More Related Content
Similar to ความหลากหลายของชีวิต
Similar to ความหลากหลายของชีวิต (20)
More from น๊อต เอกลักษณ์ (11)
ความหลากหลายของชีวิต
- 2. พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีกำเนิดขึ้นมำแล้วไม่ต่ำกว่ำ 400 ล้ำนปี มีหลักฐำนหลำยอย่ำงที่ทำให้เชื่อว่ำพืชมีวิวัฒนำกำรมำ
จำกสำหร่ำยสีเขียว กลุ่ม Charophytes โดยมีกำรปรับตัวจำกสภำพที่เคยอยู่ในน้ำขึ้นมำอยู่บนบก ด้วยกำรสร้ำง
คุณสมบัติต่ำง ๆ ที่เหมำะสมขึ้นมำ เช่น มีกำรสร้ำงคิวติน (cutin) ขึ้นมำปกคลุมผิวของลำต้นและใบเรียกว่ำ คิวทิเคิล
(cuticle) เพื่อป้องกันกำรสูญเสียน้ำ และกำรเกิด สโทมำตำ (stomata) เพื่อทำหน้ำที่ระบำยน้ำและแลกเปลี่ยนก๊ำซ เป็น
ต้น
อำณำจักรพืชแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
- พืชไม่มีท่อลำเลียง ได้แก่ Division Bryophyta
- พืชที่มีท่อลำเลียง ได้แก่ Division Psilophyta , Division Lycophyta , Division Sphenophyta , Division
Pterophyta , Division Coniferophyta , Division Cycadophyta , Division Ginkophyta , Division
Gnetophyta , Division Anthophyta
อำณำจักรพืช (Plant Kingdom)
- 7. 5. Division Pterophyta พืชที่มีท่อลาเลียง มี
หลายชนิดแตกต่างกัน ได้แก่ เฟิร์น( Fern ) แหนแดง( Azolla ) และจอกหูหนู
( Salvinia )
- 8. 6. Division Coniferophyta พืชที่สร้าง
เมล็ดเปือย ส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ได้แก่ พวกสน ( Pinus ) เช่น
สนสองใบและสนสามใบ
- 9. 7. Division Cycadophyta พืชที่สร้างเมล็ดเปือย ได้แก่ ปรง
( Cycad )
7. Division Cycadophyta พืชที่สร้างเมล็ดเปือย ได ้แก่ ปรง ( Cycad )
- 11. 9. Division Gnetophyta พืชที่สร้างเมล็ดเปือย ได้แก่ มะเมื่อย
(Gnetum)
9. Division Gnetophyta พืชที่สร้างเมล็ดเปือย ได ้แก่ มะเมื่อย (Gnetum)
- 12. 10. Division Anthophyta พืชที่สร้างเมล็ดมีสิ่งห่อหุ้ม ถือว่ามี
วิวัฒนาการสูงสุด พบมากที่สุด ได้แก่ พืชดอก (Flowering plant)
- 13. สิ่งมีชีวิตที่จัดอยู่ในอำณำจักรมีมำกกว่ำ 1.7 ล้ำนสปี ชีส์ ในจำนวนนี้เป็ นแมลงประมำณ 6 แสนชนิด สัตว์ถือเป็ น
สิ่งมีชีวิตที่มีควำมสำคัญต่อระบบนิเวศในแง่ของผู้บริโภค ซึ่งเป็นผลทำให้มีกำรถ่ำยทอดพลังงำนไปยังผู้บริโภคระดับ
ต่ำงๆ นอกจำกนี้สัตว์ยังเป็นตัวทำให้เกิดแก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมีควำมสำคัญในกำรสังเครำะห์ด้วยแสงของพืช และ
ก่อให้เกิดควำมสมดุลในธรรมชำติ
สัตว์เป็ นสิ่งมีชีวิตหลำยเซลล์ ไม่มีคลอโรฟิ ลล์จึงไม่สำมำรถสร้ำงอำหำรได้เอง และมีระยะตัวอ่อน (EMBRYO)
สิ่งมีชีวิตในอำณำจักรสัตว์แบ่งออกเป็นไฟลัมต่ำงๆดังนี้
อำณำจักรสัตว์ (Kingdom Animalia)
- 14. 1. ไฟลัมพอริเฟอรำ(PHYLUM PORIFERA)
• สัตว์ที่ลาตัวเป็นรูพรุน ได้แก่ ฟองน้า
• ลักษณะสำคัญของสัตว์ใน Phylum Porifera
• - เป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการต่าสุด และ ไม่มีเนื้อเยื่อแท้จริง (Parazoa)
• - ตัวเต็มวัยเกาะกับที่ จึงไม่มี nervous system และ sense organ
• - มีทั้งอาศัยในน้าจืดและน้าเค็ม
• - มีสีสดใส (แดง ส้ม เหลือง ม่วง) เกิดจากรงควัตถุที่อยู่ในเซลล์ผิว
• - ฟองน้าที่มีรูปร่างซับซ้อนน้อยที่สุดจะมีสมมาตรรัศมี แต่ฟองน้าส่วนใหญ่ไม่มีสมมาตร
