SlideShare a Scribd company logo
1 of 15
IS (I30201) 
เรื่อง ปัจจัยที่ทำให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำ 
จัดทำ โดย 
นำงสำวณัฏฐนิช วิสัยพรม เลขที่ 6 
นำงสำวสุทธิดำ ประทุมทอง เลขที่ 24 
นำงสำวศุภนิดำ แก้วจันทร์เพชร เลขที่ 45 
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6/2 
เสนอ 
คุณครูชุติญำ วงษ์วัน 
โรงเรียนผดุงปัญญำ อ.เมือง จ.ตำก
คำนำ 
กำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ เรื่อง สำเหตุที่ทำให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำคืออะไร 
เนื่องจำกผู้ศึกษำพบวำ่กำรศึกษำของไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำ 
โดยศึกษำได้จำกคะแนนกำรวดัผลสัมฤทธ์ิทำงกำรสอบของนักเรียนในประเทศไทย (O-NET) 
คะแนนกำรวัดผลสัมฤทธ์ิทำงกำรสอบระดับนำนำชำติ (Pizza) 
และกำรจัดอันดับกำรศึกษำในกลุ่มประเทศอำเซียน พบวำ่คะแนนต่ำงๆของประเทศไทยอยูใ่นลำดับต่ำ 
ผู้ศึกษำจึงตั้งข้อสังเกตถึงสำเหตุที่ทำให้กำรศึกษำของไทยพัฒนำได้ลำ่ช้ำ 
โดยได้ทำกำรศึกษำและค้นควำ้ข้อมูลจำกแหลง่ตำ่งๆ 
นำข้อมูลมำวิเครำะห์ และสรุปข้อมูล สิ่งที่ทำให้กำรศึกษำของไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำมำกที่สุด 
และลดน้อยลงไปตำมลำดับ 
ผู้ศึกษำหวังเป็นอยำ่งยิ่งวำ่กำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ เรื่อง 
สำเหตุที่ทำให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำคืออะไร จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องกำรศึกษำตอ่ไป 
คณะผู้จัดทำ
สำรบัญ 
เรื่อง หน้ำ 
สำเหตุที่ทำ ให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ลำ่ช้ำคืออะไร 1 
ปัจจัยที่ส่งผลตอ่กำรพัฒนำกำรศึกษำ 1 
ผู้เรียน 1 
ครูผู้สอน 2 
นโยบำยกำรศึกษำ 3 
สภำพเศรษฐกิจ 4 
สภำพสังคม 8 
ผู้ปกครอง 9 
สรุปผลกำรวิเครำะห์สำเหตุปัจจัยที่ทำ ให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ลำ่ช้ำ 10 
บรรณำนุกรม 12
ปัจจัยที่ทำให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำ 
ในปัจจุบันกำรศึกษำของไทยมีคำ่เฉลี่ยที่ต่ำ กวำ่นำนำชำติ โดยจำกกำรศึกษำค้นควำ้และเทียบคำ่เฉลี่ยคะแนน Pizza 
ของไทยกบันำนำชำติ ซึ่งมีทั้งหมด 65 ประเทศ พบวำ่ประเทศไทยอยูใ่นอันดับที่ 50 และเมอื่เทียบกบัในกลุม่ประเทศอำเซียน 
ประเทศไทยอยูอั่นดับที่ 3 จำกจำ นวน 4 ประเทศอำเซียนที่เข้ำสอบ และที่ประชุมเศรษฐกิจโลก WEF 
ได้จัดคุณภำพกำรศึกษำของไทยอยูใ่นอันดับที่ 8 ในกลุม่ประเทศอำเซียน ซึ่งกลุม่ประเทศในอำเซียนมี 10 
ประเทศ เป็นรองจากประเทศเวียดนาม ที่ได้อันดับ 7 และประเทศกัมพูชา อันดับ 6 ซึ่งก็เป็นการบ่งบอกถึงว่า เด็กไทยคิด วิเคราะห์ไม่เป็น 
และสถิติคะแนนกำรสอบ O-NET ภำยในประเทศ พบวำ่คะแนนเฉลี่ย O-Net ของระดับชั้น ม.6 เฉลี่ย 8 
วิชำพบวำ่มีคำ่ประมำณตั้งแต่23.98 เปอร์เซ็นต์ ถึง 46.47 เปอร์เซ็นต์ และคะแนนเฉลี่ย O-Net ของระดับชั้น ม.3 เฉลี่ย 8 
วิชำพบวำ่มีคำ่ประมำณ34.50 เปอร์เซ็นต์ 
ซึ่งจะเห็นได้วำ่แมแ้ตก่ำรวดัผลสัมฤทธ์ิทำงกำรศึกษำในประเทศไทยก็ยังไมผ่ำ่นเกณฑ์มำตรฐำนพื้นฐำนคือ 50 เปอร์เซ็นต์ 
จำกผลคะแนนกำรสอบที่กล่ำวมำข้ำงต้น จะเห็นวำ่คะแนนที่สอบใน กำรสอบตำ่งๆ ต่ำ กวำ่เกณฑ์มำตรฐำนทั้งนั้น 
ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำรพัฒนำกำรศึกษำ 
ผู้เรียน 
พฤติกรรมกำรเรียนรู้ของเด็กนักเรียนแต่ละคนมีควำมแตกตำ่งกนั ขึ้นอยูก่บัตัวของผู้เรียนเอง 
ในตัวผู้เรียนแตล่ะคนมีควำมถนัดแต่ละด้ำนที่ไมเ่ทำ่กนั จึงมีข้อเปรียบเทียบระหวำ่งเด็กนักเรียนที่ฉลำด และไมฉ่ลำด 
ผู้เรียนบำงคนจะมีควำมพยำยำม มีควำมมุง่มนั่และตั้งใจในกำรเรียนทำ ให้มีควำมเข้ำใจกบับทเรียน 
และเข้ำใจในสิ่งที่ครูสอน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพรำะผู้เรียนอำจจะมีกำรเตรียมตัวลว่งหน้ำของบทเรียนนั้น 
หรืออำจจะทบทวนบทเรียนในทุกๆวนั แตผู่้เรียนส่วนหนึ่งที่ไมส่ำมำรถทำ ควำมเข้ำใจบทเรียน หรือทำ ข้อสอบไมไ่ด้ 
เนื่องจำกไมส่นใจในบทเรียน รวมถึงไมเ่ชื่อฟังหรือตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณครูสอน ไมอ่ำ่นหนังสือ 
และไมท่บทวนบทเรียนทำให้ผลคะแนนออกมำไมดี่ 
ซึ่งจะเห็นวำ่ตัวผู้เรียนเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นผลวัดระดับกำรศึกษำของไทย และตัวผู้เรียนก็อำจจะเกิดปัญหำในด้ำนตำ่งๆ 
ซึ่งทำ ให้ไมเ่ข้ำใจในกำรเรียน เชน่ 
1.ปัญหาการเรียนและการอ่าน 
1. อ่านสลับตัวอักษร อ่านออกเสียงไม่ชัด 
2. หลงบรรทัด อำ่นตะกุกตะกกั ผิดๆ ถูกๆ 
3. ขมวดคิ้วนิ่วหน้ำเวลำอำ่น ไมเ่ข้ำใจควำมหมำยของศัพท์ 
4. อำ่นสลับคำ อำ่นข้ำมคำ อำ่นช้ำ อำ่นย้อนกลับไปกลับมำ 
5. จับใจควำมเรื่องที่อำ่น หรือลำ ดับเรื่องที่อำ่นไมไ่ด้ 
2.ปัญหำด้ำนกำรเขียน 
ในเรื่องกำรเขียนบกพร่อง Dysgraphia เป็นควำมบกพร่องทำงกระบวนกำรเขียนเพื่อสื่อ
ควำมหมำย ไมเ่กยี่วข้องในเรื่องของสติปัญญำ ดังนั้น ปัญหำที่ทำ ให้กำรเขียนบกพร่องมีดังนี้ 
1. ทักษะกำรใช้ ไมส่ำมำรถรับรู้กำรเรียงลำ ดับควำมจำ 
2. กำรรับรู้ด้ำนมิติทำงกำรเห็น ควำมจำ จำกกำรเห็น 
3. ทักษะที่เกยี่วข้องกบักำรพูด เชน่ กำรเรียงลำ ดับกำรพูด กำรจำ คำ พูด กำรเข้ำใจคำ พูด 
4. กำรแสดงออกกำรจำ แนกเสียงที่ได้ยิน 
5. ไมมี่ทักษะกำรอำ่น รู้คำ ศัพท์น้อย 
6. ขำดทักษะกำรใช้ไวยำกรณ์ กำรเรียงลำ ดับประโยค 
จำกกำรวิเครำะห์ข้อมูลจะเห็นวำ่ตัวผู้เรียนเองเป็นส่วนสำคัญที่ทำ ให้กำรศึกษำพัฒนำ หรือไมพั่ฒนำได้ 
เพรำะตัวผู้เรียนจะเข้ำใจเนื้อหำที่เรียนได้ หรือสอบวดัผลออกมำได้คะแนนที่สูงนั้น 
ต้องขึ้นอยูก่บัควำมพยำยำมของตัวผู้เรียนเอง ถ้ำผู้เรียนมีควำมมุง่มนั่และตั้งใจในกำรอำ่นหนังสือและทบทวนบทเรียน 
กำรสอบวดัระดับตำ่งๆก็สำมำรถทำ ได้คะแนนสูงและมีควำมเข้ำใจในเนื้อหำ แตถ่้ำไมมี่ควำมสนใจ 
หรือไมอ่ำ่นหนังสือแล้วถึงแมจ้ะเป็นคนเกง่ แตค่วำมเข้ำใจในบทเรียนรวมถึงผลคะแนน อำจไมไ่ด้ดีเสมอไป 
ครูผู้สอน 
คุณครูมีบทบำทสำคัญเป็นอยำ่งมำกในกำรพัฒนำผู้เรียน 
เพรำะคุณครูมีบทบำทในกำรอบรมสั่งสอนนักเรียนให้ได้รับควำมรู้ 
ครูกบันักเรียนนับวำ่เป็นบุคคลที่มีควำมใกล้ชิดกนัมำกที่สุด 
จนกระทั่งในอดีตยกยอ่งให้ครูเป็นบิดำคนที่สองของศิษย์ ผู้ปกครองเมอื่ส่งบุตรหลำนเข้ำโรงเรียนก็ฝำกควำมหวงัไวกั้บครู 
กลำ่วคือ มอบภำระตำ่ง ๆ ในกำรอบรมดูแล ลูกหลำนของตนให้แกค่รู ดังนั้น ครูจึงควรปฏิบัติหน้ำที่ของครูให้สมบูรณ์ที่สุด 
และควรสร้ำงมนุษย์สัมพันธ์อันดีระหวำ่งครูและศิษย์ให้แน่นแฟ้น ให้ศิษย์มีควำมรู้สึกฝังใจตลอดไป 
วิธีกำรที่ครูควรจะทำ ตอ่ศิษย์ เชน่ 
1. สอนศิษย์ให้เกิดควำมสำมำรถในกำรเรียนรู้ในวิชำกำรตำ่ง ๆ ให้มำกที่สุดเทำ่ที่ครูจะกระทำ ได้ 
2. สอนให้นักเรียนหรือศิษย์ของตนมีควำมสุขเพลิดเพลินกบักำรเลำ่เรียนไมเ่บื่อหน่ำย อยำกจะเรียนอยูเ่สมอ 
3. อบรมดูแลควำมประพฤติของศิษย์ให้อยูใ่นระเบียบวินัยหรือกรอบของคุณธรรม 
ไมป่ลอ่ยให้ศิษย์กระทำ ชั่วด้วยประกำรทั้งปวง 
4. ดูแลควำมทุกข์สุขอยูเ่สมอ 
5. เป็นที่ปรึกษำหำรือ ชว่ยแกปั้ญหำตำ่ง ๆ ให้แกศิ่ษย์ 
ครูมีบทบำทสำคัญที่ให้ควำมรู้ กำรศึกษำแกตั่วนักเรียน คุณครูต้องอบรมสั่งสอนให้ควำมรู้แกผู่้เรียน 
คอยแนะนำถึงสิ่งที่ถูกและผิด สอนผู้เรียนในสิ่งตำ่งๆที่ครูพึงกระทำ ได้ 
คอยดูแลและอบรมควำมประพฤติของผู้เรียนให้เป็นไปในทำงที่ดี
ครูที่คอยใส่ใจนักเรียนจะทำ ให้ผู้เรียนรักและเคำรพรวมถึงตั้งใจศึกษำ แตห่ำกครูทำ ตนไมดี่ไมส่นใจนักเรียน 
อำจทำ ให้ผู้เรียนไมช่อบตรู และไมอ่ยำกเรียนในสิ่งที่ครูคนนั้นสอนได้ ส่งผลให้ครูเป็นสิ่งจำ เป็นตอ่กำรศึกษำ 
นโยบำยกำรศึกษำ 
กำรจัดระบบกำรศึกษำของไทยนั้นในปัจจุบันนี้ ระบบกำรศึกษำไทยนั้นยังจัดเป็นระบบกำรศึกษำในระบบโรงเรียน 
กำรศึกษำนอกระบบโรงเรียน และกำรศึกษำตำมอัธยำศัย โดยมีพระรำชบัญญัติศึกษำ แห่งชำติ พ.ศ. 2542 
เพื่อมุง่หวงัวำ่เด็กคนไทยจะได้สำมำรถปรับตัวได้เหมำะสมกับสถำนกำรณ์โลกและสังคมที่เปลี่ยนแปลง 
เพื่อนำไปสู่กำรพัฒนำกำรศึกษำให้มีคุณภำพจึงได้จัดทำ แผนกำรศึกษำระยะยำว 15 ปี เรียกวำ่ แผนกำรศึกษำแห่งชำติ 
พ.ศ.2545-2559 ซึ่งมีกฎหมำยบังคับให้เด็กไทยได้มีกำรศึกษำขั้นต่ำ 15 ปี หรือ ม.3 นั่นเอง 
จำกคำ แถลงนโยบำยของรัฐบำลพระยำมโนปกรณ์นิติธำดำ พ.ศ. 2475 
กลำ่วไวว้ำ่ “กำรจัดกำรศึกษำเพื่อจะให้พลเมืองได้มีกำรศึกษำโดยแพร่หลำย 
ก็จะต้องอนุโลมตำมระเบียบกำรปกครองที่ให้เข้ำลักษณะเกยี่วกบัแผนเศรษฐกิจแห่งชำติ 
หลักสูตรของโรงเรียนและมหำวิทยำลัยจะต้องขยำยให้สูงขึ้นเทำ่เทียมอำรยประเทศ 
ในกำรนี้จะต้องเทียบหลักสูตรของนำนำประเทศ 
หลักสูตรใดสูงถือตำมหลักสูตรนั้น” จำกคำ แถลงนโยบำยของรัฐบำลพระยำมโนปกรณ์นิติธำดำ 
จะเห็นได้วำ่รัฐบำลชุดตอ่ๆมำก็พยำยำมที่จะต้องกำรจัดกำรศึกษำของไทยให้ทั่วถึงในหมูป่ระชำชนทั่วทั้งประเทศ 
โดยมีผลจำกกำรเข้ำมำของชำวตะวนัตกและกำรเปิดประเทศค้ำขำยกับตะวนัตกนั้น ก็ได้มีกำรปรับปรุง 
รื้อผังกำรเรียนกำรสอนยกชุด เพื่อกำรปฏิรูปรูปแบบกำรศึกษำไทยตำมแบบของชำวตำ่งชำติ ถ้ำวิเครำะห์ดูพบวำ่ 
ได้ตั้งควำมหวงัเรื่องกำรศึกษำไวสู้งเกินไปจะให้เทำ่เทียมอำรยประเทศก็อำจจะเป็นไปไมไ่ด้ 100% 
หรืออำจจะแยก่วำ่นั้นก็เป็นได้ เพรำะกำรปฏิรูปกำรศึกษำบอ่ยๆ อำจจะทำ ให้เด็กนักเรียน นักศึกษำสับสนตอ่เนื้อหำกำรศึกษำ 
ซึ่งเนื้อหำอำจจะง่ำยหรือยำก ด้วยตัวของเด็กนักเรียน นักศึกษำอำจจะไมมี่ควำมเข้ำใจในเนื้อหำด้วย 
และเนื่องด้วยสภำวกำรณ์ในประเทศยังไมมี่ควำมพร้อม โดยเฉพำะด้ำนเศรษฐกิจ 
ด้ำนกำรเมืองกำรปกครองซึ่งเป็นปัญหำใหญข่องประเทศที่กระทบตอ่กำรศึกษำไทยได้ 
และในขณะนี้ได้มีกำรประท้วงทำงกำรเมือง ได้มีกำรตั้งม็อบประท้วงในเขตกรุงเทพมหำนคร 
ซึ่งก็ทำ ให้มีกำรปิดโรงเรียนในหลำยๆแห่งในเขตกรุงเทพมหำนครก็ทำ ให้เด็กนักเรียนขำดเรียนซึ่งก็เป็นผลในกำรที่อำจจะเรีย 
นไมทั่น ต้องมีกำรเลื่อนสอบกลำงภำค-ปลำยภำค เลื่อนสอบ GAT-PAT ตำ่งๆนำนำ 
จำกที่ได้หำข้อมูลจำกแหลง่อ้ำงอิงเกี่ยวกับเรื่องกำรศึกษำนั้น 
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ออนไลน์ได้มีกำรสอบถำมควำมคิดเห็นไปยังอำจำรย์นันทวิทย์ เหลำ่วิชยำ จำกคณะนิเทศศำสตร์ 
มหำวิทยำลัยกรุงเทพ เกยี่วกบัเรื่องกรณีกำรศึกษำไทยถูกจัดอยูใ่นอันดับท้ำยสุดในอำเซียน ซึ่งอำจำรย์ นันทวิทย์ เหลำ่วิชยำ 
ได้เผยวำ่ ระบบกำรศึกษำของประเทศไทยในขณะนี้กำ ลังเดินมำผิดทำง ซึ่งทำงกลุม่ของดิฉันก็เห็นด้วย 
เนื่องจำกนโยบำยที่มีอยูไ่มส่นับสนุนกำรเรียนกำรสอนอยำ่งจริงจัง ส่วนใหญจ่ะเน้นกำรให้กำรแจกทั้งหนังสือ ตำ รำเรียน 
และแท็บเล็ต อำจำรย์นันทวิทย์ เหลำ่วิชยำ จึงมองวำ่ควรมีกำรปฏิรูปกำรศึกษำใหมท่ั้งระบบ 
ในส่วนของครูผู้สอนนั้นก็ไมส่ำรมำรถทำ งำนได้อยำ่งเต็มที่ 
เพรำะนโยบำยของกระทรวงที่เน้นกำรจัดทำ ผลงำนครูมำกเกินไป 
และเงินเดือนที่ได้รับก็ไมเ่พียงพอจนต้องหำรำยได้เสริม ทำ ให้ไมส่ำมำรถทุม่เทเวลำในกำรจัดเตรียมกำรเรียนกำรสอนได้อยำ่
งเต็มที่ 
ดังนั้นจึงเห็นวำ่กำรจะปฏิรูปกำรศึกษำของไทยได้นั้นจำ เป็นจะต้องให้ควำมสำคัญทั้งส่วนของนโยบำยและคำ่ตอบแทนครูคว 
บคูก่นัทั้งสองด้ำน เมอื่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถำมไปยังอำจำรย์ผู้สอนแล้ว ก็ยังสอบถำมไปยังผู้เรียนคือ 
นำงสำวจิรำภำ ภิญญสำสน์ นักศึกษำภำควิชำวำรสำรสนเทศ คณะนิเทศศำสตร์ มหำวิทยำลัยศรีปทุม 
ซึ่งพี่เขำก็ได้แสดงควำมเห็นวำ่ ในส่วนตัวของพี่เขำคิดวำ่ผลกำรจัดอันดับเกยี่วกบัเรื่องกำรศึกษำในอำเซียนที่ได้อ้ำงอิงมำ 
มีกำรสะท้อนควำมจริง เนื่องจำกระบบกำรศึกษำไทยเปลี่ยนระบบ รูปแบบบอ่ย เชน่ GAT PAT จนเด็กไมทั่นได้เข้ำใจระบบ 
อีกทั้งเรื่องกำรเรียน กำรสอบ ยังเน้นในเรื่องของกำรทอ่งจำ มำกเกินไป ซึ่งกำรทอ่งจำ ก็จำ เป็น แตถ่้ำมีมำกทุกวิชำ 
สุดท้ำยจะกลำยเป็นภำระกำรอำ่นหนังสือเตรียมสอบที่หนัก ทวำ่เมอื่สอบเสร็จแล้วก็พร้อมจะลืม 
จึงควรให้มีข้อสอบแบบวิเครำะห์ ที่วดัควำมเข้ำใจเนื้อหำที่นักเรียนสำมำรถที่จะเข้ำใจได้มำกกวำ่ นำงสำวจิรำภำ 
ยังบอกอีกวำ่ เรื่องของครูผู้สอนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลตอ่กำรศึกษำ เด็กไทยมีกำรบ้ำน 
รำยงำนเยอะอำจเพรำะกำรสอนที่เน้นปริมำณผลงำนมำก จนบำงครั้งถ้ำเยอะมำกไป เด็กก็จะทำ แบบส่งๆ เข้ำใจบ้ำง 
ไมเ่ข้ำใจบ้ำง และอีกเรื่องคือคำ่นิยมตอ่เรื่องสถำนบันกำรศึกษำ ผลกำรเรียนหรือเกรด เหลำ่นี้ทำ ให้เด็กกดดัน 
บำงครั้งควำมสำเร็จอำจไมไ่ด้เกิดจำกเกรดและสถำบันเทำ่นั้น คนเรียนจบแล้วทำ งำนยังต้องมีควำมขยันหมนั่เพียรด้วย 
ในเรื่องเกยี่วกบันโยบำย ซึ่งเป็นระดับประเทศ จะเห็นได้วำ่ 
รัฐบำลหลำยยุคยังให้ควำมสำคัญกับเรื่องกำรศึกษำในระดับรองเมื่อเทียบกับปัญหำด้ำนอื่นๆ 
ควำมจริงแล้วเรื่องกำรศึกษำถือวำ่เป็นปัญหำที่สำคัญและเร่งด่วนของประเทศ 
ซึ่งมีข้อที่น่ำสังเกตวำ่ผู้ที่จะมำรับผิดชอบกำ กับดูแลกำรศึกษำของชำติกลับกลำยเป็นวำ่ไมไ่ด้เป็นบุคคลที่มีควำมรู้มีควำมเข้ำใจ 
งำนด้ำนกำรศึกษำ หรือมีควำมรู้และประสบกำรณ์ทำงด้ำนกำรศึกษำไมม่ำกนัก 
กลำ่วคืออำจมีควำมรู้และประสบกำรณ์ในวิชำชีพอื่น แตเ่มอื่มำรับผิดชอบงำนทำงด้ำนกำรศึกษำกลับไมส่ำมำรถกำ กับดูแล 
และกำ หนดนโยบำยด้ำนกำรศึกษำให้บรรลุผลสำเร็จตำมเป้ำหมำย และนโยบำยกำรศึกษำของชำติได้ ดังนั้น 
จึงส่งผลกระทบตอ่กำรปฏิรูปกำรศึกษำและแนวทำงกำรปฏิบัติกับบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 
ทั้งๆที่ในวงกำรศึกษำมีบุคลำกรที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถอยำ่งมำกมำย 
