More Related Content Similar to บทที่3 (เสร็จ) Similar to บทที่3 (เสร็จ) (20) More from Annop Phetchakhong More from Annop Phetchakhong (10) บทที่3 (เสร็จ)1. บทที่ 3
วิธ ด ำำ เนิน งำนวิจ ัย
ี
กำรศึกษำวิจัยครั้งนี้ เป็นกำรวิจัย เรื่องกำรเปรียบเทียบผล
สัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนวิชำเทคโนโลยีสำรสนเทศ (ง 21104)
เรื่องประมวลผลข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศ ของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษำปีที่ 1 โรงเรียนวัดรำชโอรส โดยมีจุดประสงค์เพื่อ
1) เพื่อพัฒนำและ
หำประสิทธิภำพของนักเรียน
แต่ละห้อง ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องกำร
แปลงข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศ ของโรงเรียนวัดรำชโอรส
2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษำปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องกำรแปลงข้อมูลให้เป็น
สำรสนเทศ ที่ได้รับกำรจัดกำรเรียนรู้ในห้องเรียน 3) เพื่อ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องกำรแปลงข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศ ที่
ได้รับกำรจัดกำรเรียนรู้และควำมใจในกำรทำำแบบทดสอบก่อน
เรียนและหลังเรียน
ซึ่งผู้วิจัยได้ดำำเนินและเก็บรวบรวมข้อมูลในกำรศึกษำ
ค้นคว้ำ โดยมีขั้นตอนดำำเนินงำนดังนี้
1. ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง
2. เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย
3. ขั้นตอนในกำรสร้ำงเครื่องมือ
4. กำรเก็บรวบรวมข้อมูล
5. กำรวิเครำะห์ข้อมูล
6. สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล
ประชำกรและกลุ่ม ตัว อย่ำ ง
ประชำกร
ประชำกรในวิจัยในครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนระดับมัธยมศึกษำปีที่ 1
ของโรงเรียนวัดรำชโอรส แขวงบำงค้อ เขตจอมทอง จังหวัด
กรุงเทพมหำนคร สังกัด สพม.เขต 1 ภำคเรียนที่ 2
ปีกำรศึกษำ 2556 จำำนวน 2 ห้องเรียน โดยเลือกห้องนักเรียน
2. ที่มีนักเรียนจำำนวนเท่ำกัน คือ 47 คน ได้แก่ ห้อง มัธยมศึกษำปี
ที่ 1/5 และ มัธยมศึกษำปีที่ 1/8 รวมทั้งหมด 94 คน
กลุ่ม ตัว อย่ำ ง
กลุ่มตัวอย่ำงในกำรวิจัย ได้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษำปีที่
1 ของโรงเรียนวัดรำชโอรส แขวงบำงค้อ เขตจอมทอง จังหวัด
กรุงเทพมหำนคร สังกัด สพม.เขต 1 ภำคเรียนที่ 2
ปีกำรศึกษำ 2556 โดยเจำะจงกับนักเรียนกลุ่มนี้เนื่องจำกเป็น
ห้องที่ผู้วิจัยทำำกำรสอน และนักเรียนมีควำมรู้ ควำมสำมำรถด้ำน
กำรใช้คอมพิวเตอร์ไม่แตกต่ำงกัน และเนื่องด้วยจำำนวนนักเรียน
ในห้องมีจำำนวนนักเรียน 47 คนเท่ำกัน
เครื่อ งมือ ที่ใ ช้ใ นกำรเก็บ รวมรวมข้อ มูล
เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ วิชำเทคโนโลยีสำรสนเทศ
เรื่อง กำรแปลงข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศ
1.1 แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ โดยกำรจัดกำรเรียน
กำรสอนทั้งแบบทฤษฎีและลงมือปฏิบัติกับคอมพิวเตอร์ จำำนวน
