SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
Download to read offline
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง
การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการท้างานเป็นกลุ่ม
ผู้จัดท้า
นายอารมย์ อินทรประเสริฐ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563
โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม อ้าเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
บทคัดยอ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงคเพื่อการศึกษาการพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม จ้านวน 42 คน โดยการทดลองใหนักเรียน ท้างานเปนกลุ่มสามารถพัฒนาทักษะ
การระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 ไดดีขึ้นและ มีการประเมินผลการระบายสีน้้าจากใบงาน
ทั้งหมด 3 ครั้ง และเก็บรวบรวมขอมูลจากคะแนนของ นักเรียนแตละคนมาเปรียบเทียบกันทั้ง 3 ครั้ง จะเห็น
ได้ว่า นักเรียนมีทักษะในการระบายสีน้้า สูงขึ้นตามล้าดับ โดยครั้งที่ 1 อยูในระดับดีมากรอยละ 15.52 ครั้งที่
2 รอยละ 28.10 และครั้งที่ 3 รอยละ 54.28 ตามล้าดับ ผลการวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ส่งผลใหนักเรียนมีความรู
และเกิดการพัฒนาทักษะการระบาย สีน้้าดีขึ้นและบรรลุวัตถุประสงคเปนที่นาพึงพอใจ
นายอารมย์ อินทรประเสริฐ
ค้าน้า
ตามที่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดก้าหนดมาตรฐานการเรียนรูชวงชั้นในกลุมสาระการ
เรียนรูศิลปะโดยมวัตถุประสงคให้ผูเรียนรูไดพัฒนาดานสุนทรียภาพรางกาย จิตใจ สติปญญา อารมณและ
สังคม สงเสริมใหผู้เรียน กลาคิด กลาท้า กลาแสดงออก ในเชิง สรางสรรคสามารถคนพบศักยภาพของตนเอง
อันเปนพื้นฐานในการศึกษาตอหรือประกอบอาชีพที่ สุจริตในอนาคตได้
การท้าวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1
โดยการท้างานเปนกลุ่ม ซึ่งถือวาเปนวิธีการน้ามาใชแกปญหาในการจัดการเรียน การสอนวิธีหนึ่ง เพื่อใหผู
เรียนไดพัฒนาการเรียนรูดานทัศนศิลปเกี่ยวกับการระบายสีน้้าใหดีขึ้น ผู้วิจัยขอขอบพระคุณบุคคลที่ใหการ
สนับสนุนสงเสริมในการวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้
นายอารมย์ อินทรประเสริฐ
สารบัญ
บทคัดยอ หน้า
ค้าน้า
บทที่ 1 บทน้า
-ความเป็นมาและความส้าคัญชองปัญหา
-วัตถุประสงค
-สมมุติฐาน
นิยามศัพทเฉพาะ
- ประโยชนของการท้าวิจัย
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวของ
เอกสารที่เกี่ยวของในการจัดการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า
บทที่ 3 วิธีการวิจัย
กลุมเปาหมาย
ตัวแปรที่ใชในการวิจัย
วิธีการหรือนวัตกรรมทีใช่
แผนภูมิการจัดกิจกรรมการเรียนรูพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า
วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล
วิธีการวิเคราะหขอมูล
บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข้อมูล
ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ
การระบายสีน้้าจากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 1
ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ
การระบายสีน้้าจากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 2
ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ
การระบายสีน้้าจากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 3
สรุปแบบสังเกตพฤติกรรมกลุม
บทที่ 5 สรุปอภิปรายผลและขอเสนอแนะ
สรุปผล
อภิปรายผล
ขอเสนอแนะ
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ตัวอยางภาพครั้งที่ 1
ตัวอยางภาพครั้งที่ 2
ตัวอยางภาพครั้งที่ 3
ภาพนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 ปฏิบัติงานกลุม
ใบความรูที่ 1
ใบความรูที่ 2
แบบสอบถามความคิดเห็น
ใบงานที่ 1
ใบความรูที่ 2
ใบงานที่ 3
แบบประเมินการทดสอบการระบายสีน้้าครั้งที่ 1
แบบประเมินการทดสอบการระบายสีน้้าครั้งที่ 2
แบบประเมินการทดสอบการระบายสีน้้าครั้งที่ 3
แบบสังเกตพฤติกรรมกลุม
บทที่ 1
บทน้า
การวิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1
โดยการท้างานเปนกลุม
1. ความเปนมาและความส้าคัญของปญหา
การจัดกระบวนการเรียนการสอนในรายวิชาศิลปะพื้นฐาน3ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1
สวนหนึ่งของเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดก้าหนดใหผูเรียนเกิด
การเรียนรูดานทัศนศิลปประเภทจิตรกรรมการวาดภาพระบายสี โดยเนนเพื่อใหเกิดการเรียนรูทั้ง
ทฤษฎีและการปฏิบัติ จากการประเมินผลการจัดการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 ซึ่งมี
นักเรียนทั้งหมดจ้านวน 42 คนพบวานักเรียนจ้านวน 38 คน ยังขาดทักษะในการระบายสีจะเห็น
ไดจากผลงานที่นักเรียนฝกปฏิบัติ ทั้งนี้เปนเพราะนักเรียนขาดกิจกรรมที่สงเสริมทักษะการระบาย
สี ซึ่งการระบายสีเปนทักษะที่ส้าคัญและจ้าเปนในทางศิลปะ อันเปนทักษะพื้นฐานที่จะน้าไปสู
งานศิลปะดานอื่น นอกจากนี้การวาดภาพระบายสียังเปนกิจกรรมที่สรางความสนุกสนาน
เพลิดเพลิน ท้าใหนักเรียนไดผอนคลายอารมณ ท้าใหนักเรียนมีจิตใจออนโยน และถาหาก
นักเรียนขาดทักษะการระบายสี จะสงผลตอการเรียนศิลปะดานอื่น ๆ ท้าใหนักเรียนขาดแรงจูงใจ
ที่จะเรียนศิลปะดานอื่น ๆอีกดวย
ดังนั้นหากไดใหนักเรียนฝกระบายสีน้้าเปนกลุมจะท้าใหนักเรียนมีทักษะในการระบายสีดีขึ้น
ได ทั้งนี้เนื่องจากกระบวนการในการท้างานเปนกลุมไดชวยสนับสนุนใหนักเรียนเกิดจินตนาการ
และความคิดสรางสรรคมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมกันภายในกลุม และมีการยกยองชมเชย
สรางแรงจูงใจและก้าลังใจใหเกิดขึ้นภายในกลุม ซึ่งจะชวยใหนักเรียนมีทักษะในการระบายสีน้้า
ตลอดจนการไดเปนผูพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงคทางดานสุนทรียะ มีความพรอมที่จะเรียน
ในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะในระดับชั้นที่สูงขึ้นตอไป
2. วัตถุประสงค
เพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยการท้างานเปนกลุม
3. สมมุติฐาน
การท้างานเปนกลุมสามารถพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่1/2 ไดดีขึ้น
4. นิยามศัพทเฉพาะ
1.การท้างานเปนกลุม หมายถึง การท้างานรวมกันของนักเรียนโดยแบงเปนกลุม
กลุมละ 3 - 8 คน โดยมีการจัดระบบการท้างานรวมกัน สมาชิกในกลุ่มทุกคนมีสวนรวมในการ
แสดงความคิดเห็นในการปฏิบัติงานไดเรียนรูการท้างานรวมกับผูอื่น
2.ทักษะการระบายสี หมายถึง ความสามารถในการระบายสีของนักเรียนประเมิน
ไดจากการฝกปฏิบัติการระบายสีใหเกิดความช้านาญตามขั้นตอนของทฤษฎีสีและหลักการ
จัดองคประกอบของศิลปะ เพื่อใหไดภาพระบายสีที่มีความสวยงามสามารถน้าไปใชสอย
ใหเกิดประโยชนในชีวิตประจ้าวันไดตามความเหมาะสม
5. ประโยชนของการท้าวิจัย
1. นักเรียนไดพัฒนาทักษะดานการระบายสีน้้า
2. นักเรียนไดฝกการท้างานเปนกลุม
3. นักเรียนมีความคิดริเริ่มสรางสรรคสามารถวาดภาพระบายสีน้้าไดสวยงาม
4. นักเรียนมีความภูมิใจในผลงานของตนเองและไดรับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน
ในการท้างาน
5. นักเรียนมีความรักสามัคคีกันในการท้างานเปนกลุ่มและรูจักการเสียสละเพื่อ
ประโยชนของสวนรวม
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวของ
การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ผู้วิจัยไดศึกษาเอกสารและงานวิจัยเพื่อเปนแนวทางในการ
ด้าเนินการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีของนักเรียน โดยศึกษาเอกสาร
ตามล้าดับดังนี้
1.โชดก เกงเขตรกิจ, ปญญา ทรงเสรีย , ยศนันท แยมเมือง และเศรษฐศิริ สายกระสุน
( 2548 ) สรุปไดวา สีสันกับโลกสวยงาม เกี่ยวกับกับทัศนธาตุ และองคประกอบศิลปะ คือผูที่
่
สรางสรรคผลงานศิลปะจะใชเปนสื่อความหมายในการแสดงออกโดยองคประกอบพื้นฐานคือ
ทัศนธาตุตางๆ ไดแก จุด เสน น้้าหนัก(แสง - เงา ) ทีวาง ลักษณะผิว และสี เพื่อน้ามาจัดรวมเขา
ดวยกันจะเกิดเปนรูปทรงของงานศิลปะขึ้น
แสดงใหเห็นวาการระบายสีเปนองคประกอบศิลปะที่ท้าใหผลงานมีความนาสนใจแกผูพบ
เห็นโดยมีความสวยงามเกิดความรูสึกทางอารมณจิตใจไดหลากหลาย สภาพแวดลอมของมนุษย
ลวนแตประกอบดวยสีสันไมวาจะเปนสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติหรือสิ่งแวดลอมที่มนุษยสรางขึ้น
ถาขาดการตกแตงดวยสีสันยอมไมนาสนใจและจะไมมีความสวยงาม
2.วัชรพงษ หงษสุวรรณ ( 2548 ) สรุปไดวาการเขียนภาพสีน้้า(WATERCOLOUR)เปน
สีเคมีชนิดหนึ่งที่มีเชื้อสีเปนน้้า ซึ่งมีการผสมอยูในเนื้อสีเปนตัวท้าใหเนื้อสีเกาะติดอยูในเนื้อ
กระดาษ สีน้้าเปนสีโปรงใส (TRANSPARENT) ที่ใชผสมกับน้้าแลวใชพูกันระบายลงบนกระดาษ
การผสมสีเกิดจากการผสมระหวางสีหนึ่งกับอีกสีหนึ่ง หรือหลายสีผสมกัน เพื่อใหเกิดเปนสีใหม
ตามตองการ เพราะสีน้้าเปนสีโปรงใส ดังนั้นการระบายสีน้้าจะตองใหสะอาดและใส การควบคุม
ปริมาณของสีกับน้้า จึงเปนสิ่งที่จ้าเปนมาก ส้าหรับผูเขียนภาพสีน้้า การกระจายหรือการซอฟของสี
เปนลักษณะพิเศษของสีน้้า อีกอยางหนึ่งซึ่งไมมีในสีใด ๆ
แสดงใหเห็นวา การระบายสีน้้า เปนเทคนิคที่ใชระบายสีส้าหรับภาพวาดดวยวิธีการ
ที่ไมยากมีความเพลิดเพลิน การที่จะระบายสีน้้าใหเกิดความสวยงามดูเปนธรรมชาติ จะตองเรียนรู
ทฤษฎีสีใหเขาใจ สามารถผสมสีไดดวยความช้านาญ
3. ประเทือง เอมเจริญ (2546) ไดกลาวถึงสิ่งที่ปรากฏเปนความงามของศิลปความชุม
นุมนวลเต็มพื้นที่ของภาพที่ดูกลมกลืนกัน การไหลอยางอิสระของน้้าที่กอใหเกิดลีลา ความงามของ
สีที ทาของการปาดปายแปรงที่ดูเฉียบขาดเรียบงาย คาแตกตางของสี น้้าหนัก รูปทรงที่ดูมีเอกภาพ
ในตัวเอง พลังกระตุนจินตนาการจากภาพสูผูชมงานที่มีสมาธิในการดู สิ่งที่กอใหเกิดความส้าเร็จใน
งานคือสีทุกสีน้้า บวกน้้าใจ
มิติแหงสีน้้า
* แผซานไปทั่วแผนกระดาษเปยกฉ่้าดั่งมวลเมฆบนทองฟาคือ มิติแหงสีน้้า
*เคลื่อนไหวอยางอิสระราเริงเพื่อเขารวมเปนหนึ่งเดียวกับความสงบ คือ มิติแหงสีน้้า
*แทรกซึมสูใตผิวลื่นไหลอยูเบื้องบน มุงผสานความกลมกลืนคือ มิติแหงสีน้้า
* แตกตัวเปนสีทุกสีดั่งดอกไมหลากสีบนพื้นพิภพคือ มิติแหงสีน้้า
* ไมแยกตัวจากความดี หลีกหนีความชั่วคือ มิติแหงสีน้้า
*เปดประตูแหงความไมรู ไปสูความรูแจงอันเบิกบานคือ มิติแหงสีน้้า
แสดงใหเห็นวามิติแหงสีน้้าเปนเอกลักษณเฉพาะตัวมีเสนหไมเหมือนสีอื่น ภาพที่เกิด
จากการระบายสีน้้าดูชุมชื่น มีชีวิตชีวา มีความสวยงามนาสนใจแกผู้พบเห็น
4. การท้างานกลุ่ม
การท้างานกลุม หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนรู กิจกรรมในชมรมตาง ๆ เพื่อ
สงเสริมใหผูเรียนไดมีสวนรวมในการวางแผน ความรับผิดชอบและการบริหารเวลา
(http//:www.acp.assumption.ac.th/Homepage/self)
E-book หมายถึง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ จากเว็บไซต์ครู www.peterfineart.com
ดังนั้นการท้างานเปนกลุม จึงหมายถึง การรวมกันท้างานตั้งแต3 - 8คนขึ้นไป สมาชิกใน
กลุมมีสวนรวมในการวางแผนท้างานและไดแสดงความคิดเห็นรวมกัน สงผลใหไดชิ้นงานที่ส้าเร็จ
เปนที่พึงพอใจรวมกัน
ประโยชนของการท้างานเปนกลุม
1. นักเรียนไดรูจักการวางแผนการจัดกิจกรรมรวมกัน
2. นักเรียนไดพัฒนาบุคลิกของตนเองใหปรับตัวเขากับผูอื่นได
3. นักเรียนไดรูจักการเสียสละเวลาและทุนทรัพยเพื่อใหเกิดประโยชนต่อสวนรวม
4. นักเรียนมีความรักสามัคคีในหมูคณะและมีความภูมิใจในงานที่ท้ารวมกัน
บทที่ 3
วิธีการวิจัย
การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ เปนการวิจัยเชิงทดลอง โดยผู้วิจัยไดด้าเนินการตามล้าดับดังนี้
1. กลุมเปาหมาย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม
จ้านวน 42 คน
2. ตัวแปรที่ใชในการวิจัย
2.1 ตัวแปรตน การท้างานเปนกลุม
2.2 ตัวแปรตาม การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า
3. วิธีการหรือนวัตกรรมที่ใช
1. แผนการเรียนรู เรื่อง ทัศนธาตุและองคประกอบศิลปะ
2. แผนการจัดกิจกรรมการท้างานเปนกลุ่ม
2.1 นักเรียนแบงกลุมกันท้างานตามอัธยาศัย ใหมีจ้านวนกลุมละ 3 - 4 คน เสร็จแลว
ใหประชุมสมาชิกกลุม แบงงานกันรับผิดชอบ โดยแตละกลุมนัดหมาย เรื่องการเตรียมอุปกรณ
ส้าหรับวาดภาพระบายสีน้้ามาใหพรอมในชั่วโมงเรียน
2.2 ใหนักเรียนทดลองวาดภาพระบายสีน้้า ครั้งที่ 1 ภาพตามจินตนาการของตนเอง
2.3 ครูจัดท้าใบความรูที่ 1เรื่อง ทฤษฎีสี และ ใบความรูที่ 2 เรื่อง การเขียนภาพสีน้้า
ใหนักเรียนศึกษาใบความรู้
2.4 นักเรียนแตละกลุมทุกคนทดลองวาดภาพระบายสีครั้งที่ 2
2.5 เพื่อนในกลุมและครูรวมกันประเมินผลการท้างานครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
2.6 หลังการประเมินผลงานนักเรียนบางคนไดคะแนนไมผานเกณฑเพื่อนในกลุม
และครูชวยกันแนะน้าเพิ่มเติมโดยการสาธิต
2.7 หลังประเมินผลงานนักเรียนครั้งที่ 1 และครั้งที่2 ที่ไดคะแนนผานเกณฑใหท้าใบ
งานที่ 3
2.8 นักเรียนแตละกลุ่มทุกคนทดลองวาดภาพระบายสีครั้งที่ 3
2.9 สรุปผลการประเมินการท้างานจากใบงานทั้ง 3 ครั้ง ใหนักเรียนทุกกลุมทราบ
แผนภูมิการจัดกิจกรรมการเรียนรูพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า
ของนักเรียนชันมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยการท้างานเปนกลุม
นักเรียนแบงกลุมท้างานตามอัธยาศัย กลุมละ 3-4
นักเรียนท้าใบงานที่ 1
นักเรียนศึกษาใบความรู
นักเรียนท้าใบงานที่ 2
นักเรียนและครูร่วมกันประเมินผลงานครั้งที่ 1และครั้งที่2 ไม่ผานเกณฑ เพื่อนในกลุมและครู
ผ่านเกณฑ์
นักเรียนท้าใบงานที่ 3
สรุปการประเมินผลการท้างานจากใบงานทั้ง 3 ครั้ง
4. วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล
ผู้วิจัยเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเอง ตามขั้นตอนดังนี้
1. ใหนักเรียนท้างานเปนกลุ่มทั้งหมด 3 ครั้ง เริ่มตั้งแตการประเมินผลกอนเรียน
โดยวาดภาพระบายสีตามจินตนาการ
2. นักเรียนปฏิบัติงาน ตามใบงานที่ 1 , ใบงานที่ 2 , ใบงานที่ 3
3. ครูแจกแบบการประเมินผลการใหคะแนนทั้ง 3 ครั้ง
4. ครูก้าหนดเวลาใหนักเรียนสงผลงานที่ท้าเสร็จแลวใหครูตรวจประเมินผล
5. ครูสรุปผลการตรวจผลงาน ครั้งที่ 1 และด้าเนินการตอดังนี้
5.1 ครูแจกใบงาน นักเรียนปฏิบัติตามใบงานครั้งที่ 2 วาดภาพระบายสีน้้า
แจกันดอกไม และสงผลงานใหครูตรวจ ประเมินผล
5.2 ครูแจงผลคะแนนครั้งที่ 2
6. ครูแจกใบงานครั้งที่ 3 และด้าเนินการตอดังนี้
6.1 นักเรียนปฏิบัติตามใบงานครั้งที่ 3 วาดภาพระบายสีน้้า แจกันดอกไม
สงผลงานที่เสร็จแลวใหครูตรวจประเมินผล
6.2 ครูแจงผลคะแนน จากการท้างานครั้งที่ 3 และแจงผลการประเมินทั้ง
3 ครั้งใหนักเรียนทราบ
7. วิธีการวิเคราะหขอมูล
7.1 เปรียบเทียบผลคะแนนกอนเรียนและหลังเรียน โดยใชคารอยละ
7.2 รวบรวมขอมูลจากแบบประเมินผลการใหคะแนนทั้ง 3 ครั้ง