กำรศึกษำของประเทศไทยเริ่มต้นมำจำกวฒันธรรมของคนไทยที่ได้รับกำรสั่งสอนมำตั้งแตโ่บรำณให้เคำรพเชื่อฟังค 
รูบำอำจำรย์ ซึ่งจะเห็นได้วำ่มีวนัไหวค้รู ดังนั้นครูสมยักอ่นจะดุและนักเรียนจะเชื่อฟังมำก นักเรียนจะกลัว ไมก่ล้ำถำม 
ไมก่ล้ำตอบ ทำ ให้ปลูกฝังมำจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นระบบที่ฟังจำกครูอยำ่งเดียว ไมก่ล้ำคิด ไมก่ล้ำแสดงควำมคิดเห็น 
วิเครำะห์ไมเ่ป็น กำรศึกษำไทยเป็นระบบป้อนเข้ำอยำ่งเดียว ไมมี่กำรแลกเปลี่ยนกนั หรือมีก็น้อยมำก 
มีกำรสนใจใฝ่หำควำมรู้ด้วยตนเองน้อย ทำ ให้เด็กคิดไมเ่ป็น วิเครำะห์ไมเ่ป็น 
ยิ่งมีกำรเน้นย้ำ ด้วยกำรสอบโดยอำศัยควำมจำ เป็นหลักนักเรียนก็จะทอ่งจำ อยำ่งเดียว ที่ซ้ำ ร้ำยกวำ่นั้น 
สังคมปลูกฝังให้นักเรียนต้องเป็นคนเกง่ ซึ่งนักเรียน ก็จะแขง่กนัโดยไมคิ่ดถึงเรื่องอื่น ๆ 
เมอื่ผิดหวงัรุนแรงก็ไมส่ำมำรถแกปั่ญหำตนเองได้ เหลำ่นี้เป็นต้น 
แตก่็เห็นวำ่ในปัจจุบันจะได้พัฒนำและเปลี่ยนรูปแบบกำรเรียนกำรสอนแล้ว เด็กกล้ำคิด กล้ำทำ มำกขึ้น 
ก็นับวำ่เป็นจุดที่ดีที่จะพัฒนำให้ทัดเทียมประเทศอื่นต่อไป 
นอกจำกนั้นกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียนก็ไมมี่มำตรฐำนเดียวกนั เครื่องมืออุปกรณ์ 
สื่อกำรเรียนกำรสอนก็แตกตำ่งกนัมำก ไมว่ำ่จะเป็นโรงเรียนรัฐบำลด้วยกนั หรือโรงเรียนเอกชน
ตำ่งจังหวดันั้นไมมี่อุปกรณ์สื่อกำรสอนเลยในขณะที่กรุงเทพฯ มีมำกมำย ทำ ให้เด็กมีมำตรฐำนไมเ่หมือนกนัอยู่แล้ว 
และนำเกณฑ์เดียวกนัมำวดัทำ ให้เกิดควำมล้มเหลวทำงกำรศึกษำ 
และในโรงเรียนก็ไมไ่ด้สอนเต็มที่เพรำะต้องกำรให้นักเรียนมำเรียนพิเศษอันนำมำซึ่งรำยได้เพิ่ม 
สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงกำรพัฒนำช้ำของระบบกำรศึกษำอีกอยำ่งหนึ่งคือสถำบันกวดวิชำ จะเห็นได้วำ่เป็นที่น่ำสนใจมำก 
มีผู้เรียนเยอะเสียคำ่เลำ่เรียนแพงมำก แตธุ่รกิจพวกนี้ก็ยังอยูไ่ด้ แสดงวำ่มีคนเรียนมำกขึ้นเรื่อย ๆ 
ถ้ำหำกมีกำรสอนที่ดีในโรงเรียนแล้วเด็กก็จะไมต่้องมำเรียนพิเศษมำกมำยขนำดนั้น 
จะเห็นได้วำ่นโยบำยกำรศึกษำของไทยเป็นอีกปัจจัยที่ทำ ให้กำรศึกษำมีกำรเปลี่ยนแปลง หรือมีกำรดำ เนินงำน 
นโยบำยกำรศึกษำที่ออกมำจำกกระทรวงศึกษำธิกำรนั้นมีทั้งนโยบำยที่ดี และนโยบำยที่ไมดี่ 
นโยบำยที่ดีของรัฐบำลที่ออกมำ ผู้เรียน หรือคุณครูที่ทำ กำรสอนก็ไมส่ำมำรถตอบรับนโยบำยของรัฐบำลได้ 
เชน่นโยบำยที่รัฐบำลออกมำเพื่อปรับปรุงคุณภำพครู โครงกำรยกระดับคุณภำพครูทั้งระบบ (UTQ) 
เป็นโครงกำรที่ดีที่รัฐบำลออกมำเพื่อให้ครูได้ทดสอบควำมสำมำรถ มีกำรจัดเตรียมกำรเรียนกำรสอนและให้ทำ ผลงำน 
แตค่รูผู้ทำ โครงกำรบำงทำ่น ก็ไมไ่ด้ทำ ผลงำนด้วยตนเอง โดยบำงโรงเรียนจะมีครูเพียงคนเดียวที่ทำ ข้อสอบ และก็จำ ข้อสอบ 
ทำ เป็นคำ ตอบให้ครูทำ่นอื่นเข้ำไปทดสอบ ผลกำรวดัระดับที่ออกมำก็จะเป็นคะแนนที่ไมจ่ริง 
ไมใ่ชค่วำมสำมำรถของคุณครูคนนั้นเอง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม เป็นควำมไมถู่กต้องของจรรยำบรรณ 
ทำ ให้ระบบกำรศึกษำของไทยเกิดชอ่งโหวข่ึ้น 
สภำพเศรษฐกิจ 
สภำพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีกำรเปลี่ยนแปลงจำกอดีตเป็นอย่ำงมำก 
มีกำรเปลี่ยนแปลงในด้ำนตำ่งๆมำกมำยทั้งกำรติดต่อค้ำขำยกบัตำ่งประเทศ รำคำสินค้ำอุปโภคบริโภค แรงงำน กำรเกษตร 
ภำษี ฯลฯ 
ไทยเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเปิด (open economy) 
คือเป็นประเทศที่ติดตอ่ทำ กำรซื้อขำยสินค้ำและบริกำรกับประเทศเพื่อนบ้ำน 
กำรค้ำระหวำ่งประเทศจึงมีบทบำทสำคัญในฐำนะกลไกในกำรพัฒนำและนำควำมเจริญรุ่งเรืองมำสู่ประเทศ 
รวมทั้งมีส่วนสำคัญในกำรผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศขยำยตัวอยำ่งรวดเร็ว นับตั้งแต่พ.ศ. 2504 
ซึ่งเป็นปีที่รัฐบำลประกำศใช้แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 1 มำเป็นแนวทำงในประเทศ 
กำรค้ำระหวำ่งประเทศของไทยที่ผำ่นประเทศไทยส่วนใหญจ่ะขำดดุลกำรค้ำ และได้ดุลกำรค้ำกำรชำ ระเงินเป็นส่วนใหญ่ 
เนื่องจำกสินค้ำส่งออกของไทยส่วนใหญจ่ะเป็นสินค้ำเกษตรกรรม ได้แก่ข้ำว ยำงพำรำ ไมสั้ก ดีบุก ข้ำวโพด 
ผลิตภัณฑ์มนัสำปะหลัง กุง้สด ทุเรียน มงัคุดและที่ส่งออกมำกขึ้นโดยเป็นสินค้ำส่งออกที่สำคัญได้แก่ซีเมนต์ อัญมณี
ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ผ้ำไหมไทย แตใ่นขณะเดียวกนั ประเทศไทยก็ได้นำเข้ำสินค้ำเยอะมำก เป็นเหตุให้เรำขำดดุลกำรค้ำ 
สำมำรถจำ แนกสินค้ำนำเข้ำได้ดังนี้ 
 สินค้ำอุปโภคบริโภคประเภทอำหำร ผลิตภัณฑ์นม เครื่องดื่ม เครื่องใช้ในบ้ำน 
มีแนวโน้มลดลงเพรำะมีกำรผลิตทดแทนกำรนำเข้ำ และพัฒนำไปสู่กำรผลิตเพื่อกำรส่งออก 
 สินค้ำกึ่งสำเร็จรูปและวตัถุดิบ เพื่อใช้ในอุตสำหกรรมภำยใน มีแนวโน้มสูงขึ้น 
 สินค้ำประเภททุน ได้แก่เครื่องจักร เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องทุน่แรงรถแทรกเตอร์ ปุ๋ยเคมี มีแนวโน้มสูงขึ้น 
 สินค้ำอื่นๆ ได้แก่รถยนต์ เชื้อเพลิง อะไหลร่ถยนต์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 
ในรอบระยะ 10 ปีที่ผำ่นมำอัตรำกำรนำเข้ำสินค้ำของไทยสูงมำกขึ้น 
เนื่องจำกกำรเร่งพัฒนำประเทศมีควำมจำ เป็นต้องนำเข้ำสินค้ำทุนมำกขึ้น 
กำรบริโภคของคนในประเทศเพิ่มขึ้นอันเนื่องมำจำกพฤติกรรมกำรบริโภคเลียนแบบ 
ซึ่งมกัจะเป็นสินค้ำฟุ่มเฟือยและมีรำคำสูง นอกจำกนี้ประเทศไทยส่งเสริมกำรค้ำเสรี ควบคุมกำรนำเข้ำเพียงไมก่รี่ำยกำร 
จึงมีกำรนำเข้ำสินค้ำอยำ่งมำก จำกสำเหตุเหลำ่นี้ เป็นเหตุให้ประเทศไทยขำดดุลกำรค้ำมำตลอด 
เศรษฐกิจและกำรค้ำของไทยในระยะที่ผำ่นมำจะขยำยตัวในอัตรำที่สูงมำก 
แตจ่ำกสถำนกำรณ์เศรษฐกิจและกำรค้ำของโลกที่กำ ลังเปลี่ยนแปลงไปกลำ่วคือ ได้มีกำรนำมำตรกำรใหมๆ่ 
มำเป็นข้ออ้ำงในกำรกีดกนักำรค้ำมำกขึ้น เชน่ กำรใช้มำตรกำรตอ่ต้ำนกำรทุม่ตลำด และ 
ตอบโต้กำรอุดหนุนกำรห้ำมนำเข้ำโดยอัตโนมตัิ โดยใช้เหตุผลทำงสุขอนำมยั มำตรฐำนสินค้ำหรือสิ่งแวดล้อม 
กำรแขง่ขันในตลำดกำรค้ำโลกที่มีควำมเข้มข้นยิ่งขึ้น 
ในส่วนของประเทศไทยนอกจำกแสวงหำผลประโยชน์จำกสถำนกำรณ์ทำงเศรษฐกิจและกำรค้ำของโลกโดยเข้ำร่วมในกลุ่มเ 
ศรษฐกิจกำรค้ำที่มีผลประโยชน์สอดคล้องกนัและผลักดันให้มีกำรพัฒนำอำเซียนเป็นเขตกำรค้ำเสรีแล้ว 
จะต้องพัฒนำสินค้ำออกของไทยให้มีศักยภำพในกำรแขง่ขันมำกขึ้นทั้งในด้ำนคุณภำพ มำตรฐำนสินค้ำ 
และประสิทธิภำพในกำรผลิตเพื่อรักษำส่วนแบง่ตลำดสินค้ำไทยในตลำดโลก 
รวมทั้งจะต้องแสวงหำลูท่ำงที่จะขยำยกำรลงทุนของไทยไปในภูมิภำคตำ่งๆ 
ให้มำกขึ้นทั้งในลักษณะของกำรลงทุนโดยตรงและกำรร่วมทุน 
เพื่อเป็นชอ่งทำงให้สินค้ำออกของไทยกระจำยไปสู่ตลำดตำ่งๆ ได้ง่ำยขึ้น 
ภำวะกำรเปลี่ยนแปลงทำงเศรษฐกิจสังคมและกำรเมืองนั้น 
ยอ่มกอ่กำ เนิดขึ้นได้ตลอดเวลำตำมลักษณะแห่งปัจจัยในแตล่ะด้ำน สำหรับกำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนเศรษฐกิจ 
นับได้วำ่มีควำมสำคัญ ใหญห่ลวง จะมีผลกระทบเชน่ไรตอ่กำรดำ รงชีพของประชำชนโดยส่วนรวมในแตล่ะชว่งเวลำ 
ตลอดจนจะต้องพิจำรณำควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจของประเทศด้วยวำ่มีแนวโน้มดำ เนินไปอยำ่งไร 
ประสำนสอดคล้องกบัปัจจัยตำ่งๆ ในขณะนั้นหรือไมเ่พียงใด สมควรที่จะได้ปรับปรุงและแกไ้ขข้อบกพร่องด้ำนใดบ้ำง 
ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะกอ่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตอ่สังคมส่วนรวมโดยแท้จริง ปัญหำเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ 
มีสำเหตุมำจำกกำรดำ เนินนโยบำยทำงเศรษฐกิจที่มุง่จะรักษำอัตรำควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจในอัตรำสูง 
จึงทำ ให้มีกำรพึ่งพำปัจจัยภำยนอกประเทศเกินสมควร 
จำกกำรติดตำมสถำนกำรณ์ทำงเศรษฐกิจปัญหำตำ่งๆเหลำ่นี้จะคงอยู่ตอ่ไปและจะทวีควำมรุนแรงมำกขึ้น
หำกไมมี่กำรปรับปรุงโครงสร้ำงกำรผลิต กำรนำเข้ำ และกำรส่งออกตลอดจนกำรแกไ้ขนโยบำยเศรษฐกิจหลำยๆ 
ด้ำนอยำ่งมีระเบียบแบบแผน ปัญหำเหลำ่นี้ก็จะยิ่งสะสมเพิ่มพูนขึ้นจนยำกที่จะแกไ้ข 
อัตรำกำรว่ำงงำนของประชำชน 
สำนักสถิติเผยตัวเลขคนวำ่งงำนปี 56 เพิ่มขึ้นกวำ่ปี 55 ทั่วประเทศ กรุงเทพฯ ภำคกลำง และภำคใต้ 
มีอัตรำวำ่งงำนมำกที่สุด โดยบัณฑิตป้ำยแดงเตะฝุ่นมำกถึง 1.4 แสนคน 
วนันี้ (19 ตุลำคม 2556) สำนักงำนสถิติแห่งชำติ เปิดเผยผลสำรวจสถำนะภำพมีงำนทำ ของประชำชนชำวไทย 
ประจำ เดือนกนัยำยน 2556 พบวำ่ ประเทศไทยมีบุคคลที่อำยุมำกกวำ่ 15 ปี จำ นวน 55.13 ล้ำนคน 
แบง่เป็นผู้ที่พร้อมจะทำ งำนหรืออยูใ่นชว่งกำ ลังแรงงำน 39.32 ล้ำนคน และผู้ที่อยูน่อกกำ ลังแรงงำนหรือไมพ่ร้อมจะทำ งำน 
15.81 ล้ำนคน ซึ่งส่วนใหญบุ่คคลกลุม่นี้เป็น แมบ่้ำน นักเรียน และคนชรำ 
สำหรับ ผู้ที่อยูใ่นกำ ลังแรงงำน จำ นวน 39.32 ล้ำนคนนี้ แบง่เป็นผู้มีงำนทำ 39 ล้ำนคน, วำ่งงำน 2.64 แสนคน 
และผู้ที่รอฤดูกำลกำรทำ งำน 6.5 หมนื่คน นอกจำกนี้ ในจำ นวนผู้มีงำนทำ 39 ล้ำนคน ประกอบไปด้วย 
ผู้ทำ งำนในภำคเกษตรกรรม 15.68 ล้ำนคน และนอกภำคเกษตรกรรม 23.32 ล้ำนคน 
ทั้งนี้ หำกนำจำ นวนผู้ทำ งำนในเดือนกนัยำยน 2556 เทียบกบัเดือนกนัยำยน 2555 พบวำ่ 
จำ นวนผู้ทำ งำนลดน้อยลง คือ ภำคเกษตรกรรมลดลง 1 หมนื่คน และนอกภำคเกษตรกรรมลดลง 1.4 แสนคน 
ส่วนสถิติด้ำนผู้ที่วำ่งงำนอยูน่ั้น หำกแบง่ตำมระดับกำรศึกษำ พบวำ่ในระดับอุดมศึกษำวำ่งงำนมำกที่สุด จำ นวน 
1.4 แสนคน เพิ่มขึ้นจำกเดือนกนัยำยน 2555 จำ นวน 4.6 หมนื่คน รอง ลงมำเป็นระดับมธัยมศึกษำตอนปลำย จำ นวน 5.9 
หมนื่คน, ระดับมธัยมศึกษำตอนต้น จำ นวน 5.1 หมนื่คน และระดับประถมศึกษำ จำ นวน 3.1 หมนื่คน 
นอกจำกนี้ หำกนำสถิติกำรวำ่งงำนมำสำรวจตำมรำยภำค พบวำ่ กรุงเทพฯ ภำคกลำง และภำคใต้ 
มีอัตรำวำ่งงำนมำกที่สุด จำ นวนร้อยละ 0.8 รองลงมำเป็นภำคตะวนัออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 0.6 และภำคเหนือ ร้อยละ 0.3 
ซึ่งถ้ำหำกเปรียบเทียบสถิติกับปีที่แล้ว พบวำ่คนไทยวำ่งงำนเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ 
สำนักงำนสถิติแห่งชำติ รำยงำนอีกวำ่ จำ นวนของผู้ที่ทำ งำนต่ำ กวำ่ระดับหรือผู้มีงำนทำ 
แตท่ำ งำนได้ไมเ่ต็มประสิทธิภำพ หรือต้องกำรทำ งำนเพิ่มเพื่อเพิ่มรำยได้นั้น ปัจจุบันมีจำ นวน 2.85 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 
0.7 ของผู้มีงำนทำ 
รำยได้ของครัวเรือน ปี 2556 
ในชว่ง 6 เดือนแรกของปี 2556 ครัวเรือนทั่วประเทศ มีรำยได้เฉลี่ยเดือนละ 25,403 บำท 
ส่วนใหญเ่ป็นรำยได้จำกกำรทำ งำนร้อยละ 73.5 ซึ่งได้แก่คำ่จ้ำงและเงินเดือน ร้อยละ 40.9 กำ ไรสุทธิจำกกำรทำ ธุรกิจร้อยละ 
18.5 และกำ ไรสุทธิจำกกำรทำ กำรเกษตรร้อยละ 14.1 และมีรำยได้ที่ไมไ่ด้เกิดจำกกำรทำ งำน เชน่ 
เงินที่ได้รับควำมชว่ยเหลือจำกบุคคลอื่นนอกครัวเรือน/รัฐร้อยละ 10.5 รำยได้จำกทรัพย์สิน เชน่ดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 
นอกจำกนั้นยังมีรำยได้ ที่ไมเ่ป็นตัวเงินซึ่งอยูใ่นรูปสวสัดิกำร/สินค้ำ และบริกำรตำ่งๆ ร้อยละ 13.1 
ค่ำใช้จ่ำยของครัวเรือน ปี 2556 
ในชว่ง 6 เดือนแรกของปี 2556 ครัวเรือนทั่วประเทศมีคำ่ใช้จำ่ยเฉลี่ยเดือนละ 19,259 บำท คำ่ใช้จำ่ยร้อยละ 34.1 
เป็นคำ่อำหำรและเครื่องดื่ม (ซึ่งในจำ นวนนี้มีคำ่เครื่องดื่ม ที่เป็นแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.1) 
รองลงมำเป็นคำ่ใช้จำ่ยเกยี่วกบักำรเดินทำงและยำนพำหนะร้อยละ 20.3 คำ่ที่อยูอ่ำศัย และเครื่องใช้ภำยในบ้ำนร้อยละ 19.2
ของใช้ส่วนบุคคล/เครื่องนุ่งห่ม/รองเท้ำร้อยละ 5.6 ใช้ในกำรสื่อสำรร้อยละ 3.1 ใช้เพื่อกำรศึกษำ กำรบันเทิง/กำรจัดงำนพิธี 
และคำ่เวชภัณฑ์/คำ่รักษำพยำบำลใกล้เคียงกนัคือ รอ้ยละ1.7 1.6 และ 1.5 กิจกรรมทำงศำสนำมีเพียงร้อยละ 1.1 
ในส่วนของคำ่ใช้จำ่ย ที่ไมเ่กยี่วกบักำรอุปโภคบริโภค เชน่คำ่ภำษี ของขวญั เบี้ยประกนัภัย ซื้อสลำกกินแบง่/ หวย ดอกเบี้ย 
พบวำ่มีกำรใช้จำ่ยสูงถึง ร้อยละ 11.8 
เศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยที่ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยตำ่งๆที่มีผลตอ่กำรศึกษำ 
จะเห็นวำ่สภำพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีกำรเปลี่ยนแปลงไปจำกในอดีตเป็นอยำ่งมำก 
ปัจจุบันเป็นเศรษฐกิจที่มีกำรเจริญเติบโตด้ำนอุตสำหกรรม ทำ ให้คนส่วนใหญต่้องจำกครอบครัวและไปทำ งำนที่โรงงำน 
คนในครอบครัวจึงไมมี่เวลำพบปะพูดคุยกนั พอ่แมไ่มมี่เวลำให้ลูกเกิดปัญหำและกำรทะเลำะ 
แตเ่ศรษฐกิจในประเทศไทยก็ยังมีอัตรำกำรวำ่งงำนที่ยังสูง และรำยได้เฉลี่ยตอ่คนที่รับต่อหนึ่งเดือน คือ 25,403 บำท 
แตล่ะคนก็มีรำยจำ่ยที่ต้องใช้ซึ่งมีคำ่ใช้จำ่ยเฉลี่ยเดือนละ 19,259 บำท 
สภำพสังคม 
ประสบกำรณ์ในหลำยประเทศ สะท้อน กำรลงทุนพัฒนำกำรศึกษำของรัฐถ้ำทำ ได้ทั่วถึงและมีคุณภำพ 
เมื่อทำ ไปได้ระยะหนึ่งจะชว่ยแกปั้ญหำคนจนและลดควำมเหลื่อมล้ำ ต่ำ สูงได้ในระดับหนึ่ง 
แตก่ำรบริหำรจัดกำรศึกษำในประเทศไทยไมไ่ด้ให้บริกำรคนจนได้อยำ่งเสมอภำค 
คือถึงคนยำกจนส่วนหนึ่งได้เรียนชั้นประถมหรือมธัยมต้นบ้ำง 
ก็มกัจะได้เรียนในสถำนศึกษำในชนบทหรือชุมชนแออัดที่มีคุณภำพต่ำ กวำ่สถำนศึกษำสำหรับคนรวยคนชั้นกลำง กำรบริหำร 
จัดกำรศึกษำไทยจึงไมไ่ด้ชว่ยแก้ปัญหำควำมยำกจนและกำรกระจำยรำยได้ให้เป็นธรรมขึ้น 
คนจนเข้ำถึงกำรศึกษำที่มีคุณภำพได้น้อยกวำ่คนที่ไมจ่น และกำรที่ประเทศไทยมีนักเรียนออกกลำงคัน/เรียนไมจ่บชั้นมธัยมป 
ลำยเป็นสัดส่วนสูงนั้นเป็นเพรำะรัฐบำลไมไ่ด้มุง่แกปั้ญหำเพื่อช่วยคนจนเป็นกำรเฉพำะ 
