ยุพราช

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ว 30284 ชื่อวิชา วิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี 4
ปีการศึกษา 2563
ชื่อโครงงาน ห้องรก = จิตตก ?
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นายยศพร ยานะ เลขที่ 13
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 6
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นายยศพร ยานะ เลขที่ 13
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ห้องรก = จิตตก?
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Effects of messy room on human accuracy
ประเภทโครงงาน โครงงานประเภทสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นาย ยศพร ยานะ ม.6/6 เลขที่ 13
ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 10 สัปดาห์
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากในปัจจุบันการจัดบ้านผู้จัดทาเล็งเห็นว่าไม่ได้มีประโยชน์แค่ความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่เป็น
การจัดการชีวิต และสภาพจิตใจ แถมยังมีส่วนช่วยให้อาการของ ‘โรคซึมเศร้า’ ดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้เพราะจากสภาพแวดล้อมที่ยุ่งเหยิง นามาสู่ความว้าวุ่น ความง่วงหงาวหาวนอน ขาดแรงบันดาลใจ หรือ
การมองโลกแง่ร้าย มักทาให้การลุกขึ้นมาทาความสะอาดบ้านเป็นไม่ใช่เรื่องง่าย นิโคล ไรน์เนอร์ (Nicole Reiner) ที่
ปรึกษาด้านสุขภาพจิตในนิวยอร์กบอกว่า ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคล้ายกับมีโซ่ตรวน และลูกตุ้มอันหนักหน่วงล็อกติดอยู่กับ
ข้อเท้าในขณะพยายามจะว่ายน้า พวกเขาต้องออกแรงหนักมากกับงานที่ผู้อื่นมองเป็นเรื่องง่าย ทว่าความรกรุงรัง
และข้าวของไม่เป็นระเบียบ จะยิ่งทาให้โซ่ตรวนรัดอย่างแน่นหนา และลูกตุ้มก็มีน้าหนักมากกว่าเดิม
และจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบบ้านอย่าง Samantha Shapiro มองว่า ‘ความรก’ เป็นต้นตอ
ของความวิตกกังวล ความโกรธ และภาวะซึมเศร้า ดังนั้น บ้านไม่เป็นระเบียบ และรกรุงรัง มันหมายถึงสิ่งที่อยู่ในตัว
เรายังไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อประสบกับโรคซึมเศร้าจิตใจของเราจะกระจัดกระจายไปทั่วเหมือนกับห้องที่รกรุงรัง
เคล็ดลับของการดูแลบ้านของ Lilly Pettit ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบบ้านในลอสแอนเจลิส คือการตัด
ใจทิ้งสิ่งของที่ไม่จาเป็นต่อชีวิตออกไป เพราะข้าวข้องน้อยชิ้นจะทาให้สิ่งรบกวนจิตใจน้อยลงไปด้วย
ทั้งนี้เพราะในความเป็นจริงการอาศัยอยู่ในบ้านที่สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าทาให้
อารมณ์ดีขึ้นและช่วยให้ผ่านช่วงเวลาไร้ความหวังที่อาจเกิดจากภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยให้มีแรงบันดาล
