More Related Content
More from CC Nakhon Pathom Rajabhat University (20)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีบาดแผลและการอักเสบ
- 3. ชนิดของบาดแผล
2.แบ่งตามลักษณะการทาลายของผิวหนัง
• แผลปิด (closed wound); แผลฟกช้้า (contusion/bruise)
แผลกระทบกระเทือน (concussion) แผลแตก (rupture) แผล
จากการผ่าตัด (surgical incision)
• แผลเปิด (opened wound); แผลถลอก (abrasion wound)
แผลฉีกขาด (laceration wound) แผลตัด (incision/ cut
wound) แผลทะลุทะลวง (penetration wound) แผลที่มี
เนื้อเยื่อขาดหรือหลุดออกจากร่างกาย (avulsion wound) แผล
ถูกระเบิด (explosive wound)
- 6. ปัจจัยที่มีผลต่อการหายของแผล
• อายุ ¤ภาวะโภชนาการ
• สภาวะของโรค ¤ ยา
• บุหรี่ ¤ ความเครียด
• ความอ้วน ¤ ระบบการไหลเวียนโลหิต
• การติดเชื้อ ¤ ลักษณะของแผล
• การเคลื่อนไหว ¤ สิ่งแปลกปลอมภายในแผล
• การผ่าตัด ¤ เทคนิคการเย็บแผล/ ท้าแผล
• อุณหภูมิของแผล ¤ น้้ายาที่ใส่แผล
• รังสีรักษา
- 10. นายาที่ใช้สาหรับทาแผล
• 0.9% normal saline •70% Alcohol
• 10% Providone-iodine solution
• 3% Hydrogenperoxide • Tincture benzoin
• 2.5% Tincture iodine • Mercurochrome
• Zinc paste • Benzene, Acetone
• Dakin’s solution/ hyperchlorite solution
- 15. ชนิดของการทาแผล
• การทาแผลชนิดแห้ง
(dry dressing)
• การทาแผลชนิดเปียก
(wet dressing)
• การทาแผลที่มีท่อระบาย ท่อ
ระบาย (drain)
• การทาแผลที่ต้องใช้แรงกด
(pressure dressing)
• การชะล้างแผล
(wound irrigation)ที่มา (Taylor, et al., 2008, p. 1216)
ที่มา (Taylor, et al., 2008, p. 1212)
- 16. วิธีการตัดไหม (stitch off)
การตัดไหม (ภาพซ้าย)
การดึงลวดเย็บแผล (ภาพขวา)
ที่มา (Taylor, et al., 2008, p.
1219)
1.ตรวจสอบค้าสั่งการรักษาของแพทย์
2. ก่อนและหลังการตัดไหมทุกครั้ง เช็ดด้วยแอลกอฮอล์
70%
3. ไม่ดึงไหมส่วนที่มองเห็นลอดผ่านใต้ผิวหนัง
4. ตัดไหมส่วนที่ชิดผิวหนัง ใต้ปมที่ผูกไว้ ดึงไหมออกให้
5.ขอบแผลแยกให้หยุด และปิดด้วยวัสดุที่ช่วยดึงรั้งขอบ
แผล
6. หลังตัดไหมปิดทับด้วยผ้าก๊อซบาง ๆ และอย่าให้แผล
สกปรกหรือถูกน้้า
7. แนะน้าผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลแผล หากผิดปกติให้มา
พบแพทย์ก่อนวันนัด