More Related Content
Similar to Kingdom fungi (20)
More from Tanchanok Pps (9)
Kingdom fungi
- 2. สิงมีชวิตที่อยูในอาณาจักรฟังไจ ประกอบ
่
ี
่
ด้วย รา เห็ด และยีสต์
ลักษณะของสิ่งมีชวิตในอาณาจักร fungi
ี
1. โครงสร้างของเซลล์เป็นยูคาริโอติกเซลล์
มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
2. ไม่มคลอโรฟิลล์ ส่วนใหญ่ดำารงชีวิตเป็นผู้
ี
ย่อยสลาย
3. ผนังเซลล์เป็นสารไคตินเป็นองค์ประกอบ
4. อวัยวะสร้างสปอร์ คือ อับสปอร์
(Sporagium)
- 3. ซึงอาจมี หรือไม่มเยือกันเซลล์ กลุ่มของเส้น
่
ี ่ ้
ใยไฮฟาเรียก ไมซีเลียม (MYCELIUM)
ลักษณะของเส้นใยแบ่งออกเป็น 2
ชนิด ได้แก่
6.1 เส้นใยมีผนังกั้น (SEPTATE
HYPHA)
6.2 เส้นใยที่ไม่มผนังกั้น
ี
(NONSEPTATE HYPHA
OR COENCYTIC HYPHA)
ส่ว นยีส ต์ เป็น สิ่ง มีช ว ิต เซลล์เ ดีย ว
ี
แต่อ าจมีก ารต่อ กัน เป็น สาย เรีย ก
ว่า Pseudomycelium
- 4. เส้น ใยของฟัง ไจอาจเปลี่ย นแปลง
แปลงรูป ร่า ง
เพือ ทำา หน้า ที่พ ิเ ศษ
่
• Haustorium เป็นเส้นใยที่ยนเข้าเซลล์
ื่
โฮสต์ เพื่อดูดอาหารจากโฮสต์ พบในราที่เป็น
ปรสิต
• Rhizoid มีลักษณะคล้ายรากพืชยืนออกจาก
่
ไมซีเลียม เพื่อยึดให้ตดกับผิวอาหารและช่วย
ิ
ดูดซึมอาหารด้วย เช่น ราขนมปัง
- 6. การเจริญ ของฟัง ไจ
ฟังไจบางชนิด มีการเจริญเติบโตของเส้นใยที่มี
เส้นผ่านศูนย์กลาง
มากกว่า 15 เมตร เส้นใยที่มารวมกันเป็นไมซี
เลียม ประกอบด้วยสองส่วน
• ส่วนที่เป็นไมซีเลียมที่ยึดเกาะกับอาหารเรียก
ว่า vegetative mycelium
ทำาหน้าที่ดูดสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ
- 7. การสืบ พัน ธุข องสิง มีช ว ิต ใน
์
่
ี
อาณาจัก รฟัง ไจ
1. Fragmentation เกิดจากเส้นใยหัก
เป็นส่วน ๆ
แต่ละส่วนเรียก oidia สามารถเจริญ
เป็นเส้นใยใหม่ได้
- 8. บพัน ธุ์ข องสิง มีช ีว ิต ในอาณาจัก รฟ
่
2. Budding การ
แตกหน่อที่เซลล์แบ่ง
ออกเป็นหน่อขนาดเล็ก
และนิวเคลียสของเซลล์
แม่แบ่งออกเป็นสอง
นิวเคลียส นิวเคลียสอัน
หนึ่งจะไปเป็นนิวเคลียส
ของหน่อ เมือหน่อเจริญ
่
เต็มที่จะคอดเว้าขาด
- 9. สืบ พัน ธุข องสิง มีช ีว ิต ในอาณาจัก รฟ
์
่
3. Fission การแบ่งตัวออกเป็น 2 ส่วน
แต่ละเซลล์จะคอดเว้าตรงกลางและหลุดออก
จากกันเป็น 2 เซลล์พบในยีสต์บางชนิด
เท่านั้น
- 10. สืบ พัน ธุข องสิง มีช ีว ิต ในอาณาจัก รฟ
์
่
4. การสร้า งสปอร์แ บบไม่อ าศัย เพศ
เป็นการสืบพันธุแบบไม่มเพศที่พบมากที่สุด
์
ี
สปอร์แต่ละชนิดจะมีชื่อและวิธีสร้างที่แตก
ต่างกันไป เช่น
- condiospore หรือ conidia เป็นส
ปอร์ที่ไม่มสิ่งหุ้ม เกิดที่ปลายเส้นใยที่ทำา
ี
หน้าที่ชสปอร์ (conidiophore) ที่
ู
ปลายของเส้นใยจะมีเซลล์ทเรียกว่า
ี่
sterigma ทำาหน้าที่สร้าง conidia
- 11. การสร้า งสปอร์แ บบไม่
อาศัย เพศ
- sporangiospore เป็นสปอร์ที่เกิดจาก
ปลายเส้นใยเป็นกระเปาะ แล้วต่อมามีผนังกั้น
