More Related Content Similar to แผนการสอน เรื่องวิวัฒนาการ
Similar to แผนการสอน เรื่องวิวัฒนาการ (20) More from Sumalee Khvamsuk
More from Sumalee Khvamsuk (20) แผนการสอน เรื่องวิวัฒนาการ2. 2
ตารางวิเคราะหจุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด ผลที่เกิดกับผูเรียน
กลุมสาระการเรียนรู วิทยาศาสตร ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4-6 ชื่อหนวยการเรียนรู วิวัฒนาการ (Evolution) : วิถีแหงการอยูรอด
สาระที่ ๑ สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดํารงชีวิต
มาตรฐาน ว ๑.๒ เขาใจกระบวนการและความสําคัญของการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช
เทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบตอมนุษยและสิ่งแวดลอม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรูและจิตวิทยาศาสตร สื่อสาร สิ่งที่เรียนรู และนําความรู
ไปใชประโยชน
สาระการเรียนรูแกนกลาง 1. สิ่งมีชีวิตแตละสปชีสจะมีความหลากหลายที่แตกตางกัน สิ่งมีชีวิตในสปชีสเดียวกันจะผสมพันธุและสืบลูกหลานตอไปได
2. การคัดเลือกตามธรรมชาติจะสงผลทําใหลักษณะพันธุกรรมของประชากรในกลุมยอยแตละกลุมแตกตางกันไปจนกลายเปน
สปชีสใหมทําใหเกิดเปนความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
ตัวชี้วัด ที4. อธิบายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติตอความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
่
จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค
1. อธิบายกระบวนการ ภาระงาน การคัดเลือกโดยธรรมชาติทําใหประชากรที่ 1. สิ่งมีชีวิตจะเกิด 1. อธิบายความสัมพันธ 1. ใฝเรียนรู
คัดเลือกตามธรรมชาติและ 1. กิจกรรมปากคีบ มีลักษณะเหมาะสมกับสิ่งแวดลอมสามารถ ปรับเปลี่ยน (adaptation) ของปากคีบและธัญพืช 2. การสังเกต (Observation)
ผลของการคดเลือกตาม และธัญพืช ดํารงชีวิตและแพรพันธุประชากรในรุน ใหมีลักษณะทางสรีระ 2. เชื่อมโยงการทดลอง 3. ความมีเหตุผล
ธรรมชาติตอความ ตอไปได แตสําหรับประชากรที่ไม พฤติกรรมและรูปแบบ ของปากคีบและธัญพืชสู
หลากหลาย ชิ้นงาน เหมาะสมกับสิ่งแวดลอมนั้นก็จะถูกคัดทิ้ง การดํารงชีวิตที่กลมกลืน การคัดเลือกทาง
ของสิงมีชีวิต
่ 1. Model ปากนกฟนซ และลดจํานวนลงไป กับสภาพแวดลอมที่ ธรรมชาติของนกฟนซ
และอาหาร อาศัยอยูเพื่อใหเกิดการ และสรุปเปนโมเดลได
อยูรอด
3. 3
จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู/ สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค
ชิ้นงาน
2. สืบคน วิเคราะห การ ภาระงาน มนุษยมีสายวิวัฒนาการมาจากสัตวกลุม 1. คนกับลิงมีวิวัฒนากา 1. เขียน Mapping 1. การสํารวจ (Exploration)
เกิดวิวัฒนาการมนุษยได 1. ใบงานเรื่อง ไพรเมต (primate) ซึ่งถือเปนกลุมของสัตว รวมกัน แตคนไมได เรียงลําดับวิวัฒนาการ 2. การสืบเสาะหาความรูทาง
“วิวัฒนาการมนุษย” เลี้ยงลูกดวยนมที่มีพัฒนาการสูงที่สุด การ พัฒนาการมาจากลิง ของมนุษย วิทยาศาสตร (Scientific
คนพบวิวัฒนาการมนุษยเริ่มจากสมัยไมโอ 2. ไพรเมตกลุม ไดแก 2. ยกตัวอยางของมนุษย Inquiry)
ชิ้นงาน ซีน พบออสทราโลพิเทคัส นางอายหรือลิงลม และ สปซี่ตางๆ
1. Mapping (Australopithecus) Homo habilis ลิงทารซิเออร (tarsier
วิวัฒนาการมนุษย Homo erectus มนุษยนีแอนเดอรทัล monkey) และไพรเม
(Neanderthal man) Homo sapiens ตอีกสายหนึ่งคือ แอน
โทรพอยด (anthropoid)
ไดแก ลิงมีหาง ลิงไมมี
หางและมนุษย
3. มนุษยออสท
ราโลพิเทคัส
(Australopithecus)คือ ลู
ซี่
4. มนุษย Homo habilis
สามารถใชเครื่องมือได
5. Homo erectus คือ
มนุษยชวา รากศัพทมาก