• - จะสร้าง Gemmule (แตกหน่อ)เวลาสภาวะแวดล้อมไม่เหมาะสม
• - มีโครงร่างแข็งค้าจุน (Spicule ที่เป็นหินหรือแก้ว , Spongin ที่เป็นเส้นใยโปรตีน)
- 16. 2. ไฟลัมซีเลนเทอรำตำ(PHYLUM COELENTERATA)
• ได้แก่ แมงกะพรุน ดอกไม้ทะเล ปะการัง กัลปังหา และไฮดรา
• ลักษณะสำคัญของสัตว์ใน Phylum Coelenterata
• - ร่างกายประกอบด้วย เนื้อเยื่อ 2 ชั้นคือ Epidermis เเละ Gastrodermis
• - ระหว่างชั้นเนื้อเยื่อมีสารคล้ายวุ้นเรียกว่า Mesoglea เเทรกอยู่
• - ลาตัวกลวงลักษณะเป็นถุงตันมีช่องเปิดช่องเดียวเรียกว่า gastrovascula cavity ทาหน้าที่เป็นทางเดินอาหารอาหารเข้าเเละ
กากอาหารออกทางช่องเปิดเดียวกัน
• - มีหนวดอยู่รอบปากเรียกว่า เทนทาเคิล ( tentacle)ใช้สาหรับจับเหยื่อ
• - ที่หนวดมีเซลล์สาหรับต่อยเรียกว่า cnidocyteเเละมีเข็มสาหรับต่อยเรียกว่า nematocyst
• - มีวงจรชีพสลับ
• - สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยการแตกหน่อ
• - มี 2 เพศในตัวเดียวกัน
- 18. 3. ไฟลัมแพลทิเฮลมินทิส(PHYLUM
PLATYHELMINTHES)
• ได้แก่ พยาธิใบไม้พยาธิตัวตืด และพลานาเรีย
• ลักษณะสำคัญของสัตว์ใน Phylum Platyhelminthes
• - มีสมมาตรเป็นแบบครึ่งซีก (Bilateralsymmetry)
• - ไม่มีช่องว่างในลาตัว (Acoelomate animal) เนื่องจากเนื้อเยื่อชั้นกลางมีเนื้อเยื่อหยุ่นๆบรรจุอยู่เต็มไปหมด
• - ไม่มีระบบหมุนเวียนโลหิต ไม่มีเส้นเลือด ไม่มีหัวใจ สารอาหารไปเลี้ยงเซลล์โดยการแพร่จากทางเดินอาหารเข้าสู่
เซลล์โดยตรง
• - มีระบบทางเดินอาหารเป็นแบบไม่สมบูรณ์มีปากแต่ไม่มีทวารหนักและในพวกพยาธิตัวตืดไม่มีทางเดินอาหาร
• - มีระบบประสาทอยู่ทางด้านหน้าและแตกแขนงออกไปทางด้านข้างของลาตัว
• - มีทั้งสองเพศในตัวเดียวกัน สามารถผสมพันธุ์ได้ภายในตัวเอง (Self fertilization) และผสมพันธุ์ข้ามตัว (Cross
fretilization)
- 20. 4. ไฟลัมนีมำโทดำ(PHYLUM NEMATODA)
• ได้แก่ พยาธิตัวกลมต่างๆ เช่น พยาธิไส้เดือน ไส้เดือนฝอย และหนอนในน้าส้มสายชู
• ลักษณะสำคัญของสัตว์ใน Phylum Nemetoda
• - ลาตัวกลมยาวหัวท้ายเเหลม ไม่มีรยางค์
• - มีเปลือกเป็นคิวติเคิลหนาปกคลุม
• - สมมาตรครึ่งซีก
• - มีทางเดินอาหารสมบูรณ์ มีทั้งปากเเละทวารหนัก
• - ร่างกายมีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น
• - มีช่องลาตัวเทียม ( pseudocoelom )อยู่ระหว่างมีโซเดิร์มเเละเอนโดเดิร์มซึ่งมีของเหลวบรรจุอยู่เต็ม
• - ระบบประสาท เป็นวงเเหวนรอบคอ ต่อกับเส้นประสาทที่ยาวตลอดลาตัว
• - ไม่มีระบบไหลเวียนเลือดเเละระบบหายใจ
• - การสืบพันธุ์เเบบอาศัยเพศ มีตัวผู้ตัวเมียคนละตัวกัน ไข่มีสารไคตินหุ้มจึงทนทานต่อสภาพเเวดล้อมได้ดี
- 22. 5. ไฟลัมแอนนิลิดำ (PHYLUM ANNILIDA)
• ได้แก่ ไส้เดือนดิน แม่เพรียง ทากดูดเลือดและปลิงน้าจืด
• ลักษณะสำคัญของสัตว์ใน Phylum Annilida
• - มีลาตัวกลมยาวเป็นปล้องๆ มองเห็นภายนอกเป็นวงเเละภายในมีเนื้อเยื่อกั้นระหว่างปล้องเรียกว่า เซปตา ( septa )
• - เเต่ละปล้องมีอวัยวะคือ เดือย ( saeta ) 4 คู่ เนฟริเดีย ( อวัยวะขับถ่าย )1 คู่ เส้นประสาท 3 คู่ ทางเดินอาหารเเละ
ช่องลาตัวส่วนหนึ่ง ยกเว้นปล้อง
• - ที่มีหัวที่ซึ่งมีอวัยวะสาคัญ ( สมอง คอหอย หัวใจ )
• - ร่างกายมีสมมาตรครึ่งซีก
• - มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น
• - มีช่องลาตัวเเท้จริง ( coelom ) ซึ่งเป็นช่องลาตัวในเนื้อเยื่อมีโซเดิร์ม
• - ระบบประสาทประกอบด้วยปมสมองที่หัว 1 คู่ และ เส้นประสาทใหญ่ด้านท้อง
- 24. 6. ไฟลัมอำร์โทรโปดำ (PHYLUM ARTHROPODA)
• ได้แก่ กุ้ง กั้ง ปู แมลง เห็บ ไร ตะขาบ กิ้งกือ แมงมุม แมงดาทะเล
• ลักษณะสำคัญของสัตว์ใน Phylum Arthropoda
• - มีลาตัวเป็นปล้องและมีรยางค์เป็นข้อๆต่อกัน (jointed appendage) ยื่นออกมาจากแต่ละปล้องของลาตัว
• - มีจานวนชนิดมากที่สุดในอาณาจักรสัตว์ประมาณว่ามีถึงกว่า 9 แสนชนิดที่มนุษย์เราได้ค้นพบ
• - สามารถอาศัยอยู่ได้ในแทบทุกสภาพภูมิประเทศบนโลกนับว่าประสบความสาเร็จในการดารงชีวิตบนโลกเป็น
อย่างมาก เห็นได้จากการที่เราพบสัตว์เหล่านี้ได้แทบทุกหนทุกแห่ง ทุกฤดูกาลและพบเป็นจานวนมาก
• - มีโครงสร้างของร่างกายที่แข็งแรง
• - มีระบบประสาทที่เจริญดี มีอวัยวะรับความรู้สึกหลายชนิด
• - มีการแบ่งสัดส่วนของร่างกายเป็นข้อปล้องชัดเจน 3ส่วน คือ หัว(Head) , อก(Thorax) และ ท้อง(Abdomen)
• - ระบบหมุนเวียนเป็นระบบเปิด ประกอบไปด้วยหัวใจ เลือด และแอ่งเลือด(Hemocoel)
- 26. 7. ไฟลัมมอลลัสกำ(PHYLUM MOLLUSCA)
• สัตว์ที่มีลาตัวอ่อนนุ่ม ได้แก่ หมึกและหอยชนิดต่างๆ
• ลักษณะสำคัญของสัตว์ใน Phylum Mollusca
• - ร่างกายจะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
• 1. head and foot
• 2. visceral mass
• 3. mantle,palium เกิด mantlecavity มีเหงือกภายใน
• - สัตว์ในไฟลัมนี้มีลาตัวอ่อนนุ่มบางชนิดอาจมีเปลือกแข็งหุ้มลาตัวเป็น CaCO
• - แยกเพศผู้-เมีย
• - ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้าทั้งน้าจืดและน้าทะเลมีอาศัยอยู่บนบกบ้าง
• - อวัยวะในการแลกเปลี่ยนแก๊สประกอบด้วย
• 1. เหงือก (gill)อยู่ภายในช่องแมนเติลพบในมอลลัสทั่วไป
• 2. ผิวตัว ในทากทะเล (sea slug, nudibranch) ผิวตัวจะเปลี่ยนรูปไปเป็นแขนงอยู่บนลาตัว เรียกว่า เซอราตา (cerata) หรือบางชนิดมีอยู่รอบทวารหนัก
(anal gill)
• 3. ช่องแมนเติลหรือปอด หอยฝาเดียวที่ขึ้นมาอยู่บนบกจะมีช่องแมนเติลที่มีผนังยื่นลงมากั้นเป็นห้อง มีของเหลวหล่อเลี้ยงในช่องนี้ทาให้สามารถ
แลกเปลี่ยนแก๊สได้
3
- 28. 8. ไฟลัมเอไคโนเดอร์มำตำ (PHYLUM ECHINODERMATA)
• สัตว์ที่ผิวหนังมีหนามขุรขระ ได้แก่ ดาวทะเล เม่นทะเล เหรียญทะเล ปลิงทะเล ดาวเปราะ
• ลักษณะสำคัญของสัตว์ใน Phylum Echinoderm
• - สมมาตรร่างกาย ตัวอ่อนเป็นเเบบครึ่งซีก ตัวเต็มวัยมีเมเเทมอร์โฟซิสกลายเป็นสมมาตรเเบบรัศมี
• - ลาตัวเเบ่งเป็น 5 ส่วนหรือ ทวีคูณของ 5 ยื่นออกมาจากเเผ่นกลมที่เป็นศูนย์กลาง
• - มีโครงร่างเเข็งภายใน มีเเผ่นหินปูนเล็กๆ ที่ยึดติดกันด้วยกล้ามเนื้อหรือผิวหนังที่ปกคลุมอยู่บางินิด
• - มีเส้นประสาทเป็นวงเเหวนรอบปาก เเละเเยกเเขนงไปตามเเขน
• - การเคลื่อนไหวใิ้ระบบท่อน้า ( water vascula system ) ภายในร่างกาย
• - การสืบพันธุ์ แบ่งเป็นเเบบอาศัยเพศโดยมีการปฎิสนธิภายนอก และ เเบบไม่อาศัยเพศบางินิด เิ่น
การขาดของเเขนใดเเขนหนึ่ง ส่วนที่ขาดก็จะเจริญไปเป็นตัวเต็มอีกทีหนึ่ง
- 30. 9. ไฟลัมคอร์ดำตำ (PHYLUM CHORDATA)
• คุณสมบัติเฉพำะของ Phylum Chordata
• - มีโนโตคอร์ด (Notochord) ซึ่งเป็นแกนค้าจุนหรือพยุงกายเกิดขึ้นในระยะใดระยะหนึ่งของิีวิต หรือ
