นักศึกษากับการแสวงหาความรู้ในศตวรรษที่21

1. นักศึกษากับการแสวงหาความรู้
ในศตวรรษที่ 21
อ.ภูษิต ก้อนสุรินทร์

2. เครื่องมือในการเรียนรู้ในวันนี้

3. century?

4. “ศตวรรษ”
• ภาษาสันสกฤต
– ศต หมายถึง หนึ่งร้อย
– วรรษ หมายถึง ปี
• ศตวรรษ หมายถึงช่วงเวลาติดต่อกัน 100 ปี
• วิธีจาก็คือ เริ่มปีที่ (ศตวรรษ x 100) -99 ถึง (ศตวรรษ x 100)

5. ศตวรรต
นับจากอะไร ?

6. How old is the earth?

7. เราอยู่ในยุคไหนของประวัติศาสตร์โลก
Millennium Century
BC (BCE)
4th 40th 39th 38th 37th 36th 35th 34th 33rd 32nd 31st
3rd 30th 29th 28th 27th 26th 25th 24th 23rd 22nd 21st
2nd 20th 19th 18th 17th 16th 15th 14th 13th 12th 11th
1st 10th 9th 8th 7th 6th 5th 4th 3rd 2nd 1st
AD (CE)
1st 1st 2nd 3rd 4th 5th 6th 7th 8th 9th 10th
2nd 11th 12th 13th 14th 15th 16th 17th 18th 19th 20th
3rd 21st 22nd 23rd 24th 25th 26th 27th 28th 29th 30th

8. 21st Century คือช่วงไหนของเวลา
ศตวรรษที่ 21
จะนับตั้งแต่ปี 2001 ถึง 2100

9. รูปแบบการเรียนรู้(Learning Style)

10. สารวจตัวเอง!!!
ให้ทาตอบคาถาม อย่ารวดเร็ว ในเวลา 5 นาที!!!

11. เฉลย
• ถ้าเลือก ก มาก แสดงว่ามีลักษณะการเรียนรู้โดยใช้สายตา (Visual
Learning) ใช้สายตาเพื่อศึกษาข้อมูลทั้งภาษาและภาพ เช่น การอ่านหนังสือ
แผนผัง แผนภูมิ รูปภาพ ป้ ายประกาศ วีดิทัศน์ และภาพยนตร์
• ถ้าเลือก ข มาก แสดงว่ามีลักษณะ การเรียนรู้โดยการฟัง (Auditory
Learning) การรับข้อมูลจากการฟัง เช่น การฟังการบรรยาย อภิปรายบท
สนทนา แถบบันทึกเสียง
• ถ้าเลือก ค มากแสดงว่ามีลักษณะการเรียนรู้โดยการปฏิบัติ
(Kinesthetic Learning) การเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติในสถานการณ์
จาลอง เช่น การแสดงบทบาทสมมติ (role-play) การสัมภาษณ์ และการเรียนรู้
จากประสบการณ์จริง

12. You V.S. 21st Century

15. 21st Century Skills
Critical Thinking
Media Literacy
Communication
Collaboration
Information Literacy
Creativity

16. 1.ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
(Critical Thinking Skills)
• “คิดอย่างมีเหตุผล มีการไตร่ตรอง
เพื่อตัดสินใจว่าสิ่งใดควรเชื่อและสิ่งใดควรทา ”

17. กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
*** กระบวนการสืบเสาะ ตรวจสอบแนวทางสู่คําตอบของคําถามหรือประเด็นต่างๆ ที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุด
5W 1H

18. ตัวอย่างกระบวนการคิด
• รู้ปัญหา : “เรียนจบชั้น ม. 6 แล้วจะหาที่เรียนต่อได้อย่างไร ”
• ตั้งคาถาม : “แล้วเราควรสมัครเรียนต่อที่ไหนดี ”
• รวบรวมข้อมูล : “มหาวิทยาลัยใด สถานศึกษาใดกาลังเปิดรับสมัคร
และเปิดสอนสาขาใดบ้าง”
• หาคาตอบที่เป็นไปได้ : “เป็นสาขาที่อยากเรียน เป็นสาขาที่เหมาะสม
กับความสามารถเราหรือไม่ งบประมาณ ฯลฯ ”

19. ฝึกคิด

20. ระบุปัญหา
• What อะไร...
• When เมื่อไหร่
• Where ที่ไหน...
• Who ใคร ....
• Why ทาไม .....
• How อย่างไร.......

21. ตั้งคาถามกับปัญหา
• What อะไร...
• When เมื่อไหร่
• Where ที่ไหน...
• Who ใคร ....
• Why ทาไม .....
• How อย่างไร.......

