More Related Content
Similar to นวัตกรรมการศีกษาประเภททฤษฎีหรือแนวคิด11
Similar to นวัตกรรมการศีกษาประเภททฤษฎีหรือแนวคิด11 (20)
นวัตกรรมการศีกษาประเภททฤษฎีหรือแนวคิด11
- 3. การเรียนรู้ตามทฤษฎีของบรูเนอร์(Bruner)
ทฤษฎีการเรียนรู้ (learning theory) การเรียนรู้คือกระบวนการที่ทา
ให้คนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคิด คนสามารถเรียนได้จากการได้ยิน
การสัมผัส การอ่าน การใช้เทคโนโลยี การเรียนรู้ของเด็กและผู้ใหญ่จะ
ต่างกัน เด็กจะเรียนรู้ด้วยการเรียนในห้อง การซักถาม ผู้ใหญ่มักเรียนรู้ด้วย
ประสบการณ์ที่มีอยู่ แต่การเรียนรู้จะเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ผู้สอน
นา เสนอ โดยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ดังนั้น ผู้สอนจะต้อง
พิจารณาเลือกรูปแบบการสอน รวมทั้งการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน
- 5. ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้เกิดจากแนวคิดของนักปรัชญาหรือปรัชญา
การศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ
1.กลุ่มสารถนิยม
สารัตถนิยม(Essentialism)มาจากภาษาละตินว่า Essentia หมายถึง
สาระ หรือ เนื้อหาที่เป็นหลัก เป็นแก่น เป็นสิ่งสาคัญปรัชญาสารัตถนิยม
ในทางการศึกษา คือ ปรัชญาที่ยึดเนื้อหา (Subject Matter) เป็นหลักสา คัญ
ของการศึกษาและเนื้อหาที่สา คัญนั้นก็ต้องเน้นเนื้อหาที่ได้มาจากมรดกทาง
วัฒนธรรม ที่ควรได้รับการถ่ายทอดต่อไป
- 6. 2. กลุ่มนิรันดรนิยม (Perennialism)
แนวความคิดหลักทางการศึกษาของสัจวิทยานิยม ได้แก่ความเชื่อ
ที่ว่า หลักการของความรู้ จะต้องมีลักษณะจีรังยั่งยืนอย่างแท้จริง คงที่ ไม่
เปลี่ยนแปลง ซึ่งเราควรอนุรักษ์และถ่ายทอดให้ใช้ได้ในปัจจุบันและ
อนาคต
- 7. 3. กลุ่มพิพัฒนาการนิยม
พิพัฒนาการนิยมเชื่อว่าการศึกษาคือชีวิตไม่ใช่เป็นการเตรียมตัวเพื่อ
ชีวิต หมายความว่า การที่จะให้ได้มาซึ่งความรู้ก็โดยการลงมือกระทา จริง ๆ
ที่จะก่อให้เกิดประสบการณ์กับผู้เรียน กิจกรรมการเรียนการสอนจึงมุ่งการ
พัฒนาทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาไปพร้อม ๆ กัน สามารถ
ปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข
4. กลุ่มปฏิรูปนิยม
ปฏิรูปนิยม เชื่อว่า การศึกษาคือการจัดประสบการณ์ ที่ส่งเสริมให้นา
ความรู้ มาช่วยแก้ปัญหาสังคมและสร้างสรรค์สังคมใหม่ เชื่อว่า การศึกษามี
ความสัมพันธ์กับสังคมอย่างแยกไม่ออก
- 10. ขั้นท1ี่Enactive representation
(แรกเกิด - 2 ขวบ)
เด็กจะแสดงการพัฒนาทางสมอง หรือทางปัญญาด้วยการกระทา
และยังคงดาเนินต่อไปเรื่อยๆตลอดชีวิต วิธีการเรียนรู้ในขั้นนี้จะเป็นการ
แสดงออกด้วยการกระทา เรียกว่า Enactive mode จะเป็นวิธีการปฏิสัมพันธ์
กับสิ่งแวดล้อม โดยการสัมผัส จับต้องด้วยมือ ผลัก ดึง รวมถึงการใช้ปาก
กับวัตถุสิ่งของที่อยู่รอบๆตัว สิ่งที่สา คัญเด็กจะต้องลงมือกระทา ด้วยตนเอง
- 11. ขั้นที่2 Iconic representation
ในขั้นพัฒนาการทางความคิด จะเกิดจากการมองเห็น และการใช้
ประสาทสัมผัสแล้ว เด็กสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆเหล่านั้นด้วย
การมีภาพในใจ แทน พัฒนาการทางความรู้ความเข้าใจจะเพิ่มตามอายุเด็กที่
โตขึ้นก็จะสามารถสร้างภาพในใจได้มากขึ้น วิธีการเรียนรู้ในขั้นนี้ เรียกว่า
Iconic mode เมื่อเด็กสามารถที่จะสร้างจินตนาการ หรือ มโนภาพ
(Imagery) ในใจได้ เด็กจะสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกได้ด้วย Iconic
mode ดังนั้นในการเรียนการสอน เด็กสามารถที่จะเรียนรู้โดยการใช้ภาพ
แทนของการสมัผัสจากของจริง
- 12. ขั้นท3ี่ Symbolic representation
ในขั้นพัฒนาการทางความคิดที่ผู้ เรียนสามารถถ่ายทอด
ประสบการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆโดยใช้สัญลักษณ์ หรือ ภาษา บรูเนอร์ถือ
ว่าการพัฒนาในขั้นนี้เป็น ขั้นสูงสุด ของพัฒนาการทางความรู้ความเข้าใจ
เช่น การคิดเชิงเหตุผล หรือการแก้ปัญหา และเชื่อว่า การพัฒนาการทาง
ความรู้ความเข้าใจจะควบคู่ไปกับภาษา วิธีการเรียนรู้ในขั้นนี้เรียกว่า
Symbolic mode ซึ่งผู้เรียนจะใช้ในการเรียนได้เมื่อมี ความสามารถที่จะ
เข้าใจในสิ่งที่เป็นนามธรรม หรือความคิดรวบยอดที่ซับซ้อน
- 13. บรูเนอร์กล่าวว่า คนทุกคนมีพัฒนาการทางความรู้ความเข้าใจ หรือ
การรู้คิด โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Acting, Imagine และ Symbolizing
ซึ่งอยู่ใน ขั้นพัฒนาการทางปัญญาคือ Enactive, Iconic และ Symbolic
representation ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตลอดชีวิต มิใช่เกิดขึ้นช่วงใด
ช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น
- 14. แหล่งอ้างอิง
http://ednet.kku.ac.th/~sumcha/cognitive/pages/re3.htm
http://pirun.ku.ac.th/~g4786027/download/content/content1/content12/c
ontent121/content121.1/content121.1.1.doc
http://ednet.kku.ac.th/~sumcha/cognitive/pages/bruner.htm
http://ednet.kku.ac.th/~sumcha/cognitive/pages/re1.html
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=132971