SlideShare a Scribd company logo
บทที่ 10
การนาระบบไปใช้/การบารุงรักษาระบบ
1
บทนำ
ระยะนี้จะทำให้ระบบเกิดผลด้วยกำรสร้ำงระบบขึ้นมำ ซึ่งข้องเกี่ยวกับ
กิจกรรมต่ำง ๆ ดังต่อไปนี้
1. กำรจัดหำระบบ
2. กำรเขียนโปรแกรม (Coding)
3. กำรทดสอบ (Testing)
4. กำรติดตั้ง (Installation)
5. กำรจัดทำเอกสำรคู่มือกำรใช้งำน (Documentation)
6. กำรฝึกอบรม (Training)
7. กำรประเมินผลระบบ (System Evaluation)
หัวข้อกำรเรียนรู้
1. ขั้นตอนกำรเขียนโปรแกรม
2. กำรทดสอบแบบ Black Box และ White Box
3. วิธีกำรติดตั้งระบบ
4. เอกสำรคู่มือกำรใช้งำน
5. ชนิดของกำรฝึกอบรม
6. แบบฟอร์มกำรประเมินผล
7. วิธีกำรบำรุงรักษำระบบ
การจัดหาระบบ
เกิดขึ้นเมื่อทีมงำนโครงกำรทำกำรออกแบบระบบได้เสร็จสิ้นลง ทีมงำน
พัฒนำระบบก็จะทรำบว่ำระบบสำรสนเทศที่จะพัฒนำขึ้นใหม่จะมีส่วนประกอบ
อะไรบ้ำง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำรพัฒนำระบบ
กำรจัดหำระบบ
การจัดหาอุปกรณ์
การจัดหาโปรแกรมประยุกต์
การพิจารณาข้อเสนอของผู้ขาย
กำรจัดหำระบบ
1. การจัดหาอุปกรณ์ (Hardware Acquisition)
กำรจัดหำอุปกรณ์
การซื้อระบบสาเร็จรูป
การขอข้อเสนอทั่วไป
การขอข้อมูลเสนอที่เฉพาะเจาะจง
การซื้อจากผู้ขายรายเดียวหรือหลายราย
กำรจัดหำระบบ
2. การจัดหาโปรแกรมประยุกต์ (Application Software Acquisition)
กำรจัดหำโปรแกรมประยุกต์
การซื้อเข้ามาทั้งโปรแกรม
การพัฒนาขึ้นเอง
กำรจัดหำระบบ
3. การพิจารณาข้อเสนอของผู้ขาย (Vendor Review and Evaluation)
กำรพิจำรณำข้อเสนอของผู้ขำย
การทดสอบแบบ Benchmark
การให้คะแนนผู้ขาย
การเขียนโปรแกรม (Coding)
คือกำรสร้ำงระบบขึ้นมำเพื่อใช้งำน โดยผู้รับผิดชอบคือโปรแกรมเมอร์ โดย
กำรเขียนโปรแกรม ประกอบด้วยขั้นตอนต่ำง ๆ ดังต่อไปนี้
• ศึกษาจากเอกสารต่าง ๆ หมำยถึงเอกสำรที่ได้จำกกำรวิเครำะห์ และออกแบบ
ที่นักวิเครำะห์ระบบได้จัดทำไว้ให้ ประกอบด้วย แผนภำพกระแสข้อมูล
คำอธิบำยกำรประมวลผลข้อมูล พจนำนุกรมข้อมูล รวมถึงรูปแบบกำร
บันทึกข้อมูลทำงจอภำพ และรูปแบบเอำต์พุตหรือรำยงำนต่ำงๆ
• ออกแบบโปรแกรม เพื่อแก้ปัญหำ และตัดสินใจแนวทำงเพื่อให้กำรพัฒนำใน
ขั้นตอนนี้เกิดผลสำเร็จ
• เขียนโปรแกรม ซึ่งขึ้นอยู่กับภำษำคอมพิวเตอร์หรือแอปพลิเคชันที่ใช้เขียน
การเขียนโปรแกรม (Coding)
4. ทดสอบโปรแกรม ตำมปกติแล้ว โปรแกรมเมอร์จะดำเนินกำรเขียนโปรแกรม
ควบคู่ไปกับกำรทดสอบโปรแกรมเสมอ โปรแกรมเมอร์นอกจำกตรวจสอบควำม
ถูกต้องในรูปแบบภำษำเขียนแล้ว ยังต้องตรวจสอบควำมถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้
จำกกำรประมวลผลของโปรแกรมด้วย
5. จัดทาเอกสารประกอบโปรแกรม เอกสำรที่ใช้ประกอบกำรเขียนโปรแกรม กำร
จัดทำเอกสำรดังกล่ำว ก็เพื่อประโยชน์ต่อกำรปรับปรุงแก้ไขโปรแกรมในอนำคต
การทดสอบ (Testing)
เป็นกำรทดสอบโปรแกรมที่ใช้งำนในระบบว่ำสำมำรถทำงำนได้อย่ำง
ถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่จะดำเนินกำรติดตั้งระบบเพื่อใช้งำนจริง อำจมีควำม
จำเป็นต้องจำลองสถำนกำรณ์กำรดำเนินงำนขึ้นมำ
กำรทดสอบ (Testing)
เทคนิคกำรทดสอบ (Testing Techniques) สามารถดาเนินการทดสอบวิธีการต่อไปนี้
Black Box Testing เป็นการทดสอบฟังก์ชันการทางานของระบบที่ต้องการ
ทราบเพียงว่า เมื่อมีการอินพุตข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว จะได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างไร
โดยไม่สนใจว่าระบบมีกระบวนการทางานอย่างไร
White Box Testing เป็นการทดสอบโปรแกรมภายในว่ามีวิธีการเขียนอย่างไร
มีการตรวจสอบฟังก์ชันการทางานว่าถูกต้องและครบถ้วนหรือไม่ โปรแกรมที่
เขียนขึ้นมีข้อผิดพลาดเชิงตรรกะ (Logic Error) หรือไม่ มีการออกแบบตรรกะ
โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพหรือไม่ อย่างไร
การทดสอบ (Testing)
เทคนิคกำรทดสอบ (Testing Techniques)
กำรทดสอบ (Testing)
ขั้นตอนกำรทดสอบ (Stages of Tests) จะประกอบด้วย 4 ขั้นตอนพื้นฐาน คือ
1. การทดสอบหน่วยย่อย (Unit Testing)
2. การทดสอบด้วยการนาโปรแกรมมาประกอบรวมกัน (Integration Testing)
3. การทดสอบทั้งระบบ (System Testing)
4. การทดสอบการยอมรับในระบบ
(Acceptance Testing)
การทดสอบ (Testing)
การทดสอบหน่วยย่อย (Unit Testing) มุ่งเน้นถึงกำรตรวจสอบควำมถูกต้องและ
ข้อผิดพลำดที่เกิดขึ้นภำยในโมดูล โปรแกรมเมอร์ก็จะทดสอบจนกระทั่ง เชื่อว่ำ
โค้ดโมดูลนี้ปรำศจำกข้อผิดพลำด
การทดสอบด้วยการนาโปรแกรมมาประกอบรวมกัน (Integration Testing) คือกำร
ทดสอบ ด้วยกำรนำกลุ่มโปรแกรมหรือโมดูลต่ำง ๆ มำประกอบรวมกัน ระบบ
จะต้องทำงำนโดยปรำศจำกข้อผิดพลำด และต้องมีควำมมั่นใจว่ำกำรเชื่อมโยง
และกำรส่งผ่ำนข้อมูลไปมำระหว่ำงโมดูลจะต้องทำงำนอย่ำงถูกต้องและครบถ้วน
สำมำรถดำเนินกำรด้วยวิธีแบบล่ำงขึ้นบน (Bottom-up Integration) และวิธีแบบ
บนลงล่ำง (Top-down Integration)
กำรทดสอบ (Testing)
