกำรณ์และควำมรู้เดิม
มำใช้ และยังเป็นกำรเรียนรู้จำกปัญหำที่เกิดขึนจริง สำมำรถน้ำไปใช้แก้ปัญหำในชีวิตประจ้ำวันได้ ซึ่งกำรท้ำ
กิจกรรมจะต้องอำศัยควำมร่วมมือซึ่งกันและกัน เพื่อให้บรรลุผลส้ำเร็จตำมที่จุดประสงค์กำรเรียนรู้ก้ำหนด ท้ำให้
นักเรียนได้พัฒนำทักษะกำรคิดแก้ปัญหำ กำรคิดวิเครำะห์ และพัฒนำทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ ส่งผลให้
กำรเรียนรู้ของผู้เรียนดีขึนอย่ำงมีประสิทธิภำพ สอดคล้องกับงำนวิจัยของ Surin and Jindanuruk (2011) ที่พบว่ำ
นักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 1 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมพัฒนำทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ สำมำรถท้ำให้
นักเรียนมีทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์สูงกว่ำก่อนเรียน สอดคล้องกับ
งำนวิจัยของ Homepan (2007) ที่ได้ท้ำกำรศึกษำผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และควำมสำมำรถในกำร
คิดวิเครำะห์ของนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 ที่ได้รับกำรสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยำศำสตร์ที่ส่งเสริมกำรคิด
วิเครำะห์ ผลกำรวิจัยพบว่ำ ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ของ
นักเรียนสูงกว่ำก่อนเรียน
จำกกำรวิเครำะห์คะแนนผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนพบว่ำ คะแนนจำกกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรม
และคะแนนผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนหลังเรียนมีค่ำเฉลี่ยค่อนข้ำงน้อย โดยค่ำเฉลี่ยของกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรม
มีค่ำเฉลี่ย 26.52 จำกคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 66.30 ทังนีอำจเนื่องมำจำกเวลำที่ใช้ในกำรท้ำ
กิจกรรมมีค่อนข้ำงจ้ำกัดจึงท้ำให้นักเรียนมีเวลำตอบค้ำถำมน้อย นักเรียนบำงคนอำจยังไม่ได้ศึกษำใบควำมรู้
ประกอบกำรท้ำกิจกรรม จึงอำจเข้ำใจเนือหำไม่เพียงพอ อีกทังค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีทังค้ำถำมแบบปรนัยชนิด
เลือกตอบ 5 ข้อ และค้ำถำมอัตนัยให้เขียนตอบอีก 5 ข้อ จึงท้ำให้นักเรียนท้ำไม่ทัน บำงคนเขียนอธิบำยไม่ละเอียด
ไม่ชัดเจน ส่วนคะแนนจำกแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 14.84 จำกคะแนนเต็ม 25 คะแนน
คิดเป็นร้อยละ 59.36 ทังนีอำจเนื่องจำกนักเรียนมีเวลำในกำรทบทวนเนือหำจำกชุดกิจกรรมน้อย นักเรียนบำงส่วน
เขียนอธิบำยไม่ค่อยได้ แต่คะแนนจำกผลงำนของนักเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 28.82 จำกคะแนนเต็ม 35 คิดเป็น
ร้อยละ 82.37 ทังนีเนื่องจำก นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ร่วมมือกันคิดและวำงแผน ออกแบบและสร้ำงผลงำน
ร่วมกัน นักเรียนสนุกกับกำรท้ำกิจกรรม ได้ใช้ควำมคิดสร้ำงสรรค์ ได้แก้ปัญหำร่วมกันโดยเป็นปัญหำที่สอดคล้องกับ
ชีวิตจริง ที่นักเรียนมีประสบกำรณ์เดิม และเกี่ยวข้องกับชีวิตของนักเรียน เพรำะเป็นเนือหำเรื่องยำงพำรำ
ซึ่งนักเรียนมีควำมรู้ มีประสบกำรณ์เดิมที่ได้จำกคนในครอบครัวที่ประกอบอำชีพเกี่ยวกับกำรท้ำสวนยำง ทังนี
เนื่องจำกโรงเรียนชัยเกษมวิทยำ ตังอยู่ที่อ้ำเภอบำงสะพำน จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ซึ่งอำชีพของคนที่นี่ส่วนใหญ่
ประกอบอำชีพท้ำสวนยำง ซึ่งสอดคล้องกับที่ STEM Education National Center (2014) ได้กล่ำวไว้ว่ำ กำร
จัดกำรศึกษำที่บูรณำกำรควำมรู้ใน 4 สหวิทยำกำร ได้แก่ วิทยำศำสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศำสตร์ โดย
เน้นกำรน้ำควำมรู้ไปใช้แก้ปัญหำในชีวิตจริง รวมทังกำรพัฒนำกระบวนกำร ที่เป็นประโยชน์ต่อกำรด้ำเนินชีวิตและ
กำรท้ำงำน ช่วยนักเรียนสร้ำงควำมเชื่อมโยงระหว่ำง 4 สหวิทยำกำร กับชีวิตจริงและกำรท้ำงำน กำรจัดกำรเรียนรู้
แบบสะเต็มศึกษำเป็นกำรจัดกำรเรียนรู้ที่สร้ำงควำมเข้ำใจผ่ำนกำรปฏิบัติจริงควบคู่กับกำรพัฒนำทักษะกำรคิด
ตังค้ำถำม แก้ปัญหำและกำรหำข้อมูลและวิเครำะห์ข้อค้นพบใหม่ๆ พร้อมทังสำมำรถน้ำข้อค้นพบนันไปบูรณำกำร
กับชีวิตประจ้ำวันได้ นอกจำกนี กำรที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยกำรลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ท้ำให้ผู้เรียนเกิดกำร
เรียนรู้ร่วมกันกับเพื่อนๆ ผู้เรียนได้ท้ำกิจกรรมที่หลำกหลำย ท้ำให้ผู้เรียนเกิดควำมสนุกในกำรเรียน ส่งผลให้เกิดกำร
เรียนรู้ที่ดี และยังช่วยให้ผู้เรียนเกิดควำมคิดสร้ำงสรรค์ได้อีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับงำนวิจัยของ Akethiratham,
Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 35
et al. (2010) พบว่ำ กำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องบรรยำกำศสำมำรถท้ำให้นักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 1
มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน ควำมคิดสร้ำงสรรค์ทำงวิทยำศำสตร์ และเจตคติทำงวิทยำศำสตร์ หลังเรียนสูงกว่ำก่อน
เรียน เพรำะกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่มีคุณภำพ ท้ำให้ผู้เรียนได้เกิดกำรเรียนรู้จำกกำรลงมือปฏิบัติ ได้ฝึกฝน
กำรท้ำงำนผ่ำนกระบวนกำรกลุ่ม ตลอดจนได้ใช้กระบวนกำรคิดที่หลำกหลำย ส่งผลให้ผู้เรียนได้เสริมสร้ำงควำมคิด
สร้ำงสรรค์และผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนสูงขึนได้ ดังนันกำรใช้ชุดกิจกรรมวิทยำศำสตร์ในกำรจัดกำรเรียนรู้ให้กับ
นักเรียนจึงท้ำให้ผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนสูงขึนได้
3. ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ
อยู่ในระดับมำก ทังนีอำจมำจำกชุดกิจกรรมมีเนือหำที่ทันสมัย เกี่ยวข้องกับชีวิตประจ้ำวันของนักเรียน ใช้ภำษำที่
เข้ำใจง่ำย มีกำรก้ำหนดจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่ชัดเจน ขันตอนกำรปฏิบัติกิจกรรมเขียนได้ชัดเจน มีล้ำดับต่อเนื่อง
เหมำะสม มีกิจกรรมที่หลำกหลำย นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริงจำกแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น ท้ำให้นักเรียนสนุก
กับกำรเรียน นอกจำกนี ชุดกิจกรรมยังออกแบบโดยค้ำนึงถึงวัยผู้เรียน โดยใช้ภำพประกอบเนือหำ และมีภำพ
กำร์ตูนสอดแทรกในแต่ละหัวข้อเพื่อดึงดูดควำมสนใจของนักเรียนในกำรศึกษำชุดกิจกรรม จึงส่งผลให้นักเรียนมี
ควำมพึงพอใจต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมอยู่ในระดับมำก ซึ่งสอดคล้องกับงำนวิจัยของ Fahkhanong (2012,
p.65) ที่พบว่ำ นักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 มีควำมพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องภำวะโลกร้อนกับ
สุขภำพ อยู่ในระดับมำกทังนีเพรำะนักเรียนมีส่วนร่วมในกำรท้ำงำนเป็นกลุ่ม ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง
สำมำรถน้ำควำมรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ้ำวันได้ นักเรียนมีอิสระทำงควำมคิด ได้แสดงศักยภำพของ
ตนเองอย่ำงเต็มที่ สำมำรถคิดแก้ปัญหำและสร้ำงสรรค์ผลงำนได้ ซึ่งนักเรียนได้เรียนรู้จำกสถำนที่จริง ลงมือปฏิบัติ
จริง จึงท้ำให้นักเรียนมีควำมสนุกสนำนในกำรท้ำกิจกรรมและสนุกกับกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้
นอกจำกนี ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลจำกกำรแสดงควำมคิดเห็นเพิ่มเติมของนักเรียน พบว่ำ นักเรียนมี
ควำมสนใจและสนุกสนำนในกำรท้ำกิจกรรม เนื่องจำกมีกิจกรรมที่หลำกหลำย ได้เรียนรู้จำกสิ่งรอบตัวสำมำรถ
น้ำไปประยุกต์ใช้ในกำรแก้ปัญหำเรื่องยำงพำรำ เนือหำมีควำมแปลกใหม่แตกต่ำงจำกเรื่องที่เรียนในห้องเรียน
กิจกรรมสนุก ไม่น่ำเบื่อ กำรประดิษฐ์ กำรสร้ำงผลิตภัณฑ์จำกยำงพำรำสำมำรถน้ำกลับไปท้ำเองที่บ้ำนได้ ท้ำให้
นักเรียนเห็นคุณค่ำและควำมส้ำคัญของทรัพยำกรท้องถิ่นมำกขึน แต่เนื่องด้วยสภำพอำกำศที่ร้อนและกลิ่นเหม็น
ของยำงพำรำในกำรออกไปศึกษำที่สถำนที่จริง รวมทังเวลำในกำรท้ำกิจกรรมมีจ้ำกัด จึงอำจท้ำให้กำรปฏิบัติ
กิจกรรมมีปัญหำบ้ำง
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะในการน้าวิจัยไปใช้
1.1 กำรน้ำชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ไปใช้ ผู้สอนควรศึกษำเอกสำรชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ให้เข้ำใจ
เนือหำที่เกี่ยวข้องในกำรปฏิบัติกิจกรรมก่อน และจัดเตรียมสื่อกำรรู้ที่ต้องใช้ประกอบกิจกรรมให้เพียงพอกับจ้ำนวน
นักเรียน
1.2 ผู้สอนควรอธิบำยวิธีกำรใช้ชุดกิจกรรมให้นักเรียนฟังร่วมกัน เพื่อให้เกิดควำมเข้ำใจที่ตรงกัน
ก่อนเริ่มปฏิบัติกิจกรรม และขณะท้ำกิจกรรม ผู้สอนควรให้ค้ำแนะน้ำช่วยเหลือนักเรียนเมื่อมีปัญหำ และกระตุ้นให้
นักเรียนเกิดควำมสนใจกิจกรรมอยู่เสมอ และค้ำแนะน้ำในกำรใช้อุปกรณ์อย่ำงถูกต้องเหมำะสม
1.3 เนื่องจำกกำรใช้ชุดกิจกรรมเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำต้องจัดกิจกรรมนอกสถำนที่ ดังนัน
ผู้สอนต้องวำงแผน และประสำนงำนกับคนในพืนที่ ที่เกี่ยวข้องในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ให้กับนักเรียน
36 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560
1.4 เวลำที่ใช้ในกำรท้ำกิจกรรมผู้สอนควรยืดหยุ่นตำมควำมเหมำะสม ควำมพร้อม และ
ควำมสำมำรถของนักเรียนในสถำนกำรณ์นันๆ
1.5 ผู้สอนควรจัดกิจกรรมในภำคเช้ำจะสำมำรถช่วยลดปัญหำในกำรเตรียมน้ำยำงพำรำได้
มำกกว่ำกำรจัดกิจกรรมในช่วงบ่ำย
2. ข้อเสนอแนะในการท้าวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรมีกำรศึกษำทักษะกำรคิดต่ำงๆ เช่น ทักษะกำรคิดวิเครำะห์ กำรคิดแก้ปัญหำ กำรคิด
สร้ำงสรรค์ ของนักเรียนที่ได้จำกกำรเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมฯ
2.2 ควรมีกำรศึกษำทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ และจิตวิทยำศำสตร์ ของนักเรียนที่เกิด
จำกกำรเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรม
References
Akethiratham, S., Phetsai, P., and Nanthamanop, W. (2010). The development of activity
packages on asmosphere to promote creative thinking and scientific attitudes, science
learning group, Matthayomsuksa I. Gratduate Studies Journal,
Ratchapatphiboonsongkram University, 4(1), 24-38. (in Thai)
Catherine Scott. (2012, October/December). An investigation of science, technology, engineering
and mathematics (STEM) focused high schools in the U.S. Journal of STEM Education,
Retrieved April 24, 2015, from www.jstem.org/index.php?
journal=JSTEM&page=search&op=search
Fahkhanong, K. (2012). A development of learning activity package on health effects of global
warming for Matthayomsuksa 3 students. (Master thesis, Srinakharinwirot University).
(in Thai)
Homepan, L. (2007). A study on the science searing achievement in science and analytical
thinking of Mathayomsuksa 3 students by using science learning packages to
encourage analytical thinking. (Master thesis, Srinakharinwirot University). (in Thai)
Julawatthanathon, M. (2013). A study of science technology engineering and mathematics
education or STEM Education. Journal of Science Teacher Association of Thailand, 9,
3-14. (in Thai)
Lertangkoon, C., Paewponsong J., Wadeesirisak S., and Koocharoenpisal N. (2015). The
development of science activity packages on food contaminant testing for the 8th
grade students. Srinakharinwirot Science Journal, 31(1), 65-82. (in Thai)
McCombs, B.L. and Whisler, J.S. (1997). The learner centered classroom and school: strategies
for increasing student motivation and achievement. San Francisco: Jossey-Bass.
Ministry of Education. (2008). The Basic education core curriculum B.E. 2551. Bangkok: Kurusapa
Printing Ladphrao. (in Thai)
Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 37
Noophet, W. (2007). The development of activity packages on domestic waste water for
Mathayomsuksa 2 students at Matthayomnarknarwaroupatump School. (Master
thesis, Srinakharinwirot University). (in Thai)
Phisanbud, S. (2006). Creating and data processing of the query. Bangkok: Withayaphat. (in Thai)
Samritsutha, P. (2008). Study on the learning achievement and problem solving ability in
science of Mathayomsuksa 6 students by using self-pursuing and finding out learning
package activity. (Master thesis, Srinakharinwirot University). (in Thai)
Surin, P. and Jindanuruk, T. (2011). The effects of using activity packages for developing science
process skills on science process skills and critical thinking ability of Mathayom Suksa 1
students at Tessaban 1 SongphonWittaya School in Ratchaburi Province. Journal of
Educational, Sukhothai Thammathirat University, 4(2), 22-28. (in Thai)
Sangsoda, K. (2013). Development of learning activity packages on biodiversity in the Khlong
Lum Gong reservoir Nong-Phai District Phetchabun Province. Retrieved November, 27,
2014, from http://research.pcru.ac.th/rdb/pro_data/files/5603034.pdf (in Thai)
STEM Education National Center. (2014). Get to know STEM. Retrieved January, 20, 2015, from
http://www.stemedthailand.org/?page_id=23 (in Thai)
The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology. (2009). The learning of
science for the basic education core curriculum. Bangkok: Business Organization of the
Office of the Welfare Promotion Commission for Teacher and Education Personal
Ladprao press. (in Thai)
The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology. (2015). Science Technology
Engineering and Mathematics Education Grade 1-6. Bangkok: Business Organization of
the Office of the Welfare Promotion Commission for Teacher and Education Personal
Ladprao press. (in Thai)

