SlideShare a Scribd company logo
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                1

                                  บทที่ 1 การเคลื่อ นที่ใ นแนวเส้น ตรง


เนื้อ หาประกอบด้ว ย
1.1 คำาจำากัดความของตำาแหน่งและการกระจัด
1.2 คำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ย
1.3 คำาจำากัดความของความเร็วขณะใดขณะหนึ่งและอัตราเร็ว
1.4 คำาจำากัดความของความเร่งเฉลียและความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง
                                ่
1.5 การเคลื่อนที่เมื่อความเร่งคงที่
1.6 การตกอิสระของวัตถุ
1.7 สมการจลศาสตร์และการแก้สมการโดยใช้แคลลูลัส


         ในบทนี้จะศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุใน 1 มิติ โดยไม่สนใจถึงสาเหตุที่ทำาให้วัตถุ
เคลื่อนที่เรียกว่า จลศาสตร์


1.1                    คำา จำา กัด ความของตำา แหน่ง และการกระจัด
       ก่อนจะทำาความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ในหัวข้อต่อ ๆ ไป ต้องทราบความหมายตำาแหน่งของวัตถุ
ก่อน พิจารณารูปที่ 1.1




                  รูปที่ 1.1                                        รูปที่ 1.2


       ตำา แหน่ง คือบริเวณที่ตั้งของวัตถุ (รถตั้งอยู่ที่ตำาแหน่ง        x1
                                                                             ) ในระบบพิกัดฉาก
       การกระจัด คือการเปลียนแปลงตำาแหน่งของวัตถุ พิจารูปที่ 1.2 เมื่อรถเปลี่ยนตำาแหน่งจาก
                           ่
  x1
         ไปยัง ตำาแหน่ง    x2
                                จากเงื่อนไขข้างต้นสามารถนำามาเขียนเป็นสมการทางคณิตศาสตร์ได้
ดังนี้
                                       ตำาแหน่ง     ⇒    x




                                       นิยามการกระจัด        ∆= 2 −1
                                                             x x   x




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                     2

ตัว อย่า งที่ 1.1 จากรูปเป็นกราฟการเดินทางท่องเที่ยวไปเชียงใหม่โดยทางรถยนต์ เมื่อจุดเริ่ม
ต้นอยู่ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ดังรูปที่ 1.2 จงคำานวณหา




                                                                1.       ตำาแหน่งของรถยนต์ที่               t =2 s




                                                                2.       ตำาแหน่งของรถยนต์ที่               t =8s




                                                                3.       การกระจัดภายในเวลา                  6s




                                                                4. การกระจัดทั้งหมด




                       รูปที่ 1. 2
วิธ ีท ำา
            ก. จากกราฟ         x1 =110km



2           ข. จากกราฟ          x2 =375km



3           ค. จากคำาจำากัดความของการกระจัด                         ∆x             =            x 2 −x1



                                                                               =                (375km    110 km )
                                                                                                          −




                                                                               =                265km




            ง. จากกราฟการกระจัดทั้งหมด                ∆xT
                                                                =                      495 km




1.2                    คำา จำา กัด ความของความเร็ว เฉลี่ย
      จากหั ว ข้ อ ที่ 1.1     เมื่ อ ทราบตำา แหน่ ง ของวั ต ถุ แ ล้ ว ในหั ว ข้ อ ต่ อ ไปจะอธิ บ ายถึ ง การ
เปลี่ยนแปลงตำาแหน่งอย่างรวดเร็ว
      ความเร็วเฉลี่ย คืออัตราการเปลียนแปลงการกระจัดต่อช่วงเวลา
                                    ่
      คำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ยเมื่อเขียนในรูปของสมการทางคณิตศาสตร์
                                              ∆x  x − x1
                                 v = v av =      = 2
                                              ∆t   t 2 − t1




ตัว อย่า งที่ 1.2 จากโจทย์ข้อ 1.1 จงคำานวณหา
            1.   ความเร็วเฉลี่ยในการเดินทางจาก                t = 2h
                                                                         ถึง           t = h
                                                                                          8




            2. ความเร็วเฉลี่ยเมื่อสิ้นสุดการเดินทาง




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                           3

วิธ ีท ำา จากคำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ย
                                                                                ∆x
          ก.                   v
                                      =           v av
                                                                 =              ∆t

                                                   x 2 − x1
                                      =            t 2 − t1

                                                   (375km −110km )
                                      =                (8h − 2 h )

                                      =           44.20 (km / h )
                                                                           ข.
                                                                                ∆x
                               v
                                      =           v av
                                                                 =              ∆t

                                                   ( 495km )
                                      =               (11h )

4                                     =           45(km / h )




     จากตัวอย่า งข้า งต้นแสดงให้เห็น ถึงการเลื่อนตำา แหน่ง พิจารณาการเคลื่อนตำา แหน่งของ
วัตถุภายในเวลา 2 ชั่วโมง จากช่วงเวลา                     t = h
                                                            3
                                                                     ถึง    t = h
                                                                               4
                                                                                      และจาก         t = h
                                                                                                        6
                                                                                                             ถึง   t = h
                                                                                                                      7




ความเร็วเฉลี่ยภายในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงในกรณีเช่นนี้หาไม่ได้เนื่องจากช่วงเวลาไม่ต่อเนื่อง




1.3                    นิย ามความเร็ว ขณะใดขณะหนึ่ง และอัต ราเร็ว




                                                         จากรู ป ที่ 1.3 กราฟแสดงความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง
                                                         ตำา แ ห น่ ง กั บ เ ว ล า เป็ น กราฟเส้ น ตรงความเร็ ว
                                                         เฉลี่ยคือความชัน (slope) ของกราฟ
                                                         เนื่องจาก
                                                                                          ∆x   
                                                                                slope =      = v = v av
                                                                                          ∆t




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                 4

     อัตราเร็วเฉลี่ย คือขนาดของเร็วเฉลีย เป็นการกระจัดต่อช่วงเวลา
                                       ่




                       รูปที่ 1.3




                                                         จ า ก รู ป ที่ 1.4 ก ร า ฟ แ ส ด ง ค ว า ม สั ม พั น ธ์
                                                 ระหว่ า ง ตำา แ ห น่ ง กั บ เ ว ล า เป็ น กราฟเส้ น โค้ ง
                                                 ความเร็วเฉลี่ย (ความชัน ) จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น
                                                 อยู่กับขนาดของ             ∆t
                                                                                      ถ้า   ∆t
                                                                                                 มีค่าน้อยมาก ๆ เรา
                                                 สามารถหา ความชั น ได้ จ ากเส้ น สั ม ผั ส (tangent
                                                 line) ส่วนโค้ง ความเร็วทีได้เรียกว่าความเร็วขณะ
                                                 ใดขณะหนึ่งนั่นคือ
                                                                                 ∆x
                                                         =               lim
                                                   v
                                                                         ∆t →0   ∆t

สามารถเขียนอยูในรูปของสมการทางคณิตศาสตร์ได้ดังนี้
              ่


                                                                                                  dx
                       รูปที่ 1.4                                                     =
                                                                     v
                                                                                                  dt




                                               นั่ น คื อ ความเร็ ว ขณะใดขณะหนึ่ ง เป็ น การกระจั ด ต่ อ
                                      เวลาในช่ ว งเวลาสั้ น มาก ๆ หรื อ เป็ น ความเร็ ว ที่ จุ ด ใดจุ ด หนึ่ ง
                                      ของการเคลื่ อ นที่ เช่ น ความเร็ ว ขณะขั บ รถสั ง เกตุ ไ ด้ จ ากเข็ ม
                                      ไมล์ขณะนัน ดังรูปที่ 1.5
                                               ้




          รูปที่ 1.5




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                               5



ตั ว อ ย่ า ง ที่ 1.3 โยนลู ก บอลขึ้ น ตามแนวดิ่ ง ตำา แหน่ ง ของลู ก บอล ณ.เวลา                                    t
                                                                                                                        ใด ๆ คื อ
     y = + t −t
        (1 25 5        2
                                )m



            1. จงเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับระยะทาง
            2.   ความเร็วเฉลี่ยในช่วง 2 วินาทีแรก
            3.   ความเร็วเฉลี่ยในช่วง 1 วินาทีแรก
            4.   ความเร็วที่เวลา         t =0 s




วิธ ีท ำา
ก.