จากลําตัวตั้งตรง
4. 4
จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู/ สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค
ชิ้นงาน
6. มนุษยนีแอนเดอรทัล
อยูในสปชีสเดียวกันกับ
มนุษยปจจุบัน (Homo
sapiens sapiens) แต
แยกกันในระดับซับสป
ชีส
5. 5
จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู/ สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค
ชิ้นงาน
3. อภิปรายการศึกษา ภาระงาน หลักฐานที่ใชในการศึกษาวิวัฒนาการคือ 1. ซากดึกดําบรรพจะพบ 1. แยกประเภทของ 1. การสังเกต (Observation)
วิวัฒนาการผาน 1. ใบงานหลักฐาน 1. หลักฐานจากซากดึกดําบรรพของ มากในหินชั้นหรือหิน หลักฐาน 2. วิเคราะหขอมูล
หลักฐาน ขอมูลตาง ๆ วิวัฒนาการ สิ่งมีชีวิต ตะกอน วิวัฒนาการ
นําขอมูลทางพันธุศาสตร 2. ขอมูลสนับสนุนจากกายวิภาค 2. การเปรียบเทียบกาย 2. สรุป มโนทัศน
ประชากรและ ชิ้นงาน เปรียบเทียบ วิภาค แบงเปน 2 แบบคือ เกี่ยวกับหลักฐาน
ขอมูอื่น ๆ มาใชในการ 1.มโนทัศนหลักฐาน 3. ขอมูลสนับสนุนจากคัพภะวิทยา โครงสรางของอวัยวะ วิวัฒนาการ
วิเคราะหแนวโนมการสูญ วิวัฒนาการ เปรียบเทียบ บางอยางคลายคลึงกัน
พันธุ การเกิดสปชีส 4. ขอมูลสนับสนุนทางชีวภูมิศาสตร แมวาจะทําหนาที่
ใหมได 5. หลักฐานทางชีววิทยาระดับโมเลกุล แตกตางกันเรียก
ฮอมอโลกัส
(homologous structure)
และโครงสรางที่มี
ลักษณะตางกันแตทํา
หนาที่เหมือนกันนี้วา
อะนาโลกัส (analogous
structure)
3. คัพภะวิทยา คือการ
เปรียบเทียบตัวออนของ
สิ่งมีชีวิต เรียกวา ทฤษฎี
การยอนซ้ําลักษณะ
6. 6
จุดประสงคการเรียนรู หลักฐานการเรียนรู/ สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด ผูเรียนรูอะไรบาง ผูเรียนทําอะไรได คุณลักษณะอันพึงประสงค
ชิ้นงาน
(Theory of
Recapitulation)
4. ชีวภูมิศาสตร
การศึกษาถิ่นที่อยูอาศัย
สมมติฐานเรื่องแผนดิน
อาจตอเนื่องเปนผืน
เดียวกัน
5. ชีววิทยาระดับโมเลกุล
การศึกษาลําดับเบสในดี
เอ็นเอของสิ่งมีชีวิตแตละ
ชนิด
7. 7
แผนการจัดการเรียนรูแบบการสืบเสาะหาความรู 5 ขั้น
หนวยการเรียนรูวิวัฒนาการ (Evolution) : วิถีแหงการอยูรอด
8. 8
แผนการจัดการเรียนรู ที่ 1 ปรับตัว เพื่อรอดตาย
กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร รหัสวิชา ว 40243 รายวิชาชีววิทยา
หนวยการเรียนวิวัฒนาการ (Evolution) : วิถีแหงการอยูรอด เวลา 6 ชั่วโมง
ผูเขียนแผน กมลรัตน ฉิมพาลี เวลา 2 ชั่วโมง
สาระสําคัญ
การคัดเลือกโดยธรรมชาติถือเปนกลไกพื้นฐานของการเกิดวิวัฒนาการรวมกับกลไกอื่นๆ การ
คัดเลือกโดยธรรมชาติทําใหประชากรที่มีลักษณะเหมาะสมกับสิ่งแวดลอมสามารถดํารงชีวิตและแพร
พันธุประชากรในรุนตอไปได แตสําหรับประชากรที่ไมเหมาะสมกับสิ่งแวดลอมนั้นก็จะถูกคัดทิ้งและลด
จํานวนลงไป ทําใหสิ่งมีชีวิตที่ถูกคัดเลือกใหเหลืออยูเกิดวิวัฒนาการโดยปรับเปลี่ยน (adaptation) ใหมี
ลักษณะทางสรีระ พฤติกรรมและรูปแบบการดํารงชีวิตที่กลมกลืนกับสภาพแวดลอมที่ประชากรนั้นอาศัย
อยู
2. จุดประสงคการเรียนรู
1. อธิบายกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติ และผลของการคัดเลือกตามธรรมชาติตอความ
หลากหลายของสิ่งมีชีวิต (K)
2. ทักษะการสังเกต ทักษะการใชเหตุผล (P)
4. มีความกระตือรือรนที่จะคนควาหาความรู (A)
3. สาระการเรียนรู
1. การคัดเลือกตามธรรมชาติ
2. ตัวอยางของสิ่งมีชีวิตในการคัดเลือกตามธรรมชาติ
9. 9
4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู
7E ครู นักเรียน
1. เราความสนใจ(engage) 1. นําเสนอภาพสิ่งมีชีวิตตางๆ 1. ศึกษาภาพที่ครูนําเสนอ
จากนั้นนําเสนอภาพนก ที่มี 2. แสดงความคิดเห็น
ลักษณะปากแตกตางกัน ตั้ง
คําถามวา เหตุใดนกแตละชนิดจึง
