SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
บทที่ 1
ประวัติของดนตรีสากล
การสืบสาวเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของดนตรีตั้งแต่สมัยโบราณมา
นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ได้เรื่องราว สมัยของการรู้จักใช้อักษรหรือสัญลักษณ์อื่น ๆ พึ่ง
จะมีปรากฏและเริ่มนิยมใช้กันในสมัยเริ่มต้นของยุค Middle age คือระหว่างศตวรรษที่
5-6 และการบันทึกมีเพียงเครื่องหมายแสดงเพียงระดับของเสียง และจังหวะ
(Pitch and Time) ดนตรีเกิดขึ้นมาในโลกพร้อม ๆ กับมนุษย์เรานั่นเอง ในยุคแรก ๆ
มนุษย์อาศัยอยู่ในป่าดง ในถ้า ในโพรงไม้ แต่ก็รู้จักการร้องราทาเพลงตาม
ธรรมชาติ เช่นรู้จักปรบมือ เคาะหิน เคาะไม้เป่าปาก เป่าเขา และเปล่งเสียงร้องตาม
เรื่อง การร้องราทาเพลงทาไปเพื่ออ้อนวอนพระเจ้าเพื่อช่วยให้ตนพ้นภัยบันดาลความสุข
ความอุดมสมบูรณ์ต่าง ๆ ให้แก่ตนหรือเป็นการบูชาแสดงความขอบคุณพระเจ้าที่บันดาล
ให้ตนมีความสุขความสบาย
โลกได้ผ่านหลายยุคหลายสมัย ดนตรีได้วิวัฒนาการไปตามความเจริญและ
ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เครื่องดนตรีที่เคยใช้ในสมัยเริ่มแรกก็มีการวิวัฒนาการ
มาเป็นขั้น ๆ กลายเป็นเครื่องดนตรีที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เพลงที่ร้องเพื่ออ้อนวอนพระ
เจ้า ก็กลายมาเป็นเพลงสวดทางศาสนาและเพลงร้อง ในระยะแรกดนตรีมีเพียงเสียง
เดียวและแนวเดียวเท่านั้นเรียกว่า Melody ไม่มีการประสานเสียง จนถึงศตวรรษที่
12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่าง ๆ มาประสานกันอย่างง่าย ๆ เกิดเป็นดนตรีหลาย
เสียงขึ้นมา