แตใ่ช้วิธีลงทุนจัดกำรศึกษำแบบให้บริกำรคนทั้งประเทศเหมือน ๆ 
กนั เชน่โรงเรียนของภำครัฐไมเ่ก็บคำ่เลำ่เรียนหรือเก็บต่ำ ในระดับประถม มัธยม/อำชีวศึกษำ 
นโยบำยสนับสนุนคำ่ใช้จำ่ยให้นักเรียนในระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนเพิ่มมำจำกค่ำเลำ่เรียนอีก 4 รำยกำร (เชน่เสื้อผ้ำ 
หนังสือเรียน อุปกรณ์กำรเรียน กำรสนับสนุนกำรสอนของโรงเรียน) ของรัฐบำลพรรคประชำธิปัตย์ในปี 2552 
นโยบำยดังกลำ่วชว่ยแบง่เบำภำระของพอ่แม่ได้บ้ำง แตไ่มไ่ด้ชว่ยให้ลูกคนจนได้เรียนหนังสือฟรีถึง 15 ปีจริง 
เพรำะคนจนนั้นมีภำระเทียบตอ่รำยได้ของพวกเขำหนักกวำ่คนที่ไมจ่น คำ่ใช้จำ่ยด้ำนกำรเดินทำง 
กินอยูข่องนักเรียนที่ไปโรงเรียนที่อยูเ่มืองใหญห่รือตัวอำ เภอนั้น เป็นภำระหนักมำกสำหรับคนจน 
คนจนจึงมกัส่งลูกได้เรียนแคช่ั้นประถมในโรงเรียนในเขตคนจน ซึ่งมีคุณภำพต่ำ กวำ่โรงเรียนสำหรับคนไมจ่น 
และลูกคนจนมกัจะออกกลำงคันไมไ่ด้เรียนถึงชั้นมธัยมหรือเรียนไมจ่บชั้นมัธยมปลำย ด้วยเหตุผลหลำยประกำร 
ทั้งควำมยำกจน สภำพแวดล้อมที่ไมเ่อื้ออำ นวยในกำรที่จะเรียนให้ได้ดีพอจะแขง่ขันไปเรียนชั้นสูงได้ 
และคำ่เสียโอกำสในกำรที่จะออกไปทำงำนหำรำยได้เลี้ยงตัวเองหรือจุนเจือครอบครัวได้ 
ดังนั้นแทนที่รัฐจะใช้งบประมำณประชำนิยมแบบหำเสียงจำกคนทั้งประเทศ ควรเน้นไปชว่ยคนจนกลุม่ 20% ที่จนที่สุดและ 
20% ที่จนรองลงมำให้มีทุนสำหรับคำ่ใช้จำ่ยอื่น ๆ ด้วย จะเป็นกำรใช้งบประมำณที่ส่งผลให้คนจนได้มีโอกำสเรียนได้สูงขึ้น 
และมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำเศรษฐกิจสังคมได้มำกขึ้นกวำ่นโยบำยที่เรียกชื่อเกินควำมจริงวำ่นโยบำยเรียนฟรี 15 ปี
จะเห็นได้วำ่สภำพสังคมไทยมีกำรกระจำยรำยได้ที่ไมทั่่วถึง ทำ ให้มีคนรวย และคนจน 
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำ ให้เกิดควำมแตกตำ่งในสังคม คนรวยจะมีสิทธิและโอกำสในกำรรับกำรศึกษำมำกกวำ่คนจน 
ทั้งโอกำสในด้ำนตำ่งๆ โรงเรียนหรือมหำวิทยำลัยที่มีคุณภำพ ควำมพร้อมของตนเอง แรงสนับสนุนจำกครอบครัว ฯลฯ 
ซึ่งแตกตำ่งจำกคนจน ซึ่งมีโอกำสในกำรรับกำรศึกษำได้น้อยกวำ่ หรือได้รับกำรศึกษำที่มีคุณภำพต่ำ 
ส่วนใหญก่็จะจบกำรศึกษำระดับชั้น ม.3 หรือ ม.6 เพียงเทำ่นั้น ซึ่งจะเป็นข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจนในสังคม 
ผู้ปกครอง 
ควำมสัมพันธ์ระหวำ่งกำรเลี้ยงดูของผู้ปกครอง ตอ่กำรเรียนรู้ของเด็ก 
1. ควำมสัมพันธ์ระหวำ่งผู้ปกครองและนักเรียน กำรพูดคุยกนัในเรื่องรำวที่เกิดขึ้นในแต่ 
ละวนั แมทุ้กครอบครัวจะทำ อยูบ่้ำงแล้ว แตป่ริมำณและคุณภำพจะตำ่งกนั พื้นฐำนกำรพูดคุยควรเป็น 
เชิงบวก เกอื้หนุนให้กำ ลังใจกนั กำรแลกเปลี่ยนเป็นไปทั้งสองฝ่ำย ที่จะรับฟังซึ่งกนัและกนั ทั้งมีกำรจัดเวลำเพื่อให้มีโอกำส 
พูดคุยกนั เชน่ เวลำรับประทำนอำหำรร่วมกนั 
ผู้ปกครองที่ไมมี่เวลำมำกพอที่จะพูดคุยกนัทุกวนั หำกเพียงแตจั่ดเวลำเพียงวนัละ 2- 
3 นำที รับฟังลูกๆ คุยถึงเรื่องรำวที่ได้ประสบพบเห็นในวนันั้นโดยไมมี่คนอื่นสิ่งอื่นมำรบกวน ก็ถือวำ่เป็นประสบกำรณ์ที่มี 
คุณคำ่และยิ่งไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครอบครัวอื่นๆ ก็จะทวีคุณคำ่มำกขึ้น 
2. ชีวิตประจำ วนัของเด็กๆ เด็กๆ จะเรียนรู้ได้ดีหำกผู้ปกครองกำ หนดกรอบกติกำที่ชัดเจนและมนั่คงในชีวิต 
ในกำรส่งเสริมให้เด็กได้ใช้เวลำให้เกิดประโยชน์ และมีประสบกำรณ์เรียนรู้ที่มีคุณคำ่ 
ซึ่งแสดงให้เห็นวำ่ชีวิตประจำ วนัของครอบครัวปฏิสัมพันธ์ระหวำ่งเด็กและ ผู้ปกครอง งำนอดิเรกและสันทนำกำรที่ครอบครั 
วทำ ร่วมกนั ล้วนเสริมสร้ำงควำมพร้อมสำหรับ กำรเรียนรู้ที่ดี 
3. ควำมคำดหวงัและกำรกำ กับดูแลโดยครอบครัว ครอบครัวยังชว่ยกระตุ้นส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กทดลอง สิ่งใหมๆ่และพัฒ 
นำตนเองให้ดีขึ้น รวมทั้งชว่ยแนะนำในเรื่องกำรเรียนรู้ในโรงเรียนติดตำม ควำมกำ้วหน้ำอยำ่งตอ่เนื่อง และที่สำคัญ ปลูกฝังค่ 
ำนิยมวำ่ ผลงำนเกิดจำกกำรทำ งำนอยำ่งมุง่มนั่ 
มำกกวำ่จำกโชคชะตำ หรือกำรเลน่เส้น ผู้ปกครองอำจชว่ยลูกๆ จัดระบบในชีวิตให้มีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น เชน่ 
ให้วำงแผนหลังเลิกเรียนวำ่ จะทำ อะไร อำ่นอะไร เลน่กบัใคร ดูรำยกำรทีวีอะไร กำรวิเครำะห์กำ หนดกำรในลักษณะนี้ 
จะชว่ยชี้ ให้เห็นวำ่ ครอบครัวให้ควำมสำคัญแกเ่รื่องใด เด็กๆ ควรมีเวลำอยำ่งน้อยวนัละ 10 นำที ที่จะอำ่น หนังสือ 
และเมอื่ใดที่เด็กดูโทรทัศน์มำกกวำ่วนัละ 90 นำที ต้องถือวำ่เวลำถูกปล้นไปจำกกิจกรรม เรียนรู้อื่นๆ ที่เกิดประโยชน์ 
อยำ่ลืมวำ่เด็กๆ ต้องมีเวลำสำหรับควำมสนุกสนำนเพลิดเพลินบ้ำง แตก่ำรเรียนรู้ก็ต้องมำ เป็นลำ ดับแรก 
“กฎหลักทสี่ำคัญทสีุ่ดของผู้ปกครอง คือ กำรรู้ว่ำ ลูกอยู่ทไี่หน ทำ อะไร และอยู่กับใคร”
ครอบครัว คือพื้นฐำนสำคัญของพัฒนำกำรมนุษย์ กำรเรียนรู้ของเด็กเริ่มต้นเกิดขึ้นในครอบครัว ครัวที่มีควำมสุขควำมอบอุ่ 
นจะชว่ยให้เด็กเติบโตเป็นประชำกรที่มีคุณภำพ ครอบครัวไทยในปัจจุบันกำ ลังเผชิญปัญหำมำกขึ้น เนื่องจำกสังคมมีกำรเป 
ลี่ยนแปลงอยำ่งรวดเร็ว ควำมเจริญทำงวตัถุมำกขึ้น โครงสร้ำงของครอบครัวเปลี่ยนไป ครอบครัวมีขนำดเล็กลง กำรหยำ่ร้ำ 
งมำกขึ้น คนสนใจและให้ควำมสำคัญตอ่จิตใจน้อย 
พอ่แมมี่เวลำให้ลูกน้อยลง มีปัญหำในกำรเลี้ยงดูเด็กมำกขึ้น ครอบครัวขำดควำมอบอุน่ 
ขำดควำมสุข ทำ ให้เกิดปัญหำเด็กและวยัรุ่นมำกขึ้น กำรส่งเสริมให้ครอบครัวมีควำมเข้มแข็ง จึงเป็นเรื่องสำคัญอยำ่งยิ่ง 
จำกกำรวิเครำะห์สำเหตุปัจจัยที่ทำให้กำรศึกษำของไทยพัฒนำได้ช้ำ ซึ่งได้แก่ผู้เรียน ครูผู้สอน สภำพเศรษฐกิจ 
นโยบำยกำรศึกษำ และผู้ปกครอง พบวำ่สิ่งที่มีผลทำ ให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำมำกที่สุด คือ ผู้ปกครอง 
ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญในกำรพัฒนำกำรเรียนรู้ของผู้เรียน โดยควรจะชว่ยให้ผู้เรียนอำ่นหนังสือ หรืออำ่นหนังสือให้ฟัง 
ชว่ยสนับสนุนกำรศึกษำ ซึ่งจะชว่ยให้ผู้เรียนรักกำรอำ่นและมีควำมสนใจในกำรศึกษำ 
สภำพครอบครัวผู้ปกครองควรมีเวลำดูแลเอำใจใส่เด็ก คอยแนะนำ ตักเตือนในสิ่งตำ่งๆ และให้ควำมรู้ 
และกำรศึกษำของผู้ปกครองก็มีส่วนเหมือนกนั เนื่องด้วย ผู้ปกครองเด็กบำงคนเรียนมำสูง 
ก็ยังส่งลูกเรียนจนเข้ำมหำวิทยำลัย แตบ่ำงครอบครัวไมใ่ช่เพรำะผู้ปกครองมีควำมรู้น้อย 
จึงไมส่นับสนุนเด็กในด้ำนกำรเรียนเทำ่ที่ควร อีกทั้งกำ ลังทรัพย์ไมเ่พียงพอ รองลงมำคือ ครู 
กำรสอนของครูจะชว่ยให้เด็กสนใจ หรือไมน่ั้น ครูควรมีเทคนิคกำรสอนที่ทำ ให้ผู้เรียนมีควำมสนใจ 
และต้องเอำใจใส่ในผู้เรียนวำ่เข้ำใจในบทเรียนหรือไม่ และควรให้คำ ปรึกษำในเรื่องกำรเรียนแกผู่้เรียน 
และยังมีเรื่องของงำนที่คุณครูให้นักเรียนเยอะมำก จนทำ ให้ไมมี่เวลำอำ่นหนังสือทบทวนบทเรียนมำกเทำ่ที่ควร 
อีกทั้งครูต้องยึดมนั่ในวิชำชีพครู ให้เกียรติตอ่อำชีพ ทำ งำนอยำ่งเต็มที่ และให้คำ แนะนำแกนั่กเรียน รองลงมำคือ สภำพสังคม 
สภำพสังคมทำ ให้โอกำสในกำรรับกำรศึกษำของคนไมเ่ทำ่กนั คนรวยมีโอกำสมำกกวำ่คนจน 
และคนจนก็มีโอกำสที่จะได้รับกำรศึกษำน้อยกวำ่ ทั้งจำ นวนคนที่ได้รับกำรศึกษำและในระดับชั้นของกำรศึกษำ 
ซึ่งคนจนจะจบแคช่ั้นมธัยมศึกษำปีที่ 3 หรือมธัยมศึกษำปีที่ 6 เทำ่นั้น 
และสุดท้ำยสำเหตุที่ทำ ให้กำรศึกษำไทยพัฒนำรองลงมำคือ สภำพเศรษฐกิจ 
เศรษฐกิจมีกำรเปลี่ยนแปลงมำกยิ่งขึ้นเป็นสังคมของอุตสำหกรรม 
ทำ ให้เกิดกำรโยกย้ำยสภำพสังคมเกิดกำรเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อโครงสร้ำงประชำกรและกำรเรียนรู้ 
และสภำพเศรษฐกิจของครอบครัวในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปมำก ครอบครัวมีขนำดเล็กลง และเกิดกำรหยำ่ร้ำงเพิ่มขึ้น 
ผู้ปกครองไมมี่เวลำสนใจแลผู้เรียน ทำ ให้ผู้เรียนมีพัฒนำด้ำนกำรศึกษำลดน้อยลง รองลงมำคือ นโยบำยกำรศึกษำของรัฐ 
ซึ่งนโยบำยของรัฐทำ ให้ผู้เรียนมีควำมสับสนในระบบของกำรศึกษำ และระบบกำรศึกษำสร้ำงควำมยุง่ยำกให้แกผู่้เรียนมำก 
ทั้งกำรสอบ 7 วิชำสำมญั, GAT, PAT หรือ O-NET 
และจำกผลคะแนนกำรวดัระดับกำรศึกษำพบวำ่ระดับกำรศึกษำของไทยอยูอั่นดับที่ 8 ในกลุม่ประเทศอำเซียน ซึ่งรั้งท้ำยมำก 
หรือคะแนน O-NET ที่วดัผลสัมฤทธ์ิภำยในประเทศก็ตำมก็ไมผ่ำ่นเกณฑ์มำตรฐำน 50 เปอร์เซ็นต์ 
รัฐบำลจึงควรปรับนโยบำยกำรศึกษำให้มีประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น แตบ่ำงนโยบำยที่กระทรวงกำ หนดขึ้นมำก็เป็นนโยบำยที่ดี 
แตน่โยบำยนั้นจะประสบควำมสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อได้รับควำมร่วมมือจำกผู้ตอบสนองนโยบำย เชน่ ครู 
และผู้เรียนถ้ำไมส่ำมำรถตอบสนองนโยบำยที่ออกมำได้มนัก็ไมเ่ป็นผล ทำ ให้กำรศึกษำไมไ่ด้พัฒนำเพิ่มมำกขึ้น ได้ลำ่ช้ำที่สุด
คือ ผู้เรียน เนื่องด้วยจำกตัวของผู้เรียนเองที่ต้องมีควำมพยำยำมและหมนั่ศึกษำ 
มีควำมตั้งใจเรียนในกำรเรียนกำรสอนจึงจะส่งผลให้ผู้เรียนพัฒนำ และกำรศึกษำก็จะพัฒนำขึ้น 
แตใ่นปัจจุบันก็มีสิ่งที่ดึงควำมสนใจของผู้เรียนไป ทำ ให้มีควำมสนใจในกำรศึกษำลดน้อยลง เชน่ สื่อตำ่งๆ 
ที่เป็นสิ่งสำคัญในกำรดึงดูดควำมสนใจของผู้เรียน พบวำ่ สื่อประเภทโทรทัศน์ ไมค่อ่ยสนับสนุนในเรื่องกำรศึกษำ 
จะเห็นได้วำ่รำยกำรที่เกยี่วกบักำรศึกษำมีน้อยมำก ส่วนใหญจ่ะเป็นรำยกำรบันเทิง 
หรือเรียลลิตี้โชว์ซึ่งให้แตค่วำมบันเทิงมำกกวำ่ 
จะมีรำยกำรดีๆที่เกยี่วกับกำรศึกษำก็จะออกอำกำศในเวลำที่ไมเ่หมำะสมกับเวลำที่ผู้เรียนจะสำมำรถดูได้ 
สำเหตุปัจจัยเหลำ่นี้จึงเป็นสิ่งที่ทำ ให้กำรศึกษำของไทยล้ำหลัง 
ข้อเสนอแนะในกำรแกไ้ขปัญหำ จำกปัญหำที่กลำ่วมำในข้ำงต้น 
มีทั้งสำเหตุหลักและสำเหตุรองหลำยประกำรที่ทำ ให้กำรพัฒนำกำรศึกษำของไทยยังไปไมถึ่งไหน พัฒนำได้ช้ำ 
แตอ่ยำ่งไรก็ยังไมส่ำยเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงกำรศึกษำของไทยให้ดีขึ้น 
ทั้งนี้กำรแกปั้ญหำกำรศึกษำบุคลำกรที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือร่วมใจกนัทั้งระบบ 
เริ่มตั้งแตผู่้ที่จะมำกำ กับดูแลงำนทำงด้ำนกำรศึกษำ รัฐบำลจะต้องแตง่ตั้งบุคคลที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถ 
มีวิสัยทัศน์ทำงด้ำนกำรศึกษำจริงๆ มำรับผิดชอบ 
นอกจำกนั้นกำรกำ หนดหลักสูตรกำรเรียนกำรสอนจะต้องกำ หนดให้มีหัวข้อวิชำคุณธรรม 
จริยธรรมไวใ้นทุกหลังสูตรทุกระดับ จะต้องเพิ่มขวญัและกำ ลังใจให้กบัครู 
กำรเลื่อนวิทยฐำนะของครูต้องมีควำมเหมำะสมและเป็นธรรม และที่สำคัญในส่วนของผู้ปกครอง สื่อมวลชน 
สถำบันทำงศำสนำ ต้องแสดงบทบำทและหน้ำที่ในกำรมีส่วนรวมกบักำรพัฒนำกำรศึกษำได้ด้วย 
หำกทุกฝ่ำยที่เกยี่วข้องกับกำรศึกษำตระหนักถึงควำมสำคัญในบทบำทและหน้ำที่และร่วมมือร่วมใจกนัอยำ่งจริงจัง 
ผู้เขียนเชื่อวำ่กำรศึกษำของไทยจะพัฒนำได้อยำ่งไมช่้ำเหมือนที่ผำ่นมำ
บรรณำนุกรม 
บริษัทคลินิคจิต-ประสำท. 2556. พฤติกรรมกำรเลี้ยงดูของครอบครัว. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : 
http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/41008/41008_04_1.htm 
ผศ.นพ.พนม เกตุมำน. 2556. กำรเลี้ยงดูของครอบครัว. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.psyclin.co.th/ 
new_page_54.htm 
ประเสริฐ ศรีแสนปำง. 2556. ควำมสัมพันธ์ระหวำ่งกำรเลี้ยงดูของครอบครัวต่อกำรเรียนรู้ของเด็ก. 
(ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.gotoknow.org/posts/155745 
สำนักงำนสถิติแห่งชำติ. 2556. พฤติกรรมกำรดูแลเด็กกอ่นวยัเรียนของครอบครัวไทย. (ออนไลน์). 
แหลง่ที่มำ : http://service.nso.go.th/nso/data/02/child_learn.html 
เดลินิวส์ออนไลน์. 2556. ระบบกำรศึกษำไทย. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.dailynews.co.th/ 
Content/Article/72129/ 
นำยจำตุรนต์ ฉำยแสง. 2556. นโยบำยด้ำนกำรศึกษำรัฐมนตรีวำ่กำรกระทรวงศึกษำธิกำร. (ออนไลน์). 
แหลง่ที่มำ : http://www.bic.moe.go.th/th/images/stories/ed-policy/ 
พงศ์เทพ เทพกำญจนำ. 2556. จุดเน้นกำรขับเคลื่อนนโยบำยรัฐบำลด้ำนกำรศึกษำของกระทรวงศึกษำธิกำร. 
(ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.bic.moe.go.th/th/images/stories/edpolicy/ 
ดร.สุชำติ ธำดำธำรงเวช. 2556. นโยบำยกระทรวงศึกษำธิกำร. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : 
http://www.moe.go.th/ moe/upload/File/ST_ED_Speech24Jan12NEW3.pdf 
ชินวรณ์ บุณยเกียรติ. 2556. นโยบำยกำรพัฒนำกำรศึกษำ. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.bic.moe.go. 
images/stories/ed-policy/8policies-chinnaworn.pdf 
ไทยรัฐออนไลน์. 2556. หลักสูตรกำรศึกษำแบบก็อปปี้ อันตรำยของกำรศึกษำไทย. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : 
http://www.thairath.co.th/content/edu/377662 
บ้ำนจอมยุทธ. 2556. กำรศึกษำของไทย. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.baanjomyut.com/ library_3/ 
extension-1/study_of_thailand/10.html 
ร้อยตำ รวจเอกหญิง อำภรณ์ รัตน์มณี. 2556. ทำ ไมระบบกำรศึกษำไทยจึงพัฒนำช้ำ.(ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : 
http://school8.education.police.go.th/technical/technical05.html 
รศ.พญ.จันท์ฑิตำ พฤกษำนำนนท์. 2556. เด็กกบัปัญหำกำรเรียนรู้. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : 
http://www.doctor.or.th/article/detail/7894

