More Related Content
More from วราภรณ์ หลายทวีวัฒน์
More from วราภรณ์ หลายทวีวัฒน์ (8)
บทคัดย่อ
- 1. ชื่องานวิจัย การพัฒนากระบวนการเรี ยนการสอนโดยประยุกต์แนวคิดการใช้ปัญหาเป็ นหลักใน
การเรี ยนรู ้ เพื่อส่ งเสริ มทักษะและกระบวนการทางคณิ ตศาสตร์ สาหรับนักเรี ยน
ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรี ยนบ้านโนนระเวียง จังหวัดนครราชสี มา
ผู้วจัย
ิ นางวราภรณ์ หลายทวีวฒน์ ั
ปี การศึกษา 2553
บทคัดย่อ
การวิจยครั้งนี้มีวตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรี ยบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนคณิ ตศาสตร์ ระหว่าง
ั ั
ก่อนและหลังการจัดกระบวนการเรี ยนการสอนโดยประยุกต์แนวคิดการใช้ปัญหาเป็ นหลักในการเรี ยนรู ้ (2)
เปรี ยบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาคณิ ตศาสตร์ ระหว่างก่อนและหลังการจัดกระบวนการเรี ยนการ
สอนโดยประยุกต์แนวคิดการใช้ปัญหาเป็ นหลักในการเรี ยนรู้ (3) พัฒนากระบวนการเรี ยนการสอนตาม
แนวคิดการใช้ปัญหาเป็ นหลักในการเรี ยนรู ้ เพื่อส่ งเสริ มทักษะและกระบวนการทางคณิ ตศาสตร์ และ (4)
ศึกษาพฤติกรรมด้านทักษะและกระบวนการทางคณิ ตศาสตร์ ได้แก่ การแก้ปัญหา การสื่ อสาร สื่ อ
ความหมายทางคณิ ตศาสตร์และการนาเสนอ และการเชื่อมโยงความรู ้ต่าง ๆ
กลุ่มตัวอย่างเป็ นนักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2553 โรงเรี ยน
บ้านโนนระเวียง อาเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสี มา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
นครราชสี มา เขต 6 จานวน 36 คน ได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่ องมือที่ใช้
ในการวิจยประกอบด้วย (1) แผนการจัดกระบวนการเรี ยนการสอนคณิ ตศาสตร์ เพื่อส่ งเสริ มทักษะและ
ั
กระบวนการทางคณิ ตศาสตร์ มีจานวน 10 แผน แผนละ 2 ชัวโมง ใช้เวลาทั้งหมด 20 ชัวโมง (2)
่ ่
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนคณิ ตศาสตร์ เป็ นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 30
ข้อ มีค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.40-0.65 และค่าอานาจจาแนก (r) อยูระหว่าง 0.50-0.80 ค่าความ
่
เที่ยงของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.9553 (3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา
คณิ ตศาสตร์ เป็ นแบบอัตนัยชนิดเขียนแสดงแนวคิดและวิธีทา จานวน 5 ข้อ รวมทั้งหมด 20 คะแนน ค่า
ความเที่ยงแบบทดสอบอัตนัยเท่ากับ 0.9689 และ(4) แบบสังเกตพฤติกรรมด้านทักษะและกระบวนการ
ทางคณิ ตศาสตร์ วิเคราะห์ขอมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test แบบ
้
dependent) และการหาประสิ ทธิภาพ E1/ E2
ผลการวิจยพบว่า (1) นักเรี ยนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรี ยนคณิ ตศาสตร์ ที่เรี ยนด้วยกระบวนการ
ั
เรี ยนการสอนโดยประยุกต์แนวคิดการใช้ปัญหาเป็ นหลักในการเรี ยนรู้ หลังเรี ยนสู งกว่าก่อนเรี ยนอย่างมี
นัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) นักเรี ยนมีความสามารถในการแก้ปัญหาคณิ ตศาสตร์ หลังเรี ยนสู งกว่า
ก่อนเรี ยนอย่างมีนยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (3) กระบวนการเรี ยนการสอนตามแนวคิดการใช้ปัญหาเป็ น
ั
หลักในการเรี ยนรู ้ เพื่อส่ งเสริ มทักษะและกระบวนการทางคณิ ตศาสตร์ ที่สร้างขึ้นมีประสิ ทธิ ภาพ
79.65/78.19 ซึ่ งมีประสิ ทธิ ภาพสู งกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กาหนดไว้ และ(4) นักเรี ยนมีพฒนาการด้านทักษะ
ั
- 2. และกระบวนการทางคณิ ตศาสตร์ ได้แก่ การแก้ปัญหา การสื่ อสาร การสื่ อความหมายทางคณิ ตศาสตร์
่
และการนาเสนอ การเชื่ อมโยงความรู ้ทางคณิ ตศาสตร์ มาใช้แก้ปัญหาอยูในระดับดี