5. วิธีการวิเคราะห์ขอมูล
- ผูท้าวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ใชวิธีการวิเคราะห์ขอมูลโดยวิธีหาคาเฉลี่ยรอยละ
บทที่ 4
ผลการวิเคราะหขอมูล
ผลการวิเคราะหขอมูล ปรากฏดังตารางที่ 1 , 2 และ 3 ดังนี้
ตารางที่ 1 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสี จากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม
จ้านวนนักเรียน
มัธยมศึกษาปีที่ 1/2
เกณฑการประเมิน ผล
การพัฒนาทักษะการ
ระบายสีน้้า
ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ
42 ดีมาก
พอใช
ปรับปรุง
9.52
50
40.48
นร. 4 คน
นร. 21 คน
นร. 17 คน
ตารางที่ 2 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสี จากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 2
จ้านวนนักเรียน
มัธยมศึกษาปีที่ 1/2
เกณฑการประเมิน ผล
การพัฒนาทักษะการ
ระบายสีน้้า
ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ
42 ดีมาก
พอใช
ปรับปรุง
38.10
52.38
9.52
นร. 16 คน
นร. 22 คน
นร. 4 คน
ตารางที่ 3 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสี จากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 3
จ้านวนนักเรียน
มัธยมศึกษาปีที่ 1/2
เกณฑการประเมิน ผล
การพัฒนาทักษะการ
ระบายสีน้้า
ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ
42 ดีมาก
พอใช
ปรับปรุง
64.28
33.34
2.38
นร. 27 คน
นร. 14 คน
นร. 1 คน
จากการเปรียบเทียบคะแนนทั้ง 3 ตาราง จะเห็นได้ว่านักเรียนมีทักษะในการระบายสีน้้า สูงขึ้นตามล้าดับ
โดยครั้งที่ 1 อยูในระดับดีมาก รอยละ 9.52 ครั้งที่ 2 รอยละ 38.10 และ ครั้งที่ 3 รอยละ 64.28
ตามล้าดับ และนักเรียนที่มีทักษะการระบายสีน้้าอยูในระดับปรับปรุง
ตารางที่ 4 สรุปแบบสังเกตพฤติกรรมกลุม
จากการท้าวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ พฤติกรรมกลุมที่สังเกตโดยเพื่อนในกลุม มี 4 ขอ คือ
1. ความรับผิดชอบตอหนาที่
2. การใหความรวมมือ
3. ความสนใจตอกิจกรรมกลุม
4. การแสดงความคิดเห็น
กลุมที่
คะแนนเฉลี่ย คาระดับคะแนน
ดาน 1 ด้าน 2 ด้าน 3 ด้าน 4
กลุมที่ 1 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 2 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 3 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 4 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 6 3 3 3 3 พอใช้
กลุมที่ 7 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 8 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 9 3 3 3 3 พอใช้
กลุมที่ 10 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
กลุมที่ 11 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
บทที่ 5
สรุปอภิปรายผล และขอเสนอแนะ
การวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยการ
ท้างานเปนกลุม ในครั้งนี้ คือ
1. สรุปผล
- จากตารางเปรียบเทียบคะแนนการท้างาน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยการท้างานเปนกลุม จ้านวน 3 ครั้ง พบวา จากการท้างาน
ครั้งที่ 1 มีนักเรียนจ้านวน 4 คน ที่มีความสามารถในการระบายสีน้้าไดถูกตองตามหลักการ อยูใน
ขั้นเกณฑดีมาก และมีนักเรียนจ้านวน 21 คน ที่มีความสามารถในการระบายสีน้้า อยูในเกณฑระดับ
พอใช นักเรียนจ้านวน 17 คน มีความสามารถในการระบายสีน้้า อยู่ในระดับปรับปรุง
- คะแนนการท้างานครั้งที่ 2 พบวา นักเรียนสวนใหญท้างานอยูในระดับดีมากจ้านวน
16 คน และอยู่ในระดับพอใช 22 คน มีนักเรียนจ้านวน 4 คน ที่อยูในระดับปรับปรุง
- คะแนนการท้างานครั้งที่ 3 พบวา นักเรียนจ้านวน 1 คน ที่อยูในระดับปรับปรุง
ดังนั้นการพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 1/2
โดยวิธีท้างานเปนกลุม ท้าใหเกิดผลการเรียนรูที่ดีขึ้น และบรรลุวัตถุประสงคการท้าวิจัยในชั้นเรียน
ครั้งนี้
2. อภิปรายผล
- จากการท้าวิจัยในชั้นเรียนในครั้งนี้สงผลใหนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ไดพัฒนาทักษะการระบาย
สีน้้าโดยการท้างานเปนกลุม คือ กระบวนการที่ท้าใหการท้างานแตละครั้งของนักเรียนเกิดผลส้าเร็จและได
ผลงานเปนที่นาพึงพอใจเปนอยางยิ่ง ซึ่งผูท้าวิจัยไดตรวจ ผลงานและประเมินผลการใหคะแนนตาม
ประเด็นและหลักเกณฑตามที่ก้าหนดไว ท้าเปนขอมูล หลักฐานยืนยันได้ว่า การท้างานในครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2
และครั้งที่ 3 ท้าใหนักเรียนมีการพัฒนาทักษะ การระบายสีน้้า จากท้างานอยูในขั้นเกณฑปรับปรุง พัฒนา
เปนพอใชและดีมาก ขึ้นมาตามล้าดับ และนักเรียนที่มี
่ความสามารถท้างานจากครั้งที่ 1 ดีมาก ก็ไดรักษา
ระดับความสามารถของตนเองไว ตลอดทั้ง 3 ครั้ง
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงคเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียน ชั้น มัธยมศึกษาปที่ 1/2
โดยวิธีการท้างานเปนกลุมซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการจัดการเรียนการสอนใน วิชาศิลปะพื้นฐาน 3 พบวา
นักเรียนขาดทักษะในการระบายสี ผูวิจัยจึงใชวิธีการท้างานเปนกลุ่ม
สรุปไดวา การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ สงผลใหนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1/2 เกิดการพัฒนาการ
เรียนรูและประสบการณที่ใหมๆ ฝกใหนักเรียนเปนคนคิดริเริ่มสรางสรรค สามารถน้าความรูที่ไดรับไปใชแก้
ปญหาใหเกิดประโยชนในชีวิตประจ้าวันไดเหมาะสม การวิจัย ในชั้นเรียนเปนกระบวนการท้างานโดยมวี
่ธีการ
วางแผนจนเกิดผลส้าเร็จที่ดีในการท้างาน เพื่อ สนองตอบนโยบายการปฏิรูปการศึกษา ตามพระราชบัญญัติ
การศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2551
ขอเสนอแนะ
ในการท้าวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ผูวิจัยมีขอเสนอแนะแนวทางส้าหรับผูสนใจ จะน้าไป พัฒนาการเรียน
การสอนหรือ ศึกษาการวิจัยในชั้นเรียนในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ และกลุมสาระการเรียนรูอื่น ๆ ไดดังนี้
1. ผูท้าวิจัยในชั้นเรียนควรศึกษาสภาพปญหาในหองเรียน ที่สมควรให้มีการแกไขและ ปรับปรุงเพื่อใหการ
เรียนการสอนดีขึ้น
2. นักเรียนตอบแบบสอบถาม ขอดี – ขอเสีย โดยการท้างานเปนกลุม มีความพึงพอใจมาก นอยอยางไร ครู
เก็บรวบรวมขอมูลและได้ขอสรุป คือ รอยละ 95 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 เห็นดวยกับวิธีการเรียน
โดยการท้างานเปนกลุม
3. นักเรียนควรไดน้าความรูและประสบการณที่ไดรับ ไปใชใหเกิดประโยชนทั้งตอตนเอง และครอบครัว
ตลอดจนในสังคมใหดีขึ้นตอไปในอนาคต
4. การจัดกระบวนการสอน โดยใหนักเรียนท้างานเปนกลุม ๆ ละ 3-4 คน เปนลักษณะ กลุมที่เหมาะสม
เพราะการแสดงความคิดเห็นรวมกันในกลุม หรือการนัดหมายแบงงานรับผิดชอบ แกสมาชิกในกลุมจะมีความ
คลองตัวง่าย สะดวกตอการประสานงานกัน
บรรณานุกรม
โชดก เกงเขตรกิจ, ปญญา ทรงเสรี, ยศนันท แยมเมือง, เศรษฐศิริ สายกระสุน.(2548) ทัศนศิลป ชั้น
มัธยมศึกษาปที่ 1 บริษัทโรงพิมพไทยวัฒนาพาณิชย จ้ากัด. กรุงเทพมหานคร. วัชรพงศ หงสสุวรรณ.(2548) สี
น้้าภาคปฏิบัติ บริษัทวาดศิลป จ้ากัด. กรุงเทพมาหานคร. ประเทือง เอมเจริญ.(2546) มิติแหงสีน้้า 2003
บริษัทอัมรินทรพริ้นติ้ง แอนดพัลลิชชิ่งจ้ากัด. (มหาชน)
www.peterfineart.com E – book ทัศนศิลป์
www.acp.assumpton.ac.th/Homepasge/self การท้างานกลุม
ผลงานนักเรียนม.1/2