ใจสาหรับหน้าที่พื้นฐานอย่างการซักผ้า ชาระค่าบริการต่างๆ และการเตรียมอาหารมากขึ้นอีกด้วย
ด้วยเหตุที่ว่ามานี้ทาให้ผู้จัดทาจึงได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการจัดบ้านให้เรียบร้อย จึงได้เกิดเป็นโครงงานชิ้น
นี้ขึ้นมานั่นเอง

3. 3
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาหาประโยชน์ของการจัดระเบียบบ้าน
2. เพื่อศึกษาหาโทษและผลกระทบของห้องที่รก
3 .เพื่อศึกษาหาวิธีการจัดระเบียบบ้านในขั้นต้น
ขอบเขตโครงงาน
โครงงานนี้เป็นการศึกษาเพื่อหาประโยชน์ของการดูแลรักษาและจัดระเบียบภายในบ้านของตน ซึ่งเป็นการศึกษาและ
รวบรวมข้อมูลจากผลการวิจัยจากสถาบันต่างๆ
หลักการและทฤษฎี
ในทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่าบ้านที่รกรุงรังนั้นสามารถส่งผลกระทบกับคุณได้มากมาย
และนี่คือผลกระทบเหล่านั้น
1.ความรกทาให้เกิดความสับสน
สภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ พื้นที่ที่ยุ่งเหยิงสะท้อนสภาพจิตใจที่รก ดังนั้นหากคุณต้องการให้ชีวิตมี
ระเบียบ แบบแผน คุณควรมีวินัยในการทาความสะอาดบ้านของคุณ วางหนังสืออย่างเป็นระเบียบ ล้างจานชามในอ่าง
ล้างจานให้เรียบร้อยทุกครั้งหลังใช้งาน
2.ความยุ่งเหยิงทาให้เกิดความเครียด
จะเป็นอย่างไรเมื่อคุณเหนื่อยและเครียด แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วเจอที่นอนปูเรียบร้อย ขึงผ้าจนตึง นั่นคงทาให้
ความเครียดหรือความเหนื่อยของคุณหายเป็นปลิดทิ้ง ตรงกันข้ามหากคุณกลับไปถึงบ้านแล้วเจอเสื้อผ้าที่สกปรกวาง
ทิ้งไว้บนโซฟา หนังสือพิมพ์ที่วางไม่เป็นที่ คราบกาแฟที่อยู่บนโต๊ะ สิ่งเหล่านี้ย่อมทาให้คุณรู้สึกเครียดอย่างแน่นอน
3.ความยุ่งเหยิงอาจทาให้เกิดอุบัติเหตุได้
บ้านรกเพิ่มโอกาสในการเดินสะดุดสิ่งของที่วางอย่างไม่เป็นระเบียบได้ง่ายขึ้น คิดง่ายๆ คือคุณหาแว่นตาไม่เจอแล้ว
พบว่าคุณนั่งทับมันไว้
4.ความรกทาให้คุณทานอาหารมากขึ้น
การศึกษาในปี 2560 ที่จัดทาร่วมกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียแสดงให้เห็นว่าผู้คนมีแนวโน้มทานมากหรือ
ดื่มมากเกินไปเมื่อพวกเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่รก จากการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างลงเอยด้วยการกินคุกกี้มากขึ้นเมื่อ
พวกเขามีขนมในห้องครัวที่รกกว่าตอนที่เมื่อพวกเขาจัดระเบียบห้องครัว
5.ความรกทาลายสุขภาพจิตของคุณ
การใช้ชีวิตหรือทางานในสภาพแวดล้อมที่ยุ่งเหยิงทาให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า และไม่มีความสุข การศึกษาในปี 2560
เกี่ยวกับสถานที่ทางานพบว่าสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของคุณ
6.ความยุ่งเหยิงทาให้การสื่อสารเป็นเรื่องยาก
การศึกษาของมหาวิทยาลัยคอร์เนลในปี 2559 แสดงให้เห็นว่าคนที่อาศัยอยู่ท่ามกลางความยุ่งเหยิง มีข้อจากัดในการ