2.    จากคำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ย
                                                       ∆y y 2 − y1
                                                          =
                                     =
                           
                           v
                                                       ∆t   t 2 − t1

                           y2
                                     =             ( + (2 ) − (2 ) )m
                                                   1  25     5
                                                                           2

                                                                                                    =         31m



                           y1
                                     =             ( + (0) − (0) )m
                                                   1  25    5
                                                                           2

                                                                                                    =         1m



                           t2
                                     =            2s



                           t1
                                     =            0s




                                                       ( 31 −1) m
                                     =                                     =               15(m / s )
                           

                                                         ( 2 − 0) s
                           v




3.    จากคำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ย
                                                       ∆y y 2 − y1
                                                          =
                                     =
                           
                           v
                                                       ∆t   t 2 − t1

                                     =            1 + ( )−( )
                                                                                       =
                           y2                        25 1 5 1
                                                                       2
                                                                               m                        21m




                                     =            1 + ( )− ( )
                                                                                                    =
                           y1                        25 0 50 0
                                                                           2
                                                                                   m                          1m




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                                   6

                        t2
                                 =                 1s



                        t1
                                 =                 0s




                                                        ( 21m −1m )
                                 =                                            =             20(m / s )
                        

                                                          (1s − 0 s )
                        v




4.      ความเร็วที่     t =0 s
                                 คือความเร็วขณะใดขณะหนึ่งจะได้
                                                        dy
                                                           =
                                                                 (
                                                             d 1 + 25t − 5t 2  m 
                                                                               
                                                                                        )
                                 =
                        v
                                                        dt          dt        s 

                                 =                      25 − t (
                                                           10   m / s)




เมื่อ      t =0 s




                                 =                      25 − ( ) m / s )
                                                           10 0 (
                        v



                                 =                  25(m / s )




             ข้อ สัง เกต จากตัวอย่างข้างต้นสังเกตได้ว่าในขณะที่ช่วงเวลาสั้นลงความเร็วเฉลี่ยจะมี
ค่าใกล้กับความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง
             คำา จำา กัดความของอัตราเร็วคือขนาดของความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง อัตราเร็วจะมีค่า
เป็นบวกเสมอ ในขณะที่ความเร็วมีได้ทั้งค่าบวกและค่าลบ ข้อแตกต่างระหว่างอัต ราเร็วและ
ความเร็วจะสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น เมื่อความเร็วคิดอยู่ในรูปของเวกเตอร์ซึ่งจะศึกษาไปในการ
เคลื่อนที่ 2 มิติ


1.4                    คำา จำา กัด ความของความเร่ง เฉลี่ย และความเร่ง ขณะใดขณะหนึ่ง
             ในหั ว ข้ อ นี้ จ ะอธิ บ ายถึ ง การเปลี่ ย นแปลงความเร็ ว ซึ่ ง เรี ย กว่ า ความเร่ ง ข้ อ แตกต่ า ง
ระหว่างความเร็วและความเร่งคือ ความเร็วบอกถึงการเปลี่ยนแปลงตำาแหน่ง ส่วนความเร่งบอก
ถึงการเปลี่ยนแปลงความเร็วนั่นคือความเร่งคืออัตราการเปลียนแปลงความเร็ว
                                                       ่
             เมื่อเขียนอยู่ในรูปสมการทางคณิตศาสตร์จะได้นิยามของความเร่งเฉลียคือ
                                                                           ่
                                                                     ∆v v 2 − v1
                                                                        =
                                               =
                                     
                                     a
                                                                     ∆t   t 2 − t1

             คำาจำากัดความของความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง
                                                                     dv
                                               =
                                     a
                                                                     dt




ตั ว อ ย่ า ง ที่ 1.4 รถยนต์ คั น หนึ่ ง สามารถเร่ ง ความเร็ ว จาก                                   0m / s
                                                                                                              จนกระทั่ ง มี ค วามเร็ ว
  26.8m / s
                    ภายในเวลา            6s
                                              จงหาความเร่งเฉลี่ยของรถคันนี้
                                                                     ∆v v 2 − v1
                                                                        =
วิธ ีท ำา จาก                                  =
                                     
                                     a
                                                                     ∆t   t 2 − t1

                                                                     ( 26.8m / s − 0m / s )
                                               =                           ( 6 s − 0s )
                                                                          (         )
                                               =                     4.47 m / s 2




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                                                7



             จากกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างตำาแหน่งกับเวลา ความชันของกราฟคือความเร็ว
ในทำานองเดียวกันความเร่งคือความชันของกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับเวลา


ตัว อย่า ง ที่ 1.5                     กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับเวลาของรถคันหนึ่งแสดงดัง
รูปที่ 1.6 จากกราฟอธิบายว่าเมื่อ


                                                                  1.    ช่วงแรกรถมีความหน่วง (decelerating)
                                                                  2.    รถมีความเร่ง (accelerating)
                                                                  3. ความเร่งเป็นศูนย์
                                                                  4. รถมีความเร็วลดลง




                 รูปที่ 1.6
                                                                                                                           dv
                                                                                                                      a=
วิธ ีท ำา     ก. ; ข. ; ค. จากคำาจำากัดความของความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง                                                        dt   ซึ่งสามารถหา

ได้จากความชันของกราฟ
             ง. ช่วงที่รถมีความเร็วลดลงมีอยู่ 2 ช่วงคือช่วงเวลา                                        t =0 s
                                                                                                                     ถึง    t = .5 s
                                                                                                                               0
                                                                                                                                       และช่วง
เวลา         t = .8 s
                2
                             ถึง         t = .5 s
                                            3




1.5                         การเคลื่อ นที่เ มื่อ ความเร่ง คงที่
             ถ้ า เรารู้ ว่ า วั ต ถุ เ ริ่ ม ต้ น เคลื่ อ นที่ จ ากตำา แหน่ ง ไหน ความเร็ ว ต้ น เท่ า ใดและมี ค วามเร่ ง
เท่าใด เราจะสามารถบอกได้ว่าช่วงต่อไปวัตถุจะอยู่ที่ไหน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้สามารถอธิบายได้
โดยใช้ สมการทางคณิต ศาสตร์ เมื่อ กำา หนดให้ตำา แหน่ งเริ่ ม ต้น คื อ                                            x0
                                                                                                                     ; ความเร็ว ต้น คื อ   v0
                                                                                                                                                ;
ความเร่งคือ                 ความเร่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลาคือ                                 ; ความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลา
                        a                                                                  at




คือ     vt
             ; ตำาแหน่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลาคือ                           xt
                                                                                   ; ความเร่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของตำา แหน่งคือ
  ax
       ; และความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของตำา แหน่งคือ                                 vx
                                                                                                ซึ่งสามารถเขียนอยู่ในรูปสมการการ
เคลื่อนที่
       ในกรณีที่วัต ถุเคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงที่สมการการเคลื่อนที่กรณีนี้ เราเรียกว่าสมการจล
ศาสตร์ ให้          at = a
                                   ;    ax =a
                                                    ; เมื่อ       คือความเร่งคงที่
                                                              a




สมการความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลาพิจารณาได้จากนิยามความเร่งเฉลี่ย
                                                                   ∆v
                                                      =
                                           
                                           a
                                                                   ∆t

                                                                    vt − v0
                                                      =
                                           a
                                                                     t−0

                                           vt
                                                      =            v0 +at




เป็นสมการความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลา



ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                                                 8



สมการตำาแหน่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลาพิจารณาได้จากนิยามความเร็วเฉลี่ย                                                         ( v)


                                                                         ∆x
                                           v
                                                          =              ∆t

                            1                                            xt − x0
                              ( v + v0 )                  =
                            2                                             t−0

                                                                                        1
                            x t −x 0
                                                                     =                    ( v + v 0 )t
                                                                                        2

แทน           ด้วย           จากสมการข้างบนซึ่งเป็นสมการความเร็วเมื่อฟังก์ชั่นของเวลาจะได้
         v             vt



                                                                                        1
                            x t −x 0
                                                                     =                    ( v0 + at + v 0 )t
                                                                                        2

                                                                                   1 2
                                                                         v0 t +
                                                          =                        2
                                                                                     at


                                                                                          1
                                                                         x 0 +v 0 t +
                                           xt
                                                          =                               2
                                                                                            at 2