More Related Content

What's hot

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2Yatphirun Phuangsuwan
 
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2พัน พัน
 
6. หลักสูตรศิลปะ
6. หลักสูตรศิลปะ6. หลักสูตรศิลปะ
6. หลักสูตรศิลปะnang_phy29
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศกลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศYatphirun Phuangsuwan
 
ทัศนธาตุ
ทัศนธาตุทัศนธาตุ
ทัศนธาตุNattapon
 
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0Preeyaporn Chamnan
 
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะมาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะBoonlert Aroonpiboon
 
ศิลปะ ม.ต้น
ศิลปะ ม.ต้นศิลปะ ม.ต้น
ศิลปะ ม.ต้นpeter dontoom
 
ปกหน้า-ทัศนธาตุ
ปกหน้า-ทัศนธาตุปกหน้า-ทัศนธาตุ
ปกหน้า-ทัศนธาตุNattapon
 
ทัศนธาตุ
ทัศนธาตุทัศนธาตุ
ทัศนธาตุsarungolf
 
ศิลปะพื้นฐาน รูปร่าง เส้น แสง
ศิลปะพื้นฐาน รูปร่าง เส้น แสงศิลปะพื้นฐาน รูปร่าง เส้น แสง
ศิลปะพื้นฐาน รูปร่าง เส้น แสงHeeroyuy Heero
 
กำหนดการสอนศิลปะ
กำหนดการสอนศิลปะกำหนดการสอนศิลปะ
กำหนดการสอนศิลปะYatphirun Phuangsuwan
 
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้Yatphirun Phuangsuwan
 
หนังสือประกอบการเรียนการสอนทัศนศิลป์ ป4 2557 02
หนังสือประกอบการเรียนการสอนทัศนศิลป์ ป4  2557 02หนังสือประกอบการเรียนการสอนทัศนศิลป์ ป4  2557 02
หนังสือประกอบการเรียนการสอนทัศนศิลป์ ป4 2557 02วรินทราพร ธรรมประชา
 
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร ม.4
เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร ม.4เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร ม.4
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร ม.4Panomporn Chinchana
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะSuriyawaranya Asatthasonthi
 

What's hot (20)

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ2
 
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2
สื่อการสอนเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานศิลปะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
 
6. หลักสูตรศิลปะ
6. หลักสูตรศิลปะ6. หลักสูตรศิลปะ
6. หลักสูตรศิลปะ
 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศกลุ่มสาระการเรียนรู้  ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ ศ ๒๑๑๐๑ของพี่ทัศ
 
ทัศนธาตุ
ทัศนธาตุทัศนธาตุ
ทัศนธาตุ
 
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 05. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ (มัธยมปลาย) 0
 
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะมาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
 
แบบฝึกทักษะ 011
แบบฝึกทักษะ 011แบบฝึกทักษะ 011
แบบฝึกทักษะ 011
 
ศิลปะ ม.ต้น
ศิลปะ ม.ต้นศิลปะ ม.ต้น
ศิลปะ ม.ต้น
 
ปกหน้า-ทัศนธาตุ
ปกหน้า-ทัศนธาตุปกหน้า-ทัศนธาตุ
ปกหน้า-ทัศนธาตุ
 
หลักสูตรศิลปะ มัธยมศึกษาตอนปลาย
หลักสูตรศิลปะ มัธยมศึกษาตอนปลายหลักสูตรศิลปะ มัธยมศึกษาตอนปลาย
หลักสูตรศิลปะ มัธยมศึกษาตอนปลาย
 
ทัศนศิลป์
ทัศนศิลป์ทัศนศิลป์
ทัศนศิลป์
 
ข้อสอบศิลปะ
ข้อสอบศิลปะข้อสอบศิลปะ
ข้อสอบศิลปะ
 
ทัศนธาตุ
ทัศนธาตุทัศนธาตุ
ทัศนธาตุ
 
ศิลปะพื้นฐาน รูปร่าง เส้น แสง
ศิลปะพื้นฐาน รูปร่าง เส้น แสงศิลปะพื้นฐาน รูปร่าง เส้น แสง
ศิลปะพื้นฐาน รูปร่าง เส้น แสง
 
กำหนดการสอนศิลปะ
กำหนดการสอนศิลปะกำหนดการสอนศิลปะ
กำหนดการสอนศิลปะ
 
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้
วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้
 
หนังสือประกอบการเรียนการสอนทัศนศิลป์ ป4 2557 02
หนังสือประกอบการเรียนการสอนทัศนศิลป์ ป4  2557 02หนังสือประกอบการเรียนการสอนทัศนศิลป์ ป4  2557 02
หนังสือประกอบการเรียนการสอนทัศนศิลป์ ป4 2557 02
 
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร ม.4
เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร ม.4เอกสารประกอบการเรียน  วิชานาฏศิลป์  หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร ม.4
เอกสารประกอบการเรียน วิชานาฏศิลป์ หลักการชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร ม.4
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - ศิลปะ
 

Similar to Report water colours

เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdfเรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdfpeter dontoom
 
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.6.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.6.pdfเรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.6.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.6.pdfpeter dontoom
 