เข้าถึงความรู้สึกของกันและกันมากกว่า เมื่อฉากหลังมีความวุ่นวายสูงผู้คนจะถูกรบกวนด้วยสิ่งเร้าต่างๆ รวมไปถึงการ
แสดงอารมณ์อื่นๆ ด้วย

4. 4
7.ทาให้เหนื่อยล้าเฉื่อยชา
สิ่งของทั้งหลายที่สุมรวมเป็นกอง นานๆ เข้า ก็ทาให้เกิดพลังงานด้านลบ และทาให้เรารู้สึกไม่อยากทาอะไร
หลายครั้งที่เราผัดวันประกันพรุ่ง รู้สึกเฉื่อยชา ไม่อยากทาอะไร เพราะเกิดจากพลังงานด้านลบที่สะสมในสิ่งของรก
รุงรังทั้งหลาย เช่น แค่เห็นเอกสารต่างๆ ที่วางกองเต็มโต๊ะ ก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว
8.ทาให้ยึดติดกับอดีต
ถ้าพื้นที่ทั้งหมดเต็มไปด้วยสิ่งของจนไม่เหลือที่ว่าง เราจะไม่มีของใหม่เข้ามาในชีวิต
ดังนั้นถ้าเราอยากก้าวหน้าในชีวิต พบสิ่งใหม่ๆ ก็ต้องละทิ้งของในอดีตก่อน
9.เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
ของรกรุงรังที่วางนานๆ จะมีฝุ่นมาเกาะเต็มไปหมด อาจทาให้เป็นภูมิแพ้ หรือมีแมลง ปลวก มด เชื้อโรคที่ไม่รับเชิญ
มาเยี่ยม
10.อาจทาให้เกิดเพลิงไหม้
เอกสาร หนังสือ สิ่งของที่พะรุงพะรังเป็นแหล่งเชื้อเพลิงได้อย่างดี
11.เสียทั้งเวลาและเงิน
ถ้ามีของสุมเต็มไปหมด กว่าจะหาของที่ต้องการ ก็ใช้เวลานาน หรือบางครั้งเสียเงิน เพราะหาของที่ต้องการไม่พบ ก็
ซื้อใหม่ ทั้งๆ ที่ยังมีของนั้นอยู่ เพียงแต่หาไม่เจอ
12.เป็นที่น่าอับอายต่อผู้พบเห็น
ถ้าห้องทางานเรามีสิ่งของรกรุงรัง วางเต็มพื้นไปหมด ก็คงไม่น่ามอง
นอกจากนี้วิธีการจัดห้องถือเป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถทาให้เรารู้จักนิสัยของเจ้าของห้องได้ระดับหนึ่งเลยว่าเป็น
คนรักความสะอาด รักความเป็นระเบียบ หรือเป็นคนชอบปล่อยให้รก แต่ถ้าวิเคราะห์ลงไปลึกกว่านั้นในทางจิตวิทยา
เราสามารถรู้ไปถึงสุขภาพจิตของคนคนนั้นเลย ว่าเขาโอเคอยู่หรือเปล่า เขาขาดอะไรไปในชีวิต หรือกระทั่งความ
ผิดปกติทางจิตบางอย่างก็สื่อออกมาผ่านสไตล์ของห้องได้เช่นกัน
ตัวอย่างห้องส่วนตัวที่น่าสนใจ
1. ห้องดูเรียบร้อย แต่จริงๆแล้วแอบยัดทุกอย่างไว้ในตู้เสื้อผ้า หรือลิ้นชัก
หากห้องของคุณดูสะอาดสะอ้าน แถมยังเป็นระเบียบ เหมือนหลุดออกมาจากนิตยสารตกแต่งบ้าน แต่ถ้าเปิด
ลิ้นชัก หรือตู้เสื้อผ้าออกมาแล้ว จะเจอของที่คุณไม่รู้ว่าควรวางไว้ไหนดีอัดไว้รวมๆกัน จนแทบจะล้นออกมา
จากลิ้นชัก
คุณเป็นคนที่ "พยายามสร้างภาพลักษณ์ภายนอกให้ดู perfect" คุณอยากให้ทุกคนรู้จักเฉพาะด้านดีของคุณ
เท่านั้น และเก็บกดด้านมืดของตัวเองเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ด้านลบ ความเครียด หรือด้านที่ไม่สมบูรณ์
แบบของตนเอง โดยไม่ได้หาทางขจัดมันออกไป เหมือนที่คุณไม่เคยจัดระเบียบหรือคัดของในตู้ทิ้งไปบ้าง แต่
ทาห้องให้ดูสวยโดยเอาของเหล่านั้นไปซ่อน
2. ห้องที่รกและไม่เป็นระเบียบสุดๆ
ทั้งห้องและโต๊ะทางานในอุดมคติของคนส่วนมากก็น่าจะเป็นห้องที่เรียบร้อย ที่อย่างถูกวางไว้ในที่เหมาะสม
