More Related Content Similar to เส้นทางกาสร้างธุรกิจต้อนรับ AEC
Similar to เส้นทางกาสร้างธุรกิจต้อนรับ AEC (20) More from DNTMb Inc. (20) เส้นทางกาสร้างธุรกิจต้อนรับ AEC2. ประเด็นกำรนำเสนอและทำ Workshop
3. “โอกำส” หรือ “อุปสรรค” จำกกำรเข้ำร่วม AEC
1. สภำวะตลำดของธุรกิจ “ ที่ปรึกษำแนะนำธุรกิจ”
5. กำรแปลง “ประเด็นกลยุทธ์” เป็ น “แผนที่เส้นทำง
พัฒนำธุรกิจ Business Development Roadmap”
2. สร้ำง “รูปแบบดำเนินธุรกิจ - Business Model “
ด้วย BMC – Business Model Canvas
6. กำรแปลง “กลยุทธ์” เป็ น “แผนปฏิบัติกำร”
4. BMC เครื่องมือ สร้ำงโอกำส และ กลยุทธ์ธุรกิจ
เมื่อสภำวะแวดล้อมเปลี่ยนแปลง
2
3. ภาคบริการ (Service Sector)
กำรให้ คำปรึกษำแนะนำ/ฝึกอบรม
กำรขำยส่ง กำรขนส่งสินค้ำ สถำนที่
เก็บสินค้ำ กำรคมนำคม กำรเงิน
ธนำคำร
บริกำร
สำหรับ
ผู้บริโภค
โรงแรม ภัตตำคำร โรงพยำบำล
บริกำรสุขภำพ ควำมงำม กำรศึกษำ
กำรขำยปลีก กำรบันเทิง ท่องเที่ยว
กำรบิน ประกันชีวิต
บริกำร
สำหรับ
ธุรกิจ
3
4. 4
Business Development Services - BDS
บริกำรพัฒนำธุรกิจ คืออะไร ??
บริกำรทั่วไป
สำหรับธุรกิจ
บริกำรสำหรับธุรกิจ
Business Services
บริกำรพัฒนำธุรกิจ
Business Development
Services - BDS
หมำยถึงบริกำรที่ช่วย
ให้ธุรกิจอุตสำหกรรม
ดำเนินไปอย่ำงมี
ประสิทธิภำพและมีขีด
ควำมสำมำรถในกำร
แข่งขันเพิ่มขึ้น
คำปรึกษำแนะนำ/
ฝึกอบรม
การขายส่ง การ
ขนส่งสินค ้า
สถานที่
เก็บสินค ้า การ
คมนาคม การเงิน
ธนาคาร
4
5. 1.วิเครำะห์ปัญหำ จากอาการที่เห็นเด่นชัด และ ซ่อนเร ้น
2.สร้ำงทำงเลือก ในการแก ้ปัญหาต่อสถานประกอบการตัดสินใจ
เลือก “แผนขั้นรับหลักการ”
3.นำเสนอ “แผนปฏิบัติงาน” และ“ดาเนินการให ้คาแนะนา” ต่อ
“ทีมคณะทางาน” ของสถานประกอบการ
4.ตรวจสอบ “ความคืบหน้าและผลลัพธ์” ตามตารางเวลา
5.ประเมินผล “กำรให้คำแนะนำ” ที่ได ้ผลตามเป้าหมาย และ
ไม่ได ้ผล ต ้องให ้คาแนะนาเพิ่มเติม
6. จัดทา “ข้อเสนอขำยโครงกำร” ให ้คาปรึกษาแนะนาต่อเนื่องที่
มีผลกระทบต่อ Business Model ขององค์กร ตามสภาวะ
แวดล ้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
กระบวนกำรทำงำน “ที่ปรึกษำแนะนำธุรกิจ”
5
6. 6
ผู้ที่รู้ดีที่สุดในกิจการนั้นมักเป็นเจ ้าของกิจการนั่นเอง แต่
1. “ควำมรู้ และประสบกำรณ์ “ ไม่ได ้ถูกจัดการอย่าง “นักแก้ไขปัญหำ”
สาเหตุเพราะ : - ร ้อนรนตามนิสัย ภาวะบีบเค ้น
- วัฒนธรรมการทางาน ทาให ้ไม่สามารถถ่ายทอดวางระบบงาน
ให ้ทีมงานทางานได ้ตามเป้าหมายที่ต ้องการ
2. การตัดสินใจ โดย ไม่มีการ “สร้ำงทำงเลือก” และ ไม่มี “ข้อมูลเพียงพอ”
3. ไม่มีการตั้ง “เป้ ำหมำยกำรท้ำทำย” เพื่อ “การอยู่รอด”และ“เติบโต” ของกิจการ
4. ระบบการควบคุม หละหลวม ขาดการตรวจสอบ ทวนสอบซ้า ทาให ้“พลำด
เป้ ำหมำย”
5. ขาดการวาง “แผนปฎิบัติกำร” ขับเคลื่อนการทางานให ้ได ้ตามเป้าหมาย
5. ขาดการวัดผลงานที่ตั้งเป้าหมาย ที่เป็นรูปธรรม ตัวเลข เชื่อถือได ้ จึงไม่สามารถ
วิเคราะห์ ปัญหาที่เกิดขึ้นได ้ว่าเกิดจาก “สำเหตุหลักอะไร” ปัญหา จึงเกิดซ้า
เพราะเป็นการแก ้ไขปัญหาแบบ “ดับไฟไหม ้ฟาง” ไม่ได ้เป็นการ “ป้ องกันไม่ให้
เกิดไฟไหม้”
7. ขาดความรู้ความเข ้าใจบางเรื่องที่สาคัญ เป็น “เทคนิค วิชำกำร เฉพำะด้ำน”
ทาไม ? ผู้ประกอบการต ้องการที่ปรึกษา
6
7. 7
7
ผู้ประกอบกำรธุรกิจ
SMEs และ หน่วยงำนผู้ว่ำจ้ำง
โอ๊ย ......
1. จะจ้ำง ที่ปรึกษำ มำช่วยงำนจะ “คุ้มไหม๊”
2. ที่ปรึกษำเข้ำมำเดินไปเดินมำ 6 เดือนแล้ว
ไม่เห็นได้เรื่องอะไรเล๊ย
3. ที่ปรึกษำที่อื่น ๆ จะดีกว่ำนี้มั๊ยนะ? จะหำที่ไหน
ดีล่ะ มั่นใจได้อย่ำงไร ?
4. ทำไมที่ปรึกษำของเพื่อนเรำดีกว่ำนี้ล่ะ??
“เขำโชคดี จริงๆ” น่ะ
5. เกณฑ์ในกำรคัดเลือกที่ปรึกษำดี และ เก่ง ?
สภาวะปัจจุบัน
Demand อุปสงค์
ควำมต้องกำรของ
SMEs และ
หน่วยงำนของรัฐ
7
8. 8
1. SMEs ไม่พึงพอใจในคุณภำพและปริมำณของที่ปรึกษำของไทย
2. SMEs ไม่เห็นประโยชน์ของกำรใช้บริกำรที่ปรึกษำ
3. SMEs ไม่มีงบประมำณในกำรจ้ำงที่ปรึกษำ
4. SMEs ไม่ต้องกำรจ่ำยค่ำจ้ำงที่ปรึกษำเอง แต่ต้องกำรให้
หน่วยงำนภำครัฐสนับสนุนค่ำใช้จ่ำย
5. ภำพลักษณ์ในเชิงคุณภำพของที่ปรึกษำไทยยังด้อย โดยเฉพำะ
เมื่อเทียบกับที่ปรึกษำต่ำงชำติ
6. ขำดเวที/ช่องทำง/เครือข่ำย/ฐำนข้อมูล/แหล่งข้อมูล ในกำร
”เชื่อมโยงกำรใช้บริกำร” ระหว่ำง SMEs และ ที่ปรึกษำ
7. ขำดสถำบันหรือหน่วยงำนที่มีหน้ำที่โดยตรงหรือเป็ นศูนย์รวมที่
ปรึกษำธุรกิจ
8. ขำด”ระบบในกำรรับรอง” ที่ปรึกษำและ “ควบคุมคุณภำพ” ของ
กำรให้บริกำร
สภาวะปัจจุบัน ที่ปรึกษำแนะนำธุรกิจ - SP
9. กระบวนการทา “แผนที่เส้นทำงกำรพัฒนำธุรกิจ ”
ขั้นที่ 1 คัดเลือก “ผลิตภัณฑ์ที่มีลู่ทางลงทุน”
ขั้นที่ 2 กาหนด “ขอบเขตธุรกิจ – Scope of Business “
ขั้นที่ 3 จัดทา Business Model แสดง
“โอกาสทางธุรกิจ ”
ขั้นที่ 4 รวบรวมข้อมูล ประเมิน โอกาส
อุปสรรค และ จุดแข็ง จุดอ่อน
ขั้นที่ 5 วิเคราะห์ตลาด วิเคราะห์ธุรกิจ
ขั้นที่ 6 ปรับปรุง Business Model หลังจาก
“สภาวะแวดล้อมเปลี่ยน ”
