SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Download to read offline
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน ปัญหาอุทกภัย
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาวณิชา เขียวหงษ์ เลขที่ 12 ชั้น ม.6 ห้อง 6
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
น.ส.ณิชา เขียวหงษ์ เลขที่ 12 ม.6/6
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ปัญหาอุทกภัย
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
The disease from flood problem
ประเภทโครงงาน
เพื่อพัฒนาและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากอุทกภัยรวมไปถึงวิธีการป้องกันโรคต่างๆที่อัน
เนื่องมาจากอุทกภัย โดยสามารถนาไปปรับใช้เพื่อเป็นการป้องกันในชีวิตประจาวันได้
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวณิชา เขียวหงษ์
ชื่อที่ปรึกษา
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
ภาคเรียนที่ 1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ปัญหาอุทกภัยเป็นปัญหาทางธรรมชาติโดยมีหลายสาเหตุหลายปัจจัยที่ทาให้เกิดปัญหาน้าท่วมไม่ว่าจะเป็นฝน
ตกหนักเป็นเวลานานหลายวัน น้าท่วมขัง แหล่งกักเก็บน้าล้น ท่อระบายน้าระบายน้าไม่ทัน โดยปัญหา
อุทกภัยจึงก่อให้เกิดโรคต่างๆที่ถูกแพร่เข้ามาผ่านทางระบบต่างๆในร่างกายและก่อให้เกิดโรคต่างๆซึ่งหากไม่
รีบหาทางหรือวิธีป้องกันก็อาจนาไปสู่อันตรายต่อชีวิตได้ นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ผลกระทบจากปัญหาน้า
ท่วมก็มีอีกมากมายปัญหาพวกนี้จะส่งผลต่อการดาเนินชีวิตของเราในแต่ละวันอาจจะส่งผลกระทบมาก-น้อยก็
อาจจะแล้วแต่ระบบภูมิคุ้มกันในระบบร่างกายของแต่ละคน ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะทาคือการรู้และตระหนักถึง
อันตรายจากปัญหาน้าท่วมเราควรรู้ถึงวิธีป้องกันผลกระทบอันเกิดจากน้าท่วมรวมไปถึงรู้วิธีการการรักษา/การ
ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อจะเป็นแนวทางในการป้องกันการเกิดโรคต่างๆ
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาหาวิธีการป้องกันปัญหาอุทกภัย
2.เพื่อศึกษาหาทางป้องกันการเกิดโรคจากปัญหาอุทกภัย
3.เพื่อนาข้อมูลที่ได้ค้นคว้าไปจัดทาเป็นแผ่นพับต่างๆและเผยแพร่แก่คนอื่นๆโดยมีจุดประสงค์ว่าเผยแพร่ข้อมูล
ให้ได้มากที่สุดและให้คนอื่นๆเข้าถึงข้อมูลที่ได้จัดทาได้อย่างง่ายและสะดวกมากที่สุด
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
-สาเหตุของปัญหาอุทกภัย
-ผลกระทบของปัญหาน้าท่วม
-แนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัย
- การป้องกันการเกิดโรคจากปัญหาอุทกภัย
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ปัญหาอุทกภัย
อุทกภัย คือ ภัยและอันตรายทีเกิดจากสภาวะน้าท่วมหรือน้าท่วมฉับพลันหรืออันตรายเกิดจากสภาวะน้าไหล
เอ่อล้นฝังแม่น้า ลาธาร หรือทางน้า เนื่องจากมีน้าเป็นสาเหตุอาจเป็นน้าท่วม น้าป่าไหลหลากหรืออื่นๆ โดย
ปกติอุทกภัยเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานทาให้ เกิดการสะสมน้าบนพื้นที่ซึ่งระบายออกไม่ทันทาให้
พื้นที่นั้นมีน้าท่วม ภัยร้ายที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยเกิดจากฝนตกหนัก
ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน บางครั้งทาให้เกิดแผ่นดินถล่ม อาจมีสาเหตุจากพายุหมุนเขตร้อนลมมรสุมมีกาลังแรง
มีกาลังแรง ร่องความกดอากาศต่ามีกาลังแรง อากาศแปรปรวน น้าทะเลหนุนแผ่นดินไหว เขื่อนพัง ทาให้เกิด
อุทกภัยได้เสมอ ปัญหาอุทกภัยก่อให้เกิดโรคต่างๆในร่างกายของเราไม่ว่าจะเป็น
 โรคน้ากัดเท้า : เกิดจากความเปียกและอับชื้นบริเวณเท้าและง่ามนิ้วเท้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผิวหนัง
บริเวณนั้นหลุดลอกออก ทาให้เชื้อโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อราสามารถเข้าไปฝังตัวบริเวณนั้น ทาให้
เกิดแผลผุพอง ผื่นคัน และสามารถอักเสบเป็นหนองได้ ทาให้เกิดความเจ็บปวดทรมาน เดินได้ไม่
สะดวก
 โรคฉี่หนู : โรคติดต่อประเภทหนึ่งโดยมีหนูเป็นพาหะ สามารถติดต่อจากหนูสู่คนได้ผ่านทางปัสสาวะ
ของหนู ไม่ว่าหนูนั้นจะฉี่ลงน้าที่ท่วมขังหรือฉี่ลงไปในอาหารที่เรารับประทาน ภายหลังจากหนูฉี่ลงน้า
เชื้อโรคนี้จะแพร่กระจายอยู่ในน้า และจะเข้าสู่ร่างกายเราผ่านทางแผลที่ผิวหนังที่สัมผัสน้านั้น
 โรคไข้เลือดออก : มีสาเหตุมาจากยุงลาย ซึ่งมักจะออกหากินเวลากลางวัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง
ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน อาการที่สังเกตได้ง่ายอย่างหนึ่งคือจะมีจุดเล็กๆตาม
ลาตัวและแขน ขา เมื่อมีอาการดังกล่าวอย่าซื้อยามารับประทานเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
 โรคปอดอักเสบ : เกิดขึ้นกับผู้ที่สาลักเอาน้าที่ไม่สะอาดเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ ทาให้เกิดอาการ
ปอดอักเสบ ปอดติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ไอมาก หายใจหอบและเร็ว ผู้มีอาการนี้ควรรีบไปพบ
แพทย์
 โรคตาแดง : เกิดจากการสัมผัสกับเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะเกิดจากการใช้มือหรือผ้าเช็ค