การทดสอบทั้งระบบ (System Testing) คือกำรทดสอบระบบทั้งหมดก่อนที่จะ
ดำเนินกำรส่งมอบให้กับลูกค้ำ นักวิเครำะห์ระบบจะต้องมั่นใจว่ำทุก ๆ โมดูล
และโปรแกรมต่ำง ๆ จะต้องทำงำนร่วมกันโดยปรำศจำกข้อผิดพลำด และตรง
ตำมควำมต้องกำรของผู้ใช้ รวมถึงกำรทดสอบประสิทธิภำพของระบบ
(Performance Testing) ว่ำระบบมีควำมน่ำเชื่อถือมำกน้อยเพียงไร
การทดสอบการยอมรับในระบบ (Acceptance Testing) คือกำรตรวจรับระบบ ที่ผู้ใช้
จะเป็นผู้ยืนยันถึงควำมสมบูรณ์ของระบบ ว่ำระบบสำมำรถรองรับกระบวนกำร
ทำงธุรกิจได้ตรงควำมต้องกำร ถูกต้อง และครบถ้วนหรือไม่ อย่ำงไร
การทดสอบ (Testing)
การทดสอบแบบอัลฟา (Alpha Testing) จะดำเนินกำรทดสอบระบบด้วยกำรจำลอง
สภำพแวดล้อมขึ้นมำ
การทดสอบแบบเบต้า (Beta Testing) ทีมงำนจะให้ผู้ใช้งำนจริงทำกำรทดสอบระบบ
บนสภำพแวดล้อมจริง และใช้ข้อมูลจริงในกำรทดสอบ
การติดตั้ง (Installation)
นักวิเครำะห์ระบบ สำมำรถเลือกใช้วิธีกำรติดตั้งที่มีอยู่หลำยวิธีด้วยกันตำม
ควำมเหมำะสม ซึ่งประกอบด้วยวิธีกำรติดตั้ง 4 วิธีด้วยกันคือ
1. การติดตั้งเพื่อใช้งานใหม่ทันที (Direct Installation) เนื่องมำจำกระบบเดิมกับ
ระบบใหม่มีควำมแตกต่ำงกันอย่ำงสิ้นเชิง ไม่สำมำรถนำผลลัพธ์จำกระบบทั้งสอง
มำทำกำรเปรียบเทียบกันได้สำหรับวิธีนี้บำงครั้งอำจเรียกว่ำ Immediate Cutover
ซึ่งถือเป็นวิธีกำรติดตั้งที่ง่ำยที่สุด
การติดตั้ง (Installation)
1. การติดตั้งเพื่อใช้งานใหม่ทันที (Direct Installation)
ข้อดี
- ระบบใหม่สำมำรถดำเนินกำรใช้งำนได้ทันที
- สถำนกำรณ์บังคับให้ผู้ใช้งำนต้องใช้ระบบใหม่ โดยไม่สำมำรถกลับไปใช้
ระบบงำนเดิมได้
- ง่ำยต่อกำรวำงแผน
- ค่ำใช้จ่ำยต่ำ และใช้เวลำน้อย
การติดตั้ง (Installation)
1. การติดตั้งเพื่อใช้งานใหม่ทันที (Direct Installation)
ข้อเสีย
- อำจเกิดข้อผิดพลำดที่คำดไม่ถึงในขณะที่ใช้ระบบใหม่
- ถึงแม้ระบบใหม่จะใช้งำนได้จริงก็ตำม แต่นั่นไม่ได้หมำยถึงควำมสมบูรณ์ของ
ระบบใหม่โดยรวม
- จัดเป็นวิธีกำรติดตั้งที่มีควำมเสี่ยงสูงที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบกับกำรติดตั้งด้วยวิธีอื่น ๆ
การติดตั้ง (Installation)
2. การติดตั้งแบบคู่ขนาน (Parallel Installation) เป็นวิธีกำรติดตั้งที่มีกำร
ปฏิบัติงำนทั้งระบบเดิมกับระบบใหม่ขนำนกันไป หำกกรณีที่ระบบใหม่เกิด
ปัญหำขึ้น ก็จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ เนื่องจำกระบบงำนเดิมก็ยังคงดำเนินกำร
ปกติ โดยระบบจะสมบูรณ์ต่อเมื่อกำรดำเนินงำนของระบบใหม่เป็นไปอย่ำงไม่มี
ปัญหำหรือไม่พบข้อผิดพลำดใด ๆ จนกระทั่งมั่นใจ แล้วจึงค่อยดำเนินกำรใช้
ระบบใหม่ และยกเลิกใช้งำนระบบเดิมในที่สุด
ข้อดี
- มีควำมปลอดภัยสูง เนื่องจำกหำกระบบใหม่เกิดข้อผิดพลำด ระบบเดิมก็ยัง
สำมำรถนำมำใช้งำนเพื่อกำรสำรองได้
- สำมำรถเปรียบเทียบกระบวนกำรทำงำน รวมทั้งเอำต์พุตที่ได้จำก
ระบบระหว่ำงระบบเดิมกับระบบใหม่
การติดตั้ง (Installation)
2. การติดตั้งแบบคู่ขนาน (Parallel Installation)
ข้อเสีย
- ใช้ต้นทุนสูง เนื่องจำกจำเป็นต้องดำเนินกำรทั้งระบบเดิม กับระบบใหม่ควบคู่
ด้วยกัน
- สิ้นเปลืองเวลำไปกับกำรทำงำนทั้งสองระบบ และกำรเปรียบเทียบระบบทั้งสอง
- ในกรณีที่ระบบใหม่เกิดข้อผิดพลำด ผู้ใช้งำนอำจเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อระบบใหม่
และอำจมุ่งควำมสนใจกับกำรใช้งำนระบบงำนเก่ำเช่นเดิม
- ยำกต่อกำรวำงแผน และมีขั้นตอนควบคุมกำรทำงำนที่ยุ่งยำก
การติดตั้ง (Installation)
3. การติดตั้งแบบทีละเฟส (Phased Installation) เป็นวิธีกำรติดตั้งที่มีกำรกำหนด
เป็นระยะ ๆ โดยแต่ละระยะจะมีกำรเพิ่มองค์ประกอบหรือฟังก์ชันกำรทำงำนของ
ระบบ
ข้อดี
- เจ้ำของระบบ หรือเจ้ำของกิจกำรไม่จำเป็นต้อง
ชำระเงินก้อนใหญ่ทั้งหมด สำมำรถชำระเงินค่ำระบบ
ในแต่ละส่วน ของแต่ละระยะนั้น ๆ ได้
- หำกเกิดข้อผิดพลำด จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบโดยรวม โดยจะส่งผลต่อ
ระบบ
การติดตั้ง (Installation)
3. การติดตั้งแบบทีละเฟส (Phased Installation)
ข้อเสีย
- อำจใช้เวลำมำกเกินไปกับบำงระบบงำน
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำรรอพัฒนำระบบงำนย่อย
ในลำดับถัดไปของระยะต่อไป
- หำกระบบย่อยต่ำง ๆ ไม่สำมำรถแบ่งแยกโดยอิสระได้ ก็จะยำกต่อกำรแบ่ง
กำรติดตั้งทีละระยะ กล่ำวคือ ไม่เหมำะสมกับระบบงำนที่ไม่สำมำรถแบ่งระบบ
ออกเป็นส่วนย่อย ๆ ได้
การติดตั้ง (Installation)
4. การติดตั้งแบบโครงการนาร่อง (Pilot Project) โดยจะดำเนินกำรติดตั้งระบบ
เฉพำะส่วนงำนใดส่วนงำนหนึ่งก่อน
ข้อดี
- ลดควำมเสี่ยงได้ดี และค่ำใช้จ่ำยต่ำ
ข้อเสีย
- วิธีนี้เหมำะสมกับระบบที่มีควำมสมบูรณ์ใน
ตัวเอง ที่ไม่ข้องเกี่ยวกับระบบงำนอื่น ๆ
กำรติดตั้ง (Installation)
การจัดทาเอกสารคู่มือใช้งาน (Documentation/Manuals)
จัดได้ว่ำเป็นเอกสำรส่วนหนึ่งที่ใช้สำหรับกำรฝึกอบรม คุณภำพ และชนิด
