แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์

1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน เทคนิคขี่บิ๊กไบค์ให้ปลอดภัย
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นายราชันย์ โพทะยะ เลขที่ 41 ชั้น ม.6 ห้อง 2
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
นายราชันย์ โพทะยะ ม.6/2 เลขที่39
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
เทคนิคขี่บิ๊กไบค์ให้ปลอดภัย
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Bigbike’s riding technique
ประเภทโครงงาน โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายราชันย์ โพทะยะ
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2 ปีการศึกษา2560
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ทุกวันนี้เราคงไม่ปฏิเสธว่าพวกเราหลายคนต่างสนใจรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ อาจจะด้วย
ว่า มันดูเท่ห์ แถมทุกวันนี้การจราจรในเมืองกรุงและในหลายๆจังหวัดก็นรกแตกไม่แพ้กัน การ
เสียเวลาบนถนนไปเป็นจานวนมาก ทางออกอย่างรถมอเตอร์ไซค์ก็แลดูจะง่ายกว่า แต่ก็อย่างที่
หลายคนคงจะตระหนักได้ ก่อนซื้อว่า รถมอเตอร์ไซค์นั้นอันตรายมีความสุ่มเสี่ยงในการเกิด
อุบัติเหตุมากกว่า ด้วยการอาศัยการทรงตัวในการขับขี่ ทาให้ เมื่อเสียการทรงตัวแล้วอะไรก็หยุดไม่
อยู่อาจจะไม่มีใครรายงานเรื่องยอดอุบัติเหตุจากบิ๊กไบค์อย่างจริงจัง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ภาพบนโลก
โซเชี่ยลสุดอนาถ ตลอดจนครูฝึกการขับขี่ทางด้านความปลอดภัยเอง ยังยอมรับว่า มีคนจานวนไม่
น้อยที่ประสบอุบัติเหตุ จากการขับขี่บิ๊กไบค์ เนื่องจากความประมาท หรือาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ในภาวการณ์หลงใหลความเร็ว แต่ถึงฟังแล้วจะดูอันตราย มันก็ยังมีวิธีที่จะขี่บิ๊กไบค์ได้ปลอดภัย
ทางเราจึงได้จัดทาโครงงานเรื่อง เทคนิคขี่บิ๊กไบค์ให้ปลอดภัย
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ลดน้อยลง
2.เพื่อแนะนาวิธีการขี่รถให้ปลอดภัย

3. ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.ศึกษาวิธีวิธีการขับขี่บิ๊กไบค์ให้ปลอดภัย
2.ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบิ๊กไบค์
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
1.ประมาณตัวเอง
การประมาณตัวเอง คือการรู้จักตัวเอง ตั้งแต่ก่อนเริ่มที่คุณจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ เจ้ายักษ์พวกนี้มันไม่
เหมือนกับรถจ่ายกับข้าวที่เรารู้จัก มันเร็วกว่าแรงกว่า และอันตรายมากกว่า ความเร็วของมันโดยมากสามารถ
ขับได้เท่าเที่ยมรถยนต์หนึ่งคัน แต่คุณก็จะขาดเหล็กตัวถังที่มาปกป้องคุณในการขับขี่การประมาณตัวเองนั้น
เริ่มได้ทันทีตั้งแต่ที่คุณซื้อรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ โดยดูจากสรีระรูปร่างของคุณเองว่า เหมาะสมกับรถคันไหน
โดยการขึ้นคร่อม แล้วดูลักษณะการควบคุมที่เหมาะกับตัวเอง รวมถึงอย่าซื้อรถที่เกินกาลังการควบคุมตัวเอง
มากเกินไป หลายคนอาจจะมองว่าเอาเริ่มต้นซื้อทั้งที่ ต้องเจ็บแต่จบให้มันคุ้มค่า ซื้อคันใหญ่ทีเดียวจะได้ไม่ต้อง
เปลี่ยนบ่อยๆ แต่ท้ายสุดแล้วมันอาจจะเป็นอันตรายต่อคุณเอง ซื้อนักขี่ที่ชานาญส่วนใหญ่ค่อยๆ ไต่จากซีซีน้อย
มาหาซีซีมาก เพื่อให้เกิดความชินในการควบคุมรถที่มีกาลังก่อน
2.ต้องเรียนรู้ทักษะการขับขี่
ทุกวันนี้ค่ายรถมอเตอร์ไซค์บางเจ้ายังไม่จัดกิจกรรมฝึกทักษะในการขับขี่ให้กับลูกค้า แต่ความจริงแล้วทักษะ
การขับขี่นั้นล้วนเป็นเรื่องที่สาคัญอย่างมากในการเดินทางของคุณเอง เมื่อคุณซื้อบิ๊กไบค์ อย่าลืม!! ที่จะหาเวลา
โดยเร็ววันนารถของคุณและตัวคุณไปฝึกทักษะการขับขี่ขั้นพื้นฐาน ซึ่งประโยชน์อย่างมากในการเดินทางของ
คุณเอง
3.อุปกรณ์การขับขี่
สิ่งที่สาคัญตามมาไม่แพ้กันทันทีที่คุณเริ่มต้นที่จะขี่บิ๊กไบค์นั้น คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์ในการขับขี่ซึ่งจาเป็นอย่าง
มากในการปกป้องภยันตรายในยามที่คุณอาจจะพลาดท่าเสียที่เกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่จาเป็นเลยสาหรับคือหมวก
กันน๊อก ถุงมือ และตามมาด้วยรองเท้า แต่ถ้ามีงบประมาณมากหน่อย เสื้อเกราะสักตัวจะช่วยให้ปลอดภัยขึ้น
....แต่จงตระหนักว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยเหล่านี้แม้จะดีมีมูลค่า แต่ไม่ควรต้องถูกใช้งานจริง เพราะมันคงไม่
คุ้มที่จะเสี่ยง
4.ขับอย่างระมัดระวัง
เราอาจจะเห็นผู้ขับขี่บิ๊กไบค์หลายคนขับรถโดยที่ไม่ระมัดระวังตัว ใช้ความเร็ว เบียดซ้ายแซงขวาสุ่มเสี่ยงต่อ
อุบัติเหตุมานักต่อนักแล้ว ด้วยกาลังรถที่มากกว่ารถทั่วไป การขี่บิ๊กไบค์จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
แม้ว่ารถบิ๊กไบค์อาจจะมีกาลังมากพอที่จะทาสิ่งต่างในยามคับขันได้ เช่นในการเร่งแซง แต่จงอย่ามั่นใจให้มาก
ควรจะเผื่อใจไว้สาหรับสิ่งที่ไม่คาดฝัน เช่น รถกลับรถตัดหน้า หรือ รถออกจากซอยแล้วปาดขวาโดยทันที ตาม
นิสัยการขับรถของคนไทย เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่สร้างความเสี่ยงให้เรา นักขี่บิ๊กไบค์ได้

