1. “ด้ วยพืนที่จานวนมากในจังหวัดนครนายก เป็ นที่ล่ ุมต่า มีนาขังตลอดปี ดิน
้ ้
มีคุณภาพต่า ซึ่งพืนที่ ทังหมดประมาณสามแสนไร่ เกษตรกรจานวนมากไม่ มีท่ ี
้ ้
ทากิน แม้ เมื่อระบายนาออกจากพืนที่หมดแล้ วยังยากที่จะใช้ ประโยชน์ ทาง
้ ้
การเกษตรให้ ได้ ผล ทังนี ้ เนื่องจากดินมีสารประกอบไพไรท์ ทาให้ มีกรด
้
กามะถัน เมื่อดินแห้ งทาให้ ดนเปรี ยว ควรปรั บปรุ งดินให้ ดีขน ดังนัน เห็นสมควร
ิ ้ ึ้ ้
ที่จะมีการปรั บปรุ งพัฒนา โดยให้ มีหน่ วยงานต่ างๆ ที่เกี่ยวข้ องมาดาเนินการ
ศึกษาและพัฒนาพืนที่พรุ ร่วมกัน แบบผสมผสานและนาผลสาเร็จของโครงการ
้
ไปเป็ นแบบอย่ างในการที่จะพัฒนาพืนที่ดนพรุ ในโอกาสต่ อไป....”
้ ิ
24 สิงหาคม 2524
พระราชดารั สของพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว
นางสาวปั ณฑิตา งามสมทรง ชัน ม.4/8
้
เลขที่ 25

2. พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หว มีพระกระแสให้ รับการน้ อมเกล้ าฯ
ั
ถวายที่ดนจาก ท่ านผู้หญิงยศวดี อัมพรไพศาลไว้ เป็ นที่ดนของมูลนิธิ
ิ ิ
ชัยพัฒนา และทรงพระราชทานพระราชดาริโดยสรุ ปว่ า ” ให้ ศึกษา
ทดสอบวิธีการแก้ ไขปั ญหาดินเปรียวทังวิธีทางธรรมชาติและการใช้
้ ้
ปูนมาร์ ล และนานาจากภายนอกมาแก้ ไขดินเปรียวได้ ” นอกจากนีได้
้ ้ ้
พระราชทานพระราชดาริให้ มูลนิธิชัยพัฒนาจัดซือที่ดนบริเวณ
้ ิ
ใกล้ เคียง เพิ่มเติมเพื่อใช้ ในการศึกษาทดลองดังกล่ าวข้ างต้ น
รวมทังศึกษาทดลองการเพาะปลูกในพืนที่ดนเปรียว เพื่อการส่ งเสริม
้ ้ ิ ้
อาชีพให้ กับราษฎรต่ อไป
นางสาวปั ณฑิตา งามสมทรง ชัน ม.4/8
้
เลขที่ 25

3. • เพื่อศึกษาทดลองหาวิธีทางธรรมชาติในการแก้ ไขปั ญหาดินเปรียว ้
และนาเปรี ยวโดยใช้ นาฝนชะ ล้ างนาและดินในสระ
้ ้ ้ ้
• ตามแนวพระราชดาริในพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หว ั
• เพื่อศึกษาทดลองการจัดทาแปลงเกษตร ตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่
บนพืนที่ดนเปรี ยวจัด และ
้ ิ ้
• ศึกษาแนวทางการจัดการดินและนาที่เหมาะสมสาหรั บการปลูกพืชใน
้
พืนที่ดนเปรี ยวจัด ตามแนวพระราชดาริ
้ ิ ้
• เพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้ เถ้ าลอยลิกไนท์ ปรั บปรุ งดิน ที่มีต่อ
ดิน นา พืช สัตว์ และ
้
• สิ่งแวดล้ อมบริเวณใกล้ เคียงทังระยะสัน ระยะยาว
้ ้
นางสาวปัณฑิตา งามสมทรง ชั้น ม.4/8
เลขที่ 25

4. สานักงานเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กองทัพบก กรมพัฒนาที่ดน ิ
กรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตรและจังหวัดนครนายก ได้ ประสาน
ดาเนินงาน โครงการ โดยมีรายละเอียดดังนี ้
• แปลงที่ 1 (พืนที่ 50 ไร่ เศษ) ดาเนินการศึกษาทดลองการแก้ ไขปั ญหาดิน
้
เปรี ยวโดยวิธีธรรมชาติ กล่ าวคือใช้ นาฝนแก้ ปัญหาดินเปรี ยวเพียง อย่ าง
้ ้ ้
เดียวและทาการเก็บรวบรวมข้ อมูลคุณภาพนาระดับนาใต้ ดนปริมาณนาฝน
้ ้ ิ ้
เป็ นระยะๆ
• แปลงที่ 2 (พืนที่ 31 ไร่ เศษ) ดาเนินการแก้ ไขดินเปรี ยวโดยใช้ ระบบนาจาก
้ ้ ้
ภายนอกพืนที่โครงการฯ รวมทังใช้ หนปูนและปูนมาร์ ลเข้ าช่ วย แก้ ไขปั ญหา
้ ้ ิ
ดินเปรี ยว รวมทังทดลองปลูกพืชนาและพืชผลทางการเกษตรในพืนที่นีด้วย
้ ้ ้ ้ ้
• แปลงที่ 3 (พืนที่ 47 ไร่ เศษ) ดาเนินการจัดตังศูนย์ ฝึกอบรมอาชีพและ
้ ้
ศาลาวิชาการ เพื่อการศึกษาทดลองและส่ งเสริมอาชีพให้ กับ เกษตรกรที่อยู่
อาศัยในพืนที่ดนเปรี ยว
้ ิ ้
นางสาวปัณฑิตา งามสมทรง ชั้น ม.4/8
เลขที่ 25

5. แปลงที่ 1 เป็ นการสนองพระราชดาริ เพื่อการศึกษาเก็บข้ อมูล
การแก้ ไขปั ญหาดินเปรี ยว โดยวิธีธรรมชาติกล่ าวคือ ใช้ นาฝนเพียงอย่ างเดียว
้ ้
เพื่อแก้ ไขปั ญหาดินเปรียว กรมพัฒนาที่ดน ได้ ดาเนินการศึกษาเก็บข้ อมูล
้ ิ
นาฝน ระดับนาในสระ ระดับนาใต้ ดน รวมทังตรวจสอบคุณภาพนาคุณภาพ
้ ้ ้ ิ ้ ้
ดินเป็ นระยะ ๆ ปรากฎว่ าpH ยังต่าอยู่ คือประมาณ 3 – 4 ทังนีเ้ นื่องจาก
้
ปริมาณนาที่เก็บกักให้ เต็มทัง 2 สระ โดยอาศัยนาฝนที่ตกลงมาอย่ างเดียว
้ ้ ้
คาดว่ ามีปริมาณไม่ พอเพียงที่จะเก็บกักให้ เต็มทัง 2 สระ ในขณะที่นาผิวดิน
้ ้
รอบโครงการจะไหลลงท่ อที่ฝังไว้ เพื่อลงสระก็มีปริมาณน้ อยมาก เพราะ ใน
ระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา แทบจะไม่ มีนาขังในพืนที่แปลงที่ 1 เลย ผนวก
้ ้
กับในฤดูแล้ ง นาในสระทัง 2 จะระเหยมาก ทาให้ ปริมาณนาลดลงอีกเป็ น
้ ้ ้
จานวนมาก เมื่อมีปริมาณนาน้ อย โอกาสที่จะถ่ ายนาเปรี ยวจากสระ 2 ไปยัง
้ ้ ้
สระ 1 ก็มีได้ น้อย ทาให้ การชะล้ างนาเปรียว โดยนาฝนของสระ 2 ด้ วย การ
้ ้ ้
ถ่ ายนาจากสระ 2 ไปเก็บไว้ สระ 1ไม่ ประสบผลตามที่คาดหมาย
้
นางสาวปัณฑิตา งามสมทรง ชั้น ม.4/8
เลขที่ 25

6. แปลงที่ 2 เป็ นการสนองพระราชดาริเพื่อการศึกษาเก็บข้ อมูลการ
แก้ ไขปั ญหาดินเปรี ยว โดยใช้ นาจากภายนอกพืนที่โครงการ (จากคลองลา
้ ้ ้
ชวด) ชะล้ างความเปรี ยว ใช้ หนปูนและปูนมาร์ ลในการแก้ ไขปั ญหาดิน
้ ิ
เปรี ยว
้
แปลงที่ 3 เป็ นการสนองพระราชดาริ ดาเนินการจัดสร้ างศูนย์
ฝึ กอบรมอาชีพแก่ ผ้ ูสนใจกรมชลประทาน ดาเนินการสารวจระดับ รั งวัดวาง
ผังการใช้ พืนที่แล้ วเสร็จ ขณะนีอยู่ระหว่ างการออกแบบและขอความ
้ ้
เห็นชอบจากกรมชลประทาน ซึ่งจะพร้ อมลงมือก่ อสร้ างทันที เมื่อกรม
ชลประทานอนุมัตแบบและสานักงาน กปร. อนุมัตงบประมาณในกิจกรรม
ิ ิ
ต่ าง ๆ ดังนี ้ ขุดสระขนาดใหญ่ 2 สระ เพื่อเก็บกักนาสาหรั บใช้ ในแปลง ทา
้
คันดินรอบแปลง ถมที่สาหรั บก่ อสร้ างอาคารเอนกประสงค์ และเรื อนเพาะ
ชา ยกร่ องแปลงไม้ ดอกไม้ ประดับ ก่ อสร้ างถนนเข้ าพืนที่ ระบบส่ งนาและ
้ ้
ระบบระบายนาภายในแปลง
้
นางสาวปัณฑิตา งามสมทรง ชั้น ม.4/8
เลขที่ 25