มีลักษณะปากที่แตกตางกัน(ไม
เฉลยคําตอบ)
2. สํารวจคนหา(explore) 1.จัดเตรียมปากคีบที่หลากหลาย 1. ฟงคําอธิบาย
ลักษณะ เชน 2. แบงกลุมเทาๆกันใหได 5 กลุม
3. ลงมือปฏิบัติกิจกรรม
3) เมื่อปฏิบัติกิจกรรมเสร็จแลว
ชวยกันเขียนรายงานการปฏิบัติ
กิจกรรม
2. ธัญพืช 4 ชนิด เมล็ดฟกทอง
เมล็ดแมงลัก ผลพุทรา และถั่ว
3. แผนที่เปนหมูเกาะ 4 หมูเกาะ
4. วางธัญพืชแตละชนิดในแตละ
เกาะ
5. ใหนักเรียนแบงกลุม
6.อธิบายใหนักเรียนเลือกใชปาก
คีบที่เหมาะสมกับธัญพืชของแต
ละเกาะ
3. อธิบาย (explain) 1) ถามกลุมที่ 1 2 3 4 วาเลือกใช 1) นักเรียนแตละกลุมชวยกัน
ปากคีบอันไหนกับธัญพืชกลุม ตอบคําถามแสดงความคิดเห็น
ละชนิด เพราะอะไร ถาใชอันอื่น
ไดไหม ได/ไมได เพราะ
10. 10
7E ครู นักเรียน
2) ถามกลุมที5 มีความแตกตาง
่
หรือคลายคลึงในการเลือกของ
กลุมไหนบาง คิดวาเพราะอะไร
4. ขยายความรู(elaborate)
1) แจกใบความรูเรื่องเกาะกาลา 1) ศึกษาใบความรู
ปากอสใหแตละกลุม ชวยกัน 2) ตอบคําถามในใบงาน
ศึกษาและหาคําตอบ 3) สรุปความรูดวยวิธีตางๆ เชน
2) ใหเชื่อมโยงกิจกรรมที่ปฏิบัติ มโนทัศน, Mapping, แผนพับ,
กับใบงานที่อาน หนังสือเลมเล็ก
3) ใหแตละกลุมเสนอวิธีที่จะ 4) ทําแบบทดสอบ
สรุปเรื่องที่เรียน เพื่อนําไปจัดทํา
ใหเรียบรอยและสงครู
4) แจกแบบทดสอบ
5. สื่อและแหลงการเรียนรู
สื่อการเรียนรู
1. หนังสือเรียนสาระการเรียนรูพื้นฐานและเพิ่มเติม ชีววิทยา เลม 5
2. เอกสารเรื่องปรับตัว เพื่อรอดตาย
3. ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องปากคีบกับธัญพืช
4. ใบกิจกรรมที่ 2 เรื่องNatural Selection
แหลงเรียนรู
1. หองสืบคนขอมูลออนไลน
เว็บไซต http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/150charles-darwin/Less5_2.html#
http://www.ipecp.ac.th/cgi-binn/BP1/Program/chapter2/p2.html
http://www.i-creativeweb.com/demo/biology/index.php?option=
com_content&view=category&layout=blog&id=45&Itemid=112&limitstart=10
http://users.rcn.com/jkimball.ma.ultranet/BiologyPages/S/Speciation.html
11. 11
http://www.truthnet.org/Christianity/Apologetics/Evolutiontrue4/ และ
http://mindfultourist.com/2009/10/13/galapagos-people-or-eco-system-and-do-we-have-
to-choose/
http://www.huntzinger.com/galapagos.html
http://www.houstonzooblogs.org/zoo/tag/galapagos-islands/
6. การวัดและการประเมินผล
สิ่งที่ตอง ประเด็นการประเมิน หลักฐาน/วิธีการ/เครื่องมือ เกณฑการผาน ผูประเมิน
ประเมิน
ดานความรู 1. อธิบายกระบวนการ แบบประเมินพฤติกรรมการ 1. นักเรียนมีผลการ ครู
คัดเลือกตามธรรมชาติ ปฏิบัติกิจกรรม ประเมินระดับพอใช
และผลของการคัดเลือก ขึ้นไป
ตามธรรมชาติตอความ
หลากหลายของสิ่งมีชีวิต
(K)
ดานทักษะ 2. ทักษะการสังเกต การตรวจใบงานที่ 1 1. นักเรียนทําใบ ครู/
ทักษะการใชเหตุผล (P) งานไดถูกตองอยาง นักเรียน
นอยรอยละ 80
ดานเจตคติ 3. มีความกระตือรือรนที่ แบบประเมินพฤติกรรมการ 1. นักเรียนมีผลการ ครู
(เงื่อนไข จะคนควาหาความรู (A) เรียน ประเมินระดับพอใช
คุณธรรม) ขึ้นไป
12. 12
แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรม
ชื่อกลุม …………………………
ที่ รายงานประเมิน ระดับคุณภาพ หมายเหตุ
1 ปฏิบัติงานถูกตามขั้นตอน 3 2 1
2 การแสดงความคิดเห็นและสรุปความคิดเห็น
ภายในกลุม
3 การแกปญหาระหวางการทํางาน
4 ตั้งใจและมีสวนรวมในการทํางาน
5 ทํางานเสร็จตรงเวลาที่กําหนด
รวม
คะแนนเฉลี่ย
เกณฑการประเมิน
3 = ดี 2 = พอใช 1 = ควรปรับปรุง
ลงชื่อ ………………………………. ผูประเมิน
(…………………..…………………. )
วันที……… เดือน ……………………พ.ศ. ……….