More Related Content

What's hot

4รายงานนวีตกรรม
4รายงานนวีตกรรม 4รายงานนวีตกรรม
4รายงานนวีตกรรม krupornpana55
 
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกระบวนการฐานวิจัยที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ รายว...
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกระบวนการฐานวิจัยที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ รายว...การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกระบวนการฐานวิจัยที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ รายว...
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกระบวนการฐานวิจัยที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ รายว...widsanusak srisuk
 
GSprojectscience reprot2562_1_kruwichai
GSprojectscience reprot2562_1_kruwichaiGSprojectscience reprot2562_1_kruwichai
GSprojectscience reprot2562_1_kruwichaiWichai Likitponrak
 
แผ่นพับเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า 1
แผ่นพับเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า 1แผ่นพับเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า 1
แผ่นพับเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า 1krupornpana55
 
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข ดอกหญ้า ธรรมดา
 
นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศsomdetpittayakom school
 
4รายงานนวีตกรรม
4รายงานนวีตกรรม 4รายงานนวีตกรรม
4รายงานนวีตกรรม krupornpana55
 
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน krurutsamee
 
Design of Problem-based Learning Activities in Ubiquitous Learning Environmen...
Design of Problem-based Learning Activities in Ubiquitous Learning Environmen...Design of Problem-based Learning Activities in Ubiquitous Learning Environmen...
Design of Problem-based Learning Activities in Ubiquitous Learning Environmen...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
GSprojectscience reprot2562_2_kruwichai
GSprojectscience reprot2562_2_kruwichaiGSprojectscience reprot2562_2_kruwichai
GSprojectscience reprot2562_2_kruwichaiWichai Likitponrak
 
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10Jirathorn Buenglee
 
ว จ ย ร_ปแบบการพ_ฒนาการสอนว_ทยาศาสตร_
ว จ ย ร_ปแบบการพ_ฒนาการสอนว_ทยาศาสตร_ว จ ย ร_ปแบบการพ_ฒนาการสอนว_ทยาศาสตร_
ว จ ย ร_ปแบบการพ_ฒนาการสอนว_ทยาศาสตร_kanyarat chinwong
 
Best practice โรงเรียนสุจริต
Best practice โรงเรียนสุจริตBest practice โรงเรียนสุจริต
Best practice โรงเรียนสุจริตAon Narinchoti
 
ไฟล์การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ไฟล์การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการไฟล์การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ไฟล์การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการkrupornpana55
 
รายงานเข้าร่วมโครงการครุวิจัย2
รายงานเข้าร่วมโครงการครุวิจัย2รายงานเข้าร่วมโครงการครุวิจัย2
รายงานเข้าร่วมโครงการครุวิจัย2Kobwit Piriyawat
 
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดร.กุศลิน 191116
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดร.กุศลิน 191116การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดร.กุศลิน 191116
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดร.กุศลิน 191116kroofon fon
 

What's hot (20)

4รายงานนวีตกรรม
4รายงานนวีตกรรม 4รายงานนวีตกรรม
4รายงานนวีตกรรม
 
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกระบวนการฐานวิจัยที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ รายว...
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกระบวนการฐานวิจัยที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ รายว...การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกระบวนการฐานวิจัยที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ รายว...
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกระบวนการฐานวิจัยที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ รายว...
 
GSprojectscience reprot2562_1_kruwichai
GSprojectscience reprot2562_1_kruwichaiGSprojectscience reprot2562_1_kruwichai
GSprojectscience reprot2562_1_kruwichai
 
แผ่นพับเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า 1
แผ่นพับเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า 1แผ่นพับเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า 1
แผ่นพับเสนอผลงานนวัตกรรม หน้า 1
 
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
 
นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
 
4รายงานนวีตกรรม
4รายงานนวีตกรรม 4รายงานนวีตกรรม
4รายงานนวีตกรรม
 
G sm5 2562
G sm5 2562G sm5 2562
G sm5 2562
 
Gst uprojectlearningunit
Gst uprojectlearningunitGst uprojectlearningunit
Gst uprojectlearningunit
 
Gst ureportsonnong62
Gst ureportsonnong62Gst ureportsonnong62
Gst ureportsonnong62
 
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
คำบรรยายและรูปสรุปวิจัยบทเรียน
 
Design of Problem-based Learning Activities in Ubiquitous Learning Environmen...
Design of Problem-based Learning Activities in Ubiquitous Learning Environmen...Design of Problem-based Learning Activities in Ubiquitous Learning Environmen...
Design of Problem-based Learning Activities in Ubiquitous Learning Environmen...
 