More Related Content

What's hot

IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม1
IS1  การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม1IS1  การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม1
IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม1พัน พัน
 
การจัดการเรียนรู้ Stad
การจัดการเรียนรู้ Stadการจัดการเรียนรู้ Stad
การจัดการเรียนรู้ StadSandee Toearsa
 
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6Napadon Yingyongsakul
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาทssuser21a057
 
ชุดการเรียนรู้ เรื่อง-ทวิปอเมริกาเหนือ-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่-3-โดยครูบุญฤท...
ชุดการเรียนรู้ เรื่อง-ทวิปอเมริกาเหนือ-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่-3-โดยครูบุญฤท...ชุดการเรียนรู้ เรื่อง-ทวิปอเมริกาเหนือ-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่-3-โดยครูบุญฤท...
ชุดการเรียนรู้ เรื่อง-ทวิปอเมริกาเหนือ-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่-3-โดยครูบุญฤท...KruNistha Akkho
 
เด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้านเด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้านaapiaa
 
ความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุด
ความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุดความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุด
ความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุดrisa021040
 
นำเสนองานวิจัยประชุมวิชาการ มศว นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
นำเสนองานวิจัยประชุมวิชาการ มศว นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์นำเสนองานวิจัยประชุมวิชาการ มศว นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
นำเสนองานวิจัยประชุมวิชาการ มศว นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์Kobwit Piriyawat
 
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรงการศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรงKru Tew Suetrong
 
ส่งวิจัยในชั้นเรียน1.59
ส่งวิจัยในชั้นเรียน1.59ส่งวิจัยในชั้นเรียน1.59
ส่งวิจัยในชั้นเรียน1.59Natthapon Inhom
 
แผน Stad
แผน Stadแผน Stad
แผน Stadnangnut
 
งานBest practice ครูมยุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษา
งานBest practice ครูมยุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษางานBest practice ครูมยุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษา
งานBest practice ครูมยุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษานางมยุรี เซนักค้า
 
Is1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2
Is1  การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2Is1  การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2
Is1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2พัน พัน
 
วิจัยในชั้นเรียนโครงงานเป็นฐาน
วิจัยในชั้นเรียนโครงงานเป็นฐานวิจัยในชั้นเรียนโครงงานเป็นฐาน
วิจัยในชั้นเรียนโครงงานเป็นฐานthkitiya
 
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทฤษฎีความรู้ (Tok) กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ นายก...
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทฤษฎีความรู้ (Tok) กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ นายก...แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทฤษฎีความรู้ (Tok) กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ นายก...
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทฤษฎีความรู้ (Tok) กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ นายก...Kobwit Piriyawat
 
วิจัยสุขศึกษา
วิจัยสุขศึกษาวิจัยสุขศึกษา
วิจัยสุขศึกษาan1030
 
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51Watcharapon Donpakdee
 

What's hot (20)

วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบวิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
วิจัยในชั้นเรียน ครู เจี๊ยบ
 
IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม1
IS1  การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม1IS1  การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม1
IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม1
 
นโยบาย สพฐ.ปีงบประมาณ 2558 มี 11 ประการ
นโยบาย สพฐ.ปีงบประมาณ 2558 มี 11 ประการนโยบาย สพฐ.ปีงบประมาณ 2558 มี 11 ประการ
นโยบาย สพฐ.ปีงบประมาณ 2558 มี 11 ประการ
 
การจัดการเรียนรู้ Stad
การจัดการเรียนรู้ Stadการจัดการเรียนรู้ Stad
การจัดการเรียนรู้ Stad
 
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
แผนการสอนการงานอาชีพ ป.6
 
ระบบประสาท
ระบบประสาทระบบประสาท
ระบบประสาท
 
หน่วย 1
หน่วย 1หน่วย 1
หน่วย 1
 
ชุดการเรียนรู้ เรื่อง-ทวิปอเมริกาเหนือ-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่-3-โดยครูบุญฤท...
ชุดการเรียนรู้ เรื่อง-ทวิปอเมริกาเหนือ-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่-3-โดยครูบุญฤท...ชุดการเรียนรู้ เรื่อง-ทวิปอเมริกาเหนือ-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่-3-โดยครูบุญฤท...
ชุดการเรียนรู้ เรื่อง-ทวิปอเมริกาเหนือ-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่-3-โดยครูบุญฤท...
 
เด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้านเด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้าน
 
ความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุด
ความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุดความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุด
ความพึงพอใจในการใช้บริการห้องสมุด
 
นำเสนองานวิจัยประชุมวิชาการ มศว นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
นำเสนองานวิจัยประชุมวิชาการ มศว นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์นำเสนองานวิจัยประชุมวิชาการ มศว นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
นำเสนองานวิจัยประชุมวิชาการ มศว นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
 
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรงการศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
การศึกษารายกรณี ครูธัญญา ซื่อตรง
 
ส่งวิจัยในชั้นเรียน1.59
ส่งวิจัยในชั้นเรียน1.59ส่งวิจัยในชั้นเรียน1.59
ส่งวิจัยในชั้นเรียน1.59
 
แผน Stad
แผน Stadแผน Stad
แผน Stad
 
งานBest practice ครูมยุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษา
งานBest practice ครูมยุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษางานBest practice ครูมยุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษา
งานBest practice ครูมยุรี โรงเรียนวัดโบสถ์ศึกษา
 
Is1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2
Is1  การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2Is1  การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2
Is1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ กลุ่ม2
 
วิจัยในชั้นเรียนโครงงานเป็นฐาน
วิจัยในชั้นเรียนโครงงานเป็นฐานวิจัยในชั้นเรียนโครงงานเป็นฐาน
วิจัยในชั้นเรียนโครงงานเป็นฐาน
 
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทฤษฎีความรู้ (Tok) กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ นายก...
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทฤษฎีความรู้ (Tok) กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ นายก...แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทฤษฎีความรู้ (Tok) กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ นายก...
แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทฤษฎีความรู้ (Tok) กลุ่มสาระฯวิทยาศาสตร์ นายก...
 