่
13. 13
แบบประเมินพฤติกรรมการทํางาน
รายการประเมิน
การศึกษาเรียนรู
และทํางานเสร็จ
มีความพยายาม
กระตือรือรนใน
เรียนรูเพิ่มเติม
ซักถามเพื่อหา
ตามกําหนด
สนใจศึกษา
เหตุผลและ
เลขที-ชื่อ
่ การแสงหา รวมคะแนน
ของเพื่อน
ชวยเหลือ
คําตอบ
มีความ
ความรู
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
เกณฑการประเมิน ประเมินพฤติกรรมการทํางาน
องคประกอบที่ 1 มีความกระตือรือรนในการแสวงหาความรู
4 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดีมาก มีสวนรวมในกิจกรรม
การเรียนรูอยางขมีขมันทุกขั้นตอน
3 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดี มีสวนรวมในกิจกรรม
การเรียนรูดวยความตั้งใจทุกขั้นตอน
2 หมายถึง สนใจ ใฝรู รวมกิจกรรมการเรียนรูดีพอสมควร มีสวนรวมในกิจกรรม
เกือบทุกขั้นตอน
1 หมายถึง สนใจและมีสวนรวมในกิจกรรมการเรียนรูนอย
14. 14
องคประกอบที่ 2 ซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบ
4 หมายถึง ซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ ใชคําถามที่แสดง
ความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดดีมาก
3 หมายถึง ซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ ใชคําถามที่แสดง
ความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดดี
2 หมายถึง ซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบดวยความสนใจ ใชคําถามที่แสดง
ความสามารถในการคิดวิเคราะหหาเหตุผลไดพอใช
1 หมายถึง มีการซักถามเพื่อหาเหตุผลและคําตอบนอยมาก
องคประกอบที่ 3 สนใจหาความรูเพิ่มเติม
4 หมายถึง ศึกษาคนควาเพิมเติมจากเอกสารและหาขอมูล ขอเท็จจริงตางๆ ที่เกี่ยวของกับ
่
เรื่องที่ศึกษาอยางตอเนื่อง
3 หมายถึง ศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากเอกสารและหาขอมูล ขอเท็จจริงตางๆที่เกี่ยวของกับ
เรื่องที่ศึกษาหลายครั้ง
2 หมายถึง ศึกษาคนควาเพิ่มเติมจากเอกสารและหาขอมูล ขอเท็จจริงตางๆที่เกี่ยวของกับ
เรื่องที่ศึกษาเปนบางครั้ง
1 หมายถึง ไมสนใจศึกษาหาความรูเพิ่มเติม
องคประกอบที่ 4 มีความพยายามและทํางานสําเร็จตามกําหนด
4 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาที่กําหนด
3 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาที่กําหนด โดยเพิ่มเวลาให
อีกเล็กนอย
2 หมายถึง ตั้งใจพยายามทํางานและทํางานไดเสร็จทันเวลาที่กําหนด ตองเพิ่มเวลา
ใหอีกมากกวา 1 ครั้ง
1 หมายถึง ไมตั้งใจทํางานใหเสร็จตามที่กําหนด
15. 15
องคประกอบที่ 5 ชวยเหลือการศึกษาเรียนรูของเพื่อน
4 หมายถึง ชวยเหลือเพื่อนดวยการสอน แนะนํา เสนอแนะวิธีการปฏิบัติเพื่อใหเพื่อนได
เรียนรูไปพรอมๆ กับตนดวยความเต็มใจ
3 หมายถึง ชวยเหลือเพื่อนมาก แตชวยในลักษณะแบบบอกความรู หรือทําใหเพื่อน
มากกวาชวยใหเพื่อนไดเรียนรู
2 หมายถึง ใหความชวยเหลือเพื่อนบางเล็กนอย และชวยในลักษณะบอกความรู หรือทํา
ใหเพื่อนมากกวาชวยใหเพื่อนไดเรียนรู
1 หมายถึง ไมใหมีความชวยเหลือการศึกษาเรียนรูของเพื่อน หรือใหความชวยเหลือ
นอยมาก
เกณฑการตัดสินผลการเรียน
คะแนน ผลการประเมิน
0-4 คะแนน ปรับปรุง
5-10 ผานเกณฑ
11-15 พอใช
16-20 ดี
16. 16
เอกสารประกอบการเรียนรูเรื่อง ปรับตัว เพื่อรอดตาย
1. วิวัฒนาการและความหลากหลายทางชีวภาพ
วิวัฒนาการถือเปนหัวใจที่สําคัญของชีววิทยา ทั้งนี้เนื่องจากปรากฏการณตางๆที่เกิดขึ้นในทาง
ชีววิทยาสามารถที่จะอธิบายไดโดยอาศัยหลักวิวัฒนาการ กลาวอีกนัยหนึ่งก็คือปรากฏการณทางชีววิทยา
ทั้งหลายลวนแลวแตมีมูลเหตุมาจากการวิวัฒนาการ วิชาวิวัฒนาการ (Evolutionary biology) มีจุดกําเนิด
มาจากแนวคิดของนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษชื่อ ชารล ดารวิน (Charles Darwin) (ภาพที่ 1ก) ซึ่งได
ตีพิมพแนวคิดผานทางหนังสือชื่อ On the origin of species by means of natural selection ในป ค.ศ. 1859
(ก) (ข)
ภาพที่ 1 (ก) ชารล ดารวิน (1809 - 1882)
(ข) หนังสือที่ตีพิมพแนวคิดวิวัฒนาการของดารวิน
(ที่มา Cambell and Reece, 2002)
โดยผลงานของดารวินเกิดจากการเก็บรวบรวมขอมูล การทําการทดลอง และการศึกษาคนควา
เอกสารตําราตางๆมากมาย โดยชวงเวลาที่สําคัญที่สุดชวงหนึ่งคือการเดินทางออกสํารวจกับเรือหลวง