ตลอดิีวิต ในพวกสัตว์ิั้นสูงมีกระดูกอ่อนหรือกระดูกแข็งแทนโนโตคอร์ด
• - มีไขสันหลังเป็นหลอดยาวกลวงอยู่ทางด้านหลัง (Dorsal hollow nerve tube) เหลือทางเดิน
อาหารซึ่งแตกต่างจากสัตว์พวกไม่มีกระดูกสันหลัง ซึ่งมีระบบประสาทอยู่ทางด้านท้อง(Ventral nerve
cord) ใต้ทางเดินอาหารและเป็นเส้นตัน
• - มีิ่องเหงือก (Gill slit) ในระยะใดระยะหนึ่งของิีวิต หรือตลอดิีวิตในพวกสัตว์มีกระดูกสันหลังิั้นสูง
เิ่น สัตว์ปีก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมจะมีิ่องเหงือกตอนเป็นตัวอ่อนเท่านั้น เมื่อโตขึ้นิ่องเหงือกจะปิดส่วนปลามี
ิ่องเหงือกตลอดิีวิต
• - มีหางเป็นกล้ามเนื้อ (Muscular post anal tail)
- 33. 1.ไฟลัมชิโซไฟตำ (Phylum Schizophyta)
• สิ่งมีิีวิตที่จัดอยู่ในไฟลัมนี้ ได้แก่ แบคทีเรีย
• ลักษณะของสิ่งมีชีวิตในไฟลัมซิโซไฟดำ คือ
• 1. มีเซลล์ขนาดเล็ก
• 2. ลักษณะรูปร่าง มี 3 ลักษณะคือ
• 2.1 รูปร่างกลม เรียกว่า coccus (coccus = เอกพจน์ cocci = พหูพจน์)
• 2.2 รูปร่างแบบแท่งยาว เรียกว่า bacillus (bacillus = เอกพจน์ bacilli = พหูพจน์)
• 2.3 รูปร่าง เกลียว เรียกว่า spirillum (spirillum = เอกพจน์ spirillum = พหูพจน์)
- 34. 3. เซลล์รูปร่างต่าง ๆ มีการเรียงตัวทาให้เกิด
ลักษณะเฉพาะ เิ่น
แบคทีเรียที่มีรูปร่างทรงกลม มีการเรียงตัวหลายแบบ
- เซลล์ทรงกลม 2 เซลล์เรียงต่อกันเรียก
diplococci
- เซลล์หลายเซลล์เรียงต่อกันเป็นลูกโซ่เรียก
streptococci
- เซลล์หลายเซลล์เรียงกันเป็นกลุ่มก้อนคล้าย
พวงองุ่น เรียก staphylococci
- 35. • แบคทีเรียที่มีรูปร่างทรงกระบอก ไม่ค่อยมีแบบแผนการเรียงตัวที่เด่นิัดเท่าทรงกลม แต่อาจมีการเรียงตัวของเซลล์เนื่องมาจาก
ระยะการเจริญเติบโตหรือขึ้นกับสภาพของการเพาะเลี้ยงในอาหาร
• แบคทีเรียที่มีรูปร่างแบบเกลียว มักอยู่เป็นเซลล์เดี่ยว ๆ แต่ละินิดมีความแตกต่างกันทั้งทางด้านความยาว จานวนเกลียว
ความโค้ง
• ประโยชน์ของแบคทีเรีย
• 1. ด้านอุตสาหกรรม เิ่นการผลิตอาหารหมัก ใิ้ฟอกหนัง
• 2. ด้านการเกษตร เิ่นใิ้เป็นปุ๋ ย
• 3. การทดสอบคุณภาพน้า
• 4. ทางด้านการแพทย์ เิ่นการผลิตยาปฏิิีวนะ
• 5. ใิ้ในเทคโนโลยีิีวภาพ โดยใิ้เทคนิคทางพันธุวิศวกรรมสร้างแบคทีเรียที่มีลักษณะต่าง ๆ
• 6. ิ่วยย่อยสลายซากสิ่งมีิีวิตให้เป็นอาหารของพืิ
• โทษของแบคทีเรีย
• 1. ผลิตสารพิษที่เป็นอันตราย
• 2. ทาให้เกิดโรคต่างๆ ใน คน เิ่น ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค ปอดบวม วัณโรค คอตีบ สัตว์ เิ่น แอนแทรกซ์ บาดทะยัก และพืิ
เิ่น โรครากเน่า โรคใบไม้ของสาลี่
- 36. 2.ไฟลัมไซยำโนไฟตำ (Phylum Cyanophyta)
• ได้แก่ สาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน (Blue-green algae) ปัจจุบันเรียกิื่อใหม่ว่า
Cyanobacteria
• ลักษณะของสิ่งมีชีวิตในไฟลัมไซยำโนไฟตำ คือ
• 1. ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส เป็นเซลล์พวกโปรคารีโอต ไม่มี flagella
• 2. มี chlorophyll phycocyanin phycorythin กระจายในเซลล์ แต่ไม่ได้รวมเป็น
chloroplast
• 3. ผนังเซลล์เป็น cellulose และ pectin
• 4. มีขนาดเล็ก อาจอยู่ในลักษณะ
- 39. • กำรสืบพันธุ์ของ Cyanocacteria
• 1. การแบ่งตัว Binary fission.
