1. รายงานการวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง
คำาศัพท์ภาษาอังกฤษ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4-6
โดย
นางสาวสบาไพ เย็นใจ
รายงานการวิจัยชั้นเรียนนี้ เป็น
เอกสารการวิจัยส่วนบุคคล
ประกอบการปฏิบัติราชการ
ตำาแหน่ง ครูผู้ช่วย
โรงเรียนบ้านโคกใหญ่
ภาคเรียนที่ 2 / 2555
สำานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษา

2. อุบลราชธานี เขต 5
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่องงานวิจัย การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงคำาศัพท์ภาษา
อังกฤษของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4-6 โรงเรียนบ้านโคก
ใหญ่ ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย
จ.อุบลราชธานี
ชื่อผู้ทำาวิจัย นางสาวสบาไพ เย็นใจ
ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนบ้านโคกใหญ่ ต.นาจะหลวย
อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
การทำาวิจัยเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงคำาศัพท์
ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนบ้านโคก
ใหญ่ ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี มีวัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคำาศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4-6 โดยผู้วิจัยได้สร้างชุดฝึกการอ่านคำาศัพท์
จำานวน 13 ชุด โดยจัดทำาเป็นหมวดหมู่ จำานวน 13 ชุด
เพราะกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา ดังนั้นการเรียนรู้
คำาศัพท์ให้มากที่สุดจึงเป็นสิ่งสำาคัญมาก หลังจากการฝึกอ่าน ซำ้า
แล้วซำ้าอีก ทำาให้นักเรียนได้เรียนรู้คำาศัพท์มากขึ้น จนสามารถอ่าน
บทความสั้น ๆ ได้อย่างน่าพอใจ ผลสรุปแล้ว นักเรียนมีทักษะการ
อ่านเพิ่มขึ้นร้อยละ 80

3. ชื่อวิจัย การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงคำาศัพท์ภาษาอังกฤษ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนบ้านโคกใหญ่
ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
ชื่อผู้ทำาวิจัย นางสาวสบาไพ เย็นใจ
สถานที่ทำางาน โรงเรียนบ้านโคกใหญ่ ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย
จ.อุบลราชธานี
บทคัดย่อ
มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคำาศัพท์ภาษาอังกฤษของ
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
6 โรงเรียนบ้านโคกใหญ่ ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
โดยผู้วิจัยได้สร้างชุดฝึกการอ่านคำาศัพท์ จำานวน 13 ชุด คือ คำาศัพท์
หมวดหมู่ ผู้วิจัยให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายอ่านแบบทดสอบก่อนฝึก หลัง
จากนั้นดำาเนินการฝึกทักษะการอ่านของนักเรียนด้วยแบบฝึก ทั้ง 13 ชุด
โดยเริ่มทีละชุด เริ่มเรียน ครั้งละประมาณ 15 นาที โดยอ่านหลังการ
อ่านประจำาวัน และหลังจากนั้นก็ เข้าสู่บทเรียน แล้วมอบหมายให้
นักเรียนไปฝึกการอ่านเป็นการบ้าน ผลปรากฏว่าทักษะการอ่านของ
นักเรียนได้รับการพัฒนาในระดับที่น่าพอใจ นักเรียนมีทักษะการอ่านเพิ่ม
ขึ้น ร้อยละ
ความสำาคัญของการวิจัย
วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่นักเรียนชาวชนบท ซึ่งมีปัญหาด้าน
ภาษา เพราะนักเรียนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สาม โดยที่ภาษาถิ่น
เป็นภาษาที่หนึ่ง ภาษาไทยเป็นภาษาที่สอง และต้องเรียนภาษาอังกฤษ
เป็นภาษาที่สาม จึงมีปัญหาด้านการสะกดคำา และการออกเสียงเป็นอย่าง
มาก ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียน เพื่อเป็นพื้นฐาน
ของการเรียนในขั้นสูงต่อไป
การอ่านออกเสียงเป็นทักษะพื้นฐานในการเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งจะ
ส่งผลให้นักเรียนมีการพัฒนาทักษะการเรียนในด้านอื่น ๆ ตามมา เพราะ
การอ่านที่ถูกต้องจะทำาให้นักเรียนเขียนตัวสะกดได้ถูกต้อง นอกจากนี้การ
อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง จะทำาให้นักเรียนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และนำา