2 แผน 1 คำบ/สัปดำห์ รวม 4 คำบ
1.2 บทเรียนที่ใช้ในกำรสอน คือ เรื่องกำรแปลง
ข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศ โดยมีกำรอธิบำยพร้อมให้นักเรียนเขียน
บันทึกลงในสมุดเพื่อจะได้ทบทวนในกำรเรียนครั้งต่อไป และมี
กำรนำำสื่อต่ำงๆ มำขึ้นสไลด์บนหน้ำจอโปรเจ็คเตอร์ มีกำรนำำ
เสนอบทสรุป แบบวิธีกำรบรรยำยพร้อมทั้งกำรปฏิบัติให้กับ
นักเรียนดูหน้ำชั้นเรียน ประกอบกับใบควำมควำมรู้ และแบบ
ฝึกหัดในแต่ละเรื่อง
1.3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน วิชำ
เทคโนโลยีสำรสนเทศ (ง 21104) ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1/5
และ 1/8 เรื่องกำรแปลงข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศ โดยผู้วิจัยได้
สร้ำงขึ้นเองเป็นแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก มีคำำตอบที่ถูก
ต้องเพียงข้อเดียวจำำนวน 30 ข้อ
ขั้น ตอนกำรสร้ำ งเครื่อ งมือ
3. กำรสร้ำ งแผนกำรจัด กำรเรีย นรู้
1. กำรสร้ำ งแผนกำรจัด กำรเรีย นรู้ว ิช ำเทคโนโลยี
สำรสนเทศ (ง 21104) ที่ใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรเรียนกำร
สอน ผู้วิจัยยึดองค์ประกอบของแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ตำม
หลักสูตรของสถำนศึกษำของโรงเรียนวัดรำชโอรส มีขั้นตอน
ดังนี้
1.1 ศึกษำหลักสูตร คู่มือครูกลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและ
เทคโนโลยีชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 เรื่องกำรแปลงข้อมูลให้เป็น
สำรสนเทศ
1.2 แบ่งเนื้อหำในบทเรียนเพื่อนำำมำเขียนแผนกำรจัดกำร
เรียนรู้
1.3 สร้ำงแผนกำรจัดกำรเรียนรู้รำยชั่วโมงโดย
ก. กำำหนดเนื้อหำ
ข. กำำหนดสำระสำำคัญของเนื้อหำที่ทำำกำรสอน
ค. เขียนจุดประสงค์ปลำยทำงและจุดประสงค์นำำทำง
ง. กำำหนดกำรเรียนกำรสอนโดยมีขั้นนำำเข้ำสู่บทเรียน
ขั้นอภิปรำยก่อนกำรทดลอง
ขั้นกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
ซึ่งมีกิจกรรมที่หลำกหลำย เช่น กำรศึกษำเนื้อหำจำกใบงำน
กำรทำำใบงำนลงในโปรแกรม Microsoft Office Excel
2010 ค้นคว้ำหำงำนทำงอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้กำรจัดกิจกรรม
คำำนึงถึงควำมเหมำะสมกับเนื้อหำในบทเรียนเฉพำะรำยคำบนั้น ๆ
จ. สือกำรเรียนกำรสอน เป็นสื่อที่นำำมำประกอบกำร
่
เรียน โดยนำำมำจำกสื่อที่เป็น
ของจริงเกี่ยวเนื้อหำบทเรียน
นั้น ๆ และครูสร้ำงขึ้น
ฉ. กำรวัดและกำรประเมินผลกำรเรียนกำรสอน
เป็นกำรประเมินผลว่ำผู้เรียน พัฒนำกำรและสำมำรถเรียนรู้ได้ตำม
จุดประสงค์กำรเรียนรู้หรือไม่ โดยประเมินจำกคะแนน
กำรทำำ
แบบทดสอบก่อนเรียน และ คะแนนกำรทำำแบบฝึกหัดและแบบ
ทดสอบหลังเรียน
1.4 นำำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่สร้ำงเสร็จเรียบร้อยแล้วไป
ให้อำจำรย์ที่ปรึกษำและผู้เชี่ยวชำญตรวจสอบแล้วนำำผลกำร
ปรับปรุง
1.5 เมื่อปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จึงนำำไปใช้ในกำรจัด
กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