Classroom research paper
Classroom research paperClassroom research paper
Classroom research paperpeter dontoom
 
เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งหนุ่มสาวชาวไร่อ้อย
เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งหนุ่มสาวชาวไร่อ้อยเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งหนุ่มสาวชาวไร่อ้อย
เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งหนุ่มสาวชาวไร่อ้อยครูเย็นจิตร บุญศรี
 
ศิลปศึกษา ม.ปลาย ทช31003
ศิลปศึกษา ม.ปลาย ทช31003ศิลปศึกษา ม.ปลาย ทช31003
ศิลปศึกษา ม.ปลาย ทช31003Thidarat Termphon
 
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4peter dontoom
 
แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้10871885581
 
5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)
5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)
5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)teerachon
 
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1rojanasak tipnek
 
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2Anawat Supappornchai
 
ชุดการสอนประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ชุดการสอนประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่นชุดการสอนประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ชุดการสอนประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่นครูเย็นจิตร บุญศรี
 

Similar to Report water colours (20)

เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdfเรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.pdf
 
research 65.pdf
research 65.pdfresearch 65.pdf
research 65.pdf
 
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.6.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.6.pdfเรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.6.pdf
เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียนสีไม้64.6.pdf
 
Classroom research paper
Classroom research paperClassroom research paper
Classroom research paper
 
research 653.pdf
research 653.pdfresearch 653.pdf
research 653.pdf
 
แบบฝึกทักษะ 3.pdf new
แบบฝึกทักษะ 3.pdf newแบบฝึกทักษะ 3.pdf new
แบบฝึกทักษะ 3.pdf new
 
เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งหนุ่มสาวชาวไร่อ้อย
เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งหนุ่มสาวชาวไร่อ้อยเอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งหนุ่มสาวชาวไร่อ้อย
เอกสารประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งหนุ่มสาวชาวไร่อ้อย
 
Graphics Design
Graphics DesignGraphics Design
Graphics Design
 
Plan 04 (2)
Plan 04 (2)Plan 04 (2)
Plan 04 (2)
 
ทช31003
ทช31003ทช31003
ทช31003
 
ศิลปศึกษา ม.ปลาย ทช31003
ศิลปศึกษา ม.ปลาย ทช31003ศิลปศึกษา ม.ปลาย ทช31003
ศิลปศึกษา ม.ปลาย ทช31003
 
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
แบบทดสอบปลายภาควิทัศนศิลป์ ศ 31101ชั้น4
 
แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1แผนการเรียนรู้1
แผนการเรียนรู้1
 
Sci 2009 03
Sci 2009 03Sci 2009 03
Sci 2009 03
 
5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)
5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)
5.แนวข้อสอบ o net ศิลปะ(ม.6)
 
กำหนดการสอน
กำหนดการสอนกำหนดการสอน
กำหนดการสอน
 
แบบฝึกทักษะ 2.pdf new
แบบฝึกทักษะ 2.pdf newแบบฝึกทักษะ 2.pdf new
แบบฝึกทักษะ 2.pdf new
 
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ศิลปะ ม.3 ชุด 1
 
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
ขอสอบ O net-ศลปะ_ม.3_ชด_2
 
ชุดการสอนประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ชุดการสอนประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่นชุดการสอนประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ชุดการสอนประกอบการเรียนรู้ เรื่อง การอนุรักษ์นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่น
 

More from peter dontoom

ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdfpeter dontoom
 
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdfpeter dontoom
 
Instruction Supervision 66.pdf
Instruction Supervision 66.pdfInstruction Supervision 66.pdf
Instruction Supervision 66.pdfpeter dontoom
 
Supervision Report 65.pdf
Supervision Report 65.pdfSupervision Report 65.pdf
Supervision Report 65.pdfpeter dontoom
 

More from peter dontoom (20)

ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.3.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ32102นาฏศิลป์ 5.1.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.3.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ31102ทัศนศิลป์ 4.1.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23103นาฏศิลป์ 3.1.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ23101ทัศนศิลป์ 3.1.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdfปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.2.pdf
 
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdfปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdf
ปพ.5-2565-2-ศ21101ทัศนศิลป์ 1.1.pdf
 
portfolio 66.2.pdf
portfolio 66.2.pdfportfolio 66.2.pdf
portfolio 66.2.pdf
 
supervision 65.pdf
supervision 65.pdfsupervision 65.pdf
supervision 65.pdf
 
Instruction Supervision 66.pdf
Instruction Supervision 66.pdfInstruction Supervision 66.pdf
Instruction Supervision 66.pdf
 
portfolio 2022.pdf
portfolio 2022.pdfportfolio 2022.pdf
portfolio 2022.pdf
 
Supervision Report 65.pdf
Supervision Report 65.pdfSupervision Report 65.pdf
Supervision Report 65.pdf
 