ของเอกสำรคู่มือกำรใช้งำน แต่หมำยถึงควำมสำเร็จของระบบ โดยพื้นฐำนชนิด
ของเอกสำรคู่มือใช้งำน ประกอบด้วย เอกสำรคู่มือสำหรับผู้ใช้ และเอกสำรคู่มือ
ระบบ
เอกสารคู่มือสาหรับผู้ใช้ (User Documentation) อ่ำนคู่มือใช้งำนก่อนที่จะปฏิบัติงำน
จริงกับระบบ ข้อควำมในเอกสำรต้องชัดเจน อ่ำนแล้วง่ำยต่อกำรทำควำมเข้ำใจ
และควรมีกำรจัดแบ่งลำดับหัวข้อต่ำง ๆ ให้เหมำะสม มีสำรบัญ และดัชนีเพื่อใช้
สำหรับช่วยค้นหำคำที่ต้องกำรได้เอกสำรคู่มือสำหรับผู้ใช้ในบำงครั้งอำจเรียกว่ำ
User’s Manual แบ่งเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
การจัดทาเอกสารคู่มือใช้งาน (Documentation/Manuals)
เอกสารคู่มือสาหรับผู้ใช้ (User Documentation)
ระบบความช่วยเหลือ (The Help System) เป็นกำรออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้ที่
ต้องกำรทรำบว่ำจะปฏิบัติงำนกับฟังก์ชันต่ำง ๆ เหล่ำนี้อย่ำงไร
กำรจัดทำเอกสำรคู่มือใช้งำน (Documentation/Manuals)
เอกสารคู่มือสาหรับผู้ใช้ (User Documentation)
คู่มือปฏิบัติงาน (Procedures Manuals) เป็นกำรอธิบำยว่ำจะปฏิบัติงำนกับ
งำนทำงธุรกิจนี้อย่ำงไร
การฝึ กสอน (Tutorials) เป็นกำร
ฝึกสอนให้ผู้ใช้สำมำรถระบบได้ด้วย
บทเรียน
การจัดทาเอกสารคู่มือใช้งาน (Documentation/Manuals)
เอกสารคู่มือระบบ (System Documentation) จะ
ช่วยให้ผู้ปฏิบัติกำรหรือโอเปอเรเตอร์ได้เข้ำใจเกี่ยวกับ
แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ว่ำจะจัดกำรกับระบบ หรือ
บำรุงรักษำระบบอย่ำงไรหลังจำกที่ได้ดำเนินกำรติดตั้ง
ไปแล้ว รวมถึงกำรปฏิบัติกำรเพื่อปรับปรุงระบบให้มี
ประสิทธิภำพอย่ำงไร จะดำเนินกำรแก้ไขอย่ำงไรใน
กรณีที่ระบบเกิดข้อขัดข้อง กำรติดตั้งอุปกรณ์ฮำร์ดแวร์
และซอฟต์แวร์ต้องดำเนินกำรอย่ำงไร กำรอนุญำต
หรือไม่อนุญำตให้ผู้ใช้งำนเข้ำถึงข้อมูลในส่วนต่ำง ๆ
วิธีกำรเพิ่มหรือเคลื่อนย้ำยอุปกรณ์ออกจำกระบบ และ
กำรสำรองข้อมูลระบบ
การฝึกอบรม (Training)
ผู้ใช้ คือ ผู้ที่โต้ตอบกับระบบเพื่อทำงำนประจำวัน
ผู้ปฏิบัติกำรหรือโอเปอเรเตอร์ ผู้ที่ทำหน้ำที่ปฏิบัติกำรสนับสนุนระบบให้
สำมำรถดำเนินกำรได้ตำมปกติ
การฝึกอบรม (Training)
ชนิดของการฝึ กอบรม (Types of Training) กำรฝึกอบรม จึงสมควร
ดำเนินกำรฝึกอบรมตำมชนิดของกลุ่มบุคคล ซึ่งประกอบด้วย กำรฝึกอบรมผู้ใช้
และกำรฝึกอบรมผู้ปฏิบัติกำร
- กำรฝึกอบรมผู้ใช้ (User Training) จะตั้งอยู่บนพื้นฐำนกำรทำงำนของระบบ
และควำมต้องกำรเข้ำถึงข้อมูลของผู้ใช้เป็นสำคัญ จะต้องอธิบำยให้ผู้ใช้เข้ำใจถึง
กำรทำงำนของระบบว่ำประกอบด้วยอะไรบ้ำง และจะต้องดำเนินกำรอย่ำงไรเป็น
สำคัญ
- กำรฝึกอบรมผู้ปฏิบัติกำร (Operator Training) จะมุ่งควำมสนใจถึงหน้ำที่กำร
สนับสนุนระบบเป็นสำคัญ ด้วยกำรอธิบำยว่ำระบบมีกำรทำงำนอย่ำงไร มำกกว่ำที่
จะอธิบำยว่ำระบบทำอะไรบ้ำง
การฝึกอบรม (Training)
วิธีการฝึกอบรม (Training Method)
- ฝึกอบรมโดยใช้วิทยำกร กำรบรรยำย กำรอภิปรำย หรือกำรสำธิต
ประกอบกำรฝึกอบรม
- ฝึกอบรมด้วยตนเอง (Online Help) CBT (Computer-Based Training)
การประเมินผลระบบ (System Evaluation)
ควรกำหนดในช่วงระยะเวลำที่เหมำะสมของกำรประเมินผลระบบ ก็คือ ควร
ดำเนินกำรภำยหลังกำรติดตั้งและใช้งำนไปแล้วประมำณ 6 – 9 เดือน
จุดประสงค์หลัก ก็คือ ต้องกำรประเมินผลระบบงำนว่ำ ระบบใหม่ที่ติดตั้งและ
ใช้งำนนั้นเป็ นไปตำมควำมต้องกำรหรือวัตถุประสงค์ของผู้ใช้หรือไม่มี
ข้อบกพร่องส่วนใดบ้ำงที่คิดว่ำน่ำจะได้รับกำรปรับปรุง ไม่ว่ำจะเป็นด้ำนฟังก์ชัน
กำรทำงำนของระบบ กำรโต้ตอบกับระบบ ควำมปลอดภัยของระบบ รวมถึง
เอกสำรคู่มือประกอบกำรใช้งำน
การบารุงรักษาระบบ (Systems Maintenance)
ชนิดของกำรบำรุงรักษำประกอบด้วย 4 วิธี
1. การบารุงรักษาด้วยการแก้ไขให้ถูกต้อง (Corrective Maintenance) เป็นกำร
ควบคุมกำรทำงำนของระบบที่ดำเนินงำนอยู่ประจำวัน ให้ดำเนินกำรต่อไปได้ ซึ่ง
ผู้ใช้อำจพบข้อผิดพลำดในระบบกำรทำงำนบำงส่วน ดังนั้น จะต้องได้รับกำรแก้ไข
ให้ถูกต้องเพื่อให้ระบบงำนสำมำรถดำเนินกำรต่อไปได้ตำมปกติ
2. การบารุงรักษาด้วยการปรับระบบให้สามารถรองรับสภาพแวดล้อมใหม่ที่
เปลี่ยนแปลงไป (Adaptive Maintenance) หรือเป็นไปตำมเทคโนโลยี นอกจำกนี้
Adaptive Maintenance ยังรวมถึงกำรปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้เป็นไปตำมควำม
ต้องกำรใหม่ด้วย
การบารุงรักษาระบบ (Systems Maintenance)
ชนิดของกำรบำรุงรักษำประกอบด้วย 4 วิธี
• การบารุงรักษาด้วยการปรับปรุงให้ระบบมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น (Perfective
Maintenance) เป็นกำรบำรุงรักษำด้วยกำรเพิ่มคุณสมบัติใหม่ (Features) หรือ
ปรับปรุงกระบวนกำรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภำพดียิ่งขึ้นกว่ำเดิม
• การบารุงรักษาด้วยการป้องกัน (Preventive Maintenance) เพื่อช่วยลด
ข้อผิดพลำดที่อำจเกิดขึ้นในอนำคต