เป็นสมการตำาแหน่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลา


             ในทำานองเดียวกันความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของตำาแหน่ง สามารถหาได้โดยหาเวลาจาก
สมการความเร็วที่เป็นฟังก์ชั่นของเวลา จากนั้นนำาเวลาที่ได้แทนลงในสมการตำาแหน่งเมื่อเป็น
ฟังก์ชั่นของเวลาดังนี้
                                           vt
                                                          =              v 0 +at



                                                                         v − v0
                                                          =
                                           t
                                                                           a

                                                                                          1
                                                                         x 0 +v 0 t +
จาก                                                       =                                 at 2
                                           x
                                                                                          2

                                                                                                                       2
                                                                                   v − v0  1  v −v 0 
                                                          =              x0 + v 0          + a       
                                                                                   a  2  a 

                                                                                   vv 0 − v 0
                                                                                            2
                                                                                                v 2 − 2vv 0 + v 0
                                                                                                                2

                                                          =              x0 +                 +
                                                                                       a               2a

                                                                                   2vv 0 − 2v 0 + v 2 − 2vv 0 + v0
                                                                                              2                  2

                                                          =              x0 +
                                                                                                 2a

                                                                                  v 2 − v0
                                                                                         2

                                                          =              x0 +
                                                                                     2a

                                                                         v 0 +2a ( x −x 0 )
                                                          =
                                                                           2
                                           v2




จากสมการจะเห็นว่าเมื่อ                                  คงที่ความเร็วจะเป็นฟังก์ชั่นของระยะทางเขียนใหม่ได้เป็น
                                                    a



                                                                         v 0 +2a ( x −x 0 )
                                                          =
                                                2                          2
                                           v   t




             จากสมการที่ ไ ด้ กำา หนดให้                             คื อตำา แหน่ ง เริ่ ม ต้ น ;                   คื อ ความเร็ ว ต้ น ;       คื อ
                                                                x0                                             v0                           a




ความเร่งเป็นค่าคงที่ เราสามารถใช้สมการเหล่านี้หาความเร่ง ความเร็ว และตำาแหน่งของวัตถุ
ที่เวลาใด ๆได้และยังสามารถหาความเร่งและความเร็วของวัตถุที่ตำาแหน่งใด ๆ ได้



ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                               9



สมการการเคลื่อนที่ของวัตถุเมื่อความเร่งคงที่สามารถเขียนได้ดังนี้
                                               =
                                    at                      a


                                    vt
                                               =                v 0 +at



                                                                               1
                                                                x 0 +v 0 t +
                                    xt
                                               =                               2
                                                                                 at 2


                                               =
                                    at                      a



                                                                v 0 +2a ( x −x 0 )
                                               =
                                                                  2
                                    vt2




          บางกรณีในสมการจลศาสตร์เราไม่ทราบตำา แหน่งเริ่มต้น ความเร็วต้น หรือค่าต่าง ๆ
เพื่อความสะดวกในการใช้เราสมารถนำามาเขียนเพื่อแสดงค่าที่ไม่ปรากฎได้ดังนี้




                                สมการจลศาสตร์                                           ค่าที่ไม่ปรากฏ
                                     v = 0 +
                                        v   at                                                x −x 0

                                                                                                v
                                                   1
                             x = x0 +v 0 t +         at 2
                                                   2

                            v 2 =v 0 +2 a ( x −x 0 )
                                   2                                                            t



                                                                                                a
                                            1
                             x − x0 =         (v +v0 )t
                                            2

                                                   1 2                                          v0
                                x = x 0 + vt −       at
                                                   2




          จากห้าสมการที่ได้จะสังเกตได้ว่าแต่ละสมการจะมีค่าที่ไม่ปรากฏในแต่ล ะสมการอยู่ 1
ค่า จากเงื่อนไขดังกล่าวเราสมารถยุบสมการต่าง ๆ ดังกล่าวให้เหลือเพียง 2 หรือ 3 สมการได้
จากนั้นก็ให้แทนค่าที่ไม่ต้องการให้ปรากฏลงในสมการนันได้ดังนี้
                                                  ่
          กรณียุบให้เหลือเพียง 2 สมการคือ
                                               =                v0 +at
                                    v



                                                                               1
                                                                x 0 +v 0 t +
                                               =                                 at 2
                                    x
                                                                               2

                                                                                                          v − v0
          เมื่อไม่ต้องการให้มีค่า              t
                                                    ปรากฏในสมการก็ให้แทนค่า                          t=            ลงในสมการ
                                                                                                            a

                           1
         x = x0 +v 0 t +
                           2
                             at 2
                                          จะได้
                                                                                                2
                                                                    v − v0  1  v − v0 
                       x −x 0
                                               =                v0          + a       
                                                                    a  2  a 

                                                                v0 v − v0
                                                                        2
                                                                             1
                                               =                          +    ( v − v0 ) 2
                                                                    a       2a




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                                                                                         10

                                                                               v0 v − v0
                                                                                       2

                                                          =                        a
                                                                                         +
                                                                                            1
                                                                                           2a
                                                                                              v 2 − 2v 0 v + v 0
                                                                                                               2
                                                                                                                     (                             )
                                                                               v 0 v − v0
                                                                                        2
                                                                                            v 2 − 2v 0 v + v 0
                                                                                                             2
                            x −x 0
                                                          =                               +
                                                                                    a              2a

                                                                               2v0 v − 2v 0 + v 2 − 2v0 v + v0
                                                                                          2                  2

                                                          =                                  2a

                                                                               v 2 − v02
                                                          =                       2a
                                                                               2a ( x −x 0 )
                            v 2 −v0
                                                          =
                                  2




                                                                               v 0 +2a ( x −x 0 )
                                                          =
                                                                                 2
                                          v2




           ห มา ย เห ตุ               x −x 0
                                                        นับเป็นค่าเดียวได้เนื่องจากเราสามารถเลือก                                                                        หรือ             ได้
                                                                                                                                                                 x                  x0



จากระบบพิกัดแกนมุมฉาก


ตัว อย่า ง ที่ 1.6 รถยนต์คันหนึ่งเร่งความเร็วจาก                                                           0m / s
                                                                                                                         เป็น             26.8m / s
                                                                                                                                                                ภายในเวลา                 6s




ดังรูปที่ 1.7 จงหา


                                                                                                                                                                             ก                 .
                                                                                                                                                                             ความเร่ง
                                                                                       ข. ระยะทางที่รถวิ่งได้ภายในเวลา 6 s.


                                                                                      วิ ธ ี ท ำา          ก. จากโจทย์ ค่ า ที่ ไ ม่ ป รากฏคื อ ตำา แหน่ ง
                                                                                      สุ ด ท้ า ย             ( x)
                                                                                                                         เ มื่ อ          x0 = 0
                                                                                                                                                         ;      x =?
                                                                                                                                                                         ;       v0 = 0
                                                                                                                                                                                               ;
                                                                                         v = .8m / s
                                                                                            26
                                                                                                                          ;        a =?
                                                                                                                                             ;         t =6 s




           จากสมการ


                                      =                           v0 +at
                             v



                                               v   26.8m / s
                                                 =
                        =
             a
                                               t      6s

                                                                                                                                                 4.47(m / s 2        )
           รูปที่ 1.7                                                                                                    =
           ข. เมื่อค่าที่ไม่ปรากฏคือความเร่ง                                   ( a)


                                                                                                    1
                                               x −x 0
                                                                           =                          ( v + v 0 )t
                                                                                                    2

เริ่มต้น     t =s
                    ;       x0 = 0
                                      ;          v0 = 0



                                                                                                    1
                                                                           =                          vt
                                                              x
                                                                                                    2

                                                                                                    1
                                                                           =                          ( 26.8m / s )( 6s )
                                                                                                    2

                                                                           =                        80 .4 m




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                                           11



1.6                    การตกอิส ระของวัต ถุ
      วัตถุเมื่อตกอย่างอิสระจะมีความเร่ง            g = .8m / s 2
                                                       9
                                                                              เมื่อไม่คดแรงต้านของอากาศ
                                                                                       ิ
หลัก การคำา นวณ ใช้สมการจลศาสตร์ดังกล่าวจากข้างต้นเมื่อแทนค่า                                                             ด้วยค่า          การ
                                                                                                                  a                 g




พิจารณาทิศให้พิจารณาตามความเร็วต้น


ตัว อ ย่ า ง ที่ 1.7 ขว้า งลูก บอลขึ้ น ไปในอากาศด้ วยความเร็วต้ น 15 (m/s) ดัง รูป ที่ 1.8 จง
คำานวณหา
            ก. ระยะทางสูงสุดที่ลูกบอลเคลื่อนที่ได้
            ข. เวลาทีตำาแหน่งสูงสุด
                     ่
วิธ ีท ำา