ต่อการใช้งาน แม้แต่โต๊ะก็ต้องเรียบร้อย เครื่องเขียนถูกเสียบไว้ในกระปุก เอกสารทุกอย่างจัดเรียงเป็นแฟ้ม

5. 5
แยกตามแต่ละหมวดหมู่ของงาน หนังสือมีชั้นวางเป็นหลักแหล่ง...แต่ห้องของคุณไม่ใช่อย่างนั้นหากทั้ง
laptop เศษกระดาษหนังสือ เอกสาร กองเสื้อผ้า หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ต่างถูกวางระเกะระกะอยู่ทั้ง
ห้อง จนแทบจะมองไม่ออกเลยว่านี่คือห้องนอนคน... อย่าเพิ่งเศร้าไป เพราะหากคุณไม่ลาบากในการหาของ
ในท่ามกลางกองมรสุมนั้นแล้วละก็
คุณอาจจะมี "ความคิดสร้างสรรค์" เพราะคุณมักมีวิธีบริหารจัดการสิ่งรอบตัวที่ต่างจากคนอื่น และลึกๆแล้วมี
จินตนาการล้าเลิศแต่ถ้ารกแถมยังหาของไม่ค่อยเจอ อันนี้ต้องต้องจัดห้องใหม่ได้แล้วนะ
3. ห้องที่เหมือนเจ้าของจะย้ายออกอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นก็อกน้ารั่ว วอลล์เปเปอร์เก่าโทรม คุณก็ไม่เคยซ่อมมันเลย และคุณมักจะเก็บของไว้ในกล่องลัง
เพราะไม่อยากซื้อลิ้นชักหรือตู้
่ ทาให้ห้องของคุณเหมือนคนเตรียมย้ายบ้านตลอดเวลา ห้องลักษณะนี้คนไทย
มักไม่ค่อยคุ้นชิน แต่เป็นรูปแบบห้องที่พบได้ในประเทศญี่ปุ่น เพราะวัฒนธรรมการทางานของคนญี่ปุ่น
ลูกจ้างมักจะถูกนายจ้างย้ายให้ไปทางานสาขาอื่นบ่อยๆ ทาให้เด็กๆชาวญี่ปุ่นหลายคนต้องย้ายบ้านย้าย
โรงเรียนบ่อยๆ เพราะพ่อแม่โดนย้ายตาแหน่งอยู่เป็นประจา
คุณเป็นคนที่มี "ความรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ" รวมไปถึง "ต้องการอนาคตที่ดีกว่าไปเรื่อยๆ" ทาให้พวกเขาไม่
ค่อยย้ายของออกจากกล่อง หรือตกแต่งซ่อมแซมห้องมากนัก หลายครั้ง ความรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจของพวก
เขาอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจในระยะยาวต้องเข้ารับคาปรึกษาจากนักจิตวิทยา
4. ห้องที่เจ้าของหมักและดองเสื้อผ้าเอาไว้
ไม่ค่อยมีมนุษย์คนไหนชอบการทาความสะอาดหรอก แต่หากคุณเข้าขั้น "เกลียดการทาความสะอาด" อาการ
นี้ไม่ใช่ความขี้เกียจแบบคนปกติ คุณจะไม่เอาขยะออกไปทิ้งเลย แต่มัดเป็นถุงรอไว้ทิ้งที่เดียวจนกลายเป็นกอง
เบ้อเริ่มในห้อง ทิ้งจานไว้ในอ่างล้างจานจนไม่เหลือจานสะอาดสาหรับกินข้าว ซักผ้าเดือนละครั้ง โดยคุณจะ
คิดแค่ว่า "ไว้ทา วันพรุ่งนี้"ก็ได้ไม่เป็นไรหรอก
คุณเป็นคนที่ชอบ"ผัดวันประกันพรุ่ง" (Procrastination) ซึ่งการผัดวันประกันพรุ่งบ่อยๆมักเป็นสัญญาณ
เริ่มต้นของ "อาการหมดไฟ" (Burnout Syndrome) ซึ่งองค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศว่าเป็นโรคเมื่อไม่
นานมานี้ แถม Burntout Syndrome ยังทาให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย หากคุณรู้สึกไม่อยาก
ทาความสะอาด "มากผิดปกติ" ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนาให้เข้ารับคาปรึกษา รวมถึงปรับตัวด้วยการเปลี่ยน