GSprojectscience reprot2562_2_kruwichai
GSprojectscience reprot2562_2_kruwichaiGSprojectscience reprot2562_2_kruwichai
GSprojectscience reprot2562_2_kruwichai
 
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10
คู่มือการใช้นวัตกรรม แผน10
 
ว จ ย ร_ปแบบการพ_ฒนาการสอนว_ทยาศาสตร_
ว จ ย ร_ปแบบการพ_ฒนาการสอนว_ทยาศาสตร_ว จ ย ร_ปแบบการพ_ฒนาการสอนว_ทยาศาสตร_
ว จ ย ร_ปแบบการพ_ฒนาการสอนว_ทยาศาสตร_
 
Gst uprojectcurriculum
Gst uprojectcurriculumGst uprojectcurriculum
Gst uprojectcurriculum
 
Best practice โรงเรียนสุจริต
Best practice โรงเรียนสุจริตBest practice โรงเรียนสุจริต
Best practice โรงเรียนสุจริต
 
ไฟล์การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ไฟล์การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการไฟล์การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ไฟล์การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
 
รายงานเข้าร่วมโครงการครุวิจัย2
รายงานเข้าร่วมโครงการครุวิจัย2รายงานเข้าร่วมโครงการครุวิจัย2
รายงานเข้าร่วมโครงการครุวิจัย2
 
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดร.กุศลิน 191116
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดร.กุศลิน 191116การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดร.กุศลิน 191116
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ดร.กุศลิน 191116
 

Similar to Document (2)

พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้งพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้งNalai Rinrith
 
รายงานการประเมินตนเอง 2 54
รายงานการประเมินตนเอง 2 54รายงานการประเมินตนเอง 2 54
รายงานการประเมินตนเอง 2 54Jiraporn
 
บทคัดย่อการพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
บทคัดย่อการพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้งบทคัดย่อการพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
บทคัดย่อการพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้งNalai Rinrith
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาทssuser21a057
 
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...Panita Wannapiroon Kmutnb
 
บทคัดย่อ
บทคัดย่อบทคัดย่อ
บทคัดย่อNirut Uthatip
 
เกมฟิเคชั่น.pdf
เกมฟิเคชั่น.pdfเกมฟิเคชั่น.pdf
เกมฟิเคชั่น.pdfssuser1c4d65
 
แบบเสนอโครงร่างคอม -----
แบบเสนอโครงร่างคอม  -----แบบเสนอโครงร่างคอม  -----
แบบเสนอโครงร่างคอม -----Alatreon Deathqz
 
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์JeeraJaree Srithai
 
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่างBest practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่างsomdetpittayakom school
 
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่างBest practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่างsomdetpittayakom school
 
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉินรูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉินPattie Pattie
 
โครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่ง
โครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่งโครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่ง
โครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่งTaweesak Poochai
 
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูปวิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูปWichai Likitponrak
 
Online active learning
Online active learningOnline active learning
Online active learningTar Bt
 

Similar to Document (2) (20)

พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้งพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
พัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
 
รายงานการประเมินตนเอง 2 54
รายงานการประเมินตนเอง 2 54รายงานการประเมินตนเอง 2 54
รายงานการประเมินตนเอง 2 54
 
บทคัดย่อวิทยานิพนธ์
บทคัดย่อวิทยานิพนธ์บทคัดย่อวิทยานิพนธ์
บทคัดย่อวิทยานิพนธ์
 
บทคัดย่อการพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
บทคัดย่อการพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้งบทคัดย่อการพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
บทคัดย่อการพัฒนาการให้เหตุผลประกอบการตอบคำถามเรื่องการเคลื่อนที่แนวโค้ง
 
960447
960447960447
960447
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
Media&tech2learn 001-Part 1
Media&tech2learn 001-Part 1Media&tech2learn 001-Part 1
Media&tech2learn 001-Part 1
 
Wichaiclassresearch2560
Wichaiclassresearch2560Wichaiclassresearch2560
Wichaiclassresearch2560
 
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
The Blended Learning Model using Collaborative and Case-based Learning to Cre...
 
บทคัดย่อ
บทคัดย่อบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
 
เกมฟิเคชั่น.pdf
เกมฟิเคชั่น.pdfเกมฟิเคชั่น.pdf
เกมฟิเคชั่น.pdf
 
แบบเสนอโครงร่างคอม -----
แบบเสนอโครงร่างคอม  -----แบบเสนอโครงร่างคอม  -----
แบบเสนอโครงร่างคอม -----
 
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
บทความวิจัยของจีราศรีไทย ม.ราชภัฏสุรินทร์
 
นวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษา
นวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษานวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษา
นวัตกรรมเทคโนโลยีการศึกษา
 
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่างBest practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
 
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่างBest practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
Best practice ครูยุภาพร ผลสว่าง
 
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉินรูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
 
โครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่ง
โครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่งโครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่ง
โครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่ง
 
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูปวิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
วิจัยแบบเรียนสำเร็จรูป
 
Online active learning
Online active learningOnline active learning
Online active learning
 

Document (2)