            ก. จากโจทย์ เ มื่ อ ไม่ ท ราบเวลา                 ( t)
                                                                     เมื่ อ   y 0 =0
                                                                                         ;                    v0 = m / s
                                                                                                                  15
                                                                                                                                ;       v =0
                                                                                                                                               ;
                                                                                                y =?




   a y = g = 9.8m / s 2
        −   −
                               ;       t =?
                                              จากสมการ


                                                                                 v 0 +2a y ( y −y 0 )
                                                                     =
                                                                                   2
                                                     v2



                                                                      เริ่มต้น         y 0 =0




                                                                      ที่ตำาแหน่งสูงสุด                v =0




                                                                                     =                 v0 + a y y
                                                                                                        2
                                                                         0                                 2




                                                                                                             2
                                                                                                            v0     − v02
                                                                                                       −        =
                                                                                     =
                                                                         y
                                                                                                           2a y   2( − g )

                                                                                                    − (15m / s )
                                                                                                                      2

                                                                                 =                     (
                                                                                                   2 − 9.8m / s 2         )
                                                                                 =                 11 .5m




        รูปที่ 1.8


ข. จากโจทย์เมื่อไม่ทราบตำาแหน่งสุดท้าย
                                              =       v0 +at
                                   v



ที่ตำาแหน่งสูงสุด       v =0




                                                              v0    −15m / s
                                                          −      =
                                   t
                                              =               ay   − 9.8m / s 2

                                              =      1.53s




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                                                                              12

ตัว อย่า งที่ 1.8 ขว้างลูกบอลขึ้นไปในอากาศด้วยความเร็วต้น                                                                                  ดังรูปที่ 1.9
                                                                                                                                     u



            ก.จงแสดงให้เห็น ว่า เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ ถึง ตำา แหน่ง สูง สุด มีค่าเท่ากับเวลาที่ใ ช้
เคลื่อนที่กลับสู่ตำาแหน่งเดิม
            ข. ความเร็วปลายเมื่อเคลื่อนที่กลับสู่ตำาแหน่งเดิม


วิธ ีท ำา
                              ก. จากโจทย์ เ มื่ อ ไม่ ท ราบตำา แหน่ ง สุ ด ท้ า ย เมื่ อ                                                                  y 0 =0
                                                                                                                                                                       ;
                                                                                                                                                                             y =?




                                   v0 = u
                                                ;                  v =0
                                                                                  ;      a y = g = 9.8m / s 2
                                                                                              −   −                                        ;      t =?




                                                           v
                                                                          =                             v0 + y t
                                                                                                            a



                                                           0
                                                                          =                         u −gt



                                                                                                    u
                                                                          =
                                                t up
                                                                                                    g




                                                                     หาระยะที่วัตถุขึ้นไปได้สูงสุด เมื่อไม่ทราบเวลา                                                        t =?



                                                                                                                                         v 0 +2a y ( y −y 0 )
                                                                                                                   =
                                                                                                                                           2
                                                                                           v2


                                                       0
                                                                          =                             u 2 − gy
                                                                                                             2



                                                                                                         u2
                                                                          =
                                                               y
                                                                                                         2g




                                                                          เมื่ อตำา แหน่ง สู ง สุ ด คื อ ระยะเริ่ ม ต้ น เมื่ อ ลู ก บอลเริ่ ม ตก
                                            และ
                             ความเร็ว ณ. ตำาแหน่งนี้คือความเร็วต้นมีค่าเท่ากับศูนย์ จากโจทย์เมื่อ
                                                                                                                                u2
                                                                                                                   y0 =
                             ไม่ทราบความเร็วสุดท้าย เมื่อ                                                                            ;               ;   v0 = 0
                                                                                                                                                                   ;       v =?
                                                                                                                                                                                    ;
                                                                                                                                           y =0

                                                                                                                                2g

                                   a y = g = 9.8m / s 2
                                        −   −                                                   ;         t =?



                                                                                                                                           1
                                                                                                                           y 0 +v 0 t +
                                                                                                =                                            ayt 2
                                                                              y
                                                                                                                                           2

                                                                                  u2      1
                                                                                     + 0 − gt 2
                               0
                                            =                                     2g      2

                                                                                  1 2                                      u2
      รูปที่ 1.9                                                                  2
                                                                                    gt
                                                                                                =                          2g

                                                                                                                       u
                                                                              t down
                                                                                                =                      g




นั่นคือ                                                                                         =
                                                                              t up                                     t down




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                              13

ข. จากโจทย์เมื่อไม่ทราบความเร็วสุดท้าย
                                                   =
                                               v                         v0 + y t
                                                                             a



                                                                              u 
                                                                         0 − g 
                                                   =                          g 
                                                                               

                                                   =
                                                                         −u



นั่นคือความเร็วของลูกบอลขณะกลับสู่ตำาแหน่งเดิมจะมีความเร็วเท่ากันแต่ทิศตรงกันข้าม
1.7                    สมการจลศาสตร์แ ละการคำา นวณ
          บางครั้งการเคลื่อนที่ของวัตถุถูกกำาหนดโดยคำาจำากัดความ ของความเร็วและความเร่ง
                                                       dx
                                           =
                              v
                                                       dt

                                                       dv
และ                                        =
                              a
                                                       dt




จากสมการข้างต้นเราสามารถใช้แคลลูลัสสร้างสมการจลศาสตร์เมื่อมีความเร่งคงที่ได้
                                                       dv
                              a
                                           =           dt

                              dv
                                           =           a (dt )



                                  v                    t

                                  ∫ dv
                                  v0
                                           =           ∫ a( dt )
                                                       0



ให้       คงที่
      a


                                  v                         t

                                  ∫ dv
                                  v0
                                           =           a ∫ dt
                                                            0


                                  v −v0
                                           =           a (t − )
                                                             0




                                           =           v 0 +at
                              v




          จากสมการที่ได้จะสังเกตุเห็นได้ว่า ความเร็วขึ้นกับเวลา เขียนใหม่ได้เป็น       vt = 0 +
                                                                                           v   at




ก็คือสมการจลศาสตร์เมื่อความเร็วเป็นฟังก์ชั่นของเวลาในทำานองเดียวกัน
                              dx
                                           =           v (dt )




แต่                                        =           v 0 +at
                              v



                                                       (v 0      +at )dt
                              dx
                                           =
                                                       v 0 (dt ) + (dt )
                                           =                      at


                                  x                     t                  t

                                  ∫ dx                 ∫v           dt + ∫ at ( dt )
                                  x0
                                           =           0
                                                                0
                                                                           0



แต่ความเร่ง และความเร็วต้นไม่เปลียนแปลงตามเวลา
                                 ่
                                  x                             t              t

                                  ∫ dx
                                  x0
                                           =           v 0 ∫dt + a ∫tdt
                                                                0              0


                                                                     1 2
                                                       v0 t +
                                  x −x 0
                                           =                         2
                                                                       at


เป็นสมการจลศาสตร์เมื่อตำาแหน่งเป็นฟังก์ชั่นของเวลา




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                                                                     14

          การหาสมการการเคลื่ อ นที่ ข องวั ต ถุ                    ดั ง กล่ า วข้ า งต้ น โดยวิ ธี ก ารหาอนุ พั น ธ์ หรื อ
การอินทิเกรต ใช้สำาหรับการหาสมการเมื่อความเร่งไม่คงที่




สรุป
          ในบทนี้ สามารถอธิบ ายการเคลื่อนที่ใ นรู ปของตำา แหน่ง การกระจั ด ความเร็ว และ
ความเร่ง ในกรณีที่ความเร่งคงที่เราสามารถใช้เงื่อนไขต่าง ๆ สร้างสมการจลศาสตร์ได้ และ
สามารถใช้คำาจำากัดความเบื้องต้นเพื่อหาสมการการเคลื่อนที่เมื่อความเร่งไม่คงที่ได้
ตำาแหน่ง :        x




การกระจัด :           ∆= 2 −1
                      x x   x



                         ∆x x 2 − x1
                        v=    =
ความเร็วเฉลี่ย :           ∆t   t 2 − t1

                                                dx
                                          v=
ความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง :                         dt

                         ∆v v 2 − v1
                        a=    =
ความเร่งเฉลี่ย :           ∆t   t 2 − t1

                                                dv
                                          a=
ความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง :                         dt