4. ความรู้ด้านภาษาอังกฤษไปพัฒนาตนเองต่อไป ในอาชีพ ในการศึกษาต่อ
ต่อไป
จุดประสงค์ของการวิจัย
1. นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษได้
2. นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะที่เกิดจากการอ่านประเภทต่าง ๆ
และเป็นความรู้พื้นฐานใน การศึกษาต่อในขั้นที่สูงขึ้น
3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ
ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโคกใหญ่ ต.นาจะหลวย
อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 มีผล
สัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษตำ่า
ประชากรและกลุ่มเป้าหมาย
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
6 จำานวน 10 คน โรงเรียนบ้านโคกใหญ่ ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย
จ.อุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555
วิธีดำาเนินการวิจัย
1. นักเรียนทำาแบบทดสอบก่อนเรียน ( Pre-test ) ได้นักเรียนกลุ่ม
เป้าหมายที่ทำาคะแนน แบบทดสอบตำ่ากว่าร้อยละ 50 จำานวน
10 คน
2. สร้างและกำาหนดรูปแบบการพัฒนาทักษะการอ่าน และแบบ
ฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านตามขั้นตอน ต่อไปนี้
2.1 แจงตารางเทียบพยัญชนะและสระให้นักเรียนศึกษาพร้อม
ทั้งอธิบายประกอบ
2.2 ทบทวนความรู้เกี่ยวกับการออกเสียงสระ 2 ประเภท คือ
สระเดี่ยวและสระผสม
2.3 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาสิ่งของใน
ห้องเรียน
2.3 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาสัตว์
2.4 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาผลไม้

5. 2.5 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาส่วนต่าง ๆ
ของร่างกาย
2.6 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาอาหาร และ
เครื่องดื่ม
2.7 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาของเล่น
2.8 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาเครื่องนุ่งห่ม
2.9 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาอาชีพ
2.10 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาจำานวนนับ
2.11 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดวันทั้ง 7
2.12 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดสี
2.13 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำากริยา
2.14 นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาครอบครัว
3. นักเรียนทำาแบบทดสอบหลังเรียน ( Pos-test )
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบและแบบฝึกทักษะการ
อ่าน ดังนี้
1. แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
2. แจงตารางเทียบพยัญชนะและสระให้นักเรียนศึกษาพร้อมทั้ง
อธิบายประกอบ
3. ทบทวนความรู้เกี่ยวกับการออกเสียงสระ 2 ประเภท คือ สระ
เดี่ยวและสระผสม
4. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำาสิ่งของใน
ห้องเรียน
5. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 2 ได้แก่ หมวดคำาสัตว์
6. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 3 ได้แก่ หมวดคำาผลไม้
7. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 4 ได้แก่ หมวดคำาส่วนต่าง ๆ ของ
ร่างกาย
8. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 5 ได้แก่ หมวดคำาอาหาร และ
เครื่องดื่ม
9. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 6 ได้แก่ หมวดคำาของเล่น
10. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 7 ได้แก่ หมวดคำาเครื่องนุ่งห่ม
11. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 8 ได้แก่ หมวดคำาอาชีพ
12. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 9 ได้แก่ หมวดคำาจำานวนนับ
13. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 10 ได้แก่ หมวดวันทั้ง 7

6. 14. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 11 ได้แก่ หมวดสี
15. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 12 ได้แก่ หมวดคำากริยา
16. นักเรียนทำาแบบฝึกชุดที่ 13 ได้แก่ หมวดคำาครอบครัว
ผลการวิจัย
การประเมินผลจากการอ่านของนักเรียนจากเกณฑ์ที่กำาหนดของ
แต่ละชุด คือ
ตารางที่ 1 ตารางแสดงการพัฒนาทักษะในการอ่านแบบฝึกหัดที่ 1 – 13
(Pre-test)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำานวน 10 คน
ลำาดั
บที่
แบ
บ
ฝึก
1
แบ
บ
ฝึก
2
แบ
บ
ฝึก
3
แบ
บ
ฝึก
4
แบบ
ฝึก
5
แบบ
ฝึก
6
แบบ
ฝึก
7
แบบ
ฝึก
8
แบบ
ฝึก
9
แบบ
ฝึก
10
แบบ
ฝึก
11
แบบ
ฝึก
12
แบบ
ฝึก 1
3
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
รว
ม