• 2. การหักเป็นท่อน (fragmentation) พบในพวกที่เป็นสาย
• 3. สร้างสปอร์หรือสร้างเซลล์พิเศษ เิ่น akinete
• ประโยชน์
• - เป็นผู้ผลิตอาหาร และ O2
• - Spirulina หรือเกลียวทอง มี protein สูง ใิ้ทาอาหารเสริมคนและสัตว์
• - Nostoc Anabaena Oscillatori สามารถเพิ่มความตรึง N ทาเป็นปุ๋ ยในดิน เิ่น แหนแดง
(Azolla) ซึ่ง Anabaena อยู่ิ่องว่างกลางใบ
- 40. อำณำจักรโปรติสตำ (Kingdom
Protista)ลักษณะสาคัญของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโปรติสตา
1. ร่างกายประกอบด้วยโครงสร้างง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ส่วนมากประกอบด้วยเซลล์เดียว (unicellular) บางินิดมีหลายเซลล์รวมกันเป็นกลุ่ม
เรียกว่า โคโลนี (colony)
หรือเป็นสายยาว (filament) แต่ยังไม่ทาหน้าที่ ร่วมกันเป็นเนื้อเยื่อ (tissue)หรืออวัยวะ (organ) แต่ละเซลล์สามารถทาหน้าที่ของความเป็น
สิ่งมีิีวิตได้ครบถ้วนอย่าง อิสระ
2. ไม่มีระยะตัวอ่อน (Embryo) ซึ่งต่างจากพืิและสัตว์ที่มีระยะตัวอ่อนก่อนที่จะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย
3. การดารงิีพ มีทั้งินิดที่เป็นผู้ผลิต (Autotroph) เพราะมีคลอโรฟิลล์ เป็นผู้บริโภค (Consumer) และเป็นผู้ย่อยสลายอินทรียสาร
(Decomposer)
4. โครงสร้างของเซลล์เป็นแบบยูคาริโอติก (Eucaryotic) ซึ่งมีเยื่อหุ้มนิวเคลียส ได้แก่ โพรโทซัว เห็ด รา ยีสต์ ราเมือก สาหร่ายต่าง ๆ
5. การเคลื่อนที่ บางินิดเคลื่อนที่ได้โดยใิ้ ซีเลีย (cilia) แฟลกเจลลัม (flagellum) หรือซูโดโปเดียม (Pseudopodium) บางินิดเคลื่อนที่
ไม่ได้
6. การสืบพันธุ์ ทั้งแบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) และแบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction) แบบอาศัยเพศมีทั้งินิด
คอนจูเกิัน (Conjugation) ซึ่งเกิดจากเซลล์สืบพันธุ์ที่มีรูปร่างและขนาดเหมือนกัน มารวมกัน ดังเิ่นที่พบในพารามีเซียม ราดา เป็นต้น และินิด
ปฏิสนธิ (fertilization) ซึ่งเกิดจากเซลล์สืบพันธุ์ ที่มีรูปร่างและขนาดต่างกันมารวมกัน ดังเิ่นที่พบในสาหร่ายเป็นส่วนใหญ่ เป็นต้น
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้แบ่งเป็น
- 41. 1. Division Diplomonadida
• เป็นกลุ่มของโพรทิสต์ที่เป็นเซลล์ยูคารีโอตที่ยังไม่มี organelle คือ ไม่มี mitochondria ,
endoplasmic reticulum , golgi complex และ centriole เป็นต้น มักอยู่ในสภาวะที่ไม่
มีออกซิเจน (Anaerobic environment)
• ลักษณะ
• - มีนิวเคลียส 2 อันขนาดเท่ากัน
• - มี Flagella หลายเส้น
• ตัวอย่างเิ่น Giardia intestinalis : เป็นปรสิตในลาไส้เล็กของคน
- 42. 2. Division Parabasala
• เป็นกลุ่มของโพรทิสต์ที่เป็นเซลล์ยูคารีโอตที่ยังไม่มี organelle คือ ไม่มี mitochondria ,
endoplasmic reticulum , golgi complex และ centriole เป็นต้น มักอยู่ในสภาวะที่ไม่
มีออกซิเจน (Anaerobic environment)
• ลักษณะ
• - มี Flagella หลายเส้น
• - มีเยื้อหุ้มลักษณะเป็นรอยหยักคล้ายคลื่น
• ตัวอย่างเิ่น Trichomonas vaginalis : เป็นปรสิตในิ่องคลอด
• Trichonympha : อาศัยอยู่ในลาไส้ปลวกดารงิีพแบบภาวะพึ่งพากัน
- 43. 3. Division Kinetoplastida
• เป็นโพรทิสต์กลุ่มที่เคลื่อนที่โดยใิ้ Flagella ซึ่งประกอบด้วย Microtubule เรียงกัยแบบ 9+2 มีทั้ง
ที่เป็นผู้ผลิตผู้บริโภคและปรสิต
• ลักษณะ
• - มี Mirochondria อันเดียวขนาดใหญ่ ภายในมี DNA เรียกว่า Kinetoplast
• - มีทั้งพวกที่ดารงิีวิตอิสระ และเป็นปรสิต.