6
ดนตรีสากล มีประวัติความเป็นมาและ
วิวัฒนาการที่ยาวนาน แสดงถึงความ
เจริญรุ่งเรืองทาง วัฒนธรรมของชาติ
ตะวันตกซึ่งเป็นที่นิยมและยอมรับกันทั่วโลก
ใน การศึกษาดนตรีสากล เพื่อความรู้ ความ
เข้าใจ และความซาบซึ้งในดนตรีตะวันตก จึง
จาเป็นจะต้องศึกษาวิวัฒนาการของดนตรี
สากลในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ยุคกลาง (Middle Age) ค.ศ.500-1400
บทเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงร้องที่ใช้ในโบสถ์เพื่อสรรเสริญพระเจ้า
เพียงอย่างเดียว โดยบางครั้งอาจเป็นการร้องสอดประสานกันบ้างประมาณ 2-3 แนว ใน
ปลายยุค และยังไม่พบการบรรเลงที่เป็นรูปแบบมาตรฐานอย่างเด่นชัด
2. ยุคเรอเนสซองซ์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) ค.ศ.1400-1600
บทเพลงในยุคนี้เริ่มมีการผสมผสานระหว่างเพลงพื้นฐานกับเพลงที่ใช้ใน
โบสถ์โดยการนาเอาเทคนิคการประพันธ์เพลงพื้นบ้านมาประยุกต์ใช้กับเพลงสวด ทา
ให้เกิดการนาเอาเครื่องดนตรีบางชนิดเข้ามาประกอบในเพลงสวดที่ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ
เช่น ออร์แกน ฮาร์ฟซิคอร์ด เป็นต้น
3. ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ.1600-1750
เครื่องดนตรีได้รับการพัฒนาจึงทาให้นักดนตรีมีความสามารถในการบรรเลง
อย่างมาก จึงทาให้ยุคนี้มีประเภทการบรรเลงดนตรีที่หลากหลายมากขึ้น เช่น โซนาตา
คอนแชร์โต โอเปรา เป็นต้น เริ่มมีการผสมวงออร์เคสตรา เพื่อใช้ประกอบการแสดง
ละครเพลงหรือโอเปรา (Opera) แต่ลักษณะการผสมวงของเครื่องดนตรียังไม่มี
การกาหนดที่แน่นอน นอกจากนี้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายยังได้รับการพัฒนาอย่าง
มาก
7
4. ยุคคลาสสิก (The Classical Era) ค.ศ. 1750-1820
เครื่องดนตรีมีวิวัฒนาการมาจนสมบูรณ์ที่สุด เริ่มมีการผสมวงที่กาหนด
แน่นอนว่าเป็นวงเล็กหรือใหญ่ คือ วงแชมเบอร์มิวสิก และวงออร์เคสตราในการจัดวง
ออร์เคสตราใช้เครื่องดนตรีครบทุกประเภท คือ เครื่องสาย เครื่องเป่าลมไม้เครื่องเป่าลม
ทองเหลือง และเครื่องตี วงออร์เคสตรา ในยุคนี้ถือได้ว่ามีรูปแบบที่ใช้เป็นแบบแผนมา
จนถึงปัจจุบัน
5. ยุคโรแมนติก (The Romantic Era) ค.ศ. 1820-1900
ในยุคนี้ เปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับ
การพัฒนารูปร่างจนสามารถบรรเลงด้วยวิธีการ
และเทคนิคต่าง ๆ ที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของการผสมวงออร์เคสตรา ยังคงใช้
หลักการผสมวงออร์เคสตราตามยุคคลาสสิก และ
เพิ่มขนาดโดยการเพิ่มจานวนเครื่องดนตรีให้มี
ความยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อให้อารมณ์ของบทเพลง
มีความหลากหลายและสามารถสื่อถึงผู้ฟังได้อย่างเด่นชัด
6. ยุคศตวรรษที่ 20 ค.ศ.1900-ปัจจุบัน
รูปแบบดนตรีมีการผสมผสานรูปแบบใหม่ขึ้น ซึ่งมีการนาเสียงจากเครื่อง
อิเล็กทรอนิกส์มาใช้เป็นเครื่องดนตรีด้วย ส่วนดนตรีในรูปแบบดนตรีคลาสสิกก็ยังคงใช้
รูปแบบการผสมวงตามยุคคลาสสิก ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่จะเน้นที่รูปแบบ
การประพันธ์เพลงมากกว่า และในยุคนี้เริ่มมีวงดนตรีผสมผสานรูปแบบใหม่ซึ่งเป็น
รูปแบบวงดนตรีที่ผสมผสานระหว่าง แอฟริกาตะวันตก อเมริกาและยุโรป ที่เรียกว่าวง
ดนตรีแจ๊ส (Jazz) เครื่องดนตรีที่ใช้ในวงมักประกอบด้วย ทรัมเป็ต คลาริเน็ต ทรอมโบน
ทูบา และกลองประเภทต่าง ๆ เป็นต้น
8
บทเพลงสากลในยุคต่าง ๆ
1. ยุคกลาง (Middle Age) ค.ศ. 500-1400
บทเพลงที่ปรากฏในยุคนี้ คือ เพลงสวด (Chant) ซึ่งเป็นบทเพลงที่ใช้ใน
พิธีกรรม เป็นบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับพระผู้เป็นเจ้า เนื้อหาของ
เพลงจะเป็นการสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ภาษาที่ใช้ในบทเพลงร้องส่วนใหญ่ คือ
ภาษาละติน ในระยะแรก เพลงสวดเป็นการร้องแนวเดียวไม่มีดนตรีประกอบไม่มีอัตรา
จังหวะและจะใช้เสียงเอื้อนในการทาทานองไปไม่มีกาหนดกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ต่อมา