  • 1. Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 23 ผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การแปรรูปน้้ายางพารา ที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) LEARNING OUTCOME OF 9th STUDENTS USING THE LEARNING ACTIVITY PACKAGES ON THE NATURAL RUBBER LATEX PROCESS INTEGRATING SCIENCE TECHNOLOGY ENGINEERING AND MATHEMATICS (STEM) น้ำฝน คูเจริญไพศำล1* กิ่งแก้ว แก้วทิพย์2 คุณัญญำ นงค์นวล3 และปิยลักษณ์ หะริตวัน4 Numphon Koocharoenpisal1* Kingkaew Kaewthip2 Khunanya Nongnuan3 and Piyaluk Haritawan4 1,2,3,4คณะวิทยำศำสตร์ มหำวิทยำลัยศรีนครินทรวิโรฒ 1,2,3,4Faculty of Science, Srinakharinwirot University, Bangkok, 10110, Thailand *Corresponding Author, E-mail: numphonk@gmail.com บทคัดย่อ กำรวิจัยนีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้ำงชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำร วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) ส้ำหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 และ ประเมินคุณภำพโดยผู้เชี่ยวชำญ 2) ประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่อง กำร แปรรูปน้ำยำงพำรำฯ และ 3) ศึกษำควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่อง กำร แปรรูปน้ำยำงพำรำฯ กลุ่มตัวอย่ำงที่ใช้เป็นนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 จ้ำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ 2) แบบตรวจสอบ ควำมสอดคล้องระหว่ำงเนือหำกับจุดประสงค์ของชุดกิจกรรม 3) แบบประเมินคุณภำพชุดกิจกรรม โดยผู้เชี่ยวชำญ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ 5) แบบตรวจสอบควำมสอดคล้องระหว่ำง ข้อค้ำถำมกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน และ 6) แบบสอบถำมควำม พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ ผลกำรวิจัย พบว่ำ 1) ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ โดยผู้เชี่ยวชำญมีคุณภำพอยู่ใน ระดับดี 2) ผลกำรประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ฯ ซึ่งได้จำกกำรประเมินผล 3 ส่วน ได้แก่ ค้ำถำมท้ำยกิจกรรม ผลงำนของนักเรียน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทำงกำรเรียนได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 70.18 และ 3) ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรม กำรเรียนรู้ฯ อยู่ในระดับมำก ค้าส้าคัญ: ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ STEM
  • 2. 24 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560 Abstract The purposes of this research were 1) to develop learning activity packages on the natural rubber latex process by integrating science, technology, engineering, and mathematics (STEM) for 9th grade students and to assess the quality of the packages by experts, 2) to evaluate the learning outcomes of the students, and 3) to study students’ satisfaction toward the learning activity packages. The sample group of this study was one classroom with 26 9th grade students. The research tools consisted of 1) the learning activity packages on the natural rubber latex process by integrating STEM, 2) the assessment form for consistency between the learning objective and the contents of the learning activity packages, 3) the assessment form of the quality of the learning activity packages on the natural rubber latex process by experts, 4) the learning achievement test on the natural rubber latex, 5) the assessment form for consistency between the questions and the objective of the test, and 6) the students’ satisfaction questionnairetoward the learning activity packages. The results revealed that 1) the learning activity packages on the natural rubber latex process assessed by the experts were at a good quality level, 2) the learning outcomes of students measured from the activity worksheets, students’ works, and the learning achievement test showed mean scores at 70.18 percent, and 3) the students’ satisfaction toward the learning activity packages on the natural rubber latex process were at a good level of satisfaction. Keywords: Learning Activity Packages, Natural Rubber Latex Process, STEM Education ความเป็นมาและความส้าคัญของปัญหา กำรจัดกำรเรียนกำรสอนเพื่อให้สอดคล้องกับกำรเรียนรู้ในศตวรรษ 21 ควรมีกำรเน้นทักษะที่จ้ำเป็น 3 ด้ำน คือ ทักษะกำรเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะชีวิตและกำรท้ำงำน และทักษะด้ำนสำรสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี โดยมีกำรจัดกำรเรียนรู้ที่มีกำรบูรณำกำรกับสำระกำรเรียนรู้ต่ำงๆ เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหำที่เกิดขึน สำมำรถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนกับชีวิตประจ้ำวันได้ มุ่งเน้นทักษะกำรคิดและกำรแก้ปัญหำรวมทังกำรน้ำเทคโนโลยีมำ ประยุกต์ใช้ได้อย่ำงเหมำะสม (STEM Education National Center, 2014) ครูผู้สอนควรจัดกำรเรียนกำรสอน วิทยำศำสตร์โดยเน้นผู้เรียนเป็นส้ำคัญ และส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ และกำรพัฒนำตนเองเต็มตำมศักยภำพ และครูผู้สอนต้องประเมินผลกำรเรียนรู้ ของผู้เรียนควบคู่ไปกำรเรียนกำรสอน โดยพิจำรณำจำกพัฒนำกำรของ ผู้เรียนเป็นหลัก (The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology, 2009, p.29) และกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส้ำคัญ (McCombs & Whisler, 1997, pp.65-66) ครูจะต้องจัดกิจกรรมให้ ผู้เรียนได้ฝึกทักษะกำรคิด ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมตำมควำมสนใจ และให้ผู้เรียนได้ใช้ประสบกำรณ์ควำมรู้ที่มีในกำร ค้นหำเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับควำมต้องกำรของผู้เรียน โดยอำศัยกระบวนกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย เพื่อฝึก ให้ผู้เรียนมีควำมรับผิดชอบในกำรสร้ำงกระบวนกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะต้องจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน ได้พัฒนำทักษะกำรเรียนรู้ด้ำนต่ำงๆ ดังนัน ในกำรวิจัยครังนี ผู้วิจัยจึงมีควำมประสงค์ที่จะสร้ำงชุดกิจกรรมที่เน้น กำรปฏิบัติ โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จำกกำรลงมือปฏิบัติกิจกรรม เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะกระบวนกำรทำง
  • 3. Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 25 วิทยำศำสตร์ เพรำะชุดกิจกรรมเป็นสื่อกำรเรียนรู้ที่สำมำรถพัฒนำทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และสร้ำง เจตคติที่ดีต่อวิทยำศำสตร์ และยังท้ำให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้อย่ำงมีควำมสุข ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทำงกำร เรียนสูงขึน นอกจำกนีชุดกิจกรรมจะท้ำให้นักเรียนมีอิสระในกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง ส่งเสริมควำมรับผิดชอบต่อกำร เรียนรู้ ท้ำให้มีควำมกระตือรือร้นที่จะศึกษำค้นคว้ำด้วยตนเอง มีเจตคติต่อกำรเรียนวิทยำศำสตร์ที่ดีขึน และสำมำรถ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ้ำวันได้ (Sangsoda, 2013; Noophet, 2007; Samritsutha, 2008) สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้น้ำเสนอนโยบำยและแนวทำงส่งเสริม กำรศึกษำ ที่ให้มีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนวิทยำศำสตร์ที่บูรณำกำร 4 สำขำวิชำ คือ วิทยำศำสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศำสตร์ (Engineering) และคณิตศำสตร์ (Mathematics) หรือที่เรียกว่ำ STEM เพื่อเตรียมคนไทยรุ่นใหม่ให้มีขีดควำมสำมำรถในกำรประกอบอำชีพ สร้ำงเศรษฐกิจและสำมำรถด้ำเนินชีวิต ในประชำคมเศรษฐกิจอำเซียน (Julawatthanathon, 2013, p.4) และ สสวท. เล็งเห็นถึงควำมส้ำคัญของกำร พัฒนำเยำวชนของประเทศไทยให้มีควำมรู้และทักษะด้ำนวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์และเทคโนโลยี ที่สำมำรถ ประยุกต์ควำมรู้ที่เรียนในกำรด้ำรงชีวิตและกำรประกอบอำชีพ อีกทังมีทักษะที่พร้อมส้ำหรับโลกในศตวรรษที่ 21 ทังนีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนตำมแนวทำงสะเต็มศึกษำ (STEM Education) เป็นกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรที่ใช้ ควำมรู้และทักษะในด้ำนต่ำงๆ ผ่ำนกำรท้ำกิจกรรม (Activity based) หรือกำรท้ำโครงงำน (Project based) ที่จะ ช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนำทักษะกำรคิด ทักษะกำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศ ทักษะกำรแก้ปัญหำ และทักษะกำรสื่อสำร นอกจำกนีผู้เรียนยังได้ควำมรู้แบบองค์รวมที่สำมำรถน้ำไปใช้เชื่อมโยงหรือประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ้ำวันได้ ทังนี ครูผู้สอนจึงควรส่งเสริมกำรเรียนรู้ผ่ำนกิจกรรมหรือโครงงำนที่มุ่งแก้ไขปัญหำที่พบเห็นในชีวิตจริง เพื่อสร้ำงเสริม ประสบกำรณ์ ทักษะชีวิต ทักษะกำรคิด กำรแก้ปัญหำ กำรใช้ควำมคิดสร้ำงสรรค์ เพื่อน้ำไปสู่กำรสร้ำงนวัตกรรม ซึ่งกระบวนกำรออกแบบเชิงวิศกรรมเป็นขันตอนของกำรแก้ปัญหำหรือสนองควำมต้องกำร ซึ่งมีหลำยรูปแบบแต่มี ขันตอนหลักๆ คือ 1) กำรระบุปัญหำ (Identify a challenge) 2) กำรค้นหำแนวคิดที่เกี่ยวข้อง (Explore ideas) 3) กำรวำงแผนและพัฒนำ (Plan and develop) 4) กำรทดสอบและประเมินผล (Test and evaluation) และ 5) กำรน้ำเสนอผลลัพธ์ (Present the solution) (The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology, 2015, p.4) จำกกำรศึกษำงำนวิจัยของ Catherine (2012, p.30) ที่ท้ำกำรศึกษำลักษณะของโรงเรียนที่มีกำรจัด กำรศึกษำแบบ STEM education ของโรงเรียนทังหมด 10 โรงเรียนโดยเลือกจำกภูมิภำคต่ำงๆ ทั่วสหรัฐอเมริกำ ผลกำรวิจัย พบว่ำ นักเรียนของโรงเรียนที่มุ่งเน้นกำรศึกษำแบบ STEM education จะประสบผลส้ำเร็จมำกกว่ำ นักเรียนที่ได้รับกำรเรียนกำรสอนแบบเดิมๆ ซึ่งนักเรียนมีกำรแก้ปัญหำที่เกิดขึนจริงและมีกำรฝึกงำนหรือท้ำ โครงกำรอื่นๆ เพิ่มเติม โดยนักเรียนส่วนใหญ่มีคะแนนอยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยเมื่อเทียบกับโรงเรียนอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกำ เป็นกำรแสดงว่ำเมื่อนักเรียนได้รับโอกำสและกำรสนับสนุนจำกโรงเรียนที่เน้นหลักสูตรทำง กำรศึกษำแบบ STEM education จะประสบผลส้ำเร็จมำกกว่ำ แต่งำนวิจัยของประเทศไทยเกี่ยวกับกำรจัดกำร เรียนรู้ตำมแนวทำงสะเต็มศึกษำยังมีน้อย ดังนัน ผู้วิจัยจึงเล็งเห็นควำมส้ำคัญของกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนที่เน้นกำรบูรณำกำรตำม แนวทำงสะเต็มศึกษำ จึงต้องกำรสร้ำงชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนได้บูรณำกำรควำมรู้และทักษะทำง วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์และคณิตศำสตร์ โดยใช้บริบทของเนือหำในกำรท้ำกิจกรรมที่เกี่ยวกับน้ำ ยำงพำรำ กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ และจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จำกแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น