More Related Content

Similar to การนำระบบไปใช้/การบำรุงรักษาระบบ

61 sql server 2008 complete
61 sql server 2008 complete61 sql server 2008 complete
61 sql server 2008 completeTae Delphi
 
ระบบเข้างาน-ลางานในระบบ by IDEA2Mobile.com
ระบบเข้างาน-ลางานในระบบ by IDEA2Mobile.comระบบเข้างาน-ลางานในระบบ by IDEA2Mobile.com
ระบบเข้างาน-ลางานในระบบ by IDEA2Mobile.com
Anantachai Ittiworapong
 
EveryBitsConsult_Services_Overview2.0
EveryBitsConsult_Services_Overview2.0EveryBitsConsult_Services_Overview2.0
EveryBitsConsult_Services_Overview2.0Atthaboon Sanurt
 
คอม
คอมคอม
Chapter 6 system development
Chapter 6 system developmentChapter 6 system development
Chapter 6 system developmentPa'rig Prig
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ 11
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์  11โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์  11
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ 11monoiiza
 
3 ca-computer system structure
3 ca-computer system structure3 ca-computer system structure
3 ca-computer system structurekrissapat
 
Workshop03
Workshop03Workshop03
Workshop03
Chaiya Wichianlam
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
juthawadee555
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
kat55
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
juthawadee555
 

Similar to การนำระบบไปใช้/การบำรุงรักษาระบบ (20)

61 sql server 2008 complete
61 sql server 2008 complete61 sql server 2008 complete
61 sql server 2008 complete
 
ระบบเข้างาน-ลางานในระบบ by IDEA2Mobile.com
ระบบเข้างาน-ลางานในระบบ by IDEA2Mobile.comระบบเข้างาน-ลางานในระบบ by IDEA2Mobile.com
ระบบเข้างาน-ลางานในระบบ by IDEA2Mobile.com
 
Agent
AgentAgent
Agent
 
EveryBitsConsult_Services_Overview2.0
EveryBitsConsult_Services_Overview2.0EveryBitsConsult_Services_Overview2.0
EveryBitsConsult_Services_Overview2.0
 
Lesson 4 (misson)
Lesson 4 (misson)Lesson 4 (misson)
Lesson 4 (misson)
 
Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2
 
Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2Lesson 4 (misson)2
Lesson 4 (misson)2
 
CI/CD
CI/CDCI/CD
CI/CD
 
SDLC
SDLCSDLC
SDLC
 
คอม
คอมคอม
คอม
 
7
77
7
 
7
77
7
 
Chapter 6 system development
Chapter 6 system developmentChapter 6 system development
Chapter 6 system development
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ 11
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์  11โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์  11
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ 11
 
3 ca-computer system structure
3 ca-computer system structure3 ca-computer system structure
3 ca-computer system structure
 
Workshop03
Workshop03Workshop03
Workshop03
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการโครงงาน ระบบปฏิบัติการ
โครงงาน ระบบปฏิบัติการ
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
Software
SoftwareSoftware
Software
 