Beagle จากการเดินทางสํารวจทําใหดารวินสังเกตเห็นความแตกตางแปรผันของสิ่งมีชีวิตในแตละ
ภูมิภาค สถานที่หนึ่งที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เดนชัดคือนกฟนสจากหมูเกาะกาลาปากอส
(Galapagos) ซึ่งอยูทางทิศตะวันตกของชายฝงอเมริกาใต โดยดารวินไดสังเกตเห็นความแตกตางของ
นกที่มาจากเกาะตางๆซึ่งแมจะมีความคลายคลึงกันซึ่งแสดงใหเห็นวามีความสัมพันธกันแตนกเหลานี้
ก็มีความแตกตางกันมากจนถือเปนคนละสปซีส
17. 17
ดารวินพยายามหาคําอธิบายปรากฏการณที่เกิดขึ้นและไดแนวคิดวาสิ่งมีชีวิตเหลานี้นาจะเกิดจาก
การปรับตัว (adaptation) เพื่อใหเหมาะสมกับสภาพแวดลอมที่อยูอาศัยที่แตกตางกันออกไปในแตละ
พื้นที่ เชน ขนาดปากของนกฟนสดูเหมือนจะมีความสัมพันธกับอาหารที่นกกินในแตละหมูเกาะที่นก
อาศัยอยู โดยสิ่งแวดลอมเหลานี้ (เชน อาหาร) จะเปนตัวคัดเลือกลักษณะที่มีความเหมาะสมตอ
สภาพแวดลอมนั้นๆ (ที่มา : http://cyberclass.msu.ac.th/cyberclass/cyberclass-
uploads/libs/html/44079/u106.html)
กาลาปากอส มาจากคําวา galapago ซึ่งเปนภาษาสเปนหมายถึง เตาบก (tortoise) ซึ่งก็คือสัตวที่
พบห็นไดมากบนเกาะนี้ เกาะกาลาปากอสนั้นมีสภาพโดยทั่วไปแหงแลงและกันดาร เปนที่ที่กระแสน้ํา
เย็นไหลมาพบกับกระแสน้ําอุน จึงทําใหสามารถพบสิ่งมีชีวิตไดทั้งประเภทที่ชอบน้ําเย็น เชน สิงโตทะเล
และเพ็นกวิน รวมทั้งสัตวที่ชอบน้ําอุนก็หาไดบนเกาะนี้อีกเชนกัน ที่นี่จึงเปนแหลงรวมพันธุพืชและสัตว
จํานวนมากหลากหลายสปชีส มีสายพันธุสิ่งมีชีวิตแปลกๆ แทบจะไมสามารถพบไดที่ไหนในโลก ทั้งแบบ
ที่เชื่องนารัก และมองดูดรายนากลัว อาทิ เตากระดอง (Galapagos Tortoise) ที่มีน้ําหนักมากถึง 200-500
ปอนด กิ่งกา (iguana) สิงโตทะเล (Galapagos Sea-lion)นกนานาชนิด โดยเฉพาะนกฟนซ
ภาพที่ 2 Giant Galapagos tortoises
ที่มา progresoverde.org
18. 18
ภาพที่ 3 Galapagos Marine Iguana
ที่มา worldtimezone.com
ความ “พิเศษ” ของสิ่งมีชีวิตที่กาลาปากลอสทําให ดารวินรูสึกตื่นเตนมากที่ไดเห็น ดารวินพบวามี
นกสปชีสเ ดียวกันแมวามันจะมีตนกําเนิดจากแหลงเดียวกันก็ตาม แตมันกลับมีลักษณะที่แตกตางกันไป
เล็กนอย นกฟนช(finch) ชนิดหนึ่งบนกาลาปากอส ที่ดารวินเคยสนใจศึกษาเปนพิเศษ เขาไดแบงวาเจานก
ชนิดนี้มีความแตกตางกันไปในแตละเกาะถึง 13 แบบ ซึ่งสิ่งที่ทําใหพวกมันแตกตางกันนั้น ก็ผันแปรไป
ตามสิ่งแวดลอมบริเวณที่นกพวกนั้นอาศัยอยู อยางรูปทรงของจงอยปากที่แตกตางกันในนกสปชีส
เดียวกัน ที่เปนผลมาจากเมล็ดพืช ที่เปนอาหารของนกที่อยูบนแตละเกาะ
ภาพที่ 4 Finches from the Galapagos
ที่มา www.dls.ym.edu.tw
19. 19
ดารวินจึงไดขอสรุปซึ่งนับเปนการนําไปสูการอธิบายทฤษฎีวิวัฒนาการ วา ในอดีตกาลเมื่อบรรพ
บุรุษของนกไดมาจากทวีปอเมริกาใต แลวมาแพรพันธยังเกาะตางๆของหมูเกาะกาลาปากอส ซึ่งมี
สภาพแวดลอมแตกตางกัน นกชนิดใดที่สามารถปรับตัวใหอยูรอดในสภาพแวดลอมได มันก็จะอยูรอด
สามารถแพรพันธุตอไปได มันจะคอยเกิดกลายกลายพันธุจากรุนสูรุนอยางชาๆ แบบที่เรียกวา
“กลายพันธุ” และเมื่อการกลายพันธุที่วานี้เกิดขึ้นอยางตอเนื่องยั่งยืนมันก็จะกลายเปนวิวัฒนาการที่
เรียกวา “การปรับตัวสืบทอด (descent with modification)” สวนตัวใดที่ไมสามารถปรับตัวได มันก็จะ
คอยๆหายไป และสูญพันธุลงในที่สุด ซึ่งกลไกที่คอยคัดสรรวาสัตวใดจะอยู สัตวใดจะไป นั้นก็คือสิ่งที่
ดารวินเรียกวา “การคัดเลือกตามธรรมชาติ (natural selection)” นั่นเอง
ความแตกตางไดแฝงตัวอยูในสิ่งมีชีวิต ทําใหพวกมันสามารถปรับตัวและแพรพันธุสืบทอดสูรุน
ตอๆไป ซึ่งกุญแจสําคัญที่ทําใหสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันมีความแตกตางกันก็คือ สภาพแวดลอมที่ตางกัน
นั่นเอง หรือที่จะกลาววา "สภาพแวดลอมไมใชสิ่งที่ทําใหเกิดการผันแปรของสิ่งมีชีวิต หากแตความผัน
แปรเหลานั้นมีอยูในทุกชีวิตอยูแลว ธรรมชาติจึงทําหนาที่เปนเพียงผูคัดสรร" (ที่มา :
http://www.vcharkarn.com/varticle/39371)
วิวัฒนาการและการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
ทฤษฎีวิวัฒนาการของชารล ดารวิน อธิบายถึงกลไกของการวิวัฒนาการวาเปนผลมาจากการคัดเลือก
โดยธรรมชาติทําใหเกิดการปรับเปลี่ยนของลูกหลานที่เกิดขึ้นมาใหม (descent with modification)
ดารวินอธิบายวาสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกลวนสืบเผาพันธุมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน โดยการเปลี่ยนแปลง
วิวัฒนาการเปนกลไกที่ทําใหเกิดความแตกตางแปรผันของสิ่งมีชีวิตตางๆดังที่เราเห็นในปจจุบันนี้
กระบวนการที่ทําใหเกิดความแตกตางแปรผันก็คือการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (natural selection) ซึ่งทําให
เกิดการปรับตัว (adaptation) ของสิ่งมีชีวิตจนกระทั่งเปลี่ยนแปลงเปนสิ่งมีชีวิตชนิดใหมขึ้นมาโดยอาศัย
กลไกดังกลาวรวมกับระยะเวลาที่ยาวนานนับตั้งแตสิ่งมีชีวิตชนิดแรกกําเนิดบนโลกเมื่อ 3.5 ถึง 3.8
พันลานปที่ผานมา จึงทําใหเกิดความหลากหลายทางชีวภาพดังที่ปรากฏบนโลกในปจจุบันนี้ ดารวินกลาว
เปรียบเทียบการวิวัฒนาการวาเปรียบเสมือนตนไมที่มีการแตกกิ่งกานสาขาออกจากลําตนซึ่ง
เปรียบเสมือนการเกิดสปซีสใหมที่มีตนกําเนิดมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน
ปจจัยที่ทําใหเกิดกลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติและการปรับตัวมีดังตอไปนี้ สิ่งมีชีวิตทั่วไปมี
ศักยภาพในการสืบพันธุสูง กลาวคือสิ่งมีชีวิตสวนใหญใหกําเนิดลูกมากเกินกวาที่ทรัพยากรจะรองรับได
เนื่องจากทรัพยากร เชน อาหาร ที่อยูอาศัย มีอยูอยางจํากัด จึงนําไปสูการแกงแยงเพื่อการอยูรอด หรือคํา
20. 20
ของดารวินก็คือ “struggle for existence” ซึ่งจะมีเพียงบางสวนของประชากรเทานั้นที่สามารถดํารงอยูได
โดยทั่วไปในประชากรของสิ่งมีชีวิตจะมีความแปรผันและลักษณะที่แปรผันบางลักษณะในประชากรมี
ความเหมาะสมกับสภาพแวดลอมมากกวาจึงทําใหการแกงแยงเพื่อการอยูรอดนั้นดีกวาลักษณะอื่นๆ
กลาวอีกนัยหนึ่งก็คือประชากรที่ปรับตัวไดดีกวาจะมีโอกาสในการอยูรอดและการสืบพันธุที่ดีกวา
(คําศัพทที่อธิบายถึงโอกาสในการอยูรอดและการสืบพันธุคือ ฟตเนส (fitness)) เมื่อเวลาผานไปลักษณะที่
เปนลักษณะที่เหมาะสมกับสภาพแวดลอมดังกลาวก็จะเพิ่มขึ้นในประชากรและเมื่อลักษณะที่ถูกคัดเลือก
โดยธรรมชาติสะสมมากขึ้นเรื่อยๆในประชากรเมือเวลาผานไปก็จะนําไปสูการเกิดสปซีสใหม
่
(speciation) ในที่สุด
2. ตัวอยางการปรับตัวของสิ่งมีชีวิต
ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ความสามารถในการสืบพันธุจะเพิ่มจํานวนไดสูงมาก หากไมมีปจจัยที่จํากัด การ
เพิ่มจํานวนแลวสิ่งมีชีวิตทั้งหลายคงจะลนโลก แตตามที่เปนจริงจํานวนของสิ่งมีชีวิตคอนขางจะคงที่
เนื่องจากกระบวนการคัดเลือกโดยธรรมชาติ (naturalselection)ซึ่งอาศัยหลักเกณฑพื้นฐานวา จะไมมี
ลักษณะทางกรรมพันธุชุดเดียวที่เหมาะสมตอสภาพความเปนอยูของ สิ่งมีชีวิตในแตละแหลงที่อยูอาศัย
ฉะนั้นการคัดเลือกโดยธรรมชาติ จึงตองมีปจจัยสําคัญ คือ ความสามารถในการสืบพันธุ ของสิ่งมีชีวิต เพื่อ
การถายทอดลักษณะแตกตางที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และสิ่งมีชีวิตนั้นตองอยูใตอิทธิพลของสิ่งแวดลอม
ผลของการคัดเลือกโดยธรรมชาติจะไดสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะ สปชีสเดียวกัน ทีมีความแตกตางกัน อยางเห็น
่
ไดชัดทางกรรมพันธุ ซึ่งเรียกวาโพลีมอรฟซึม(polymorphism)
21. 21
ตัวอยางเชน
สีและลวดลายบนเปลือกหอย : หอยชนิด Cepaea nemoralis เปลือกมีสีเหลือง นํ้าตาลชมพู สมแดง และ
ยังมีชนิดที่มีลวดลาย เปนเสนพาดไปตามเปลือกจากการศึกษาพบวาในแหลงที่อยูที่มีลักษณะเรียบๆ เชน
บริเวณโคลนตมหรือทรายจะพบหอย ที่มีลักษณะเปลือกเปนสีเรียบๆมากกวาลักษณะอื่นๆ สวนในปา
หญาจะพบวามีหอยที่เปลือกลายมากกวาลักษณะอื่น แตในที่บางแหงก็พบหอย ทั้งเปลือก มีลายและหอย
เปลือกสีเรียบอยูในที่เดียวกันซึ่งพบวาหอยเปลือกสีเรียบมีความทนทาน ตอการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได
ดีกวาหอยเปลือกลายดังนั้นนอกจากความสัมพันธของเหยื่อและผูลาแลว ยังนาจะเกี่ยวของกับการ
ปรับตัวทางสรีระอีกดวย
ภาพที่ 5 หอย Cepaea nemoralis ที่มีลายเปลือกตางกัน
ที่มา : http://www.sbp.univ-rennes1.fr และ http://www.tiscali.co.uk
23. 23
สีของผีเสื้อกลางคืน ผีเสื้อกลางคืนชนิด Bristom betularia ซึ่งมีอยูมากในประเทศอังกฤษ
อาศัยอยูตามตนไมที่มีไลเคนส เกาะอยูเต็ม สีตัวของมันจึงเปนสีออนจางซึ่งชวยใหมันอําพรางตัว
ไดดี จนกระทั่งประมาณป 1845 ซึ่งเปนชวงปที่มี การปฏิวัติ อุตสาหกรรมในเขตเมือง จะมีเขมา