7. เกณฑ์การให้คะแนน หมายถึง ผ่าน
( ผิดไม่เกิน 5 คำา )
× หมายถึง
ไม่ผ่าน (ผิดตั้งแต่ 6 คำาขึ้นไป)
ตารางที่ 2 ตารางสรุปผลการพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียน
จำานวน 10 คน (Pre-test)
ชุดที่ จำานวนนักเรียน ร้อยละ
1 6 46.15
2 3 23.07
3 2 15.38
4 2 15.38
5 5 38.46
6 5 38.46
7 6 46.15
8 4 30.76
9 3 23.07
10 6 46.15
11 4 30.76
12 5 38.46
13 3 23.07
ตารางที่ 3 ตารางแสดงการพัฒนาทักษะในการอ่านแบบฝึกหัดที่ 1 – 13
(Post-test)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำานวน 10 คน
ลำาดั
บที่
แบ
บ
ฝึก
1
แบ
บ
ฝึก
2
แบ
บ
ฝึก
3
แบ
บ
ฝึก
4
แบบ
ฝึก
5
แบบ
ฝึก
6
แบบ
ฝึก
7
แบบ
ฝึก
8
แบบ
ฝึก
9
แบบ
ฝึก
10
แบบ
ฝึก
11
แบบ
ฝึก
12
แบบ
ฝึก 1
3
1
2
3
4
5
6
7

8. 8
9
10
รว
ม
เกณฑ์การให้คะแนน หมายถึง ผ่าน
( ผิดไม่เกิน 5 คำา )
× หมายถึง
ไม่ผ่าน (ผิดตั้งแต่ 6 คำาขึ้นไป)
ตารางที่ 4 ตารางสรุปผลการพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียน
จำานวน 10 คน (Post-test)
ชุดที่ จำานวนนักเรียน ร้อยละ
1 10 100
2 7 53.84
3 7 53.84
4 7 53.84
5 10 100
6 10 100
7 10 100
8 8 61.53
9 7 53.84
10 9 69.23
11 9 69.23
12 10 100
13 10 100
จากตารางสรุปผลการพัฒนาทักษะการอ่านของกลุ่มเป้าหมาย พบ
ว่า หลังจากนักเรียนได้ฝึกการอ่านแบบฝึกชุดที่ 1 นักเรียนผ่านเกณฑ์
ประเมินร้อยละ 76.92
แบบฝึกชุดที่ 2 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 53.84
แบบฝึกชุดที่ 3 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 53.84
แบบฝึกชุดที่ 4 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 53.84
แบบฝึกชุดที่ 5 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 76.92

9. แบบฝึกชุดที่ 6 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 76.92
แบบฝึกชุดที่ 7 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 76.92
แบบฝึกชุดที่ 8 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 61.53
แบบฝึกชุดที่ 9 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 53.84
แบบฝึกชุดที่ 10 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 69.23
แบบฝึกชุดที่ 11 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 69.23
แบบฝึกชุดที่ 12 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 76.92
แบบฝึกชุดที่ 13 นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 76.92
แสดงว่า นักเรียนมีการพัฒนาทักษะการอ่านดีขึ้น
ตารางที่ 5 ตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการพัฒนาทักษะการ
อ่าน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ลำาดับที่ ก่อนเรียน หลังเรียน
1 8 10
2 6 11
3 8 11
4 6 10
5 8 12
6 7 11
7 7 10
8 6 10
9 8 12
10 7 11
จากตารางเปรียบเทียบพบว่า หลังการพัฒนาทักษะการอ่าน นักเรียน
ทั้งหมดมีผลการอ่านดีขึ้น
สรุปผลการวิจัย
จากการวิจัยในครั้งนี้ พบว่า หลังจากนักเรียนได้อ่านชุดฝึก จาก
แบบฝึกทั้ง 13 ชุด นักเรียนมีทักษะการอ่านดีขึ้น และมีความมั่นใจในการ
อ่านมากขึ้น