  • 4. 26 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อสร้ำงชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) ส้ำหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 และประเมินคุณภำพโดย ผู้เชี่ยวชำญ 2. เพื่อประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่อง กำรแปรรูปน้ำ ยำงพำรำ ที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) 3. เพื่อศึกษำควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูป น้ำยำงพำรำที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา ตัวแปรอิสระ กำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) ตัวแปรตาม ได้แก่ 1) ผลกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ และ 2) ควำมพึงพอใจที่มีต่อกำรเรียน ด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และ คณิตศำสตร์ (STEM) สมมติฐานของการวิจัย ผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำที่บูรณำกำร วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่ำเกณฑ์ร้อยละ 70 ที่ตังไว้ วิธีด้าเนินการวิจัย กำรวิจัยในครังนี สำมำรถสรุปเป็นขันตอนที่ส้ำคัญ 5 ขันตอน ดังนี ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผู้วิจัยได้ศึกษำข้อมูลพืนฐำนจำกเอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อวิเครำะห์เนือหำที่เกี่ยวกับ ยำงพำรำ และก้ำหนดจุดประสงค์กำรเรียนรู้ จำกหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขันพืนฐำน พุทธศักรำช 2551 ของ Ministry of Education (2008) สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ พบว่ำ เนือหำเรื่องยำงพำรำ สอดคล้องกับเนือหำใน สำระที่ 2 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม มำตรฐำน ว 2.2 เข้ำใจควำมส้ำคัญของทรัพยำกรธรรมชำติ กำรใช้ทรัพยำกร ธรรมชำติในระดับท้องถิ่นและโลก น้ำควำมรู้ไปใช้ในกำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอย่ำง ยั่งยืน โดยสอดคล้องกับตัวชีวัด ม.3/1 วิเครำะห์สภำพปัญหำสิ่งแวดล้อม ทรัพยำกรธรรมชำติในท้องถิ่นและเสนอ แนวทำงในกำรแก้ไขปัญหำ ม.3/3 อภิปรำยกำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติอย่ำงยั่งยืน และ ม.3/6 อภิปรำยและมีส่วน ร่วมในกำรดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอย่ำงยั่งยืน ซึ่งเนือหำเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ สำมำรถจัด กิจกรรมที่เน้นกำรบูรณำกำรได้ ผู้วิจัยจึงก้ำหนดเนือหำเรื่องยำงพำรำ ซึ่งจัดได้ว่ำเป็นทรัพยำกรธรรมชำติในท้องถิ่น ทำงภำคใต้ของประเทศไทยมำใช้ในกำรออกแบบและสร้ำงชุดกิจกรรม โดยจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมแนวทำงสะ เต็มศึกษำ (STEM education) ของสถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ที่บูรณำกำร ระหว่ำงวิทยำศำสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศำสตร์ (Engineering) และคณิตศำสตร์ (Mathematics) (The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology, 2015) โดย นักเรียนจะได้เรียนรู้และเข้ำใจเกี่ยวกับน้ำยำงพำรำ กำรแปรรูปยำงพำรำซึ่งเป็นทรัพยำกรธรรมชำติในท้องถิ่น โดยได้
  • 5. Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 27 เรียนรู้จำกแหล่งเรียนรู้จริงในท้องถิ่น ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริงและสำมำรถสร้ำงผลงำน/ชินงำนหรือผลิตภัณฑ์จำก ยำงพำรำได้ ซึ่งชุดกิจกรรม ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 คือ กิจกรรมนักสืบน้ำยำง กิจกรรมที่ 2 คือ กิจกรรมนักวิทย์คนเก่ง กิจกรรมที่ 3 คือ กิจกรรมนักออกแบบตัวน้อย และกิจกรรมที่ 4 คือ กิจกรรมนักประดิษฐ์ รุ่นเยำว์ กำรน้ำควำมรู้และทักษะทำงวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ มำเชื่อมโยม เพื่อใช้แก้ปัญหำในเรื่องที่เรียน ที่สนใจ ส้ำหรับกำรชุดกิจกรรมนี สำมำรถสรุปได้ดังนี วิทยาศาสตร์ (Science) S เรียนรู้เกี่ยวกับกำรขยำยพันธ์ยำงพำรำ คุณสมบัติของยำงพำรำ กำรเปลี่ยนโครงสร้ำง ของน้ำยำงพำรำ ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำรเจริญเติบโตของยำงพำรำ เทคโนโลยี (Technology) T เรียนรู้เกี่ยวกับ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในกำรออกแบบ เครื่องมือในกำรแปรรูป น้ำยำงพำรำ กำรใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทำงวิทยำศำสตร์ในกำรทดลอง กำรใช้สื่อ สำรสนเทศในกำรสืบค้นข้อมูล น้ำเสนอข้อมูลกำรน้ำวัสดุต่ำงๆ มำประยุกต์ใช้กับ ผลิตภัณฑ์ยำงพำรำ วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) E เรียนรู้เกี่ยวกับกำรออกแบบกำรทดลอง กำรปฏิบัติงำน กำรออกแบบผลิตภัณฑ์จำก น้ำยำงพำรำ (กระบวนกำรออกแบบทำงวิศวกรรม) คณิตศาสตร์ (Mathematics) M เรียนรู้เกี่ยวกับ กำรชั่งปริมำณสำร กำรตวงและ กำรวัดปริมำตรสำรที่ใช้ในกำร ทดลอง กำรคิดค้ำนวณงบประมำรที่ใช้ ต้นทุน ก้ำไร-ขำดทุน กำรค้ำนวณพืนที่ที่ใช้ใน กำรปลูกยำงพำรำ กำรค้ำนวณอัตรำส่วนระหว่ำง กรด : น้ำยำงพำรำ : น้ำ ในกำรทดลอง กำรค้ำนวณปริมำณสำรที่ใช้ในกำรสร้ำง ผลิตภัณฑ์หรือผลงำน ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและสร้างชุดกิจกรรม รวมทั้งเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในกำรทดลองได้แก่ ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ที่บูรณำกำร วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) ส้ำหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 เครื่องมือที่ใช้ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1) แบบประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำร เรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ โดยผู้เชี่ยวชำญ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเรื่องกำรแปรรูปน้ำ ยำงพำรำฯโดยมีข้อสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ้ำนวน 20 ข้อ และข้อสอบอัตนัย 5 ข้อ และ 3) แบบสอบถำมควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำง พำรำฯ ลักษณะของชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการแปรรูปน้้ายางพาราฯ ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ มีกิจกรรมที่บูรณำกำรควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ (STEM) โดยเป็นกิจกรรมที่นักเรียนได้ฝึกทักษะกำรแก้ปัญหำจำก สถำนกำรณ์จริง ได้ท้ำกำรทดลอง ได้สร้ำงสรรค์ผลงำนจำกน้ำยำงพำรำ มีกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่เป็นกิจกรรมกลุ่ม ฝึกทักษะกำรแก้ปัญหำ กำรคิดวิเครำะห์ กำรสื่อสำร กำรน้ำเสนองำน โดยได้เรียนรู้จำกแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น คือ กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ จำกกลุ่มชำวบ้ำนที่ประกอบอำชีพในกำรแปรรูปยำงพำรำ ซึ่งตังอยู่ใกล้โรงเรียน ซึ่งผู้วิจัย ได้ออกแบบเนือหำของกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องยำงพำรำ ปัญหำที่เกิดขึนกับยำงพำรำในปัจจุบัน สมบัติของยำงพำรำ กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ทังนีองค์ประกอบของชุดกิจกรรมหรือหัวข้อส้ำคัญในชุดกิจกรรม ประกอบด้วย ชื่อชุด กิจกรรม ค้ำชีแจงกำรใช้กิจกรรม ชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ของกิจกรรม เวลำที่ใช้ในกำรท้ำกิจกรรม วัสดุอุปกรณ์
  • 6. 28 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560 และสื่อกำรเรียนรู้ วิธีท้ำกิจกรรม ใบบันทึกกิจกรรม ค้ำถำมท้ำยกิจกรรม และใบควำมรู้ ซึ่งค้ำถำมท้ำยกิจกรรมจะ มีทังค้ำถำมแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก และค้ำถำมแบบอัตนัยให้เขียนอธิบำย ภำยในชุดกิจกรรม ออกแบบให้น่ำอ่ำน น่ำสนใจโดยใช้รูปภำพกำร์ตูนในกำรน้ำเสนอเนือหำ กำรท้ำกิจกรรม กำรตอบค้ำถำมเพื่อสร้ำง ควำมสนใจให้นักเรียนอยำกศึกษำมำกขึน ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ดังนี ตาราง 1 จุดประสงค์และลักษณะของกิจกรรมของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ กิจกรรม/ (เวลาที่ใช้) จุดประสงค์ของกิจกรรม ลักษณะของกิจกรรม กิจกรรมที่ 1 นักสืบน้ำยำง (100 นำที) 1. อธิบำยเกี่ยวกับปัญหำที่ เกิดขึนกับยำงพำรำใน ปัจจุบันได้ 2. อธิบำยกำรแปรรูปน้ำ ยำงพำรำได้ กิจกรรมนีมีเนือหำเกี่ยวกับปัญหำที่เกิดขึนกับรำคำยำงพำรำใน ปัจจุบัน สำเหตุและแนวทำงแก้ไขที่ยั่งยืน และกำรแปรรูปน้ำ ยำงพำรำในท้องถิ่น โดยนักเรียนได้ลงในพืนที่ ที่ปลูกยำงพำรำจริง ใกล้โรงเรียน นักเรียนได้ฟังบรรยำยจำกวิทยำกรในท้องถิ่นและ ทดลองแปรรูปน้ำยำงพำรำ ภำยหลังจำกท้ำกิจกรรมนักเรียนต้อง บันทึกลงในใบบันทึกกิจกรรม ในหัวข้อ ได้เรียนรู้อะไรบ้ำง น้ำสิ่งที่ เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจ้ำวันอย่ำงไร และข้อสงสัยจำกกำรเรียนรู้ จำกนันให้นักเรียนศึกษำจำกใบควำมรู้เพิ่มเติม แล้วตอบค้ำถำม ท้ำยกิจกรรม กิจกรรมที่ 2 นักวิทย์คนเก่ง (100 นำที) 1. อธิบำยสมบัติเบืองต้นของ น้ำยำงพำรำได้ 2. เปรียบเทียบควำมแตกต่ำง ระหว่ำงกำรใช้ กรดน้ำส้ม น้ำ หมักมะพร้ำว และน้ำหมัก กล้วย ในกำรท้ำให้น้ำ ยำงพำรำแข็งตัว กิจกรรมนีมีเนือหำเกี่ยวกับกำรทดสอบสมบัติเบืองต้นของ ยำงพำรำทังด้ำนกำยภำพและเคมี นักเรียนได้ฝึกทักษะ กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ ได้ท้ำกำรทดลอง และได้ เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของสำรละลำยที่ท้ำให้ยำงพำรำแข็งตัว คือ กรดน้ำส้ม น้ำหมักกล้วย และน้ำหมักมะพร้ำว มีกิจกรรมให้อภิปรำยผล และน้ำเสนองำน จำกนันบันทึกผลกำร ทดลองลงในใบบันทึกกิจกรรม และตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรม กิจกรรมที่ 3 นักออกแบบ ตัวน้อย (100 นำที) 1. ออกแบบชินงำนที่ได้จำก กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำโดย ค้ำนึงถึงผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม 2. เลือกใช้อุปกรณ์ในท้องถิ่น มำใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่ำง เหมำะสม กิจกรรมนีมีเนือหำเกี่ยวกับกำรแปรูปน้ำยำงพำรำและอุตสำหกรรม ยำงในประเทศ นักเรียนได้ออกแบบผลิตภัณฑ์จำกน้ำยำงพำรำที่ สำมำรถท้ำได้ในเวลำที่ก้ำหนดให้ โดยออกแบบในกระดำษปรู๊ฟ แผ่นใหญ่ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อผลิตภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ระบุ สำรละลำยที่ใช้ท้ำให้น้ำยำงแข็งตัวและอัตรำส่วนที่ใช้ ขันตอนกำร ท้ำ และรูปแบบจ้ำลองของผลิตภัณฑ์ จำกนันให้แต่ละกลุ่มออกมำ น้ำเสนองำน อภิปรำยร่วมกัน แล้วให้บันทึกผลลงในใบกิจกรรม และตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรม กิจกรรมที่ 4 นักประดิษฐ์ รุ่นเยำว์ (150 นำที) 1. ประดิษฐ์ชินงำนจำกน้ำ ยำงพำรำที่สำมำรถน้ำไปใช้ ประโยชน์ได้ 2. อธิบำยควำมสัมพันธ์ ของยำงพำรำกับกำร ด้ำรงชีวิตของมนุษย์ กิจกรรมนีมีเนือหำเกี่ยวกับกำรใช้ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ รวมทังใช้ ประสบกำรณ์ของนักเรียน ในกำรสร้ำงผลิตภัณฑ์ต่ำงๆ จำกน้ำ ยำงพำรำ นักเรียนได้ใช้ควำมคิดสร้ำงสรรค์ชินงำน และน้ำเสนอ ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มตนเอง นักเรียนท้ำใบกิจกรรมและตอบค้ำถำม ท้ำยกิจกรรม