หน้าที่มีเชื้อเหล่านี้ไปสัมผัสดวงตา ผู้ป่วยจะมีอาการคันและเคืองตา บางรายอาจจะมีอาการปวด
ดวงตา บวมแดง มีขี้ตามาก ร่วมด้วย
 โรคอหิวาตกโรค : เกิดจากเชื้อแบคทีเรียประเภท Vibrio Cholerae มักเกิดจากการรับประทาน
อาหารที่ไม่สะอาด ซึ่งมีแมลงวันเป็นพาหะ ทาให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง มีลักษณะอุจจาระ
เหลวมาก ถ่ายบ่อยทั้งวัน อาการอาจจะหายไปเองได้ แต่ถ้ามีอาการมากต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
 ไข้ไทฟอยด์ : เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Enterica Serovar ซึ่งจะอยู่ในน้าดื่มและอาหารที่
ไม่สะอาด มีเชื้อโรคปนอยู่ โดยจะเข้าไปฝังตัวในลาไส้และระบบขับถ่าย ผู้ป่วยจะมีไข้สูง เหงื่อออก
มาก กระเพาะและลาไส้อักเสบ มีอาการท้องเสียแบบไม่มีเลือดปน ผู้ป่วยบางรายอาจจะหายได้เองใน
2-4 สัปดาห์ แต่ในรายที่มีอาการแทรกซ้อน เช่น เลือดออกทางเดินอาหาร ลาไส้ทะลุ ไตวาย ช่องท้อง
อักเสบ อาจจะทาให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการไข้ไทฟอยด์ การไปพบแพทย์จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
 โรคเครียดวิตกกังวล : ผู้ประสบเหตุน้าท่วมย่อมมีอาการเครียดและวิตกกังวล อันเนื่องมาจากความ
เสียหายต่อทรัพย์สินที่เกิดขึ้น การทามาหากินลาบาก ไปทางานหรือโรงเรียนไม่ได้ หาซื้อข้าวปลา
อาหารลาบาก ดังนั้นอาการเครียดและซึมเศร้าจึงมักจะเกิดขึ้นกับผู้ประสบภัยทุกคน ความเครียด
สามารถทาให้เกิดอาการข้างเคียงได้เช่น โรคกระเพาะอาหาร การทางานของหัวใจผิดปกติ ปวดศีรษะ
ตลอดเวลา เบื่ออาหาร ดังนั้นเมื่อน้าท่วม ต้องบริหารจิตของตนเองไม่ให้เครียดมากจนเกินไป หมั่น
พูดคุยปรึกษาญาติพี่น้องมากขึ้น
โรคฉี่หนู เป็นโรคควรต้องระวังให้มากที่สุดหากมีปัญหาด้านอุทกภัยเนื่องจากโรคฉี่หนูหรือเรียกอีก
อย่างว่าโรคเล็ปโตสไปโรซิส เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งกับคนและสัตว์ การติด
เชื้อในคนมีสาเหตุมาจากการสัมผัสดิน น้า อาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะ เลือด หรือเนื้อเยื่อของของสัตว์
ที่ติดเชื้อชนิดนี้ เช่น สุนัข วัว ควาย หนู สุกร ม้า สัตว์ป่า เป็นต้นโดยผู้ติดเชื้อจากโรคฉี่หนูจะสามารถ
แสดงอาการได้ตั้งแต่ 2-30 วันหลังได้รับเชื้อ แต่ส่วนใหญ่มักแสดงอาการในช่วงประมาณ 7-14 วัน ซึ่ง
อาการของโรคนี้อาจปรากฏตั้งแต่ไม่มีอาการเลย มีอาการขั้นอ่อนไปจนถึงขั้นรุนแรงถึงชีวิต อาการ
ของโรคฉี่หนูหากเป็นในระยะแรกสามารถหายไปได้เองใน 5-7 วัน แต่มีผู้ป่วยราว 5-10 เปอร์เซ็นต์ ที่
อาการเหมือนจะดีขึ้นและหายดี หลังจากนั้นประมาณ 1-3 วันกลับทรุดลง เนื่องจากมีการพัฒนาของ
โรคไปสู่โรคฉี่หนูแบบรุนแรง และยังสามารถส่งผลกระทบถึงอวัยวะต่าง ๆ เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต
หรือปอดได้เลยทีเดียว อาการของโรคชนิดรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้
การวินิจฉัยโรคฉี่หนู
การติดเชื้อโรคฉี่หนูที่ไม่รุนแรงอาจยากต่อการวินิจฉัย เนื่องจากมีอาการคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ เช่น
โรคหวัด ในขณะที่โรคฉี่หนูชนิดรุนแรงจะวินิจฉัยได้ง่ายกว่า เนื่องจากแสดงอาการรุนแรงมากกว่า
เริ่มแรกแพทย์จะตรวจร่างกายเบื้องต้นและซักถามประวัติผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง เช่น เพิ่งกลับมา
จากการเดินทาง เล่นกีฬาทางน้า มีการสัมผัสกับแหล่งน้าจืด มีอาชีพที่ต้องทางานกับสัตว์ หรือเคยพัก
หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคฉี่หนูควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้ให้แพทย์ทราบ
หากแพทย์พิจารณาแล้วว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการติดเชื้อจากโรคฉี่หนู จึงอาจมีการส่งตรวจ
เลือดหรือตรวจปัสสาวะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือตรวจทั้งคู่ ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของโรคชนิดรุนแรง
อาจต้องใช้การวินิจฉัยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การเอกซเรย์ทรวงอก การตรวจเลือดเพื่อดูการทางานของ
ตับและไตเพิ่มเติม เป็นต้น
การรักษาโรคฉี่หนู
โดยมากโรคฉี่หนูมักไม่มีอาการรุนแรงและหายดีได้เอง หรืออาจรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างยาเพนิซิล
ลิน(Penicillin) หรือดอกซีไซคลิน(Doxycycline) เป็นระยะเวลา 5-7 วัน ซึ่งควรต้องรับประทานตาม
กาหนดให้ครบถ้วนแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อแบคทีเรียถูกกาจัดจนหมด และ
ป้องกันการกลับไปติดเชื้ออีกครั้งนอกเหนือจากยาปฏิชีวนะ ผู้ป่วยอาจรับประทานยาแก้ปวดอย่างไอบู
โพรเฟน(Ibuprofen) หรือพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อลดอาการปวดศีรษะ มีไข้ และปวด
กล้ามเนื้อได้เช่นกันในขณะที่ผู้ป่วยโรคฉี่หนูแบบรุนแรงจะต้องนอกพักที่โรงพยาบาล และรักษาอาการ
ติดเชื้อด้วยการฉีดยาปฏิชีวนะเข้าไปในกระแสเลือดโดยตรง และหากมีอวัยวะใด ๆ ที่เสียหายจากการ
ติดเชื้อ ทาให้ไม่สามารถใช้หรือทาหน้าที่ตามปกติได้ก็อาจจาเป็นต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ เข้าช่วย เช่น
