More Related Content
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา (20)
More from Jirarat Cherntongchai
More from Jirarat Cherntongchai (15)
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน เปรียบเทียบคนถนัดซ้าย คนถนัดขวา
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวจิรารัตน์ เชิญธงไชย เลขที่ 25 ชั้น ม.6 ห้อง 2
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม นางสาวจิรารัตน์ เชิญธงไชย เลขที่ 25
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
เปรียบเทียบคนถนัดซ้าย คนถนัดขวา
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
comparison between left-handed, right-handed
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวจิรารัตน์ เชิญธงไชย
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 ตุลาคม 2558 – 29 กุมภาพันธ์ 2559
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
มนุษย์เราทุกคนเกิดมา ย่อมมีความถนัดมือข้างซ้าย ถนัดมือข้างขวากันอยู่แล้ว บางคนถนัดมือทั้งสองข้าง
บางคนเกิดมาถนัดมือซ้ายแต่ถูกฝึกให้ใช้มือขวาจนเมื่อระยะเวลาผ่านไปก็เปลี่ยนเป็นถนัดมือขวาเลยก็มี ในปัจจุบัน
นี้ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านต้องการให้เด็ก ๆ หรือบุตรหลานของท่านถนัดมือขวา จึงเกิดคาถามขึ้นมาว่า
ทาไมผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านถึงต้องการให้บุตรหลานที่เกิดมาถนัดมือขวา หรือบางคนเกิดมาถนัดมือซ้าย ท่านก็
พยายามฝึกให้พวกเขาถนัดมือขวา การถนัดมือขวานั้นดีกว่าการถนัดมือซ้ายอย่างไร แล้วในความเป็นจริงการถนัด
มือซ้ายและการถนัดมือขวา การถนัดมือข้างไหนดีกว่ากัน และการที่เราถนัดมือข้างที่ต่างกันจะส่งผลทาให้การ
ดาเนินชีวิตประจาวันของเราแตกต่างกันหรือไม่และแตกต่างกันอย่างไร
จากคาถามที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจจัดทาโครงงาน ‘เปรียบเทียบคนถนัดซ้าย คนถนัดขวา’ นี้ขึ้น
เพื่อตอบคาถามทุกความสงสัยที่เกิดขึ้นและเพื่อสรุปรวบรวมเนื้อหาความรู้ที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจได้มา
ศึกษาค้นหาความรู้เพิ่มเติมด้วย
- 3. 3
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเปรียบเทียบระหว่างคนถนัดซ้ายและคนถนัดขวา
2. เพื่อศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนถนัดซ้ายและคนถนัดขวา
3. เพื่อสรุปและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคนถนัดซ้ายและคนถนัดขวา
ขอบเขตโครงงาน
คนถนัดมือข้างซ้ายและคนถนัดมือขวา
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ถนัดซ้าย – ขวา กับสมอง
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เซลล์ประสาทที่ควบคุมมือขวาและซ้าย ไม่ใช่ส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับ
สติปัญญา ความถนัดมือใดมือหนึ่งจึงไม่มีผลต่อสติปัญญา
การถนัดขวาไม่ได้ส่งผลให้การควบคุมมือซ้ายหายไปหมด เพราะกิจวัตรประจาวันโดยทั่วไป ยังจาเป็นต้องใช้
มือซ้ายในการประคับประคอง (Support) มือขวา เช่น การใช้มือซ้ายถือส้อม เพื่อให้มือขวาใช้ช้อนตักอาหารขึ้นไป
กินได้หรือการใช้มีดกับส้อมหั่นเนื้อ จะใช้มือซ้ายถือส้อม เพื่อให้มือขวาหั่นมีดได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ เรายังใช้
มือทั้ง 2 ด้าน ประสานงานกันในการกลัดกระดุมเสื้อ การขับรถ ฯลฯ
ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กบอกว่า การใช้มือทั้ง 2 ประสานงานกัน จึงยังมีอยู่แทบกิจกรรมของทุกวัน
สาหรับคนถนัดขวา ใยประสาทของเซลล์ที่มือซ้ายจึงคงมีอยู่ แต่จะมากหรือน้อยต่างจากมือขวาที่เป็นมือถนัดนั้น
ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในชีวิตประจาวัน เช่น ถ้าเด็กได้เล่นดนตรีเช่น ขิม จะเข้ระนาด เปียโน กีตาร์ กลอง กีฬาบาง
ชนิด เช่น ว่ายน้า กอล์ฟ ฯลฯ ที่ต้องใช้มือทั้ง 2 ข้างอยู่บ่อยๆ จะช่วยให้สมองทั้ง 2 ซีก ประสานงานในการถ่ายทอด
ข้อมูลแลกเปลี่ยนกันและกันได้ดีขึ้น มีศักยภาพมากขึ้น และทาให้ความถนัดในการใช้มือทั้ง 2 ข้างใกล้เคียงกัน แม้
จะไม่เท่ากันก็ตาม เพราะเขาก็ยังต้องใช้มือที่ถนัดจริงๆ ในการเขียนหนังสือ
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามคือ คือการให้ลูกได้ทากิจกรรมที่ทาให้เขาใช้มือทั้งสองข้างร่วมกัน เพื่อให้มี
การทางานประสานกันที่ดีของมือทั้งสองข้าง สมองทั้งสองซีก และยังบริหารมือและนิ้วมือให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย
กิจกรรมเหล่านี้ ได้แก่ การปั้นคลึงดินเหนียว ดินน้ามัน ละเลงสี การซักผ้าด้วยน้าเปล่า การร้อยลูกปัด การปิดเปิดฝา
ขวดเกลียว เป็นต้น
สิ่งสาคัญ คือหากคุณพ่อคุณแม่จะเปลี่ยนลูกที่ถนัดมือซ้ายให้มาถนัดมือขวานั้น ควรทาในช่วงอายุ 1-3 ปี
เพราะสมองของเด็กวัยนี้อยู่ในช่วงกาลังพัฒนา จึงรับการเปลี่ยนแปลงได้อยู่ เช่น
- 4. 4
ส่งของให้ลูกด้วยมือซ้ายของเราเอง ลูกจะยื่นมือขวามารับ หรืออาจให้ลูกถือของที่ชอบไว้ในมือซ้าย
ก่อน เพื่อให้มือซ้ายไม่ว่าง แล้วค่อยส่งของอื่น ให้จับด้วยมือขวา และเด็กมักจะไม่ปล่อยของที่ชอบ
ออกจากมือซ้าย
ขณะทากิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน ค่อยๆ แนะให้ลูกเปลี่ยนมาใช้มือขวา เช่น ‚แม่ว่าลูกวาดรูปด้วยมือขวา
สวยดี ลองวาดด้วยมือนี้บ่อยๆ สิ‛
หากเลยวัยนี้แล้ว การเปลี่ยนมือจะไม่ได้ผล อย่างไรก็ตาม หากเห็นว่า ลูกถนัดมือซ้ายไปแล้ว ไม่ควรบังคับให้
มาถนัดมือขวา เพราะเด็กจะเครียด ส่งผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์ได้และอาจบั่นทอนความภาคภูมิใจในตัวเองของ
เขา เนื่องจากทากิจกรรมด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด ดังนั้น หากเห็นว่าลูกรู้สึกอึดอัด ไม่ชอบ หรือมีอาการอย่างอื่นอีก เช่น
กัดเล็บ เครียด ต่อต้านด้วยคาพูด ต้องหยุดแล้วปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ การที่ลูกกถนัดมือซ้ายไม่ใช่เรื่อง
ใหญ่ ที่ทาให้เกิดปัญหาในชีวิตประจาวันเลย
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการถนัดมือซ้าย-ขวา
2. รวบรวมข้อมูลและจัดเรียงเนื้อหา
3. นาข้อมูลที่ศึกษามาลงใน slideshare.com
4. เผยแพร่และนาเสนอข้อมูล
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
-
- 5. 5
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน / /
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / /
3 จัดทาโครงร่างงาน / / /
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
/ /
5 ปรับปรุงทดสอบ / /
6 การทาเอกสารรายงาน / /
7 ประเมินผลงาน / /
8 นาเสนอโครงงาน /
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1. ผู้ศึกษาได้รับความรู้เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
2. ผู้ศึกษามีความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
สถานที่ดาเนินการ
- บ้าน
- ห้องสมุดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
- วิทยาศาสตร์ (ชีววิทยา)
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
บริษัท แฟมิลี่วีคเอนด์ จากัด. 2554. “ถนัดซ้าย-ขวา...กับสมอง”. [ระบบออนไลน์].
แหล่งที่มา http://www.familyweekend.co.th/articles/610425/ (26 กันยายน 2558).