More from CC Nakhon Pathom Rajabhat University

ภาษา php
ภาษา phpภาษา php
ภาษา java sript
ภาษา java sriptภาษา java sript
ภาษา java sript
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
session cookies
session cookiessession cookies
ภาษา css
ภาษา cssภาษา css
ภาษา xhtml
ภาษา xhtmlภาษา xhtml
ภาษา html5
ภาษา html5ภาษา html5
การสร้่างเว็บด้วยภาษา html
การสร้่างเว็บด้วยภาษา htmlการสร้่างเว็บด้วยภาษา html
การสร้่างเว็บด้วยภาษา html
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
หลักการออกแบบเว็บไซต์
หลักการออกแบบเว็บไซต์หลักการออกแบบเว็บไซต์
หลักการออกแบบเว็บไซต์
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
ปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจ
ปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจ
ปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจ
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซการออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
การออกแบบเอาต์พุต/การออกแบบอินพุต
การออกแบบเอาต์พุต/การออกแบบอินพุตการออกแบบเอาต์พุต/การออกแบบอินพุต
การออกแบบเอาต์พุต/การออกแบบอินพุต
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
Entity Relationship
Entity RelationshipEntity Relationship
แบบจำลองระบบ
แบบจำลองระบบแบบจำลองระบบ
แบบจำลองระบบ
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
การวิเคราะห์ระบบ 2
การวิเคราะห์ระบบ 2การวิเคราะห์ระบบ 2
การวิเคราะห์ระบบ 2
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
การวิเคราะห์ระบบ 1
การวิเคราะห์ระบบ 1การวิเคราะห์ระบบ 1
การวิเคราะห์ระบบ 1
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศการพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ระบบ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ระบบความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ระบบ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ระบบ
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
บทที่7 การประยุกต์ใช้ในงานทางด้านโยธา
บทที่7 การประยุกต์ใช้ในงานทางด้านโยธาบทที่7 การประยุกต์ใช้ในงานทางด้านโยธา
บทที่7 การประยุกต์ใช้ในงานทางด้านโยธา
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
การประยุกต์ใช้ในงานทางไฟฟ้า
การประยุกต์ใช้ในงานทางไฟฟ้าการประยุกต์ใช้ในงานทางไฟฟ้า
การประยุกต์ใช้ในงานทางไฟฟ้า
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
 

More from CC Nakhon Pathom Rajabhat University (20)

ภาษา php
ภาษา phpภาษา php
ภาษา php
 
ภาษา java sript
ภาษา java sriptภาษา java sript
ภาษา java sript
 
session cookies
session cookiessession cookies
session cookies
 
ภาษา css
ภาษา cssภาษา css
ภาษา css
 
ภาษา xhtml
ภาษา xhtmlภาษา xhtml
ภาษา xhtml
 
ภาษา html5
ภาษา html5ภาษา html5
ภาษา html5
 
การสร้่างเว็บด้วยภาษา html
การสร้่างเว็บด้วยภาษา htmlการสร้่างเว็บด้วยภาษา html
การสร้่างเว็บด้วยภาษา html
 
หลักการออกแบบเว็บไซต์
หลักการออกแบบเว็บไซต์หลักการออกแบบเว็บไซต์
หลักการออกแบบเว็บไซต์
 
ปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจ
ปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจ
ปฏิบัติการการพัฒนาออกแบบและการเขียนโปรแกรมเว็บเพจ
 
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซการออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
การออกแบบระบบและการออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ
 
การออกแบบเอาต์พุต/การออกแบบอินพุต
การออกแบบเอาต์พุต/การออกแบบอินพุตการออกแบบเอาต์พุต/การออกแบบอินพุต
การออกแบบเอาต์พุต/การออกแบบอินพุต
 
Entity Relationship
Entity RelationshipEntity Relationship
Entity Relationship
 
แบบจำลองระบบ
แบบจำลองระบบแบบจำลองระบบ
แบบจำลองระบบ
 
การวิเคราะห์ระบบ 2
การวิเคราะห์ระบบ 2การวิเคราะห์ระบบ 2
การวิเคราะห์ระบบ 2
 
การวิเคราะห์ระบบ 1
การวิเคราะห์ระบบ 1การวิเคราะห์ระบบ 1
การวิเคราะห์ระบบ 1
 
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศการพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
การพัฒนาระบบสารสนเทศและวัฏจักรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ระบบ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ระบบความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ระบบ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ระบบ
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
 
บทที่7 การประยุกต์ใช้ในงานทางด้านโยธา
บทที่7 การประยุกต์ใช้ในงานทางด้านโยธาบทที่7 การประยุกต์ใช้ในงานทางด้านโยธา
บทที่7 การประยุกต์ใช้ในงานทางด้านโยธา
 
การประยุกต์ใช้ในงานทางไฟฟ้า
การประยุกต์ใช้ในงานทางไฟฟ้าการประยุกต์ใช้ในงานทางไฟฟ้า
การประยุกต์ใช้ในงานทางไฟฟ้า
 

Recently uploaded

1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
atwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtxatwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtx
Bangkok, Thailand
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 

Recently uploaded (10)

1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
atwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtxatwordfamily words with Thai translationtx
atwordfamily words with Thai translationtx
 
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdfงานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
งานนำเสนอ ภาษากับการสื่อสาร เพื่อการพัฒนา.pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 