ในระยะหลัง ๆ เริ่มพัฒนาการร้องให้มีแนวการร้องสองประสาน เป็นเพลงร้องสองแนว
และเริ่มที่จะมีอัตราจังหวะที่แน่นอน จนกลายเป็นรูปแบบการร้องประสานเสียง
ที่มากกว่า 2 แนวขึ้นไป
2. ยุคเรอเนสซองซ์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)ค.ศ.1400-1600
ดนตรียังคงเป็นลักษณะสอดประสานทานองโดยมีการล้อกันของแนวทานอง
ที่เหมือนกันรูปแบบการประพันธ์เพลงมีมากขึ้น ในยุคนี้ยังเน้นการร้องเป็นพิเศษสาหรับ
ดนตรีคฤหัสถ์(ดนตรีประชาชนทั่วไป) เริ่มมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งมักเป็น
เพลงร้องประกอบดนตรี
3. ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ. 1600-1750
บทเพลงบรรเลงมีความสาคัญเทียบเท่ากับบทเพลงร้อง เนื่องจากเครื่องดนตรี
มีการพัฒนาทั้งรูปแบบและเสียง รูปแบบการประพันธ์เพลงในยุคนี้มีการพัฒนาและ
ปรับปรุงจนมีลักษณะเด่นชัด โดยเฉพาะคอนแชร์โต (Concerto) ตัวบทเพลงประชัน
ระหว่างเครื่องดนตรีประเภทเดี่ยวกับวงดนตรี ซึ่งแสดงความสามารถของผู้บรรเลงได้
เป็นอย่างดี บทเพลง Concerto ที่ได้รับความนิยมคือ The Four Season ของ วิวัลดี และยุค
นี้เป็นจุดเริ่มต้นของบทเพลงบรรเลงประเภทต่าง ๆ
9
4. ยุคคลาสสิก (The Classic Era) ค.ศ. 1750-1820
เป็นยุคที่สาคัญมากของดนตรีตะวันตก เนื่องจากรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
การประพันธ์เพลง การผสมวง หรือบทเพลงบรรเลงมีความเป็นแบบแผนอย่างมาก
รูปแบบการประพันธ์บทเพลงในยุคนี้ได้แก่ โซนาตา คอนแชร์โต ซิมโฟนี และการ
ผสมวงได้แก่ วงแชมเบอร์มิวสิกและออร์เคสตรา ทุกอย่างล้วนจัดให้มีมาตรฐานทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ละครร้องหรือโอเปรา (Opera) ก็ได้รับการพัฒนาจนได้รับความนิยมทั่วไป
5. ยุคโรแมนติก (The Romantic Era) ค.ศ. 1820-1900
ยุคนี้เป็นยุคที่นาหลักการของยุคคลาสสิกมาใช้ผสมผสานกับการใส่อารมณ์
ความรู้สึกเข้าไปในบทเพลงทาให้บทเพลงมีความไพเราะ สง่างาม อ่อนหวานใน
ขณะหนึ่งก็สะเทือนอารมณ์ของผู้ฟังได้เช่นกันสาหรับวงออร์เคสตรามีการเพิ่มขนาดของ
วงให้ใหญ่ขึ้น เพื่อความสมบูรณ์แบบของเสียงในวงดนตรี ยุคนี้ทานองของบทเพลงเน้น
แนวทานองหลักและใช้การประสานเสียงเพื่อให้มีความไพเราะ บทเพลงที่นิยมในยุคนี้
คือ ดนตรีบรรยายเรื่องราว คีตกวีที่สาคัญในยุคนี้คือ เบโธเฟน
6. ยุคศตวรรษที่ 20 ค.ศ. 1900-ปัจจุบัน
ยุคนี้เป็นยุคเปลี่ยนแปลงดนตรีชาติตะวันตก มีการเน้นรูปแบบจังหวะมากขึ้น
และบันไดเสียงเริ่มมีการใช้บันไดเสียง 12 เสียง หลักการในการประพันธ์บทเพลง
มีความแตกต่างจากยุคก่อนนี้ เริ่มมีการประสานเสียงทาให้ฟังแล้วรู้สึกไม่สบายหู เริ่มมี
การทดลองทฤษฎีแปลก ๆ ใหม่ ๆ ซึ่งทาให้กฎเกณฑ์ทางดนตรีมีความหลากหลาย ถือได้
ว่ายุคนี้เป็นยุคการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง
มากมายตามที่ได้พบเห็นในปัจจุบัน
10
ขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละชาติ ศาสนา โดยเฉพาะดนตรีตะวันตก นับว่า
มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศาสนามาก บทเพลงที่เกี่ยวกับศาสนาหรือเรียกว่าเพลงวัดนั้น
ได้แต่งขึ้นอย่างถูกหลักเกณฑ์ตามหลักวิชาการดนตรี ผู้แต่งเพลงวัดต้องมีความรู้
ความสามารถสูง เพราะต้องแต่งขึ้นให้สามารถโน้มน้าวจิตใจผู้ฟังให้นิยมเลื่อมใสใน
ศาสนามากขึ้น ดังนั้นบทเพลงสวดในศาสนาคริสต์จึงมีเสียงดนตรีประโคม
ประกอบการสวดมนต์ เมื่อมีบทเพลงเกี่ยวกับศาสนามากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันการลืม
จึงได้มีผู้ประดิษฐ์สัญลักษณ์ต่าง ๆ แทนทานอง เมื่อประมาณ ค.ศ. 1000 สัญลักษณ์
ดังกล่าว คือ ตัวโน้ต (Note) นั่นเอง โน้ตเพลงที่ใช้ในหลักวิชาดนตรีเบื้องต้นเป็นเสียงโด
เร มี นั้น เป็นคาสวดในภาษาละติน จึงกล่าวได้ว่าวิชาดนตรีมีจุดกาเนิดมาจากวัดหรือ
ศาสนา ซึ่งในยุโรปนั้นถือว่าเพลงเกี่ยวกับศาสนานั้นเป็นเพลงชั้นสูงสุด
11

More Related Content

What's hot

วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
Thongsawan Seeha
 
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรีพัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัน พัน
 
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทยม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ทศวรรษ โตเสือ
 
ประเภทวงดนตรีสากล
ประเภทวงดนตรีสากลประเภทวงดนตรีสากล
ประเภทวงดนตรีสากล
ditmusix
 
สหประชาชาติ
สหประชาชาติสหประชาชาติ
สหประชาชาติ
thnaporn999
 
แบบสอบถาม
แบบสอบถามแบบสอบถาม
แบบสอบถาม
Kongkrit Pimpa
 

What's hot (20)

กลุ่มที่ ๒
กลุ่มที่ ๒กลุ่มที่ ๒
กลุ่มที่ ๒
 
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
 
เล่มที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เล่มที่ 7  สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเล่มที่ 7  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เล่มที่ 7 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
 
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรีพัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
 
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทยม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
ม4 การตั้งถิ่นฐานในดินแดนไทย
 
ประเภทวงดนตรีสากล
ประเภทวงดนตรีสากลประเภทวงดนตรีสากล
ประเภทวงดนตรีสากล
 
ประวัติศาสตร์สุโขทัย
ประวัติศาสตร์สุโขทัยประวัติศาสตร์สุโขทัย
ประวัติศาสตร์สุโขทัย
 
Ptt อาณาจักรสูโขทัย
Ptt อาณาจักรสูโขทัยPtt อาณาจักรสูโขทัย
Ptt อาณาจักรสูโขทัย
 
ประวัติดนตรีไทย 56
ประวัติดนตรีไทย 56ประวัติดนตรีไทย 56
ประวัติดนตรีไทย 56
 
สรุปเนื้อหา เศรษฐศาสตร์ ม.3 ชุดที่ 1
สรุปเนื้อหา เศรษฐศาสตร์ ม.3 ชุดที่ 1สรุปเนื้อหา เศรษฐศาสตร์ ม.3 ชุดที่ 1
สรุปเนื้อหา เศรษฐศาสตร์ ม.3 ชุดที่ 1
 
พุทธประวัติ ส16101 ป.6
พุทธประวัติ ส16101 ป.6พุทธประวัติ ส16101 ป.6
พุทธประวัติ ส16101 ป.6
 
รายงาน การประสมวงดนตรีสากล
รายงาน การประสมวงดนตรีสากลรายงาน การประสมวงดนตรีสากล
รายงาน การประสมวงดนตรีสากล
 
ระดับของภาษา
ระดับของภาษาระดับของภาษา
ระดับของภาษา
 
มหาเวสสันดรชาดก
มหาเวสสันดรชาดกมหาเวสสันดรชาดก
มหาเวสสันดรชาดก
 
สหประชาชาติ
สหประชาชาติสหประชาชาติ
สหประชาชาติ
 
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย4
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย4ภูมิศาสตร์ประเทศไทย4
ภูมิศาสตร์ประเทศไทย4
 
ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
 
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51
สรุป หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน51
 
แบบสอบถาม
แบบสอบถามแบบสอบถาม
แบบสอบถาม
 
เครื่องดนตรีไทย ม.2ปี 56
เครื่องดนตรีไทย ม.2ปี 56เครื่องดนตรีไทย ม.2ปี 56
เครื่องดนตรีไทย ม.2ปี 56
 

Similar to ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล

ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
อำนาจ ศรีทิม
 
เครืองดนตรีพื้นเมือง ใบความรู้ ม.3 ปี 55
เครืองดนตรีพื้นเมือง ใบความรู้ ม.3 ปี 55เครืองดนตรีพื้นเมือง ใบความรู้ ม.3 ปี 55
เครืองดนตรีพื้นเมือง ใบความรู้ ม.3 ปี 55
อำนาจ ศรีทิม
 
ประวัติความเป็นมาของกีตาร์
ประวัติความเป็นมาของกีตาร์ประวัติความเป็นมาของกีตาร์
ประวัติความเป็นมาของกีตาร์
kruood
 
บทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศนบทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศน
peter dontoom
 
Unit1 e0b980e0b8a7e0b8a5e0b8b2e0b981e0b8a5e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b884e0b8aae0b8a...
Unit1 e0b980e0b8a7e0b8a5e0b8b2e0b981e0b8a5e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b884e0b8aae0b8a...Unit1 e0b980e0b8a7e0b8a5e0b8b2e0b981e0b8a5e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b884e0b8aae0b8a...
Unit1 e0b980e0b8a7e0b8a5e0b8b2e0b981e0b8a5e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b884e0b8aae0b8a...
krunrita
 
ใบงานท 2
ใบงานท   2ใบงานท   2
ใบงานท 2
bmbeam
 
ความหมายของเพลงกล่อมลูก
ความหมายของเพลงกล่อมลูกความหมายของเพลงกล่อมลูก
ความหมายของเพลงกล่อมลูก
Thassanee Buasri
 

Similar to ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล (20)

สังคีตวิทยา.docx
สังคีตวิทยา.docxสังคีตวิทยา.docx
สังคีตวิทยา.docx
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 
บทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรีบทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรี
 