เกิดขึ้นภายในกระเปาะ จะมีผนังหนาและเจริญ
เป็นอับสปอร์ (sporangium) นิวเคลียส
ภายในจะมีการแบ่งตัวหลาย ๆ ครั้ง โดยมีส่วน
ของโปรโตพลาสซึมและผนังหนามาหุ้มกลาย
เป็นสปอร์ที่เรียกว่า sporangiospore
มากมาย
- 12. สืบ พัน ธุข องสิง มีช ีว ิต ในอาณาจัก รฟ
์
่
5. การสืบ พัน ธุ์แ บบอาศัย เพศ มี
การผสมกันระหว่างเซลล์สบพันธุ์และมี
ื
การรวมตัวของนิวเคลียส ซึ่งรวมแล้ว
เป็น diploid (2n) และมีการแบ่งตัว
ในขั้นตอนสุดท้ายแบบ meiosis เพือ
่
ลดจำานวนโครโมโซมลงเป็น haploid
(n) ตามเดิม
- 13. รมวิธ ีใ นการรวมของนิว เคลีย สมี 3 ระ
1. plasmogamy เป็นระยะที่ไซโต
พลาสซึมของทั้งสองเซลล์มารวมกันทำาให้
นิวเคลียสในแต่ละเซลล์มาอยูรวมกันด้วย มี
่
โครโมโซมเป็น n
2. karyogamy เป็นระยะที่นิวเคลียสทั้ง
สองมารวมกัน ในฟังไจชั้นตำ่านิวเคลียสจะ
รวมตัวอย่างรวดเร็วเมื่อนิวเคลียสทังสองอัน
้
อยูในเซลล์เดียวกัน ส่วนในฟังไจชั้นสูง
่
นิวเคลียสจะรวมตัวช้ามาก ทำาให้มสอง
ี
- 14. การสืบ พัน ธุ์แ บบมีเ พศในฟัง ไจ
จะมีโครงสร้างที่เรียกว่า gametangium ทำา
หน้าที่สร้างเซลล์สบพันธุเพศผู้และเพศเมียที่
ื
์
เรียกว่า gamete ผสมกัน และนี้ยงพบว่าฟัง
ั
ไจที่มี gametangium สร้าง gamete อยู่
ในไมซิเลียมเดียวกันและสามารถผสมพันธุ์
กันได้เรียกว่า monoecious แต่ฟังไจทีมี
่
gametangium สร้าง gamete อยูต่างไมซี
่
เลียมกัน แต่ละไมซีเลียมเรียกว่า dioecious
ในการสืบพันธุ์แบบมีเพศของฟังไจต่าง ๆ นี้
จะมีการสร้างสปอร์เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน สปอร์
- 15. การจัด จำา แนกฟัง ไจ
ใช้ลักษณะการสร้างสปอร์เป็น
เกณฑ์ในการจัดจำาแนกฟังไจ
แบ่งออกเป็นไฟลัมต่างๆ 4 ไฟลัม
- 16. 1. ไฟลัม ไคทริด ิโ อไมโคตา
ลัก ษณะสำา คัญ
(Phylum Chytridiomycota)
1. ฟังไจกลุ่มนี้เรียกทัวไป ว่า ไคทริด
่
(Chytrid)
2. ส่วนใหญ่อยูในนำ้า จึงมักเรียกว่า รานำ้า
่
3. เป็นปรสิต พบใน โพรทิสต์ พืช สัตว์
4. มักสืบพันธุแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัย
์
เพศ
โดยการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ และสปอร์ที่มี
แฟลกเจลลา
- 17. 1. ไฟลัม ไคทริด ิโ อไมโคตา
(Phylum Chytridiomycota)
ประโยชน์
1. Penicillium chrysogernum ใช้ผลิต
ยาปฏิชีวนะเพนิซลลิน
ิ
2. Aspergillus wendtii ใช้ผลิตเต้าเจี้ยว
3. A. oryzae ใช้ผลิตเหล้าสาเก
โทษ
1. ทำาให้เกิดโรคในพืช
2. สร้างสารพิษ ทำาให้เกิดโรค
3. ทำาให้เกิดโรคในคน เช่น เกลื้อน โรคเท้า
- 18. 2. ไฟลัม ไซโกไมโคตา
(Phylum Zygomycota)
ราที่มี
ลัก ษณะสำาวิวัฒนาการตำ่า
คัญ
1. เซลล์เดี่ยสุด ญอยูในนำ้า บนบก และซาก
วเจริ
่
พืชซากสัตว์
2. เส้นใยชนิดไม่มผนังกัน
ี
้
3. ต้องการความชืน
้
4. ดำารงชีวิตแบบปรสิต(Parasite) และผู้
ย่อยสลาย (saprophyte)
5. การสืบพันธุ์
- 19. 2. ไฟลัม ไซโกไมโคตา