ควัน จากปลองควันของโรงงานอุตสาหกรรมฟุงกระจายไปทั่วในอากาศ เริ่มมีผูพบผีเสื้อ
กลางคืนสปชีส เดียวกันนี้แตมีสีดําเขมขึ้นกวาเดิมปรากฏขึ้นในเขตเมืองแมนเชสเตอร ซึ่งเปนเขต
ที่มีการอุตสาหกรรมใหญ และมีกลุมควันจากโรงงาน อุตสาหกรรม ทําลายพวกไลเคนสตาม
เปลือกไม และทําใหตนไมมีสีดําเต็มไปหมดตอมาในชวงเวลาไมถึงรอยปพบผีเสื้อกลางคืนที่มีสี
ดําเพิ่มขึ้น อยางรวดเร็ว จนเกือบทั้งหมด เปนผีเสื้อสีดํา
A สีออนจาง B สีดํา
ภาพที่ 8 การปรับตัวของผีเสื้อ
อางอิงจาก : http://en.wikipedia.org/wiki/Peppered_moth
24. 24
นอกจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติแลวกลไกของวิวัฒนาการที่สําคัญยังประกอบไปดวย
1. การผาเหลาทางพันธุกรรม
การผาเหลา (mutation) เปนปรากฏการณที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตการผาเหลาหรือมิว
เทชัน มีทั้งที่เกิดกับเซลลรางกาย ซึ่งเรียกวา โซมาติคมิวเทชัน (somatic mutation) และที่เกิดกับเซลล
สืบพันธุ เรียกวา แกมีติคมิวเทชัน (gameticmutation) มิวเทชันที่มีผลตอขบวนการวิวัฒนาการมาก คือ มิว
เทชันที่เกิดกับเซลลสืบพันธุ เนื่องจากสามารถถายทอดไปสูรุนตอๆไปได มิวเทชันทําใหเกิดการแปรผัน
ทางพันธุกรรม นอกจากนั้นในกระบวนการ สืบพันธุแบบอาศัยเพศ จะมีการแบงเซลลดวยวิธีไมโอซิส
เพื่อสรางเซลลสืบพันธุ ในกระบวนการไมโอซิสจะมีครอสซิงโอเวอร (crossing over) โดยมีการ
แลกเปลี่ยนชิ้นสวนของโฮโมโลกัสโครโมโซมซึ่งมีผลทําใหอัลลีลของยีน เกิดการเปลี่ยนตําแหนงได
รวมทั้งการรวมกลุมกันอยางอิสระ ของโครโมโซม ที่แยกตัวจากคูของมันแลวเปนผลใหยีนตางๆ ได
รวมกลุมกันใหมในแตละรุน ดังนั้น การสืบพันธุแบบอาศัยเพศจึงชวยใหยีนตางๆ ทั้งเกาและใหม ไดมี
โอกาส รวมกลุมกัน (gene recombination) ในรูปแบบตางๆ ทั้งขบวนการมิวเทชันและขบวนการ
สืบพันธุแบบอาศัยเพศเปนสาเหตุที่ทําให สิ่งมีชีวิตเกิดความแปรผัน ทางพันธุกรรมอยางมากมาย
2. การอพยพของสมาชิกประชากร
สิ่งมีชีวิตบางชนิดมีการอพยพเขาหรือออกของสมาชิก สงผลให มีการหมุนเวียนพันธุกรรมหรือ
ที่เรียกวา การไหลของยีน (gene flow) เกิดขึ้นระหวาง ประชากรยอยๆ ซึ่งการอพยพจะทําใหสัดสวน
ของอัลลีลเปลี่ยนแปลงไป ในประชากรที่มีขนาดใหญมากๆ การอพยพเขาหรืออพยพออกของสมาชิก
อาจจะเกือบไมมีผลตอสัดสวนของยีนในกลุมประชากรเลย แตถาประชากรมีขนาดเล็ก เมื่อมีสมาชิก
อพยพออกไปทําใหกลุมประชากรสูญเสียยีนบางสวน ทําใหมีโอกาสในการถายทอดหรือแลกเปลี่ยนยีน
กับกลุมยีนนั้นนอยลงไป หรือไมมีโอกาสเลยในทางกลับกัน การอพยพเขาของประชากร ในกลุม
ประชากรขนาดเล็ก จะทําใหเกิดการเพิ่มพูนบางสวน หรือบางยีนใหมเขามาในประชากร มีผลทําใหเกิด
ความแปรผันทางพันธุกรรมของประชากร
3. ขนาดของประชากร
การเปลี่ยนแปลงขนาดของประชากร มีบทบาทสําคัญตอการเปลี่ยนแปลงความถี่ยีนและ
โครงสรางของ ยีนพูล (gene pool) ซึ่งเกิดจากโอกาส หรือความบังเอิญ หรือจากภัยธรรมชาติ ประชากรที่
มี ขนาดใหญและมีการผสมพันธุแบบสุม จะไมพบวามีการเปลี่ยนแปลง ความถี่ของยีน มากมายอยาง มี
25. 25
นัยสําคัญ แตถาเปนประชากรขนาดเล็กจะมีผลอยางมาก การเปลี่ยนแปลงผกผันทางพันธุกรรม อยาง
ฉับพลันอยางไมมีทิศทางแนนอน หรือการเปลี่ยนแปลงความถี่ของยีนอยางฉับพลันโดยเหตุบังเอิญ ตาม
ธรรมชาติที่เกิดขึ้นแบบสุม ไมสามารถคาดการณทิศทางการเปลี่ยนแปลงความถี่ ของยีนไดแนนอน เชนนี้
เรียกวา เจเนติก ดริฟต (genetic drift) เปนกลไกที่สําคัญอยางหนึ่งที่ทําใหความถี่ของยีน มีการเบี่ยงเบน
จนเกิดการเปลี่ยนแปลง ความถี่ของยีน ตัวอยางของปรากฏการณนี้ไดแก วิวัฒนาการ ของสัตวชนิดใหมที่
เกิดขึ้นตามหมูเกาะตางๆ ในมหาสมุทรแปซิฟก ดังตัวอยางของแมลงหวี่ชนิดตางๆ ที่เกิดบนหมูเกาะ
ฮาวาย
หมายเหต ุ : gene pool หมายถึง ยีนโดยรวมซึ่งแลกเปลี่ยนกันระหวางสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะ ในเผาพันธุ
เดียวกัน เปรียบเหมือนมีบอของยีน ซึ่งสิ่งมีชีวิตนํามาฝากและนําไปใช
รูปที่ 2.18 ภาพแสดงปรากฏการณ เจเนติกดริฟต ของแมลงหวี่
ที่มา : http://evolution/Berkeley/edu
26. 26
ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่องปากคีบกับธัญพืช
วันที่...........เดือน............................พ.ศ....................