การนำระบบไปใช้/การบำรุงรักษาระบบ

  • 2. บทนำ ระยะนี้จะทำให้ระบบเกิดผลด้วยกำรสร้ำงระบบขึ้นมำ ซึ่งข้องเกี่ยวกับ กิจกรรมต่ำง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. กำรจัดหำระบบ 2. กำรเขียนโปรแกรม (Coding) 3. กำรทดสอบ (Testing) 4. กำรติดตั้ง (Installation) 5. กำรจัดทำเอกสำรคู่มือกำรใช้งำน (Documentation) 6. กำรฝึกอบรม (Training) 7. กำรประเมินผลระบบ (System Evaluation)
  • 3. หัวข้อกำรเรียนรู้ 1. ขั้นตอนกำรเขียนโปรแกรม 2. กำรทดสอบแบบ Black Box และ White Box 3. วิธีกำรติดตั้งระบบ 4. เอกสำรคู่มือกำรใช้งำน 5. ชนิดของกำรฝึกอบรม 6. แบบฟอร์มกำรประเมินผล 7. วิธีกำรบำรุงรักษำระบบ
  • 5. กำรจัดหำระบบ 1. การจัดหาอุปกรณ์ (Hardware Acquisition) กำรจัดหำอุปกรณ์ การซื้อระบบสาเร็จรูป การขอข้อเสนอทั่วไป การขอข้อมูลเสนอที่เฉพาะเจาะจง การซื้อจากผู้ขายรายเดียวหรือหลายราย
  • 6. กำรจัดหำระบบ 2. การจัดหาโปรแกรมประยุกต์ (Application Software Acquisition) กำรจัดหำโปรแกรมประยุกต์ การซื้อเข้ามาทั้งโปรแกรม การพัฒนาขึ้นเอง
  • 7. กำรจัดหำระบบ 3. การพิจารณาข้อเสนอของผู้ขาย (Vendor Review and Evaluation) กำรพิจำรณำข้อเสนอของผู้ขำย การทดสอบแบบ Benchmark การให้คะแนนผู้ขาย
  • 8. การเขียนโปรแกรม (Coding) คือกำรสร้ำงระบบขึ้นมำเพื่อใช้งำน โดยผู้รับผิดชอบคือโปรแกรมเมอร์ โดย กำรเขียนโปรแกรม ประกอบด้วยขั้นตอนต่ำง ๆ ดังต่อไปนี้ • ศึกษาจากเอกสารต่าง ๆ หมำยถึงเอกสำรที่ได้จำกกำรวิเครำะห์ และออกแบบ ที่นักวิเครำะห์ระบบได้จัดทำไว้ให้ ประกอบด้วย แผนภำพกระแสข้อมูล คำอธิบำยกำรประมวลผลข้อมูล พจนำนุกรมข้อมูล รวมถึงรูปแบบกำร บันทึกข้อมูลทำงจอภำพ และรูปแบบเอำต์พุตหรือรำยงำนต่ำงๆ • ออกแบบโปรแกรม เพื่อแก้ปัญหำ และตัดสินใจแนวทำงเพื่อให้กำรพัฒนำใน ขั้นตอนนี้เกิดผลสำเร็จ • เขียนโปรแกรม ซึ่งขึ้นอยู่กับภำษำคอมพิวเตอร์หรือแอปพลิเคชันที่ใช้เขียน
  • 9. การเขียนโปรแกรม (Coding) 4. ทดสอบโปรแกรม ตำมปกติแล้ว โปรแกรมเมอร์จะดำเนินกำรเขียนโปรแกรม ควบคู่ไปกับกำรทดสอบโปรแกรมเสมอ โปรแกรมเมอร์นอกจำกตรวจสอบควำม ถูกต้องในรูปแบบภำษำเขียนแล้ว ยังต้องตรวจสอบควำมถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้ จำกกำรประมวลผลของโปรแกรมด้วย 5. จัดทาเอกสารประกอบโปรแกรม เอกสำรที่ใช้ประกอบกำรเขียนโปรแกรม กำร จัดทำเอกสำรดังกล่ำว ก็เพื่อประโยชน์ต่อกำรปรับปรุงแก้ไขโปรแกรมในอนำคต
  • 11. กำรทดสอบ (Testing) เทคนิคกำรทดสอบ (Testing Techniques) สามารถดาเนินการทดสอบวิธีการต่อไปนี้ Black Box Testing เป็นการทดสอบฟังก์ชันการทางานของระบบที่ต้องการ ทราบเพียงว่า เมื่อมีการอินพุตข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว จะได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างไร โดยไม่สนใจว่าระบบมีกระบวนการทางานอย่างไร White Box Testing เป็นการทดสอบโปรแกรมภายในว่ามีวิธีการเขียนอย่างไร มีการตรวจสอบฟังก์ชันการทางานว่าถูกต้องและครบถ้วนหรือไม่ โปรแกรมที่ เขียนขึ้นมีข้อผิดพลาดเชิงตรรกะ (Logic Error) หรือไม่ มีการออกแบบตรรกะ โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพหรือไม่ อย่างไร
  • 13. กำรทดสอบ (Testing) ขั้นตอนกำรทดสอบ (Stages of Tests) จะประกอบด้วย 4 ขั้นตอนพื้นฐาน คือ 1. การทดสอบหน่วยย่อย (Unit Testing) 2. การทดสอบด้วยการนาโปรแกรมมาประกอบรวมกัน (Integration Testing) 3. การทดสอบทั้งระบบ (System Testing) 4. การทดสอบการยอมรับในระบบ (Acceptance Testing)
  • 14. การทดสอบ (Testing) การทดสอบหน่วยย่อย (Unit Testing) มุ่งเน้นถึงกำรตรวจสอบควำมถูกต้องและ ข้อผิดพลำดที่เกิดขึ้นภำยในโมดูล โปรแกรมเมอร์ก็จะทดสอบจนกระทั่ง เชื่อว่ำ โค้ดโมดูลนี้ปรำศจำกข้อผิดพลำด การทดสอบด้วยการนาโปรแกรมมาประกอบรวมกัน (Integration Testing) คือกำร ทดสอบ ด้วยกำรนำกลุ่มโปรแกรมหรือโมดูลต่ำง ๆ มำประกอบรวมกัน ระบบ จะต้องทำงำนโดยปรำศจำกข้อผิดพลำด และต้องมีควำมมั่นใจว่ำกำรเชื่อมโยง และกำรส่งผ่ำนข้อมูลไปมำระหว่ำงโมดูลจะต้องทำงำนอย่ำงถูกต้องและครบถ้วน สำมำรถดำเนินกำรด้วยวิธีแบบล่ำงขึ้นบน (Bottom-up Integration) และวิธีแบบ บนลงล่ำง (Top-down Integration)
  • 15. กำรทดสอบ (Testing) การทดสอบทั้งระบบ (System Testing) คือกำรทดสอบระบบทั้งหมดก่อนที่จะ ดำเนินกำรส่งมอบให้กับลูกค้ำ นักวิเครำะห์ระบบจะต้องมั่นใจว่ำทุก ๆ โมดูล และโปรแกรมต่ำง ๆ จะต้องทำงำนร่วมกันโดยปรำศจำกข้อผิดพลำด และตรง ตำมควำมต้องกำรของผู้ใช้ รวมถึงกำรทดสอบประสิทธิภำพของระบบ (Performance Testing) ว่ำระบบมีควำมน่ำเชื่อถือมำกน้อยเพียงไร การทดสอบการยอมรับในระบบ (Acceptance Testing) คือกำรตรวจรับระบบ ที่ผู้ใช้ จะเป็นผู้ยืนยันถึงควำมสมบูรณ์ของระบบ ว่ำระบบสำมำรถรองรับกระบวนกำร ทำงธุรกิจได้ตรงควำมต้องกำร ถูกต้อง และครบถ้วนหรือไม่ อย่ำงไร