ขั้นที่ 7 จัดทำ “แผนที่เส้นทำงกำรพัฒนำธุรกิจ”
เริ่มต้นเขียน “แผนธุรกิจการลงทุน”
9
10. ขั้นที่ 1 คัดเลือก “ผลิตภัณฑ์ที่มีลู่ทางลงทุน”
กระบวนการทา “แผนที่เส้นทำงกำรพัฒนำธุรกิจ ”
(Business Development Roadmap)
10
11. 1.1 กำรมองหำ “โอกำสทำงธุรกิจ”
กำรขำดแคลน สินค้ำ/บริกำรไม่พอกับความต ้องการ
ควำมต้องกำรแฝงเร้น ที่จะต ้องค ้นหาจากพฤติกรรมการใช ้
ของลูกค ้าที่ต ้อง”สิ่งใหม่” เพิ่มเติม หรือ “ไม่พอใจ”
บางอย่างจากการใช ้สินค ้า / บริการเดิม
นาเสนอ “สิ่งประดิษฐ์ใหม่” ที่ทาให ้เพิ่มประโยชน์การใช ้งาน
แล ้วการใช ้ชีวิตง่าย สะดวก สบาย ขึ้นกว่าเดิม
การ ขยำยเขตพื้นที่ ความเจริญเติบโตเของสังคม การค ้า
เศรษฐกิจ ก่อให ้เกิดความต ้องการใหม่ เช่น
รับจ้ำงช่ำงกำรผลิต Sub Contract เช่น รับซักรีด , ทำ
ควำมสะอำด, ผลิตชิ้นส่วน ,จัดส่งกระจำยสินค้ำ, ซ่อม
บำรุงเครื่องจักร /เครื่องใช้ไฟฟ้ ำ
ธุรกิจที่ต่อเนื่อง Linkage Business เช่น บรรจุภัณฑ์,ที่
ปรึกษำธุรกิจ,ที่พัก , ร้ำนสะดวกซื้อ , ร้ำนอำหำร,สถำน
บันเทิง ,ร้ำนซ่อม , สอนอำชีพ , ดูแลคนสูงอำยุ
เปิดประเทศ สู่ AEC – กำรวิจัยเมือง ,กฎหมำย,BOI,บัญชี ,
HR 1111
12. 12
ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทย
ประชำกร (2554) 67 ล้ำนคน
ประชำกำรอำเซียน 600 ล้ำนคน
อัตรำกำรอ่ำนออกเขียนได้ Literacy Rate 96%
ค่ำแรงขั้นต่ำ (1April 55 กรุงเทพฯ) 300 บำท/วัน
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (2554) 345.6 พันล้ำน US$
รำยได้ต่อหัว (2554) 5,113 US$
อัตรำกำรขยำยตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (2554) ร้อยละ 0.1%
อัตรำกำรขยำยตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (คำดกำรณ์ 2555)
ร้อยละ
5.5-6.0%
อัตรำกำรขยำยตัวของกำรส่งออก ร้อยละ 16.4%
อัตรำกำรขยำยตัวของกำรส่งออก (คำดกำรณ์ 2555) ร้อยละ 7.3%
ดุลกำรค้ำ (2554) 23.51 พันล้ำน US$
ดุลบัญชีเดินสะพัด (2554) 11.9 พันล้ำน US$
เงินสำรองระหว่ำงประเทศ (2554) 175.12 พันล้ำน US$
อัตรำกำรใช้กำลังกำรผลิต (2554) ร้อยละ 58.14%
ดัชนีผลผลิตอุตสำหกรรม (2554) 172.39
ดัชนีรำคำผู้บริโภค (กรกฎำคม 2554) (2550 = 100) 116.67
อัตรำภำษีเงินได้นิติบุคคล ร้อยละ 10-30% -> 20%
อัตรำภำษีหัก ณ ที่จ่ำย ร้อยละ 10-15%
อัตรำภำษีมูลค่ำเพิ่ม ร้อยละ 7%
16. 16
2553 2554
2555
กำรคำดกำรณ์
เศรษฐกิจ
H1
Q3 2555 2556
อัตรำกำรขยำยตัวทำง
เศรษฐกิจ (%) 7.8 0.1 2.2 3.0 5.5 4.5-5.5
ส่งออก (%) US$ basis 28.4 16.4 -0.2
-2.5 5.5 12.2
นำเข้ำ (%) US$ basis 37.0 24.7 13.4
1.6 8.8 12.4
ดุลกำรค้ำ (%) 4.1 1.7 -0.5
3.1 0.8 1.0
อัตรำเงินเฟ้ อ 3.3 3.8 3.0
2.9 3.0 2.5-3.5
อัตรำกำรว่ำงงำน 1.0 0.7 0.8 0.6 0.7 0.6
ที่มำ สำนักงำนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ข้อมูล ณ วันที่ 19 พย 2555.
รำยงำนภำวะเศรษฐกิจไทย
17. 17
EAFTA (East Asia FTA)
(ASEAN +3)
CEPEA (Comprehensive Economic Partnership in East Asia)
(ASEAN +6)
AEC
กำรขยำย FTA ของอำเซียน – อนำคต…
New ZealandAustraliaChina Japan
Korea
India
ASEAN10 : 580 ล้ำนคน ( 9%ของประชากรโลก ) GDP
1,460 พันล้ำน$ ( 2% ของ GDP โลก )
EAFTA (ASEAN +3) : ประชำกร 2,091 ล้ำนคน ( 31% ของประชากรโลก ) GDP
9,901 พันล้ำน$ (18% ของ GDP โลก )
CEPEA(ASEAN +6) :ประชำกร 3,298 ล้ำนคน (50% ของประชากรโลก ) GDP
12,250 พันล้ำน$ (22% ของ GDP โลก )
20. 20
ประเทศไทยจะเป็ นอย่ำงไรหลังเข้ำสู่ประชำคมอำเซียน?
1)เศรษฐกิจขยำยตัวมำกขึ้น
- การลดอัตราภาษีนาเข ้าเหลือร ้อยละ 0
- การเปิดเสรีการลงทุนจะทาให ้มีเงินลงทุน การขนส่งทางอากาศ บริการด ้านการ
ท่องเที่ยว บริการสุขภาพ การแพทย์ และ บริการโลจิสติกส์
- การลงทุนจากประเทศนอกกลุ่มอาเซียนมายังประเทศไทยมากขึ้น เพื่อส่งต่อ AEC
- การเคลื่อนย ้ายของแรงงานไปทางานในประเทศเพื่อนบ ้าน
2) โครงสร้ำงเศรษฐกิจเปลี่ยนไปสู่กำรผลิตสินค้ำมูลค่ำเพิ่มสูงขึ้น
- ภาคอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได ้รับประโยชน์ ได ้แก่ อุตสาหกรรมที่ใช ้เทคโนโลยี
ชั้นสูง (เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์)
- อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มจากการออกแบบ (เช่น แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์) และ
อุตสาหกรรมการผลิตสินค ้าจาเป็น (เช่น แปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร อุปโภคบริโภค วัสดุ
ก่อสร ้าง)
- ส่วนภาคบริการที่จะได ้ประโยชน์ คือ การท่องเที่ยว บริการสุขภาพและความงาม
บริการธุรกิจ และการก่อสร ้างและออกแบบ
3) กฎระเบียบและมำตรฐำนเป็ นสำกลมำกขึ้น มาตรฐานของสินค ้าและ
การให ้บริการ มาตรฐานด ้านคุณวุฒิวิชาชีพ กฎระเบียบและพิธีการทางศุลกากรและการ
ตรวจคนเข ้าเมือง กระบวนการจัดตั้งและจดทะเบียนธุรกิจ การคุ้มครองสิทธิแรงงานและ
สิทธิผู้บริโภค
21. 21
ประเทศไทยจะเป็ นอย่ำงไรหลังเข้ำสู่ประชำคมอำเซียน?