7. • - ก่ อสร้ างระบบชักนาจากคลองลาชวดเข้ าพืนที่
้ ้
• - ก่ อสร้ างอาคารสูบนา และติดตังเครื่ องสูบนา
้ ้ ้
• - ก่ อสร้ างระบบนาภายในแปลง
้
• กรมพัฒนาที่ดน ดาเนินการควบคุมคุณภาพนาภายในแปลง โดยมีการ
ิ ้
ตรวจสอบคุณภาพนาบริหารจัดการนาที่มาจากคลองลาชวดเข้ ามาใน
้ ้
แปลงระบายนาออก จากแปลงลงสู่คลอง 32กรมวิชาการเกษตร ดาเนิน
้
การศึกษาทดลองการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ ซึ่งไม้ ผลได้ เติบโตขึนเป็ น ้
ลาดับ ส่ วนนาข้ าวได้ ปลูกข้ าวนาปี (พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105) พืนที่ 5.4 ไร่
้
และเก็บเกี่ยวได้ ผลผลิต 1,248 กิโลกรั ม สาหรั บผักสวนครั วนันสามารถนา
้
ผลผลิตไปบริโภคได้ โดย ตลอ´ ปั จจุบันได้ ดาเนินการปลูกข้ าวโพดฝั กอ่ อน
ในแปลงนา เพื่อเป็ นพืชหมุนเวียนและเป็ นการบารุ งดิน นอกจากนียังได้ มี
้
การทดลองปลูกข้ าวโพด เปรี ยบเทียบระหว่ างใส่ ปูนมาร์ ลและไม่ ใส่ ซึ่งจะมี
การติดตามเก็บข้ อมูลเป็ นระยะ ๆ
นางสาวปัณฑิตา งามสมทรง ชั้น ม.4/8
เลขที่ 25

8. •ในแปลงที่ 1 เนื่องจากปี 2541 มีปริมาณฝนตกในพืนที่โครงการน้ อย
้
การเก็บข้ อมูลพบว่ าคุณภาพของดินและนาในแปลงที่ 1 ไม่ ดีขึน จึง
้ ้
จาเป็ นต้ องทาการศึกษาและเก็บข้ อมูลต่ อไป
•ในแปลงที่ 2 จะดาเนินการเก็บข้ อมูลการทาการเกษตรตามแนวทฤษฎี
ใหม่ คุณภาพดินและนาเป็ นระยะ ๆ อีกทังจะปรั บปรุ งเพิ่มเติมระบบ
้ ้
การระบายนาเข้ าและออกจากพืนที่โครงการฯ ให้ สมบูรณ์ ย่ งขึน
้ ้ ิ ้
•ในแปลงที่ 3 เร่ งดาเนินการขุดสระนา จัดแปลงไม้ ดอกไม้ ประดับ
้
ก่ อสร้ างอาคารศูนย์ ฝึกอาชีพและศาลาวิชาการ จากนันก็จะจากนันก็
้ ้
จะจัดการฝึ ก อบรมเผยแพร่ ความรู้ ด้านการประกอบอาชีพให้ กับ
เกษตรกร ต่ อไป
นางสาวปัณฑิตา งามสมทรง ชั้น ม.4/8
เลขที่ 25

9. นางสาวปัณฑิตา งามสมทรง ชั้น ม.4/8
เลขที่ 25

10. • ศิลปิ น หยิบจับเรื่องกองฟางจัดเรียงเป็ นรูปเลข ๙ ไทย เพราะ
รูปลักษณ์ ของฟาง และสี เนื่องจากพืนที่บริเวณนันเป็ นพืนที่สี
้ ้ ้
เขียว จากหญ้ า และจากปาล์ มนามันปลูกเป็ นระยะ ตัวฟางเป็ นสี
้
เหลือง จึงหยิบจับฟางมาเป็ นพระเอกในการสร้ างรูปร่ างของงาน
• ชาวบ้ านที่มาช่ วย งานในการจัดเรียงกองฟางเหล่ านี ้ ก็สามารถ
หยิบจับกองฟางกลับไปใช้ ในงานเกษตรของเค้ าได้ ด้วย ดังนันบัน
้ ้
ปลายของการทางานระยะยาว มันก็เป็ นผลประโยชน์ กับชุมชน
อีกครังหนึ่ง โครงการจะจบด้ วยการไม่ มีอะไรแปลกปลอมกับ
้
สิ่งแวดล้ อม
นางสาวปัณฑิตา งามสมทรง ชั้น ม.4/8
เลขที่ 25