ความคิดว่า การกินข้าวเสร็จแล้วล้างจานเลย หรือการซักผ้าทีละน้อยๆ จะใช้พลังงานน้อยกว่าการดองชุด
หรือจานไว้มากๆ
5. ห้องที่เหมือนไม่มีคนอยู่เลย
นอกจากเตียงนอนกับของใช้จาเป็นนิดๆหน่อยๆแล้ว ห้องของคุณแทบไม่มีอะไรเลย เหมือนคุณใช้ห้องนี้
สาหรับการนอนเท่านั้น หากนี่เป็นห้องในหอพักนักเรียนหรือนักศึกษา นี่เป็นเรื่องปกติ เพราะทั้งการเรียน
และกิจกรรมจะทาให้คุณล้ามาก เมื่อถึงห้องก็อยากจะนอนเหมือนซ้อมตาย แต่ถ้าคุณโตเป็นผู้ใหญ่แล้วหรือว่า
เป็นห้องที่คุณใช้อาศัยอยู่เป็นหลักไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยชั่วคร่าว แต่ว่าห้องก็ยังว่างเปล่าเหมือนเดิม

6. 6
คุณอาจมีปมในใจบางอย่างที่ทาให้ "ไม่กล้าโตเป็นผู้ใหญ่" (Immaturity) คุณไม่มีความทะเยอทะยานอะไร
เป็น พิเศษ ไม่รู้ว่าชีวิตต้องการอะไรกันแน่ ไม่รู้กระทั่งว่า ตนเองชอบอะไร จึงไม่ค่อยมีของในห้องเลยแม้ว่า
คุณจะมีรายได้ของตนเองแล้วก็ตาม มากไปกว่านั้น คือ คุณอาจจะต้องการใครสักคนมาเป็น comfort zone
ที่ทาให้ คุณรู้สึกอบอุ่น เติมเต็มชีวิต (และห้อง) ที่แสนว่างเปล่าของคุณ
6. ห้องที่มีของมากเกินไป
คุณเคยมีของเก่าๆ หรือพังแล้ว แต่ไม่อยากทิ้งไหม เป็นเรื่องปกตินะ แต่ถ้าคุณเริ่มไม่อยากทิ้งแม้กระทั่ง
อาหารที่หมดอายุแล้ว โดยในห้องจะมีของจิปาถะมากมาย จนไม่เหลือทางเดิน ของที่สะสมจนสูงติดเพดาน
อาจถล่มลงมาทาให้เกิดอุบัติเหตุ หรือถึงขั้นเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค
.
คุณอาจกาลังเป็น "โรคเก็บสะสมของ" (Hoarding Disorder) ขอให้เข้าใจก่อนว่าคนที่เป็นโรคสะสมของนั้น
ต่างจากคนที่เป็นนักสะสม เพราะนักสะสมจะเก็บสะสมของอย่างมีเป้าหมาย และมีการจัดระเบียบ แต่ผู้ป่วย
โรคสะสมของจะเก็บของที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย บางครั้งอาจรวมถึงขยะสดด้วย และ
มักจะไม่รู้ตัวว่าตนเองกาลังป่วยรวมถึงไม่อยากให้คนอื่นแตะของของตน เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งที่เกิดกับ
คนที่สมองทางานผิดปกติ เป็นตามกรรมพันธุ์ หรือเคยพบความสูญเสียที่กระทบกระเทือนจิตใจ ทาให้ไม่
อยากทิ้งหรือเสียอะไรไปอีก
7. ห้องที่สะอาดเกินไป
หากคุณเสพติดการทาความสะอาดห้องมากเกินไป เห็นฝุ่นเม็ดเดียวไม่ได้ ขัดห้องน้าทั้งวันก็ยังไม่รู้สึกว่ามัน
สะอาดขึ้น ทุกอย่างต้องเนี้ยบ ใช้เวลา 8-9 ชั่วโมงต่อวันในการทาความสะอาดห้อง สุขภาพจิตของ
คุณก็อาจจะกาลังมีปัญหาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น “โรคย้าคิดย้าทา” (OCD) “โฟเบียเชื้อโรคหรือกลัวเชื้อโรค”
(Germaphobe) หรือ “เสพติดความสะอาดเพราะอยากเบี่ยงเบนตนเอง “ ออกจากปัญหาชีวิตที่กาลังเผชิญ
อยู่ เป็นพฤติกรรมที่เราต้องหมั่นสังเกตเพราะความเครียดของคนที่รักสะอาดเกินไปจะสูงมาก
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การยกตัวอย่างขึ้นมาเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีห้องแบบนี้มีโรคตามที่กล่าวข้างต้น