10. ข้อเสนอแนะ
การอ่านเป็นทักษะซึ่งจะสมฤทธิ์ผลได้จากการกระทำาอย่างต่อเนื่อง
หรือ สมำ่าเสมอ ดังนั้นจึงควรมีการพัฒนาทักษะการอ่านต่อไป โดย
การกระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสำาคัญและรักการอ่าน โดยครูผู้สอนเรียก
นักเรียนมาอ่านให้ฟังเป็นระยะ ๆ และควรพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง
กับนักเรียนระดับชั้น อื่น ๆ
เอกสารอ้างอิง
มลิวัลย์ พงศ์สุเสนีย์ ,การวิจัยในชั้นเรียน เรื่องการพัฒนาทักษะ
การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับ ปวช. 1 สาขาวิชาช่าง
อิเล็กทรอนิกส์ และช่างไฟฟ้า วิทยาลัยสารพัดช่างนครปฐม
บุญเสริม สัมมนาวงค์ , My E Book เสริมการเรียนรู้ พื้นฐานภาษา
อังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช่วงชั้นที่ 1 และผู้เริ่มเรียน
บุญเสริม สัมมนาวงค์ , My E Book เสริมการเรียนรู้ พื้นฐานภาษา
อังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช่วงชั้นที่ 2
ภาคผนวก

11. 1. คำาศัพท์หมวด สิ่งของในห้องเรียน ( Things in the
classroom )
Vocabulary Reading Meaning
Book บุ๊ค หนังสือ
Pen เพน ปากกา
Pencil เพนซิล ดินสอ
Ruler รูเลอร์ ไม้บรรทัด
Chair แชร์ เก้าอี้
Desk เดส โต๊ะเรียน
Bag แบค กระเป๋า
Box บ็อค กล่อง
Door ดอร์ ประตู
Window วินโดว์ หน้าต่าง

12. 2. สัตว์ ( Animals )
Vocabulary Reading Meaning
Cat แคท แมว
Fish ฟิช ปลา
Pig พิก หมู
Elephant แอลเลิฟแฟ้น ช้าง
Tiger ไทเกอร์ เสือ
Cow คาว วัว
Duck ดัค เป็ด
Chicken ชิคเค้น ไก่
Dog ด็อก เป็ด
Ant แอนท์ มด
Prawn พรอน กุ้ง
Firefly ไฟเออร์ไฟร์ หิ่งห้อย
Dragonfly ดราก้อนไฟร แมลงปอ
Turtle เทอร์เทิล เต่า
Panda แพนด้า หมีแพนด้า
Bat แบท ค้างคาว
Bird เบิร์ด นก
Spider สไปเดอร์ แมงมุม
Toad โทด คางคก
Crab แครบ ปู
Koala โคอาล่า หมีโคล่า
Lion ไลอ้อน สิงโต
Buffalo บัฟฟาโล ควาย
Kangaroo แคงการู จิงโจ้
Penguin เพนกวิน นกเพนกวิน
Hippopotamus ฮิปโปโปเทมัส ฮิปโป

13. Starfish สตาร์ฟิช ปลาดาวทะเล
Camel คาเมล อูฐ
Porcupine พอร์คิวไพน์ เม่น
3. หมวดผลไม้ และ ผัก ( Fruits and vegetables )
Vocabulary Reading Meaning
Orange ออเร้น ส้ม
Durian ดูเรียน ทุเรียน
Mangosteen แมงโกสทีน มังคุด
Pea eggplants พี เอ้กแพลน มะเขือพวง
Strawberry สตรอเบอรี่ สตรอเบอรี่
Rambutan แรมบูแทน เงาะ
Coconut โคโคนัท มะพร้าว
Ginger กิงเกอร์ ขิง
Corn คอร์น ข้าวโพด
Guava กัวว่า ฝรั่ง
Banana บานาน่า กล้วย
Marian plum มาเรียน พรัม มะปราง
Papaya พาพาย่า มะละกอ
Bamboo shoot แบมบู ชูท หน่อไม้
Carrot แครอท แครอท
Chili ชิลลิ พริก
Chinese cabbage ไชนิส แคบเบท ผักกาดขาว
Bean sprouts บีน สเปร้า ถั่วงอก
Pineapple พาย แอบเพิ้ล สับปะรด
Chinese kale ไชนิส คาร์ท คะน้า
Cauliflower คอลี่ฟลาวเวอร์ กะหลำ่าดอก
Bitter cucumber บิทเทอร์ คิวคัมเบอร์ มะระ
Mushroom มัสรูม เห็ด
Custard apple คัสตาร์ด แอบเพิ้ล น้อยหน่า
Rose apple โรส แอบเพิ้ล ชมพู่
Ivy gourd ไอวี่ กอร์ด ตำาลึง
Grapes เกรฟ องุ่น
Cherry เชอร์รี่ ลูกเชอรี่
Lime ไลม มะนาว