  • 16. การทดสอบ (Testing) การทดสอบแบบอัลฟา (Alpha Testing) จะดำเนินกำรทดสอบระบบด้วยกำรจำลอง สภำพแวดล้อมขึ้นมำ การทดสอบแบบเบต้า (Beta Testing) ทีมงำนจะให้ผู้ใช้งำนจริงทำกำรทดสอบระบบ บนสภำพแวดล้อมจริง และใช้ข้อมูลจริงในกำรทดสอบ
  • 17. การติดตั้ง (Installation) นักวิเครำะห์ระบบ สำมำรถเลือกใช้วิธีกำรติดตั้งที่มีอยู่หลำยวิธีด้วยกันตำม ควำมเหมำะสม ซึ่งประกอบด้วยวิธีกำรติดตั้ง 4 วิธีด้วยกันคือ 1. การติดตั้งเพื่อใช้งานใหม่ทันที (Direct Installation) เนื่องมำจำกระบบเดิมกับ ระบบใหม่มีควำมแตกต่ำงกันอย่ำงสิ้นเชิง ไม่สำมำรถนำผลลัพธ์จำกระบบทั้งสอง มำทำกำรเปรียบเทียบกันได้สำหรับวิธีนี้บำงครั้งอำจเรียกว่ำ Immediate Cutover ซึ่งถือเป็นวิธีกำรติดตั้งที่ง่ำยที่สุด
  • 18. การติดตั้ง (Installation) 1. การติดตั้งเพื่อใช้งานใหม่ทันที (Direct Installation) ข้อดี - ระบบใหม่สำมำรถดำเนินกำรใช้งำนได้ทันที - สถำนกำรณ์บังคับให้ผู้ใช้งำนต้องใช้ระบบใหม่ โดยไม่สำมำรถกลับไปใช้ ระบบงำนเดิมได้ - ง่ำยต่อกำรวำงแผน - ค่ำใช้จ่ำยต่ำ และใช้เวลำน้อย
  • 19. การติดตั้ง (Installation) 1. การติดตั้งเพื่อใช้งานใหม่ทันที (Direct Installation) ข้อเสีย - อำจเกิดข้อผิดพลำดที่คำดไม่ถึงในขณะที่ใช้ระบบใหม่ - ถึงแม้ระบบใหม่จะใช้งำนได้จริงก็ตำม แต่นั่นไม่ได้หมำยถึงควำมสมบูรณ์ของ ระบบใหม่โดยรวม - จัดเป็นวิธีกำรติดตั้งที่มีควำมเสี่ยงสูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับกำรติดตั้งด้วยวิธีอื่น ๆ
  • 20. การติดตั้ง (Installation) 2. การติดตั้งแบบคู่ขนาน (Parallel Installation) เป็นวิธีกำรติดตั้งที่มีกำร ปฏิบัติงำนทั้งระบบเดิมกับระบบใหม่ขนำนกันไป หำกกรณีที่ระบบใหม่เกิด ปัญหำขึ้น ก็จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ เนื่องจำกระบบงำนเดิมก็ยังคงดำเนินกำร ปกติ โดยระบบจะสมบูรณ์ต่อเมื่อกำรดำเนินงำนของระบบใหม่เป็นไปอย่ำงไม่มี ปัญหำหรือไม่พบข้อผิดพลำดใด ๆ จนกระทั่งมั่นใจ แล้วจึงค่อยดำเนินกำรใช้ ระบบใหม่ และยกเลิกใช้งำนระบบเดิมในที่สุด ข้อดี - มีควำมปลอดภัยสูง เนื่องจำกหำกระบบใหม่เกิดข้อผิดพลำด ระบบเดิมก็ยัง สำมำรถนำมำใช้งำนเพื่อกำรสำรองได้ - สำมำรถเปรียบเทียบกระบวนกำรทำงำน รวมทั้งเอำต์พุตที่ได้จำก ระบบระหว่ำงระบบเดิมกับระบบใหม่
  • 21. การติดตั้ง (Installation) 2. การติดตั้งแบบคู่ขนาน (Parallel Installation) ข้อเสีย - ใช้ต้นทุนสูง เนื่องจำกจำเป็นต้องดำเนินกำรทั้งระบบเดิม กับระบบใหม่ควบคู่ ด้วยกัน - สิ้นเปลืองเวลำไปกับกำรทำงำนทั้งสองระบบ และกำรเปรียบเทียบระบบทั้งสอง - ในกรณีที่ระบบใหม่เกิดข้อผิดพลำด ผู้ใช้งำนอำจเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อระบบใหม่ และอำจมุ่งควำมสนใจกับกำรใช้งำนระบบงำนเก่ำเช่นเดิม - ยำกต่อกำรวำงแผน และมีขั้นตอนควบคุมกำรทำงำนที่ยุ่งยำก
  • 22. การติดตั้ง (Installation) 3. การติดตั้งแบบทีละเฟส (Phased Installation) เป็นวิธีกำรติดตั้งที่มีกำรกำหนด เป็นระยะ ๆ โดยแต่ละระยะจะมีกำรเพิ่มองค์ประกอบหรือฟังก์ชันกำรทำงำนของ ระบบ ข้อดี - เจ้ำของระบบ หรือเจ้ำของกิจกำรไม่จำเป็นต้อง ชำระเงินก้อนใหญ่ทั้งหมด สำมำรถชำระเงินค่ำระบบ ในแต่ละส่วน ของแต่ละระยะนั้น ๆ ได้ - หำกเกิดข้อผิดพลำด จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบโดยรวม โดยจะส่งผลต่อ ระบบ
  • 23. การติดตั้ง (Installation) 3. การติดตั้งแบบทีละเฟส (Phased Installation) ข้อเสีย - อำจใช้เวลำมำกเกินไปกับบำงระบบงำน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำรรอพัฒนำระบบงำนย่อย ในลำดับถัดไปของระยะต่อไป - หำกระบบย่อยต่ำง ๆ ไม่สำมำรถแบ่งแยกโดยอิสระได้ ก็จะยำกต่อกำรแบ่ง กำรติดตั้งทีละระยะ กล่ำวคือ ไม่เหมำะสมกับระบบงำนที่ไม่สำมำรถแบ่งระบบ ออกเป็นส่วนย่อย ๆ ได้
  • 24. การติดตั้ง (Installation) 4. การติดตั้งแบบโครงการนาร่อง (Pilot Project) โดยจะดำเนินกำรติดตั้งระบบ เฉพำะส่วนงำนใดส่วนงำนหนึ่งก่อน ข้อดี - ลดควำมเสี่ยงได้ดี และค่ำใช้จ่ำยต่ำ ข้อเสีย - วิธีนี้เหมำะสมกับระบบที่มีควำมสมบูรณ์ใน ตัวเอง ที่ไม่ข้องเกี่ยวกับระบบงำนอื่น ๆ
  • 26. การจัดทาเอกสารคู่มือใช้งาน (Documentation/Manuals) จัดได้ว่ำเป็นเอกสำรส่วนหนึ่งที่ใช้สำหรับกำรฝึกอบรม คุณภำพ และชนิด ของเอกสำรคู่มือกำรใช้งำน แต่หมำยถึงควำมสำเร็จของระบบ โดยพื้นฐำนชนิด ของเอกสำรคู่มือใช้งำน ประกอบด้วย เอกสำรคู่มือสำหรับผู้ใช้ และเอกสำรคู่มือ ระบบ เอกสารคู่มือสาหรับผู้ใช้ (User Documentation) อ่ำนคู่มือใช้งำนก่อนที่จะปฏิบัติงำน จริงกับระบบ ข้อควำมในเอกสำรต้องชัดเจน อ่ำนแล้วง่ำยต่อกำรทำควำมเข้ำใจ และควรมีกำรจัดแบ่งลำดับหัวข้อต่ำง ๆ ให้เหมำะสม มีสำรบัญ และดัชนีเพื่อใช้ สำหรับช่วยค้นหำคำที่ต้องกำรได้เอกสำรคู่มือสำหรับผู้ใช้ในบำงครั้งอำจเรียกว่ำ User’s Manual แบ่งเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
