More Related Content
Similar to การจัดการฐานข้อมูล
Similar to การจัดการฐานข้อมูล (20)
More from Yongyut Nintakan
More from Yongyut Nintakan (16)
การจัดการฐานข้อมูล
- 2. การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล(Database Management) คือ การบริ หาร
แหล่งข้อมูลที่ถกเก็บรวบรวมไว้ที่ศนย์กลาง เพื่อตอบสนองต่อการใช้ของ
ู ู
โปรแกรมประยุกต์อย่างมีประสิ ทธิ ภาพและลดการซ้ าซ้อนของข้อมูล รวมทั้ง
ความขัดแย้งของข้อมูลที่เกิดขึ้นภายในองค์การ
- 3. โครงสร้างฐานข้อมูล
1. บิต (Bit)
บิต หมายถึง หน่วยเก็บข้อมูลที่เล็กที่สุดในเครื่ องคอมพิวเตอร์ ที่เป็ นสัญญาณดิจิตล ซึ่ ง
ั
ประกอบด้วยสัญญาณไฟฟ้ า 2 สถานะ ได้แก่ 0 กับ 1 หรื อ เปิ ดกับปิ ด หรื อ จริ งกับเท็จ
2.ไบต์ (Byte)
ไบต์ หมายถึง การนาค่าบิตจานวน 8 บิต มาเรี ยงต่อกันตามมาตรฐานรหัส ASCII จะแทนค่าตัว
อักขระได้ 1ตัวอักษร เช่น01000001แทนตัวอักษร“A”เป็ นต้น แต่ตามมาตรฐาน Unicode จะใช้
จานวน 16 บิต
- 4. 3. เขตข้ อมูล (Field)
ั
เขตข้อมูล หมายถึง อักขระที่สมพันธ์กนจานวนตั้งแต่ 1 อักขระเป็ นต้นไป มารวมกันแล้วเกิด
ั
ความหมาย แสดงลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง จากตารางที่ ข้อมูลในแถวที่ 1 มีค่า A- ประกอบด้วยตัว
อักขระ 2 ตัวคือ A และ – มีความหมายว่า หมู่โลหิ ต A ชนิด Rh Negative เป็ นต้น เขตข้อมูลบางครั้ง
เรี ยกอีกอย่างหนึ่งว่า แอตทริ บิวต์
ตารางที่ แสดงแฟ้ มข้อมูลรายชื่อผูบริ จาคโลหิต
้
- 5. 4. ระเบียน(Record)
ระเบียน หมายถึง กลุ่มของเขตข้อมูล ตั้งแต่ 1 เขตข้อมูลขึ้นไป มีความสัมพันธ์
ประกอบขึ้นมาจากข้อมูลพื้นฐานต่างประเภทกันรวมขึ้นมาเป็ น 1 ระเบียน ระเบียน
่
ประกอบด้วยเขตข้อมูล ต่างประเภทกันอยูรวมกันเป็ นชุด
5. แฟ้ มข้อมูล (File)
แฟ้ มข้อมูล หมายถึง ตารางสาหรับการจัดเก็บข้อมูลหรื อชุดของข้อมูลที่มีความ
เกี่ยวข้องกัน จัดอยูรวมกันอย่างมีระเบียบ ในรู ปแบบแถวและสดมภ์
่
- 7. การออกแบบข้อมูล
การจาลองข้อมูลในระบบการจัดการฐานข้อมูล มีวตถุประสงค์เพื่อเป็ นเครื่ องมือ
ั
สื่ อสารระหว่างผูใช้ขอมูลสนเทศกับผูออกแบบฐานข้อมูล และผูออกแบบฐานข้อมูล
้ ้ ้ ้
กับโปรแกรมเมอร์ ให้เข้าใจตรงกัน การจาลองข้อมูลใช้เทคนิคการใช้รูปภาพ
ไดอะแกรมแทน ความหมาย การจาลองข้อมูลมี 3 ชนิด
- 8. 1. ฐานข้ อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database)
เป็ นการเก็บข้อมูลในรู ปแบบที่เป็ นตาราง (Table) หรื อเรี ยกว่า รี เลชัน (Relation) มีลกษณะเป็ น 2
่ ั
มิติ คือเป็ นแถว (row) และเป็ นคอลัมน์ (column) การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างตาราง จะเชื่อมโยงโดย