2. กำรสร้ำ งบทเรีย น
4. กำรสร้ำ งบทเรีย น วิช ำเรีย น วิช ำเทคโนโลยี
สำรสนเทศ (ง 21104) เรื่องกำรแปลงข้อมูลให้เป็น
สำรสนเทศ ที่จัดกำรเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ยึดองค์ประกอบของแผนกำร
จัดกำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตรสถำนศึกษำของโรงเรียนวัดรำชโอรส
มีขั้นตอนกำรสร้ำงดังนี้
2.1 ศึกษำหลักสูตร คู่มือครูกลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและ
เทคโนโลยีชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 เรื่องกำรแปลงข้อมูลให้เป็น
สำรสนเทศ
2.2 แบ่งเนื้อหำในบทเรียนเพื่อนำำมำเขียนแผนกำรจัดกำร
เรียนรู้
2.3 สร้ำงแผนกำรจัดกำรเรียนรู้รำยชั่วโมงโดย
ก. กำำหนดเนื้อหำ
ข. กำำหนดสำระสำำคัญของเนื้อหำที่ทำำกำรสอน
ค. เขียนจุดประสงค์ปลำยทำงและจุดประสงค์นำำทำง
ง. กำำหนดกำรเรียนกำรสอนโดยมีขั้นนำำเข้ำสู่บทเรียน
ขั้นอภิปรำยก่อนกำรทดลอง
ขั้นกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
ซึ่งมีกิจกรรมที่หลำกหลำย เช่น กำรศึกษำเนื้อหำจำกใบงำน
กำรทำำใบงำนลงในโปรแกรม Microsoft Office Excel
2010 ค้นคว้ำหำงำนทำงอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้กำรจัดกิจกรรม
คำำนึงถึงควำมเหมำะสมกับเนื้อหำในบทเรียนเฉพำะรำยคำบนั้น ๆ
จ. สือกำรเรียนกำรสอน เป็นสื่อที่นำำมำประกอบกำร
่
เรียน โดยนำำมำจำกสื่อที่เป็น
ของจริงเกี่ยวเนื้อหำบทเรียน
นั้น ๆ และครูสร้ำงขึ้น
ฉ. กำรวัดและกำรประเมินผลกำรเรียนกำรสอน
เป็นกำรประเมินผลว่ำผู้เรียน พัฒนำกำรและสำมำรถเรียนรู้ได้ตำม
จุดประสงค์กำรเรียนรู้หรือไม่ โดยประเมินจำกคะแนน
กำรทำำ
แบบทดสอบก่อนเรียน และ คะแนนกำรทำำแบบฝึกหัดและแบบ
ทดสอบหลังเรียน
2.4 นำำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่สร้ำงเสร็จเรียบร้อยแล้วไป
ให้อำจำรย์ที่ปรึกษำและผู้เชี่ยวชำญตรวจสอบแล้วนำำผลกำร
ปรับปรุง
2.5 เมื่อปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จึงนำำไปใช้ในกำรจัด
กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
3. กำรสร้ำ งแบบทดสอบวัด ผลสัม ฤทธิ์ท ำงกำรเรีย น
5. การสร้างแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา
เทคโนโลยีสารสนเทศ (ง 21104) เรื่องการแปลงข้อมูลให้เป็น
สารสนเทศ
การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผู้วิจัยได้
ศึกษาหลักสูตรและจุดประสงค์จุดประสงค์ เพื่อกำาหนดเนื้อหา
ตามที่กำาหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางการ
สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคโนโลยี
สารสนเทศ โดยผู้วิจัยได้ดำาเนินขั้นตอนดังต่อไปนี้
3.1 ศึกษาวิธีการสร้างแบบทดสอบ จากคู่มือการวัดผล
ประเมินผลคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนวัดราชโอรส เทคนิคการ
วัดผลการเรียนรู้ของ ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ
(2539,หน้า 93-121) เทคนิคการวิจัยทางการศึกษาของ ล้วน
สายยศ และอังคณา สายยศ (2538,หน้า 170-176)
3.2 ศึกษาเนื้อหาและจุดประสงค์การเรียนรู้วิชาเทคโนโลยี