4) กำรกระจำยควำมเจริญเป็ นสังคมเมืองมำกขึ้น
• การพัฒนาโครงสร ้างพื้นฐานเชื่อมโยงการคมนาคมระหว่างประเทศ เช่น ถนนและทาง
รถไฟ จะทาให ้เกิดพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ๆ และการกระจายความเจริญสู่พื้นที่บริเวณจุด
ผ่านแดนและแนวเส ้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศมากขึ้น
ระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออกตะวันตก (East-West Economic Corridor)เชื่อมโยง
ระหว่างเมืองเมาะละแหม่ง เมียนม่าร์ ผ่านแม่สอด ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์
ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร สะหวันนะเขต ลาว และสิ้นสุดที่เมืองดานัง เวียดนาม
• ระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) เชื่อมโยง
ระหว่างนครคุนหมิง จีน ผ่านเชียงรายที่อาเภอแม่สายและเชียงของ และไปสิ้นสุดที่
กรุงเทพฯ
• ระเบียงเศรษฐกิจแนวใต้ (Southern Economic Corridor) เชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพฯ
ไปยังกัมพูชาและเวียดนามมีหลายเส ้นทางย่อย โดยมีจุดผ่านแดนระหว่างไทยและ
กัมพูชา 2 แห่ง คือ อรัญประเทศ/ปอยเปต และตราด/เกาะกง เส ้นทางระเบียงเศรษฐกิจ
แนวใต ้จะเชื่อมต่อกับโครงการก่อสร ้างมอเตอร์เวย์ระหว่างท่าเรือน้าลึกทวาย กรุงเทพฯ
และท่าเรือแหลมฉบัง
5) สังคมมีควำมหลำกหลำยเชื้อชำติและวัฒนธรรมมำกขึ้น
- การเคลื่อนย ้ายของบุคลากรชาวต่างชาติเข ้ามาทางานในประเทศไทยมากขึ้น
- พัฒนาโครงสร ้างพื้นฐานคมนาคมระหว่างประเทศที่จะทาให ้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
- การเปิดเสรีบริการด ้านการศึกษา ด ้านเทคโนโลยี วัฒนธรรม จะทาให ้มีนักศึกษาต่างชาติ
เข ้ามาศึกษาในประเทศมากขึ้น
23. 23
North-South Economic Corridor (NSEC)
1.เส้นทำงสำยตะวันตก (Western
Subcorridor) เริ่มจากคุนหมิง มายัง
เชียงราย และลงมาถึงกรุงเทพ โดยมี
ส่วนที่ผ่านลาวและพม่าเล็กน้อย
2. เส้นทำงสำยกลำง (Central
Subcorridor) เริ่มจากคุนหมิงแต่ไป
สิ้นสุดที่ฮานอย เมืองหลวงของ
เวียดนาม โดยจะเชื่อมต่อกับทาง
หลวงสายเอเชีย A1 ที่วิ่งในทิศเหนือ-
ใต ้ของประเทศเวียดนามที่เมือง
ฮานอย
3. เส้นทำงสำยตะวันออก
(Eastern Subcorridor) เริ่มจาก
เมืองหนานหนิง ในมณฑลกว่างสี
(Guangxi) ของประเทศจีนมายังเมือง
ฮานอย โดยเลือกได ้ว่าจะเป็นเส ้นทาง
เลียบชายทะเล หรือเส ้นทางในทวีป
เมืองคุนหมิง ส่วนจุดปลำยจะ
แยกเป็ นสองสำยคือประเทศ
ไทย และประเทศเวียดนำม
24. 24
East-West Economic Corridor (EWEC)
จุดเริ่มต้นคือเมืองดำนังในเวียดนำม (ซึ่งเป็ นเมืองท่ำสำคัญของเวียดนำม) ตัดผ่ำนลำว
และไทย มำยังเมืองเมำะละแหม่ง หรือเมำะลำไย (Mawlamyine) ในพม่ำ
จังหวัดที่มีเส้นทำง R2 ผ่ำนคือ ตำก สุโขทัย พิษณุโลก อ.หล่มสัก อ.ชุมแพ
จ.ขอนแก่น กำฬสินธุ์ มุกดำหำร
25. 25
R 1 เส ้นทางสายกลาง (กรุงเทพ-พนมเปญ-โฮจิมินต์ซิตี้-วังเตา)
R10 เส ้นทางเลียบชายฝั่งตอนใต ้
Southern Economic Corridor (SEC)
26. 26
R 1 เส ้นทางสายกลาง (กรุงเทพ-พนมเปญ-โฮจิมินต์ซิตี้-วังเตา)
R10 เส ้นทางเลียบชายฝั่งตอนใต ้
Southern Economic Corridor (SEC)
33. 1.2 คัดเลือกแนวคิดที่มี “โอกำสทำงธุรกิจ”
1.2.1 ภำพรวมของธุรกิจ
1. ลูกค ้าเป้าหมาย คือใคร, ปริมาณเท่าไร , มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
2. วงจรชีวิตของสินค ้า/บริการ ในตลาด ( 4 ขั้นตอนชีวิตสินค ้า
- แนะนา เติบโต อิ่มตัว ลดลง
3. คู่แข่ง คือใคร, ปัจจัยใช ้แข่งขัน ,ความรุนแรงแข่งขันในตลาด
4. ปัจจัยการเลือกซื้อสินค ้า ตรงกับ”จุดเด่นคุณประโยชน์”สินค ้าที่มี
1.2.2 ภำพเฉพำะตัวท่ำนเอง
1. กาหนด”ขอบเขตของธุรกิจ” กลุ่มสินค ้า กลุ่มลูกค ้าเป้าหมาย
และ ช่องทางขาย- ขอบเขตพื้นที่จาหน่าย
2.มีพันธมิตรธุรกิจ เช่น ผู้ขาย ผู้จัดส่งสินค ้า ผู้ขายวัตถุดิบธนาคาร
3. ประมาณการยอดขาย ต่อวัน ต่อเดือน ต่อปี
3. ความสามารถการผลิต (บริการ) จัดหา จัดเก็บ จัดส่ง
4. ความสามารถการบริหารจัดการ คนมีความรู้ประสบการณ์
5. ความสามารถการบริหารการเงิน เพียงพอ ต ้นทุนไม่สูงเกินไป33
35. การวิเคราะห์วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์
Product Life Cycle - PLC
ยอดขายและกาไร
แนะนำ เจริญเติบโต เติบโตเต็มที่ ตกต่ำ
ยอดขำย
กำไร
ยอดขำย ต่ำ - เพิ่มขึ้น
อย่ำงช้ำ ๆ
เพิ่มขึ้น
อย่ำงรวดเร็ว
เพิ่มขึ้นจนถึง
จุดสูงสุด ลดลง
กำไร ขำดทุน
เพิ่มขึ้น
จนถึงจุดสูงสุด เริ่มลดลง ลดลง
อย่ำงรวดเร็ว35
36. กลุ่มผลิตภัณฑ์ : เวชสำอำง
เครื่องสำอำงสมุนไพร เครื่องดื่มสมุนไพร ยำสมุนไพร อำหำรเสริมสมุนไพร
ครีมบำรุงพรรณงำม
- ขนำดเล็ก
- ขนำดกลำง
- ขนำดใหญ่
แชมพูสลวยลักษณ์
- ขนำดเล็ก
- ขนำดกลำง
- ขนำดใหญ่
ครีมนวดผมสลวย
ลักษณ์
- ขนำดเล็ก
- ขนำดกลำง
- ขนำดใหญ่
ควำมยำว
เครื่องสำอำง
เท่ำกับ 3 ประเภท
ควำมลึก 9 รำยกำร
ลูกยอ
- ขนำดเล็ก
- ขนำดใหญ่
ขิง
- ขนำดเล็ก
- ขนำดใหญ่
กระชำยดำ
- ขนำดเล็ก
- ขนำดใหญ่
ใบหม่อน
- ขนำดเล็ก
- ขนำดใหญ่
มะตูม
- ขนำดเล็ก
- ขนำดใหญ่
ควำมยำวของ
เครื่องดื่มเท่ำกับ 5
ประเภท
ควำมลึก 10 รำยกำร
ยำลูกกลอนเจริญไว
- ขวดใหญ่
- ขวดเล็ก
ยำสตรีโสภำ
- ขวดเล็ก
- ขวดใหญ่
ยำแก้ปวดแสนบรรเทำ
- ขวดใหญ่
- ขวดเล็ก
ยำบำรุงช้ำงสำร
- ขวดใหญ่
- ขวดเล็ก
ควำมยำวของยำ
สมุนไพร
เท่ำกับ 4 ประเภท
ควำมลึก 8 รำยกำร
อำหำรชีวจิตสูตร 1
- ถุงเล็ก
- ถุงใหญ่
อำหำรชีวจิตสูตร 2
- ถุงเล็ก
- ถุงใหญ่
อำหำรเสริมสูตรผสม
- ถุงเล็ก
- ถุงใหญ่
ควำมยำวของอำหำร
เสริมเท่ำกับ 3
ประเภท
ควำมลึก 6 รำยกำร36
37. 37
ขั้นที่ 2 คัดเลือก “กาหนดขอบเขตธุรกิจ”
Scope of Business
กระบวนการทา “แผนที่เส้นทำงกำรพัฒนำธุรกิจ ”
(Business Development Roadmap)
38. 38
1. กำหนด “ขอบเขตธุรกิจ Scope Of Business”
2. จัดกลุ่ม ประเภทของกำรให้บริกำร แยกตำม กลุ่มสำขำ
ควำมชำนำญ
3. ค้นหำ กลุ่มลูกค้ำเป้ ำหมำย ที่ต้องกำรใช้ SP ทำงตรง
(Consumer) และ ผู้จัดหำ /จัดจ้ำง ให้ SP ไปให้ธุรกิจใช้
งำนทำงอ้อม ( Customer ) โดยแยกเป็ นแหล่งงบประมำณ
จำก
- องค์กร ธุรกิจกำรค้ำ บริกำร อุตสำหกรรม
- หน่วยรำชกำร ที่ส่งเสริม สนับสนุนธุรกิจ และ SME
- งบส่วนกลำง จำกกระทรวงต้นสังกัด
- ส่วนภูมิภำค จำกงบประมำณของ จังหวัด
- รัฐวิสำหกิจ สถำบัน บริษัทรับฝึกอบรม บริษัทปรึกษำ
แนะนำ
4. ค้นหำ “ปัจจัยในกำรเลือกจ้ำง” ที่ปรึกษำ ของ กลุ่มลูกค้ำ
เป้ ำหมำยทำงตรง และ ทำงอ้อม
จัดตั้ง หรือ ขยำย ธุรกิจ “ที่ปรึกษำแนะนำ” ของท่ำนเอง
Workshop
39. 39
ขอบเขตของธุรกิจ (Scope Of Business)
1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ แยกตาม –
- ประเภทควำมเชี่ยวชำญ การตลาด การเพิ่มผลผลิต การลดต ้นทุน
- วิธีกำรให้บริกำร - Consulting , Coaching , Training , จัดจ ้าง
ภายนอก-Outsourcing, รับจ ้างบริหาร-Contractor, รับวางระบบงาน
โดยการสร ้าง “ควำมแตกต่ำง” ใน ตัวสินค ้า บริการ บุคลากร ช่องการ
จาหน่าย และ ภาพลักษณ์องค์กร ด ้วย Specification และ Benefit
2. กลุ่มลูกค้ำเป้ ำหมำย องค์กร – อุตสาหกรรม การค ้า บริการ
ราชการ – ส่วนกลาง ภูมิภาค องค์กรท ้องถิ่น สถานศึกษา
รัฐวิสาหกิจ , NGO , สถาบันฝึกอบรม
- ประเภทธุรกิจ - ขนาด(O S M L) - ที่ตั้ง ( ใน – ต่างประเทศ)
- วิธีการจัดซื้อ (เสนอผลงาน เสนอราคา ประกวดราคา เสนอโครงการ )
3. ช่องทำงกำรจัดจำหน่ำย ติดต่อ สนง. ผ่านตัวแทน WebSite
4. รูปแบบจำหน่ำย รายวิชา รายวัน รายเดือน รายโครงการ เหมาจ่าย-
Package รับจ ้างบริหารโครงการ 39
40. ตัวอย่ำง ... ขอบเขตของธุรกิจ (Scope Of Business)
1. บริกำรให้ คำปรึกษำแนะนำ และ วิทยำกร สอนหลักสูตรใน
องค์กร ด้ำนกำรพัฒนำองค์กรเชิงกลยุทธ์ กำรบริหำร
กำรตลำดและกำรขำย ของ ธุรกิจกำรผลิต กำรค้ำ และ
บริกำร
2. ให้คำปรึกษำแนะนำเชิงลึกภำคปฏิบัติกำรของ กำรลดต้นทุน
และ กำรเพิ่มผลผลิต แนวกำรบริหำรสไตล์ญี่ปุ่ น ของโรงงำน
อุตสำหกรรมเฉพำะในเขต ชลบุรี ระยอง
3. บริกำรสรรหำ ฝึกอบรม บริหำรค่ำจ้ำงและสวัสดิกำร กำรจ้ำง
แบบ Outsource Contract ตำแหน่งพนักงำน ขับรถ
ผู้บริหำร ธุรกำร จัดซื้อ บัญชี เฉพำะธุรกิจเขต ถนนสีลม
ชิดลม และ ใกล้เคียง
4. บริกำรให้คำแนะนำ กำรจัดตั้งธุรกิจ กำรขอสิทธิประโยชน์
กำรขออนุญำต กำรศึกษำควำมเป็ นไปได้โครงกำร แก่นัก
ลงทุนต่ำงชำติ ที่สนใจลงทุนในเขตส่งเริมกำรลงทุน
40
41. ตัวอย่ำง ... ขอบเขตของธุรกิจ (Scope Of Business)
5. รับบริกำร สำรวจภำวะเศรษฐกิจ วินิจฉัยย่ำนกำรค้ำและ
ทำเลทำงธุรกิจ สำหรับนักลงทุนใหม่ ในโครงกำรทุกขนำด
ในธุรกิจพำนิชกรรม อสังหำริมทรัพย์ และอุตสำหกรรม ทั่ว
ประเทศไทย และ CLMV
6. รับบริหำร โรงแรม รีสอร์ท อำคำรชุด อพำร์เม้นท์ ทั้ง
โครงกำรใหม่ และวำงระบบปรังปรุงโครงกำรเดิม ทั้งรูปของ
สัญญำจ้ำง และแบ่งปันผลประโยชน์
7. รับวำงระบบ โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป โปรแกรมบริหำรงำน
บุคคล ให้กับธุรกิจ อุตสำหกรรม กำรค้ำ และ บริกำร เฉพำะ
ในพื้นที่ภำคกลำง
8. ที่ปรึกษำวำง ระบบคุณภำพ ISO และ มำตรฐำนด้ำน อำหำร
และยำที่เชี่ยวชำญเฉพำะ กับ ผู้ผลิตภัณฑ์ อำหำร เครื่องดื่ม
ยำ อำหำรเสริม และ เครื่องสำอำง สอดคล้องกับ มำตรฐำน
ไทย และ มำตรฐำนอำเซียน
41
42. 42
ประเภทของ “กำรให้บริกำรธุรกิจ”
1. กำรให้คำปรึกษำ Consulting งาน โครงการแก ้ไข หรือ ปรับปรุง
1. ตั้งโจทย์ที่ต ้องการหาทางออก
2. วิเคราะห์และชี้ประเด็นแยกแยะปัญหาที่แท ้จริง
3. ตั้งเป้า และสร ้างสรรค์ทางเลือกที่เป็นไปได ้ ได ้เปรียบเหนือคู่แข่ง และ คุ้มค่า
4. ตัดสินใจ และ วาง”แผนปฏิบัติการ” ตามกลยุทธ์ใหม่ ที่สร ้างสรรค์
5. ให ้คาแนะนา การทางานให ้บรรลุผลลัพธ์ ตามกลยุทธ์ ที่เลือก
2. กำรโค้ช Coaching ให ้บริการด ้านการโค ้ชแบบตัวต่อตัวสาหรับ
ผู้บริหาร และการโค ้ชแบบเป็นกลุ่มย่อยโดยการทางาน 5 ขั้นตอน คือ
1. ระบุหัวข ้อที่ต ้องการโค ้ช
2. เก็บข ้อมูล โดยการสอบถาม ประเมิน สัมภาษณ์
3. โค ้ชแบบตัวต่อตัว ( กลุ่ม )
4. มอบหมายงาน และติดตามผล
5. ประเมินผลลัพธ์
3. กำรอบรม Training ให ้บริการด ้านการจัดอบรมทั้งใน และ นอก สถาน
ประกอบการ โดยวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เฉพาะด ้าน
โดยลักษณะการฝึกอบรมเน้นการฝึกปฏิบัติจริง เรียนรู้ผ่านกรณีศึกษา และ
การทาบทบาทสมมติ นอกเหนือจากการบรรยาย โดยผู้เข ้าเรียนจะได ้ทั้งความรู้
ทักษะ และเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถนาไปใช ้ได ้จริง 42
43. 43
บริษัท ..................... .........................................................................................
ขอบเขตธุรกิจ ....................................................................................................
..........................................................................................................................
...........................................................................................................................
.
.................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
ขอบเขตของธุรกิจ (Scope Of Business)
44. 44
กลุ่ม สำขำ และ ควำมเชี่ยวชำญ ของที่ปรึกษำ
บริหำรกำรจัดกำร วินิจฉัยสถำน
ประกอบกำร
เทคนิคและวิศวกำร วิสาหกิจชุมชน
กำรตลำดและกำรขำย
- การวางแผนการตลาด
- การบริหารงานขาย
-การตรวจสอบผลงาน
ตลาด
กำรบริหำรองค์กร
- ระบบประเมินผลงาน
- ระบบการสั่งงาน สื่อสาร
กำรบริหำรทรัพยำกร
มนุษย์
- การบริหารงานบุคคล
- ระบบประเมินผลงาน
-ระบบความก ้าวหน้าสาย
อาชีพ
กำรบริหำรบัญชี และ
กำรเงิน
- ระบบบัญชีการเงิน
- ระบบบัญชีบริหาร
- บริหารการเงิน
- ระบบบัญชีภาษีอากร
วินิจฉัยสถำน
ประกอบกำร
- อุตสาหกรรม
- พาณิชยกรรม
- บริการ
วินิจฉัยเฉพำะทำง
- เพิ่มประสิทธิภาพผลิต
- บริหารเชิงกลยุทธ์
- ประหยัดพลังงาน
วำงแผนและควบคุม
ผลิต
- วางแผนผลิต
- MRP , ERP
- วัดประสิทธิภาพ
เพิ่มผลผลิต
- ลดต ้นทุน Lean ,IE
- ปรับปรุงงาน
- กิจกรรมเพิ่มผลผลิต 5
ส Kaizen QCC
กำรควบคุมคุณภำพ
- ISO / TS
- GMP / Haccp
เทคนิคเฉพำะทำง
- CAD / CAM
-โปรแกรมคุม CNC
- การแปรรูปยาง น้ามัน
ปาล์ม , คอนกรีต
แผนกำรลงทุน
- แผนการกู ้เงิน
- แผนการลงทุน
- การจัดทาบัญชีร ้าน
กำรบริหำรงำนขำย
- การบริหารร ้านค ้า
- การบริหารสต ้อก
-การวางแผนออกงาน
- พันธมิตรแลกเปลี่ยน
สินค ้า
- การจัดทา Web Site
มำตรฐำนสินค้ำและ
ควบคุมคุณภำพ
- มผช.
- GMP / อย.
44
45. 45
กลุ่มผลิตภัณฑ์ กำรบริหำรจัดกำรตลำด
วำงแผนกำรตลำด การบริหารการขาย กำรสร้ำงแบรนด์ การบริหาร IMC ตลาดต่างประเทศ
- วิจัยตลำด
- วิจัยผู้บริโภค
- สำรวจย่ำน
เศรษฐกิจ และ
กำรค้ำ
-วำงแผนตลำด
เชิงกลยุทธ์
- ตรวจสอบตลำด
- พัฒนาช่อง
ทางการขาย
- วางแผนการขาย
- อบรมเพิ่มทักษะ
พนักงานขาย
-ระบบแรงจูงใจ
พนักงานขาย
-ระบบประเมินผล
การขาย
-ระบบขายลูกค ้า
องค์กร
-ระบบดูแล Key
Account
-ระบบ CRM
-วิเคราะห์เลือก
สื่อ
- On line
- Off Line
- จัดซื้อ จัดจ ้าง
- การประเมินผล
ตอบรับ
-ศึกษาลู่ทางธุรกิจ
-จับคู่เจรจาธุรกิจ
-การเจรจาต่อรอง
- เงื่อนการค ้าและการ
ชาระเงิน
45
47. 47
กลุ่ม สำขำควำมเชี่ยวชำญ ของ”บริกำรธุรกิจ”
1. ด้ำนบริหำรจัดกำร
1.1 ที่ปรึกษำด้ำน กำรพัฒนำองค์กร (Organization Development)
- วำงแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์
( กำรจัดทำ SWOT วิสัยทัศน์ ยุทธศำสตร์ วัตถุประสงค์ เป้ ำหมำย ตัวชี้วัด (KPI และ
แผนปฏิบัติกำร )
- กำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน – Performance Appraisal
- ด้วย ระบบ Balanced Scorecard – BSC
- กำรเทียบเกณฑ์ – Benchmarking
- กำรพัฒนำสมรรถนะบุคลำกร – Competency
- กำรให้ผลตอบแทน - Rewarding
- กำรบริหำรควำมเปลี่ยนแปลง - Change Management
- กำรบริหำรควำมรู้ – Knowledge Management - KM
- กำรบริหำรควำมเสี่ยง – Risk Management
- กำรบริหำรวิกฤติกำรณ์ – Crisis Management
- กำรบริหำรควำมขัดแย้ง – Conflict Management
- ควำมรับผิดชอบต่อสังคมของกิจกำร - Corporate Social
Responsibility – CSR
47
48. 48
กลุ่ม สำขำควำมเชี่ยวชำญ ของ”บริกำรธุรกิจ”
1.2 ที่ปรึกษำด้ำนบริหำรกำรตลำด และกำรขำย
- การวางแผนและการบริหารการตลาดเชิงกลยุทธ์
- การพัฒนาระบบการขาย และบริหารทีมขาย
- การวางระบบตรวจสอบผลงานการตลาด Marketing Audit
- การเพิ่มยอดขายและสร ้างกาไร ด ้วย
การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค ้า Customer Relationship Management – CRM
1.3 ที่ปรึกษำด้ำน โลจิสติกส์
- การจัดการโลจิสติกส์Logistics Management
- การจัดการซัพพลายเชน Supply Chain Management
- การจัดซื้อ จัดจ ้างและเจรจาต่อรอง Purchasing and Negotiation Management
- การวางแผนและการควบคุมการผลิต (Production Planning and Control)
- การบริหารคลังสินค ้า (Warehouse Management)
- การจัดการสินค ้าคงคลัง (Inventory Management )
- การจัดการกระจายสินค ้า Distribution Management
48
49. 49
กลุ่ม สำขำควำมเชี่ยวชำญ ของ”บริกำรธุรกิจ”
1.4 ที่ปรึกษำด้ำนบัญชี และกำรเงิน
- วางระบบบัญชีบริหารภายใน – ระบบเอกสาร ,โปรแกรมบัญชีสาเร็จรูป
- วางระบบบัญชีภาษีอากร - ระบบเอกสาร ,โปรแกรมบัญชีสาเร็จรูป
- วางระบบบัญชีต ้นทุน และการควบคุมต ้นทุน
- ผู้ตรวจสอบสอบบัญชี และการส่งงบการเงิน
- การบริหารบัญชีเพื่อการบริหาร – การบริหาร สินทรัพย์ หนี้สิน และทุน
1.5 ที่ปรึกษำด้ำนบริหำรโครงกำรลงทุน
- การศึกษาความเป็นไปได ้โครงการลงทุน
- การบริหารอสังหาริมทรัพย์ ( การก่อสร ้าง และการขายโครงการ)
- ด ้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ( ออกแบบโครงสร ้าง และควบคุม
การก่อสร ้าง )
49
50. 50
กลุ่ม สำขำควำมเชี่ยวชำญ ของ”บริกำรธุรกิจ”
2.1 วำงระบบบริหำรคุณภำพ
- ISO 9000 : 2008 ระบบการบริหารคุณภาพ – Quality Management System
- ISO 14000 ระบบการบริหารสิ่งแวดล ้อม - Environmental Management System
- OHSAS 18000 ระบบอาชีวอนามัยละความปลอดภัย
- มอก 18001 ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- ระบบ SA 8000 ระบบความรับผิดชอบทางสังคม - Social Accountability 8000
- มรท. 8001-2546: มาตรฐานแรงงานไทย ความรับผิดชอบ
ทางสังคมของธุรกิจ
- GMP และ HACCP หลักเกณฑ์การปฏิบัติที่ดีในการผลิต
และ การวิเคราะห์อันตรายและจุดควบคุมวิกฤติ
- ISO 22000 ระบบการบริหารความปลอดภัยอาหาร
3. ด้านเทคนิคและวิศวกรรม
50
51. 51
กลุ่ม สำขำควำมเชี่ยวชำญ ของ”บริกำรธุรกิจ”
2. ด้านเทคนิคและ
วิศวกรรม2.2 กิจกรรมกลุ่มสร้ำงคุณภำพ
- 5 ส ,
- Kaizen , Suggestion System ระบบกิจกรรมเสนอแนะ
- QCC Quality Control Circle
2.3 วำงระบบกำรลดต้นทุน Cost Reduction
- Lean Manufacturing,
- Six Sigma
2.4 วำงระบบบริหำรกำรบำรุงรักษำทวีผล TPM
- การบารุงรักษาด ้วยตนเอง – Self Maintenance – SM
- การบารุงรักษาเชิงป้องกัน – Preventive Maintenance – PM
- กิจกรรมกำรบำรุงรักษำทวีผล TPM
51
52. 52
Workshop # 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ .................. .............................. .................................. ........................
52
53. 5353
ผู้บริโภคใช้สินค้ำ
Consumer
องค์กร บริษัท สถำบัน หน่วยรำชกำร
Customer
1.คุณภำพสินค้ำสนองควำมต้องกำร
ปัจจัย 4 พื้นฐำน (อำหำร ที่อยู่
อำศัย เครื่องนุ่งห่ม และยำรักษำโรค)
2. ควำมภำคภูมิใจ เชิดชูฐำนะเป็ น
คุณประโยชน์ “ทำงอำรมณ์” สวย
ไม่เหมือนใคร ป้ องกัน5โรคร้ำยแรง
3. อำยุยำว คงทน แข็งแรง ทนทำน
4. ควำมมั่นใจ ประหยัด ระยะเวลำ
รับประกัน มีอะไหล่ ช่ำงบริกำร
5. ควำมสะดวก ง่ำย ก่อนกำรซื้อ
ขณะซื้อ และ หลังซื้อ
“หิว.. เมื่อไหร่ ก็แวะมำ 7-11”
1. ประมำณ ยอดขำยที่เพิ่มขึ้น
2. อัตรำกำไรต่อหน่วย ที่เพิ่มขึ้น
3. จำนวนเงินที่ ประหยัดต้นทุน
หรือ ลดควำมเสียหำย ได้
4. เวลำที่ประหยัดได้จำกกำรใช้
สินค้ำ คิดเป็ นเงินได้เท่ำไร
5. ภำพิพพจน์ชื่อเสียงของร้ำน
6. กำรเพิ่มทักษะพนักงำน ผลจำก
กำร ฝึกอบรมและพัฒน
7. ควำมสะดวกในกำรค้นหำข้อมูล
กำรเข้ำนำเสนอโครงกำร และ
กำรติดตำมผลกำรทำงำน
ผลประโยชน์ของลูกค้ำ (Customer Benefits)
53
56. 56
คุณสมบัติ – Spec. และ คุณประโยชน์ -Benefit กลุ่มผลิตภัณฑ์
ประเภท
กำรให้บริกำร
คุณสมบัติ
Specification
คุณประโยชน์
Benefit
1. กำรให้คำปรึกษำ
Consulting
2. กำรโค้ช
Coaching
3. กำรอบรม
Training
4. รับจ ้างOutsourcing
5 รับบริหารContractor
- วิธีการปรึกษา
- ประสบการณ์การทางาน
- ผลงานลูกค ้าอ ้างอิง
- การใช ้โปรแกรม
Software ช่วยทางาน
- วิธีการสอนงาน
- การจัดทาคู่มือสอนงาน
- การเลือกใช ้เครื่องมือ
- เนื้อหาหลักสูตร
- วิธีการสอน – Self
Leaning , Role Play
- สื่อการสอน – E-book
-ประสบการณ์เฉพาะทาง
- แบ่ง % กาไรที่ทาได ้
1. สิ่งที่ลูกค ้าได ้รับประโยชน์
“ทำงเหตุผล” และ “ทำง
อำรมณ์” แล ้วมีความพึง
พอใจ ยินดีที่จะจ่ายเงินค่า
สินค ้า และ บริการ
2. เป้าหมายของธุรกิจ คือ