22. รวบรวมข้อมูล
• จากแหล่งข้อมูล
• - ทางตรง (ปฐมภูมิ)
• - ทางอ้อม (ทุติยภูมิ)

23. 2. ทักษะด้านการใช้สื่อ (Media Literacy Skill)
• “การรู้เท่าทันสื่อ รวมถึงความสามารถใช้สื่อให้เกิด
ประโยชน์”
• การประชุมสัมมนาในปี พ.ศ. 2532 จัดโดยสมาคมการ
รู้เท่าทันสื่อแห่งประเทศ แคนาดา ได้ให้คานิยามไว้ว่า
“จุดมุ่งหมายของการสอนการรู้เท่าทันสื่อนั้น เพื่อพัฒนา
ให้คนที่รู้เท่าทันสื่อสามารถที่จะอ่าน วิเคราะห์ ประเมิน
และสื่อสารบรรดาสื่อหลากหลายประเภท

24. 3. ทักษะการสื่อสาร (Communication Skill)
• เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคมหรือในกลุ่ม

25. Unified Communication Systems

26. Today’s Communication
http://freshtightdesigns.com/10-levels-of-intimacy-in-todays-communication/

27. 4.ทักษะการทางานร่วมกัน (Collaboration skill)
• เพื่อให้การทางานหรือกิจกรรมใดๆ ให้ประสบ
ความสาเร็จ ถ้าเราสามารถการทางานร่วมกับผู้อื่นที่
อาจมีพื้นฐานต่างกัน ทั้งแนวคิด, ความเชื่อ, หรือ
ความรู้ ได้

29. 6. ทักษะการใช้เทคโนโลยี
(Information Literacy)
• ความรู้ความสามารถและทักษะในการเข้าถึง
สารสนเทศ และสามารถประเมินสารสนเทศที่ค้นมา
ใช้งานได้ (โดยใช้ Technology)

30. https://www.pinterest.com/uhighlibrary/information-literacy/

31. http://blog.rsc-wales.ac.uk/wp-content/uploads/2011/03/iloverload.jpg

32. มาตรฐานของ Information Literacy
กําหนดลักษณะและขอบเขตของสารสนเทศได้ชัดเจน
เข้าถึงสารสนเทศที่ต้องการได้
ประเมินสารสนเทศและแหล่งที่ผลิตสารสนเทศได้อย่างมีวิจารณญาน
ใช้สารสนเทศได้บรรลุวัตถุประสงค์
เข้าใจในบริบท และผลที่เกิดจากการใช้และเข้าถึงสารสนเทศ

33. 7. ทักษะแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creativity Skill)
• เป็นทักษะความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยใช้สติปัญญา
http://neo-mahakala-108.deviantart.com/art/Knowledge-Experience-Creativity-435618508

34. The Generations*
What Generation are You?
By Michael T. Robinson
Generation Name
Births
Starting
Births
Ending
Youngest Age Today Oldest Age Today
The Lost Generation -
The Generation of 1914
1890 1915 100 125
The Interbellum Generation 1901 1913 102 114
The Greatest Generation 1910 1925 90 105
The Silent Generation 1923 1944 71 92
Baby Boomer Generation 1945 1964 51 70
Generation X 1961 1981 34 54
Generation Y -
The Millennials -
Gen Next
1975 1995 20 40
Generation Z 1995 2015 0 20
http://www.careerplanner.com/Career-Articles/Generations.cfm

35. Find something!
http://www.economist.com/

36. วิถีชีวิตโดยทั่วไปของ Gen-M
“ชีวิตขาด Netไม่ได้”
นอน
เรียนกิน
เที่ยว-ท่อง

37. •ที่มีชีวิตเพื่อการทางาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทน ให้ความสาคัญกับผลงานแม้ว่าจะต้องใช้
เวลานานกว่าจะประสบความสาเร็จGen-B
•ชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นทางการ ให้ความสาคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว
(Work - life balance) มีแนวคิดและการทางานในลักษณะรู้ทุกอย่างทาทุกอย่างได้เพียง
ลาพังไม่พึ่งพาใคร
Gen-X
•โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วัยทางาน มีลักษณะนิสัยชอบ
แสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไขGen-Y
•เกิดมาพร้อมกับคาว่าโชคดี โชคดีไปเสียทุกอย่าง หน้าตาก็ดี เรียนก็เก่ง พ่อแม่ก็มีเงินให้ใช้ มีความ
ละเอียดอ่อนเรื่องอัตลักษณ์ (Self Identity) เป็นเจ้าของชีวิตของตัวเองGen-M
"สัมมนาการตลาดเชิงอภิปรายครั้งที่ 12" เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 วิทยาลัยการจัดการ ภายใต้หัวข้อเรื่อง Gen - M Marketing เคล็ด (ไม่) ลับ จับจังหวะวัยรุ่น