  • 7. Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 29 ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญ น้ำชุดกิจกรรมที่สร้ำงพร้อมเครื่องมือวิจัยที่ใช้ในกำรตรวจสอบควำมสอดคล้องและประเมินคุณภำพไป ให้ผู้เชี่ยวชำญจ้ำนวน 3 ท่ำน ตรวจสอบควำมสอดคล้องระหว่ำงจุดประสงค์กำรเรียนรู้และเนือหำของชุดกิจกรรม จำกนันวิเครำะห์หำค่ำดัชนีควำมสอดคล้อง (IOC: Index of Item Object Congruence) พบว่ำ มีค่ำดัชนีควำม สอดคล้อง (IOC) ระหว่ำง 0.67-1.00 และปรับปรุงแก้ไขชุดกิจกรรมตำมค้ำแนะน้ำของผู้เชี่ยวชำญ หลังจำกนัน ประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรม โดยใช้แบบประเมินคุณภำพแบบมำตรำส่วนประมำณค่ำ (Rating scale) 5 ระดับ น้ำผลที่ได้มำวิเครำะห์หำค่ำเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน แล้วแปลผล โดยมีเกณฑ์ ดังนี ค่ำเฉลี่ย 4.51 - 5.00 หมำยถึง มีคุณภำพระดับดีมำก 3.51 - 4.50 มีคุณภำพระดับดี 2.51 - 3.50 คุณภำพระดับปำนกลำง 1.51 - 2.50 ควรปรับปรุง และ 1.00 - 1.50 ผลกำรประเมินโดยผู้เชี่ยวชำญพบว่ำ ชุดกิจกรรมมีคุณภำพอยู่ใน ระดับดี ( x = 4.48, S.D. = 0.60) และปรับปรุงแก้ไขชุดกิจกรรมตำมค้ำแนะน้ำของผู้เชี่ยวชำญ ขั้นตอนที่ 4 การทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการแปรรูปน้้ายางพารากับกลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่ำงที่ใช้ในกำรศึกษำครังนี เป็นนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 โรงเรียนชัยเกษมวิทยำ ต้ำบลชัย เกษม อ้ำเภอบำงสะพำน จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ที่ก้ำลังศึกษำในภำคเรียนที่ 2 ปีกำรศึกษำ 2557 จ้ำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนจ้ำนวน 26 คน ซึ่งเป็นนักเรียนที่คละควำมสำมำรถ มีทังนักเรียนเก่ง ปำนกลำง และอ่อน แบบแผนกำรวิจัยเป็นกำรวิจัยเชิงทดลอง (experimental research) มีกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว ทดลองใช้ชุด กิจกรรมกับกลุ่มตัวอย่ำง และวัดผลประเมินผลตำมสภำพจริง จำกผลงำนชินงำนและกิจกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ และวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนหลังเรียน ด้ำเนินกำรทดลองจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ โดยใช้เวลำรวม 3 สัปดำห์ โดยชีแจงรำยละเอียดกำรใช้ชุด กิจกรรมแก่นักเรียนให้เข้ำใจก่อนลงมือปฏิบัติกิจกรรม แล้วให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรมตำมขันตอนในชุดกิจกรรม ซึ่งนักเรียนจะต้องศึกษำจุดประสงค์กำรเรียนรู้ก่อนท้ำกิจกรรม และให้นักเรียน ปฏิบัติกิจกรรมทัง 4 กิจกรรม และหลังจำกที่นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมครบทุกกิจกรรมแล้ว จึงให้นักเรียนท้ำ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ และท้ำแบบสอบถำมควำมพึงพอใจของ นักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ จำกนันน้ำข้อมูลที่เก็บรวบรวม ได้มำวิเครำะห์ผล ซึ่งประกอบด้วย คะแนนที่ได้จำกกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรมทัง 4 กิจกรรม คะแนนจำกกำร ประเมินผลงำนชินงำนของนักเรียน และคะแนนจำกกำรท้ำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน และข้อมูลจำก แบบสอบถำมควำมพึงพอใจของนักเรียนมำวิเครำะห์ข้อมูล สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูลได้แก่ค่ำเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน และค่ำร้อยละ ผลการวิจัย ผลการประเมินคุณภาพของชุดกิจกรรมโดยผู้เชี่ยวชาญ กำรประเมินคุณภำพชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำโดยผู้เชี่ยวชำญ แสดงดังตำรำง 2
  • 8. 30 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560 ตาราง 2 ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ เรื่อง กำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ รายการประเมิน x S.D. ระดับคุณภาพ 1. ด้านลักษณะของรูปเล่ม 1.1 หน้ำปกของชุดกิจกรรมมีควำมสวยงำม 4.33 0.58 ดี 1.2 ขนำดของรูปเล่มชุดกิจกรรมมีควำมเหมำะสม 4.33 0.58 ดี 1.3 จัดวำงองค์ประกอบภำยในชุดกิจกรรมได้อย่ำงเหมำะสม 4.33 0.58 ดี 1.4 กำรเข้ำเล่มเปิดอ่ำนได้สะดวกและมีควำมคงทน 4.33 0.58 ดี ค่ำเฉลี่ย ด้ำนที่ 1 4.33 0.46 ดี 2. ด้านจุดประสงค์และเนื้อหา 2.1 ค้ำชีแจงในกำรใช้ชุดกิจกรรมมีควำมชัดเจน 3.67 1.15 ดี 2.2 จุดประสงค์ของกิจกรรมชัดเจนและสำมำรถปฏิบัติได้ 4.33 0.58 ดี 2.3 เนือหำมีควำมสอดคล้องกับกิจกรรม 5.00 0.00 ดีมำก 2.4 เนือหำมีควำมถูกต้อง 5.00 0.00 ดีมำก 2.5 ค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีควำมสอดคล้องกับจุดประสงค์ของกิจกรรม 4.67 0.58 ดีมำก 2.6 ค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีควำมยำกง่ำยเหมำะสมกับระดับของนักเรียน 4.33 0.58 ดี 2.7 จ้ำนวนข้อค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีควำมเหมำะสม 4.33 0.58 ดี 2.8 ภำษำที่ใช้ในชุดกิจกรรมมีควำมถูกต้อง 4.33 0.58 ดี 2.9 ภำษำที่ใช้ในชุดกิจกรรมมีควำมเหมำะสมกับระดับของนักเรียน 4.33 0.5 ดี 2.10 ภำพประกอบในเนือหำเหมำะสมและสื่อควำมหมำยได้ชัดเจน 4.33 0.58 ดี ค่ำเฉลี่ย ด้ำนที่ 2 4.43 0.32 ดี 3. ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 กิจกรรมมีควำมหลำกหลำย 4.67 0.58 ดีมำก 3.2 กิจกรรมมีควำมสอดคล้องกับจุดประสงค์ 4.67 0.58 ดีมำก 3.3 กิจกรรมมีควำมยำกง่ำยเหมำะสมกับระดับชันของนักเรียน 4.67 0.58 ดีมำก 3.4 กิจกรรมมีควำมเหมำะสมกับระยะเวลำที่ใช้ 4.33 0.58 ดี 3.5 วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในกำรท้ำกิจกรรมมีควำมเหมำะสม 4.67 0.58 ดีมำก 3.6 วิธีกำรท้ำกิจกรรมอธิบำยได้ละเอียด ชัดเจน 4.33 1.15 ดี ค่ำเฉลี่ย ด้ำนที่ 3 4.56 0.16 ดีมำก 4. ด้านคุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับ 4.1 ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมกำรท้ำงำนเป็นกลุ่ม 4.67 0.58 ดีมำก 4.2 ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกระบวนกำรคิดวิเครำะห์ 4.67 0.58 ดีมำก 4.3 ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนสำมำรถบูรณำกำรวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ได้อย่ำงเหมำะสม 4.67 0.58 ดีมำก 4.4 ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนแก้ปัญหำและน้ำควำมรู้ไปใช้ในชีวิต ประจ้ำวันได้ 4.33 1.15 ดี
  • 9. Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 31 รายการประเมิน x S.D. ระดับคุณภาพ 4.5 ช่วยให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมและสร้ำงสรรค์ผลงำน/ ชินงำนได้ด้วยตนเอง 4.67 0.58 ดีมำก ค่ำเฉลี่ย ด้ำนที่ 4 4.60 0.26 ดีมำก ค่าเฉลี่ยการประเมินคุณภาพทั้ง 4 ด้าน 4.48 0.22 ดี จำกตำรำง 2 พบว่ำ คุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้โดยภำพรวมทัง 4 ด้ำน เท่ำกับ 4.48 มีคุณภำพ อยู่ในระดับดี มีค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน 0.60 โดยด้ำนที่ 3 กิจกรรมกำรเรียนรู้ และด้ำนที่ 4 คุณค่ำและประโยชน์ ที่ได้รับ มีคุณภำพอยู่ในระดับดีมำก ส่วนด้ำนที่ 1 ลักษณะของรูปเล่ม และด้ำนที่ 2 จุดประสงค์และเนือหำมี คุณภำพอยู่ในระดับดี ผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการแปรรูปน้้ายางพาราฯ น้ำข้อมูล ที่ได้จำกกำรทดลองมำประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลจำกกำรท้ำกิจกรรมระหว่ำงเรียน และกำรทดสอบหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ซึ่งจ้ำแนกข้อมูล ผลกำรเรียนรู้ได้ 3 ด้ำน คือ ด้ำนที่ 1 ค้ำถำมท้ำยกิจกรรม (4 กิจกรรม) ด้ำนที่ 2 ผลงำนของนักเรียน และด้ำนที่ 3 ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน ดังแสดงในตำรำง 3 ตาราง 3 ผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ผลการเรียนรู้ คะแนนเต็ม ค่าเฉลี่ย S.D. ร้อยละ 1. ค้ำถำมท้ำยกิจกรรม 40 26.52 4.49 66.30 2. ผลงำนของนักเรียน 35 28.83 2.97 82.37 3. ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน 25 14.84 3.65 59.36 ค่ำเฉลี่ย (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) 70.19 จำกตำรำง 3 พบว่ำ ผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนโดยรวมได้คะแนนเท่ำกับร้อยละ 70.19 โดยผลกำร เรียนรู้ของนักเรียนที่ได้จำกกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรมทัง 4 กิจกรรม มีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 26.52 คิดเป็นร้อยละ 66.30 คะแนนจำกผลงำนของนักเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 28.83 คิดเป็นร้อยละ 82.37 และผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน หลังเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 14.84 คิดเป็นร้อยละ 59.36 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมฯ ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลจำก แบบสอบถำมควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ แสดงดังตำรำง 4