                                       สมการจลศาสตร์                                 ค่าที่ไม่ปรากฏ
                                             v = 0 +
                                                v   at                                     x −x 0


                                                                                             v
                                                          1
                                       x = x0 +v 0 t +      at 2
                                                          2

                                       v 2 =v 0 +2 a ( x −x 0 )
                                              2                                              t



                                                                                             a
                                                     1
                                       x − x0 =        (v +v0 )t
                                                     2

                                                          1 2                                v0
                                        x = x 0 + vt −      at
                                                          2




ใช้ในกรณีเมื่อความเร่ง          ( a)
                                        คงที่




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
Physics 1 – ฟิสกส์ 1
               ิ                                                    15




ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

More Related Content

What's hot

7 การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส
7 การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส7 การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส
7 การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส
Preeyapat Lengrabam
 
เฉลย Ac (2 2551)
เฉลย Ac (2 2551)เฉลย Ac (2 2551)
เฉลย Ac (2 2551)
Rangsit
 
06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล
Phanuwat Somvongs
 
ชุดกิจกรรมเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธะโลหะ
ชุดกิจกรรมเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธะโลหะชุดกิจกรรมเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธะโลหะ
ชุดกิจกรรมเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธะโลหะ
โรงเรียนเดชอุดม
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงานเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
Wijitta DevilTeacher
 
ทฤษฎีอะตอมของโบร์
ทฤษฎีอะตอมของโบร์ทฤษฎีอะตอมของโบร์
ทฤษฎีอะตอมของโบร์
Chanthawan Suwanhitathorn
 
การถ่ายโอนความร้อน
การถ่ายโอนความร้อนการถ่ายโอนความร้อน
การถ่ายโอนความร้อน
Wuttipong Tubkrathok
 
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
Sircom Smarnbua
 
ชั้นบรรยากาศ
ชั้นบรรยากาศชั้นบรรยากาศ
ชั้นบรรยากาศkrupornpana55
 
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมเรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมthanakit553
 
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
ดอกหญ้า ธรรมดา
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรงบทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรงThepsatri Rajabhat University
 
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
menton00
 
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
Miss.Yupawan Triratwitcha
 
เรื่องที่9ของไหล
เรื่องที่9ของไหลเรื่องที่9ของไหล
เรื่องที่9ของไหลApinya Phuadsing
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันธงชัย ควรคนึง
 
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์
Chakkrawut Mueangkhon
 
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaWan Ngamwongwan
 

What's hot (20)

7 การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส
7 การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส7 การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส
7 การประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับแก๊สและสมบัติของแก๊ส
 
Ppt newton's law
Ppt newton's lawPpt newton's law
Ppt newton's law
 
รายการประเมิน
รายการประเมินรายการประเมิน
รายการประเมิน
 
เฉลย Ac (2 2551)
เฉลย Ac (2 2551)เฉลย Ac (2 2551)
เฉลย Ac (2 2551)
 
06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล06แบบฝึกเครื่องกล
06แบบฝึกเครื่องกล
 
ชุดกิจกรรมเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธะโลหะ
ชุดกิจกรรมเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธะโลหะชุดกิจกรรมเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธะโลหะ
ชุดกิจกรรมเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธะโลหะ
 
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงานเอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
เอกสารประกอบบทเรียน เรื่อง งานและพลังงาน
 
ทฤษฎีอะตอมของโบร์
ทฤษฎีอะตอมของโบร์ทฤษฎีอะตอมของโบร์
ทฤษฎีอะตอมของโบร์
 
การถ่ายโอนความร้อน
การถ่ายโอนความร้อนการถ่ายโอนความร้อน
การถ่ายโอนความร้อน
 
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
2 กฎอัตราและอันดับของปฏิกิริยา
 
ชั้นบรรยากาศ
ชั้นบรรยากาศชั้นบรรยากาศ
ชั้นบรรยากาศ
 
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัมเรื่องที่ 6 โมเมนตัม
เรื่องที่ 6 โมเมนตัม
 
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
เผยแพร่ผลงาน Bestpractice คุณครูอุไลวรรณ แสนทวีสุข
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรงบทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
 
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
ติวสบายฟิสิกส์ (เพิ่มเติม) บทที่ 03 แรงกฏการเคลื่อนที่
 
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
 
เรื่องที่9ของไหล
เรื่องที่9ของไหลเรื่องที่9ของไหล
เรื่องที่9ของไหล
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์แสงเชิงฟิสิกส์
แสงเชิงฟิสิกส์
 
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDnaการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีDna
 

Similar to การเคลื่อนที่

การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงkroosarisa
 
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงบทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงkroosarisa
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรตkrurutsamee
 
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติการเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
kungten555
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติบทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
Thepsatri Rajabhat University
 
การอินทีเกรต
การอินทีเกรตการอินทีเกรต
การอินทีเกรต
ANNRockART
 
การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1krusridet
 
Mas p anet_chiangmai2551
Mas p anet_chiangmai2551Mas p anet_chiangmai2551
Mas p anet_chiangmai2551adunjanthima
 
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติการเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
ชิตชัย โพธิ์ประภา
 
กฎของ Hamilton และ Lagrange’s Equations
กฎของ Hamilton และ Lagrange’s Equationsกฎของ Hamilton และ Lagrange’s Equations
กฎของ Hamilton และ Lagrange’s Equations
Thepsatri Rajabhat University
 
Thermal Wave Interference
Thermal Wave InterferenceThermal Wave Interference
Thermal Wave Interferenceoznilzo
 
Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1weerawat pisurat
 
ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)
kroojaja
 
ฟิสิกส์ Pat22554
ฟิสิกส์ Pat22554ฟิสิกส์ Pat22554
ฟิสิกส์ Pat22554Seew609
 
Patฟิสิกส์2554
Patฟิสิกส์2554Patฟิสิกส์2554
Patฟิสิกส์2554lazypoii5
 

Similar to การเคลื่อนที่ (20)

การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
 
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงบทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
 
Contraction Mapping
Contraction MappingContraction Mapping
Contraction Mapping
 
อินทิเกรต
อินทิเกรตอินทิเกรต
อินทิเกรต
 
Test phy1
Test phy1Test phy1
Test phy1
 
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติการเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติบทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
 
Phy1
Phy1Phy1
Phy1
 
การอินทีเกรต
การอินทีเกรตการอินทีเกรต
การอินทีเกรต
 
การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1
 
Mas p anet_chiangmai2551
Mas p anet_chiangmai2551Mas p anet_chiangmai2551
Mas p anet_chiangmai2551
 
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติการเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
 
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติการเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
 
กฎของ Hamilton และ Lagrange’s Equations
กฎของ Hamilton และ Lagrange’s Equationsกฎของ Hamilton และ Lagrange’s Equations
กฎของ Hamilton และ Lagrange’s Equations
 
Thermal Wave Interference
Thermal Wave InterferenceThermal Wave Interference
Thermal Wave Interference
 
Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1
 
Pat 1
Pat 1Pat 1
Pat 1
 
ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)ตัวกำหนด(Determinant)
ตัวกำหนด(Determinant)
 