เสมอไป สุดท้ายนี้เราอยากให้ทุกคนหันมาดูแลและเก็บกวาดห้องนอนตัวเองให้เรียบร้อยมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่า
ห้องนอนสาหรับใครหลายคนเป็นสถานที่ที่เราสามารถรู้สึกมีความเป็นส่วนตัวและเป็นตัวของเราได้ที่สุด
การห้องตามแนวทางในบทความเพื่อความเป็นระเบียบ สุขภาพจิตใจและความปลอดภัยแถมยังแก้ปัญหาบ้านรกได้
อีกด้วย
1.จัดทาตารางการจัดบ้าน เก็บบ้านและทาความสะอาดบ้านให้ชัดเจน
จากที่เคยจัดบ้านและทาความสะอาดบ้านเฉพาะเวลาที่รู้สึกว่าบ้านรกรุงรังจนทนไม่ไหวแล้ว ลองเปลี่ยน
มาทาตารางจัดบ้านและทาความสะอาดบ้านที่ชัดเจนและระบุว่าวันไหนจะจัดบ้าน ทาความสะอาด กวาดถู
หรือปัดหยากไย่ อาจจะไม่ต้องทาวันเดียวพร้อมกันทุกอย่างเช่น วันนี้เก็บของใช้ส่วนตัวให้เรียบร้อย อีกสอง
วันเก็บของใช้ในบ้าน วันอาทิตย์กวาดถูและปัดหยากไย่ หากเป็นทาวน์โฮมหรือบ้านสองชั้น อาจจะแบ่งวันทา

7. 7
ชั้นบนและชั้นล่างคนละวันเป็นต้น เมื่อทาตารางเก็บบ้านจัดบ้านแล้วก็ลงมือทาตามตาราง รับรองว่าคุณจะ
พบกับความเป็นระเบียบภายในห้องและบ้านของคุณอย่างคาดไม่ถึง
2.เพิ่มตะกร้าและลิ้นชักในห้องนอน
ตามปกติเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวมักจะอยู่ในห้องนอนและเป็นสาเหตุทาให้ห้องรก เพราะหลังจากเหนื่อย
ล้ามาทั้งวัน คุณก็พร้อมจะทิ้งตัวลงบนที่นอนทันที ลองจัดบ้านด้วยการหาตะกร้าหรือลิ้นชักที่มีหลายชั้นมา
วางไว้มุมใดมุมห้อง และเมื่อมาถึงคุณก็สามารถโยนของใช้ส่วนตัวของคุณลงในตระกร้าหรือลิ้นชัก แทนที่จะ
ปล่อยให้ระเกะระกะ และเมื่อถึงกาหนดวันจัดบ้านเก็บบ้านตามตารางก็ค่อยเอาข้าวของทั้งหมดในตะกร้ามา
จัดให้เป็นระเบียบอีกที แก้ปัญหาบ้านรกได้ดีทีเดียว
3.ที่วางหนังสือและเอกสารแบบติดผนังสาหรับห้องทางาน
โต๊ะทางานเป็นอีกจุดหนึ่งที่มักจะยุ่งเหยิง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทางานในบ้านเดี่ยว, บ้านสองชั้น, หรือทาวน์
โฮม ก็มักจะเต็มไปด้วยเอกสาร เพื่อความเป็นระเบียบลองเปลี่ยนมาใช้ชั้นวางหนังสือแบบติดผนังในการจัด
บ้าน ดัดแปลงบางช่องเป็นที่วางเอกสาร เพื่อไม่ให้โต๊ะทางานของคุณต้องเต็มไปด้วยเอกสาร และควรหา
เครื่องย่อยเอกสารขนาดเล็กไว้ในห้องเพื่อย่อยเอกสารสาคัญหรือเอกสารที่ไม่ใช้แล้วได้ทันที เพื่อที่คุณจะได้ไม่
ต้องเผชิญปัญหาบ้านรกด้วยกองเอกสารอีกต่อไป และอีกทางหนึ่งคือการยกเลิกรับเอกสารที่ไม่จาเป็นเช่น
ใบเสร็จต่างๆ เป็นต้น
4.ตู้ที่วางของได้ด้วยในห้องนั่งเล่น
ตามปกติห้องนั่งเล่นไม่ว่าจะของบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมก็มักจะเป็นจุดที่เจ้าของบ้านเอาไว้เอาไปไว้จัดโชว์
ของสวยงามอย่างเช่นตุ๊กตาน่ารักๆ หรือแจกันสวยๆ เลือกชั้นวางของที่พอจะมีพื้นที่เหลือสาหรับวางกระเป๋า