  • 10. 32 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560 ตาราง 4 ผลกำรศึกษำควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมฯ ข้อ รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย S.D. แปลผล 1. ด้านองค์ประกอบของชุดกิจกรรม 1.1 ภำพหน้ำปกมีควำมสวยงำม น่ำสนใจ 4.50 0.57 มำก 1.2 ค้ำชีแจงในกำรใช้ชุดกิจกรรมมีควำมชัดเจน 4.46 0.63 มำก 1.3 ภำษำที่ใช้เข้ำใจง่ำย 4.46 0.63 มำก 1.4 จุดประสงค์ในกำรท้ำกิจกรรมมีควำมชัดเจน 4.38 0.62 มำก 1.5 เวลำที่ก้ำหนดในกำรท้ำกิจกรรมเหมำะสมและเพียงพอ 4.19 0.62 มำก 1.6 วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้มีควำมเหมำะสมกับกิจกรรม 4.38 0.56 มำก 1.7 ขันตอนในกำรปฏิบัติกิจกรรมอธิบำยได้ละเอียดชัดเจน 4.38 0.68 มำก 1.8 กิจกรรมมีควำมหลำกหลำย 4.46 0.63 มำก 1.9 เนือหำในใบควำมรู้มีควำมยำกง่ำยและเหมำะสมกับระดับชันของนักเรียน 4.46 0.63 มำก 1.10 ค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีควำมชัดเจน 4.35 0.68 มำก ค่ำเฉลี่ยด้ำนองค์ประกอบของชุดกิจกรรม 4.40 0.46 มำก 2. ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนด้วยชุดกิจกรรม 2.1 ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกำรท้ำงำนเป็นกลุ่ม 4.52 0.64 มำกที่สุด 2.2 ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรม และได้บูรณำกำร ควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์และคณิตศำสตร์ 4.42 0.63 มำก 2.3 ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนสำมำรถน้ำควำมรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจ้ำวันได้ 4.50 0.64 มำก 2.4 ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนมีควำมสำมำรถในกำรคิดแก้ปัญหำได้มำกขึน 4.50 0.64 มำก 2.5 ชุดกิจกรรมท้ำให้นักเรียนสำมำรถสร้ำงสรรค์ผลงำนออกมำตำม วัตถุประสงค์ที่ตังไว้ได้ 4.42 0.63 มำก ค่ำเฉลี่ยด้ำนประโยชน์ที่ได้รับจำกกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรม 4.47 0.38 มำก ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจรวม 4.42 0.24 มาก จำกตำรำง 4 พบว่ำ ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรกำรเรียนรู้โดยภำพรวมมี ค่ำเฉลี่ยเท่ำกับ 4.42 ส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน (S.D.) เท่ำกับ 0.63 แสดงว่ำ นักเรียนมีควำมพึงพอใจต่อกำรเรียน ด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯอยู่ในระดับมำก โดยพบว่ำ คะแนนเฉลี่ยของควำมพึงพอใจ ของด้ำนที่ 1 องค์ประกอบของชุดกิจกรรม และด้ำนที่ 2 ประโยชน์ที่ได้รับจำกกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรม อยู่ใน ระดับมำก สรุปผลการวิจัย 1. ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ โดยผู้เชี่ยวชำญ มี คุณภำพอยู่ในระดับดี 2. ผลกำรประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำ ยำงพำรำ มีค่ำเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละเท่ำกับ 70.19 โดยผลกำรเรียนรู้ที่ได้จำกกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรมทัง
  • 11. Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 33 4 กิจกรรม มีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 26.52 คะแนนจำกผลงำนของนักเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 28.83 และผลสัมฤทธิ์ ทำงกำรเรียนหลังเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 14.84 3. ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำง พำรำฯ อยู่ในระดับพึงพอใจมำก อภิปรายผล 1. ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ จำกผู้เชี่ยวชำญมี คุณภำพอยู่ในระดับดี ทังนีอำจเป็นผลมำจำกกำรออกแบบและสร้ำงชุดกิจกรรมให้มีองค์ประกอบตำมหลักกำรของ กำรสร้ำงชุดกิจกรรม ค้ำนึงถึงผู้เรียน เนือหำที่ใช้ทันสมัย และใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น รวมทังจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียน ได้ลงมือปฏิบัติจริง และเมื่อพิจำรณำควำมสอดคล้องระหว่ำงจุดประสงค์กับเนือหำของชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ พบว่ำมีค่ำดัชนีควำมสอดคล้องของรำยกำรประเมินอยู่ระหว่ำง 0.67-1.00 แสดงว่ำชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่สร้ำงขึน มีควำมสอดคล้องกันระหว่ำงจุดประสงค์กับเนือหำของชุดกิจกรรม ผลกำรประเมินคุณภำพของชุดกิจกรรม พบว่ำ อยู่ในระดับดี โดยด้ำนกิจกรรมกำรเรียนรู้ และด้ำนคุณค่ำและประโยชน์ที่ได้รับ มีคุณภำพอยู่ในระดับดีมำก ส่วนด้ำนลักษณะของรูปเล่ม และด้ำนจุดประสงค์และเนือหำมีคุณภำพอยู่ในระดับดี ทังนี อำจเนื่องจำกกิจกรรมมี ควำมหลำกหลำย ใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น และให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง เช่น นักเรียนได้ชมกำรสำธิตกำรแปร รูปน้ำยำงพำรำจำกปรำชญ์ชำวบ้ำนโดยใช้แหล่งเรียนรู้คือสวนยำงพำรำบริเวณใกล้โรงเรียน มีกิจกรรมให้นักเรียน ทดลองตรวจสอบคุณสมบัติของยำงพำรำ ทดสอบกำรเกิดปฏิกิริยำระหว่ำงน้ำยำงพำรำกับกรดน้ำส้ม น้ำหมัก มะพร้ำว และน้ำหมักกล้วย โดยนักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ได้ฝึกทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ มีกิจกรรมให้นักเรียนออกแบบชินงำนผลงำนจำกกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ นักเรียนได้ออกแบบผลิตภัณฑ์จำกน้ำ ยำงพำรำที่สำมำรถน้ำไปใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตประจ้ำวันและให้ค้ำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นักเรียนได้ สร้ำงสรรค์ผลงำนผ่ำนกิจกรรมกลุ่ม มีกำรอภิปรำยและน้ำเสนองำน ซึ่งได้ฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยงควำมรู้ทำง วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์และคณิตศำสตร์ นอกจำกนีชุดกิจกรรมที่สร้ำงยังจัดท้ำค้ำถำมท้ำย กิจกรรมให้นักเรียนได้ตรวจสอบควำมเข้ำใจ ให้บรรลุจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่ตังไว้ มีใบควำมรู้ประกอบกำรท้ำ กิจกรรม โดยจัดวำงองค์ประกอบให้เหมำะสม มีภำพกำร์ตูนประกอบท้ำให้กำรน้ำเสนอเนือหำในชุดกิจกรรมเหมำะ กับวัยของนักเรียน และท้ำให้ชุดกิจกรรมน่ำสนใจมำกขึน ด้วยเหตุนีจึงส่งผลให้กำรประเมินคุณภำพโดยผู้เชี่ยวชำญ อยู่ในระดับดี ซึ่งสอดคล้องกับงำนวิจัยของ Lertangkoon, et al. (2015) ที่พัฒนำชุดกิจกรรมวิทยำศำสตร์เรื่อง กำรตรวจสอบสำรเคมีปนเปื้อนในอำหำรส้ำหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 2 ผลกำรวิจัยพบว่ำ ชุดกิจกรรมที่สร้ำง อย่ำงมีระบบ ค้ำนึงถึงหลักเกณฑ์ของกำรสร้ำงชุดกิจกรรม ค้ำนึงถึงผู้เรียน ท้ำให้ชุดกิจกรรมมีคุณภำพและมี ประสิทธิภำพ สำมำรถส่งผลให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ที่ดีขึน 2. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนพบว่ำมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 70.19 ทังนีอำจเนื่องจำก ชุดกิจกรรมที่สร้ำงมีกำรบูรณำกำรควำมรู้ระหว่ำง วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศำสตร์ และคณิตศำสตร์ โดย ในสำระวิทยำศำสตร์ นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ ปัจจัยที่มีต่อกำรเจริญเติบโตของยำงพำรำ กำรเปลี่ยนโครงสร้ำงของน้ำยำงพำรำ สำรละลำยกรด และกำรหมักจำกวัสดุธรรมชำติ ในสำระเทคโนโลยี นักเรียน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกำรใช้อุปกรณ์ เครื่องมือต่ำงๆ ในกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ อุปกรณ์และเครื่องมือทำงวิทยำศำสตร์ ในกำรทดลอง และกำรน้ำวัสดุอื่นมำประดิษฐ์ในกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำ รวมถึงกำรสืบค้นข้อมูลจำกสื่อสำรสนเทศ ต่ำงๆ ในสำระวิศวกรรมศำสตร์ นักเรียนจะได้ออกแบบกำรทดลองของตนเองด้วยวิธีกำรต่ำงๆ ในกำรสร้ำง ผลิตภัณฑ์จำกน้ำยำงพำรำ และในสำระคณิตศำสตร์ นักเรียนจะได้ใช้ทักษะกำรชั่ง กำรตวง กำรค้ำนวณหำ
  • 12. 34 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560 อัตรำส่วนในกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำตำมขันตอนที่เหมำะสม กำรค้ำนวณกำรลงทุนในกำรสร้ำงผลิตภัณฑ์ ซึ่ง นักเรียนได้เกิดกระบวนกำรเรียนรู้ด้วยตนเองจำกกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรม นักเรียนได้เรียนรู้จำกสถำนที่จริงที่เป็น แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นใกล้โรงเรียน นักเรียนได้เห็นของจริง ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริงด้วยตนเอง นักเรียนได้ฝึก ทักษะกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ตำมศักยภำพของนักเรียนได้อย่ำงอิสระเต็มที่ สำมำรถน้ำเอำประสบกำรณ์และควำมรู้เดิม มำใช้ และยังเป็นกำรเรียนรู้จำกปัญหำที่เกิดขึนจริง สำมำรถน้ำไปใช้แก้ปัญหำในชีวิตประจ้ำวันได้ ซึ่งกำรท้ำ กิจกรรมจะต้องอำศัยควำมร่วมมือซึ่งกันและกัน เพื่อให้บรรลุผลส้ำเร็จตำมที่จุดประสงค์กำรเรียนรู้ก้ำหนด ท้ำให้ นักเรียนได้พัฒนำทักษะกำรคิดแก้ปัญหำ กำรคิดวิเครำะห์ และพัฒนำทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ ส่งผลให้ กำรเรียนรู้ของผู้เรียนดีขึนอย่ำงมีประสิทธิภำพ สอดคล้องกับงำนวิจัยของ Surin and Jindanuruk (2011) ที่พบว่ำ นักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 1 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมพัฒนำทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ สำมำรถท้ำให้ นักเรียนมีทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์และควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์สูงกว่ำก่อนเรียน สอดคล้องกับ งำนวิจัยของ Homepan (2007) ที่ได้ท้ำกำรศึกษำผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และควำมสำมำรถในกำร คิดวิเครำะห์ของนักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 ที่ได้รับกำรสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยำศำสตร์ที่ส่งเสริมกำรคิด วิเครำะห์ ผลกำรวิจัยพบว่ำ ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ของ นักเรียนสูงกว่ำก่อนเรียน จำกกำรวิเครำะห์คะแนนผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนพบว่ำ คะแนนจำกกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรม และคะแนนผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนหลังเรียนมีค่ำเฉลี่ยค่อนข้ำงน้อย โดยค่ำเฉลี่ยของกำรตอบค้ำถำมท้ำยกิจกรรม มีค่ำเฉลี่ย 26.52 จำกคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 66.30 ทังนีอำจเนื่องมำจำกเวลำที่ใช้ในกำรท้ำ กิจกรรมมีค่อนข้ำงจ้ำกัดจึงท้ำให้นักเรียนมีเวลำตอบค้ำถำมน้อย นักเรียนบำงคนอำจยังไม่ได้ศึกษำใบควำมรู้ ประกอบกำรท้ำกิจกรรม จึงอำจเข้ำใจเนือหำไม่เพียงพอ อีกทังค้ำถำมท้ำยกิจกรรมมีทังค้ำถำมแบบปรนัยชนิด เลือกตอบ 5 ข้อ และค้ำถำมอัตนัยให้เขียนตอบอีก 5 ข้อ จึงท้ำให้นักเรียนท้ำไม่ทัน บำงคนเขียนอธิบำยไม่ละเอียด ไม่ชัดเจน ส่วนคะแนนจำกแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 14.84 จำกคะแนนเต็ม 25 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 59.36 ทังนีอำจเนื่องจำกนักเรียนมีเวลำในกำรทบทวนเนือหำจำกชุดกิจกรรมน้อย นักเรียนบำงส่วน เขียนอธิบำยไม่ค่อยได้ แต่คะแนนจำกผลงำนของนักเรียนมีค่ำเฉลี่ย เท่ำกับ 28.82 จำกคะแนนเต็ม 35 คิดเป็น ร้อยละ 82.37 ทังนีเนื่องจำก นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ร่วมมือกันคิดและวำงแผน ออกแบบและสร้ำงผลงำน ร่วมกัน นักเรียนสนุกกับกำรท้ำกิจกรรม ได้ใช้ควำมคิดสร้ำงสรรค์ ได้แก้ปัญหำร่วมกันโดยเป็นปัญหำที่สอดคล้องกับ ชีวิตจริง ที่นักเรียนมีประสบกำรณ์เดิม และเกี่ยวข้องกับชีวิตของนักเรียน เพรำะเป็นเนือหำเรื่องยำงพำรำ ซึ่งนักเรียนมีควำมรู้ มีประสบกำรณ์เดิมที่ได้จำกคนในครอบครัวที่ประกอบอำชีพเกี่ยวกับกำรท้ำสวนยำง ทังนี เนื่องจำกโรงเรียนชัยเกษมวิทยำ ตังอยู่ที่อ้ำเภอบำงสะพำน จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ซึ่งอำชีพของคนที่นี่ส่วนใหญ่ ประกอบอำชีพท้ำสวนยำง ซึ่งสอดคล้องกับที่ STEM Education National Center (2014) ได้กล่ำวไว้ว่ำ กำร จัดกำรศึกษำที่บูรณำกำรควำมรู้ใน 4 สหวิทยำกำร ได้แก่ วิทยำศำสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศำสตร์ โดย เน้นกำรน้ำควำมรู้ไปใช้แก้ปัญหำในชีวิตจริง รวมทังกำรพัฒนำกระบวนกำร ที่เป็นประโยชน์ต่อกำรด้ำเนินชีวิตและ กำรท้ำงำน ช่วยนักเรียนสร้ำงควำมเชื่อมโยงระหว่ำง 4 สหวิทยำกำร กับชีวิตจริงและกำรท้ำงำน กำรจัดกำรเรียนรู้ แบบสะเต็มศึกษำเป็นกำรจัดกำรเรียนรู้ที่สร้ำงควำมเข้ำใจผ่ำนกำรปฏิบัติจริงควบคู่กับกำรพัฒนำทักษะกำรคิด ตังค้ำถำม แก้ปัญหำและกำรหำข้อมูลและวิเครำะห์ข้อค้นพบใหม่ๆ พร้อมทังสำมำรถน้ำข้อค้นพบนันไปบูรณำกำร กับชีวิตประจ้ำวันได้ นอกจำกนี กำรที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยกำรลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ท้ำให้ผู้เรียนเกิดกำร เรียนรู้ร่วมกันกับเพื่อนๆ ผู้เรียนได้ท้ำกิจกรรมที่หลำกหลำย ท้ำให้ผู้เรียนเกิดควำมสนุกในกำรเรียน ส่งผลให้เกิดกำร เรียนรู้ที่ดี และยังช่วยให้ผู้เรียนเกิดควำมคิดสร้ำงสรรค์ได้อีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับงำนวิจัยของ Akethiratham,