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม
 
เครืองดนตรีพื้นเมือง ใบความรู้ ม.3 ปี 55
เครืองดนตรีพื้นเมือง ใบความรู้ ม.3 ปี 55เครืองดนตรีพื้นเมือง ใบความรู้ ม.3 ปี 55
เครืองดนตรีพื้นเมือง ใบความรู้ ม.3 ปี 55
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ศ 32101 วิชาดนตรี ม.5 ครูอภิชิต กลีบม่วง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่  1 ศ 32101 วิชาดนตรี ม.5  ครูอภิชิต กลีบม่วงแผนการจัดการเรียนรู้ที่  1 ศ 32101 วิชาดนตรี ม.5  ครูอภิชิต กลีบม่วง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ศ 32101 วิชาดนตรี ม.5 ครูอภิชิต กลีบม่วง
 
หน่วยที่ 1 ความรู้พื้นฐานทางดนตรี.doc
หน่วยที่ 1 ความรู้พื้นฐานทางดนตรี.docหน่วยที่ 1 ความรู้พื้นฐานทางดนตรี.doc
หน่วยที่ 1 ความรู้พื้นฐานทางดนตรี.doc
 
Generation
GenerationGeneration
Generation
 
ประวัติความเป็นมาของกีตาร์
ประวัติความเป็นมาของกีตาร์ประวัติความเป็นมาของกีตาร์
ประวัติความเป็นมาของกีตาร์
 
นายเอื้อ สุนทรสนาน
นายเอื้อ สุนทรสนานนายเอื้อ สุนทรสนาน
นายเอื้อ สุนทรสนาน
 
ใบความรู้ นาฎศิลป์ไทย กศน.ม.ต้น
ใบความรู้ นาฎศิลป์ไทย กศน.ม.ต้นใบความรู้ นาฎศิลป์ไทย กศน.ม.ต้น
ใบความรู้ นาฎศิลป์ไทย กศน.ม.ต้น
 
เอกสารสังคีตนิยม
เอกสารสังคีตนิยมเอกสารสังคีตนิยม
เอกสารสังคีตนิยม
 
บทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศนบทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศน
 
Unit1 e0b980e0b8a7e0b8a5e0b8b2e0b981e0b8a5e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b884e0b8aae0b8a...
Unit1 e0b980e0b8a7e0b8a5e0b8b2e0b981e0b8a5e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b884e0b8aae0b8a...Unit1 e0b980e0b8a7e0b8a5e0b8b2e0b981e0b8a5e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b884e0b8aae0b8a...
Unit1 e0b980e0b8a7e0b8a5e0b8b2e0b981e0b8a5e0b8b0e0b8a2e0b8b8e0b884e0b8aae0b8a...
 
9789740328308
97897403283089789740328308
9789740328308
 
ยุคสมัยของดนตรีไทย
ยุคสมัยของดนตรีไทยยุคสมัยของดนตรีไทย
ยุคสมัยของดนตรีไทย
 
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศน
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศนใบความรู้ ดนตรีไทย กศน
ใบความรู้ ดนตรีไทย กศน
 
ใบงานท 2
ใบงานท   2ใบงานท   2
ใบงานท 2
 
ความหมายของเพลงกล่อมลูก
ความหมายของเพลงกล่อมลูกความหมายของเพลงกล่อมลูก
ความหมายของเพลงกล่อมลูก
 
หมอลำ
หมอลำหมอลำ
หมอลำ
 

More from leemeanxun

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
leemeanxun
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
leemeanxun
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
leemeanxun
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
leemeanxun
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
leemeanxun
 

More from leemeanxun (20)

Tcdc ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ
Tcdc ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบTcdc ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ
Tcdc ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ
 
ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต บางเขน
ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต บางเขนห้องสมุดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต บางเขน
ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต บางเขน
 
การจัดการความรู้ ห้องสมุด นิด้า สำนักบรรณสารการพัฒนา
การจัดการความรู้ ห้องสมุด นิด้า สำนักบรรณสารการพัฒนาการจัดการความรู้ ห้องสมุด นิด้า สำนักบรรณสารการพัฒนา
การจัดการความรู้ ห้องสมุด นิด้า สำนักบรรณสารการพัฒนา
 
สำนักบรรณสาร มสธ
สำนักบรรณสาร มสธสำนักบรรณสาร มสธ
สำนักบรรณสาร มสธ
 
กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย
กรมที่ดิน  กระทรวงมหาดไทยกรมที่ดิน  กระทรวงมหาดไทย
กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย
 
หอเกียรติยศ
หอเกียรติยศหอเกียรติยศ
หอเกียรติยศ
 
ราชสดุดีคีตมหาราชา
ราชสดุดีคีตมหาราชาราชสดุดีคีตมหาราชา
ราชสดุดีคีตมหาราชา
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลักใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลักใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีสากล
 
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากลใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงดนตรีสากล
 
Thai music14
Thai music14Thai music14
Thai music14
 
Thai music13
Thai music13Thai music13
Thai music13
 
Thai music11
Thai music11Thai music11
Thai music11
 

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล

  • 1. บทที่ 1 ประวัติของดนตรีสากล การสืบสาวเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของดนตรีตั้งแต่สมัยโบราณมา นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ได้เรื่องราว สมัยของการรู้จักใช้อักษรหรือสัญลักษณ์อื่น ๆ พึ่ง จะมีปรากฏและเริ่มนิยมใช้กันในสมัยเริ่มต้นของยุค Middle age คือระหว่างศตวรรษที่ 5-6 และการบันทึกมีเพียงเครื่องหมายแสดงเพียงระดับของเสียง และจังหวะ (Pitch and Time) ดนตรีเกิดขึ้นมาในโลกพร้อม ๆ กับมนุษย์เรานั่นเอง ในยุคแรก ๆ มนุษย์อาศัยอยู่ในป่าดง ในถ้า ในโพรงไม้ แต่ก็รู้จักการร้องราทาเพลงตาม ธรรมชาติ เช่นรู้จักปรบมือ เคาะหิน เคาะไม้เป่าปาก เป่าเขา และเปล่งเสียงร้องตาม เรื่อง การร้องราทาเพลงทาไปเพื่ออ้อนวอนพระเจ้าเพื่อช่วยให้ตนพ้นภัยบันดาลความสุข ความอุดมสมบูรณ์ต่าง ๆ ให้แก่ตนหรือเป็นการบูชาแสดงความขอบคุณพระเจ้าที่บันดาล ให้ตนมีความสุขความสบาย โลกได้ผ่านหลายยุคหลายสมัย ดนตรีได้วิวัฒนาการไปตามความเจริญและ ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เครื่องดนตรีที่เคยใช้ในสมัยเริ่มแรกก็มีการวิวัฒนาการ มาเป็นขั้น ๆ กลายเป็นเครื่องดนตรีที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เพลงที่ร้องเพื่ออ้อนวอนพระ เจ้า ก็กลายมาเป็นเพลงสวดทางศาสนาและเพลงร้อง ในระยะแรกดนตรีมีเพียงเสียง เดียวและแนวเดียวเท่านั้นเรียกว่า Melody ไม่มีการประสานเสียง จนถึงศตวรรษที่ 12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่าง ๆ มาประสานกันอย่างง่าย ๆ เกิดเป็นดนตรีหลาย เสียงขึ้นมา  6
  • 2. ดนตรีสากล มีประวัติความเป็นมาและ วิวัฒนาการที่ยาวนาน แสดงถึงความ เจริญรุ่งเรืองทาง วัฒนธรรมของชาติ ตะวันตกซึ่งเป็นที่นิยมและยอมรับกันทั่วโลก ใน การศึกษาดนตรีสากล เพื่อความรู้ ความ เข้าใจ และความซาบซึ้งในดนตรีตะวันตก จึง จาเป็นจะต้องศึกษาวิวัฒนาการของดนตรี สากลในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ยุคกลาง (Middle Age) ค.ศ.500-1400 บทเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงร้องที่ใช้ในโบสถ์เพื่อสรรเสริญพระเจ้า เพียงอย่างเดียว โดยบางครั้งอาจเป็นการร้องสอดประสานกันบ้างประมาณ 2-3 แนว ใน ปลายยุค และยังไม่พบการบรรเลงที่เป็นรูปแบบมาตรฐานอย่างเด่นชัด 2. ยุคเรอเนสซองซ์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) ค.ศ.1400-1600 บทเพลงในยุคนี้เริ่มมีการผสมผสานระหว่างเพลงพื้นฐานกับเพลงที่ใช้ใน โบสถ์โดยการนาเอาเทคนิคการประพันธ์เพลงพื้นบ้านมาประยุกต์ใช้กับเพลงสวด ทา ให้เกิดการนาเอาเครื่องดนตรีบางชนิดเข้ามาประกอบในเพลงสวดที่ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น ออร์แกน ฮาร์ฟซิคอร์ด เป็นต้น 3. ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ.1600-1750 เครื่องดนตรีได้รับการพัฒนาจึงทาให้นักดนตรีมีความสามารถในการบรรเลง อย่างมาก จึงทาให้ยุคนี้มีประเภทการบรรเลงดนตรีที่หลากหลายมากขึ้น เช่น โซนาตา คอนแชร์โต โอเปรา เป็นต้น เริ่มมีการผสมวงออร์เคสตรา เพื่อใช้ประกอบการแสดง ละครเพลงหรือโอเปรา (Opera) แต่ลักษณะการผสมวงของเครื่องดนตรียังไม่มี การกาหนดที่แน่นอน นอกจากนี้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายยังได้รับการพัฒนาอย่าง มาก 7