ใช้แอททริ บิวต์ (attribute) หรื อคอลัมน์ที่เหมือนกันทั้งสองตารางเป็ นตัวเชื่อมโยงข้อมูล ฐานข้อมูล
เชิงสัมพันธ์น้ ีจะเป็ นรู ปแบบของฐานข้อมูลที่นิยมใช้ในปัจจุบน ดังตัวอย่าง
ั
รหัสพนักงาน ชื่อพนักงาน ทีอยู่
่ เงินเดือ รหัส
น แผนก
12501535 นายสมพงศ์ กรุ งเทพ 12000 VO
12534568 นายมนตรี นครปฐม 12500 VN
12503452 นายเอก กรุ งเทพ 13500 VO
12356892 นายบรรทัด นนทบุรี 11500 VD
15689730 นายราชัน สมุทรปราการ 12000 VA
- 9. 2. ฐานข้ อมูลแบบเครือข่ าย (Network Database)
ฐานข้อมูลแบบเครื อข่ายจะเป็ นการรวมระเบียนต่าง ๆ และความสัมพันธ์ระหว่างระเบียนแต่จะ
ต่างกับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ คือ ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จะแฝงความสัมพันธ์เอาไว้ โดยระเบียนที่
มีความสัมพันธ์กนจะต้องมีค่าของข้อมูลในแอททริ บิวต์ใดแอททริ บิวต์หนึ่งเหมือนกัน แต่ฐานข้อมูล
ั
แบบเครื อข่าย จะแสดงความสัมพันธ์อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น
- 10. 3. ฐานข้ อมูลแบบลาดับชั้น (Hierarchical Database)
ฐานข้อมูลแบบลาดับชั้น เป็ นโครงสร้างที่จดเก็บข้อมูลในลักษณะความสัมพันธ์แบบพ่อ-ลูก
ั
(Parent-Child Relationship Type : PCR Type) หรื อเป็ นโครงสร้างรู ปแบบต้นไม้ (Tree) ข้อมูลที่จดเก็บ
ั
ในที่น้ ี คือ ระเบียน (Record) ซึ่งประกอบด้วยค่าของเขตข้อมูล (Field) ของเอนทิต้ ีหนึ่ง ๆ
- 11. ประเภทของระบบฐานข้อมูล
แบ่งออกเป็ น 4 ประเภทใหญ่ ตามชนิด ต่าง ๆ ดังนี้
1.แบ่ งตามจานวนของผู้ใช้
การแบ่งโดยใช้จานวนผูใช้เป็ นหลัก สามารถแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทได้แก่
้
1.1 ผูใช้คนเดียวเป็ นระบบฐานข้อมูลที่ใช้ภายในองค์กรขนาดเล็ก เช่น ระบบ Point of sale
้
ของร้านสะดวกซื้อ หรื อระบบบัญชีของร้านเล็ก ๆ ทัวไป เป็ นต้น มีเครื่ องคอมพิวเตอร์เพียงเครื่ อง
่
้ ั ้
เดียวและผูใช้เพียงคนเดียว ไม่มีการแบ่งฐานข้อมูลร่ วมกันใช้กบผูอื่น ถ้าผูใช้คนอื่นต้องการใช้ระบบ
้
นี้จะต้องรอให้ผใช้คนแรกเลิกใช้ก่อนจึงจะใช้ได้
ู้
- 12. 1.2 ผูใช้หลายคน แบ่งออกเป็ น 2 ประเภทย่อย ๆ ได้แก่ ผูใช้เป็ นกลุ่ม หรื อ Workgroup database
้ ้
และประเภทฐานข้อมูลขององค์กรขนาดใหญ่หรื อ Enterprise database
ผูใช้เป็ นกลุ่ม เป็ นฐานข้อมูลที่มีผใช้หลายกลุ่มหรื อหลายแผนก และแต่ละกลุ่มอาจมีผใช้หลายคน
้ ู้ ู้
่
มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันหรื ออาจจะใช้ฐานข้อมูลเดียวกันก็ได้ แต่จะอยูในองค์กรเดียวกันเท่านั้น
ั