4.3.pdf
4.3.pdf4.3.pdf
4.3.pdf
 
4.2.pdf
4.2.pdf4.2.pdf
4.2.pdf
 
3.4.pdf
3.4.pdf3.4.pdf
3.4.pdf
 

Report water colours

  • 1. เรื่องรายงานวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการท้างานเป็นกลุ่ม ผู้จัดท้า นายอารมย์ อินทรประเสริฐ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม อ้าเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
  • 2. บทคัดยอ การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงคเพื่อการศึกษาการพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม จ้านวน 42 คน โดยการทดลองใหนักเรียน ท้างานเปนกลุ่มสามารถพัฒนาทักษะ การระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 ไดดีขึ้นและ มีการประเมินผลการระบายสีน้้าจากใบงาน ทั้งหมด 3 ครั้ง และเก็บรวบรวมขอมูลจากคะแนนของ นักเรียนแตละคนมาเปรียบเทียบกันทั้ง 3 ครั้ง จะเห็น ได้ว่า นักเรียนมีทักษะในการระบายสีน้้า สูงขึ้นตามล้าดับ โดยครั้งที่ 1 อยูในระดับดีมากรอยละ 15.52 ครั้งที่ 2 รอยละ 28.10 และครั้งที่ 3 รอยละ 54.28 ตามล้าดับ ผลการวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ส่งผลใหนักเรียนมีความรู และเกิดการพัฒนาทักษะการระบาย สีน้้าดีขึ้นและบรรลุวัตถุประสงคเปนที่นาพึงพอใจ นายอารมย์ อินทรประเสริฐ
  • 3. ค้าน้า ตามที่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดก้าหนดมาตรฐานการเรียนรูชวงชั้นในกลุมสาระการ เรียนรูศิลปะโดยมวัตถุประสงคให้ผูเรียนรูไดพัฒนาดานสุนทรียภาพรางกาย จิตใจ สติปญญา อารมณและ สังคม สงเสริมใหผู้เรียน กลาคิด กลาท้า กลาแสดงออก ในเชิง สรางสรรคสามารถคนพบศักยภาพของตนเอง อันเปนพื้นฐานในการศึกษาตอหรือประกอบอาชีพที่ สุจริตในอนาคตได้ การท้าวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการท้างานเปนกลุ่ม ซึ่งถือวาเปนวิธีการน้ามาใชแกปญหาในการจัดการเรียน การสอนวิธีหนึ่ง เพื่อใหผู เรียนไดพัฒนาการเรียนรูดานทัศนศิลปเกี่ยวกับการระบายสีน้้าใหดีขึ้น ผู้วิจัยขอขอบพระคุณบุคคลที่ใหการ สนับสนุนสงเสริมในการวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ นายอารมย์ อินทรประเสริฐ
  • 4. สารบัญ บทคัดยอ หน้า ค้าน้า บทที่ 1 บทน้า -ความเป็นมาและความส้าคัญชองปัญหา -วัตถุประสงค -สมมุติฐาน นิยามศัพทเฉพาะ - ประโยชนของการท้าวิจัย บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวของ เอกสารที่เกี่ยวของในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า บทที่ 3 วิธีการวิจัย กลุมเปาหมาย ตัวแปรที่ใชในการวิจัย วิธีการหรือนวัตกรรมทีใช่ แผนภูมิการจัดกิจกรรมการเรียนรูพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล วิธีการวิเคราะหขอมูล บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข้อมูล ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ การระบายสีน้้าจากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 1 ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ
  • 5. การระบายสีน้้าจากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 2 ผลการวิเคราะหขอมูลเปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะ การระบายสีน้้าจากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 3 สรุปแบบสังเกตพฤติกรรมกลุม บทที่ 5 สรุปอภิปรายผลและขอเสนอแนะ สรุปผล อภิปรายผล ขอเสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก ตัวอยางภาพครั้งที่ 1 ตัวอยางภาพครั้งที่ 2 ตัวอยางภาพครั้งที่ 3 ภาพนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 ปฏิบัติงานกลุม ใบความรูที่ 1 ใบความรูที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็น ใบงานที่ 1 ใบความรูที่ 2 ใบงานที่ 3 แบบประเมินการทดสอบการระบายสีน้้าครั้งที่ 1 แบบประเมินการทดสอบการระบายสีน้้าครั้งที่ 2
  • 6. แบบประเมินการทดสอบการระบายสีน้้าครั้งที่ 3 แบบสังเกตพฤติกรรมกลุม บทที่ 1 บทน้า การวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 โดยการท้างานเปนกลุม 1. ความเปนมาและความส้าคัญของปญหา การจัดกระบวนการเรียนการสอนในรายวิชาศิลปะพื้นฐาน3ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1 สวนหนึ่งของเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดก้าหนดใหผูเรียนเกิด การเรียนรูดานทัศนศิลปประเภทจิตรกรรมการวาดภาพระบายสี โดยเนนเพื่อใหเกิดการเรียนรูทั้ง ทฤษฎีและการปฏิบัติ จากการประเมินผลการจัดการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 ซึ่งมี นักเรียนทั้งหมดจ้านวน 42 คนพบวานักเรียนจ้านวน 38 คน ยังขาดทักษะในการระบายสีจะเห็น ไดจากผลงานที่นักเรียนฝกปฏิบัติ ทั้งนี้เปนเพราะนักเรียนขาดกิจกรรมที่สงเสริมทักษะการระบาย สี ซึ่งการระบายสีเปนทักษะที่ส้าคัญและจ้าเปนในทางศิลปะ อันเปนทักษะพื้นฐานที่จะน้าไปสู งานศิลปะดานอื่น นอกจากนี้การวาดภาพระบายสียังเปนกิจกรรมที่สรางความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ท้าใหนักเรียนไดผอนคลายอารมณ ท้าใหนักเรียนมีจิตใจออนโยน และถาหาก นักเรียนขาดทักษะการระบายสี จะสงผลตอการเรียนศิลปะดานอื่น ๆ ท้าใหนักเรียนขาดแรงจูงใจ
  • 7. ที่จะเรียนศิลปะดานอื่น ๆอีกดวย ดังนั้นหากไดใหนักเรียนฝกระบายสีน้้าเปนกลุมจะท้าใหนักเรียนมีทักษะในการระบายสีดีขึ้น ได ทั้งนี้เนื่องจากกระบวนการในการท้างานเปนกลุมไดชวยสนับสนุนใหนักเรียนเกิดจินตนาการ และความคิดสรางสรรคมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมกันภายในกลุม และมีการยกยองชมเชย สรางแรงจูงใจและก้าลังใจใหเกิดขึ้นภายในกลุม ซึ่งจะชวยใหนักเรียนมีทักษะในการระบายสีน้้า ตลอดจนการไดเปนผูพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงคทางดานสุนทรียะ มีความพรอมที่จะเรียน ในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะในระดับชั้นที่สูงขึ้นตอไป 2. วัตถุประสงค เพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยการท้างานเปนกลุม 3. สมมุติฐาน การท้างานเปนกลุมสามารถพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่1/2 ไดดีขึ้น 4. นิยามศัพทเฉพาะ 1.การท้างานเปนกลุม หมายถึง การท้างานรวมกันของนักเรียนโดยแบงเปนกลุม กลุมละ 3 - 8 คน โดยมีการจัดระบบการท้างานรวมกัน สมาชิกในกลุ่มทุกคนมีสวนรวมในการ แสดงความคิดเห็นในการปฏิบัติงานไดเรียนรูการท้างานรวมกับผูอื่น 2.ทักษะการระบายสี หมายถึง ความสามารถในการระบายสีของนักเรียนประเมิน ไดจากการฝกปฏิบัติการระบายสีใหเกิดความช้านาญตามขั้นตอนของทฤษฎีสีและหลักการ จัดองคประกอบของศิลปะ เพื่อใหไดภาพระบายสีที่มีความสวยงามสามารถน้าไปใชสอย ใหเกิดประโยชนในชีวิตประจ้าวันไดตามความเหมาะสม 5. ประโยชนของการท้าวิจัย 1. นักเรียนไดพัฒนาทักษะดานการระบายสีน้้า 2. นักเรียนไดฝกการท้างานเปนกลุม