• ตัวอย่างเิ่น Trypanosoma sp.
• - เกิดโรคเหงาหลับ (sleeping sickness) ในแอฟริกามี African tsetse fly
เป็นพาหะ
• - โรค Chagas's disease ในอเมริกาใต้ มี Kissing bug เป็นพาหะ
- 44. 4. Division Euglenophyta
• ลักษณะ
• - มี Chlorplast สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ จึงดารงิีพเป็นผู้ผลิตเมื่อมีแสง
• - เก็บอาหารที่สร้างได้ใน Paramylon granules
• - เมื่อไม่มีแสงก็ดารงิีพเป็นผู้บริโภค
• - มีอายสปอต (eye spot) ในการตอยสนองต่อแสง
- 45. 5. Division Dinoflagellata
• ลักษณะ
• - เป็น Phytoplakton ทั้งในน้าจืดและน้าทะเล
• - ส่วนใหญ่อยู่เป็นเซลล์เดียว มีบ้างที่อาศัยอยู่รวมกันเป็น colony
• - ลักษณะสาคัญคือ มีแผ่น Cellulose อยู่ภายใน ประกอบกันคล้ายเกราะ มีลวดลายสวยงามและมี
Flagellum 2 เส้น
• - บางินิดมีการสะสมสารพิษ ทาให้ทะเลมีสีแดง เกิดปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ (red tide) ซึ่งเป็น
อันตรายต่อสัตว์น้าเป็นจานวนมาก
• - บางินิดอาศัยร่วมกับปะการัง โดยนา CO2 จากปะการังมาสังเคราะห์ด้วยแสง
- 46. 6. Division Apicomplexa
• ลักษณะ
• - กลุ่มนี้ทุกินิดเป็นปรสิตในสัตว์ มีโครงสร้างสาหรับแทงผ่ายเซลล์โฮสต์
• - ไม่มีโครงสร้างในการเคลื่อนที่ ยกเว้นในเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้
• - ตัวอย่างในกลุ่มนี้ได้แก่ พลาสโมเดียม (Plasmodium) ทาให้เกิดโรคมาลาเรียในคนและสัตว์อื่น
• - malaria เป็นโรคเขตร้อน มียุงก้นปล้องเป็นพาหะ
• เิื้อ Plasmodium ที่ก่อโรคในคนมี 4 ินิด ได้แก่
• - Plasmodium falciparum
• - Plasmodium vivax
• - Plasmodium malariae
• - Plasmodium ovale
• ในประเทศไทยเิื้อที่พบส่วนใหญ่เป็นินิด P.falciparum และ P.vivax
- 48. 7. Division Ciliophora
• ลักษณะ
• - มีขนาดใหญ่ เคลื่อนที่โดยใิ้ Cilia
• - อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีน้าหรือความิื้นสูง
• - ตัวอย่างเิ่น Stentor , Paramecium , Vorticella
• - มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเรียกว่า Conjugation
- 49. 8.Division Oomycota
• ลักษณะ
• - เรียกว่า Egg fungus : water mold, white rust, downy mildews
• - แตกต่างจาก Stramenopila กลุ่มอื่นๆ ตรงที่ไม่มีรงควัตถุที่ใิ้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วย
แสง
• - มีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ที่ประกอบด้วยหลายนิวเคลียส
• - ไม่ได้จัดเป็นรา
• - ส่วนใหญ่ดารงิีวิตเป็นผู้ย่อยสลายในน้า
• - มีบ้างที่เป็นปรสิตในพืิ เิ่น white rust (ราขาวในมันฝรั่ง)
- 50. 9.Division Bacillariophyta
• ลักษณะ
• - เป็นสาหร่ายที่มีสารสีินิดเดียวกับที่พบในสาหร่ายสีน้าตาล
• - เป็นสิ่งมีิีวิตเซลล์เดียว มีผนังเซลล์ประกอบด้วย Silica
• - ส่วนมากมักสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
• - พบมากในแหล่งน้าจืดและน้าเค็ม เป็นแหล่งอาหารที่สาคัญของสิ่งมีิีวิตในระบบนิเวศ
• - ซากไดอะตอมที่ตายทับถมกันนาน ๆ เป็น diatomaceous earth เป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุ
และน้ามัน ซึ่งนามาใิ้ประโยิน์ในการทา
• ไส้กรองและยาขัดต่าง ๆ
- 52. 10. Division Phaeophyta• ลักษณะ
• - เป็นสาหร่ายที่มีขนาดใหญ่ และมีโครงสร้างซับซ้อน
• - สาหร่ายสีน้าตาล เรียกว่า Seaweed
• - เกือบทั้งหมดอาศัยอยู่ในทะเล มักอยู่ในกระแสน้าเย็น
• - มีความสาคัญต่อสิ่งมีิีวิตที่อาศัยในน้าโดยเป็นแหล่งอาหาร ที่อาศัยและใิ้ในการหลบภัย
• - มีสารสีน้าตาลเรียกว่า ฟิวโคแซนทิน
• - เรียกโครงสร้างรวม ๆ ของสาหร่ายินิดนี้ว่า Thallus
• - มีโครงสร้างคล้ายราก เรียกว่า Holdfast
• - โครงสร้างคล้ายลาต้น เรียกว่า Stipe
• - โครงสร้างคล้ายใบ เรียกว่า Blade หรือ Lamina
• ตัวอย่างเิ่น สาหร่ายเคลป์ ( Kelp) ซึ่งอาจมีความยาวถึง 60 เมตร
• สาหร่ายทุ่น ( sagassum sp.)