ฟิสิกส์ Pat22554
ฟิสิกส์ Pat22554ฟิสิกส์ Pat22554
ฟิสิกส์ Pat22554
 
Patฟิสิกส์2554
Patฟิสิกส์2554Patฟิสิกส์2554
Patฟิสิกส์2554
 

การเคลื่อนที่

  • 1. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 1 บทที่ 1 การเคลื่อ นที่ใ นแนวเส้น ตรง เนื้อ หาประกอบด้ว ย 1.1 คำาจำากัดความของตำาแหน่งและการกระจัด 1.2 คำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ย 1.3 คำาจำากัดความของความเร็วขณะใดขณะหนึ่งและอัตราเร็ว 1.4 คำาจำากัดความของความเร่งเฉลียและความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง ่ 1.5 การเคลื่อนที่เมื่อความเร่งคงที่ 1.6 การตกอิสระของวัตถุ 1.7 สมการจลศาสตร์และการแก้สมการโดยใช้แคลลูลัส ในบทนี้จะศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุใน 1 มิติ โดยไม่สนใจถึงสาเหตุที่ทำาให้วัตถุ เคลื่อนที่เรียกว่า จลศาสตร์ 1.1 คำา จำา กัด ความของตำา แหน่ง และการกระจัด ก่อนจะทำาความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ในหัวข้อต่อ ๆ ไป ต้องทราบความหมายตำาแหน่งของวัตถุ ก่อน พิจารณารูปที่ 1.1 รูปที่ 1.1 รูปที่ 1.2 ตำา แหน่ง คือบริเวณที่ตั้งของวัตถุ (รถตั้งอยู่ที่ตำาแหน่ง x1 ) ในระบบพิกัดฉาก การกระจัด คือการเปลียนแปลงตำาแหน่งของวัตถุ พิจารูปที่ 1.2 เมื่อรถเปลี่ยนตำาแหน่งจาก ่ x1 ไปยัง ตำาแหน่ง x2 จากเงื่อนไขข้างต้นสามารถนำามาเขียนเป็นสมการทางคณิตศาสตร์ได้ ดังนี้ ตำาแหน่ง ⇒ x นิยามการกระจัด ∆= 2 −1 x x x ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 2. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 2 ตัว อย่า งที่ 1.1 จากรูปเป็นกราฟการเดินทางท่องเที่ยวไปเชียงใหม่โดยทางรถยนต์ เมื่อจุดเริ่ม ต้นอยู่ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ดังรูปที่ 1.2 จงคำานวณหา 1. ตำาแหน่งของรถยนต์ที่ t =2 s 2. ตำาแหน่งของรถยนต์ที่ t =8s 3. การกระจัดภายในเวลา 6s 4. การกระจัดทั้งหมด รูปที่ 1. 2 วิธ ีท ำา ก. จากกราฟ x1 =110km 2 ข. จากกราฟ x2 =375km 3 ค. จากคำาจำากัดความของการกระจัด ∆x = x 2 −x1 = (375km 110 km ) − = 265km ง. จากกราฟการกระจัดทั้งหมด ∆xT = 495 km 1.2 คำา จำา กัด ความของความเร็ว เฉลี่ย จากหั ว ข้ อ ที่ 1.1 เมื่ อ ทราบตำา แหน่ ง ของวั ต ถุ แ ล้ ว ในหั ว ข้ อ ต่ อ ไปจะอธิ บ ายถึ ง การ เปลี่ยนแปลงตำาแหน่งอย่างรวดเร็ว ความเร็วเฉลี่ย คืออัตราการเปลียนแปลงการกระจัดต่อช่วงเวลา ่ คำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ยเมื่อเขียนในรูปของสมการทางคณิตศาสตร์ ∆x x − x1 v = v av = = 2 ∆t t 2 − t1 ตัว อย่า งที่ 1.2 จากโจทย์ข้อ 1.1 จงคำานวณหา 1. ความเร็วเฉลี่ยในการเดินทางจาก t = 2h ถึง t = h 8 2. ความเร็วเฉลี่ยเมื่อสิ้นสุดการเดินทาง ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 3. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 3 วิธ ีท ำา จากคำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ย ∆x ก. v = v av = ∆t x 2 − x1 = t 2 − t1 (375km −110km ) = (8h − 2 h ) = 44.20 (km / h ) ข. ∆x v = v av = ∆t ( 495km ) = (11h ) 4 = 45(km / h ) จากตัวอย่า งข้า งต้นแสดงให้เห็น ถึงการเลื่อนตำา แหน่ง พิจารณาการเคลื่อนตำา แหน่งของ วัตถุภายในเวลา 2 ชั่วโมง จากช่วงเวลา t = h 3 ถึง t = h 4 และจาก t = h 6 ถึง t = h 7 ความเร็วเฉลี่ยภายในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงในกรณีเช่นนี้หาไม่ได้เนื่องจากช่วงเวลาไม่ต่อเนื่อง 1.3 นิย ามความเร็ว ขณะใดขณะหนึ่ง และอัต ราเร็ว จากรู ป ที่ 1.3 กราฟแสดงความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง ตำา แ ห น่ ง กั บ เ ว ล า เป็ น กราฟเส้ น ตรงความเร็ ว เฉลี่ยคือความชัน (slope) ของกราฟ เนื่องจาก ∆x  slope = = v = v av ∆t ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 4. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 4 อัตราเร็วเฉลี่ย คือขนาดของเร็วเฉลีย เป็นการกระจัดต่อช่วงเวลา ่ รูปที่ 1.3 จ า ก รู ป ที่ 1.4 ก ร า ฟ แ ส ด ง ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ระหว่ า ง ตำา แ ห น่ ง กั บ เ ว ล า เป็ น กราฟเส้ น โค้ ง ความเร็วเฉลี่ย (ความชัน ) จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น อยู่กับขนาดของ ∆t ถ้า ∆t มีค่าน้อยมาก ๆ เรา สามารถหา ความชั น ได้ จ ากเส้ น สั ม ผั ส (tangent line) ส่วนโค้ง ความเร็วทีได้เรียกว่าความเร็วขณะ ใดขณะหนึ่งนั่นคือ ∆x = lim v ∆t →0 ∆t สามารถเขียนอยูในรูปของสมการทางคณิตศาสตร์ได้ดังนี้ ่ dx รูปที่ 1.4 = v dt นั่ น คื อ ความเร็ ว ขณะใดขณะหนึ่ ง เป็ น การกระจั ด ต่ อ เวลาในช่ ว งเวลาสั้ น มาก ๆ หรื อ เป็ น ความเร็ ว ที่ จุ ด ใดจุ ด หนึ่ ง ของการเคลื่ อ นที่ เช่ น ความเร็ ว ขณะขั บ รถสั ง เกตุ ไ ด้ จ ากเข็ ม ไมล์ขณะนัน ดังรูปที่ 1.5 ้ รูปที่ 1.5 ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 5. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 5 ตั ว อ ย่ า ง ที่ 1.3 โยนลู ก บอลขึ้ น ตามแนวดิ่ ง ตำา แหน่ ง ของลู ก บอล ณ.เวลา t ใด ๆ คื อ y = + t −t (1 25 5 2 )m 1. จงเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับระยะทาง 2. ความเร็วเฉลี่ยในช่วง 2 วินาทีแรก 3. ความเร็วเฉลี่ยในช่วง 1 วินาทีแรก 4. ความเร็วที่เวลา t =0 s วิธ ีท ำา ก. 2. จากคำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ย ∆y y 2 − y1 = =  v ∆t t 2 − t1 y2 = ( + (2 ) − (2 ) )m 1 25 5 2 = 31m y1 = ( + (0) − (0) )m 1 25 5 2 = 1m t2 = 2s t1 = 0s ( 31 −1) m = = 15(m / s )  ( 2 − 0) s v 3. จากคำาจำากัดความของความเร็วเฉลี่ย ∆y y 2 − y1 = =  v ∆t t 2 − t1 = 1 + ( )−( ) = y2 25 1 5 1 2 m 21m = 1 + ( )− ( ) = y1 25 0 50 0 2 m 1m ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 6. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 6 t2 = 1s t1 = 0s ( 21m −1m ) = = 20(m / s )  (1s − 0 s ) v 4. ความเร็วที่ t =0 s คือความเร็วขณะใดขณะหนึ่งจะได้ dy = ( d 1 + 25t − 5t 2  m    ) = v dt dt s  = 25 − t ( 10 m / s) เมื่อ t =0 s = 25 − ( ) m / s ) 10 0 ( v = 25(m / s ) ข้อ สัง เกต จากตัวอย่างข้างต้นสังเกตได้ว่าในขณะที่ช่วงเวลาสั้นลงความเร็วเฉลี่ยจะมี ค่าใกล้กับความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง คำา จำา กัดความของอัตราเร็วคือขนาดของความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง อัตราเร็วจะมีค่า เป็นบวกเสมอ ในขณะที่ความเร็วมีได้ทั้งค่าบวกและค่าลบ ข้อแตกต่างระหว่างอัต ราเร็วและ ความเร็วจะสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น เมื่อความเร็วคิดอยู่ในรูปของเวกเตอร์ซึ่งจะศึกษาไปในการ เคลื่อนที่ 2 มิติ 1.4 คำา จำา กัด ความของความเร่ง เฉลี่ย และความเร่ง ขณะใดขณะหนึ่ง ในหั ว ข้ อ นี้ จ ะอธิ บ ายถึ ง การเปลี่ ย นแปลงความเร็ ว ซึ่ ง เรี ย กว่ า ความเร่ ง ข้ อ แตกต่ า ง ระหว่างความเร็วและความเร่งคือ ความเร็วบอกถึงการเปลี่ยนแปลงตำาแหน่ง ส่วนความเร่งบอก ถึงการเปลี่ยนแปลงความเร็วนั่นคือความเร่งคืออัตราการเปลียนแปลงความเร็ว ่ เมื่อเขียนอยู่ในรูปสมการทางคณิตศาสตร์จะได้นิยามของความเร่งเฉลียคือ ่ ∆v v 2 − v1 = =  a ∆t t 2 − t1 คำาจำากัดความของความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง dv = a dt ตั ว อ ย่ า ง ที่ 1.4 รถยนต์ คั น หนึ่ ง สามารถเร่ ง ความเร็ ว จาก 0m / s จนกระทั่ ง มี ค วามเร็ ว 26.8m / s ภายในเวลา 6s จงหาความเร่งเฉลี่ยของรถคันนี้ ∆v v 2 − v1 = วิธ ีท ำา จาก =  a ∆t t 2 − t1 ( 26.8m / s − 0m / s ) = ( 6 s − 0s ) ( ) = 4.47 m / s 2 ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 7. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 7 จากกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างตำาแหน่งกับเวลา ความชันของกราฟคือความเร็ว ในทำานองเดียวกันความเร่งคือความชันของกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับเวลา ตัว อย่า ง ที่ 1.5 กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับเวลาของรถคันหนึ่งแสดงดัง รูปที่ 1.6 จากกราฟอธิบายว่าเมื่อ 1. ช่วงแรกรถมีความหน่วง (decelerating) 2. รถมีความเร่ง (accelerating) 3. ความเร่งเป็นศูนย์ 4. รถมีความเร็วลดลง รูปที่ 1.6 dv a= วิธ ีท ำา ก. ; ข. ; ค. จากคำาจำากัดความของความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง dt ซึ่งสามารถหา ได้จากความชันของกราฟ ง. ช่วงที่รถมีความเร็วลดลงมีอยู่ 2 ช่วงคือช่วงเวลา t =0 s ถึง t = .5 s 0 และช่วง เวลา t = .8 s 2 ถึง t = .5 s 3 1.5 การเคลื่อ นที่เ มื่อ ความเร่ง คงที่ ถ้ า เรารู้ ว่ า วั ต ถุ เ ริ่ ม ต้ น เคลื่ อ นที่ จ ากตำา แหน่ ง ไหน ความเร็ ว ต้ น เท่ า ใดและมี ค วามเร่ ง เท่าใด เราจะสามารถบอกได้ว่าช่วงต่อไปวัตถุจะอยู่ที่ไหน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้สามารถอธิบายได้ โดยใช้ สมการทางคณิต ศาสตร์ เมื่อ กำา หนดให้ตำา แหน่ งเริ่ ม ต้น คื อ x0 ; ความเร็ว ต้น คื อ v0 ; ความเร่งคือ ความเร่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลาคือ ; ความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลา a at คือ vt ; ตำาแหน่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลาคือ xt ; ความเร่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของตำา แหน่งคือ ax ; และความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของตำา แหน่งคือ vx ซึ่งสามารถเขียนอยู่ในรูปสมการการ เคลื่อนที่ ในกรณีที่วัต ถุเคลื่อนที่ด้วยความเร่งคงที่สมการการเคลื่อนที่กรณีนี้ เราเรียกว่าสมการจล ศาสตร์ ให้ at = a ; ax =a ; เมื่อ คือความเร่งคงที่ a สมการความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลาพิจารณาได้จากนิยามความเร่งเฉลี่ย ∆v =  a ∆t vt − v0 = a t−0 vt = v0 +at เป็นสมการความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลา ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 8. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 8 สมการตำาแหน่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลาพิจารณาได้จากนิยามความเร็วเฉลี่ย ( v) ∆x v = ∆t 1 xt − x0 ( v + v0 ) = 2 t−0 1 x t −x 0 = ( v + v 0 )t 2 แทน ด้วย จากสมการข้างบนซึ่งเป็นสมการความเร็วเมื่อฟังก์ชั่นของเวลาจะได้ v vt 1 x t −x 0 = ( v0 + at + v 0 )t 2 1 2 v0 t + = 2 at 1 x 0 +v 0 t + xt = 2 at 2 เป็นสมการตำาแหน่งเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของเวลา ในทำานองเดียวกันความเร็วเมื่อเป็นฟังก์ชั่นของตำาแหน่ง สามารถหาได้โดยหาเวลาจาก สมการความเร็วที่เป็นฟังก์ชั่นของเวลา จากนั้นนำาเวลาที่ได้แทนลงในสมการตำาแหน่งเมื่อเป็น ฟังก์ชั่นของเวลาดังนี้ vt = v 0 +at v − v0 = t a 1 x 0 +v 0 t + จาก = at 2 x 2 2  v − v0  1  v −v 0  = x0 + v 0   + a   a  2  a  vv 0 − v 0 2 v 2 − 2vv 0 + v 0 2 = x0 + + a 2a 2vv 0 − 2v 0 + v 2 − 2vv 0 + v0 2 2 = x0 + 2a v 2 − v0 2 = x0 + 2a v 0 +2a ( x −x 0 ) = 2 v2 จากสมการจะเห็นว่าเมื่อ คงที่ความเร็วจะเป็นฟังก์ชั่นของระยะทางเขียนใหม่ได้เป็น a v 0 +2a ( x −x 0 ) = 2 2 v t จากสมการที่ ไ ด้ กำา หนดให้ คื อตำา แหน่ ง เริ่ ม ต้ น ; คื อ ความเร็ ว ต้ น ; คื อ x0 v0 a ความเร่งเป็นค่าคงที่ เราสามารถใช้สมการเหล่านี้หาความเร่ง ความเร็ว และตำาแหน่งของวัตถุ ที่เวลาใด ๆได้และยังสามารถหาความเร่งและความเร็วของวัตถุที่ตำาแหน่งใด ๆ ได้ ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 9. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 9 สมการการเคลื่อนที่ของวัตถุเมื่อความเร่งคงที่สามารถเขียนได้ดังนี้ = at a vt = v 0 +at 1 x 0 +v 0 t + xt = 2 at 2 = at a v 0 +2a ( x −x 0 ) = 2 vt2 บางกรณีในสมการจลศาสตร์เราไม่ทราบตำา แหน่งเริ่มต้น ความเร็วต้น หรือค่าต่าง ๆ เพื่อความสะดวกในการใช้เราสมารถนำามาเขียนเพื่อแสดงค่าที่ไม่ปรากฎได้ดังนี้ สมการจลศาสตร์ ค่าที่ไม่ปรากฏ v = 0 + v at x −x 0 v 1 x = x0 +v 0 t + at 2 2 v 2 =v 0 +2 a ( x −x 0 ) 2 t a 1 x − x0 = (v +v0 )t 2 1 2 v0 x = x 0 + vt − at 2 จากห้าสมการที่ได้จะสังเกตได้ว่าแต่ละสมการจะมีค่าที่ไม่ปรากฏในแต่ล ะสมการอยู่ 1 ค่า จากเงื่อนไขดังกล่าวเราสมารถยุบสมการต่าง ๆ ดังกล่าวให้เหลือเพียง 2 หรือ 3 สมการได้ จากนั้นก็ให้แทนค่าที่ไม่ต้องการให้ปรากฏลงในสมการนันได้ดังนี้ ่ กรณียุบให้เหลือเพียง 2 สมการคือ = v0 +at v 1 x 0 +v 0 t + = at 2 x 2 v − v0 เมื่อไม่ต้องการให้มีค่า t ปรากฏในสมการก็ให้แทนค่า t= ลงในสมการ a 1 x = x0 +v 0 t + 2 at 2 จะได้ 2  v − v0  1  v − v0  x −x 0 = v0   + a   a  2  a  v0 v − v0 2 1 = + ( v − v0 ) 2 a 2a ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 10. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 10 v0 v − v0 2 = a + 1 2a v 2 − 2v 0 v + v 0 2 ( ) v 0 v − v0 2 v 2 − 2v 0 v + v 0 2 x −x 0 = + a 2a 2v0 v − 2v 0 + v 2 − 2v0 v + v0 2 2 = 2a v 2 − v02 = 2a 2a ( x −x 0 ) v 2 −v0 = 2 v 0 +2a ( x −x 0 ) = 2 v2 ห มา ย เห ตุ x −x 0 นับเป็นค่าเดียวได้เนื่องจากเราสามารถเลือก หรือ ได้ x x0 จากระบบพิกัดแกนมุมฉาก ตัว อย่า ง ที่ 1.6 รถยนต์คันหนึ่งเร่งความเร็วจาก 0m / s เป็น 26.8m / s ภายในเวลา 6s ดังรูปที่ 1.7 จงหา ก . ความเร่ง ข. ระยะทางที่รถวิ่งได้ภายในเวลา 6 s. วิ ธ ี ท ำา ก. จากโจทย์ ค่ า ที่ ไ ม่ ป รากฏคื อ ตำา แหน่ ง สุ ด ท้ า ย ( x) เ มื่ อ x0 = 0 ; x =? ; v0 = 0 ; v = .8m / s 26 ; a =? ; t =6 s จากสมการ = v0 +at v v 26.8m / s = = a t 6s 4.47(m / s 2 ) รูปที่ 1.7 = ข. เมื่อค่าที่ไม่ปรากฏคือความเร่ง ( a) 1 x −x 0 = ( v + v 0 )t 2 เริ่มต้น t =s ; x0 = 0 ; v0 = 0 1 = vt x 2 1 = ( 26.8m / s )( 6s ) 2 = 80 .4 m ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 11. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 11 1.6 การตกอิส ระของวัต ถุ วัตถุเมื่อตกอย่างอิสระจะมีความเร่ง g = .8m / s 2 9 เมื่อไม่คดแรงต้านของอากาศ ิ หลัก การคำา นวณ ใช้สมการจลศาสตร์ดังกล่าวจากข้างต้นเมื่อแทนค่า ด้วยค่า การ a g พิจารณาทิศให้พิจารณาตามความเร็วต้น ตัว อ ย่ า ง ที่ 1.7 ขว้า งลูก บอลขึ้ น ไปในอากาศด้ วยความเร็วต้ น 15 (m/s) ดัง รูป ที่ 1.8 จง คำานวณหา ก. ระยะทางสูงสุดที่ลูกบอลเคลื่อนที่ได้ ข. เวลาทีตำาแหน่งสูงสุด ่ วิธ ีท ำา ก. จากโจทย์ เ มื่ อ ไม่ ท ราบเวลา ( t) เมื่ อ y 0 =0 ; v0 = m / s 15 ; v =0 ; y =? a y = g = 9.8m / s 2 − − ; t =? จากสมการ v 0 +2a y ( y −y 0 ) = 2 v2 เริ่มต้น y 0 =0 ที่ตำาแหน่งสูงสุด v =0 = v0 + a y y 2 0 2 2 v0 − v02 − = = y 2a y 2( − g ) − (15m / s ) 2 = ( 2 − 9.8m / s 2 ) = 11 .5m รูปที่ 1.8 ข. จากโจทย์เมื่อไม่ทราบตำาแหน่งสุดท้าย = v0 +at v ที่ตำาแหน่งสูงสุด v =0 v0 −15m / s − = t = ay − 9.8m / s 2 = 1.53s ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 12. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 12 ตัว อย่า งที่ 1.8 ขว้างลูกบอลขึ้นไปในอากาศด้วยความเร็วต้น ดังรูปที่ 1.9 u ก.จงแสดงให้เห็น ว่า เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ ถึง ตำา แหน่ง สูง สุด มีค่าเท่ากับเวลาที่ใ ช้ เคลื่อนที่กลับสู่ตำาแหน่งเดิม ข. ความเร็วปลายเมื่อเคลื่อนที่กลับสู่ตำาแหน่งเดิม วิธ ีท ำา ก. จากโจทย์ เ มื่ อ ไม่ ท ราบตำา แหน่ ง สุ ด ท้ า ย เมื่ อ y 0 =0 ; y =? v0 = u ; v =0 ; a y = g = 9.8m / s 2 − − ; t =? v = v0 + y t a 0 = u −gt u = t up g หาระยะที่วัตถุขึ้นไปได้สูงสุด เมื่อไม่ทราบเวลา t =? v 0 +2a y ( y −y 0 ) = 2 v2 0 = u 2 − gy 2 u2 = y 2g เมื่ อตำา แหน่ง สู ง สุ ด คื อ ระยะเริ่ ม ต้ น เมื่ อ ลู ก บอลเริ่ ม ตก และ ความเร็ว ณ. ตำาแหน่งนี้คือความเร็วต้นมีค่าเท่ากับศูนย์ จากโจทย์เมื่อ u2 y0 = ไม่ทราบความเร็วสุดท้าย เมื่อ ; ; v0 = 0 ; v =? ; y =0 2g a y = g = 9.8m / s 2 − − ; t =? 1 y 0 +v 0 t + = ayt 2 y 2 u2 1 + 0 − gt 2 0 = 2g 2 1 2 u2 รูปที่ 1.9 2 gt = 2g u t down = g นั่นคือ = t up t down ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 13. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 13 ข. จากโจทย์เมื่อไม่ทราบความเร็วสุดท้าย = v v0 + y t a u  0 − g  = g    = −u นั่นคือความเร็วของลูกบอลขณะกลับสู่ตำาแหน่งเดิมจะมีความเร็วเท่ากันแต่ทิศตรงกันข้าม 1.7 สมการจลศาสตร์แ ละการคำา นวณ บางครั้งการเคลื่อนที่ของวัตถุถูกกำาหนดโดยคำาจำากัดความ ของความเร็วและความเร่ง dx = v dt dv และ = a dt จากสมการข้างต้นเราสามารถใช้แคลลูลัสสร้างสมการจลศาสตร์เมื่อมีความเร่งคงที่ได้ dv a = dt dv = a (dt ) v t ∫ dv v0 = ∫ a( dt ) 0 ให้ คงที่ a v t ∫ dv v0 = a ∫ dt 0 v −v0 = a (t − ) 0 = v 0 +at v จากสมการที่ได้จะสังเกตุเห็นได้ว่า ความเร็วขึ้นกับเวลา เขียนใหม่ได้เป็น vt = 0 + v at ก็คือสมการจลศาสตร์เมื่อความเร็วเป็นฟังก์ชั่นของเวลาในทำานองเดียวกัน dx = v (dt ) แต่ = v 0 +at v (v 0 +at )dt dx = v 0 (dt ) + (dt ) = at x t t ∫ dx ∫v dt + ∫ at ( dt ) x0 = 0 0 0 แต่ความเร่ง และความเร็วต้นไม่เปลียนแปลงตามเวลา ่ x t t ∫ dx x0 = v 0 ∫dt + a ∫tdt 0 0 1 2 v0 t + x −x 0 = 2 at เป็นสมการจลศาสตร์เมื่อตำาแหน่งเป็นฟังก์ชั่นของเวลา ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 14. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 14 การหาสมการการเคลื่ อ นที่ ข องวั ต ถุ ดั ง กล่ า วข้ า งต้ น โดยวิ ธี ก ารหาอนุ พั น ธ์ หรื อ การอินทิเกรต ใช้สำาหรับการหาสมการเมื่อความเร่งไม่คงที่ สรุป ในบทนี้ สามารถอธิบ ายการเคลื่อนที่ใ นรู ปของตำา แหน่ง การกระจั ด ความเร็ว และ ความเร่ง ในกรณีที่ความเร่งคงที่เราสามารถใช้เงื่อนไขต่าง ๆ สร้างสมการจลศาสตร์ได้ และ สามารถใช้คำาจำากัดความเบื้องต้นเพื่อหาสมการการเคลื่อนที่เมื่อความเร่งไม่คงที่ได้ ตำาแหน่ง : x การกระจัด : ∆= 2 −1 x x x  ∆x x 2 − x1 v= = ความเร็วเฉลี่ย : ∆t t 2 − t1 dx v= ความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง : dt  ∆v v 2 − v1 a= = ความเร่งเฉลี่ย : ∆t t 2 − t1 dv a= ความเร่งขณะใดขณะหนึ่ง : dt สมการจลศาสตร์ ค่าที่ไม่ปรากฏ v = 0 + v at x −x 0 v 1 x = x0 +v 0 t + at 2 2 v 2 =v 0 +2 a ( x −x 0 ) 2 t a 1 x − x0 = (v +v0 )t 2 1 2 v0 x = x 0 + vt − at 2 ใช้ในกรณีเมื่อความเร่ง ( a) คงที่ ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • 15. Physics 1 – ฟิสกส์ 1 ิ 15 ผศ. เสมา สอนประสม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต