1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6
ปีการศึกษา 2561
ชื่อโครงงาน โรคกลัวความรัก (Philophobia)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นาย สิรภัค พิชัย เลขที่ 39 ชั้น ม.6 ห้อง 7
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี)…………………………………………………
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
1………………………………….. เลขที่……… 2…………………………………เลขที่ ……….
3………………………………….. เลขที่………
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
โรคกลัวความรัก
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Philophobia
ประเภทโครงงาน
สารวจและรวบรวมข้อมูล
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นายสิรภัค พิชัย
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม _____________________________________________________________
ระยะเวลาดาเนินงาน
ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
นักจิตวิทยาสันนิษฐานว่า ปัจจัยที่เป็นต้นเหตุของโรคกลัวความรักอาจมาจากเรื่องใกล้ตัว ที่ส่งผลให้ผู้ป่วย
พยายามจะหนีความรู้สึกรัก หรือไม่อยากเข้าใกล้ความรู้สึกพิเศษกับใครอย่างจริงจังเลยสักคน และแม้จะเกิด
ความรู้สึกพิเศษกับใครขึ้นมาบ้าง ทว่าสุดท้ายแล้วก็มักจะไม่กล้าเปิดใจให้กับความรัก จริงแล้ว Philophobia หรือโรค
กลัวการตกหลุมรัก ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อผู้คนรอบข้าง แต่ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ อาจจะ
กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้คน หลีกหนีจากสังคม อยู่ในโลกแคบ ๆ ที่มีแค่ตัวเอง ไร้สีสัน สุดท้าย
อาจจะเครียดและกดดันจนซึมเศร้าส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้ควรยอมรับให้ได้ว่าตัวเองมีอาการกลัวความรัก
ไม่ได้เข้มแข็งอะไร แล้วก็ปรับวิธีคิดและวิธีมองโลก รู้จักยืดหยุ่นบ้าง รู้จักจัดการกับความผิดหวัง ระบายปัญหากับใคร
สักคน อย่าคิดแง่ร้ายตีตนไปก่อนไข้ อย่าคิดว่ามีความรักแล้วจะมีแต่เรื่องแย่ ๆ ร้าย ๆ เหมือนที่ได้ฟังมาเสมอไป ลอง
เปิดใจ และก้าวเข้าหาความสุขทีละนิด ๆ แต่ถ้าใครรู้ตัวว่ามีอาการมากควรไปปรึกษากับจิตแพทย์ อย่ากลัวหรือคิดว่า
คนอื่นจะมองเราผิดปกติ ให้คิดซะว่าการไปพบจิตแพทย์คือการไปพูดคุย แบ่งปันปมลึก ๆ ในใจให้ใครสักคนฟังการทา
โครงงานนี้มีเหตุผลเนื่องจากปัจจุบันผู้คนไม่มีคนที่รักและทาให้ประชากรโลกลดลง เพราะ คนส่วนมากคิดจะครองโสด
และไม่คิดจะรักใครซึ่งมีปัจจัยหลายๆอย่าง ซึ่งปัจจัยๆหนึ่งเกิดจากการถูกปฎิเสธความรักจากคนที่เราชอบนั่นเอง ซึ่ง
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคกลัวความรัก หรือ Philophobia เกิดได้จากทฤษฎีดังต่อไปนี้ เหตุการณ์ในแง่
ลบที่ฝังใจมาตั้งแต่ตอนเด็ก วัฒนธรรม ประเพณี หรือศาสนาที่มีกฎข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องความรักอย่างเข้มงวด
ประสบการณ์ความรักที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งเหตุผลที่กล่าวมานี้ได้ตั้งใจที่จะศึกษาสาเหตุที่เกิดโรคกลัวความรัก
เพื่อที่จะทราบว่าโรคชนิดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร จึงเลือกมาทาโครงงานดังกล่าว
3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อต้องการทราบสาเหตุของโรคชนิดนี้
2.เพื่อต้องทาให้ทุกคนเปิดใจรับความรัก
3.เพื่อต้องทาความเข้าใจมากขึ้น
4.เพื่อต้องการรู้วิธีรักษา
5.เพื่อต้องการให้สังคมเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
กลุ่มนักเรียนชั้น ม.6/7 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จานวน 43 คน
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
โรค Philophobia หรือโรคกลัวการตกหลุมรัก เรียกง่าย ๆ ว่าโรคกลัวความรัก โดยจากสถิติในบรรดาโรคกลัวชนิด
ต่าง ๆ Philophobia ถือว่ารั้งอันดับโรคกลัวที่มีผู้ป่วยมากที่สุด ซึ่งจากการวิเคราะห์ของเหล่านักจิตวิทยาก็พากัน
สันนิษฐานว่า ปัจจัยที่เป็นต้นเหตุของโรคกลัวความรักอาจมาจากเรื่องใกล้ตัว ที่ส่งผลให้ผู้ป่วยโรค Philophobia
พยายามจะหนีความรู้สึกรัก หรือไม่อยากเข้าใกล้ความรู้สึกพิเศษกับใครอย่างจริงจังเลยสักคน และแม้จะเกิด
ความรู้สึกพิเศษกับใครขึ้นมาบ้าง ทว่าสุดท้ายแล้วก็มักจะไม่กล้าเปิดใจให้กับความรัก เนื่องจากเหตุผลอะไรบางอย่าง
Philophobia หรือโรคกลัวการตกหลุมรักจัดเป็นโรคกลัวชนิดเฉพาะเจาะจง โดยอาจมีสาเหตุของโรคและอาการมา
จากปัจจัยต่อไปนี้
1. เหตุการณ์ในแง่ลบที่ฝังใจมาตั้งแต่ตอนเด็ก
โดยเฉพาะหากเติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหาหย่าร้าง พ่อแม่ คนใกล้ตัวมีชีวิตรักในแง่ลบ เช่น ทะเลาะตบตี
กันประจา หรือแสดงความรุนแรงต่อกันบ่อย ๆ เป็นต้น
2. วัฒนธรรม ประเพณี หรือศาสนาที่มีกฎข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องความรักอย่างเข้มงวด
บางศาสนา วัฒนธรรม หรือประเพณีของบางที่อาจมีข้อห้ามหรือกฎเกณฑ์ที่ควรระวังหากหญิงและชายจะรัก
หรือแสดงความรักต่อกัน ซึ่งอาจจะสร้างความรู้สึกเกรงกลัวฝังรากลึกในใจบางคนได้ ส่งผลให้ไม่อยากเสี่ยงกับการมี
ความรักนั่นเอง
3. ประสบการณ์ความรักที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยเฉพาะกับคนที่มีประสบการณ์อกหักอย่างโชกโชน ความรู้สึกผิดหวัง ความเจ็บปวดที่เกิดจากการกระทา
ของคนเคยรัก อดีตเหล่านั้นจะตามหลอกหลอนให้รู้สึกเจ็บมากจนไม่กล้าจะเอาหัวใจตัวเองไปลอง เสี่ยงอีกครั้ง ซึ่ง
อาจทาให้เกิดความระแวงระวังเกินเหตุ ไม่กล้าที่จะมีรักครั้งใหม่อีกต่อไป
Philophobia หรือ โรคกลัวความรัก มีสาเหตุที่คนทั่วไปอาจไม่สังเกตว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้หรือไม่ ซึ่งมีดังนี้
1. ฝังใจกับเรื่องราวความรักที่ผิดหวังของตัวเองในอดีต
2. ครอบครัว พ่อแม่ หรือคนใกล้ตัวมีปัญหาการหย่าร้าง
3. เสพติดการอยู่คนเดียว ชอบใช้ชีวิตคนเดียว หงุดหงิดกับการทากิจกรรมร่วมกับคนอื่น
4. หากเริ่มรู้สึกดีกับใครจะตัดความสัมพันธ์ทันที
5. ปิดกั้นตัวเองจากเพศตรงข้าม ไม่เปิดโอกาสให้ใครมาสานสัมพันธ์
6. ตั้งกาแพงให้กับตัวเองและคนอื่น โดยบางครั้งก็ทาสิ่งที่ไม่เป็นตัวของตัวเองเพื่อไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ หรือไม่อยาก
รู้สึกไว้วางใจใคร
4
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.กาหนดหัวข้อโครงงานที่สนใจ
2.วางแผนการดาเนินงาน
3.ศึกษาและรวบรวมข้อมูล
4.จัดทาโครงร่างโครงงาน
5.จัดทาโครงงาน
6.นาเสนอโครงงาน
7.ปรับปรุงและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.คอมพิวเตอร์
2.กระดาษที่จะทาแบบสารวจเกี่ยวกับโครงงานนี้
งบประมาณ
-200บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
5
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.สามารถรู้เกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีสภาวะทางจิตใจเกี่ยวกับการกลัวความรักในปัจจุบันได้มากขึ้น
2.ให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ได้เข้ามาศึกษาโครงงานของเราและได้รับความรู้ความเข้าใจและวิธีรักษา
3.ให้สังคมเข้าใจและยอมรับโรคชนิดนี้ได้มากขึ้น
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
-กลุ่มพลศึกษาและสุขศึกษา
-กลุ่มวิทยาศาสตร์
-กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
https://health.kapook.com/view141399.html
https://www.catdumb.com/what-is-philophobia/
https://www.krungsri.com/bank/th/plearn-plearn/why-we-should-overcome-philophobia.html

2561 project 39

  • 1.
    1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5- 6 ปีการศึกษา 2561 ชื่อโครงงาน โรคกลัวความรัก (Philophobia) ชื่อผู้ทาโครงงาน นาย สิรภัค พิชัย เลขที่ 39 ชั้น ม.6 ห้อง 7 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี)………………………………………………… ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2.
    2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม .…… 1………………………………….. เลขที่………2…………………………………เลขที่ ………. 3………………………………….. เลขที่……… คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) โรคกลัวความรัก ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Philophobia ประเภทโครงงาน สารวจและรวบรวมข้อมูล ชื่อผู้ทาโครงงาน นายสิรภัค พิชัย ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่อที่ปรึกษาร่วม _____________________________________________________________ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2561 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน) นักจิตวิทยาสันนิษฐานว่า ปัจจัยที่เป็นต้นเหตุของโรคกลัวความรักอาจมาจากเรื่องใกล้ตัว ที่ส่งผลให้ผู้ป่วย พยายามจะหนีความรู้สึกรัก หรือไม่อยากเข้าใกล้ความรู้สึกพิเศษกับใครอย่างจริงจังเลยสักคน และแม้จะเกิด ความรู้สึกพิเศษกับใครขึ้นมาบ้าง ทว่าสุดท้ายแล้วก็มักจะไม่กล้าเปิดใจให้กับความรัก จริงแล้ว Philophobia หรือโรค กลัวการตกหลุมรัก ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อผู้คนรอบข้าง แต่ถ้ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ อาจจะ กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้คน หลีกหนีจากสังคม อยู่ในโลกแคบ ๆ ที่มีแค่ตัวเอง ไร้สีสัน สุดท้าย อาจจะเครียดและกดดันจนซึมเศร้าส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้ควรยอมรับให้ได้ว่าตัวเองมีอาการกลัวความรัก ไม่ได้เข้มแข็งอะไร แล้วก็ปรับวิธีคิดและวิธีมองโลก รู้จักยืดหยุ่นบ้าง รู้จักจัดการกับความผิดหวัง ระบายปัญหากับใคร สักคน อย่าคิดแง่ร้ายตีตนไปก่อนไข้ อย่าคิดว่ามีความรักแล้วจะมีแต่เรื่องแย่ ๆ ร้าย ๆ เหมือนที่ได้ฟังมาเสมอไป ลอง เปิดใจ และก้าวเข้าหาความสุขทีละนิด ๆ แต่ถ้าใครรู้ตัวว่ามีอาการมากควรไปปรึกษากับจิตแพทย์ อย่ากลัวหรือคิดว่า คนอื่นจะมองเราผิดปกติ ให้คิดซะว่าการไปพบจิตแพทย์คือการไปพูดคุย แบ่งปันปมลึก ๆ ในใจให้ใครสักคนฟังการทา โครงงานนี้มีเหตุผลเนื่องจากปัจจุบันผู้คนไม่มีคนที่รักและทาให้ประชากรโลกลดลง เพราะ คนส่วนมากคิดจะครองโสด และไม่คิดจะรักใครซึ่งมีปัจจัยหลายๆอย่าง ซึ่งปัจจัยๆหนึ่งเกิดจากการถูกปฎิเสธความรักจากคนที่เราชอบนั่นเอง ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคกลัวความรัก หรือ Philophobia เกิดได้จากทฤษฎีดังต่อไปนี้ เหตุการณ์ในแง่ ลบที่ฝังใจมาตั้งแต่ตอนเด็ก วัฒนธรรม ประเพณี หรือศาสนาที่มีกฎข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องความรักอย่างเข้มงวด ประสบการณ์ความรักที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งเหตุผลที่กล่าวมานี้ได้ตั้งใจที่จะศึกษาสาเหตุที่เกิดโรคกลัวความรัก เพื่อที่จะทราบว่าโรคชนิดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร จึงเลือกมาทาโครงงานดังกล่าว
  • 3.
    3 วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.เพื่อต้องการทราบสาเหตุของโรคชนิดนี้ 2.เพื่อต้องทาให้ทุกคนเปิดใจรับความรัก 3.เพื่อต้องทาความเข้าใจมากขึ้น 4.เพื่อต้องการรู้วิธีรักษา 5.เพื่อต้องการให้สังคมเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น ขอบเขตโครงงาน(คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) กลุ่มนักเรียนชั้น ม.6/7 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จานวน 43 คน หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) โรค Philophobia หรือโรคกลัวการตกหลุมรัก เรียกง่าย ๆ ว่าโรคกลัวความรัก โดยจากสถิติในบรรดาโรคกลัวชนิด ต่าง ๆ Philophobia ถือว่ารั้งอันดับโรคกลัวที่มีผู้ป่วยมากที่สุด ซึ่งจากการวิเคราะห์ของเหล่านักจิตวิทยาก็พากัน สันนิษฐานว่า ปัจจัยที่เป็นต้นเหตุของโรคกลัวความรักอาจมาจากเรื่องใกล้ตัว ที่ส่งผลให้ผู้ป่วยโรค Philophobia พยายามจะหนีความรู้สึกรัก หรือไม่อยากเข้าใกล้ความรู้สึกพิเศษกับใครอย่างจริงจังเลยสักคน และแม้จะเกิด ความรู้สึกพิเศษกับใครขึ้นมาบ้าง ทว่าสุดท้ายแล้วก็มักจะไม่กล้าเปิดใจให้กับความรัก เนื่องจากเหตุผลอะไรบางอย่าง Philophobia หรือโรคกลัวการตกหลุมรักจัดเป็นโรคกลัวชนิดเฉพาะเจาะจง โดยอาจมีสาเหตุของโรคและอาการมา จากปัจจัยต่อไปนี้ 1. เหตุการณ์ในแง่ลบที่ฝังใจมาตั้งแต่ตอนเด็ก โดยเฉพาะหากเติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหาหย่าร้าง พ่อแม่ คนใกล้ตัวมีชีวิตรักในแง่ลบ เช่น ทะเลาะตบตี กันประจา หรือแสดงความรุนแรงต่อกันบ่อย ๆ เป็นต้น 2. วัฒนธรรม ประเพณี หรือศาสนาที่มีกฎข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องความรักอย่างเข้มงวด บางศาสนา วัฒนธรรม หรือประเพณีของบางที่อาจมีข้อห้ามหรือกฎเกณฑ์ที่ควรระวังหากหญิงและชายจะรัก หรือแสดงความรักต่อกัน ซึ่งอาจจะสร้างความรู้สึกเกรงกลัวฝังรากลึกในใจบางคนได้ ส่งผลให้ไม่อยากเสี่ยงกับการมี ความรักนั่นเอง 3. ประสบการณ์ความรักที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะกับคนที่มีประสบการณ์อกหักอย่างโชกโชน ความรู้สึกผิดหวัง ความเจ็บปวดที่เกิดจากการกระทา ของคนเคยรัก อดีตเหล่านั้นจะตามหลอกหลอนให้รู้สึกเจ็บมากจนไม่กล้าจะเอาหัวใจตัวเองไปลอง เสี่ยงอีกครั้ง ซึ่ง อาจทาให้เกิดความระแวงระวังเกินเหตุ ไม่กล้าที่จะมีรักครั้งใหม่อีกต่อไป Philophobia หรือ โรคกลัวความรัก มีสาเหตุที่คนทั่วไปอาจไม่สังเกตว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้หรือไม่ ซึ่งมีดังนี้ 1. ฝังใจกับเรื่องราวความรักที่ผิดหวังของตัวเองในอดีต 2. ครอบครัว พ่อแม่ หรือคนใกล้ตัวมีปัญหาการหย่าร้าง 3. เสพติดการอยู่คนเดียว ชอบใช้ชีวิตคนเดียว หงุดหงิดกับการทากิจกรรมร่วมกับคนอื่น 4. หากเริ่มรู้สึกดีกับใครจะตัดความสัมพันธ์ทันที 5. ปิดกั้นตัวเองจากเพศตรงข้าม ไม่เปิดโอกาสให้ใครมาสานสัมพันธ์ 6. ตั้งกาแพงให้กับตัวเองและคนอื่น โดยบางครั้งก็ทาสิ่งที่ไม่เป็นตัวของตัวเองเพื่อไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ หรือไม่อยาก รู้สึกไว้วางใจใคร
  • 4.
    4 วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1.กาหนดหัวข้อโครงงานที่สนใจ 2.วางแผนการดาเนินงาน 3.ศึกษาและรวบรวมข้อมูล 4.จัดทาโครงร่างโครงงาน 5.จัดทาโครงงาน 6.นาเสนอโครงงาน 7.ปรับปรุงและแก้ไข เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1.คอมพิวเตอร์ 2.กระดาษที่จะทาแบบสารวจเกี่ยวกับโครงงานนี้ งบประมาณ -200บาท ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดั บ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 12 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน
  • 5.
    5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) 1.สามารถรู้เกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีสภาวะทางจิตใจเกี่ยวกับการกลัวความรักในปัจจุบันได้มากขึ้น 2.ให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ได้เข้ามาศึกษาโครงงานของเราและได้รับความรู้ความเข้าใจและวิธีรักษา 3.ให้สังคมเข้าใจและยอมรับโรคชนิดนี้ได้มากขึ้น สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง -กลุ่มพลศึกษาและสุขศึกษา -กลุ่มวิทยาศาสตร์ -กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) https://health.kapook.com/view141399.html https://www.catdumb.com/what-is-philophobia/ https://www.krungsri.com/bank/th/plearn-plearn/why-we-should-overcome-philophobia.html