ถือหรือข้าวของเล็กๆน้อย เพื่อยามที่คุณกลับมาจากข้างนอก คุณจะได้สามารถวางสิ่งเหล่านี้บนตู้ได้โดยไม่ทา
ให้บ้านรกและยังเพิ่มความเป็นระเบียบให้กับห้องนั่งเล่นได้ดีด้วย
5.กาหนดพื้นที่เก็บของให้ชัดเจน
ปัจจุบันแม้แต่บ้านสองชั้นหรือทาวน์โฮมสองชั้นมักจะออกแบบห้องเอนกประสงค์หรือห้องเก็บของมาให้
โดยมีความกว้างประมาณนึง คุณสามารถเก็บเอกสารที่ยังจาเป็นต้องใช้ หรือข้าวของที่คุณคิดว่ายังไม่ต้องการ
ทิ้งเอาไว้ในห้องนั้นได้เลยเป็นการแก้ปัญหาบ้านรกไปด้วยข้าวของ และเมื่อไหร่ที่คุณต้องการใช้งานคุณก็
สามารถเข้าไปรื้อค้นข้าวของที่ต้องการในห้องเอนกประสงค์หรือห้องเก็บของของบ้านสองชั้นหรือทาวน์โฮมส
องชั้นได้ทันที ง่ายต่อการหาและไม่ทาให้บ้านรกด้วย เพียงแค่จัดพื้นที่บ้านให้เป็นสัดส่วนเท่านั้นเอง และอย่า
ลืมใส่แพลนเก็บห้องเก็บของลงในตารางจัดบ้านด้วย
6.เตรียมพื้นที่แขวนอุปกรณ์ทาครัวให้มากที่สุด
แทนที่จะวางช้อน ตะหลิว ให้ระเกะระกะจนบ้านรกมั่วซั่วไปหมด ลองตอกตะปูกับผนัง หรือติดตั้งแผง
สาหรับแขวนอุปกรณ์ทาครัวไว้บนผนังเพียงง่ายๆ และเมื่อคุณใช้กระทะ ตะหลิว และมีดหรืออุปกรณ์ทาครัว
อื่นๆเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถห้อยเก็บได้อย่างง่ายดาย ทั้งสะดวกและไม่ทาให้บ้านรกด้วย
7.เพิ่มชั้นวางของในห้องน้าให้หลายจุดมากขึ้น
การเพิ่มชั้นวางของทาให้บ้านดูรกน้อยกว่าการวางข้าวของเครื่องใช้ระเกะระกะโดยเฉพาะในห้องน้าที่หาก
ขวดแชมพู, สบู่ หล่นอยู่บนพื้นอาจจะทาให้ลื่นและเป็นอันตรายได้ การจัดบ้านนั้นควรเน้นเพื่อความปลอด

8. 8
ภัยรวมถึงในห้องน้าด้วย เพียงแค่คุณเพิ่มพื้นที่วางของใช้เช่นแชมพู,โฟมล้างหน้า,ครีมอาบน้า อีกสักสองสาม
จุด ก็จะช่วยให้ห้องน้าของคุณเป็นระเบียบ และข้าวของไม่กองที่หน้ากระจกเพียงที่เดียว ทั้งยังง่ายและ
สะดวกต่อการหยิบใช้งาน หากคุณอยู่ หรือทาวน์โฮมสองชั้น ก็ควรเพิ่มจุดวางของทั้งห้องน้าข้างบนและ
ข้างล่าง เพื่อความเป็นระเบียบและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
8.การฟอกอากาศ
เมื่อสิ่งของถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือเรื่องของความสะอาด ในห้องที่เคยรกมาก ๆ อาจเป็น
แหล่งรวมของฝุ่นละออง การฟอกอากาศเพื่อเคลียร์ฝุ่นและเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ จะช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ผ่อน
คลายและสดชื่นให้กับคนที่อยู่ในห้อง โดยการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศดี ๆ ไว้ในห้องสักเครื่องหนึ่ง
ด้วยว่าการจัดบ้านเก็บบ้านไม่จาเป็นต้องทาทั้งหมดภายในคราวเดียวกัน ยิ่งบางคนอยู่บ้านสองชั้นหรือทาวน์
โฮมสองชั้น หากทาทั้งสองชั้นในคราวเดียวอาจจะเหนื่อยมากจนรู้สึกว่าการจัดบ้านเป็นเรื่องน่าเบื่อ ค่อยๆทาตารางไป
ทีละเล็กทีละน้อย จะทาให้คุณสนุกสนานกับการจัดบ้านและสร้างความเป็นระเบียบให้กับบ้านได้เช่นเดียวกัน