  • 3. 4. ยุคคลาสสิก (The Classical Era) ค.ศ. 1750-1820 เครื่องดนตรีมีวิวัฒนาการมาจนสมบูรณ์ที่สุด เริ่มมีการผสมวงที่กาหนด แน่นอนว่าเป็นวงเล็กหรือใหญ่ คือ วงแชมเบอร์มิวสิก และวงออร์เคสตราในการจัดวง ออร์เคสตราใช้เครื่องดนตรีครบทุกประเภท คือ เครื่องสาย เครื่องเป่าลมไม้เครื่องเป่าลม ทองเหลือง และเครื่องตี วงออร์เคสตรา ในยุคนี้ถือได้ว่ามีรูปแบบที่ใช้เป็นแบบแผนมา จนถึงปัจจุบัน 5. ยุคโรแมนติก (The Romantic Era) ค.ศ. 1820-1900 ในยุคนี้ เปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับ การพัฒนารูปร่างจนสามารถบรรเลงด้วยวิธีการ และเทคนิคต่าง ๆ ที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการผสมวงออร์เคสตรา ยังคงใช้ หลักการผสมวงออร์เคสตราตามยุคคลาสสิก และ เพิ่มขนาดโดยการเพิ่มจานวนเครื่องดนตรีให้มี ความยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อให้อารมณ์ของบทเพลง มีความหลากหลายและสามารถสื่อถึงผู้ฟังได้อย่างเด่นชัด 6. ยุคศตวรรษที่ 20 ค.ศ.1900-ปัจจุบัน รูปแบบดนตรีมีการผสมผสานรูปแบบใหม่ขึ้น ซึ่งมีการนาเสียงจากเครื่อง อิเล็กทรอนิกส์มาใช้เป็นเครื่องดนตรีด้วย ส่วนดนตรีในรูปแบบดนตรีคลาสสิกก็ยังคงใช้ รูปแบบการผสมวงตามยุคคลาสสิก ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่จะเน้นที่รูปแบบ การประพันธ์เพลงมากกว่า และในยุคนี้เริ่มมีวงดนตรีผสมผสานรูปแบบใหม่ซึ่งเป็น รูปแบบวงดนตรีที่ผสมผสานระหว่าง แอฟริกาตะวันตก อเมริกาและยุโรป ที่เรียกว่าวง ดนตรีแจ๊ส (Jazz) เครื่องดนตรีที่ใช้ในวงมักประกอบด้วย ทรัมเป็ต คลาริเน็ต ทรอมโบน ทูบา และกลองประเภทต่าง ๆ เป็นต้น 8
  • 4. บทเพลงสากลในยุคต่าง ๆ 1. ยุคกลาง (Middle Age) ค.ศ. 500-1400 บทเพลงที่ปรากฏในยุคนี้ คือ เพลงสวด (Chant) ซึ่งเป็นบทเพลงที่ใช้ใน พิธีกรรม เป็นบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับพระผู้เป็นเจ้า เนื้อหาของ เพลงจะเป็นการสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ภาษาที่ใช้ในบทเพลงร้องส่วนใหญ่ คือ ภาษาละติน ในระยะแรก เพลงสวดเป็นการร้องแนวเดียวไม่มีดนตรีประกอบไม่มีอัตรา จังหวะและจะใช้เสียงเอื้อนในการทาทานองไปไม่มีกาหนดกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ต่อมา ในระยะหลัง ๆ เริ่มพัฒนาการร้องให้มีแนวการร้องสองประสาน เป็นเพลงร้องสองแนว และเริ่มที่จะมีอัตราจังหวะที่แน่นอน จนกลายเป็นรูปแบบการร้องประสานเสียง ที่มากกว่า 2 แนวขึ้นไป 2. ยุคเรอเนสซองซ์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)ค.ศ.1400-1600 ดนตรียังคงเป็นลักษณะสอดประสานทานองโดยมีการล้อกันของแนวทานอง ที่เหมือนกันรูปแบบการประพันธ์เพลงมีมากขึ้น ในยุคนี้ยังเน้นการร้องเป็นพิเศษสาหรับ ดนตรีคฤหัสถ์(ดนตรีประชาชนทั่วไป) เริ่มมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งมักเป็น เพลงร้องประกอบดนตรี 3. ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ. 1600-1750 บทเพลงบรรเลงมีความสาคัญเทียบเท่ากับบทเพลงร้อง เนื่องจากเครื่องดนตรี มีการพัฒนาทั้งรูปแบบและเสียง รูปแบบการประพันธ์เพลงในยุคนี้มีการพัฒนาและ ปรับปรุงจนมีลักษณะเด่นชัด โดยเฉพาะคอนแชร์โต (Concerto) ตัวบทเพลงประชัน ระหว่างเครื่องดนตรีประเภทเดี่ยวกับวงดนตรี ซึ่งแสดงความสามารถของผู้บรรเลงได้ เป็นอย่างดี บทเพลง Concerto ที่ได้รับความนิยมคือ The Four Season ของ วิวัลดี และยุค นี้เป็นจุดเริ่มต้นของบทเพลงบรรเลงประเภทต่าง ๆ 9
  • 5. 4. ยุคคลาสสิก (The Classic Era) ค.ศ. 1750-1820 เป็นยุคที่สาคัญมากของดนตรีตะวันตก เนื่องจากรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การประพันธ์เพลง การผสมวง หรือบทเพลงบรรเลงมีความเป็นแบบแผนอย่างมาก รูปแบบการประพันธ์บทเพลงในยุคนี้ได้แก่ โซนาตา คอนแชร์โต ซิมโฟนี และการ ผสมวงได้แก่ วงแชมเบอร์มิวสิกและออร์เคสตรา ทุกอย่างล้วนจัดให้มีมาตรฐานทั้งสิ้น นอกจากนี้ ละครร้องหรือโอเปรา (Opera) ก็ได้รับการพัฒนาจนได้รับความนิยมทั่วไป 5. ยุคโรแมนติก (The Romantic Era) ค.ศ. 1820-1900 ยุคนี้เป็นยุคที่นาหลักการของยุคคลาสสิกมาใช้ผสมผสานกับการใส่อารมณ์ ความรู้สึกเข้าไปในบทเพลงทาให้บทเพลงมีความไพเราะ สง่างาม อ่อนหวานใน ขณะหนึ่งก็สะเทือนอารมณ์ของผู้ฟังได้เช่นกันสาหรับวงออร์เคสตรามีการเพิ่มขนาดของ วงให้ใหญ่ขึ้น เพื่อความสมบูรณ์แบบของเสียงในวงดนตรี ยุคนี้ทานองของบทเพลงเน้น แนวทานองหลักและใช้การประสานเสียงเพื่อให้มีความไพเราะ บทเพลงที่นิยมในยุคนี้ คือ ดนตรีบรรยายเรื่องราว คีตกวีที่สาคัญในยุคนี้คือ เบโธเฟน 6. ยุคศตวรรษที่ 20 ค.ศ. 1900-ปัจจุบัน ยุคนี้เป็นยุคเปลี่ยนแปลงดนตรีชาติตะวันตก มีการเน้นรูปแบบจังหวะมากขึ้น และบันไดเสียงเริ่มมีการใช้บันไดเสียง 12 เสียง หลักการในการประพันธ์บทเพลง มีความแตกต่างจากยุคก่อนนี้ เริ่มมีการประสานเสียงทาให้ฟังแล้วรู้สึกไม่สบายหู เริ่มมี การทดลองทฤษฎีแปลก ๆ ใหม่ ๆ ซึ่งทาให้กฎเกณฑ์ทางดนตรีมีความหลากหลาย ถือได้ ว่ายุคนี้เป็นยุคการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง มากมายตามที่ได้พบเห็นในปัจจุบัน 10
  • 6. ขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละชาติ ศาสนา โดยเฉพาะดนตรีตะวันตก นับว่า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศาสนามาก บทเพลงที่เกี่ยวกับศาสนาหรือเรียกว่าเพลงวัดนั้น ได้แต่งขึ้นอย่างถูกหลักเกณฑ์ตามหลักวิชาการดนตรี ผู้แต่งเพลงวัดต้องมีความรู้ ความสามารถสูง เพราะต้องแต่งขึ้นให้สามารถโน้มน้าวจิตใจผู้ฟังให้นิยมเลื่อมใสใน ศาสนามากขึ้น ดังนั้นบทเพลงสวดในศาสนาคริสต์จึงมีเสียงดนตรีประโคม ประกอบการสวดมนต์ เมื่อมีบทเพลงเกี่ยวกับศาสนามากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันการลืม จึงได้มีผู้ประดิษฐ์สัญลักษณ์ต่าง ๆ แทนทานอง เมื่อประมาณ ค.ศ. 1000 สัญลักษณ์ ดังกล่าว คือ ตัวโน้ต (Note) นั่นเอง โน้ตเพลงที่ใช้ในหลักวิชาดนตรีเบื้องต้นเป็นเสียงโด เร มี นั้น เป็นคาสวดในภาษาละติน จึงกล่าวได้ว่าวิชาดนตรีมีจุดกาเนิดมาจากวัดหรือ ศาสนา ซึ่งในยุโรปนั้นถือว่าเพลงเกี่ยวกับศาสนานั้นเป็นเพลงชั้นสูงสุด 11