สมาชิกกลุมที.่ ......ไดแก
1. ………………………………………………… เลขที…… ่
2............................................................................. เลขที.่ .......
3............................................................................ เลขที.่ ......
4............................................................................ เลขที.่ ......
วัสดุและอุปกรณ
1.
2.
3.
4.
วิธีการทดลอง
1.
2.
3.
บันทึกผลการทดลอง
เกาะ ธัญพืช คีมที่ใช
28. 28
ใบกิจกรรมที่ 2 เรื่อง Natural Selection
1. ใหนักเรียนวิเคราะหแนวโนมของประชากรตะบองเพชร จากภาพดังกลาว พรอมอธิบายเหตุผล
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
2. ในภาพคือนกในอดีตและนกปจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงทางรูปราง ใหนักเรียนชวยกันเติม
ลักษณะสิ่งแวดลอมที่ทําใหนกมีลักษณะแบบนกปจจุบัน
นกในอดีต นกในปจจุบัน
1. อาศัยอยูใกลแมน้ํา
2. กินพืชน้ํา
3. มีผูลาที่อาศัยบนบก
4. อพยพเปนระยะทางที่ไกล
มากในแตละป
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
29. 29
แนวทางการตรวจคําตอบใบกิจกรรมที่ 1
1. นักเรียนบันทึกขอมูลครบถวนและสามารถสรุปไดวาการเลือกปากคีบขึ้นอยูกับลักษณะของธัญพืช
(ขึ้นอยูกับดุลยพินิจของผูตรวจ)
แนวทางการตรวจคําตอบใบกิจกรรมที่ 2
1. แนวโนมลักษณะตะบองเพชรจะมีหนาม เพื่อปองกันสัตวกัดกิน
2. นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะตางๆไดอยางสอดคลอง ลักษณะละ 1 คะแนน เหตุผลสนับสนุน
ขอละ 1 คะแนน เชน ปกมีขนาดสั้นและบางลง เนื่องจาก ไมตองอพยพเปนระยะทางไกลเทาเดิม
(1 คะแนน) (1 คะแนน)
เนนใหนักเรียนอธิบายลักษณะกับสภาพแวดลอมอยางสมเหตุสมผล
30. 30
แบบทดสอบทายบท
1. ขอความที่สอดคลองกับวิวัฒนาการมากที่สุดคือขอใด?
1. การเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตจากแบบงายๆไปซับซอนขึ้น
2. การเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตมักมีโครงสรางใหมเกิดขึ้นเสมอ
3. การเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตมีทิศทางที่ไมแนนอน
4. การเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงอยางคอยเปนคอยไป สืบเนื่องกันตลอดเวลา
2. การเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตนอกจากเกิดจากการคัดเลือกตามธรรมชาติแลว ยังอาจเกิดจาก
กลไกตางๆ ยกเวนขอใด?
1. การลอยหางจากกันทางพันธุกรรม (genetic drift)
2. การถายเทเคลื่อนยายยีน (gene flow)
3. การใชและไมใช (use and disuse)
4. การผาเหลา (mutation)
3. กรณีใดตอไปนี้เปนตัวอยางที่สนับสนุนทฤษฎี Natural selection ?
1. เชื้อเอดสแพรระบาดอยางรวดเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมที่ไมเหมาะสมของมนุษย
2. มีพลาสโมเดียมสายพันธุที่ตานยารักษาโรคมาลาเรียเพิ่มขึ้น
3. นกกะทาวางไขจํานวนมากขึ้นเมื่อชวงกลางวันยาวนานขึ้น
4. จิ้งจกเปลี่ยนสีตามสภาพแวดลอมที่อยูอาศัย
4. วิวัฒนาการตามแนวคิดของดารวินยึดหลักตางๆยกเวนหลักเกี่ยวกับขอใด?
1. หลักการเกี่ยวกับการแปรผันของสิ่งมีชีวิต
2. หลักการเกี่ยวกับการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
3. หลักการเกี่ยวกับการอพยพยายถิ่นของสิ่งมีชีวิต
4. หลักการเกี่ยวกับการถายทอดลักษณะจากบรรพบุรุษไปลูกหลาน
32. 32
9.แมสุนัขตัวหนึ่งคลอดลูกออกมา 7 ตัว ตามแนวความคิดของ ชารล ดารวิน ลูกสุนัขทั้ง 7 ตัว จะมีสี
ขนเหมือนกันหรือตางกันอยางไร
1. มีสีขนตางกันทุกตัว
2. มีสีขนเหมือนกันทุกตัว
3. มีสีขนเหมือนแมทุกตัว
4. บางตัวสีขนเหมือนกันบางตัวตางกัน
10. การคัดเลือกในธรรมชาติ (natural selection) จะเกิดขึ้นตอเมื่อลักษณะนั้น
1. เปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งแวดลอม
2. ถายทอดไปยังรุนตอๆไปได
3. ควบคุมโดยจีนที่เกิด mutationไดยาก
4. มีความแตกตางกัน ในหมูประชากรนั้น