- อยู่รอด ต ้องการ ลดต ้นทุน,
ควบคุมรั่วไหล , แผนฟื้นฟู ,
- เติบโต ต ้องการ เพิ่มยอดขาย
,ขยายตลาด ,เพิ่มสินค ้าใหม่
, เพิ่มผลผลิต , แผนการ
ลงทุน , กู้เงินขยายกิจการ ,
แหล่งเครื่องจักรและ
เทคโนโลยี
56
57. 57
Workshop # 3 คุณสมบัติ และ คุณประโยชน์ ของ กลุ่มผลิตภัณฑ์
ประเภท
กำรให้บริกำร
คุณสมบัติ
Specification
คุณประโยชน์
Benefit
1. กำรให้คำปรึกษำ
Consulting
2. กำรโค้ช
Coaching
3. กำรอบรม
Training
4. รับจ ้างOutsourcing
5 รับบริหารContractor
57
58. กลุ่มลูกค ้าเป้าหมาย - Customer Segments : CS
1. Mass Market : ตลาดแบบไม่แบ่งส่วน
- สินค ้าใช ้ได ้ทั่วไป ลูกค ้ายอมรับใน Spec. / Benefit ตอบสนองการขาดแคลน
- สามารถจัดส่งกระจายสินค ้าได ้ไม่จากัดพื้นที่ภูมิศาสตร์
- อายุสินค ้านาน ไม่เน่าเสียง่าย ต ้นทุนการเก็บรักษา
2. Segment Market : ตลาดแบบบ่งส่วน
2.1 B2C ขายให ้กับผู้บริโภค เช่น Public Training แบ่งตาม
- พื้นที่ภูมิศำสตร์ สังคมเมือง/ชนบท ย่านการค ้า/ธุรกิจ /แหล่งท่องเที่ยว
- ประชำกร เพศ อายุ รายได ้การศึกษา อาชีพ ศาสนา
- จิตวิทยำ ความเชื่อ วิถีชีวิต กิจกรรมที่ชอบ ความสนใจ
- พฤติกรรม การจงรักภักดีต่อ Brand ความถี่การซื้อ โอกาสการใช ้
2.2 B2B ขายให ้กับธุรกิจ, อุตสาหกรรม, ราชการ,ผู้ส่งออก
- ประเภทธุรกิจ ( ผลิต /ซื้อมาขายไป / บริการ)
- ขนาดธุรกิจ ทาเลที่ตั้ง รูปแบบบริหาร วิธีการจัดซื้อ
3. Niche Market : ตลาดแตกต่างเฉพาะส่วน
- สนองความต ้องการกลุ่มลูกค ้าพิเศษ ที่ยังไม่มีการนาเสนอขาย –
จะต ้องออกแบบ พัฒนา สินค ้า บริการ ที่แตกต่างจากเดิม แบบ
Focus Differentiate ซึ่งจะต ้อง Innovation, Modified Product. เช่น P4P58
59. 59
กลุ่มลูกค้ำเป้ ำหมำย
ลูกค้ำ
เป้ ำหมำย
หลัก สร้ำง
80 %
1. ผู้ใช้บริกำรที่ปรึกษำธุรกิจ (ลูกค้ำ) โดยตรง
2. ผู้ใช้บริกำรที่ปรึกษำธุรกิจ (ลูกค้ำ) โดยอ้อม หน่วยงำน จัด
จ้ำง วิทยำกร ที่ปรึกษำ
ขนำดธุรกิจ O/S M L / และ พื้นที่ตั้ง
ประเภทธุรกิจ (อำหำร ,เฟอร์นิเจอร์ , โลหะ )
ไปให ้เจ ้าของ O SME ใช ้งาน
3.1 ลูกค้ำ สถำบัน , มหำวิทยำลัย , สถำบันฝึกอบรม
2.2 “หน่วยงำนในภูมิภำค” ที่มีเป้ ำหมำยส่งเสริมและ
พัฒนำ ผู้ประกอบกำรธุรกิจ SME และ OTOP”
3.2 ฝึกอบรมหลักสูตร มาตรฐานสาธารณะ – Public Traning
2.1 หน่วยงำนรำชกำรอื่น – เกษตร ,พัฒนำชุมชน อุตสำหกรรม
ลูกค้ำ
เป้ ำหมำยรอง
สร้ำง 20 %
59
61. แบบจำลองธุรกิจ (Business Model )
กระบวนการในการทาธุรกิจ ที่จะต ้องกล่าวถึง เรื่อง
- ลักษณะของธุรกิจ : ผู้ผลิต / รับจ ้างผลิต / ผลิตและผู้จาหน่าย / ซื้อ
มาขายไป / บริษัทการตลาด ( ออกแบบ สั่งผลิต นาเสนอขาย จ ้าง
ดาเนินการ และ จัดส่ง )
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด ้วยกลุ่มสินค ้าในแนวกว ้าง และแนวลึกอะไร
- คุณสมบัติ และ คุณประโยชน์ ที่โดดเด่น เป็นจุดขายคือ และ คุณภาพ
ระดับไหน
-วิธีกำรทำกำรตลำด การจัดจาหน่าย ขายผ่านหน้าร ้านหรือผ่านตัวแทน
- คำดกำรณ์รำยได้จากค่าอะไรบ ้าง ประมาณการพยากรณ์เพิ่มขึ้นเท่าไร
- ลงทุนในสิ่งอำนวยควำมสะดวก Infrastructure ในที่ดิน อาคาร
เครื่องจักร ยานยนต์ ระบบงาน เพิ่มเติม อะไร บ ้าง
- คิดหาวิธีใช้ทรัพยำกรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภำพเต็มที่ และจะต ้อง
มีกิจกรรม และ คน ที่เกี่ยวข ้องอะไรบ ้าง จึงจะสามารถผลิตสินค ้า หรือ
บริการ และ ไปนาเสนอขายลูกค ้าที่คัดเลือกไว ้ให ้พึงพอใจ
- จัดทำโครงสร้ำงต้นทุน และ ค่าใช ้จ่าย วิเคราะห์ผลตอบแทนการ
ลงทุนใหม่ หรือปรับปรุง คุ่มค่าการลงทุนหรือ ไม่ ?
61
62. กำรปรับเปลี่ยน Business Model
สภาพแวดล ้อมของชีวิตความเป็นอยู่ของประชากร เทคโนโลยี
ผ่านระบบไร ้สาย ทาให ้ความต ้องการของลูกค ้า และกระบวนการ
ทางานภายในของบริษัท ต ้องปรับเปลี่ยน Business Model
- ธนำคำรเปลี่ยนแปลงวิธีกำรให้บริกำร 10.00 – 20.00 น
ไม่เว ้นวันหยุดในห ้างสรรพสินค ้า และ โมเดิร์นเทรด
- บริษัท แกรมมี่ หรือ อำร์เอส เปลี่ยนช่องทำงกำรจำหน่ำย
สินค้า ผ่านการ Download แบบเหมำจ่ำย และ รับงำน
Entertainment พวก คอนเสิร์ต งานโชว์ งานแจกรางวัล ฉลอง
- Pizza เป็ นผู้นำบริกำร Food Delivery เป็นการลดต ้นทุน
การเปิดสาขา และเป็นการเพิ่มยอดขาย
- กำรปรับเปลี่ยน เป็ น Specialist มำเป็ น Generalist มาก
ขึ้น การปรับรูปแบบทางธุรกิจให ้เป็นแบบ One Stop Service
จาก โตโยต ้า เป็น ศูนย์บริกำร ศูนย์ขำยรถมือสอง - โต
โยต้ำ ชัวร์ และ โตโยต้ำ ลีสซิ่ง
62
63. 1. ผู้ก่อตั้งธุรกิจใหม่ ที่ต ้องการกลั่นกรองแนวคิดผลิตภัณฑ์
มาประเมิน “โอกำสทำงธุรกิจ” ที่จะคัดเลือกมาลงทุน
2. ผู้ประกอบกำรเดิม ต ้องการ
1. ปรับแต่ง ปรับปรุง ตรวจสอบรูปแบบธุรกิจที่เป็นอยู่ กับ
สภาวะแวดล ้อมเปลี่ยนไป เพื่อเพิ่มความสามารถในการ
แข่งขัน
2. นาเทคโนโลยีใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ บริการใหม่ มาใช ้
เพื่อนาสนองตอบความต ้องการลูกค ้าที่เปลี่ยนไป
3. ค ้นหาและเตรียมรูปแบบธุรกิจใหม่สาหรับอนาคตเพื่อ
สร ้างการเติบโต และ มีกาไรอย่างยั่งยืน
4. หาทางออกให ้ธุรกิจที่กาลังอยู่ในภาวะวิกฤติ ไม่สามารถ
แข่งขันได ้ในตลาด สินค ้าไม่เป็นที่ต ้องการของลูกค ้า
ล ้าสมัย ต ้นทุนสูง
เรำต้องกำรใช้ Business Model เมื่อใด
63
65. 65
แบบจำลองธุรกิจ (Business Model Canvas)
เครื่องมือรวมรวมความคิด เพื่อประเมิน “โอกำสทำงธุรกิจ”
ในการคิด “ธุรกิจใหม่” หรือ “ปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้น”
ของ Alexander Osterwalder
Source: http://www.businessmodelgeneration.com/
65
67. แบบจำลองธุรกิจ Business Model Canvas - BMC
คือ เครื่องมือที่ใช ้เพื่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของ กำร
ประกอบธุรกิจทั้งหมดในภำพรวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกค ้า
การตลาด การขาย การผลิต การเงิน และอื่นๆ เข ้าไว ้ด ้วยกัน
เพียงหน้ากระดาษเดียว เพื่อปรับปรุง รูปแบบวิธีทำธุรกิจ
กำรสร้ำงมูลค่ำเพิ่ม และหา โอกำสธุรกิจใหม่ๆ ให ้องค์กร67
67
69. THE BUSINESS MODEL CANVAS - (BMC)
การสร ้าง
เครือข่าย
(KP)
กิจกรรมหลักที่
จาเป็นต ้องทา
(KA)
คุณค่าที่มอบ
ให ้ลูกค ้า
(VP)
ความสัมพันธ์
กับลูกค ้า (CR)
การจัดสรร
ทรัพยากรหลัก
(KR)
ช่องทางการ
เข ้าถึงลูกค ้า
(CH)
กลุ่มลูกค ้า
เป้าหมาย
(CS)
รูปแบบการหารายได ้(R$)ต ้นทุนการสร ้างและส่งคุณค่า (C$)
69
69
70. วิธีการสร ้าง Business Model Canvas 9 ช่อง
1. กลุ่มลูกค ้าของธุรกิจมีกี่กลุ่ม อะไรเป็นลูกค ้าหลัก และ รอง