สารสนเทศ (ง 21104)
เรื่องการแปลงข้อมูลให้เป็น
สารสนเทศ จากแบบเรียนและคู่มือครู
3.3 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา
เทคโนโลยีสารสนเทศ เรื่องการแปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
เป็นข้อสอบปรนัยแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) 4 ตัว
เลือก
โดยแบ่งตามเนื้อหา ดังนี้
3.3.1 ความหมายของข้อมูลและสารสนเทศ
3.3.2 องค์ประกอบของสารสนเทศ
3.3.3 ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล
3.3.4 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
3.4 นำาแบบทดสอบที่สร้างขึ้นไปให้อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้
เชี่ยวชาญ จำานวน 2 ท่าน ตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา
โดยใช้ดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ (IOCIndex of Item-objective Congruence) นำาข้อสอบที่มี
คะแนนเฉลี่ยจากผู้เชี่ยวชาญทั้ง 2 ท่านมากกว่า .5 ขึนไป
้
โดยพิจารณาความสอดคล้องของข้อคำาถามกับจุดประสงค์การ
เรียนรู้ที่ต้องการวัด โดยใช้หลักเกณฑ์การให้คะแนนดังนี้
ข้อคำาถามที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียน ให้
คะแนน +1
ข้อคำาถามที่ไม่แน่ใจว่าสอดคล้องกับจุดประสงค์การ
เรียนรู้ ให้คะแนน 0
6. ข้อคำาถามที่ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ให้
คะแนน -1
นำาผลการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละข้อไปหา
ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำาถามกับจุดประสงค์การเรียน
รู้
3.5 นำาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาปรับปรุง
แก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ แล้วนำาไปให้อาจารย์ที่
ปรึกษา ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
3.6 นำาแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปทดลองใช้กับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8 ของโรงเรียนวัด
ราชโอรส แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร
สังกัด สพม. เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จำานวน
94 คน
3.7 นำาผลการทดสอบมาตรวจให้คะแนนโดยให้คะแนนข้อที่
ตอบถูกเป็น 1 คะแนน และข้อที่ตอบผิดหรือเลือกตอบมากกว่า
1 ข้อ หรือไม่ตอบเลยเป็น 0 คะแนน
3.8 นำาผลคะแนนที่ได้มาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของบท
เรียน หาค่าความยากง่าย จำาแนกและค่าความเชื่อมั่น ซึ่งมีสูตร
และเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อสอบ ดังนี้
1) วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของบทเรียน ให้ได้ตาม
เกณฑ์มาตรฐาน 80/80 โดยที่ 80 ตัวแรก หมายถึง
ประสิทธิภาพของกระบวนการวัดจากแบบฝึกหัด 80 ตัวหลัง
หมายถึง ประสิทธิภาพของผลลัพธ์จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การหาประสิทธิภาพการทดลอง
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 โรงเรียนวัด