วิจัยสุขศึกษา
วิจัยสุขศึกษาวิจัยสุขศึกษา
วิจัยสุขศึกษา
 
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51
 

Viewers also liked

VineIT Overview
VineIT OverviewVineIT Overview
VineIT OverviewVineIT
 
A middleware system between web and database servers
A middleware system between web and database serversA middleware system between web and database servers
A middleware system between web and database serversHyun Dong Lee
 
Tabla de contenido Sistemas
Tabla de contenido SistemasTabla de contenido Sistemas
Tabla de contenido SistemasZanti Moontoyaa
 
Providing Information Will Boost Your Web Site
Providing Information Will Boost Your Web SiteProviding Information Will Boost Your Web Site
Providing Information Will Boost Your Web Sitesonicslide2729
 
Get a new approach in SEO world
Get a new approach in SEO worldGet a new approach in SEO world
Get a new approach in SEO worldsonicslide2729
 
Blogging with Word Press
Blogging with Word PressBlogging with Word Press
Blogging with Word Presssonicslide2729
 
伝えるためのキホン 地図編
伝えるためのキホン 地図編伝えるためのキホン 地図編
伝えるためのキホン 地図編nhn0719
 
Kaka#51 opening
Kaka#51 openingKaka#51 opening
Kaka#51 openingnhn0719
 
ビジコン#1
ビジコン#1ビジコン#1
ビジコン#1nhn0719
 
การบริหารจัดการชั้นเรียน
การบริหารจัดการชั้นเรียนการบริหารจัดการชั้นเรียน
การบริหารจัดการชั้นเรียนphatcom10
 

Viewers also liked (16)

Talos
TalosTalos
Talos
 
VineIT Overview
VineIT OverviewVineIT Overview
VineIT Overview
 
A middleware system between web and database servers
A middleware system between web and database serversA middleware system between web and database servers
A middleware system between web and database servers
 
Tabla de contenido Sistemas
Tabla de contenido SistemasTabla de contenido Sistemas
Tabla de contenido Sistemas
 
Providing Information Will Boost Your Web Site
Providing Information Will Boost Your Web SiteProviding Information Will Boost Your Web Site
Providing Information Will Boost Your Web Site
 
My take on SAFe
My take on SAFeMy take on SAFe
My take on SAFe
 
Get a new approach in SEO world
Get a new approach in SEO worldGet a new approach in SEO world
Get a new approach in SEO world
 
Wings of fire_apj_abdul_kalam
Wings of fire_apj_abdul_kalamWings of fire_apj_abdul_kalam
Wings of fire_apj_abdul_kalam
 
Blogging with Word Press
Blogging with Word PressBlogging with Word Press
Blogging with Word Press
 
Nzcfs quiz with answers
Nzcfs quiz with answersNzcfs quiz with answers
Nzcfs quiz with answers
 
Create your mvp
Create your mvpCreate your mvp
Create your mvp
 
Christophe Hamm
Christophe HammChristophe Hamm
Christophe Hamm
 
伝えるためのキホン 地図編
伝えるためのキホン 地図編伝えるためのキホン 地図編
伝えるためのキホン 地図編
 
Kaka#51 opening
Kaka#51 openingKaka#51 opening
Kaka#51 opening
 
ビジコン#1
ビジコン#1ビジコン#1
ビジコン#1
 
การบริหารจัดการชั้นเรียน
การบริหารจัดการชั้นเรียนการบริหารจัดการชั้นเรียน
การบริหารจัดการชั้นเรียน
 

Similar to ปัจจัยที่ทำให้การศึกษาไทยพัฒนาได้ล่าช้า

บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553Nattapon
 
การสอบแบบวิทยาศสาตร์
การสอบแบบวิทยาศสาตร์การสอบแบบวิทยาศสาตร์
การสอบแบบวิทยาศสาตร์citylong117
 
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยการวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยsudaphud
 
จุดสิ้นสุดของการเริ่มต้นบนถนนครุวิจัย ของครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
จุดสิ้นสุดของการเริ่มต้นบนถนนครุวิจัย ของครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์จุดสิ้นสุดของการเริ่มต้นบนถนนครุวิจัย ของครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
จุดสิ้นสุดของการเริ่มต้นบนถนนครุวิจัย ของครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์Kobwit Piriyawat
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,Itnanut Nunkaew
 
สรุปแบบย้อนกลับ แก้ไขด้วย
สรุปแบบย้อนกลับ แก้ไขด้วยสรุปแบบย้อนกลับ แก้ไขด้วย
สรุปแบบย้อนกลับ แก้ไขด้วยkrunakhonch
 
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554Nattapon
 
Constructivist theories
Constructivist  theoriesConstructivist  theories
Constructivist theoriespimporn454
 
งานวิจัยเผยแพร่
งานวิจัยเผยแพร่งานวิจัยเผยแพร่
งานวิจัยเผยแพร่Jiraporn
 
2เอกสารประกอบการนำเสนอ
2เอกสารประกอบการนำเสนอ2เอกสารประกอบการนำเสนอ
2เอกสารประกอบการนำเสนอkrupornpana55
 
Project-based Learning with Mentoring in Control system Engineering
Project-based Learning with Mentoring in Control system EngineeringProject-based Learning with Mentoring in Control system Engineering
Project-based Learning with Mentoring in Control system EngineeringSanti Hutamarn
 
รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ศน. โมเมจ้า
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอAnekphongtupan
 
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑kroosomsri
 
เทคนิคการสอน
เทคนิคการสอนเทคนิคการสอน
เทคนิคการสอนkittitach06709
 
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วยภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วยFuangFah Tingmaha-in
 

Similar to ปัจจัยที่ทำให้การศึกษาไทยพัฒนาได้ล่าช้า (20)

บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
บันทึุกความดี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553
 
การสอบแบบวิทยาศสาตร์
การสอบแบบวิทยาศสาตร์การสอบแบบวิทยาศสาตร์
การสอบแบบวิทยาศสาตร์
 
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัยการวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
การวิจัยแบบง่ายสู่ครูนักวิจัย
 
จุดสิ้นสุดของการเริ่มต้นบนถนนครุวิจัย ของครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
จุดสิ้นสุดของการเริ่มต้นบนถนนครุวิจัย ของครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์จุดสิ้นสุดของการเริ่มต้นบนถนนครุวิจัย ของครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
จุดสิ้นสุดของการเริ่มต้นบนถนนครุวิจัย ของครูกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสวนสอบสวน(Inquiry method)ยาศาสตร์,
 
สรุปแบบย้อนกลับ แก้ไขด้วย
สรุปแบบย้อนกลับ แก้ไขด้วยสรุปแบบย้อนกลับ แก้ไขด้วย
สรุปแบบย้อนกลับ แก้ไขด้วย
 
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
 
Constructivist theories
Constructivist  theoriesConstructivist  theories
Constructivist theories
 
Constructivist theories
Constructivist  theoriesConstructivist  theories
Constructivist theories
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
 
Koy
KoyKoy
Koy
 
งานวิจัยเผยแพร่
งานวิจัยเผยแพร่งานวิจัยเผยแพร่
งานวิจัยเผยแพร่
 
2เอกสารประกอบการนำเสนอ
2เอกสารประกอบการนำเสนอ2เอกสารประกอบการนำเสนอ
2เอกสารประกอบการนำเสนอ
 
Project-based Learning with Mentoring in Control system Engineering
Project-based Learning with Mentoring in Control system EngineeringProject-based Learning with Mentoring in Control system Engineering
Project-based Learning with Mentoring in Control system Engineering
 
รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
รายงานการสังเคราะห์รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
 
งานนำเสนอ
งานนำเสนองานนำเสนอ
งานนำเสนอ
 
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
 
เทคนิคการสอน
เทคนิคการสอนเทคนิคการสอน
เทคนิคการสอน
 
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วยภารกิจระดับครูผู้ช่วย
ภารกิจระดับครูผู้ช่วย
 