2. ธุรกิจ ขายสินค ้าหรือบริการอะไร มี “คุณค่ำโดดเด่น” อะไร
3. ช่องทางที่ธุรกิจส่งมอบสินค้ำหรือบริการไปให ้ลูกค ้า และมี
ช่องทางไหน ที่ลูกค ้าจะได ้รับ “ข้อมูลสินค้ำ”
4. มีกิจกรรมใดบ ้างที่ธุรกิจได ้สร ้างให ้ลูกค ้ารู้สึกพอใจ และรัก
องค์กร ทั้ง ผู้ที่ “จะเป็ นลูกค้ำ-Prospect” และ ลูกค้ำเก่ำ
5. ประเภท รายได ้หลัก และรายได ้เสริม ของธุรกิจมาจากไหน
6. ธุรกิจใช ้ทรัพยากรอะไรบ ้าง เช่น โรงงาน, เครื่องจักร ระบบงาน
7. หน้าที่หลักของธุรกิจประกอบไปด ้วยงานอะไรบ ้าง เช่น ตลาด,
ขาย, ผลิต, ควบคุมคุณภาพ, วิจัยพัฒนา , จัดส่งสินค ้า
8. มีพันธมิตรที่ติดต่อและช่วยเหลือธุรกิจอะไรบ ้าง เช่น ผู้ขาย
วัตถุดิบหีบห่อ สถาบันการเงิน,มหาวิทยาลัย, หน่วยงานราชการ
9. สัดส่วนโครงสร ้างต ้นทุนส่วนใหญ่ของธุรกิจอยู่ที่จุดไหน และ
การหา จุดคุ้มทุน ของการลงทุน เทียบกับประมาณการรายได ้70
70
71. วิธีการสร ้าง Business Model Canvas 9 ช่อง
เมื่อได ้คาตอบครบทั้ง 9 ข ้อแล ้ว ให ้นาแต่ละข ้อมาใส่ในช่องดังนี้
71
คำตอบของข้อที่ ช่องของ BMC
1 กลุ่มลูกค ้าเป้าหมาย (CS)
2 คุณค่าที่มอบให ้ลูกค ้า (VP)
3 ช่องทางการเข ้าถึงลูกค ้า (CH)
4 ความสัมพันธ์กับลูกค ้า (CR)
5 รูปแบบการหารายได ้ (R$)
6 การจัดสรรทรัพยากรหลัก (KR)
7 กิจกรรมหลักที่จาเป็นต ้องทา (KA)
8 การสร ้างเครือข่าย (KP)
9 ต ้นทุนการสร ้างและส่งคุณค่า (C$)
71
72. 72
1. CS: Customer Segments
กลุ่มลูกค้ำเป้ ำหมำย
1.Customer
Segments
Source: http://www.businessmodelgeneration.com/
1. CS กลุ่มลูกค้ำเป้ ำหมำย โดยกาหนด
- ลักษณะของส่วนตลาดที่จะเป็นกลุ่มลูกค ้าที่จะ
ได ้รับ ”คุณประโยชน์” เมื่อได ้ใช ้สินค ้า และ
สามารถตอบสนอง “ควำมพึงพอใจ”
(Satisfaction) ได ้ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มที่ใช ้
สินค ้าเดิม หรือ กลุ่มที่มีโอกำสใช้สินค้ำ
Prospect ในอนาคต
- แต่จะต ้องมี “ขนำดใหญ่ และ แนวโน้ม
เติบโต”
72
73. กลุ่มลูกค ้าเป้าหมาย - Customer Segments : CS
1. Mass Market : ตลาดแบบไม่แบ่งส่วน
- สินค ้าใช ้ได ้ทั่วไป ลูกค ้ายอมรับใน Spec. / Benefit ตอบสนองการขาดแคลน
- สามารถจัดส่งกระจายสินค ้าได ้ไม่จากัดพื้นที่ภูมิศาสตร์
- อายุสินค ้านาน ไม่เน่าเสียง่าย ต ้นทุนการเก็บรักษา
2. Segment Market : ตลาดแบบบ่งส่วน
2.1 B2C ขายให ้กับผู้บริโภค แบ่งตาม
- พื้นที่ภูมิศำสตร์ สังคมเมือง/ชนบท ย่านการค ้า/ธุรกิจ /แหล่งท่องเที่ยว
- ประชำกร เพศ อายุ รายได ้การศึกษา อาชีพ ศาสนา
- จิตวิทยำ ความเชื่อ วิถีชีวิต กิจกรรมที่ชอบ ความสนใจ
- พฤติกรรม การจงรักภักดีต่อ Brand ความถี่การซื้อ โอกาสการใช ้
2.2 B2B ขายให ้กับธุรกิจ, อุตสาหกรรม, ราชการ,ผู้ส่งออก
- ประเภทธุรกิจ ( ผลิต /ซื้อมาขายไป / บริการ)
- ขนาดธุรกิจ ทาเลที่ตั้ง รูปแบบบริหาร วิธีการจัดซื้อ
3. Niche Market : ตลาดแตกต่างเฉพาะส่วน
- สนองความต ้องการกลุ่มลูกค ้าพิเศษ ที่ยังไม่มีการนาเสนอขาย –
จะต ้องออกแบบ พัฒนา สินค ้า บริการ ที่แตกต่างจากเดิม แบบ
Focus Differentiate ซึ่งจะต ้อง Innovation , Modified Product. 73
75. 75
2. VP: Value Propositions
VP คุณประโยชน์และคุณค่าที่นาเสนอต่อลูกค ้า
2.Value
Propositions
สินค ้าหรือบริการของธุรกิจสามารถสร ้าง
“คุณประโยชน์” และสร ้าง “มูลค่ำ” ที่เหนือกว่า
- ทางด ้านเหตุผล Functional Benefit
- ทางด ้านอารมณ์ Emotional Benefit
ที่จะสามารถตอบสนองความพึงพอใจ
(Satisfaction) ให ้กับลูกค ้าเป้าหมาย มากกว่า
สินค ้าคู่แข่ง ... มีอะไรบ ้าง ?
Proposition เกิดจาก 2 คาคือ
Pro ที่แปลว่า เหนือ, หรือ มากกว่า กับ
Position คือ ตาแหน่ง
75
76. Value Proposition (คุณค่าที่องค์กรมอบให ้กับลูกค ้า)
• สินค ้าหรือบริการ (VP) ของธุรกิจที่สามารถ “แก ้ปัญหา” หรือ “สร ้างความพึง
พอใจ” ให ้แก่ลูกค ้า
• VP ต ้องมาจาก ควำมต้องกำรลึกๆในใจลูกค้ำ Consumer Insight เสมอ
• VP ของลูกค ้าแต่ละกลุ่ม (ผู้บริโภค, อุตสาหกรรม ,ผู้ส่งออก) ไม่เหมือนกัน
• VP เปลี่ยนแปลงได ้เมื่อลูกค ้าเปลี่ยน หรือ สถานการณ์เปลี่ยน 76
• ลูกค ้า (CS) ของธุรกิจสามารถเป็นได ้ทั้ง ลูกค ้าผู้บริโภคที่นาสินค ้าไปใช ้
อุปโภคบริโภค หรือลูกค ้าอุตสาหกรรมที่นาไปขายต่อหรือไปใช ้ในการผลิต
76
78. อ.พอพงษ์ เอียดละออง
78
78
คุณค่ำที่ลูกค้ำได้รับ มำกกว่ำ รำคำที่จ่ำยไป
ภำพลักษณ์ (Image value)
บุคลำกร(Personnel value)
กำรบริกำร (Services value)
สินค้ำ (Product value)
คุณค่ำรวมของลูกค้ำ
(Total customer value)
เงินที่จ่ำย (Monetary cost)
เวลำ (Time cost)
แรง พลังงำน (Energy cost)
ควำมสุขใจ (Psychic cost)
ต้นทุนรวมของลูกค้ำ
(Total customer cost)
คุณค่ำที่ลูกค้ำได้รับ
(Customer delivered Value)
VP: Value Propositions
VP คุณประโยชน์และคุณค่าที่นาเสนอต่อลูกค ้า
มำกกว่ำ
78
81. อ.พอพงษ์ เอียดละออง
81
Consumer insight
คือ การเข ้าใจความต ้องการในเชิงลึกของผู้บริโภค
“การเข ้าใจลูกค ้าอย่างลึกซึ้ง เข ้าใจถึงวิถีชีวิต เข ้าใจว่าเขาทาอะไร?
ด ้วยเหตุอะไร? คุณค่าเขาต ้องการคืออะไร ? เข ้าคิดอะไรอยู่ ....?
ต้อง”หยั่งรู้” NEED และ WANT ของลูกค้ำ
81
82. อ.พอพงษ์ เอียดละออง
82
จากการสารวจพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า หลังจากนาผ ้า
ออกมาจากเครื่องซักผ ้า หรือซักน้าสุดท ้ายเสร็จแล ้วพร ้อม
ตาก ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ แทนการ
ตรวจคราบสกปรกด ้วยสายตา พวกเขาจะหยิบผ ้าขึ้นมาดม
ซึ่งถ ้าผ ้ามีกลิ่นหอมย่อมหมายถึงความสะอาด ส่งผลให ้
แบรนด์หยิบ Consumer Insight ที่สาคัญนี้มาพัฒนาสินค ้า
- โดยเพิ่มน้ำหอมให ้กลิ่นติดทนนานที่แม ้กระทั่งแดดก็ไม่
สามารถทาลายความหอมได ้ และ ไม่เหม็นอับแม ้ไม่ตากแดด
- ไม่มีครำบขำวของเศษผงซักฟอก
- ประหยัดเวลา และ น้า โดย ล้ำงน้ำเดียว ยกตากได ้เลย
ตัวอย่าง : ผงซักฟอก ซึ่งหน้าที่ ( Function) หลัก
ของสินค ้านี้ คือ ทาความสะอาดผ ้าที่ใส่แล ้วให ้สะอาด
ไม่มีคราบสกปรกติดอยู่
82
84. อ.พอพงษ์ เอียดละออง
84
แผ่นภาพวิเคราะห์ “ควำมต้องกำรของลูกค้ำ” - 1
1. ลูกค้ำ เห็น – SEE อะไร ?
- สิ่งแวดล ้อม(เทคโนโลยี ,สังคม ,วิถีชีวิต, ความชอบ, รายได ้,การศึกษา ) ที่
เปลี่ยนแปลงไป
- เพื่อนในวงการธุรกิจ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง อะไรบ ้าง
- คู่แข่งนาเสนอ “คุณค่า” ของสินค ้า บริการ ใหม่ อะไรบ ้าง
- ปัญหาจากการใช ้สินค ้า หรือ การขาดแคลนมาได ้ใช ้สินค ้า
2. ลูกค้ำ ได้ยิน – HEAR อะไร ?