  • 27. การจัดทาเอกสารคู่มือใช้งาน (Documentation/Manuals) เอกสารคู่มือสาหรับผู้ใช้ (User Documentation) ระบบความช่วยเหลือ (The Help System) เป็นกำรออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้ที่ ต้องกำรทรำบว่ำจะปฏิบัติงำนกับฟังก์ชันต่ำง ๆ เหล่ำนี้อย่ำงไร
  • 28. กำรจัดทำเอกสำรคู่มือใช้งำน (Documentation/Manuals) เอกสารคู่มือสาหรับผู้ใช้ (User Documentation) คู่มือปฏิบัติงาน (Procedures Manuals) เป็นกำรอธิบำยว่ำจะปฏิบัติงำนกับ งำนทำงธุรกิจนี้อย่ำงไร การฝึ กสอน (Tutorials) เป็นกำร ฝึกสอนให้ผู้ใช้สำมำรถระบบได้ด้วย บทเรียน
  • 29. การจัดทาเอกสารคู่มือใช้งาน (Documentation/Manuals) เอกสารคู่มือระบบ (System Documentation) จะ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติกำรหรือโอเปอเรเตอร์ได้เข้ำใจเกี่ยวกับ แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ว่ำจะจัดกำรกับระบบ หรือ บำรุงรักษำระบบอย่ำงไรหลังจำกที่ได้ดำเนินกำรติดตั้ง ไปแล้ว รวมถึงกำรปฏิบัติกำรเพื่อปรับปรุงระบบให้มี ประสิทธิภำพอย่ำงไร จะดำเนินกำรแก้ไขอย่ำงไรใน กรณีที่ระบบเกิดข้อขัดข้อง กำรติดตั้งอุปกรณ์ฮำร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ต้องดำเนินกำรอย่ำงไร กำรอนุญำต หรือไม่อนุญำตให้ผู้ใช้งำนเข้ำถึงข้อมูลในส่วนต่ำง ๆ วิธีกำรเพิ่มหรือเคลื่อนย้ำยอุปกรณ์ออกจำกระบบ และ กำรสำรองข้อมูลระบบ
  • 30. การฝึกอบรม (Training) ผู้ใช้ คือ ผู้ที่โต้ตอบกับระบบเพื่อทำงำนประจำวัน ผู้ปฏิบัติกำรหรือโอเปอเรเตอร์ ผู้ที่ทำหน้ำที่ปฏิบัติกำรสนับสนุนระบบให้ สำมำรถดำเนินกำรได้ตำมปกติ
  • 31. การฝึกอบรม (Training) ชนิดของการฝึ กอบรม (Types of Training) กำรฝึกอบรม จึงสมควร ดำเนินกำรฝึกอบรมตำมชนิดของกลุ่มบุคคล ซึ่งประกอบด้วย กำรฝึกอบรมผู้ใช้ และกำรฝึกอบรมผู้ปฏิบัติกำร - กำรฝึกอบรมผู้ใช้ (User Training) จะตั้งอยู่บนพื้นฐำนกำรทำงำนของระบบ และควำมต้องกำรเข้ำถึงข้อมูลของผู้ใช้เป็นสำคัญ จะต้องอธิบำยให้ผู้ใช้เข้ำใจถึง กำรทำงำนของระบบว่ำประกอบด้วยอะไรบ้ำง และจะต้องดำเนินกำรอย่ำงไรเป็น สำคัญ - กำรฝึกอบรมผู้ปฏิบัติกำร (Operator Training) จะมุ่งควำมสนใจถึงหน้ำที่กำร สนับสนุนระบบเป็นสำคัญ ด้วยกำรอธิบำยว่ำระบบมีกำรทำงำนอย่ำงไร มำกกว่ำที่ จะอธิบำยว่ำระบบทำอะไรบ้ำง
  • 32. การฝึกอบรม (Training) วิธีการฝึกอบรม (Training Method) - ฝึกอบรมโดยใช้วิทยำกร กำรบรรยำย กำรอภิปรำย หรือกำรสำธิต ประกอบกำรฝึกอบรม - ฝึกอบรมด้วยตนเอง (Online Help) CBT (Computer-Based Training)
  • 33. การประเมินผลระบบ (System Evaluation) ควรกำหนดในช่วงระยะเวลำที่เหมำะสมของกำรประเมินผลระบบ ก็คือ ควร ดำเนินกำรภำยหลังกำรติดตั้งและใช้งำนไปแล้วประมำณ 6 – 9 เดือน จุดประสงค์หลัก ก็คือ ต้องกำรประเมินผลระบบงำนว่ำ ระบบใหม่ที่ติดตั้งและ ใช้งำนนั้นเป็ นไปตำมควำมต้องกำรหรือวัตถุประสงค์ของผู้ใช้หรือไม่มี ข้อบกพร่องส่วนใดบ้ำงที่คิดว่ำน่ำจะได้รับกำรปรับปรุง ไม่ว่ำจะเป็นด้ำนฟังก์ชัน กำรทำงำนของระบบ กำรโต้ตอบกับระบบ ควำมปลอดภัยของระบบ รวมถึง เอกสำรคู่มือประกอบกำรใช้งำน
  • 34. การบารุงรักษาระบบ (Systems Maintenance) ชนิดของกำรบำรุงรักษำประกอบด้วย 4 วิธี 1. การบารุงรักษาด้วยการแก้ไขให้ถูกต้อง (Corrective Maintenance) เป็นกำร ควบคุมกำรทำงำนของระบบที่ดำเนินงำนอยู่ประจำวัน ให้ดำเนินกำรต่อไปได้ ซึ่ง ผู้ใช้อำจพบข้อผิดพลำดในระบบกำรทำงำนบำงส่วน ดังนั้น จะต้องได้รับกำรแก้ไข ให้ถูกต้องเพื่อให้ระบบงำนสำมำรถดำเนินกำรต่อไปได้ตำมปกติ 2. การบารุงรักษาด้วยการปรับระบบให้สามารถรองรับสภาพแวดล้อมใหม่ที่ เปลี่ยนแปลงไป (Adaptive Maintenance) หรือเป็นไปตำมเทคโนโลยี นอกจำกนี้ Adaptive Maintenance ยังรวมถึงกำรปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้เป็นไปตำมควำม ต้องกำรใหม่ด้วย
  • 35. การบารุงรักษาระบบ (Systems Maintenance) ชนิดของกำรบำรุงรักษำประกอบด้วย 4 วิธี • การบารุงรักษาด้วยการปรับปรุงให้ระบบมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น (Perfective Maintenance) เป็นกำรบำรุงรักษำด้วยกำรเพิ่มคุณสมบัติใหม่ (Features) หรือ ปรับปรุงกระบวนกำรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภำพดียิ่งขึ้นกว่ำเดิม • การบารุงรักษาด้วยการป้องกัน (Preventive Maintenance) เพื่อช่วยลด ข้อผิดพลำดที่อำจเกิดขึ้นในอนำคต