  • 8. 3. นักเรียนมีความคิดริเริ่มสรางสรรคสามารถวาดภาพระบายสีน้้าไดสวยงาม 4. นักเรียนมีความภูมิใจในผลงานของตนเองและไดรับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ในการท้างาน 5. นักเรียนมีความรักสามัคคีกันในการท้างานเปนกลุ่มและรูจักการเสียสละเพื่อ ประโยชนของสวนรวม บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวของ การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ผู้วิจัยไดศึกษาเอกสารและงานวิจัยเพื่อเปนแนวทางในการ ด้าเนินการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีของนักเรียน โดยศึกษาเอกสาร ตามล้าดับดังนี้ 1.โชดก เกงเขตรกิจ, ปญญา ทรงเสรีย , ยศนันท แยมเมือง และเศรษฐศิริ สายกระสุน ( 2548 ) สรุปไดวา สีสันกับโลกสวยงาม เกี่ยวกับกับทัศนธาตุ และองคประกอบศิลปะ คือผูที่ ่ สรางสรรคผลงานศิลปะจะใชเปนสื่อความหมายในการแสดงออกโดยองคประกอบพื้นฐานคือ ทัศนธาตุตางๆ ไดแก จุด เสน น้้าหนัก(แสง - เงา ) ทีวาง ลักษณะผิว และสี เพื่อน้ามาจัดรวมเขา ดวยกันจะเกิดเปนรูปทรงของงานศิลปะขึ้น แสดงใหเห็นวาการระบายสีเปนองคประกอบศิลปะที่ท้าใหผลงานมีความนาสนใจแกผูพบ เห็นโดยมีความสวยงามเกิดความรูสึกทางอารมณจิตใจไดหลากหลาย สภาพแวดลอมของมนุษย ลวนแตประกอบดวยสีสันไมวาจะเปนสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติหรือสิ่งแวดลอมที่มนุษยสรางขึ้น ถาขาดการตกแตงดวยสีสันยอมไมนาสนใจและจะไมมีความสวยงาม 2.วัชรพงษ หงษสุวรรณ ( 2548 ) สรุปไดวาการเขียนภาพสีน้้า(WATERCOLOUR)เปน สีเคมีชนิดหนึ่งที่มีเชื้อสีเปนน้้า ซึ่งมีการผสมอยูในเนื้อสีเปนตัวท้าใหเนื้อสีเกาะติดอยูในเนื้อ กระดาษ สีน้้าเปนสีโปรงใส (TRANSPARENT) ที่ใชผสมกับน้้าแลวใชพูกันระบายลงบนกระดาษ การผสมสีเกิดจากการผสมระหวางสีหนึ่งกับอีกสีหนึ่ง หรือหลายสีผสมกัน เพื่อใหเกิดเปนสีใหม
  • 9. ตามตองการ เพราะสีน้้าเปนสีโปรงใส ดังนั้นการระบายสีน้้าจะตองใหสะอาดและใส การควบคุม ปริมาณของสีกับน้้า จึงเปนสิ่งที่จ้าเปนมาก ส้าหรับผูเขียนภาพสีน้้า การกระจายหรือการซอฟของสี เปนลักษณะพิเศษของสีน้้า อีกอยางหนึ่งซึ่งไมมีในสีใด ๆ แสดงใหเห็นวา การระบายสีน้้า เปนเทคนิคที่ใชระบายสีส้าหรับภาพวาดดวยวิธีการ ที่ไมยากมีความเพลิดเพลิน การที่จะระบายสีน้้าใหเกิดความสวยงามดูเปนธรรมชาติ จะตองเรียนรู ทฤษฎีสีใหเขาใจ สามารถผสมสีไดดวยความช้านาญ 3. ประเทือง เอมเจริญ (2546) ไดกลาวถึงสิ่งที่ปรากฏเปนความงามของศิลปความชุม นุมนวลเต็มพื้นที่ของภาพที่ดูกลมกลืนกัน การไหลอยางอิสระของน้้าที่กอใหเกิดลีลา ความงามของ สีที ทาของการปาดปายแปรงที่ดูเฉียบขาดเรียบงาย คาแตกตางของสี น้้าหนัก รูปทรงที่ดูมีเอกภาพ ในตัวเอง พลังกระตุนจินตนาการจากภาพสูผูชมงานที่มีสมาธิในการดู สิ่งที่กอใหเกิดความส้าเร็จใน งานคือสีทุกสีน้้า บวกน้้าใจ มิติแหงสีน้้า * แผซานไปทั่วแผนกระดาษเปยกฉ่้าดั่งมวลเมฆบนทองฟาคือ มิติแหงสีน้้า *เคลื่อนไหวอยางอิสระราเริงเพื่อเขารวมเปนหนึ่งเดียวกับความสงบ คือ มิติแหงสีน้้า *แทรกซึมสูใตผิวลื่นไหลอยูเบื้องบน มุงผสานความกลมกลืนคือ มิติแหงสีน้้า * แตกตัวเปนสีทุกสีดั่งดอกไมหลากสีบนพื้นพิภพคือ มิติแหงสีน้้า * ไมแยกตัวจากความดี หลีกหนีความชั่วคือ มิติแหงสีน้้า *เปดประตูแหงความไมรู ไปสูความรูแจงอันเบิกบานคือ มิติแหงสีน้้า แสดงใหเห็นวามิติแหงสีน้้าเปนเอกลักษณเฉพาะตัวมีเสนหไมเหมือนสีอื่น ภาพที่เกิด จากการระบายสีน้้าดูชุมชื่น มีชีวิตชีวา มีความสวยงามนาสนใจแกผู้พบเห็น 4. การท้างานกลุ่ม การท้างานกลุม หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนรู กิจกรรมในชมรมตาง ๆ เพื่อ สงเสริมใหผูเรียนไดมีสวนรวมในการวางแผน ความรับผิดชอบและการบริหารเวลา
  • 10. (http//:www.acp.assumption.ac.th/Homepage/self) E-book หมายถึง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ จากเว็บไซต์ครู www.peterfineart.com ดังนั้นการท้างานเปนกลุม จึงหมายถึง การรวมกันท้างานตั้งแต3 - 8คนขึ้นไป สมาชิกใน กลุมมีสวนรวมในการวางแผนท้างานและไดแสดงความคิดเห็นรวมกัน สงผลใหไดชิ้นงานที่ส้าเร็จ เปนที่พึงพอใจรวมกัน ประโยชนของการท้างานเปนกลุม 1. นักเรียนไดรูจักการวางแผนการจัดกิจกรรมรวมกัน 2. นักเรียนไดพัฒนาบุคลิกของตนเองใหปรับตัวเขากับผูอื่นได 3. นักเรียนไดรูจักการเสียสละเวลาและทุนทรัพยเพื่อใหเกิดประโยชนต่อสวนรวม 4. นักเรียนมีความรักสามัคคีในหมูคณะและมีความภูมิใจในงานที่ท้ารวมกัน
  • 11. บทที่ 3 วิธีการวิจัย การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ เปนการวิจัยเชิงทดลอง โดยผู้วิจัยไดด้าเนินการตามล้าดับดังนี้ 1. กลุมเปาหมาย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โรงเรียนมัธยมวัดดอนตูม จ้านวน 42 คน 2. ตัวแปรที่ใชในการวิจัย 2.1 ตัวแปรตน การท้างานเปนกลุม 2.2 ตัวแปรตาม การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า 3. วิธีการหรือนวัตกรรมที่ใช 1. แผนการเรียนรู เรื่อง ทัศนธาตุและองคประกอบศิลปะ 2. แผนการจัดกิจกรรมการท้างานเปนกลุ่ม 2.1 นักเรียนแบงกลุมกันท้างานตามอัธยาศัย ใหมีจ้านวนกลุมละ 3 - 4 คน เสร็จแลว ใหประชุมสมาชิกกลุม แบงงานกันรับผิดชอบ โดยแตละกลุมนัดหมาย เรื่องการเตรียมอุปกรณ ส้าหรับวาดภาพระบายสีน้้ามาใหพรอมในชั่วโมงเรียน 2.2 ใหนักเรียนทดลองวาดภาพระบายสีน้้า ครั้งที่ 1 ภาพตามจินตนาการของตนเอง 2.3 ครูจัดท้าใบความรูที่ 1เรื่อง ทฤษฎีสี และ ใบความรูที่ 2 เรื่อง การเขียนภาพสีน้้า ใหนักเรียนศึกษาใบความรู้ 2.4 นักเรียนแตละกลุมทุกคนทดลองวาดภาพระบายสีครั้งที่ 2 2.5 เพื่อนในกลุมและครูรวมกันประเมินผลการท้างานครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 2.6 หลังการประเมินผลงานนักเรียนบางคนไดคะแนนไมผานเกณฑเพื่อนในกลุม และครูชวยกันแนะน้าเพิ่มเติมโดยการสาธิต 2.7 หลังประเมินผลงานนักเรียนครั้งที่ 1 และครั้งที่2 ที่ไดคะแนนผานเกณฑใหท้าใบ
  • 12. งานที่ 3 2.8 นักเรียนแตละกลุ่มทุกคนทดลองวาดภาพระบายสีครั้งที่ 3 2.9 สรุปผลการประเมินการท้างานจากใบงานทั้ง 3 ครั้ง ใหนักเรียนทุกกลุมทราบ แผนภูมิการจัดกิจกรรมการเรียนรูพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า ของนักเรียนชันมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยการท้างานเปนกลุม นักเรียนแบงกลุมท้างานตามอัธยาศัย กลุมละ 3-4 นักเรียนท้าใบงานที่ 1 นักเรียนศึกษาใบความรู นักเรียนท้าใบงานที่ 2 นักเรียนและครูร่วมกันประเมินผลงานครั้งที่ 1และครั้งที่2 ไม่ผานเกณฑ เพื่อนในกลุมและครู ผ่านเกณฑ์ นักเรียนท้าใบงานที่ 3 สรุปการประเมินผลการท้างานจากใบงานทั้ง 3 ครั้ง 4. วิธีการเก็บรวบรวมขอมูล ผู้วิจัยเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเอง ตามขั้นตอนดังนี้ 1. ใหนักเรียนท้างานเปนกลุ่มทั้งหมด 3 ครั้ง เริ่มตั้งแตการประเมินผลกอนเรียน
  • 13. โดยวาดภาพระบายสีตามจินตนาการ 2. นักเรียนปฏิบัติงาน ตามใบงานที่ 1 , ใบงานที่ 2 , ใบงานที่ 3 3. ครูแจกแบบการประเมินผลการใหคะแนนทั้ง 3 ครั้ง 4. ครูก้าหนดเวลาใหนักเรียนสงผลงานที่ท้าเสร็จแลวใหครูตรวจประเมินผล 5. ครูสรุปผลการตรวจผลงาน ครั้งที่ 1 และด้าเนินการตอดังนี้ 5.1 ครูแจกใบงาน นักเรียนปฏิบัติตามใบงานครั้งที่ 2 วาดภาพระบายสีน้้า แจกันดอกไม และสงผลงานใหครูตรวจ ประเมินผล 5.2 ครูแจงผลคะแนนครั้งที่ 2 6. ครูแจกใบงานครั้งที่ 3 และด้าเนินการตอดังนี้ 6.1 นักเรียนปฏิบัติตามใบงานครั้งที่ 3 วาดภาพระบายสีน้้า แจกันดอกไม สงผลงานที่เสร็จแลวใหครูตรวจประเมินผล 6.2 ครูแจงผลคะแนน จากการท้างานครั้งที่ 3 และแจงผลการประเมินทั้ง 3 ครั้งใหนักเรียนทราบ 7. วิธีการวิเคราะหขอมูล 7.1 เปรียบเทียบผลคะแนนกอนเรียนและหลังเรียน โดยใชคารอยละ 7.2 รวบรวมขอมูลจากแบบประเมินผลการใหคะแนนทั้ง 3 ครั้ง 5. วิธีการวิเคราะห์ขอมูล - ผูท้าวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ใชวิธีการวิเคราะห์ขอมูลโดยวิธีหาคาเฉลี่ยรอยละ