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
- เลือกหัวข้อ
- นาเสนอหัวข้อต่อครูที่ปรึกษา
- ศึกษาและค้นคว้าหาข้อมูลโดยใช้แหล่งการศึกษาผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่มีความน่าเชื่อถือ และมีงานวิจัยเกี่ยวข้องกับ
หัวข้อที่เลือก
- จัดทาเอกสารการรายงาน
- นาเสนอและปรับปรุงแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
- คอมพิวเตอร์
- สมุดจดบันทึก
งบประมาณ
ไม่เสียค่าใช้จ่าย

9. 9
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับที่
ขั้นตอน
สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 คิดหัวข้อโครงงาน
นาย ยศพร ยานะ
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
- ได้รับความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการจัดระเบียบบ้าน
- ได้รับความรู้เกี่ยวกับโทษของห้องที่รก
- ได้รู้เกี่ยวกับวิธีการจัดระเบียบบ้านในขั้นต้น จนเมื่อคุณเห็นว่าข้าวของต่างๆ ได้จัดการแยกและเก็บแพ็คเป็นสัดส่วน
พื้นก็จะเริ่มโล่ง คุณจะเริ่มรู้สึกโล่งใจขึ้น แถมยังจะชวนให้คุณอยากจัดเก็บบ้านต่อไปอีกเรื่อยๆ ด้วยจะทาให้คุณ
สนุกสนานกับการจัดบ้านและสร้างความเป็นระเบียบให้กับบ้านได้เช่นเดียวกัน
สถานที่ดาเนินการ
- ห้องเรียนคอมพิวเตอร์โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
- บ้านของผู้จัดทา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
- จิตวิทยา
- สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าด้วยการอยู่ร่วมกันในสังคม

10. 10
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
1.https://decor.mthai.com/home-idea/tips-home-idea/31571.html
2.https://www.puri.co.th/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8
%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E
0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%
81%E0%B8%B2/
3.https://marquettechamber.com/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A
3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%
B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B9%86-
%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81/
4. https://www.wikihow.com/Clean-a-Very-Messy-Room
5. https://www.sanook.com/home/23455/
6. https://www.facebook.com/officialunitx/posts/626246391196138/
7.https://thongchairoj.medium.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%
A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0
%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A
2%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%
B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-
91f395dcc788