- เพื่อนในวงการธุรกิจ ได ้พูด ให ้ข ้อมูลอะไร
- ผู้ตัดสินใจ ผู้มีอิทธิพล ผู้ริเริ่ม ผู้ซื้อ ผู้ใช ้ ได ้บอกกล่าว
อะไร เกี่ยวกับสินค ้า / บริการ
- ข ้อมูลจาก “สื่อ” On line / Off line พูดถึงเรื่องอะไรบ ้าง
84
85. อ.พอพงษ์ เอียดละออง
85
แผ่นภาพวิเคราะห์ “ควำมต้องกำรของลูกค้ำ” - 2
4. ลูกค้ำ คิดและรู้สึก – THINK & FEEL อย่ำงไร ?
- การค ้นพบ “ข ้อเท็จจริง” ที่สาคัญ แต่ยังไม่พูดต่อสาธารณะ
- “อารมณ์” ก่อนการใช ้สินค ้า หรือ ภาพลักษณ์องค์กร
- สิ่งที่ “กังวล” และ “ไม่สบำยใจ” ก่อน และ หลัง การใช ้
สินค ้า /บริการ
5. ลูกค้ำ พูด และ ทำ – SAY and DO อะไร ?
- แสดง “ท่าทาง” “ความคิดเห็น” “บ่น” ต่อ สาธารณะ
เช่น Preview บน Web , Blog , E – PR, Social Media
- รูปแบบแสดง “พฤติกรรม” ในการใช ้สินค ้า ภูมิใจ เต็มใจ
- ให ้ความสนใจ ประเด็นที่ลูกค ้า “พูด” กับ “ควำมรู้สึก”
เมื่อลูกค ้ามีโอกาสใช ้สินค ้า ไปในทาง “ขัดแย้ง” ไปทาง
ลบ หรือ “สนับสนุน” ไปทางบวก
85
86. แผ่นภาพวิเคราะห์ “ควำมต้องกำรของลูกค้ำ” - 3
5. ลูกค้ำ ปัญหำ และ ควำมผิดหวัง – Pains ?
- “ความผิดหวัง” ที่สาคัญจากการได ้ใช ้สินค ้า บริการ แล ้ว
- “อุปสรรค” ที่ขัดขวาง ความต ้องการ-Want และความ
จาเป็น - Need ในใช ้สินค ้า
- จะต ้องใช ้“กลยุทธ์” อะไรเพิ่มเติม เพื่อให ้การใช ้สินค ้า
บริการ ได ้ผลลัพธ์แก ้ไข
• negative emotion – ควำมรู้สึกที่ไม่ดี
• undesired cost - ต้นทุนสูงกว่ำที่คำด
• undesired situation – สภำพที่ไม่ต้องกำร
• Risk - กำรเสี่ยงภัยจำกกำรใช้สินค้ำ
J. Relievers = วิธีกำรแก้ไข
Reduce = ลด
Eliminate = ขจัด ตัดทิ้ง
Protect = ป้ องกัน
“help” = ช่วยเหลือ
86
87. ตลำดสีเขียว : น้ำตำลจำกธรรมชำติ (OGANIC SUGAR)
น้ำตำล “ วังขนำน “ : ที่ไม่เหมือนใคร
ลด : ไร้สำรเคมี
ตกค้ำง
แถม : สุขภำพดี
ชีวิตที่ดีให้เกษตรกร
รักษำสภำพดินดีให้โลก
J. กำรบรรเทำจาก สารเคมี และ การแถม โดยการ กาจัด และ การช่วยเหลือ
87
90. แผ่นภาพวิเคราะห์ “ควำมต้องกำรของลูกค้ำ” - 3
6. ลูกค้ำ ต้องกำรที่ไม่ได้บอก GAIN อะไร ?
- ค ้นหา “ควำมต้องกำร-Want” และ ความจาเป็น-Need
ในใช ้สินค ้า จริง ๆ
- วิธีการ “วัดความสาเร็จ-พอใจ” ในการใช ้สินค ้า ของลูกค ้า
- จะต ้องใช ้“กลยุทธ์” อะไรเพิ่มเติม เพื่อให ้การใช ้สินค ้า
บริการ ได ้ผลลัพธ์ตามที่
1. คาดหวัง
2. ปรารถนา
3. ประหลาดใจ
Increase = เพิ่ม
Create = สร ้างสรรค์
Gain “fulfill” = เติมเต็ม
K. Creators ผู้สร้ำงสรรค์
90
95. อ.พอพงษ์ เอียดละออง 95
B.
ประเด็น
Issue- การทางาน
- รายได ้
- วิถีชีวิต
- มั่นคง
- สุขภาพ
- ความสุข
- ยอดขาย กาไร
C.ขอบเขต
แก ้ไข
ปัญหา
ลูกค ้า ...ให ้
พึงพอใจ
D. Insight ความในใจลึกๆ ของ
ลูกค ้า
basic need : ต้องกำร
พื้นฐำน
Function : การใช ้งาน
หน้าที่
Emotion : ความรู้สึก ทัศนคติ อารมย์
G. Issue H. Scope
negative emotion– ความรู้สึกที่ไม่ดี
undesired cost - ต ้นทุนสูงกว่าที่คาด
undesired situation – สภาพที่ไม่
ต ้องการ
Risk - การเสี่ยงภัย
E. Pains =ไม่ชอบ
Expect = คำดหวัง
Desires = ปรำรถนำ
Surprise = ประหลำดใจ
F. Gains = ชอบ
A. Target
Customer
ลูกค ้าเป้าหมาย
Reduce = ลด
Eliminate =จากัด
Protect = ป้องกัน
“help” = ช่วยเหลือ
J. Relievers = วิธีการแก ้ไข
Increase = เพิ่ม
Create = สร ้างสรรค์
Gain “fulfill” = เติม
เต็ม
K. Creators ผู ้
สร ้างสรรค์
I. Concept แนวคิดการออกแบบ VP
- กลุ่ม 1....
- กลุ่ม 2....
แก ้ไข
ปัญหา
ลูกค ้า ...
พึงพอใจ
basic need : ต้องการ
พื้นฐาน
Function : การใช ้งาน หน้าที่
Emotion : ความรู ้สึก ทัศนคติ
อารมย์
Social : สถานทางสังคม
ภาคภูมใจ
- การทางาน
- รายได ้
- วิถีชีวิต
- มั่นคง
- สุขภาพ
- ความสุข
- ยอดขาย กาไร
วิธีกำรหำ Customer Insight และ Value Proposition
95
98. 98
สร ้าง “คุณค่ำ” ที่สนองตอบความต ้องการ
“เหนือควำมคำดหวังของลูกค้ำ”
Value Proposition Designer - Gain Creators
สังเกต หำข้อมูลสร้ำงสรรค์ ออกแบบ 98
99. 99
Emotional Marketing เป็นการตลาดที่ “หลีกหนีกำร
ลดรำคำ” โดย กำรสร้ำงอำรมณ์ ของผู้บริโภค ให ้
ตัดสินใจซื้อ โดยสร ้าง
- ควำมรู้สึกเชื่อมั่น ในแบรนด์ ที่มีภาพลักษณ์ดี
- แสดง สถำนะภูมิใจ ได ้รับการยอมรับ เมื่อใช ้สินค ้า
- สะดวก ช่วยในกำรทำงำน ให ้สาเร็จตามเป้าหมายลูกค ้า
- ช่วยลดต้นทุน ลดการเสียหายที่ไม่ได ้ใช ้สินค ้า
- ใช ้งานได ้ตาม สเปคที่กำหนด
- สามารถ ปรับได้ ตามความต ้องการ
- การติดต่อ กำรเข้ำถึงองค์กร ง่ำย ก่อน–ขณะ-หลังขาย
- การ ลดควำมเสี่ยง จากการใช ้งาน
- ควำมใหม่ ของ รูปแบบ และ เทคโนโลยี
กำรตลำดเชิงสร้ำงสรรค์
99
100. ปัจจัยในกำรเลือกจ้ำง ” ที่ปรึกษำ” ของกลุ่มลูกค้ำเป้ ำหมำย
ปัจจัยการเลือกจ ้าง / กลุ่มลูกค ้า B 2 B B 2 G สถาบัน
1.ความน่าเชื่อถือคุณภาพงาน
2.ความมีชื่อเสียงของวิทยากร
3.ความสะดวกในการติดต่อ
4.ประยุกต์การใช ้จริงๆ ได ้ง่าย
5.
6.
7.
8.
9.
10.
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
Workshop # 4
100
101. 101
3. CH: Channels : ช่องทำงเข้ำถึงลูกค้ำ
การใช ้ช่องทาง สถานที่จัดจาหน่าย และบริการ
Channels
วิธีการในการที่ธุรกิจจะเข ้าจาหน่ายในตลาด เพื่อสร ้าง ”
ยอดขำย” ให ้ได ้ตามเป้าหมาย จะต ้องการดาเนินกลยุทธ์
การกาหนดช่องทางจัดจาหน่าย และ กิจกรรมการทาง
การตลาดอะไร ? บ ้าง
- เพื่อ สร ้าง “ควำมสะดวก ” + “รวดเร็ว” + “ง่ำย”
ให ้กับลูกค ้าเป้าหมายในการตัดสินใจซื้อ
- มี ผลงาน ลูกค ้าอ ้างอิง บทความ
- วินิจฉัย ระบุ “ประเด็นปัญหำหลัก” ได ้ชัดเจน 101