4. 5.คาดการณ์ล่วงหน้า
เมื่อสักครู่เราเพิ่งบอกว่า ควรจะเผื่อใจในการขับขี่ไว้บ้างเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่บางครั้งในบางสถานการณ์ คุณ
อาจจะสามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่อาจจะหรือน่าจะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ เช่น กรณีข้ามสี่แยกที่ไม่มีสัญญาณไฟ
อาจจะมีรถเลี้ยวขวารถผ่านแยกจากทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว เรื่องเช่นนี้สามารถคาดเดาได้ และคุณควร
จะคาดเดาล่วงหน้าเอาไว้ก่นว่าน่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจากนั้นป้องกันเหตุ เช่น บีบแตรส่งสัญญาณเตือน หรือ หยุด
เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย
6.เคารพกฎจราจร
เป็นเรื่องง่ายมากสาหรับทุกคนที่จะทา ยิ่งเราขับรถมอเตอร์ไซค์ที่ดูเท่ห์น่าเกรงขาม เราน่าจะยิ่งตระหนักใน
เรื่องของกฎจราจร ซึ่งแม้เราอาจจะต้องยอมรับว่าในกรณีบิ๊กไบค์เรากฎหมายดูจะล้าหลังไปไม่เหมาะสมบ้างใน
หลายๆทาง แต่อย่างก็อย่าไปแหกกฎในบ้างข้อ เช่นการขับย้อนศร หรือ การขับรถที่ดูอันตราย คุณใช้ความเร็ว
ได้ แต่ควรอยู่ในขอบเขตที่คุณว่าความปลอดภัย การขับบิ๊กไบค์ไม่ได้หมายถึงว่าคุณต้องขับเร็วขี่ซิ่งตลอดเวลา
บางทีขับดูหล่อเท่ห์ ก็ดูดีแล้วครับ
7.เช็คสภาพสม่าเสมอ
อาจจะน้อยมากที่รถบิ๊กไบค์ถูกกล่าวขวัญในการประสบอุบัติเหตุด้วยปัญหาทางเทคนิค แต่เรื่องแบบนี้ก็เป็น
เรื่องสาคัญอย่างมากในการขับขี่บิ๊กไบค์ ด้วยชีวิตเราฝากไว้กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรจะอยู่ในสภาพที่ดีในการใช้
งานอย่างสม่าเสมอ โดยเฉพาะเบรก ยาง และส่วนควบอุปกรณ์ต่างๆ ควรจะตรวจสอบว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
ในการขับขี่อย่างสม่าเสมอ เพื่อช่วยให้มั่นใจในการขับขี่ของคุณเอง