ผู้ป่วยอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือหากติดเชื้อที่ไตทาให้ไตเสียหายจนทางานไม่ได้ก็ต้องใช้การ
ล้างไตเข้าช่วย เป็นต้น
ผู้ป่วยบางรายอาจออกจากโรงพยาบาลได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่บางรายอาจต้องพักรักษาตัวที่
โรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะของผู้ป่วย รวมถึงความ
เสียหายต่ออวัยวะที่ติดเชื้อส่วนหญิงตั้งครรภ์ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเชื้ออาจแพร่ไปสู่ทารกใน
ครรภ์และส่งผลให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการของโรคฉี่หนูจึงอาจต้องเข้ารับการรักษาใน
โรงพยาบาลและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
การป้องกันโรคฉี่หนู
 ให้ความรู้เกี่ยวกับการติดต่อของโรคแก่ประชาชน โดยแนะนาให้หลีกเลี่ยงการว่ายน้าหรือการเดินลุย
ในน้าที่อาจปนเปื้อนเชื้อปัสสาวะจากสัตว์นาโรค หรือควรสวมใส่รองเท้าบู๊ตป้องกันทุกครั้งหากมีความ
จาเป็น
 หมั่นตรวจตราแหล่งน้าและดินทรายที่อาจมีเชื้อปนเปื้อน ควรระบายน้าตามท่อระบายออกแล้วล้าง
เพื่อกาจัดน้าที่ปนเปื้อน
 ส่งเสริมการป้องกันโรคแก่ผู้ที่ทาอาชีพที่มีความเสี่ยงทั้งหลาย โดยให้สวมถุงมือยางหรือรองเท้าบู๊ต
 ควบคุมและกาจัดหนูตามบริเวณที่อยู่อาศัย สถานที่ทางาน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยเฉพาะ
ในพื้นที่ชนบท
 แยกสัตว์ที่ติดเชื้อออกจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ และบริเวณที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
โรค
 ปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฉี่หนู โดยเลือกฉีดวัคซีนซีโรวาร์ (Serovars)
สาหรับป้องกันเชื้อฉี่หนูชนิดที่พบได้บ่อยตามท้องถิ่นนั้น ๆ ทั้งนี้การฉีดวัคซีนแม้จะสามารถป้องกันโรค
ฉี่หนู แต่ไม่อาจป้องกันการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อทางปัสสาวะได้
 ปัจจุบันในบางประเทศมีวัคซีนโรคฉี่หนูสาหรับคน โดยใช้ฉีดป้องกันให้คนงานหรือผู้มีอาชีพเสี่ยงติด
เชื้อ ได้แก่ประเทศฝรั่งเศส เสปน อิตาลี จีน ญี่ปุ่น และอิสราเอล ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีวัคซีน
สาหรับคน
ทฤษฎีการแก้ไขปัญหาน้าท่วม
ทฤษฏีการแก้ไขปัญหาน้าท่วมอันเนื่องมาจากพระราชดาริตามแนวทางการบริหารจัดการด้านน้าท่วมล้น
วิธีการต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดาริในการแก้ไขปัญหาน้าท่วมคือ
1. การก่อสร้างคันกั้นน้า เพื่อป้องกันน้าท่วมซึ่งเป็นวิธีการดั้งเดิมแต่ครั้งโบราณโดยการก่อสร้างคันดินกั้นน้า
ขนาดที่เหมาะสมขนานไปตามลาน้าห่างจากขอบตลิ่งพอสมควร เพื่อป้องกันมิให้น้าล้นตลิ่งไปท่วมในพื้นที่
ต่างๆ ด้านใน
2. การก่อสร้างทางผันน้า เพื่อผันน้าทั้งหมดหรือบางส่วนที่ล้นตลิ่งท่วมท้นให้ออกไป โดยการก่อสร้างทางผันน้า
หรือขุดคลองสายใหม่เชื่อมต่อกับลาน้าที่มีปัญหาน้า ท่วมโดยให้น้าไหลไปตามทางผันน้าที่ขุดขึ้นใหม่ไปลงลาน้า
สายอื่น หรือระบายออกสู่ทะเลตามความเหมาะสม
3. การปรับปรุงและตกแต่งสภาพลาน้า เพื่อให้น้าที่ท่วมทะลักสามารถไหลไปตามลาน้าได้สะดวกหรือช่วยให้
กระแสน้าไหล เร็วยิ่งขึ้น อันเป็นการบรรเทาความเสียหายจากน้าท่วมขังได้ โดยใช้วิธีการดังนี้
– ขุดลอกลาน้าตื้นเขินให้น้าไหลสะดวกขึ้น
– ตกแต่งดินตามลาดตลิ่งให้เรียบมิให้เป็นอุปสรรคต่อทางเดินของน้า
– กาจัดวัชพืช ผักตบชวา และรื้อทาลายสิ่งกีดขวางทางน้าไหลให้ออกไปจนหมดสิ้น
– หากลาน้าคดโค้งมาก ให้หาแนวทางขุดคลองใหม่เป็นลาน้าสายตรงให้น้าไหลสะดวก
4. การก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้าเป็นมาตรการป้องกันน้าท่วมที่สาคัญประการหนึ่งในการกักเก็บน้าที่ไหลท่วมล้น
ในฤดูน้าหลาก โดยเก็บไว้ทางด้านเหนือเขื่อนในลักษณะอ่างเก็บน้า
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน:
1.หาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหานี้
2.ศึกษารวบรวมข้อมูล
3.จัดหารายงาน
4.นาเสนองาน
5.นาเสนอครู ปรับปรุงและแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเตอร์เน็ต
-หนังสือที่เกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดจากปัญหาน้าท่วม
-วารสาร แผ่นพับรวมไปถึงข้อมูลต่างๆจากทั้งทางอนามัย โรงพยาบาล
-สามารถสอบถามอาการจากผู้ที่เคยเป็นโรคนี้ซึ่งจะทาให้เราได้ข้อมูลได้แท้แน่นอน
งบประมาณ
ไม่เกิน 1000 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
ผู้จัดทาจะได้เล็งเห็นปัญหานี้ ได้มีความรู้เกี่ยวกับข้อมูลต่างๆมากขึ้น
ทาให้สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้และสามารถนาไปเผยแพร่วิธีการป้องกันให้กับผู้อื่นเพื่อเป็นประโยชน์
แก่ผู้อื่นต่อๆไปได้
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
 https://krupenka.wordpress.com/2013/01/24/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%
8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%
B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2/
 https://guru.sanook.com/8507/
 https://www.pobpad.com/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%89%
E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9

More Related Content

What's hot

แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ปราณปริยา สุขเสริฐ
 
2562 final-project 22
2562 final-project 222562 final-project 22
2562 final-project 22Napisa22
 
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์Pack Matapong
 
2562 final-project1-18-vasaraj
2562 final-project1-18-vasaraj2562 final-project1-18-vasaraj
2562 final-project1-18-vasarajKUMBELL
 
โครงร่างโครงงานคอม
โครงร่างโครงงานคอมโครงร่างโครงงานคอม
โครงร่างโครงงานคอมParida Rakraj
 
2562-final-project
 2562-final-project  2562-final-project
2562-final-project mew46716
 
2562 final-project 14
2562 final-project 142562 final-project 14
2562 final-project 14ssuser72ad1c1
 

What's hot (13)

แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
2562 final-project 22
2562 final-project 222562 final-project 22
2562 final-project 22
 
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
 
2562 final-project1-18-vasaraj
2562 final-project1-18-vasaraj2562 final-project1-18-vasaraj
2562 final-project1-18-vasaraj
 
2562 final-project 14......
2562 final-project 14......2562 final-project 14......
2562 final-project 14......
 
โครงร่างโครงงานคอม
โครงร่างโครงงานคอมโครงร่างโครงงานคอม
โครงร่างโครงงานคอม
 
2562 final-project 14
2562 final-project 142562 final-project 14
2562 final-project 14
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
2562-final-project
 2562-final-project  2562-final-project
2562-final-project
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project
2562 final-project2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project social-addict
2562 final-project social-addict2562 final-project social-addict
2562 final-project social-addict
 
2562 final-project 14
2562 final-project 142562 final-project 14
2562 final-project 14
 

Similar to AT1AT1

2562 final-project 16-pimolpa
2562 final-project 16-pimolpa2562 final-project 16-pimolpa
2562 final-project 16-pimolpaLomipNekcihc
 
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์barbeesati
 
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5Ffim Radchasan
 
Philophobia
PhilophobiaPhilophobia
PhilophobiaSuppamas
 
2562 final-project 26-sathaporn
2562 final-project 26-sathaporn 2562 final-project 26-sathaporn
2562 final-project 26-sathaporn SathapornTaboo
 
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)Prapatsorn Chaihuay
 
2562 final-project 10
2562 final-project 102562 final-project 10
2562 final-project 10ssuser692fda
 
2562 project-15-jarukan (2)
2562 project-15-jarukan (2)2562 project-15-jarukan (2)
2562 project-15-jarukan (2)KUMBELL
 
ใบงานที่ 5 โครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงงานใบงานที่ 5 โครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงงานThanatchaporn Phookham
 
Final project
Final projectFinal project
Final projectnnichasom
 

Similar to AT1AT1 (20)

Daniellll
DaniellllDaniellll
Daniellll
 
2559 project 612-04_08
2559 project 612-04_082559 project 612-04_08
2559 project 612-04_08
 
2559 project 612-04_08
2559 project 612-04_082559 project 612-04_08
2559 project 612-04_08
 
Projectcom 2560
Projectcom 2560Projectcom 2560
Projectcom 2560
 
2562 final-project 16-pimolpa
2562 final-project 16-pimolpa2562 final-project 16-pimolpa
2562 final-project 16-pimolpa
 
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5
 
Philophobia
PhilophobiaPhilophobia
Philophobia
 
Com555
Com555Com555
Com555
 
2562 final-project 26-sathaporn
2562 final-project 26-sathaporn 2562 final-project 26-sathaporn
2562 final-project 26-sathaporn
 
Final project
Final projectFinal project
Final project
 
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
โครงงานกล่องแฟนซีรีไซเคิล (Recycle Fancy Box)
 
Depression of thai people
Depression of thai peopleDepression of thai people
Depression of thai people
 
2562 final-project 10
2562 final-project 102562 final-project 10
2562 final-project 10
 
2562 project-15-jarukan (2)
2562 project-15-jarukan (2)2562 project-15-jarukan (2)
2562 project-15-jarukan (2)
 
ใบงานที่ 5 โครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงงานใบงานที่ 5 โครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงงาน
 
กิจกรรมที่ 5
กิจกรรมที่ 5กิจกรรมที่ 5
กิจกรรมที่ 5
 
2562 final-project
2562 final-project2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
Final project
Final projectFinal project
Final project
 