องค์การขนาดใหญ่ เป็ นระบบฐานข้อมูลที่ใช้กบองค์กรขนาดใหญ่ที่มีสาขาหลายสาขา ทั้งใน
ประเทศหรื อมีสาขาในต่างประเทศ จะใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ มีระบบสารอง การรักษาความ
ปลอดภัยเป็ นอย่างดี
- 13. 2. แบ่ งโดยใช้ ขอบเขตของงาน
การแบ่งโดยใช้ขอบเขตของงาน แบ่งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ประเภทผูใช้คนเดียว ประเภท
้
ผูใช้เป็ นกลุ่มและประเภทองค์การขนาดใหญ่ ดังได้กล่าวรายละเอียดในตอนต้นแล้ว
้
3. แบ่ งตามสถานทีต้ัง
่
การแบ่งตามสถานที่ต้ง แบ่งออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ประเภท ศูนย์กลาง และประเภท
ั
กระจาย ทั้งสองประเภทมีรายละเอียดดังนี้
3.1 ประเภทศูนย์กลาง เป็ นระบบฐานข้อมูลที่นาเอามาเก็บไว้ในตาแหน่งศูนย์กลาง ผูใช้ทุกแผนก
้
ทุกคนจะต้องมาใช้ขอมูลร่ วมกัน ตามสิ ทธิ์ของผูใช้แต่ละกลุ่มหรื อแต่ละคน
้ ้
- 14. 3.2 ประเภทกระจาย เป็ นระบบฐานข้อมูลที่เก็บฐานข้อมูลไว้ ณ ตาแหน่งใด ๆ ของแผนก และแต่ละ
แผนกใช้ฐานข้อมูลร่ วมกันโดยผูมีสิทธิ์ใช้ตามสิ ทธิ์ที่ได้กาหนดจากผูมีอานาจ การเข้าถึงข้อมูล เช่น
้ ้
ฐานข้อมูลของฝ่ ายบุคคลเก็บไว้ที่แผนกทรัพยากรบุคคล ยอมให้ฝ่ายบัญชีนารายชื่อของพนักงานไป
ใช้ร่วมกับฐานข้อมูลการจ่ายโบนัส และในขณะเดียวกันฝ่ ายบัญชีมีฐานข้อมูลเก็บเงินเดือน สวัสดิการ
และรายจ่ายต่าง ๆ ของพนักงานเพื่อให้แผนกอื่นๆ เข้ามาใช้ได้เช่นกัน
4.แบ่ งตามการใช้ งาน
การแบ่งตามการใช้งานแบ่งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ฐานข้อมูลสาหรับงานประจาวัน
ฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสิ นใจ และเพื่อเป็ นคลังข้อมูล
4.1 ฐานข้อมูลสาหรับงานประจาวัน เป็ นระบบฐานข้อมูลที่ใช้ในงานประจาวันของพนักงาน
ระดับปฏิบติการป้ อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ เช่น งานสิ นค้าคงคลัง งานระบบซื้อมาขายไป สาหรับร้าน
ั
สะดวกซื้อ หรื อระบบงานขายของร้านค้าทัวไป เป็ นต้น ฐานข้อมูลประเภทนี้มีการนาข้อมูลเข้า
่
เปลี่ยนแปลงและลบออกตลอดทั้งวัน จึงทาให้ขอมูลเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
้
- 15. 4.2 ฐานข้อมูลเพื่อการตัดสิ นใจ ระบบฐานข้อมูลประเภทนี้มีไว้เพื่อใช้ในการสนับสนุนการ
ตัดสิ นใจของผูใช้ระดับผูบริ หารระดับกลางขึ้นไป ข้อมูลที่นาเข้ามาในระบบได้จากการป้ อน
้ ้
ข้อมูลงานประจาวันของฐานข้อมูลสาหรับงานประจาวัน ส่ วนใหญ่ฐานข้อมูลประเภทนี้
นาไปใช้ในงานวางแผนกลยุทธ์ในองค์กร
4.3 ฐานข้อมูลเพื่อเป็ นคลังข้อมูล ฐานข้อมูลประเภทนี้เกิดจากการนาข้อมูลเข้ามาในระบบ
ทุก ๆ วันจึงทาให้เกิดมีขอมูลขนาดใหญ่ จึงนาเอาข้อมูลที่มีประโยชน์มาสร้างฟั งก์ชนหรื อ