  • 13. Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 35 et al. (2010) พบว่ำ กำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องบรรยำกำศสำมำรถท้ำให้นักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน ควำมคิดสร้ำงสรรค์ทำงวิทยำศำสตร์ และเจตคติทำงวิทยำศำสตร์ หลังเรียนสูงกว่ำก่อน เรียน เพรำะกำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ที่มีคุณภำพ ท้ำให้ผู้เรียนได้เกิดกำรเรียนรู้จำกกำรลงมือปฏิบัติ ได้ฝึกฝน กำรท้ำงำนผ่ำนกระบวนกำรกลุ่ม ตลอดจนได้ใช้กระบวนกำรคิดที่หลำกหลำย ส่งผลให้ผู้เรียนได้เสริมสร้ำงควำมคิด สร้ำงสรรค์และผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนสูงขึนได้ ดังนันกำรใช้ชุดกิจกรรมวิทยำศำสตร์ในกำรจัดกำรเรียนรู้ให้กับ นักเรียนจึงท้ำให้ผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนสูงขึนได้ 3. ควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำฯ อยู่ในระดับมำก ทังนีอำจมำจำกชุดกิจกรรมมีเนือหำที่ทันสมัย เกี่ยวข้องกับชีวิตประจ้ำวันของนักเรียน ใช้ภำษำที่ เข้ำใจง่ำย มีกำรก้ำหนดจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่ชัดเจน ขันตอนกำรปฏิบัติกิจกรรมเขียนได้ชัดเจน มีล้ำดับต่อเนื่อง เหมำะสม มีกิจกรรมที่หลำกหลำย นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริงจำกแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น ท้ำให้นักเรียนสนุก กับกำรเรียน นอกจำกนี ชุดกิจกรรมยังออกแบบโดยค้ำนึงถึงวัยผู้เรียน โดยใช้ภำพประกอบเนือหำ และมีภำพ กำร์ตูนสอดแทรกในแต่ละหัวข้อเพื่อดึงดูดควำมสนใจของนักเรียนในกำรศึกษำชุดกิจกรรม จึงส่งผลให้นักเรียนมี ควำมพึงพอใจต่อกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมอยู่ในระดับมำก ซึ่งสอดคล้องกับงำนวิจัยของ Fahkhanong (2012, p.65) ที่พบว่ำ นักเรียนชันมัธยมศึกษำปีที่ 3 มีควำมพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้เรื่องภำวะโลกร้อนกับ สุขภำพ อยู่ในระดับมำกทังนีเพรำะนักเรียนมีส่วนร่วมในกำรท้ำงำนเป็นกลุ่ม ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง สำมำรถน้ำควำมรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ้ำวันได้ นักเรียนมีอิสระทำงควำมคิด ได้แสดงศักยภำพของ ตนเองอย่ำงเต็มที่ สำมำรถคิดแก้ปัญหำและสร้ำงสรรค์ผลงำนได้ ซึ่งนักเรียนได้เรียนรู้จำกสถำนที่จริง ลงมือปฏิบัติ จริง จึงท้ำให้นักเรียนมีควำมสนุกสนำนในกำรท้ำกิจกรรมและสนุกกับกำรเรียนด้วยชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ นอกจำกนี ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูลจำกกำรแสดงควำมคิดเห็นเพิ่มเติมของนักเรียน พบว่ำ นักเรียนมี ควำมสนใจและสนุกสนำนในกำรท้ำกิจกรรม เนื่องจำกมีกิจกรรมที่หลำกหลำย ได้เรียนรู้จำกสิ่งรอบตัวสำมำรถ น้ำไปประยุกต์ใช้ในกำรแก้ปัญหำเรื่องยำงพำรำ เนือหำมีควำมแปลกใหม่แตกต่ำงจำกเรื่องที่เรียนในห้องเรียน กิจกรรมสนุก ไม่น่ำเบื่อ กำรประดิษฐ์ กำรสร้ำงผลิตภัณฑ์จำกยำงพำรำสำมำรถน้ำกลับไปท้ำเองที่บ้ำนได้ ท้ำให้ นักเรียนเห็นคุณค่ำและควำมส้ำคัญของทรัพยำกรท้องถิ่นมำกขึน แต่เนื่องด้วยสภำพอำกำศที่ร้อนและกลิ่นเหม็น ของยำงพำรำในกำรออกไปศึกษำที่สถำนที่จริง รวมทังเวลำในกำรท้ำกิจกรรมมีจ้ำกัด จึงอำจท้ำให้กำรปฏิบัติ กิจกรรมมีปัญหำบ้ำง ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะในการน้าวิจัยไปใช้ 1.1 กำรน้ำชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ไปใช้ ผู้สอนควรศึกษำเอกสำรชุดกิจกรรมกำรเรียนรู้ให้เข้ำใจ เนือหำที่เกี่ยวข้องในกำรปฏิบัติกิจกรรมก่อน และจัดเตรียมสื่อกำรรู้ที่ต้องใช้ประกอบกิจกรรมให้เพียงพอกับจ้ำนวน นักเรียน 1.2 ผู้สอนควรอธิบำยวิธีกำรใช้ชุดกิจกรรมให้นักเรียนฟังร่วมกัน เพื่อให้เกิดควำมเข้ำใจที่ตรงกัน ก่อนเริ่มปฏิบัติกิจกรรม และขณะท้ำกิจกรรม ผู้สอนควรให้ค้ำแนะน้ำช่วยเหลือนักเรียนเมื่อมีปัญหำ และกระตุ้นให้ นักเรียนเกิดควำมสนใจกิจกรรมอยู่เสมอ และค้ำแนะน้ำในกำรใช้อุปกรณ์อย่ำงถูกต้องเหมำะสม 1.3 เนื่องจำกกำรใช้ชุดกิจกรรมเรื่องกำรแปรรูปน้ำยำงพำรำต้องจัดกิจกรรมนอกสถำนที่ ดังนัน ผู้สอนต้องวำงแผน และประสำนงำนกับคนในพืนที่ ที่เกี่ยวข้องในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ให้กับนักเรียน
  • 14. 36 | วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกรำคม – มีนำคม 2560 1.4 เวลำที่ใช้ในกำรท้ำกิจกรรมผู้สอนควรยืดหยุ่นตำมควำมเหมำะสม ควำมพร้อม และ ควำมสำมำรถของนักเรียนในสถำนกำรณ์นันๆ 1.5 ผู้สอนควรจัดกิจกรรมในภำคเช้ำจะสำมำรถช่วยลดปัญหำในกำรเตรียมน้ำยำงพำรำได้ มำกกว่ำกำรจัดกิจกรรมในช่วงบ่ำย 2. ข้อเสนอแนะในการท้าวิจัยครั้งต่อไป 2.1 ควรมีกำรศึกษำทักษะกำรคิดต่ำงๆ เช่น ทักษะกำรคิดวิเครำะห์ กำรคิดแก้ปัญหำ กำรคิด สร้ำงสรรค์ ของนักเรียนที่ได้จำกกำรเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมฯ 2.2 ควรมีกำรศึกษำทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ และจิตวิทยำศำสตร์ ของนักเรียนที่เกิด จำกกำรเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรม References Akethiratham, S., Phetsai, P., and Nanthamanop, W. (2010). The development of activity packages on asmosphere to promote creative thinking and scientific attitudes, science learning group, Matthayomsuksa I. Gratduate Studies Journal, Ratchapatphiboonsongkram University, 4(1), 24-38. (in Thai) Catherine Scott. (2012, October/December). An investigation of science, technology, engineering and mathematics (STEM) focused high schools in the U.S. Journal of STEM Education, Retrieved April 24, 2015, from www.jstem.org/index.php? journal=JSTEM&page=search&op=search Fahkhanong, K. (2012). A development of learning activity package on health effects of global warming for Matthayomsuksa 3 students. (Master thesis, Srinakharinwirot University). (in Thai) Homepan, L. (2007). A study on the science searing achievement in science and analytical thinking of Mathayomsuksa 3 students by using science learning packages to encourage analytical thinking. (Master thesis, Srinakharinwirot University). (in Thai) Julawatthanathon, M. (2013). A study of science technology engineering and mathematics education or STEM Education. Journal of Science Teacher Association of Thailand, 9, 3-14. (in Thai) Lertangkoon, C., Paewponsong J., Wadeesirisak S., and Koocharoenpisal N. (2015). The development of science activity packages on food contaminant testing for the 8th grade students. Srinakharinwirot Science Journal, 31(1), 65-82. (in Thai) McCombs, B.L. and Whisler, J.S. (1997). The learner centered classroom and school: strategies for increasing student motivation and achievement. San Francisco: Jossey-Bass. Ministry of Education. (2008). The Basic education core curriculum B.E. 2551. Bangkok: Kurusapa Printing Ladphrao. (in Thai)
  • 15. Journal of Education Naresuan University Vol.19 No.1 January – March 2017 | 37 Noophet, W. (2007). The development of activity packages on domestic waste water for Mathayomsuksa 2 students at Matthayomnarknarwaroupatump School. (Master thesis, Srinakharinwirot University). (in Thai) Phisanbud, S. (2006). Creating and data processing of the query. Bangkok: Withayaphat. (in Thai) Samritsutha, P. (2008). Study on the learning achievement and problem solving ability in science of Mathayomsuksa 6 students by using self-pursuing and finding out learning package activity. (Master thesis, Srinakharinwirot University). (in Thai) Surin, P. and Jindanuruk, T. (2011). The effects of using activity packages for developing science process skills on science process skills and critical thinking ability of Mathayom Suksa 1 students at Tessaban 1 SongphonWittaya School in Ratchaburi Province. Journal of Educational, Sukhothai Thammathirat University, 4(2), 22-28. (in Thai) Sangsoda, K. (2013). Development of learning activity packages on biodiversity in the Khlong Lum Gong reservoir Nong-Phai District Phetchabun Province. Retrieved November, 27, 2014, from http://research.pcru.ac.th/rdb/pro_data/files/5603034.pdf (in Thai) STEM Education National Center. (2014). Get to know STEM. Retrieved January, 20, 2015, from http://www.stemedthailand.org/?page_id=23 (in Thai) The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology. (2009). The learning of science for the basic education core curriculum. Bangkok: Business Organization of the Office of the Welfare Promotion Commission for Teacher and Education Personal Ladprao press. (in Thai) The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology. (2015). Science Technology Engineering and Mathematics Education Grade 1-6. Bangkok: Business Organization of the Office of the Welfare Promotion Commission for Teacher and Education Personal Ladprao press. (in Thai)