  • 14. บทที่ 4 ผลการวิเคราะหขอมูล ผลการวิเคราะหขอมูล ปรากฏดังตารางที่ 1 , 2 และ 3 ดังนี้ ตารางที่ 1 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสี จากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม จ้านวนนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 1/2 เกณฑการประเมิน ผล การพัฒนาทักษะการ ระบายสีน้้า ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ 42 ดีมาก พอใช ปรับปรุง 9.52 50 40.48 นร. 4 คน นร. 21 คน นร. 17 คน ตารางที่ 2 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสี จากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 2 จ้านวนนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 1/2 เกณฑการประเมิน ผล การพัฒนาทักษะการ ระบายสีน้้า ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ 42 ดีมาก พอใช ปรับปรุง 38.10 52.38 9.52 นร. 16 คน นร. 22 คน นร. 4 คน ตารางที่ 3 เปรียบเทียบแสดงผลคะแนนทักษะการระบายสี จากกิจกรรมการท้างานเปนกลุม ครั้งที่ 3
  • 15. จ้านวนนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 1/2 เกณฑการประเมิน ผล การพัฒนาทักษะการ ระบายสีน้้า ผลการประเมินรอยละ หมายเหตุ 42 ดีมาก พอใช ปรับปรุง 64.28 33.34 2.38 นร. 27 คน นร. 14 คน นร. 1 คน จากการเปรียบเทียบคะแนนทั้ง 3 ตาราง จะเห็นได้ว่านักเรียนมีทักษะในการระบายสีน้้า สูงขึ้นตามล้าดับ โดยครั้งที่ 1 อยูในระดับดีมาก รอยละ 9.52 ครั้งที่ 2 รอยละ 38.10 และ ครั้งที่ 3 รอยละ 64.28 ตามล้าดับ และนักเรียนที่มีทักษะการระบายสีน้้าอยูในระดับปรับปรุง ตารางที่ 4 สรุปแบบสังเกตพฤติกรรมกลุม จากการท้าวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ พฤติกรรมกลุมที่สังเกตโดยเพื่อนในกลุม มี 4 ขอ คือ 1. ความรับผิดชอบตอหนาที่ 2. การใหความรวมมือ 3. ความสนใจตอกิจกรรมกลุม 4. การแสดงความคิดเห็น กลุมที่ คะแนนเฉลี่ย คาระดับคะแนน ดาน 1 ด้าน 2 ด้าน 3 ด้าน 4 กลุมที่ 1 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 2 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 3 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 4 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 6 3 3 3 3 พอใช้ กลุมที่ 7 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 8 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี
  • 16. กลุมที่ 9 3 3 3 3 พอใช้ กลุมที่ 10 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี กลุมที่ 11 4 - 5 4 - 5 4 - 5 4 - 5 ดี บทที่ 5 สรุปอภิปรายผล และขอเสนอแนะ การวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยการ ท้างานเปนกลุม ในครั้งนี้ คือ 1. สรุปผล - จากตารางเปรียบเทียบคะแนนการท้างาน เรื่อง การพัฒนาทักษะการระบายสีน้้า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยการท้างานเปนกลุม จ้านวน 3 ครั้ง พบวา จากการท้างาน ครั้งที่ 1 มีนักเรียนจ้านวน 4 คน ที่มีความสามารถในการระบายสีน้้าไดถูกตองตามหลักการ อยูใน ขั้นเกณฑดีมาก และมีนักเรียนจ้านวน 21 คน ที่มีความสามารถในการระบายสีน้้า อยูในเกณฑระดับ พอใช นักเรียนจ้านวน 17 คน มีความสามารถในการระบายสีน้้า อยู่ในระดับปรับปรุง - คะแนนการท้างานครั้งที่ 2 พบวา นักเรียนสวนใหญท้างานอยูในระดับดีมากจ้านวน 16 คน และอยู่ในระดับพอใช 22 คน มีนักเรียนจ้านวน 4 คน ที่อยูในระดับปรับปรุง - คะแนนการท้างานครั้งที่ 3 พบวา นักเรียนจ้านวน 1 คน ที่อยูในระดับปรับปรุง ดังนั้นการพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยวิธีท้างานเปนกลุม ท้าใหเกิดผลการเรียนรูที่ดีขึ้น และบรรลุวัตถุประสงคการท้าวิจัยในชั้นเรียน ครั้งนี้ 2. อภิปรายผล - จากการท้าวิจัยในชั้นเรียนในครั้งนี้สงผลใหนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ไดพัฒนาทักษะการระบาย สีน้้าโดยการท้างานเปนกลุม คือ กระบวนการที่ท้าใหการท้างานแตละครั้งของนักเรียนเกิดผลส้าเร็จและได ผลงานเปนที่นาพึงพอใจเปนอยางยิ่ง ซึ่งผูท้าวิจัยไดตรวจ ผลงานและประเมินผลการใหคะแนนตาม
  • 17. ประเด็นและหลักเกณฑตามที่ก้าหนดไว ท้าเปนขอมูล หลักฐานยืนยันได้ว่า การท้างานในครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ท้าใหนักเรียนมีการพัฒนาทักษะ การระบายสีน้้า จากท้างานอยูในขั้นเกณฑปรับปรุง พัฒนา เปนพอใชและดีมาก ขึ้นมาตามล้าดับ และนักเรียนที่มี ่ความสามารถท้างานจากครั้งที่ 1 ดีมาก ก็ไดรักษา ระดับความสามารถของตนเองไว ตลอดทั้ง 3 ครั้ง การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงคเพื่อพัฒนาทักษะการระบายสีน้้าของนักเรียน ชั้น มัธยมศึกษาปที่ 1/2 โดยวิธีการท้างานเปนกลุมซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการจัดการเรียนการสอนใน วิชาศิลปะพื้นฐาน 3 พบวา นักเรียนขาดทักษะในการระบายสี ผูวิจัยจึงใชวิธีการท้างานเปนกลุ่ม สรุปไดวา การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ สงผลใหนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1/2 เกิดการพัฒนาการ เรียนรูและประสบการณที่ใหมๆ ฝกใหนักเรียนเปนคนคิดริเริ่มสรางสรรค สามารถน้าความรูที่ไดรับไปใชแก้ ปญหาใหเกิดประโยชนในชีวิตประจ้าวันไดเหมาะสม การวิจัย ในชั้นเรียนเปนกระบวนการท้างานโดยมวี ่ธีการ วางแผนจนเกิดผลส้าเร็จที่ดีในการท้างาน เพื่อ สนองตอบนโยบายการปฏิรูปการศึกษา ตามพระราชบัญญัติ การศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2551 ขอเสนอแนะ ในการท้าวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้ ผูวิจัยมีขอเสนอแนะแนวทางส้าหรับผูสนใจ จะน้าไป พัฒนาการเรียน การสอนหรือ ศึกษาการวิจัยในชั้นเรียนในกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ และกลุมสาระการเรียนรูอื่น ๆ ไดดังนี้ 1. ผูท้าวิจัยในชั้นเรียนควรศึกษาสภาพปญหาในหองเรียน ที่สมควรให้มีการแกไขและ ปรับปรุงเพื่อใหการ เรียนการสอนดีขึ้น 2. นักเรียนตอบแบบสอบถาม ขอดี – ขอเสีย โดยการท้างานเปนกลุม มีความพึงพอใจมาก นอยอยางไร ครู เก็บรวบรวมขอมูลและได้ขอสรุป คือ รอยละ 95 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/2 เห็นดวยกับวิธีการเรียน โดยการท้างานเปนกลุม 3. นักเรียนควรไดน้าความรูและประสบการณที่ไดรับ ไปใชใหเกิดประโยชนทั้งตอตนเอง และครอบครัว ตลอดจนในสังคมใหดีขึ้นตอไปในอนาคต 4. การจัดกระบวนการสอน โดยใหนักเรียนท้างานเปนกลุม ๆ ละ 3-4 คน เปนลักษณะ กลุมที่เหมาะสม เพราะการแสดงความคิดเห็นรวมกันในกลุม หรือการนัดหมายแบงงานรับผิดชอบ แกสมาชิกในกลุมจะมีความ คลองตัวง่าย สะดวกตอการประสานงานกัน
  • 18. บรรณานุกรม โชดก เกงเขตรกิจ, ปญญา ทรงเสรี, ยศนันท แยมเมือง, เศรษฐศิริ สายกระสุน.(2548) ทัศนศิลป ชั้น มัธยมศึกษาปที่ 1 บริษัทโรงพิมพไทยวัฒนาพาณิชย จ้ากัด. กรุงเทพมหานคร. วัชรพงศ หงสสุวรรณ.(2548) สี น้้าภาคปฏิบัติ บริษัทวาดศิลป จ้ากัด. กรุงเทพมาหานคร. ประเทือง เอมเจริญ.(2546) มิติแหงสีน้้า 2003 บริษัทอัมรินทรพริ้นติ้ง แอนดพัลลิชชิ่งจ้ากัด. (มหาชน) www.peterfineart.com E – book ทัศนศิลป์ www.acp.assumpton.ac.th/Homepasge/self การท้างานกลุม ผลงานนักเรียนม.1/2