้ ั
สมการต่างเพื่อประมวลผลหาผลลัพธ์ต่าง ๆ ให้เป็ นประโยชน์กบองค์กร
ั
- 16. หน้าที่ของระบบการจัดการฐานข้อมูล
1.หน้ าทีจัดการพจนานุกรมข้ อมูล
่
ในการออกแบบฐานข้อมูลโดยปกติ ผูออกแบบได้เขียนพจนานุกรมข้อมูลในรู ปของเอกสารให้กบ
้ ั
โปรแกรมเมอร์ โปรแกรมเมอร์จะใช้ซอฟต์แวร์ระบบการจัดการฐานข้อมูลสร้างพจนานุกรมข้อมูล
ต่อไป และสามารถกาหนดความสัมพันธ์ระหว่างตาราง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างข้อมูล
จาเป็ นต้องเปลี่ยนที่พจนานุกรมข้อมูลด้วย โปรแกรมเมอร์สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างข้อมูลได้
ทันที ต่อจากนั้นจึงให้พจนานุกรมข้อมูลพิมพ์รายงาน พจนานุกรมข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วเป็ น
เอกสารได้เลยทันที่ โดยไม่ตองแก้ไขที่เอกสาร
้
- 17. 2.หน้ าทีจัดการแหล่ งจัดเก็บข้ อมูล
่
ระบบการจัดการฐานข้อมูลที่ทนสมัยจะไม่ทาหน้าที่เพียงจัดการแหล่งจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่
ั
ยังเพิมหน้าที่ที่เกี่ยวกับการสร้างฟอร์มป้ อนข้อมูลเข้าหรื อกาหนดแบบจอภาพ แบบรายงาน
่
หรื อแม้แต่การตรวจสอบข้อมูลนาเข้าว่าถูกต้องหรื อไม่ และจัดการเรื่ องอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
3.จัดการด้ านความปลอดภัยของข้ อมูล
ระบบจัดการฐานข้อมูลทาหน้าที่รักษาความมันคง ความปลอดภัยของข้อมูล การไม่ยนยอม
่ ิ
เข้าถึงข้อมูลจากผูใช้ที่ไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้ฐานข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิงฐานข้อมูลประเภทผูใช้
้ ่ ้
หลายคน นอกจากนี้ยงสามารถกาหนดสิ ทธิ์ให้ผใช้แต่ละคนใช้คาสัง เพิ่ม หรื อลบ ปรับปรุ ง
ั ู้ ่
ข้อมูลได้เป็ นรายคนหรื อรายกลุ่ม
- 18. 4.ควบคุมการเข้ าถึงข้ อมูลของผู้ใช้
การควบคุมการเข้าถึงข้อมูล เป็ นการทาหน้าที่ให้ผใช้เข้าใช้ได้หลาย ๆ คนในเวลาเดียวกันโดยไม่ทา
ู้
ให้เกิดขัดข้องของข้อมูล ซึ่งจะเน้นกฎความสมบูรณ์ของข้อมูลและการใช้ขอมูลพร้อมกัน
้
5.การเปลียนรู ปแบบและการแสดงผลข้ อมูล
่
การเปลี่ยนรู ปแบบและการแสดงผลข้อมูล เป็ นหน้าที่สาหรับเปลี่ยนข้อมูลที่ถูกป้ อนเข้าไปเป็ น
่ ่
โครงสร้างข้อมูลจะจัดเก็บ ซึ่งอยูในมุมมองทางกายภาพ หรื ออาจจะกล่าวได้วา ระบบจัดการ
ฐานข้อมูลทาข้อมูลให้เป็ นอิสระจากโปรแกรมประยุกต์ได้
- 19. ตัวอย่างโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล
โปรแกรม DBase
เป็ นโปรแกรมจัดการฐานข้ อมูลที่ทางานบน DOS เป็ นโปรแกรมที่ใช้ งานง่าย มี
เครื่ องมืออานวยความสะดวกต่อการเขียนโปรแกรม เช่น Report, Screen และ Label เป็ นต้ น
