More Related Content
Similar to บทท 9 (1) 2 (19)
บทท 9 (1) 2
- 2. สถานการณ์ปัญหา
( Problem-based learning )
ครู พลกิต เป็ นครู ที่พงมาบรรจุใหม่ หลังจากที่รายงานตัวต่ อสานักงานเขตพืนที่
ึ่
้
การศึกษาประจาจังหวัดที่สังกัดแล้ วก็ไปรายงานตัวต่ อโรงเรียนซึ่งเป็ นโรงเรียนประจา
จังหวัด ผู้อานวยการโรงเรียนมอบหมายให้ ครู พลกิตสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5
และเป็ นห้ องเด็กเก่ งด้ วย ยิงทาให้ ครู พลกิตรู้ สึกไม่ มั่นใจในการสอนว่ าตนเองจะสามารถทา
่
ได้ ดหรือไม่ และนักเรียนจะสนุกหรือสนใจในวิธีการสอนของตนเองหรือไม่ ที่สาคัญคือ
ี
นักเรียนห้ องนีมีลกษณะที่ชอบค้ นคว้ า หาความรู้ กิจกรรมที่เน้ นให้ ปฏิบัตได้ ลงมือกระทา
้ ั
ิ
ฝึ กคิดหรือที่ท้ายทายการทางานนักเรียนจะชอบมาก อีกทั้งยังเรียนพิเศษแบบเข้ มข้ น
เนือหาในหนังสื อเรียนส่ วนใหญ่ นักเรียนจะรู้ และทาความเข้ าใจอย่ างลึกซึ้งมาก่อนแล้ว แต่
้
ที่สังเกตได้ ชัดคือนักเรียนจะแข่ งกันเรียน ท างานกลุ่มไม่ ค่อยประสบความสาเร็จ
เท่ าที่ควร ซึ่งผู้อานวยการโรงเรียนฝากความหวังไว้ ที่ครู พลกิตเพือช่ วยพัฒนาและ
่
แก้ ปัญหาการเรียนรู้ ของนักเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ห้ องนีให้ ได้
้
- 4. การเตรี ยมสื่อการเรี ยนรู้
การเตรี ยมสื่อการ
เรี ยนรู้ มี 3 ช่วง
1.ก่อนการจัดการเรี ยนรู้ : ครู -นักเรี ยน ศึกษาวิธีการใช้สื่อ
และชานาญ สื่ อให้งานได้จริ ง สะดวกต่อการใช่งาน ตรงต่อ
ความต้องการ สื่ อทัวถึงต่อผูเ้ รี ยนหรื อไม่
่
2.ระหว่างการจัดการเรี ยนรู้ : เน้นสาระสาคัญความคิดยอดที่
ต้องการให้ผเู ้ รี ยนใส่ ใจด้วยการเขียนบนกระดานหรื อเน้นลงในสื่ อ
3.หลังการจัดการเรี ยนรู้ : ปฏิบติตามที่กาหนดในบทเรี ยนด้วยการ
ั
อภิปราย การทาโครงงานหรื อกิจกรรมอื่นๆที่ให้ผเู ้ รี ยนได้นาความรู ้ไป
ใช้
- 6. การเตรียมผู้เรียน
เริ่มด้ วยการให้ มโนมิตทางการเรี ยน (Advance organizer)
ิ
ล่วงหน้ าก่อนเรียน
การให้ สารสนเทศที่สาคัญก่อนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะ ความรู้และ
ทัศนคติที่ดีตอการเรียน
่
การน าเสนอให้ ผ้ เู รียนทราบถึงสาระสาคัญของการสอน การจัด
กิจกรรมที่กระตุ้นให้ ผ้ เู รี ยนสามารถความรู้เดิมกับสิงที่จะเรี ยนต่อไปนี ้
่
- 7. การดาเนินการตามบทเรียน
การให้ กิจกรรมการเรี ยนรู้ที่ชดเจน ผู้สอนควร
ั
อธิบายภารกิจการเรี ยนรู้
ผู้สอนจะต้ องวางขันตอนของกิจกรรมให้ ง่าย
้
ให้ ผ้ เู รี ยนสามารถดาเนินการเรี ยนรู้ได้ ตามเปาหมาย
้
การสร้ างแรงจูงใจในการเรี ยน มีความตระหนักและตื่นตัว
ด้ วยการชี ้นาให้ ผ้ เู รี ยนเห็นถึงมุมมองที่หลากหลาย
การตังคาถามในระหว่างเรี ยน เพื่อกระตุ้นความสนใจ ส่งเสริ ม
้
การคิด และเป็ นการประเมินความเข้ าใจไปในตัว
- 9. ลักษณะนักเรียนห้องครูพลกิตสอน
•ชอบค้นคว้า หาความรู ้ ด้วยตนเอง
•กิจกรรมที่เน้นให้ปฏิบติได้ลงมือกระทาฝึ ก
ั
คิดหรือที่ทายทายการทางานนักเรียนจะชอบ
้
มาก
•มีความรูพื้นฐานที่ดีและทาความเข้าใจ
้
บทเรียนมาก่อน
• นักเรียนจะแข่งกันเรียน ทางานกลุ่มไม่คอย
่
ประสบความสาเร็จ
- 12. การเรียนแบบร่วมมือ
ขั้นเตรียม แบ่งเป็ นย่อย 3-4 คน โดยคละ
ความสามารถ ผูสอนเสนอปั ญหา หรือ
้
กระตุนให้ผเู้ รียนตั้งสมมุติฐานร่วมกันเกิด
้
การระดมสมอง
ขั้นสารวจ ผูสอนกระตุนให้ผเู้ รียนช่วยกันหา
้
้
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปั ญหา เป็ นการเปิ ดโอกาส
ให้ผเู้ รียนคิดหาทางแก้ไขร่วมกันและอิสระ
- 13. ขั้นของการแก้ไขปั ญหา เมื่อผูเ้ รียนหาหนทาง
แก้ปัญหาได้แล้ว กระตุนให้เขาแสดงวิธรการ
้
ของเขาออกมาให้รปแบบที่สร้างสรรค์
ู
ขั้นทดสอบ ติดตามผล ผูเ้ รียนสามารถนา
กระบวนการแก้ไขปั ญหาไปใช้ได้อย่างแท้จริง
หรือไม่