AT1AT1

  • 1. แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5 ปีการศึกษา 2562 ชื่อโครงงาน ปัญหาอุทกภัย ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อ นางสาวณิชา เขียวหงษ์ เลขที่ 12 ชั้น ม.6 ห้อง 6 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม น.ส.ณิชา เขียวหงษ์ เลขที่ 12 ม.6/6 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ปัญหาอุทกภัย
  • 2. ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) The disease from flood problem ประเภทโครงงาน เพื่อพัฒนาและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากอุทกภัยรวมไปถึงวิธีการป้องกันโรคต่างๆที่อัน เนื่องมาจากอุทกภัย โดยสามารถนาไปปรับใช้เพื่อเป็นการป้องกันในชีวิตประจาวันได้ ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวณิชา เขียวหงษ์ ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน) ปัญหาอุทกภัยเป็นปัญหาทางธรรมชาติโดยมีหลายสาเหตุหลายปัจจัยที่ทาให้เกิดปัญหาน้าท่วมไม่ว่าจะเป็นฝน ตกหนักเป็นเวลานานหลายวัน น้าท่วมขัง แหล่งกักเก็บน้าล้น ท่อระบายน้าระบายน้าไม่ทัน โดยปัญหา อุทกภัยจึงก่อให้เกิดโรคต่างๆที่ถูกแพร่เข้ามาผ่านทางระบบต่างๆในร่างกายและก่อให้เกิดโรคต่างๆซึ่งหากไม่ รีบหาทางหรือวิธีป้องกันก็อาจนาไปสู่อันตรายต่อชีวิตได้ นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ผลกระทบจากปัญหาน้า ท่วมก็มีอีกมากมายปัญหาพวกนี้จะส่งผลต่อการดาเนินชีวิตของเราในแต่ละวันอาจจะส่งผลกระทบมาก-น้อยก็ อาจจะแล้วแต่ระบบภูมิคุ้มกันในระบบร่างกายของแต่ละคน ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะทาคือการรู้และตระหนักถึง อันตรายจากปัญหาน้าท่วมเราควรรู้ถึงวิธีป้องกันผลกระทบอันเกิดจากน้าท่วมรวมไปถึงรู้วิธีการการรักษา/การ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อจะเป็นแนวทางในการป้องกันการเกิดโรคต่างๆ วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.เพื่อศึกษาหาวิธีการป้องกันปัญหาอุทกภัย 2.เพื่อศึกษาหาทางป้องกันการเกิดโรคจากปัญหาอุทกภัย 3.เพื่อนาข้อมูลที่ได้ค้นคว้าไปจัดทาเป็นแผ่นพับต่างๆและเผยแพร่แก่คนอื่นๆโดยมีจุดประสงค์ว่าเผยแพร่ข้อมูล ให้ได้มากที่สุดและให้คนอื่นๆเข้าถึงข้อมูลที่ได้จัดทาได้อย่างง่ายและสะดวกมากที่สุด ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) -สาเหตุของปัญหาอุทกภัย -ผลกระทบของปัญหาน้าท่วม -แนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัย - การป้องกันการเกิดโรคจากปัญหาอุทกภัย หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
  • 3. ปัญหาอุทกภัย อุทกภัย คือ ภัยและอันตรายทีเกิดจากสภาวะน้าท่วมหรือน้าท่วมฉับพลันหรืออันตรายเกิดจากสภาวะน้าไหล เอ่อล้นฝังแม่น้า ลาธาร หรือทางน้า เนื่องจากมีน้าเป็นสาเหตุอาจเป็นน้าท่วม น้าป่าไหลหลากหรืออื่นๆ โดย ปกติอุทกภัยเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานทาให้ เกิดการสะสมน้าบนพื้นที่ซึ่งระบายออกไม่ทันทาให้ พื้นที่นั้นมีน้าท่วม ภัยร้ายที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยเกิดจากฝนตกหนัก ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน บางครั้งทาให้เกิดแผ่นดินถล่ม อาจมีสาเหตุจากพายุหมุนเขตร้อนลมมรสุมมีกาลังแรง มีกาลังแรง ร่องความกดอากาศต่ามีกาลังแรง อากาศแปรปรวน น้าทะเลหนุนแผ่นดินไหว เขื่อนพัง ทาให้เกิด อุทกภัยได้เสมอ ปัญหาอุทกภัยก่อให้เกิดโรคต่างๆในร่างกายของเราไม่ว่าจะเป็น  โรคน้ากัดเท้า : เกิดจากความเปียกและอับชื้นบริเวณเท้าและง่ามนิ้วเท้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผิวหนัง บริเวณนั้นหลุดลอกออก ทาให้เชื้อโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อราสามารถเข้าไปฝังตัวบริเวณนั้น ทาให้ เกิดแผลผุพอง ผื่นคัน และสามารถอักเสบเป็นหนองได้ ทาให้เกิดความเจ็บปวดทรมาน เดินได้ไม่ สะดวก  โรคฉี่หนู : โรคติดต่อประเภทหนึ่งโดยมีหนูเป็นพาหะ สามารถติดต่อจากหนูสู่คนได้ผ่านทางปัสสาวะ ของหนู ไม่ว่าหนูนั้นจะฉี่ลงน้าที่ท่วมขังหรือฉี่ลงไปในอาหารที่เรารับประทาน ภายหลังจากหนูฉี่ลงน้า เชื้อโรคนี้จะแพร่กระจายอยู่ในน้า และจะเข้าสู่ร่างกายเราผ่านทางแผลที่ผิวหนังที่สัมผัสน้านั้น  โรคไข้เลือดออก : มีสาเหตุมาจากยุงลาย ซึ่งมักจะออกหากินเวลากลางวัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน อาการที่สังเกตได้ง่ายอย่างหนึ่งคือจะมีจุดเล็กๆตาม ลาตัวและแขน ขา เมื่อมีอาการดังกล่าวอย่าซื้อยามารับประทานเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที  โรคปอดอักเสบ : เกิดขึ้นกับผู้ที่สาลักเอาน้าที่ไม่สะอาดเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ ทาให้เกิดอาการ ปอดอักเสบ ปอดติดเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ไอมาก หายใจหอบและเร็ว ผู้มีอาการนี้ควรรีบไปพบ แพทย์  โรคตาแดง : เกิดจากการสัมผัสกับเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะเกิดจากการใช้มือหรือผ้าเช็ค หน้าที่มีเชื้อเหล่านี้ไปสัมผัสดวงตา ผู้ป่วยจะมีอาการคันและเคืองตา บางรายอาจจะมีอาการปวด ดวงตา บวมแดง มีขี้ตามาก ร่วมด้วย  โรคอหิวาตกโรค : เกิดจากเชื้อแบคทีเรียประเภท Vibrio Cholerae มักเกิดจากการรับประทาน อาหารที่ไม่สะอาด ซึ่งมีแมลงวันเป็นพาหะ ทาให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง มีลักษณะอุจจาระ เหลวมาก ถ่ายบ่อยทั้งวัน อาการอาจจะหายไปเองได้ แต่ถ้ามีอาการมากต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว  ไข้ไทฟอยด์ : เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Enterica Serovar ซึ่งจะอยู่ในน้าดื่มและอาหารที่ ไม่สะอาด มีเชื้อโรคปนอยู่ โดยจะเข้าไปฝังตัวในลาไส้และระบบขับถ่าย ผู้ป่วยจะมีไข้สูง เหงื่อออก