และข้ อมูลรายงานที่อยู่ในไฟล์บน Dbase จะสามารถประมวลผลในโปรแกรม Word
Processor ได้ รวมถึง Excel ก็สามารถอ่านไฟล์ .DBF ที่สนร้ างขึ ้นโดยโปรแกรม Dbase ได้
ด้ วย
- 20. โปรแกรม Microsoft Access
เป็ นโปรแกรมที่ใช้ จดการกับฐานข้ อมูล สามารถจัดการกับข้ อมูลปริ มาณมากๆ ได้
ั
อย่างง่ายดาย ทังในแง่การจัดเก็บข้ อมูล การค้ นหาข้ อมูล การจัดทารายงานข้ อมูล
้
การสารองข้ อมูล สามารถสร้ างแบบฟอร์ มที่ต้องการเรี ยกดูในฐานข้ อมูล หลังจากบันทึก
ข้ อมูลในฐานข้ อมูลเรี ยบร้ อยแล้ ว สามารถค้ นหาหรื อเรี ยกดูข้อมูลใดก็ได้ นอกจากนี ้
ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้ อมูล โดยการกาหนดรหัสผ่านเพื่อปองกันความ ้
ปลอดภัยของข้ อมูลในระบบได้ ด้วย
- 21. โปรแกรม Microsoft SQL Server
เป็ นโปรแกรมจัดการฐานข้ อมูลเชิงสัมพันธ์ ใช้ ช่วยงานผู้บริ หารงานระบบ
ฐานข้ อมูลให้ ทางานได้ ง่ายขึ ้น และรองรับการทางานกับระบบงานขนาดใหญ่ได้ อย่างมี
ประสิทธิภาพ สามารถจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่มความยืดหยุ่นต่อการนาไปใช้ จึง
ี่
เป็ นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไม่วาจะเป็ นองค์กรธุรกิจขนาดกลาง หรื อขนาดใหญ่ทว
่ ั่
โลก ซึงโปรแกรม Microsoft SQL Server นัน มีหลายเวอร์ ชนตามลักษณะการใช้ งาน
่ ้ ั่
- 22. โปรแกรม FoxPro
เป็ นโปรแกรมฐานข้ อมูลที่มีผ้ ใช้ งานมากที่สด เนื่องจากใช้ ง่ายทังวิธีการเรี ยกจากเมนูของ
ู ุ ้
FoxPro และประยุกต์โปรแกรมขึ ้นใช้ งาน โปรแกรมที่เขียนด้ วย FoxPro จะสามารถใช้ กลับ
dBase คาสังและฟั งก์ชนต่าง ๆ ใน dBase จะสามารถใช้ งานบน FoxPro ได้ นอกจากนี ้ใน
่ ั่
FoxPro ยังมีเครื่ องมือช่วยในการเขียนโปรแกรม เช่น การสร้ างรายงาน
- 23. โปรแกรม Oracle
Oracle คือ โปรแกรมจัดการฐานข้ อมูล ผลิตโดยบริ ษัทออราเคิล ซึงเป็ นโปรแกรม
่
จัดการฐานข้ อมูลเชิงสัมพันธ์ หรื อ DBMS (Relational Database Management
System) ตัวโปรแกรมนี ้จะทาหน้ าที่เป็ นตัวกลางคอยติดต่อ ประสาน ระหว่างผู้ใช้ และ
ฐานข้ อมูล ทาให้ ผ้ ใช้ งานสามารถใช้ งานฐานข้ อมูลได้ สะดวกขึ ้น เช่นการค้ นหาข้ อมูลต่างๆ
ู
ภายในฐานข้ อมูลที่ง่ายและสะดวก โดยผู้ใช้ ไม่จาเป็ นต้ องทราบถึงโครงสร้ างภายในของ
ฐานข้ อมูลก็สามารถเข้ าใช้ ฐานข้ อมูลนันได้
้
- 25. จัดทาโดย
นาย ยงยุทธ นิลทกาญจน์ เลขที่ 9
นางสาว ปฐมพร จิรวุฒิวรนาถ เลขที่15
นางสาว พรทิพย์ ทิมทอง เลขที่ 16
นางสาว รินพร เสดวงชัย เลขที่ 17
นาย ศรัณย์ ศิรินิคม เลขที่ 27
นาย พีรพล รัตนผล เลขที่ 35
ชันมัธยมศึกษาปี ที่ 5/3
้