• ลามินาเรีย ( Laminaria sp.)
• พาไดนา ( Padina sp.)
• ฟิวกัส ( Fucus sp. )
- 53. 11. Division Rhodophyta
• สาหร่ายสีแดง (red algae) มีสารสีไฟโคอีรีทิน (phycoerythrin) แคโรทีนและคลอโรฟิลล์ ต่าง
จากสาหร่ายกลุ่มอื่น บางินิดไม่มีสารสี เป็นปรสิตกับสาหร่ายสีแดงินิดอื่นๆ สามารถดูดกลืนแสงสีน้าเงิน
และเขียวในการสังเคราะห์ด้วยแสงได้ดี ส่วนใหญ่จะมีหลายเซลล์ สามารถมีขนาดใหญ่เรียกว่า
Seaweed ได้ในลักษณะเดียวกันกับสาหร่ายสีน้าตาล และที่สาคัญคือ ไม่มีระยะที่มีแฟลกเจลลา
• ตัวอย่างเิ่น จีฉ่าย หรือ พอร์ไฟรา (Porphyra sp.) นามาทาเป็นอาหาร
• สาหร่ายผมนางหรือ กราซิลาเรีย (Gracilaria sp.) ใิ้ผลิตวุ้น
- 54. 12. Division Chlorophyta
• สาหร่ายสีเขียว (green algae) มีลักษณะคล้ายพืิทั้งในแง่โครงสร้าง ผนังเซลล์และส่วนประกอบของสารสี
คือ คลอโรฟิลล์ เอ บีและแคโรทีน ส่วนใหญ่พบในแหล่งน้าจืด บางินิดอยู่ร่วมกับราเป็น lichens เกือบทุกินิดมี
ระยะอาศัยเพศ โดยเซลล์สืบพันธุ์ใิ้ Flagella 2 เส้นในการเคลื่อนที่ สามารถปรับตัวในที่ไม่เหมาะสมได้ เิ่น
หิมะ (watermelon snow) และเิื่อว่าพืิมีวิวัฒนาการมาจากสาหร่ายสีเขียว
• ลักษณะ
• - เซลล์เดียว Chlamydomonas
• Chlorella (ป็นสาหร่ายสีเขียวเซลล์เดียวที่มีโปรตีนสูง นิยมผลิตเป็นอาหารเสริม)
• - อยู่รวมกันหลายเซลล์เป็น Colony Volvox
• - เซลล์รวมกันมีขนาดใหญ่ (Supercell) Caulerpa
• - โครงสร้างเป็น Cell weed Ulva
• - ไม่มี Flagellum ในการเคลื่อนที่ Spirogyra หรือ เทาน้า ( ใิ้ Ameboid gamete)
- 56. 13. Division Gymnamoeba
• ลักษณะ
• - เป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายมาก เิ่น Amoeba
• - ส่วนมากเป็นผู้บริโภค
• - บางินิดเป็นผู้ย่อยสลาย (Detritus)
- 57. 14. Division Entamoeba
• ลักษณะ
• - Entamoeba histolytica เป็นปรสิต ก่อให้เกิดโรคบิดมีตัว ผลแทรกซ้อนก่ให้เกิดฝีในตับ
• - Entamoeba gingivalis อาศัยแบบพึ่งพากับคนในิ่องปาก เก็บเศษอาหารต่างๆ เป็นเหตุ
ให้มีกลิ่นปาก
- 58. 15. Division Myxogastrida
• มี 2 ระยะ คือ
• - ระยะ Plasmodium หากินโดยใิ้ Pseudopodium ซึ่งมีขนาดใหญ่ได้มากเป็น
เซนติเมตร เป็นหลายๆเซลล์รวมกันเป็นเซลล์ขนาดใหญ่มากมีหลายนิวเคลียส กินอาหารโดยใิ้กระบวนการ
Phagocytosisมักมีสารสีซึ่งมักเป็นสีส้มหรือสีเหลือง
• - ระยะ Fruiting body ระยะที่มีการสืบพันธุ์โดยการแบ่งไมโอซสเพื่อสร้างสปอร์ และมีการสร้าง
เซลล์สืบพันธุ์
- 59. 16. Division Dictyostelida
- ลักษณะแตกต่างจาก plasmodial slime molds คือ ระยะ จะเป็นเซลล์
เดียวไม่ได้รวมกันเป็นเซลล์ขนาดใหญ่
• - ในวงชีพมีความแตกต่างกัน
- 60. • สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในอาณาจักรฟังไจ ประกอบด้วย รา เห็ด และยีสต์
• ลักษณะของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรฟังไจ
• 1. เซลล์เป็นแบบ Eucaryotic cell มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส
• 2. ไม่มีคลอโรฟิลล์ ดารงิีวิตเป็นผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ที่เน่าเปื่อย
• 3. ผนังเซลล์เป็นสารไคตินกับเซลลูโลส
• 4. มีทั้งเซลล์เดียวและเป็นเส้นใยเล็ก เรียกว่าไฮฟา (Hypha) รวมกลุ่ม เรียกว่าขยุ้มรา
(mycelium) ลักษณะของเส้นใยแบ่งออกเป็น 2 ินิด
• 4.1 เส้นใยมีผนังกั้น (Septate hypha)
• 4.2 เส้นใยที่ไม่มีผนังกั้น (Nonseptate hypha or coencytic hypha)
อาณาจักรฟังไจ (Kingdom
Fungi)
- 62. 1. ไฟลัมไซโกไมโคตำ (Phylum Zygomycota)
• ราที่มีวิวัฒนาการต่าสุด
• ลักษณะ