ราชโอรส นำาบทเรียนไปทดลองกับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 1/5 จำานวน 47 คน
ขั้นตอนที่ 2 การหาประสิทธิภาพการทดลอง
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/8 โรงเรียนวัด
ราชโอรส นำาบทเรียนไปทดลองกับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 1/8 จำานวน 47 คน
ขั้นที่ 3 เมื่อหาประสิทธิภาพการทดลองทั้ง 2
กลุ่มแล้ว จำานวน 94 คน จำานวน 2 ห้องเรียน เมื่อ
ผ่านกระบวนการทั้ง 3 ขั้นตอน และประสิทธิภาพเป็น
7. ไปตามเกณฑ์มาตรฐานจึงนำาบทเรียนไปวิเคราะห์
หาความยากง่าย อำานาจจำาแนก และค่าความเชื่อมั่น
ต่อไป
2) วิเคราะห์หาความยากง่ายและอำานาจจำาแนกของ
แบบทดสอบ โดยใช้เทคนิคอย่างง่าย (สุรศักดิ์ อมรรัตน์
ศักดิ์,2536,หน้า 137-138) โดยหาค่าความยากง่าย (p) อยู่
ระหว่าง .32-.82 ค่าอำานาจจำาแนก (r) ตั้งแต่ .27-.91 ขึ้นไป
ถ้าข้อสอบข้อใดไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กำาหนดจะนำาไปแก้ไข แล้วนำา
มาหาค่าใหม่ เพื่อให้ได้ตามเกณฑ์
3) วิเคราะห์ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผล
สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนแต่ละห้อง คือนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/8
3.9 นำาแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคโนโลยี
สารสนเทศไปใช้จริง
การเก็บ รวมรวมข้อ มูล
ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้รายงานได้ดำาเนินการทดลอง กับกลุ่ม
ตัวอย่างตามลำาดับดังนี้
1. ก่อนการทดลองให้นักเรียนทำาแบบทดสอบวัดผล
สัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรื่องการแปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ เป็นข้อสอบปรนัยแบบ
เลือกตอบ (Multiple Choice) 4 ข้อ จำานวน 30 ข้อ
2. ผู้รายงานดำาเนินการสอนกลุ่มตัวอย่างด้วยแผนการ
จัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นจำานวน
2 แผน โดยให้นักเรียน
เรียนและปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ตามขั้นตอนการจัดการเรียนรู้โดย
ใช้ วิธีการ/สือนวัตกรรม
่
3. เมื่อสิ้นสุดการทดลองสอนแล้ว นำาแบบทดสอบวัดผล
สัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ เรื่อง
การแปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ เป็นข้อสอบปรนัยแบบเลือก
ตอบ (Multiple Choice) 4 ข้อ จำานวน 30 ข้อ ไปทดสอบ
นักเรียนอีกครั้ง จากนั้นนำาผลที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติต่อ
ไป
8. วิธ ีก ารดำา เนิน การทดลอง
ผู้วิจัยดำาเนินการสอนทั้ง 2 ห้องเรียน โดยใช้เนื้อหา
เดียวกัน คือเรื่องการแปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ได้แก่
ข้อมูล และ สารสนเทศ , ความหมายของข้อมูล , ประเภทของ
ข้อมูล , ความหมายของสารสนเทศ , ประเภทของสารสนเทศ ,
การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ , วิธีการประมวลผล
ข้อมูล , ลักษณะสำาคัญและผลกระทบของสารสนเทศ , โดยกลุ่ม
ทดลองให้นักเรียนจัดกิจกรรมการเรียนรูปแบบบรรยายประกอบ