R wichuta
R wichutaR wichuta
R wichuta
 

ปัจจัยที่ทำให้การศึกษาไทยพัฒนาได้ล่าช้า

  • 1. IS (I30201) เรื่อง ปัจจัยที่ทำให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำ จัดทำ โดย นำงสำวณัฏฐนิช วิสัยพรม เลขที่ 6 นำงสำวสุทธิดำ ประทุมทอง เลขที่ 24 นำงสำวศุภนิดำ แก้วจันทร์เพชร เลขที่ 45 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6/2 เสนอ คุณครูชุติญำ วงษ์วัน โรงเรียนผดุงปัญญำ อ.เมือง จ.ตำก
  • 2. คำนำ กำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ เรื่อง สำเหตุที่ทำให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำคืออะไร เนื่องจำกผู้ศึกษำพบวำ่กำรศึกษำของไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำ โดยศึกษำได้จำกคะแนนกำรวดัผลสัมฤทธ์ิทำงกำรสอบของนักเรียนในประเทศไทย (O-NET) คะแนนกำรวัดผลสัมฤทธ์ิทำงกำรสอบระดับนำนำชำติ (Pizza) และกำรจัดอันดับกำรศึกษำในกลุ่มประเทศอำเซียน พบวำ่คะแนนต่ำงๆของประเทศไทยอยูใ่นลำดับต่ำ ผู้ศึกษำจึงตั้งข้อสังเกตถึงสำเหตุที่ทำให้กำรศึกษำของไทยพัฒนำได้ลำ่ช้ำ โดยได้ทำกำรศึกษำและค้นควำ้ข้อมูลจำกแหลง่ตำ่งๆ นำข้อมูลมำวิเครำะห์ และสรุปข้อมูล สิ่งที่ทำให้กำรศึกษำของไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำมำกที่สุด และลดน้อยลงไปตำมลำดับ ผู้ศึกษำหวังเป็นอยำ่งยิ่งวำ่กำรศึกษำค้นคว้ำและกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ เรื่อง สำเหตุที่ทำให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำคืออะไร จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องกำรศึกษำตอ่ไป คณะผู้จัดทำ
  • 3. สำรบัญ เรื่อง หน้ำ สำเหตุที่ทำ ให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ลำ่ช้ำคืออะไร 1 ปัจจัยที่ส่งผลตอ่กำรพัฒนำกำรศึกษำ 1 ผู้เรียน 1 ครูผู้สอน 2 นโยบำยกำรศึกษำ 3 สภำพเศรษฐกิจ 4 สภำพสังคม 8 ผู้ปกครอง 9 สรุปผลกำรวิเครำะห์สำเหตุปัจจัยที่ทำ ให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ลำ่ช้ำ 10 บรรณำนุกรม 12
  • 4. ปัจจัยที่ทำให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำ ในปัจจุบันกำรศึกษำของไทยมีคำ่เฉลี่ยที่ต่ำ กวำ่นำนำชำติ โดยจำกกำรศึกษำค้นควำ้และเทียบคำ่เฉลี่ยคะแนน Pizza ของไทยกบันำนำชำติ ซึ่งมีทั้งหมด 65 ประเทศ พบวำ่ประเทศไทยอยูใ่นอันดับที่ 50 และเมอื่เทียบกบัในกลุม่ประเทศอำเซียน ประเทศไทยอยูอั่นดับที่ 3 จำกจำ นวน 4 ประเทศอำเซียนที่เข้ำสอบ และที่ประชุมเศรษฐกิจโลก WEF ได้จัดคุณภำพกำรศึกษำของไทยอยูใ่นอันดับที่ 8 ในกลุม่ประเทศอำเซียน ซึ่งกลุม่ประเทศในอำเซียนมี 10 ประเทศ เป็นรองจากประเทศเวียดนาม ที่ได้อันดับ 7 และประเทศกัมพูชา อันดับ 6 ซึ่งก็เป็นการบ่งบอกถึงว่า เด็กไทยคิด วิเคราะห์ไม่เป็น และสถิติคะแนนกำรสอบ O-NET ภำยในประเทศ พบวำ่คะแนนเฉลี่ย O-Net ของระดับชั้น ม.6 เฉลี่ย 8 วิชำพบวำ่มีคำ่ประมำณตั้งแต่23.98 เปอร์เซ็นต์ ถึง 46.47 เปอร์เซ็นต์ และคะแนนเฉลี่ย O-Net ของระดับชั้น ม.3 เฉลี่ย 8 วิชำพบวำ่มีคำ่ประมำณ34.50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเห็นได้วำ่แมแ้ตก่ำรวดัผลสัมฤทธ์ิทำงกำรศึกษำในประเทศไทยก็ยังไมผ่ำ่นเกณฑ์มำตรฐำนพื้นฐำนคือ 50 เปอร์เซ็นต์ จำกผลคะแนนกำรสอบที่กล่ำวมำข้ำงต้น จะเห็นวำ่คะแนนที่สอบใน กำรสอบตำ่งๆ ต่ำ กวำ่เกณฑ์มำตรฐำนทั้งนั้น ปัจจัยที่ส่งผลต่อกำรพัฒนำกำรศึกษำ ผู้เรียน พฤติกรรมกำรเรียนรู้ของเด็กนักเรียนแต่ละคนมีควำมแตกตำ่งกนั ขึ้นอยูก่บัตัวของผู้เรียนเอง ในตัวผู้เรียนแตล่ะคนมีควำมถนัดแต่ละด้ำนที่ไมเ่ทำ่กนั จึงมีข้อเปรียบเทียบระหวำ่งเด็กนักเรียนที่ฉลำด และไมฉ่ลำด ผู้เรียนบำงคนจะมีควำมพยำยำม มีควำมมุง่มนั่และตั้งใจในกำรเรียนทำ ให้มีควำมเข้ำใจกบับทเรียน และเข้ำใจในสิ่งที่ครูสอน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพรำะผู้เรียนอำจจะมีกำรเตรียมตัวลว่งหน้ำของบทเรียนนั้น หรืออำจจะทบทวนบทเรียนในทุกๆวนั แตผู่้เรียนส่วนหนึ่งที่ไมส่ำมำรถทำ ควำมเข้ำใจบทเรียน หรือทำ ข้อสอบไมไ่ด้ เนื่องจำกไมส่นใจในบทเรียน รวมถึงไมเ่ชื่อฟังหรือตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณครูสอน ไมอ่ำ่นหนังสือ และไมท่บทวนบทเรียนทำให้ผลคะแนนออกมำไมดี่ ซึ่งจะเห็นวำ่ตัวผู้เรียนเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นผลวัดระดับกำรศึกษำของไทย และตัวผู้เรียนก็อำจจะเกิดปัญหำในด้ำนตำ่งๆ ซึ่งทำ ให้ไมเ่ข้ำใจในกำรเรียน เชน่ 1.ปัญหาการเรียนและการอ่าน 1. อ่านสลับตัวอักษร อ่านออกเสียงไม่ชัด 2. หลงบรรทัด อำ่นตะกุกตะกกั ผิดๆ ถูกๆ 3. ขมวดคิ้วนิ่วหน้ำเวลำอำ่น ไมเ่ข้ำใจควำมหมำยของศัพท์ 4. อำ่นสลับคำ อำ่นข้ำมคำ อำ่นช้ำ อำ่นย้อนกลับไปกลับมำ 5. จับใจควำมเรื่องที่อำ่น หรือลำ ดับเรื่องที่อำ่นไมไ่ด้ 2.ปัญหำด้ำนกำรเขียน ในเรื่องกำรเขียนบกพร่อง Dysgraphia เป็นควำมบกพร่องทำงกระบวนกำรเขียนเพื่อสื่อ
  • 5. ควำมหมำย ไมเ่กยี่วข้องในเรื่องของสติปัญญำ ดังนั้น ปัญหำที่ทำ ให้กำรเขียนบกพร่องมีดังนี้ 1. ทักษะกำรใช้ ไมส่ำมำรถรับรู้กำรเรียงลำ ดับควำมจำ 2. กำรรับรู้ด้ำนมิติทำงกำรเห็น ควำมจำ จำกกำรเห็น 3. ทักษะที่เกยี่วข้องกบักำรพูด เชน่ กำรเรียงลำ ดับกำรพูด กำรจำ คำ พูด กำรเข้ำใจคำ พูด 4. กำรแสดงออกกำรจำ แนกเสียงที่ได้ยิน 5. ไมมี่ทักษะกำรอำ่น รู้คำ ศัพท์น้อย 6. ขำดทักษะกำรใช้ไวยำกรณ์ กำรเรียงลำ ดับประโยค จำกกำรวิเครำะห์ข้อมูลจะเห็นวำ่ตัวผู้เรียนเองเป็นส่วนสำคัญที่ทำ ให้กำรศึกษำพัฒนำ หรือไมพั่ฒนำได้ เพรำะตัวผู้เรียนจะเข้ำใจเนื้อหำที่เรียนได้ หรือสอบวดัผลออกมำได้คะแนนที่สูงนั้น ต้องขึ้นอยูก่บัควำมพยำยำมของตัวผู้เรียนเอง ถ้ำผู้เรียนมีควำมมุง่มนั่และตั้งใจในกำรอำ่นหนังสือและทบทวนบทเรียน กำรสอบวดัระดับตำ่งๆก็สำมำรถทำ ได้คะแนนสูงและมีควำมเข้ำใจในเนื้อหำ แตถ่้ำไมมี่ควำมสนใจ หรือไมอ่ำ่นหนังสือแล้วถึงแมจ้ะเป็นคนเกง่ แตค่วำมเข้ำใจในบทเรียนรวมถึงผลคะแนน อำจไมไ่ด้ดีเสมอไป ครูผู้สอน คุณครูมีบทบำทสำคัญเป็นอยำ่งมำกในกำรพัฒนำผู้เรียน เพรำะคุณครูมีบทบำทในกำรอบรมสั่งสอนนักเรียนให้ได้รับควำมรู้ ครูกบันักเรียนนับวำ่เป็นบุคคลที่มีควำมใกล้ชิดกนัมำกที่สุด จนกระทั่งในอดีตยกยอ่งให้ครูเป็นบิดำคนที่สองของศิษย์ ผู้ปกครองเมอื่ส่งบุตรหลำนเข้ำโรงเรียนก็ฝำกควำมหวงัไวกั้บครู กลำ่วคือ มอบภำระตำ่ง ๆ ในกำรอบรมดูแล ลูกหลำนของตนให้แกค่รู ดังนั้น ครูจึงควรปฏิบัติหน้ำที่ของครูให้สมบูรณ์ที่สุด และควรสร้ำงมนุษย์สัมพันธ์อันดีระหวำ่งครูและศิษย์ให้แน่นแฟ้น ให้ศิษย์มีควำมรู้สึกฝังใจตลอดไป วิธีกำรที่ครูควรจะทำ ตอ่ศิษย์ เชน่ 1. สอนศิษย์ให้เกิดควำมสำมำรถในกำรเรียนรู้ในวิชำกำรตำ่ง ๆ ให้มำกที่สุดเทำ่ที่ครูจะกระทำ ได้ 2. สอนให้นักเรียนหรือศิษย์ของตนมีควำมสุขเพลิดเพลินกบักำรเลำ่เรียนไมเ่บื่อหน่ำย อยำกจะเรียนอยูเ่สมอ 3. อบรมดูแลควำมประพฤติของศิษย์ให้อยูใ่นระเบียบวินัยหรือกรอบของคุณธรรม ไมป่ลอ่ยให้ศิษย์กระทำ ชั่วด้วยประกำรทั้งปวง 4. ดูแลควำมทุกข์สุขอยูเ่สมอ 5. เป็นที่ปรึกษำหำรือ ชว่ยแกปั้ญหำตำ่ง ๆ ให้แกศิ่ษย์ ครูมีบทบำทสำคัญที่ให้ควำมรู้ กำรศึกษำแกตั่วนักเรียน คุณครูต้องอบรมสั่งสอนให้ควำมรู้แกผู่้เรียน คอยแนะนำถึงสิ่งที่ถูกและผิด สอนผู้เรียนในสิ่งตำ่งๆที่ครูพึงกระทำ ได้ คอยดูแลและอบรมควำมประพฤติของผู้เรียนให้เป็นไปในทำงที่ดี
  • 6. ครูที่คอยใส่ใจนักเรียนจะทำ ให้ผู้เรียนรักและเคำรพรวมถึงตั้งใจศึกษำ แตห่ำกครูทำ ตนไมดี่ไมส่นใจนักเรียน อำจทำ ให้ผู้เรียนไมช่อบตรู และไมอ่ยำกเรียนในสิ่งที่ครูคนนั้นสอนได้ ส่งผลให้ครูเป็นสิ่งจำ เป็นตอ่กำรศึกษำ นโยบำยกำรศึกษำ กำรจัดระบบกำรศึกษำของไทยนั้นในปัจจุบันนี้ ระบบกำรศึกษำไทยนั้นยังจัดเป็นระบบกำรศึกษำในระบบโรงเรียน กำรศึกษำนอกระบบโรงเรียน และกำรศึกษำตำมอัธยำศัย โดยมีพระรำชบัญญัติศึกษำ แห่งชำติ พ.ศ. 2542 เพื่อมุง่หวงัวำ่เด็กคนไทยจะได้สำมำรถปรับตัวได้เหมำะสมกับสถำนกำรณ์โลกและสังคมที่เปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่กำรพัฒนำกำรศึกษำให้มีคุณภำพจึงได้จัดทำ แผนกำรศึกษำระยะยำว 15 ปี เรียกวำ่ แผนกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ.2545-2559 ซึ่งมีกฎหมำยบังคับให้เด็กไทยได้มีกำรศึกษำขั้นต่ำ 15 ปี หรือ ม.3 นั่นเอง จำกคำ แถลงนโยบำยของรัฐบำลพระยำมโนปกรณ์นิติธำดำ พ.ศ. 2475 กลำ่วไวว้ำ่ “กำรจัดกำรศึกษำเพื่อจะให้พลเมืองได้มีกำรศึกษำโดยแพร่หลำย ก็จะต้องอนุโลมตำมระเบียบกำรปกครองที่ให้เข้ำลักษณะเกยี่วกบัแผนเศรษฐกิจแห่งชำติ หลักสูตรของโรงเรียนและมหำวิทยำลัยจะต้องขยำยให้สูงขึ้นเทำ่เทียมอำรยประเทศ ในกำรนี้จะต้องเทียบหลักสูตรของนำนำประเทศ หลักสูตรใดสูงถือตำมหลักสูตรนั้น” จำกคำ แถลงนโยบำยของรัฐบำลพระยำมโนปกรณ์นิติธำดำ จะเห็นได้วำ่รัฐบำลชุดตอ่ๆมำก็พยำยำมที่จะต้องกำรจัดกำรศึกษำของไทยให้ทั่วถึงในหมูป่ระชำชนทั่วทั้งประเทศ โดยมีผลจำกกำรเข้ำมำของชำวตะวนัตกและกำรเปิดประเทศค้ำขำยกับตะวนัตกนั้น ก็ได้มีกำรปรับปรุง รื้อผังกำรเรียนกำรสอนยกชุด เพื่อกำรปฏิรูปรูปแบบกำรศึกษำไทยตำมแบบของชำวตำ่งชำติ ถ้ำวิเครำะห์ดูพบวำ่ ได้ตั้งควำมหวงัเรื่องกำรศึกษำไวสู้งเกินไปจะให้เทำ่เทียมอำรยประเทศก็อำจจะเป็นไปไมไ่ด้ 100% หรืออำจจะแยก่วำ่นั้นก็เป็นได้ เพรำะกำรปฏิรูปกำรศึกษำบอ่ยๆ อำจจะทำ ให้เด็กนักเรียน นักศึกษำสับสนตอ่เนื้อหำกำรศึกษำ ซึ่งเนื้อหำอำจจะง่ำยหรือยำก ด้วยตัวของเด็กนักเรียน นักศึกษำอำจจะไมมี่ควำมเข้ำใจในเนื้อหำด้วย และเนื่องด้วยสภำวกำรณ์ในประเทศยังไมมี่ควำมพร้อม โดยเฉพำะด้ำนเศรษฐกิจ ด้ำนกำรเมืองกำรปกครองซึ่งเป็นปัญหำใหญข่องประเทศที่กระทบตอ่กำรศึกษำไทยได้ และในขณะนี้ได้มีกำรประท้วงทำงกำรเมือง ได้มีกำรตั้งม็อบประท้วงในเขตกรุงเทพมหำนคร ซึ่งก็ทำ ให้มีกำรปิดโรงเรียนในหลำยๆแห่งในเขตกรุงเทพมหำนครก็ทำ ให้เด็กนักเรียนขำดเรียนซึ่งก็เป็นผลในกำรที่อำจจะเรีย นไมทั่น ต้องมีกำรเลื่อนสอบกลำงภำค-ปลำยภำค เลื่อนสอบ GAT-PAT ตำ่งๆนำนำ จำกที่ได้หำข้อมูลจำกแหลง่อ้ำงอิงเกี่ยวกับเรื่องกำรศึกษำนั้น หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ออนไลน์ได้มีกำรสอบถำมควำมคิดเห็นไปยังอำจำรย์นันทวิทย์ เหลำ่วิชยำ จำกคณะนิเทศศำสตร์ มหำวิทยำลัยกรุงเทพ เกยี่วกบัเรื่องกรณีกำรศึกษำไทยถูกจัดอยูใ่นอันดับท้ำยสุดในอำเซียน ซึ่งอำจำรย์ นันทวิทย์ เหลำ่วิชยำ ได้เผยวำ่ ระบบกำรศึกษำของประเทศไทยในขณะนี้กำ ลังเดินมำผิดทำง ซึ่งทำงกลุม่ของดิฉันก็เห็นด้วย เนื่องจำกนโยบำยที่มีอยูไ่มส่นับสนุนกำรเรียนกำรสอนอยำ่งจริงจัง ส่วนใหญจ่ะเน้นกำรให้กำรแจกทั้งหนังสือ ตำ รำเรียน และแท็บเล็ต อำจำรย์นันทวิทย์ เหลำ่วิชยำ จึงมองวำ่ควรมีกำรปฏิรูปกำรศึกษำใหมท่ั้งระบบ ในส่วนของครูผู้สอนนั้นก็ไมส่ำรมำรถทำ งำนได้อยำ่งเต็มที่ เพรำะนโยบำยของกระทรวงที่เน้นกำรจัดทำ ผลงำนครูมำกเกินไป และเงินเดือนที่ได้รับก็ไมเ่พียงพอจนต้องหำรำยได้เสริม ทำ ให้ไมส่ำมำรถทุม่เทเวลำในกำรจัดเตรียมกำรเรียนกำรสอนได้อยำ่
  • 7. งเต็มที่ ดังนั้นจึงเห็นวำ่กำรจะปฏิรูปกำรศึกษำของไทยได้นั้นจำ เป็นจะต้องให้ควำมสำคัญทั้งส่วนของนโยบำยและคำ่ตอบแทนครูคว บคูก่นัทั้งสองด้ำน เมอื่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถำมไปยังอำจำรย์ผู้สอนแล้ว ก็ยังสอบถำมไปยังผู้เรียนคือ นำงสำวจิรำภำ ภิญญสำสน์ นักศึกษำภำควิชำวำรสำรสนเทศ คณะนิเทศศำสตร์ มหำวิทยำลัยศรีปทุม ซึ่งพี่เขำก็ได้แสดงควำมเห็นวำ่ ในส่วนตัวของพี่เขำคิดวำ่ผลกำรจัดอันดับเกยี่วกบัเรื่องกำรศึกษำในอำเซียนที่ได้อ้ำงอิงมำ มีกำรสะท้อนควำมจริง เนื่องจำกระบบกำรศึกษำไทยเปลี่ยนระบบ รูปแบบบอ่ย เชน่ GAT PAT จนเด็กไมทั่นได้เข้ำใจระบบ อีกทั้งเรื่องกำรเรียน กำรสอบ ยังเน้นในเรื่องของกำรทอ่งจำ มำกเกินไป ซึ่งกำรทอ่งจำ ก็จำ เป็น แตถ่้ำมีมำกทุกวิชำ สุดท้ำยจะกลำยเป็นภำระกำรอำ่นหนังสือเตรียมสอบที่หนัก ทวำ่เมอื่สอบเสร็จแล้วก็พร้อมจะลืม จึงควรให้มีข้อสอบแบบวิเครำะห์ ที่วดัควำมเข้ำใจเนื้อหำที่นักเรียนสำมำรถที่จะเข้ำใจได้มำกกวำ่ นำงสำวจิรำภำ ยังบอกอีกวำ่ เรื่องของครูผู้สอนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลตอ่กำรศึกษำ เด็กไทยมีกำรบ้ำน รำยงำนเยอะอำจเพรำะกำรสอนที่เน้นปริมำณผลงำนมำก จนบำงครั้งถ้ำเยอะมำกไป เด็กก็จะทำ แบบส่งๆ เข้ำใจบ้ำง ไมเ่ข้ำใจบ้ำง และอีกเรื่องคือคำ่นิยมตอ่เรื่องสถำนบันกำรศึกษำ ผลกำรเรียนหรือเกรด เหลำ่นี้ทำ ให้เด็กกดดัน บำงครั้งควำมสำเร็จอำจไมไ่ด้เกิดจำกเกรดและสถำบันเทำ่นั้น คนเรียนจบแล้วทำ งำนยังต้องมีควำมขยันหมนั่เพียรด้วย ในเรื่องเกยี่วกบันโยบำย ซึ่งเป็นระดับประเทศ จะเห็นได้วำ่ รัฐบำลหลำยยุคยังให้ควำมสำคัญกับเรื่องกำรศึกษำในระดับรองเมื่อเทียบกับปัญหำด้ำนอื่นๆ ควำมจริงแล้วเรื่องกำรศึกษำถือวำ่เป็นปัญหำที่สำคัญและเร่งด่วนของประเทศ ซึ่งมีข้อที่น่ำสังเกตวำ่ผู้ที่จะมำรับผิดชอบกำ กับดูแลกำรศึกษำของชำติกลับกลำยเป็นวำ่ไมไ่ด้เป็นบุคคลที่มีควำมรู้มีควำมเข้ำใจ งำนด้ำนกำรศึกษำ หรือมีควำมรู้และประสบกำรณ์ทำงด้ำนกำรศึกษำไมม่ำกนัก กลำ่วคืออำจมีควำมรู้และประสบกำรณ์ในวิชำชีพอื่น แตเ่มอื่มำรับผิดชอบงำนทำงด้ำนกำรศึกษำกลับไมส่ำมำรถกำ กับดูแล และกำ หนดนโยบำยด้ำนกำรศึกษำให้บรรลุผลสำเร็จตำมเป้ำหมำย และนโยบำยกำรศึกษำของชำติได้ ดังนั้น จึงส่งผลกระทบตอ่กำรปฏิรูปกำรศึกษำและแนวทำงกำรปฏิบัติกับบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ทั้งๆที่ในวงกำรศึกษำมีบุคลำกรที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถอยำ่งมำกมำย กำรศึกษำของประเทศไทยเริ่มต้นมำจำกวฒันธรรมของคนไทยที่ได้รับกำรสั่งสอนมำตั้งแตโ่บรำณให้เคำรพเชื่อฟังค รูบำอำจำรย์ ซึ่งจะเห็นได้วำ่มีวนัไหวค้รู ดังนั้นครูสมยักอ่นจะดุและนักเรียนจะเชื่อฟังมำก นักเรียนจะกลัว ไมก่ล้ำถำม ไมก่ล้ำตอบ ทำ ให้ปลูกฝังมำจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นระบบที่ฟังจำกครูอยำ่งเดียว ไมก่ล้ำคิด ไมก่ล้ำแสดงควำมคิดเห็น วิเครำะห์ไมเ่ป็น กำรศึกษำไทยเป็นระบบป้อนเข้ำอยำ่งเดียว ไมมี่กำรแลกเปลี่ยนกนั หรือมีก็น้อยมำก มีกำรสนใจใฝ่หำควำมรู้ด้วยตนเองน้อย ทำ ให้เด็กคิดไมเ่ป็น วิเครำะห์ไมเ่ป็น ยิ่งมีกำรเน้นย้ำ ด้วยกำรสอบโดยอำศัยควำมจำ เป็นหลักนักเรียนก็จะทอ่งจำ อยำ่งเดียว ที่ซ้ำ ร้ำยกวำ่นั้น สังคมปลูกฝังให้นักเรียนต้องเป็นคนเกง่ ซึ่งนักเรียน ก็จะแขง่กนัโดยไมคิ่ดถึงเรื่องอื่น ๆ เมอื่ผิดหวงัรุนแรงก็ไมส่ำมำรถแกปั่ญหำตนเองได้ เหลำ่นี้เป็นต้น แตก่็เห็นวำ่ในปัจจุบันจะได้พัฒนำและเปลี่ยนรูปแบบกำรเรียนกำรสอนแล้ว เด็กกล้ำคิด กล้ำทำ มำกขึ้น ก็นับวำ่เป็นจุดที่ดีที่จะพัฒนำให้ทัดเทียมประเทศอื่นต่อไป นอกจำกนั้นกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียนก็ไมมี่มำตรฐำนเดียวกนั เครื่องมืออุปกรณ์ สื่อกำรเรียนกำรสอนก็แตกตำ่งกนัมำก ไมว่ำ่จะเป็นโรงเรียนรัฐบำลด้วยกนั หรือโรงเรียนเอกชน
  • 8. ตำ่งจังหวดันั้นไมมี่อุปกรณ์สื่อกำรสอนเลยในขณะที่กรุงเทพฯ มีมำกมำย ทำ ให้เด็กมีมำตรฐำนไมเ่หมือนกนัอยู่แล้ว และนำเกณฑ์เดียวกนัมำวดัทำ ให้เกิดควำมล้มเหลวทำงกำรศึกษำ และในโรงเรียนก็ไมไ่ด้สอนเต็มที่เพรำะต้องกำรให้นักเรียนมำเรียนพิเศษอันนำมำซึ่งรำยได้เพิ่ม สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงกำรพัฒนำช้ำของระบบกำรศึกษำอีกอยำ่งหนึ่งคือสถำบันกวดวิชำ จะเห็นได้วำ่เป็นที่น่ำสนใจมำก มีผู้เรียนเยอะเสียคำ่เลำ่เรียนแพงมำก แตธุ่รกิจพวกนี้ก็ยังอยูไ่ด้ แสดงวำ่มีคนเรียนมำกขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ำหำกมีกำรสอนที่ดีในโรงเรียนแล้วเด็กก็จะไมต่้องมำเรียนพิเศษมำกมำยขนำดนั้น จะเห็นได้วำ่นโยบำยกำรศึกษำของไทยเป็นอีกปัจจัยที่ทำ ให้กำรศึกษำมีกำรเปลี่ยนแปลง หรือมีกำรดำ เนินงำน นโยบำยกำรศึกษำที่ออกมำจำกกระทรวงศึกษำธิกำรนั้นมีทั้งนโยบำยที่ดี และนโยบำยที่ไมดี่ นโยบำยที่ดีของรัฐบำลที่ออกมำ ผู้เรียน หรือคุณครูที่ทำ กำรสอนก็ไมส่ำมำรถตอบรับนโยบำยของรัฐบำลได้ เชน่นโยบำยที่รัฐบำลออกมำเพื่อปรับปรุงคุณภำพครู โครงกำรยกระดับคุณภำพครูทั้งระบบ (UTQ) เป็นโครงกำรที่ดีที่รัฐบำลออกมำเพื่อให้ครูได้ทดสอบควำมสำมำรถ มีกำรจัดเตรียมกำรเรียนกำรสอนและให้ทำ ผลงำน แตค่รูผู้ทำ โครงกำรบำงทำ่น ก็ไมไ่ด้ทำ ผลงำนด้วยตนเอง โดยบำงโรงเรียนจะมีครูเพียงคนเดียวที่ทำ ข้อสอบ และก็จำ ข้อสอบ ทำ เป็นคำ ตอบให้ครูทำ่นอื่นเข้ำไปทดสอบ ผลกำรวดัระดับที่ออกมำก็จะเป็นคะแนนที่ไมจ่ริง ไมใ่ชค่วำมสำมำรถของคุณครูคนนั้นเอง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม เป็นควำมไมถู่กต้องของจรรยำบรรณ ทำ ให้ระบบกำรศึกษำของไทยเกิดชอ่งโหวข่ึ้น สภำพเศรษฐกิจ สภำพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีกำรเปลี่ยนแปลงจำกอดีตเป็นอย่ำงมำก มีกำรเปลี่ยนแปลงในด้ำนตำ่งๆมำกมำยทั้งกำรติดต่อค้ำขำยกบัตำ่งประเทศ รำคำสินค้ำอุปโภคบริโภค แรงงำน กำรเกษตร ภำษี ฯลฯ ไทยเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเปิด (open economy) คือเป็นประเทศที่ติดตอ่ทำ กำรซื้อขำยสินค้ำและบริกำรกับประเทศเพื่อนบ้ำน กำรค้ำระหวำ่งประเทศจึงมีบทบำทสำคัญในฐำนะกลไกในกำรพัฒนำและนำควำมเจริญรุ่งเรืองมำสู่ประเทศ รวมทั้งมีส่วนสำคัญในกำรผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศขยำยตัวอยำ่งรวดเร็ว นับตั้งแต่พ.ศ. 2504 ซึ่งเป็นปีที่รัฐบำลประกำศใช้แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 1 มำเป็นแนวทำงในประเทศ กำรค้ำระหวำ่งประเทศของไทยที่ผำ่นประเทศไทยส่วนใหญจ่ะขำดดุลกำรค้ำ และได้ดุลกำรค้ำกำรชำ ระเงินเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจำกสินค้ำส่งออกของไทยส่วนใหญจ่ะเป็นสินค้ำเกษตรกรรม ได้แก่ข้ำว ยำงพำรำ ไมสั้ก ดีบุก ข้ำวโพด ผลิตภัณฑ์มนัสำปะหลัง กุง้สด ทุเรียน มงัคุดและที่ส่งออกมำกขึ้นโดยเป็นสินค้ำส่งออกที่สำคัญได้แก่ซีเมนต์ อัญมณี
  • 9. ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ผ้ำไหมไทย แตใ่นขณะเดียวกนั ประเทศไทยก็ได้นำเข้ำสินค้ำเยอะมำก เป็นเหตุให้เรำขำดดุลกำรค้ำ สำมำรถจำ แนกสินค้ำนำเข้ำได้ดังนี้  สินค้ำอุปโภคบริโภคประเภทอำหำร ผลิตภัณฑ์นม เครื่องดื่ม เครื่องใช้ในบ้ำน มีแนวโน้มลดลงเพรำะมีกำรผลิตทดแทนกำรนำเข้ำ และพัฒนำไปสู่กำรผลิตเพื่อกำรส่งออก  สินค้ำกึ่งสำเร็จรูปและวตัถุดิบ เพื่อใช้ในอุตสำหกรรมภำยใน มีแนวโน้มสูงขึ้น  สินค้ำประเภททุน ได้แก่เครื่องจักร เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องทุน่แรงรถแทรกเตอร์ ปุ๋ยเคมี มีแนวโน้มสูงขึ้น  สินค้ำอื่นๆ ได้แก่รถยนต์ เชื้อเพลิง อะไหลร่ถยนต์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในรอบระยะ 10 ปีที่ผำ่นมำอัตรำกำรนำเข้ำสินค้ำของไทยสูงมำกขึ้น เนื่องจำกกำรเร่งพัฒนำประเทศมีควำมจำ เป็นต้องนำเข้ำสินค้ำทุนมำกขึ้น กำรบริโภคของคนในประเทศเพิ่มขึ้นอันเนื่องมำจำกพฤติกรรมกำรบริโภคเลียนแบบ ซึ่งมกัจะเป็นสินค้ำฟุ่มเฟือยและมีรำคำสูง นอกจำกนี้ประเทศไทยส่งเสริมกำรค้ำเสรี ควบคุมกำรนำเข้ำเพียงไมก่รี่ำยกำร จึงมีกำรนำเข้ำสินค้ำอยำ่งมำก จำกสำเหตุเหลำ่นี้ เป็นเหตุให้ประเทศไทยขำดดุลกำรค้ำมำตลอด เศรษฐกิจและกำรค้ำของไทยในระยะที่ผำ่นมำจะขยำยตัวในอัตรำที่สูงมำก แตจ่ำกสถำนกำรณ์เศรษฐกิจและกำรค้ำของโลกที่กำ ลังเปลี่ยนแปลงไปกลำ่วคือ ได้มีกำรนำมำตรกำรใหมๆ่ มำเป็นข้ออ้ำงในกำรกีดกนักำรค้ำมำกขึ้น เชน่ กำรใช้มำตรกำรตอ่ต้ำนกำรทุม่ตลำด และ ตอบโต้กำรอุดหนุนกำรห้ำมนำเข้ำโดยอัตโนมตัิ โดยใช้เหตุผลทำงสุขอนำมยั มำตรฐำนสินค้ำหรือสิ่งแวดล้อม กำรแขง่ขันในตลำดกำรค้ำโลกที่มีควำมเข้มข้นยิ่งขึ้น ในส่วนของประเทศไทยนอกจำกแสวงหำผลประโยชน์จำกสถำนกำรณ์ทำงเศรษฐกิจและกำรค้ำของโลกโดยเข้ำร่วมในกลุ่มเ ศรษฐกิจกำรค้ำที่มีผลประโยชน์สอดคล้องกนัและผลักดันให้มีกำรพัฒนำอำเซียนเป็นเขตกำรค้ำเสรีแล้ว จะต้องพัฒนำสินค้ำออกของไทยให้มีศักยภำพในกำรแขง่ขันมำกขึ้นทั้งในด้ำนคุณภำพ มำตรฐำนสินค้ำ และประสิทธิภำพในกำรผลิตเพื่อรักษำส่วนแบง่ตลำดสินค้ำไทยในตลำดโลก รวมทั้งจะต้องแสวงหำลูท่ำงที่จะขยำยกำรลงทุนของไทยไปในภูมิภำคตำ่งๆ ให้มำกขึ้นทั้งในลักษณะของกำรลงทุนโดยตรงและกำรร่วมทุน เพื่อเป็นชอ่งทำงให้สินค้ำออกของไทยกระจำยไปสู่ตลำดตำ่งๆ ได้ง่ำยขึ้น ภำวะกำรเปลี่ยนแปลงทำงเศรษฐกิจสังคมและกำรเมืองนั้น ยอ่มกอ่กำ เนิดขึ้นได้ตลอดเวลำตำมลักษณะแห่งปัจจัยในแตล่ะด้ำน สำหรับกำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนเศรษฐกิจ นับได้วำ่มีควำมสำคัญ ใหญห่ลวง จะมีผลกระทบเชน่ไรตอ่กำรดำ รงชีพของประชำชนโดยส่วนรวมในแตล่ะชว่งเวลำ ตลอดจนจะต้องพิจำรณำควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจของประเทศด้วยวำ่มีแนวโน้มดำ เนินไปอยำ่งไร ประสำนสอดคล้องกบัปัจจัยตำ่งๆ ในขณะนั้นหรือไมเ่พียงใด สมควรที่จะได้ปรับปรุงและแกไ้ขข้อบกพร่องด้ำนใดบ้ำง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะกอ่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตอ่สังคมส่วนรวมโดยแท้จริง ปัญหำเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีสำเหตุมำจำกกำรดำ เนินนโยบำยทำงเศรษฐกิจที่มุง่จะรักษำอัตรำควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจในอัตรำสูง จึงทำ ให้มีกำรพึ่งพำปัจจัยภำยนอกประเทศเกินสมควร จำกกำรติดตำมสถำนกำรณ์ทำงเศรษฐกิจปัญหำตำ่งๆเหลำ่นี้จะคงอยู่ตอ่ไปและจะทวีควำมรุนแรงมำกขึ้น
  • 10. หำกไมมี่กำรปรับปรุงโครงสร้ำงกำรผลิต กำรนำเข้ำ และกำรส่งออกตลอดจนกำรแกไ้ขนโยบำยเศรษฐกิจหลำยๆ ด้ำนอยำ่งมีระเบียบแบบแผน ปัญหำเหลำ่นี้ก็จะยิ่งสะสมเพิ่มพูนขึ้นจนยำกที่จะแกไ้ข อัตรำกำรว่ำงงำนของประชำชน สำนักสถิติเผยตัวเลขคนวำ่งงำนปี 56 เพิ่มขึ้นกวำ่ปี 55 ทั่วประเทศ กรุงเทพฯ ภำคกลำง และภำคใต้ มีอัตรำวำ่งงำนมำกที่สุด โดยบัณฑิตป้ำยแดงเตะฝุ่นมำกถึง 1.4 แสนคน วนันี้ (19 ตุลำคม 2556) สำนักงำนสถิติแห่งชำติ เปิดเผยผลสำรวจสถำนะภำพมีงำนทำ ของประชำชนชำวไทย ประจำ เดือนกนัยำยน 2556 พบวำ่ ประเทศไทยมีบุคคลที่อำยุมำกกวำ่ 15 ปี จำ นวน 55.13 ล้ำนคน แบง่เป็นผู้ที่พร้อมจะทำ งำนหรืออยูใ่นชว่งกำ ลังแรงงำน 39.32 ล้ำนคน และผู้ที่อยูน่อกกำ ลังแรงงำนหรือไมพ่ร้อมจะทำ งำน 15.81 ล้ำนคน ซึ่งส่วนใหญบุ่คคลกลุม่นี้เป็น แมบ่้ำน นักเรียน และคนชรำ สำหรับ ผู้ที่อยูใ่นกำ ลังแรงงำน จำ นวน 39.32 ล้ำนคนนี้ แบง่เป็นผู้มีงำนทำ 39 ล้ำนคน, วำ่งงำน 2.64 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกำลกำรทำ งำน 6.5 หมนื่คน นอกจำกนี้ ในจำ นวนผู้มีงำนทำ 39 ล้ำนคน ประกอบไปด้วย ผู้ทำ งำนในภำคเกษตรกรรม 15.68 ล้ำนคน และนอกภำคเกษตรกรรม 23.32 ล้ำนคน ทั้งนี้ หำกนำจำ นวนผู้ทำ งำนในเดือนกนัยำยน 2556 เทียบกบัเดือนกนัยำยน 2555 พบวำ่ จำ นวนผู้ทำ งำนลดน้อยลง คือ ภำคเกษตรกรรมลดลง 1 หมนื่คน และนอกภำคเกษตรกรรมลดลง 1.4 แสนคน ส่วนสถิติด้ำนผู้ที่วำ่งงำนอยูน่ั้น หำกแบง่ตำมระดับกำรศึกษำ พบวำ่ในระดับอุดมศึกษำวำ่งงำนมำกที่สุด จำ นวน 1.4 แสนคน เพิ่มขึ้นจำกเดือนกนัยำยน 2555 จำ นวน 4.6 หมนื่คน รอง ลงมำเป็นระดับมธัยมศึกษำตอนปลำย จำ นวน 5.9 หมนื่คน, ระดับมธัยมศึกษำตอนต้น จำ นวน 5.1 หมนื่คน และระดับประถมศึกษำ จำ นวน 3.1 หมนื่คน นอกจำกนี้ หำกนำสถิติกำรวำ่งงำนมำสำรวจตำมรำยภำค พบวำ่ กรุงเทพฯ ภำคกลำง และภำคใต้ มีอัตรำวำ่งงำนมำกที่สุด จำ นวนร้อยละ 0.8 รองลงมำเป็นภำคตะวนัออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 0.6 และภำคเหนือ ร้อยละ 0.3 ซึ่งถ้ำหำกเปรียบเทียบสถิติกับปีที่แล้ว พบวำ่คนไทยวำ่งงำนเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ สำนักงำนสถิติแห่งชำติ รำยงำนอีกวำ่ จำ นวนของผู้ที่ทำ งำนต่ำ กวำ่ระดับหรือผู้มีงำนทำ แตท่ำ งำนได้ไมเ่ต็มประสิทธิภำพ หรือต้องกำรทำ งำนเพิ่มเพื่อเพิ่มรำยได้นั้น ปัจจุบันมีจำ นวน 2.85 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 0.7 ของผู้มีงำนทำ รำยได้ของครัวเรือน ปี 2556 ในชว่ง 6 เดือนแรกของปี 2556 ครัวเรือนทั่วประเทศ มีรำยได้เฉลี่ยเดือนละ 25,403 บำท ส่วนใหญเ่ป็นรำยได้จำกกำรทำ งำนร้อยละ 73.5 ซึ่งได้แก่คำ่จ้ำงและเงินเดือน ร้อยละ 40.9 กำ ไรสุทธิจำกกำรทำ ธุรกิจร้อยละ 18.5 และกำ ไรสุทธิจำกกำรทำ กำรเกษตรร้อยละ 14.1 และมีรำยได้ที่ไมไ่ด้เกิดจำกกำรทำ งำน เชน่ เงินที่ได้รับควำมชว่ยเหลือจำกบุคคลอื่นนอกครัวเรือน/รัฐร้อยละ 10.5 รำยได้จำกทรัพย์สิน เชน่ดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 นอกจำกนั้นยังมีรำยได้ ที่ไมเ่ป็นตัวเงินซึ่งอยูใ่นรูปสวสัดิกำร/สินค้ำ และบริกำรตำ่งๆ ร้อยละ 13.1 ค่ำใช้จ่ำยของครัวเรือน ปี 2556 ในชว่ง 6 เดือนแรกของปี 2556 ครัวเรือนทั่วประเทศมีคำ่ใช้จำ่ยเฉลี่ยเดือนละ 19,259 บำท คำ่ใช้จำ่ยร้อยละ 34.1 เป็นคำ่อำหำรและเครื่องดื่ม (ซึ่งในจำ นวนนี้มีคำ่เครื่องดื่ม ที่เป็นแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.1) รองลงมำเป็นคำ่ใช้จำ่ยเกยี่วกบักำรเดินทำงและยำนพำหนะร้อยละ 20.3 คำ่ที่อยูอ่ำศัย และเครื่องใช้ภำยในบ้ำนร้อยละ 19.2