(Phylum Zygomycota)
ประโยชน์
•Rhizopus oryzae ผลิต
แอลกอฮอล์
•R. nigricans ผลิตกรดฟูมา
ริก
โทษ
•ทำาให้เกิดโรคในพืชและสัตว์
•ทำาให้เกิดโรคราสนิม รา
- 21. 3. ไฟลัม แอสโคไมโคตา
(Phylum Ascomycota)
ลัก ษณะสำา คัญ
1. เซลล์เดียว ได้แก่ ยีสต์ นอก
นันเป็นพวกมีเส้นใย
้
มีผนังกั้นและเป็นราคล้ายถ้วย
(cup fungi)
2. ดำารงชีวิตบนบก เป็นฟังไจที่
มีจำานวนมากที่สุด
3. การสืบพันธุ
์
- แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์
- 22. 3. ไฟลัม แอสโคไมโคตา
(Phylum Ascomycota)
ประโยชน์
1. Saccharomyces cerevisiae ใช้
ผลิตแอลกอฮอล์ มีโปรตีนสูง
2. Monascus sp. ใช้ผลิตข้าวแดงและ
เต้าหู้ย
ี้
โทษ
เกิดโรคกับคนและสัตว์
- 24. 4. ไฟลัม เบสิด ิโ อไมโคตา
(Phylum Basidiomycota)
ลัก ษณะ
1. เส้นใยมีผนังกันและรวมตัวอัด
้
แน่นเป็นแท่งคล้ายลำาต้น เช่น ดอกเห็ด
2. การสืบพันธุ์
- แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์
เรียกว่า codiospore ใน conidia
- แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ที่
สร้างโดยอาศัยเพศสร้างบนอวัยวะ
คล้ายกระบองหรือเบสิเดียม
(basidium) เรียกว่า แบสิดิโอสปอร์
- 25. 4. ไฟลัม เบสิด ิโ อไมโคตา
(Phylum Basidiomycota)
ประโยชน์
ใช้เป็นแหล่งอาหาร
โทษ
1. ทำาให้เกิดโรคในพืช เช่น รา
สนิม ราเขม่า
2. เห็ดรา มีสารพิษเข้าทำาลาย
ระบบประสาท ทางเดินอาหาร ตับ
หัวใจ
- 27. ฟัง ไจที่ใ ห้ป ระโยชน์ใ น
อุต สาหกรรม
∆
∆
A. niger ใช้ผลิตกรดซิตริก
A. oryzae ใช้ทำาเหล้า กระแช่ ฯลฯ
∆ Aspergillus wendtii ใช้ในการ
ทำาเต้าเจี้ยว
∆ S. carlsbergensis ใช้ทำา
อุตสาหกรรมเหล้า เบียร์
∆ P. roqueforti และ P.
- 28. ฟัง ไจที่ใ ห้ป ระโยชน์ใ น
อุต สาหกรรม
∆ S. rouxii ใช้ผลิตซีอิ๊ว
∆ Candida milleri ใช้ทำาขนมปัง
∆ Rhizopus nigricans ใช้ใน
อุตสาหกรรมการผลิตกรดฟูมาริก
∆ R. oryzae ใช้ในอุตสาหกรรมการ
ผลิตแอลกอฮอล์
∆ R. nodusus ใช้ผลิตกรดแลกติก
∆ Gibberilla fujikuroi ใช้ผลิต
- 29. ฟัง ไจที่ใ ห้ป ระโยชน์ใ น
อุต สาหกรรม
∆ Aspergillus flavus ผลิตสารพิษ
ชื่อ Aflatoxin พบในถั่ว และธัญพืช บาง
ชนิด ทำาให้เกิดโรคมะเร็งที่ตับได้
∆ Amanitia muscaria มีสาร
พิษ muscarine กระตุนการทำางานของ ระบบ
้
ประสาทพาราซิมพาเธติค ซึ่งเป็นระบบประสาท
อัตโนมัติ ทำาให้เกิด อาการคลื่นไส้ อาเจียน รู
ม่านตาหดแคบอุจจาระร่วง หายใจไม่สะดวก
∆ Amanitia phalloides มีสาร
- 30. จัดทำาโดย
• น.ส. กัญญาณัฐ
โพธิจันทร์ ม.6/8
เลขที่ 2
• น.ส. ธันยธร
วงศ์วรชาติกาล
ม.6/8
เลขที่
4
• น.ส. ณัฐกมล
อุไรกุล
ม.6/8
เลขที่
8
• น.ส. ปิยะนันท์
เกื้อกูลพีระทรัพย์
ม.6/8
เลขที่
12
• น.ส. วนิดา สิทธิแปง
ม.6/8
เลขที่ 16
• น.ส. ธัญชนก
พุ่มเพ็ชรประสาร ม.6/8
เลขที่
39
• น.ส. สุธาทิพย์
ลาภานันต์รตน์
ั
ม.6/8
เลขที่
40