ด้วยใบความรู้และแบบฝึกหัด ใช้เวลาการจัดการเรียนการสอน
จำานวน 4 สัปดาห์ จำานวน 4 คาบ โดยทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ทั้ง 2 ห้องเรียน ซึ่งการ
วิจัยนี้เป็นการวิจัยการทดลองตามแบบแผน
มีลักษณะการ
ทดลองตามตาราง ดังนี้
การกำาหนดเข้ากลุ่ม
เรียน
E
T2E
C
T2C
สอบก่อนเรียน
สอบหลัง
T 1E
T 1C
ความหมายของสัญลักษณ์
E แทน กลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5
C แทน กลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/8
T1 แทน การทดสอบก่อนการทดลอง (Pretest)
T2 แทน การทดสอบหลังการทดลอง (Posttest)
1. วิธีการดำาเนินการทดลอง
1.1) อธิบายเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้นักเรียนแต่ละห้อง
ได้ทราบและทำาความเข้าใจเกี่ยวกับการแปลงข้อมูลให้เป็น
สารสนเทศ
1.2) ให้กลุ่มทดลองทำาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนก่อนเรียนจำานวน 20 นาที
9. 1.3) ดำำเนินกำรทดลอง โดยให้ผู้เรียนใช้โปรแกรม
Microsoft Office Excel 2010 โดยให้ทำำแบบฝึกหัด เริ่มต้น
กำรใช้งำนโปรแกรม และทำำกำรประมวลผลข้อมูลให้เป็น
สำรสนเทศใน Microsoft Excel 2010 , กำรจัดเรียงข้อมูล ,
กำรแบ่งกลุ่มข้อมูล , กำรจัดกำรข้อควำม , กำรจัดตำรำงและใส่
ข้อมูลลงในตำรำง , กำรเลือกวิธีกำรประมวลผล , กำรประมวล
ผลแบบกรำฟแท่ง , กำรเปลี่ยนสีของข้อมูล ,ใช้เวลำกำรจัดกำร
เรียนกำรสอน จำำนวน 4 สัปดำห์ จำำนวน 4 คำบ
1.4) ให้กลุ่มทดลองวัดผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนจำำนวน 20
นำที
1.5) นำำผลกำรเรียนที่ได้มำตรวจให้คะแนน โดยใช้วิธี
0-1 (zero – one Method) โดยมีเกณฑ์กำรกำำหนดว่ำตอบถูก
1 คะแนน ตอบผิดหรือตอบไม่ตอบ หรือตอบเกินมำกกว่ำ 1
แห่ง ในข้อเดียวกันให้ 0 คะแนน
1.6) รวบรวมข้อมูลและวิเครำะห์ค่ำสถิติ
1.7) สรุปผลและรำยงำนผลกำรวิจัย
กำรวิเ ครำะห์ข ้อ มูล
1. กำรวิเ ครำะห์ข ้อ มูล คำำ นวณโดยใช้โ ปรแกรม
คอมพิว เตอร์
1.1) สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ประสิทธิภำพของบทเรียน
ให้ได้ตำมเกณฑ์มำตรฐำน 80/80
80 ตัวแรก หมำยถึง ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่
นักเรียนได้รับจำกกำรทำำแบบฝึกหัดกำรปฏิบัติด้วยคอมพิวเตอร์
โปรแกรม Microsoft Excel 2010 เรื่องกำรแปลงข้อมูลให้
เป็นสำรสนเทศ , กำรจัดเรียงข้อมูล , กำรแบ่งกลุ่มข้อมูล , กำร
จัดกำรข้อควำม , กำรจัดตำรำงและใส่ข้อมูลลงในตำรำง , กำร
เลือกวิธีกำรประมวลผล , กำรประมวลผลแบบกรำฟแท่ง ,
กำรเปลี่ยนสีของข้อมูล ถูกต้องเฉลี่ยร้อยละ 80
80 ตัวหลัง หมำยถึง ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่
นักเรียนได้รับกำรทำำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่อง
กำรแปลงข้อมูลให้เป็นสำรสนเทศ กำรจัดเรียงข้อมูล ,
กำรแบ่งกลุ่มข้อมูล , กำรจัดกำรข้อควำม , กำรจัดตำรำงและใส่
ข้อมูลลงในตำรำง ,
กำรเลือกวิธีกำรประมวลผล
10. , กำรประมวลผลแบบกรำฟแท่ง , กำรเปลี่ยนสีของข้อมูล
ถูกต้องเฉลี่ยร้อยละ 80