  • 11. ของใช้ส่วนบุคคล/เครื่องนุ่งห่ม/รองเท้ำร้อยละ 5.6 ใช้ในกำรสื่อสำรร้อยละ 3.1 ใช้เพื่อกำรศึกษำ กำรบันเทิง/กำรจัดงำนพิธี และคำ่เวชภัณฑ์/คำ่รักษำพยำบำลใกล้เคียงกนัคือ รอ้ยละ1.7 1.6 และ 1.5 กิจกรรมทำงศำสนำมีเพียงร้อยละ 1.1 ในส่วนของคำ่ใช้จำ่ย ที่ไมเ่กยี่วกบักำรอุปโภคบริโภค เชน่คำ่ภำษี ของขวญั เบี้ยประกนัภัย ซื้อสลำกกินแบง่/ หวย ดอกเบี้ย พบวำ่มีกำรใช้จำ่ยสูงถึง ร้อยละ 11.8 เศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยที่ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยตำ่งๆที่มีผลตอ่กำรศึกษำ จะเห็นวำ่สภำพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีกำรเปลี่ยนแปลงไปจำกในอดีตเป็นอยำ่งมำก ปัจจุบันเป็นเศรษฐกิจที่มีกำรเจริญเติบโตด้ำนอุตสำหกรรม ทำ ให้คนส่วนใหญต่้องจำกครอบครัวและไปทำ งำนที่โรงงำน คนในครอบครัวจึงไมมี่เวลำพบปะพูดคุยกนั พอ่แมไ่มมี่เวลำให้ลูกเกิดปัญหำและกำรทะเลำะ แตเ่ศรษฐกิจในประเทศไทยก็ยังมีอัตรำกำรวำ่งงำนที่ยังสูง และรำยได้เฉลี่ยตอ่คนที่รับต่อหนึ่งเดือน คือ 25,403 บำท แตล่ะคนก็มีรำยจำ่ยที่ต้องใช้ซึ่งมีคำ่ใช้จำ่ยเฉลี่ยเดือนละ 19,259 บำท สภำพสังคม ประสบกำรณ์ในหลำยประเทศ สะท้อน กำรลงทุนพัฒนำกำรศึกษำของรัฐถ้ำทำ ได้ทั่วถึงและมีคุณภำพ เมื่อทำ ไปได้ระยะหนึ่งจะชว่ยแกปั้ญหำคนจนและลดควำมเหลื่อมล้ำ ต่ำ สูงได้ในระดับหนึ่ง แตก่ำรบริหำรจัดกำรศึกษำในประเทศไทยไมไ่ด้ให้บริกำรคนจนได้อยำ่งเสมอภำค คือถึงคนยำกจนส่วนหนึ่งได้เรียนชั้นประถมหรือมธัยมต้นบ้ำง ก็มกัจะได้เรียนในสถำนศึกษำในชนบทหรือชุมชนแออัดที่มีคุณภำพต่ำ กวำ่สถำนศึกษำสำหรับคนรวยคนชั้นกลำง กำรบริหำร จัดกำรศึกษำไทยจึงไมไ่ด้ชว่ยแก้ปัญหำควำมยำกจนและกำรกระจำยรำยได้ให้เป็นธรรมขึ้น คนจนเข้ำถึงกำรศึกษำที่มีคุณภำพได้น้อยกวำ่คนที่ไมจ่น และกำรที่ประเทศไทยมีนักเรียนออกกลำงคัน/เรียนไมจ่บชั้นมธัยมป ลำยเป็นสัดส่วนสูงนั้นเป็นเพรำะรัฐบำลไมไ่ด้มุง่แกปั้ญหำเพื่อช่วยคนจนเป็นกำรเฉพำะ แตใ่ช้วิธีลงทุนจัดกำรศึกษำแบบให้บริกำรคนทั้งประเทศเหมือน ๆ กนั เชน่โรงเรียนของภำครัฐไมเ่ก็บคำ่เลำ่เรียนหรือเก็บต่ำ ในระดับประถม มัธยม/อำชีวศึกษำ นโยบำยสนับสนุนคำ่ใช้จำ่ยให้นักเรียนในระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนเพิ่มมำจำกค่ำเลำ่เรียนอีก 4 รำยกำร (เชน่เสื้อผ้ำ หนังสือเรียน อุปกรณ์กำรเรียน กำรสนับสนุนกำรสอนของโรงเรียน) ของรัฐบำลพรรคประชำธิปัตย์ในปี 2552 นโยบำยดังกลำ่วชว่ยแบง่เบำภำระของพอ่แม่ได้บ้ำง แตไ่มไ่ด้ชว่ยให้ลูกคนจนได้เรียนหนังสือฟรีถึง 15 ปีจริง เพรำะคนจนนั้นมีภำระเทียบตอ่รำยได้ของพวกเขำหนักกวำ่คนที่ไมจ่น คำ่ใช้จำ่ยด้ำนกำรเดินทำง กินอยูข่องนักเรียนที่ไปโรงเรียนที่อยูเ่มืองใหญห่รือตัวอำ เภอนั้น เป็นภำระหนักมำกสำหรับคนจน คนจนจึงมกัส่งลูกได้เรียนแคช่ั้นประถมในโรงเรียนในเขตคนจน ซึ่งมีคุณภำพต่ำ กวำ่โรงเรียนสำหรับคนไมจ่น และลูกคนจนมกัจะออกกลำงคันไมไ่ด้เรียนถึงชั้นมธัยมหรือเรียนไมจ่บชั้นมัธยมปลำย ด้วยเหตุผลหลำยประกำร ทั้งควำมยำกจน สภำพแวดล้อมที่ไมเ่อื้ออำ นวยในกำรที่จะเรียนให้ได้ดีพอจะแขง่ขันไปเรียนชั้นสูงได้ และคำ่เสียโอกำสในกำรที่จะออกไปทำงำนหำรำยได้เลี้ยงตัวเองหรือจุนเจือครอบครัวได้ ดังนั้นแทนที่รัฐจะใช้งบประมำณประชำนิยมแบบหำเสียงจำกคนทั้งประเทศ ควรเน้นไปชว่ยคนจนกลุม่ 20% ที่จนที่สุดและ 20% ที่จนรองลงมำให้มีทุนสำหรับคำ่ใช้จำ่ยอื่น ๆ ด้วย จะเป็นกำรใช้งบประมำณที่ส่งผลให้คนจนได้มีโอกำสเรียนได้สูงขึ้น และมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำเศรษฐกิจสังคมได้มำกขึ้นกวำ่นโยบำยที่เรียกชื่อเกินควำมจริงวำ่นโยบำยเรียนฟรี 15 ปี
  • 12. จะเห็นได้วำ่สภำพสังคมไทยมีกำรกระจำยรำยได้ที่ไมทั่่วถึง ทำ ให้มีคนรวย และคนจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำ ให้เกิดควำมแตกตำ่งในสังคม คนรวยจะมีสิทธิและโอกำสในกำรรับกำรศึกษำมำกกวำ่คนจน ทั้งโอกำสในด้ำนตำ่งๆ โรงเรียนหรือมหำวิทยำลัยที่มีคุณภำพ ควำมพร้อมของตนเอง แรงสนับสนุนจำกครอบครัว ฯลฯ ซึ่งแตกตำ่งจำกคนจน ซึ่งมีโอกำสในกำรรับกำรศึกษำได้น้อยกวำ่ หรือได้รับกำรศึกษำที่มีคุณภำพต่ำ ส่วนใหญก่็จะจบกำรศึกษำระดับชั้น ม.3 หรือ ม.6 เพียงเทำ่นั้น ซึ่งจะเป็นข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจนในสังคม ผู้ปกครอง ควำมสัมพันธ์ระหวำ่งกำรเลี้ยงดูของผู้ปกครอง ตอ่กำรเรียนรู้ของเด็ก 1. ควำมสัมพันธ์ระหวำ่งผู้ปกครองและนักเรียน กำรพูดคุยกนัในเรื่องรำวที่เกิดขึ้นในแต่ ละวนั แมทุ้กครอบครัวจะทำ อยูบ่้ำงแล้ว แตป่ริมำณและคุณภำพจะตำ่งกนั พื้นฐำนกำรพูดคุยควรเป็น เชิงบวก เกอื้หนุนให้กำ ลังใจกนั กำรแลกเปลี่ยนเป็นไปทั้งสองฝ่ำย ที่จะรับฟังซึ่งกนัและกนั ทั้งมีกำรจัดเวลำเพื่อให้มีโอกำส พูดคุยกนั เชน่ เวลำรับประทำนอำหำรร่วมกนั ผู้ปกครองที่ไมมี่เวลำมำกพอที่จะพูดคุยกนัทุกวนั หำกเพียงแตจั่ดเวลำเพียงวนัละ 2- 3 นำที รับฟังลูกๆ คุยถึงเรื่องรำวที่ได้ประสบพบเห็นในวนันั้นโดยไมมี่คนอื่นสิ่งอื่นมำรบกวน ก็ถือวำ่เป็นประสบกำรณ์ที่มี คุณคำ่และยิ่งไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครอบครัวอื่นๆ ก็จะทวีคุณคำ่มำกขึ้น 2. ชีวิตประจำ วนัของเด็กๆ เด็กๆ จะเรียนรู้ได้ดีหำกผู้ปกครองกำ หนดกรอบกติกำที่ชัดเจนและมนั่คงในชีวิต ในกำรส่งเสริมให้เด็กได้ใช้เวลำให้เกิดประโยชน์ และมีประสบกำรณ์เรียนรู้ที่มีคุณคำ่ ซึ่งแสดงให้เห็นวำ่ชีวิตประจำ วนัของครอบครัวปฏิสัมพันธ์ระหวำ่งเด็กและ ผู้ปกครอง งำนอดิเรกและสันทนำกำรที่ครอบครั วทำ ร่วมกนั ล้วนเสริมสร้ำงควำมพร้อมสำหรับ กำรเรียนรู้ที่ดี 3. ควำมคำดหวงัและกำรกำ กับดูแลโดยครอบครัว ครอบครัวยังชว่ยกระตุ้นส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กทดลอง สิ่งใหมๆ่และพัฒ นำตนเองให้ดีขึ้น รวมทั้งชว่ยแนะนำในเรื่องกำรเรียนรู้ในโรงเรียนติดตำม ควำมกำ้วหน้ำอยำ่งตอ่เนื่อง และที่สำคัญ ปลูกฝังค่ ำนิยมวำ่ ผลงำนเกิดจำกกำรทำ งำนอยำ่งมุง่มนั่ มำกกวำ่จำกโชคชะตำ หรือกำรเลน่เส้น ผู้ปกครองอำจชว่ยลูกๆ จัดระบบในชีวิตให้มีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น เชน่ ให้วำงแผนหลังเลิกเรียนวำ่ จะทำ อะไร อำ่นอะไร เลน่กบัใคร ดูรำยกำรทีวีอะไร กำรวิเครำะห์กำ หนดกำรในลักษณะนี้ จะชว่ยชี้ ให้เห็นวำ่ ครอบครัวให้ควำมสำคัญแกเ่รื่องใด เด็กๆ ควรมีเวลำอยำ่งน้อยวนัละ 10 นำที ที่จะอำ่น หนังสือ และเมอื่ใดที่เด็กดูโทรทัศน์มำกกวำ่วนัละ 90 นำที ต้องถือวำ่เวลำถูกปล้นไปจำกกิจกรรม เรียนรู้อื่นๆ ที่เกิดประโยชน์ อยำ่ลืมวำ่เด็กๆ ต้องมีเวลำสำหรับควำมสนุกสนำนเพลิดเพลินบ้ำง แตก่ำรเรียนรู้ก็ต้องมำ เป็นลำ ดับแรก “กฎหลักทสี่ำคัญทสีุ่ดของผู้ปกครอง คือ กำรรู้ว่ำ ลูกอยู่ทไี่หน ทำ อะไร และอยู่กับใคร”
  • 13. ครอบครัว คือพื้นฐำนสำคัญของพัฒนำกำรมนุษย์ กำรเรียนรู้ของเด็กเริ่มต้นเกิดขึ้นในครอบครัว ครัวที่มีควำมสุขควำมอบอุ่ นจะชว่ยให้เด็กเติบโตเป็นประชำกรที่มีคุณภำพ ครอบครัวไทยในปัจจุบันกำ ลังเผชิญปัญหำมำกขึ้น เนื่องจำกสังคมมีกำรเป ลี่ยนแปลงอยำ่งรวดเร็ว ควำมเจริญทำงวตัถุมำกขึ้น โครงสร้ำงของครอบครัวเปลี่ยนไป ครอบครัวมีขนำดเล็กลง กำรหยำ่ร้ำ งมำกขึ้น คนสนใจและให้ควำมสำคัญตอ่จิตใจน้อย พอ่แมมี่เวลำให้ลูกน้อยลง มีปัญหำในกำรเลี้ยงดูเด็กมำกขึ้น ครอบครัวขำดควำมอบอุน่ ขำดควำมสุข ทำ ให้เกิดปัญหำเด็กและวยัรุ่นมำกขึ้น กำรส่งเสริมให้ครอบครัวมีควำมเข้มแข็ง จึงเป็นเรื่องสำคัญอยำ่งยิ่ง จำกกำรวิเครำะห์สำเหตุปัจจัยที่ทำให้กำรศึกษำของไทยพัฒนำได้ช้ำ ซึ่งได้แก่ผู้เรียน ครูผู้สอน สภำพเศรษฐกิจ นโยบำยกำรศึกษำ และผู้ปกครอง พบวำ่สิ่งที่มีผลทำ ให้กำรศึกษำไทยพัฒนำได้ล่ำช้ำมำกที่สุด คือ ผู้ปกครอง ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญในกำรพัฒนำกำรเรียนรู้ของผู้เรียน โดยควรจะชว่ยให้ผู้เรียนอำ่นหนังสือ หรืออำ่นหนังสือให้ฟัง ชว่ยสนับสนุนกำรศึกษำ ซึ่งจะชว่ยให้ผู้เรียนรักกำรอำ่นและมีควำมสนใจในกำรศึกษำ สภำพครอบครัวผู้ปกครองควรมีเวลำดูแลเอำใจใส่เด็ก คอยแนะนำ ตักเตือนในสิ่งตำ่งๆ และให้ควำมรู้ และกำรศึกษำของผู้ปกครองก็มีส่วนเหมือนกนั เนื่องด้วย ผู้ปกครองเด็กบำงคนเรียนมำสูง ก็ยังส่งลูกเรียนจนเข้ำมหำวิทยำลัย แตบ่ำงครอบครัวไมใ่ช่เพรำะผู้ปกครองมีควำมรู้น้อย จึงไมส่นับสนุนเด็กในด้ำนกำรเรียนเทำ่ที่ควร อีกทั้งกำ ลังทรัพย์ไมเ่พียงพอ รองลงมำคือ ครู กำรสอนของครูจะชว่ยให้เด็กสนใจ หรือไมน่ั้น ครูควรมีเทคนิคกำรสอนที่ทำ ให้ผู้เรียนมีควำมสนใจ และต้องเอำใจใส่ในผู้เรียนวำ่เข้ำใจในบทเรียนหรือไม่ และควรให้คำ ปรึกษำในเรื่องกำรเรียนแกผู่้เรียน และยังมีเรื่องของงำนที่คุณครูให้นักเรียนเยอะมำก จนทำ ให้ไมมี่เวลำอำ่นหนังสือทบทวนบทเรียนมำกเทำ่ที่ควร อีกทั้งครูต้องยึดมนั่ในวิชำชีพครู ให้เกียรติตอ่อำชีพ ทำ งำนอยำ่งเต็มที่ และให้คำ แนะนำแกนั่กเรียน รองลงมำคือ สภำพสังคม สภำพสังคมทำ ให้โอกำสในกำรรับกำรศึกษำของคนไมเ่ทำ่กนั คนรวยมีโอกำสมำกกวำ่คนจน และคนจนก็มีโอกำสที่จะได้รับกำรศึกษำน้อยกวำ่ ทั้งจำ นวนคนที่ได้รับกำรศึกษำและในระดับชั้นของกำรศึกษำ ซึ่งคนจนจะจบแคช่ั้นมธัยมศึกษำปีที่ 3 หรือมธัยมศึกษำปีที่ 6 เทำ่นั้น และสุดท้ำยสำเหตุที่ทำ ให้กำรศึกษำไทยพัฒนำรองลงมำคือ สภำพเศรษฐกิจ เศรษฐกิจมีกำรเปลี่ยนแปลงมำกยิ่งขึ้นเป็นสังคมของอุตสำหกรรม ทำ ให้เกิดกำรโยกย้ำยสภำพสังคมเกิดกำรเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อโครงสร้ำงประชำกรและกำรเรียนรู้ และสภำพเศรษฐกิจของครอบครัวในปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปมำก ครอบครัวมีขนำดเล็กลง และเกิดกำรหยำ่ร้ำงเพิ่มขึ้น ผู้ปกครองไมมี่เวลำสนใจแลผู้เรียน ทำ ให้ผู้เรียนมีพัฒนำด้ำนกำรศึกษำลดน้อยลง รองลงมำคือ นโยบำยกำรศึกษำของรัฐ ซึ่งนโยบำยของรัฐทำ ให้ผู้เรียนมีควำมสับสนในระบบของกำรศึกษำ และระบบกำรศึกษำสร้ำงควำมยุง่ยำกให้แกผู่้เรียนมำก ทั้งกำรสอบ 7 วิชำสำมญั, GAT, PAT หรือ O-NET และจำกผลคะแนนกำรวดัระดับกำรศึกษำพบวำ่ระดับกำรศึกษำของไทยอยูอั่นดับที่ 8 ในกลุม่ประเทศอำเซียน ซึ่งรั้งท้ำยมำก หรือคะแนน O-NET ที่วดัผลสัมฤทธ์ิภำยในประเทศก็ตำมก็ไมผ่ำ่นเกณฑ์มำตรฐำน 50 เปอร์เซ็นต์ รัฐบำลจึงควรปรับนโยบำยกำรศึกษำให้มีประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น แตบ่ำงนโยบำยที่กระทรวงกำ หนดขึ้นมำก็เป็นนโยบำยที่ดี แตน่โยบำยนั้นจะประสบควำมสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อได้รับควำมร่วมมือจำกผู้ตอบสนองนโยบำย เชน่ ครู และผู้เรียนถ้ำไมส่ำมำรถตอบสนองนโยบำยที่ออกมำได้มนัก็ไมเ่ป็นผล ทำ ให้กำรศึกษำไมไ่ด้พัฒนำเพิ่มมำกขึ้น ได้ลำ่ช้ำที่สุด
  • 14. คือ ผู้เรียน เนื่องด้วยจำกตัวของผู้เรียนเองที่ต้องมีควำมพยำยำมและหมนั่ศึกษำ มีควำมตั้งใจเรียนในกำรเรียนกำรสอนจึงจะส่งผลให้ผู้เรียนพัฒนำ และกำรศึกษำก็จะพัฒนำขึ้น แตใ่นปัจจุบันก็มีสิ่งที่ดึงควำมสนใจของผู้เรียนไป ทำ ให้มีควำมสนใจในกำรศึกษำลดน้อยลง เชน่ สื่อตำ่งๆ ที่เป็นสิ่งสำคัญในกำรดึงดูดควำมสนใจของผู้เรียน พบวำ่ สื่อประเภทโทรทัศน์ ไมค่อ่ยสนับสนุนในเรื่องกำรศึกษำ จะเห็นได้วำ่รำยกำรที่เกยี่วกบักำรศึกษำมีน้อยมำก ส่วนใหญจ่ะเป็นรำยกำรบันเทิง หรือเรียลลิตี้โชว์ซึ่งให้แตค่วำมบันเทิงมำกกวำ่ จะมีรำยกำรดีๆที่เกยี่วกับกำรศึกษำก็จะออกอำกำศในเวลำที่ไมเ่หมำะสมกับเวลำที่ผู้เรียนจะสำมำรถดูได้ สำเหตุปัจจัยเหลำ่นี้จึงเป็นสิ่งที่ทำ ให้กำรศึกษำของไทยล้ำหลัง ข้อเสนอแนะในกำรแกไ้ขปัญหำ จำกปัญหำที่กลำ่วมำในข้ำงต้น มีทั้งสำเหตุหลักและสำเหตุรองหลำยประกำรที่ทำ ให้กำรพัฒนำกำรศึกษำของไทยยังไปไมถึ่งไหน พัฒนำได้ช้ำ แตอ่ยำ่งไรก็ยังไมส่ำยเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงกำรศึกษำของไทยให้ดีขึ้น ทั้งนี้กำรแกปั้ญหำกำรศึกษำบุคลำกรที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือร่วมใจกนัทั้งระบบ เริ่มตั้งแตผู่้ที่จะมำกำ กับดูแลงำนทำงด้ำนกำรศึกษำ รัฐบำลจะต้องแตง่ตั้งบุคคลที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถ มีวิสัยทัศน์ทำงด้ำนกำรศึกษำจริงๆ มำรับผิดชอบ นอกจำกนั้นกำรกำ หนดหลักสูตรกำรเรียนกำรสอนจะต้องกำ หนดให้มีหัวข้อวิชำคุณธรรม จริยธรรมไวใ้นทุกหลังสูตรทุกระดับ จะต้องเพิ่มขวญัและกำ ลังใจให้กบัครู กำรเลื่อนวิทยฐำนะของครูต้องมีควำมเหมำะสมและเป็นธรรม และที่สำคัญในส่วนของผู้ปกครอง สื่อมวลชน สถำบันทำงศำสนำ ต้องแสดงบทบำทและหน้ำที่ในกำรมีส่วนรวมกบักำรพัฒนำกำรศึกษำได้ด้วย หำกทุกฝ่ำยที่เกยี่วข้องกับกำรศึกษำตระหนักถึงควำมสำคัญในบทบำทและหน้ำที่และร่วมมือร่วมใจกนัอยำ่งจริงจัง ผู้เขียนเชื่อวำ่กำรศึกษำของไทยจะพัฒนำได้อยำ่งไมช่้ำเหมือนที่ผำ่นมำ
  • 15. บรรณำนุกรม บริษัทคลินิคจิต-ประสำท. 2556. พฤติกรรมกำรเลี้ยงดูของครอบครัว. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/41008/41008_04_1.htm ผศ.นพ.พนม เกตุมำน. 2556. กำรเลี้ยงดูของครอบครัว. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.psyclin.co.th/ new_page_54.htm ประเสริฐ ศรีแสนปำง. 2556. ควำมสัมพันธ์ระหวำ่งกำรเลี้ยงดูของครอบครัวต่อกำรเรียนรู้ของเด็ก. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.gotoknow.org/posts/155745 สำนักงำนสถิติแห่งชำติ. 2556. พฤติกรรมกำรดูแลเด็กกอ่นวยัเรียนของครอบครัวไทย. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://service.nso.go.th/nso/data/02/child_learn.html เดลินิวส์ออนไลน์. 2556. ระบบกำรศึกษำไทย. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.dailynews.co.th/ Content/Article/72129/ นำยจำตุรนต์ ฉำยแสง. 2556. นโยบำยด้ำนกำรศึกษำรัฐมนตรีวำ่กำรกระทรวงศึกษำธิกำร. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.bic.moe.go.th/th/images/stories/ed-policy/ พงศ์เทพ เทพกำญจนำ. 2556. จุดเน้นกำรขับเคลื่อนนโยบำยรัฐบำลด้ำนกำรศึกษำของกระทรวงศึกษำธิกำร. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.bic.moe.go.th/th/images/stories/edpolicy/ ดร.สุชำติ ธำดำธำรงเวช. 2556. นโยบำยกระทรวงศึกษำธิกำร. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.moe.go.th/ moe/upload/File/ST_ED_Speech24Jan12NEW3.pdf ชินวรณ์ บุณยเกียรติ. 2556. นโยบำยกำรพัฒนำกำรศึกษำ. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.bic.moe.go. images/stories/ed-policy/8policies-chinnaworn.pdf ไทยรัฐออนไลน์. 2556. หลักสูตรกำรศึกษำแบบก็อปปี้ อันตรำยของกำรศึกษำไทย. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.thairath.co.th/content/edu/377662 บ้ำนจอมยุทธ. 2556. กำรศึกษำของไทย. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.baanjomyut.com/ library_3/ extension-1/study_of_thailand/10.html ร้อยตำ รวจเอกหญิง อำภรณ์ รัตน์มณี. 2556. ทำ ไมระบบกำรศึกษำไทยจึงพัฒนำช้ำ.(ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://school8.education.police.go.th/technical/technical05.html รศ.พญ.จันท์ฑิตำ พฤกษำนำนนท์. 2556. เด็กกบัปัญหำกำรเรียนรู้. (ออนไลน์). แหลง่ที่มำ : http://www.doctor.or.th/article/detail/7894