38. กิจกรรมที่กลุ่ม Gen-M กระทาค่อนข้างบ่อย
ลาดับที่ กิจกรรม ค่าเฉลี่ย
1 เล่นอินเตอร์เน็ต/คอมพิวเตอร์ 3.76
2 ชอบซื้อของในห้างสรรพสินค้า 3.75
3 ชอบแสวงหาร้านอาหารอร่อยๆ
รับประทานนอกบ้าน
3.74
4 ชอบชมภาพยนตร์จาก ซีดี,วีซีดี ภายใน
บ้าน/ที่พักของตนเอง
3.70
5 ชอบชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ 3.65
6 ชอบทากิจกรรมต่างๆ เป็นกลุ่มใหญ่ 3.64

39. วิถีทางการเรียนของ Gen-M

40. แล้วเกิดอะไรขึ้น

41. อีกตัวอย่าง

42. อะ อะ อ้าว ไม่ใช่แค่บ้านเรา

43. ประเด็นปัญหาคือ.....

44. ต้องทาอย่างไรจะไม่ .....forbidden Island
Glass

45. เครื่องมือช่วยเหลือและเอาตัวรอดในค้นหาข้อมูล
Google
Search
Google
Translate
Grammar
Check
Youtube
Wikiand
etc.

46. Google Search

47. General V.S. Advanced Searching

48. เทคนิคการตั้งคีย์เวิร์ดที่ดี
1. เลือกคําที่ระบุถึงสิ่งที่ต้องการได้ชัดเจนที่สุด เช่น ถ้าต้องการค้นหาข้อมูลปัญหา
ของ iphone 6 ควรใช้คําว่า “iphone 6 problem” เข้าไปในช่องค้นหาจะ
ดีกว่าคําว่า iphone หรือ iphone 6
2. หากไม่รู้ keyword ในภาษาอังกฤษควรใช้ Google Translate ช่วย
3. ถ้าต้องการให้ค้นหาเว็บเพจที่มีภาษาไทย อาจใช้ภาษาไทยร่วมใน keyword
เช่น รายละเอียด iOS 8 แทนคําว่า iOS8
4. สามารถเชื่อม Keyword ด้วย คําเชื่อม and or
5. สามารถใช้เครื่องหมาย “วลี” “what is thai”
6. สามารถใช้เครื่องหมาย + - ในการเพิ่ม/ยกเว้นคําในการค้นหา
พายัพ -โรงเรียน

49. Advanced Search with Google
• การค้นหาเฉพาะไฟล์ที่กําหนด
–ให้พิมพ์คาว่า filetype: ตามด้วยชนิดของไฟล์ที่กาลังค้นหา
เช่น เชียงใหม่ filetype:pdf
ชนิดของไฟล์ที่ค้นหาด้วย google ได้
• Adobe Portable Document Format (.pdf)
• Rich Text format (.rtf), Text (.txt)
• Microsoft Excel (.xls)
• Microsoft PowerPoint (.ppt)
• Microsoft Word (.doc)
• Microsoft Access (.mdb)

50. Advanced Search with Google
• การค้นหาข้อมูลเฉพาะในเว็บไซต์ที่ต้องการ
– พิมพ์คีย์เวิร์ด site: ตามด้วยแอดเดรสของเว็บ เช่น
เชียงใหม่ site:payap.ac.th
– หากเพิ่ม filetype:pdf จะทาให้กรอบการค้นหาแคบลง เช่น
เชียงใหม่ filetype:pdf site:payap.ac.th

51. General V.S. Advanced Searching
http://www.google.com/advanced_search

52. ค้นหาด้วยรูปภาพ

53. Google Translate

54. ตรวจสอบความถูกต้องของ Grammar
http://www.reverso.net/spell-checker/english-spelling-grammar/
http://www.reverso.net

55. http://spellcheckplus.com/

56. http://www.grammarly.com/

57. http://virtualwritingtutor.com

58. Youtube
• www.youtube.com/education
• www.youtube.com/UCBerkeley
• www.youtube.com/khanacademy
• www.youtube.com/ehow
• www.youtube.com/user/TEDEduca
tion

59. http://www.slideshare.net/

60. http://www.wolframalpha.com/