14. 4. หมวดส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ( Parts of body )
Vocabulary Reading Meaning
Hair แฮร์ ผม
Head เฮด หัว
Brain เบรน สมอง
Eye อาย ตา
Ear เอียร์ หู
Eyebrow อายโบร คิ้ว
Cheek ชีค แก้ม
Chin ชิน คาง
Lip ลิป ริมฝีปาก
Mouth เม้า ปาก
Teeth ทีส ฟัน
Neck เนค คอ
Shoulder โชเดอร์ ไหล่
Leg เลค ขา
Knee นี เข่า
Foot ฟุต เท้า
toe โท นิ้วเท้า
5. หมวด อาหารและเครื่องดื่ม ( Food and Drink )
Vocabulary Reading Meaning
Egg เอ็ก ไข่
Ice cream ไอครีม ไอศกรีม
Coffee คอฟฟี่ กาแฟ
Tea ที ชา

15. Water วอร์เตอร์ นำ้า
Bread เบรด ขนมปัง
Milk มิลค์ นม
Cake เค้ก ขนมเค้ก
Rice ไรส์ ข้าว
soup ซุป นำ้าซุป
6. หมวด ของเล่น ( toys )
7. หมวด เครื่องนุ่งห่ม ( Cloth )
vocabulary reading meaning
Shirt เชิ้ต เสื้อยืด
skirt สเกิต กระโปรง
Jeans จีนส์ กางเกงยีนส์
Pants แพน กางเกงขายาว
Shorts ช้อต กางเกงขาสั้น
Uniform ยูนิฟอร์ม ชุดนักเรียน
Hat แฮท หมวก
Gloves โกรป ถุงมือ
Cap แคป หมวกแก๊ป
Umbrella อัมเบรลล่า ร่ม
Socks ซ้อค ถุงเท้า
8. อาชีพ ( Occupation )
vocabulary reading meaning
Teacher ทิชเชอร์ ครู
Student สทิวเด้น นักเรียน
Doctor ดอกเทอร์ หมอ
Soldier โซเจอร์ ทหาร
Nurse เนิส นางพยาบาล
Policeman โพลิสแมน ตำารวจ
carpenter คาร์เพนเทอร์ ช่างไม้
vocabulary reading meaning
Ball บอล ลูกบอล
doll ดอล ตุ๊กตา

16. actor แอคเทอร์ นักแสดง
Businessman บิสสิเนสแมน นักธุรกิจ
Dentist เดนทิส หมอฟัน
Painter เพนเทอร์ ช่างทาสี
Postman โพสแมน บุรุษไปรษณีย์
Gardener การ์เดนเนอร์ ชาวสวน
Lawyer ลอเยอร์ นักกฎหมาย
Reporter รีพอร์ทเทอร์ นักข่าว
9. จำานวนนับ ( one - a hundred )
vocabulary reading meaning
One วัน หนึ่ง
Two ทู สอง
Three ทรี สาม
Four โฟร์ สี่
Five ไฟร์ ห้า
Six ซิก หก
Seven เซเวน เจ็ด
Eight เอท แปด
Nine นาย เก้า
Ten เทน สิบ
Eleven อีเลฟเวน สิบเอ็ด
Twelve ทเวล สิบสอง
Thirteen เทอทีน สิบสาม