  • 4. มาก กระเพาะและลาไส้อักเสบ มีอาการท้องเสียแบบไม่มีเลือดปน ผู้ป่วยบางรายอาจจะหายได้เองใน 2-4 สัปดาห์ แต่ในรายที่มีอาการแทรกซ้อน เช่น เลือดออกทางเดินอาหาร ลาไส้ทะลุ ไตวาย ช่องท้อง อักเสบ อาจจะทาให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการไข้ไทฟอยด์ การไปพบแพทย์จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด  โรคเครียดวิตกกังวล : ผู้ประสบเหตุน้าท่วมย่อมมีอาการเครียดและวิตกกังวล อันเนื่องมาจากความ เสียหายต่อทรัพย์สินที่เกิดขึ้น การทามาหากินลาบาก ไปทางานหรือโรงเรียนไม่ได้ หาซื้อข้าวปลา อาหารลาบาก ดังนั้นอาการเครียดและซึมเศร้าจึงมักจะเกิดขึ้นกับผู้ประสบภัยทุกคน ความเครียด สามารถทาให้เกิดอาการข้างเคียงได้เช่น โรคกระเพาะอาหาร การทางานของหัวใจผิดปกติ ปวดศีรษะ ตลอดเวลา เบื่ออาหาร ดังนั้นเมื่อน้าท่วม ต้องบริหารจิตของตนเองไม่ให้เครียดมากจนเกินไป หมั่น พูดคุยปรึกษาญาติพี่น้องมากขึ้น โรคฉี่หนู เป็นโรคควรต้องระวังให้มากที่สุดหากมีปัญหาด้านอุทกภัยเนื่องจากโรคฉี่หนูหรือเรียกอีก อย่างว่าโรคเล็ปโตสไปโรซิส เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งกับคนและสัตว์ การติด เชื้อในคนมีสาเหตุมาจากการสัมผัสดิน น้า อาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะ เลือด หรือเนื้อเยื่อของของสัตว์ ที่ติดเชื้อชนิดนี้ เช่น สุนัข วัว ควาย หนู สุกร ม้า สัตว์ป่า เป็นต้นโดยผู้ติดเชื้อจากโรคฉี่หนูจะสามารถ แสดงอาการได้ตั้งแต่ 2-30 วันหลังได้รับเชื้อ แต่ส่วนใหญ่มักแสดงอาการในช่วงประมาณ 7-14 วัน ซึ่ง อาการของโรคนี้อาจปรากฏตั้งแต่ไม่มีอาการเลย มีอาการขั้นอ่อนไปจนถึงขั้นรุนแรงถึงชีวิต อาการ ของโรคฉี่หนูหากเป็นในระยะแรกสามารถหายไปได้เองใน 5-7 วัน แต่มีผู้ป่วยราว 5-10 เปอร์เซ็นต์ ที่ อาการเหมือนจะดีขึ้นและหายดี หลังจากนั้นประมาณ 1-3 วันกลับทรุดลง เนื่องจากมีการพัฒนาของ โรคไปสู่โรคฉี่หนูแบบรุนแรง และยังสามารถส่งผลกระทบถึงอวัยวะต่าง ๆ เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต หรือปอดได้เลยทีเดียว อาการของโรคชนิดรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ การวินิจฉัยโรคฉี่หนู การติดเชื้อโรคฉี่หนูที่ไม่รุนแรงอาจยากต่อการวินิจฉัย เนื่องจากมีอาการคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ เช่น โรคหวัด ในขณะที่โรคฉี่หนูชนิดรุนแรงจะวินิจฉัยได้ง่ายกว่า เนื่องจากแสดงอาการรุนแรงมากกว่า เริ่มแรกแพทย์จะตรวจร่างกายเบื้องต้นและซักถามประวัติผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง เช่น เพิ่งกลับมา จากการเดินทาง เล่นกีฬาทางน้า มีการสัมผัสกับแหล่งน้าจืด มีอาชีพที่ต้องทางานกับสัตว์ หรือเคยพัก หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคฉี่หนูควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้ให้แพทย์ทราบ หากแพทย์พิจารณาแล้วว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการติดเชื้อจากโรคฉี่หนู จึงอาจมีการส่งตรวจ เลือดหรือตรวจปัสสาวะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือตรวจทั้งคู่ ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของโรคชนิดรุนแรง อาจต้องใช้การวินิจฉัยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การเอกซเรย์ทรวงอก การตรวจเลือดเพื่อดูการทางานของ ตับและไตเพิ่มเติม เป็นต้น การรักษาโรคฉี่หนู โดยมากโรคฉี่หนูมักไม่มีอาการรุนแรงและหายดีได้เอง หรืออาจรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างยาเพนิซิล ลิน(Penicillin) หรือดอกซีไซคลิน(Doxycycline) เป็นระยะเวลา 5-7 วัน ซึ่งควรต้องรับประทานตาม กาหนดให้ครบถ้วนแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อแบคทีเรียถูกกาจัดจนหมด และ ป้องกันการกลับไปติดเชื้ออีกครั้งนอกเหนือจากยาปฏิชีวนะ ผู้ป่วยอาจรับประทานยาแก้ปวดอย่างไอบู