• 1. เซลล์เดี่ยวเจริญอยู่ในน้า บนบก และซากพืิซากสัตว์
• 2. เส้นใยินิดไม่มีผนังกั้น
• 3. ต้องการความิื้น
• 4. ดารงิีวิตแบบปรสิต(Parasite) และผู้ย่อยสลาย (saprophyte)
• 5. การสืบพันธุ์
• - แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์ เรียกว่า sporangiospore
• - แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ เรียกว่า zygospore
• ประโยชน์
• 1. Rhizopus oryzae ผลิตแอลกอฮอล์
• 2. R. nigricans ผลิตกรดฟูตริก
• โทษ
• ทาให้เกิดโรคในพืิและสัตว์
- 64. 2. ไฟลัมแอสโคไมโคตำ (Phylum Ascomycota)
• ลักษณะ
• 1. เซลล์เดียว ได้แก่ ยีสต์ นอกนั้นเป็นพวกมีเส้นใยมีผนังกั้นและเป็นราคล้ายถ้วย (cup fungi)
• 2. ดารงิีวิตบนบก
• 3. การสืบพันธุ์
• - แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์เรียกว่า conidia ที่ปลายไฮฟา ส่วนยีสต์จะแตกหน่อ
• - แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ ที่มีิื่อว่า ascospore อยู่ในถุงเรียกว่า ascus
•
• ประโยชน์
• 1. Saccharomyces cerevisiae ใิ้ผลิตแอลกอฮอล์ และมีโปรตีนสูง
• 2. Monascus sp. ใิ้ผลิตข้าวแดงและเต้าหู้ยี้
•
• โทษ
• เกิดโรคกับคนและสัตว์
- 66. 3. ไฟลัมเบสิดิโอไมโคตำ (Phylum Basidiomycota)
• ลักษณะ
• 1. เส้นใยมีผนังกั้นและรวมตัวอัดแน่นเป็นแท่งคล้ายลาต้น เิ่น ดอกเห็ด
• 2. การสืบพันธุ์
• - แบบไม่อาศัยเพศ สร้างสปอร์เรียกว่า codiospore ใน conidia
• - แบบอาศัยเพศ สร้างสปอร์ที่สร้างโดยอาศัยเพศสร้างบนอวัยวะคล้ายกระบองหรือเบสิเดียม (basidium) เรียกว่า แบสิดิโอ
สปอร์ (basidiospore)
•
• ประโยชน์
• ใิ้เป็นแหล่งอาหาร
•
• โทษ
• 1. ทาให้เกิดโรคในพืิ เิ่น ราสนิม ราเขม่า
• 2. เห็ดรา มีสารพิษเข้าทาลายระบบประสาท ทางเดินอาหาร ตับ หัวใจ
- 68. 4. ไฟลัมดิวเทดโรไมโคตำ (Phylum Deuteromycota)
• ลักษณะ
• 1. เส้นใยมีผนังกั้น
• 2. สืบพันธุ์ไม่แบบอาศัยเพศเท่านั้น โดยสร้างสปอร์ที่เรียกว่า โคนิเดีย (conidia) จึงเรียกราในกลุ่มนี้ว่า Fungi Imperfecti
• 3. แต่หากเมื่อใดมีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศจะไปอยู่ใน Ascomycetes และ Basidiomycetes
•
• ประโยชน์
• 1. Penicillium chrysogernum ใิ้ผลิตยาปฏิิีวนะเพนิซิลลิน
• 2. Aspergillus wendtii ใิ้ผลิตเต้าเจี้ยว
• 3. A. oryzae ใิ้ผลิตเหล้าสาเก
•
• โทษ
• 1. ทาให้เกิดโรคในพืิ
• 2. สร้างสารพิษ ทาให้เกิดโรค
• 3. ทาให้เกิดโรคในคน เิ่น กลาก เกลื้อน โรคเท้าเปื่อยหรือฮ่องกงฟุต
- 70. แหล่งที่มำ
ิีสการเรียนการสอนวิิา ecology โดย ผศ.ดร.ปกขวัญ หุตางกูร และ รศ.ไพรินทร์ กปิลานนท์
http://www.chaiwbi.com/2553student/m5/d5102/wbi/535111/index_pre.htmlhttp://www.vchark
arn.com/exam/set/479
http://203.114.120.251/phayalae14/paiboon/testpaiboon/2.html
http://www.thaigoodview.com/node/46207
http://www.multisrn.com/moodle/iframe/new/Templates/p21.htm
http://www.thaigoodview.com/node/49836
http://www.thaigoodview.com/node/45228
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=572
http://www.sahavicha.com/?name=test&file=readtest&id=907
http://www.thaigoodview.com/library/contest2553/type2/science04/13/page/test.html
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1419010
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=568
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=569
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=571
http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=570