17. Fourteen โฟทีน สิบสี่
Fifteen ฟิฟทีน สิบห้า
Sixteen ซิกทีน สิบหก
Seventeen เซเวนทีน สิบเจ็ด
Eighteen เอททีน สิบแปด
Nineteen นายทีน สิบเก้า
Twenty ทเวนตี้ ยี่สิบ
Thirty เทอร์ตี้ สามสิบ
Forty ฟอร์ตี้ สี่สิบ
Fifty ฟิฟตี้ ห้าสิบ
Sixty ซิกตี้ หกสิบ
Seventy เซเวนตี้ เจ็ดสิบ
Eighty เอทตี้ แปดสิบ
Ninety นายตี้ เก้าสิบ
One hundred วัน ฮันเดรด หนึ่งร้อย
10. วันทั้ง 7 ( Days of the week )
vocabulary reading meaning
Sunday ซันเด วันอาทิตย์
Monday มันเด วันจันทร์
Tuesday ทิวสเด วันอังคาร
Wednesday เวสเด วันพุธ
Thursday เทิสเด วันพฤหัสบดี
Friday ฟลายเดย์ วันศุกร์
Saturday แซทเทอเด วันเสาร์
11. สี ( Colours )
vocabulary reading meaning
White ไว สีขาว
Black แบรค สีดำา
Blue บรู สีฟ้า
Red เรด สีแดง
Purple เพอเพิล สีม่วง
Yellow เยลโล สีเหลือง

18. Pink พิง สีชมพู
Green กรีน สีเขียว
Orange ออเร้น สีแสด
Brown บราว สีนำ้าตาล
12. หมวดคำากริยา ( Verbs )
vocabulary reading meaning
Walk วอค เดิน
Sit ซิด นั่ง
Stand สแตน ยืน
Run รัน วิ่ง
Jump จั้ม กระโดด
Fly ฟลาย บิน
Point to พ้อย ทู ชี้ไปที่
Put พุด วาง
Clap แครบ ปรบมือ
Shake เชค เขย่า
13. หมวดครอบครัวของฉัน ( My family )
vocabulary reading meaning
Father ฟาร์เทอร์ พ่อ
Mother มาเทอร์ แม่
Sister ซิสเตอร์ พี่สาว , น้องสาว
Brother บราเทอร์ พี่ชาย ,น้องชาย
Son ซัน ลูกชาย
Daughter ดอร์เทอร์ ลูกสาว
Nephew เนฟฟิล หลานชาย

19. Niece นิส หลานสาว
Uncle อังเคิล ลุง
Aunt อาน ป้า
Cousin เคาซึน ลูกพี่ลูกน้อง
สารบัญ
หน้า
บทที่ 1 บทนำา
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 3 วิธีดำาเนินการวิจัย
บทที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ประวัติผู้วิจัย

20. บทที่ 1
บทนำา
ความเป็นมาและความสำาคัญของงานวิจัย
ด้วยเหตุผลของจัดการเรียนการสอนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1 ซึ่งเน้นการสื่อสารภาษาแบบง่าย ๆ การใช้ภาษาสื่อสารง่าย ๆ ภาษา
ท่าทาง ไม่ได้เน้นการเขียน หรือ ไวยากรณ์ในภาษาอังกฤษ จึงเป็นที่มา
ของการทำาวิจัยฉบับนี้ เพื่อศึกษาการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีต่อการเรียน
ภาษาอังกฤษผ่านบทเพลงง่าย ๆ ซึ่งบทเพลงเหล่านี้ เป็นเพลงง่าย ๆ เพื่อ
กระตุ้นการเรียนรู้ ซึ่งทำาให้นักเรียนจำาได้ง่าย ผ่านการร้องเพลง และ
รูปภาพด้วย ผู้ทำาจึงเกิดแรงบันดาลใจในการทำาวิจัย เพื่อทดสอบ
พัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน และการเรียนก็ไม่น่าเบื่อ สำาหรับเด็ก ๆ อีก
ทั้งเป็นการออกกำาลังกายอีกด้วย และนักเรียนก็มีความสนุกสนานเป็น
อย่างมากในการแสดงท่าทางและร้องเพลงแต่ละเพลง ซึ่งระยะเวลาก็ทำาให้
พวกเขาจดจำาเนื้อหาผ่านท่วงทำานอง และ ท่าทาง การเต้น

21. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียนด้านภาษาอังกฤษ และภาษา
ไทย
2. เพื่อความสนุกสนานของเด็ก โดยได้ความรู้ด้านคำาศัพท์ด้วย
3. เพื่อความบันเทิงด้านเสียงเพลง อย่างมีสาระ
4. เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ ความอยากในการมาโรงเรียน และความ
อยากในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
5. เพื่อการออกกำาลังกายที่ดีในตอนเช้า
ประโยชน์ของการวิจัย
1. นักเรียนได้รับความรู้ด้านภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
2. นักเรียนได้รับความสนุกสนาน โดยได้ความรู้ด้านคำาศัพท์ด้วย
3. นักเรียนได้รับความบันเทิงด้านเสียงเพลง อย่างมีสาระ
4. นักเรียนได้รับการกระตุ้นการเรียนรู้ ความอยากในการมา
โรงเรียน และความอยากในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
5. นักเรียนได้ออกกำาลังกาย
ขอบเขตของการวิจัย
ในการศึกษาครั้งนี้เป็นการเรียนรู้ผ่านบทเพลงเพื่อพัฒนาการเรียนรู้
ภาษาอังกฤษ โดยใช้กิจกรรมการฟัง รวมทั้งทักษะทางด้านแสดงออก
การใช้ทักษะทางด้านร่างกาย เรียนรู้ผ่านบทเพลงภาษาอังกฤษ ของ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 และได้กำาหนดขอบเขตการวิจัยไว้
ดังนี้
4.1 ประชากร ประชากรในการศึกษาคือ นักเรียนโรงเรียนบ้าน
ห้วยหญ้าไซที่กำาลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 ประจำา
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2551
4.2 เนื้อหาของบทเพลง ซึ่งได้ทำาการแนบมาด้วย ซึ่งเป็นบทเพลง
ในการสอนนักเรียน

22. บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การสอนคำาศัพท์
บทที่ 3

23. วิธีดำำเนินกำรวิจัย
ขั้นตอนในกำรดำำเนินกำร
เป็นกำรเรียนรู้ผ่ำนบทเพลงภำษำอังกฤษ และวิธีกำรดำำเนินกำร
ศึกษำ ค้นคว้ำ กำรศึกษำค้นคว้ำนี้เป็นกำรเรียนรู้ผ่ำนบทเพลงภำษำ
อังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 1/1 ได้แบ่งวิธีดำำเนินกำรตำม
ลำำดับดังนี้
1. ประชำกรกลุ่มตัวอย่ำง
2. ตัวแปรที่ศึกษำ
3. วิธีกำรนำำไปใช้
4. กำรเก็บรวบรวมข้อมูล กำรประเมินจำกสมุดภำพ
5. วิธีกำรวิเครำะห์ข้อมูล
6. ปฏิทินกำรปฏิบัติงำน
7. เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย
กำรดำำเนินกำรทดลอง
บทที่ 4
กำรวิเครำะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยได้ทำำกำรวิเครำะห์ข้อมูล ดังต่อไปนี้

24. 1. หำค่ำสถิติพื้นฐำน ได้แก่ค่ำคะแนนเฉลี่ย (X ) ของคะแนนที่ได้
จำกกำรทำำแบบทดสอบ
2. วิเครำะห์ข้อมูลที่ได้จำกกำรทดสอบ
บทที่ 5
สรุปผลกำรวิจัยและข้อเสนอแนะ

25. ข้อคิดจำกกำรวิจัยในครั้งนี้
บรรณำนุกรม

26. ประวัติโดยย่อของผู้วิจัย
ชื่อ – นำมสกุล นำงสำวศิริรัตน์ แสนมำ
ชื่อเล่น แจ๊ค
อำยุ 28 ปี
วัน/ เดือน / ปี เกิด วันที่ 8 เดือน พฤศจิกำยน พ.ศ. 2523
ที่อยู่ บ้ำนเลขที่ 176 หมู่ 8 ตำำบลแม่สุก อำำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยำ
คติประจำำใจ There is no satiety in study ไม่มีที่สิ้นสุดสำำหรับ
กำรเรียนรู้

27. A B C Song
A B C D E F G
H I J K L M N O P
Q R S T U V W X Y
And Z
Boys and girls come sing
with me
Come and sing your A B C

28. Good morning
Good morning to you
Good morning to you
Good morning Mrs . Brader
Good morning to you
Good morning to you
Good morning to you
Good morning Dear children
Good morning to you

29. Finger song
Where is thumbkin , Where is
thumbkin
Here I am
How are you this morning ?
Very well , thank you
Run a way
Where is pointer , Where is
pointer
Here I am
How are you this morning ?
Very well , thank you
Run a way
Where is tallman , Where is
tallman
Here I am
How are you this morning ?