  • 5. โพรเฟน(Ibuprofen) หรือพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อลดอาการปวดศีรษะ มีไข้ และปวด กล้ามเนื้อได้เช่นกันในขณะที่ผู้ป่วยโรคฉี่หนูแบบรุนแรงจะต้องนอกพักที่โรงพยาบาล และรักษาอาการ ติดเชื้อด้วยการฉีดยาปฏิชีวนะเข้าไปในกระแสเลือดโดยตรง และหากมีอวัยวะใด ๆ ที่เสียหายจากการ ติดเชื้อ ทาให้ไม่สามารถใช้หรือทาหน้าที่ตามปกติได้ก็อาจจาเป็นต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ เข้าช่วย เช่น ผู้ป่วยอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือหากติดเชื้อที่ไตทาให้ไตเสียหายจนทางานไม่ได้ก็ต้องใช้การ ล้างไตเข้าช่วย เป็นต้น ผู้ป่วยบางรายอาจออกจากโรงพยาบาลได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่บางรายอาจต้องพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะของผู้ป่วย รวมถึงความ เสียหายต่ออวัยวะที่ติดเชื้อส่วนหญิงตั้งครรภ์ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเชื้ออาจแพร่ไปสู่ทารกใน ครรภ์และส่งผลให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการของโรคฉี่หนูจึงอาจต้องเข้ารับการรักษาใน โรงพยาบาลและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด การป้องกันโรคฉี่หนู  ให้ความรู้เกี่ยวกับการติดต่อของโรคแก่ประชาชน โดยแนะนาให้หลีกเลี่ยงการว่ายน้าหรือการเดินลุย ในน้าที่อาจปนเปื้อนเชื้อปัสสาวะจากสัตว์นาโรค หรือควรสวมใส่รองเท้าบู๊ตป้องกันทุกครั้งหากมีความ จาเป็น  หมั่นตรวจตราแหล่งน้าและดินทรายที่อาจมีเชื้อปนเปื้อน ควรระบายน้าตามท่อระบายออกแล้วล้าง เพื่อกาจัดน้าที่ปนเปื้อน  ส่งเสริมการป้องกันโรคแก่ผู้ที่ทาอาชีพที่มีความเสี่ยงทั้งหลาย โดยให้สวมถุงมือยางหรือรองเท้าบู๊ต  ควบคุมและกาจัดหนูตามบริเวณที่อยู่อาศัย สถานที่ทางาน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยเฉพาะ ในพื้นที่ชนบท  แยกสัตว์ที่ติดเชื้อออกจากสัตว์ชนิดอื่น ๆ และบริเวณที่อยู่อาศัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ โรค  ปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฉี่หนู โดยเลือกฉีดวัคซีนซีโรวาร์ (Serovars) สาหรับป้องกันเชื้อฉี่หนูชนิดที่พบได้บ่อยตามท้องถิ่นนั้น ๆ ทั้งนี้การฉีดวัคซีนแม้จะสามารถป้องกันโรค ฉี่หนู แต่ไม่อาจป้องกันการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อทางปัสสาวะได้  ปัจจุบันในบางประเทศมีวัคซีนโรคฉี่หนูสาหรับคน โดยใช้ฉีดป้องกันให้คนงานหรือผู้มีอาชีพเสี่ยงติด เชื้อ ได้แก่ประเทศฝรั่งเศส เสปน อิตาลี จีน ญี่ปุ่น และอิสราเอล ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีวัคซีน สาหรับคน ทฤษฎีการแก้ไขปัญหาน้าท่วม
  • 6. ทฤษฏีการแก้ไขปัญหาน้าท่วมอันเนื่องมาจากพระราชดาริตามแนวทางการบริหารจัดการด้านน้าท่วมล้น วิธีการต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดาริในการแก้ไขปัญหาน้าท่วมคือ 1. การก่อสร้างคันกั้นน้า เพื่อป้องกันน้าท่วมซึ่งเป็นวิธีการดั้งเดิมแต่ครั้งโบราณโดยการก่อสร้างคันดินกั้นน้า ขนาดที่เหมาะสมขนานไปตามลาน้าห่างจากขอบตลิ่งพอสมควร เพื่อป้องกันมิให้น้าล้นตลิ่งไปท่วมในพื้นที่ ต่างๆ ด้านใน 2. การก่อสร้างทางผันน้า เพื่อผันน้าทั้งหมดหรือบางส่วนที่ล้นตลิ่งท่วมท้นให้ออกไป โดยการก่อสร้างทางผันน้า หรือขุดคลองสายใหม่เชื่อมต่อกับลาน้าที่มีปัญหาน้า ท่วมโดยให้น้าไหลไปตามทางผันน้าที่ขุดขึ้นใหม่ไปลงลาน้า สายอื่น หรือระบายออกสู่ทะเลตามความเหมาะสม 3. การปรับปรุงและตกแต่งสภาพลาน้า เพื่อให้น้าที่ท่วมทะลักสามารถไหลไปตามลาน้าได้สะดวกหรือช่วยให้ กระแสน้าไหล เร็วยิ่งขึ้น อันเป็นการบรรเทาความเสียหายจากน้าท่วมขังได้ โดยใช้วิธีการดังนี้ – ขุดลอกลาน้าตื้นเขินให้น้าไหลสะดวกขึ้น – ตกแต่งดินตามลาดตลิ่งให้เรียบมิให้เป็นอุปสรรคต่อทางเดินของน้า – กาจัดวัชพืช ผักตบชวา และรื้อทาลายสิ่งกีดขวางทางน้าไหลให้ออกไปจนหมดสิ้น – หากลาน้าคดโค้งมาก ให้หาแนวทางขุดคลองใหม่เป็นลาน้าสายตรงให้น้าไหลสะดวก 4. การก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้าเป็นมาตรการป้องกันน้าท่วมที่สาคัญประการหนึ่งในการกักเก็บน้าที่ไหลท่วมล้น ในฤดูน้าหลาก โดยเก็บไว้ทางด้านเหนือเขื่อนในลักษณะอ่างเก็บน้า วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน: 1.หาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหานี้ 2.ศึกษารวบรวมข้อมูล 3.จัดหารายงาน 4.นาเสนองาน 5.นาเสนอครู ปรับปรุงและแก้ไข เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ -อินเตอร์เน็ต -หนังสือที่เกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดจากปัญหาน้าท่วม -วารสาร แผ่นพับรวมไปถึงข้อมูลต่างๆจากทั้งทางอนามัย โรงพยาบาล -สามารถสอบถามอาการจากผู้ที่เคยเป็นโรคนี้ซึ่งจะทาให้เราได้ข้อมูลได้แท้แน่นอน งบประมาณ ไม่เกิน 1000 บาท
  • 7. ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) ผู้จัดทาจะได้เล็งเห็นปัญหานี้ ได้มีความรู้เกี่ยวกับข้อมูลต่างๆมากขึ้น ทาให้สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้และสามารถนาไปเผยแพร่วิธีการป้องกันให้กับผู้อื่นเพื่อเป็นประโยชน์ แก่ผู้อื่นต่อๆไปได้ สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)  https://krupenka.wordpress.com/2013/01/24/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8% 8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0% B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2/  https://guru.sanook.com/8507/