โดยใช้สูตร E1/E2 (ชัยยงค์ พรหมวงศ์,2550,หน้ำ 51)
E1
E2
รวมกัน
เรียน
= ∑ X
= ∑ F X 100
B
X
N
A
100
N
เมื่อ E1 คือ
E1 คือ
∑X คือ
∑F คือ
A คือ
ประสิทธิภำพของกระบวนกำร
ประสิทธิภำพของผลลัพธ์
คะแนนรวมของแบบฝึกหัด
คะแนนของผลลัพธ์หลังเรียน
คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดทุกเรื่อง
B คือ
คะแนนเต็มของกำรสอบหลัง
N คือ
จำำนวนผู้เรียน
1.2) หำค่ำควำมเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทำงกำรเรียน โดยใช้สูตร KR-20 ของ คูเดอร์-ริชำร์ต (Kuder
Richardson) (บุญเรียง ขจรศิลป์,2533,หน้ำ 163)
Rtt =
เมื่อ Rtt
S12
N
p
q
N
1 − ∑ pq
2
N −1
s1
แทนค่ำควำมเชื่อมั่นของแบบทดสอบ
แทนควำมแปรปรวนของแบบทดสอบ
แทนจำำนวนของแบบทดสอบ
แทนสัดส่วนของผู้ทำำได้ในข้อหนึ่งๆ
แทนสัดส่วนของผู้ที่ทำำผิดในข้อหนึ่ง
ๆ หรือ p-1
1.3) หำดัชนีควำมสอดคล้อง (IOC = Index of Itemobjective Congruence)
∑r
N
11. IOC =
IOC
ข้อสอบกับจุดประสงค์
แทนค่ำดัชนีควำมสอดคล้องระหว่ำง
แทนผลรวมคะแนนควำมคิดเห็นของผู้
เชี่ยวชำญด้ำนเนื้อหำทั้งหมด
N
แทนจำำนวนผู้เชี่ยวชำญด้ำนเนื้อหำ
r
∑
สถิต ิท ี่ใ ช้ใ นกำรวิจ ัย
สถิติในกำรวิเครำะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
เปรียบเทียบคะแนน โดยใช้สถิติเปรียบเทียบคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์
ทำงกำรเรียนของนักเรียนของแต่ละกลุ่ม คือกลุ่มที่ 1 นักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1/5 จำำนวน 47 คน กลุ่มที่ 2 นักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1/8 จำำนวน 47 คน
โดยกำรทดสอบหำค่ำทีแบบ t-test Independent (ระพินทร์
โพธิ์ศรี,2549)
t
=
〈Χ1 − Χ2 〉 − 〈υ1 −υ2 〉
→→
df (v)
1
เมื่อ
ตัวอย่ำงกลุ่มที่ 1
s12 s22
〈 〉 + 〈
=
n1 n2
2 2 คือ ค่ำเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่ำงกลุ่มที่
s22 2
x s1x
,
〈 〉 〈 〉 และกลุ่มที่ 2 ตำมลำำดับ
n n2
s ,1s
คือ ควำมแปรปรวนของ
n1 − 1 n2 − 2
1
2
2
1
2
2
n1 , n2
1
2
s12 s2
+
n1 n2
และกลุ่มที่ 2 ตำมลำำดับ
คือ จำำนวนตัวอย่ำงของกลุ่มที่
และกลุ่มที่ 2 ตำมลำำดับ
12. df หรือ V
(Degree of Freedom)
คือ ชั้นควำมเป็นอิสระ
1) หำค่ำควำมยำกง่ำย และอำำนำจจำำแนก โดยใช้
เทคนิคอย่ำงง่ำย (สุรศักดิ์ อมรรัตน์
ศักดิ์,2536,หน้ำ 137-138)
ค่ำควำมยำกง่ำย
P
=
Ru + Rn
N H + N1
โดยใช้เกณฑ์ค่ำควำมยำกง่ำยระหว่ำง .20-.80
R
โดย
= จำำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่ม
u
สูง
Rn
NH
NL
ไป
= จำำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่มสูง
= จำำนวนคนทั้งหมดในกลุ่มสูง
= จำำนวนคนทั้งหมดในกลุ่มสูง
ค่ำอำำนำจจำำแนก
R = Ru − Rn
N H orN
โดยใช้เกณฑ์ค่ำอำ1ำนำจจำำแนกตั้งแต่ .20 ขึ้น
2) หำค่ำควำมแตกต่ำงระหว่ำงบททดสอบก่อนเรียน
และหลังเรียน โดยกำรทดสอบด้วยค่ำสถิติทดสอบ t
D −u
test paired
s
t
=
D
= X −X
sd
SD =
n
Df =
n-1
D
D
pre
เมื่อ D
n
D
คือ
คือ
คือ
post
ผลต่ำงระหว่ำงข้อมูลแต่ละคู่
จำำนวนคู่
ค่ำเฉลี่ยของผลต่ำง