30. Very well , thank you
Run a way
Where is ringman , Where is
ringman
Here I am
How are you this morning ?
Very well , thank you
Run a way
Where is tiny , Where is tiny
Here I am
How are you this morning ?
Very well , thank you
Run a way

31. Head , Shoulders , Knees and
Toes
Head , shoulders ,knees and
toes
Knees and toes
Head , shoulders ,knees and
toes
Up here my nose
Head , shoulders ,knees and
toes
Knees and toes Head ,
shoulders ,knees and toes
Up here my nose

32. Monkey
The monkey do , do , do like
this
The monkey do , do , do like
that
The monkey see
The monkey do
The monkey does the same
as you.

33. Look at me
Look at me , look at me
I ’m a butterfly , I fly and fly
And fly and fly
Like a butter fly.
Look at me , look at me
I ’m a kangaroo , I jump and
jump
And jump and jump
Like a kangaroo.
Look at me , look at me
I ’m a walking doll , I walk
and walk
And walk and walk
Like a walking doll.

34. The Sun is shining
The sun is shining .
I love the sun
The sun is shining .
I love the sun
The sun is shining .
I love the sun
The sun is shining today
It’s raining today .
I love the rain
It’s raining today .
I love the rain
It’s raining today .
I love the rain . It ’s raining
today.

35. It’s snowing today.
I love the snow
It’s snowing today.
I love the snow
It’s snowing today.
I love the snow
It’s snowing , snowing today .
Mosquitoes Bite
Mosquitoes bite.

36. Bees sting.
Cats sleep.
Birds sing .
Bunnies hop.
Tigers fight .
Turtles swim.
Sharks bite.
Frogs jump.
All round
Bats hang upside down.
Downtown
I want to go downtown and
fool around .
I want to fool around and go
downtown,

37. I’m going to ride my bike
right past the school.
I’m going to jump into the
swimming pool.
I’m going to watch the people
come and go.
I’m going to say , “ Hello , hello
, hello ”
If you want to , you can go
with me .
We ’ll have a wonderful time .
My favorite color is yellow

38. My favorite color is yellow.
My favorite numbers is two.
My favorite flavor is
chocolate .
And my favorite person is
you.
Billy , Billy
My favorite person is you ,
is you
Billy , Billy
My favorite person is you .
My favorite color is yellow.
My favorite numbers is two.
My favorite flavor is
chocolate .
And my favorite person is
you.
Billy , Billy
My favorite person is you ,
is you
Billy , Billy

39. My favorite person is you .
I feel terrible .
I’ve got a headache.
I ‘ve got a headache.
I don’t want to go to bed.
I’ve got a fever .
I’ve got a fever .
I don’t want to do my
homework.
I ‘ve got a stomachache .
I ‘ve got a stomachache.
I don’t want to eat my lunch .
I’ve got a blister .
I’ve got a blister .
I don’t want to see my
sister.
Every time I get a headache .
Mama takes me to the
doctor.
Every time I get a fever.

40. Mama takes me to the nurse.
Every time I get a toothache .
Mama takes me to the
dentist .
Every time I see the dentist .
I always come home feeling
worse.

41. Monkeys Swing
Monkeys swing up
and down
Monkeys swing
all around
Monkeys swing
tigers bite
But crocodiles crawl all
night
Dolphins swim
up and down
Dolphins swim
all around
Monkeys swing
Tigers bite
But crocodiles crawl all
night
Rabbits hop
up and down

42. Rabbits hop
all around
Monkeys swing
Tigers bite
But crocodiles crawl all
night
แบบฝึกอ่านภาษาอังกฤษ
การวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง
คำาศัพท์ภาษาอังกฤษ
ของ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6

43. โดย
นางสาวศิริรัตน์ แสนมา
รายงานการวิจัยชั้นเรียนนี้ เป็น
เอกสารการวิจัยส่วนบุคคล
ประกอบการปฏิบัติราชการ
ตำาแหน่ง ครูผู้ช่วย
โรงเรียนบ้านห้วยหญ้าไซ
ภาคเรียนที่ 1 / 2552
สำานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
เชียงรายเขต 2